Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Championship ที่ มีนาคม 07, 2022, 10:00:37
-
นี่น่าจะเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของโลก(และของไทย) ที่น้ำมันจะแพงทะลุจุดที่เคยแพงที่สุดไปแล้ว
ยุคสมัย LPG รุ่งเรืองติดกันทั่วบ้านทั่วเมืองตอนนั้น น้ำมันไทยอยู่ระดับ 38-41 บาท/ลิตร( Gas95 ) (แต่ดีเซลตอนนั้นเศรษฐกิจไทย สามารถยันราคาและอุ้มไว้ได้ ระดับไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ซึ่งตอนนี้ไม่ได้รวยขนาดนั้น ไม่รู้จะอุ้มอีกนานได้แค่ไหน)
มาดูกันว่ารอบนี้มันหนักขนาดไหน
(https://www.img.in.th/images/2cfb939eec2d127f8286d8e3b8cf2fd2.jpg)
น้ำมันโลก อยู่ระดับ 128-130$/barrel เข้าไปแล้ว(Brent) ไม่มีทีท่าว่าจะลง ขึ้นรัวๆขึ้นไม่พัก หากราฟแดงกันไม่เจอเลย
(https://www.img.in.th/images/1f99d6b54713319b66cc39ceae98acc1.jpg)
ดูจากกราฟ เมื่อคืนมีเสี้ยวแว๊ฟนึงทะลุเกือบไปถึง 140$/barrel (ฺBrent) ตอนนี้นั่งอยู่ระดับ 130$ และไม่มีทีท่าว่าจะลงเลย จากสถานการณ์ตอนนี้
(https://www.img.in.th/images/a9e0ebd36eb526bff78897f2b8be910f.png)
น้ำมันไทยช่วงพีคๆ เคยสูงสุดช่วงปี 2557 ตอนนั้นทำประวัติศาสตร์ไว้ที่ Gas 95 ระดับ 41 บาท ก็ว่าลากเลือดแล้ว
(https://www.img.in.th/images/840cf45361afcb8420d6340e3ab929af.png)
ซึ่งเช็คประวัติน้ำมันดิบโลก ตอนปี 2557(2014) เดือน พค อยู่ระดับสูงสุดที่ราวๆ 110$/barrel เท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมันเกินแนวต้านตรงนี้ไปไกลแล้ว
และน้ำมันดิบ มีแนวโน้มสูงมากที่จะไประดับ 140-150$/barrel ซึ่งเราอาจจะได้เห็นการเติมน้ำมัน "สองลิตร ร้อยบาท" ได้แน่ๆ
น่าจะไม่เกินกลางเดือนนี้ที่น้ำมันไทย จะกลับไปแตะ 40 บาท/ลิตร Brent และไม่รู้รอบนี้จะพยุงดีเซลได้กี่น้ำ เพราะสถานการณ์มันหนักจริง
ส่วนตัว หนีไปใช้รถไฟฟ้าตั้งแต่ปีที่แล้ว (ใช้ EP) การเดินทางก็สบายแหละ แต่ส่วนตัวเป็นเจ้าของกิจการ ใช้รถขนส่ง(หกล้อ สิบล้อ) ค่าน้ำมันเดือนนึง หลัก 3-4 แสนทุกเดือน นี่ถ้าน้ำมันดีเซลพยุงไว้ไม่อยู่นี่ ก็คงอาการหนักอยู่เหมือนกัน อยากให้รถบรรทุกไฟฟ้าใช้งานได้จริงมาเร็วๆจัง
เพื่อนๆหละครับ เตรียมรับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดไว้ยังไงบ้าง มาคุยกัน
-
สำหรับผม แนวทางการแก้ไข
ลดการเดินทาง ทำงานที่บ้าน (Work from Home) มากขึ้นครับ
-
คงใช้รถให้น้อยที่สุดครับ เติม E20 อยู่ทุกวันนี้ คงไม่คิดไปติด lpg คาดว่าน้ำมันในอีกสองเดือนนี้อาจทะลุ 180 เหรียญต่อบาเรล
-
คิดว่าจะเอามอไซค์ไฟฟ้าขี่ไปทำงายไปกลับ25กม.แทนรถยนต์แช้วครับ ปกติไอคันนี้เอาไว้ขี่ซื้อกับข้าวแถวปากซอย
-
ขับช้าลง และไปเติม E 85 แทนครับ
-
จริงๆผมหารถประหยัดน้ำมันมาใช้หลายปีแล้ว อันนี้เตรียมตัวไว้ตลอด
ใช้รถเท่าที่จำเป็น เติม e10 95
ผมทำแค่นี้ ไม่ได้ขับช้าอะไร ขับปกติเลย รถผมขับเร็วมันไม่ได้กินน้ำมันเพิ่มถ้าไม่ได้ขับผิดมนุษย์
-
ผม WFH ช่วงนี้ ลดการใช้รถโดยปริยายอยู่แล้วครับ
แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้ ก็ใช้ปกตินี่แหละครับ ปรับการขับเอา ลดความเร็ว ไม่คิกดาวน์บ่อยๆ
-
จำได้ว่า เกือบ 10 ปีก่อน เคยเติมน้ำมันให้ CRV ที เกือบ 2 พัน
วันอาทิตย์ ไปลำพูนมา เอา Pulsar ไป น้ำมันยังเหลือเกือบ 1/4 เจอ E10 95 ที่กำแพงเพชร เข้าไป 1,610 บาท มองตาค้างเลย หุหุ
...........
ปกติ มาทำงาน ผมใช้แมงกะไซค์อยู่ละ เดือนนึงค่าน้ำมัน 240 บาท พยามเดินทางเท่าที่จำเป็น เพราะแต่ก่อน พักเที่ยงที เอะอะก็บิดกลับบ้านนอน
รถยนต์ พยามขับช้าลง ไม่ซัด ไม่ซิ่ง แต่ก็นะ บางจังหวะก็อดใจไม่ไหว ยิ่งเจ้า pulsar ด้วย ขึ้นตามเท้าเลย
-
ค่าน้ำมันพี่กับผมต่อเดือนต่างกันคนละเรื่องเลยครับ ผมประมาณเดือนละหมื่นกว่าๆ (แก๊ส + น้ำมัน)
ระยะสั้น เช็คราคาของกับ supplier มันจะมีเจ้าที่ของ stock เก่ายังอยู่ ผมก็รีบสั่งของล็อกราคาไว้เลย แล้วให้เค้ามาสั่งตามเวลาที่นัด ไม่ต้องเอารถเราไปเอาของ ถ้าต้องใช้รถก็มีกระบะติดแก๊สอยู่แล้ว ติดต่องานผ่าน online แทน
ระยะกลาง เดินทางใช้กระบะมากขึ้น คันติดแก๊ส วิ่ง กม. ละ 1.5 บาท อีกคันดีเซล ตก 2 บาท ยังพอไหว
เดินทางไกลเท่าที่จำเป็น วางแผนเรื่องสต๊อกกับโลจิสติกมากขึ้น ซึ่งปกติไม่ค่อยทำ
-
ต้องรับสภาพครับ เพราะตราบใดที่ผมผลิตน้ำมันเองไม่ได้ และ ต้องใช้รถเติมน้ำมัน ก็ต้องซื้อเขาอยู่ดีครับ
แต่รถมอเตอร์ไซต์ ผมใช้ มอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า มาสักระยะละ ประหยัดกว่า เติมน้ำมันเยอะมาก
-
ค่าน้ำมันพี่กับผมต่อเดือนต่างกันคนละเรื่องเลยครับ ผมประมาณเดือนละหมื่นกว่าๆ (แก๊ส + น้ำมัน)
ระยะสั้น เช็คราคาของกับ supplier มันจะมีเจ้าที่ของ stock เก่ายังอยู่ ผมก็รีบสั่งของล็อกราคาไว้เลย แล้วให้เค้ามาสั่งตามเวลาที่นัด ไม่ต้องเอารถเราไปเอาของ ถ้าต้องใช้รถก็มีกระบะติดแก๊สอยู่แล้ว ติดต่องานผ่าน online แทน
ระยะกลาง เดินทางใช้กระบะมากขึ้น คันติดแก๊ส วิ่ง กม. ละ 1.5 บาท อีกคันดีเซล ตก 2 บาท ยังพอไหว
เดินทางไกลเท่าที่จำเป็น วางแผนเรื่องสต๊อกกับโลจิสติกมากขึ้น ซึ่งปกติไม่ค่อยทำ
บริษัทผม รถหกล้อ 5 คัน สิบล้อพ่วง 1 เทรลเลอร์หางยาว 1 กระบะ 8 คัน
และวิ่งแทบทุกวัน ไกลๆทั้งนั้น ค่าน้ำมัน 3-4 แสน ณ ตอนนี้ก็จุกอยู่แล้ว ถ้าดีเซลขยับอีกนี่ขนลุกเลย 555
-
ผมเปลี่ยนรถมาใช้ ISUZU มังกรทอง 90 แรงม้า รถอายุเกือบ 30 ปี ซื้อมา 1 แสน ซ่อมทุกอย่างทั้งคันไปอีก 30,000 ให้ใกล้เคียงรถใหม่
จากเดิมเติมน้ำมันเดือนละ 6,xxx-7,000 บาท ตอนนี้เติมเดือนละ 3,000 บาท ประหยัดไปได้อย่างน้อยเดือนละ 3,000 บาท ในสภาพการใช้งานเหมือนเดิมทุกประการ เท่ากับปีนึงประหยัดไปได้ 3,000 x 12 = 36,000 4 ปี คืนทุนที่ได้ซื้อรถคันนี้มาแล้ว
-
ก็คงรับสภาพกันไปครับ
น้ำมันจะแพงแค่ไหน รถก็เต็มถนนอยู่ดี ไม่ได้โล่งเลย
-
หาเก๋งดีเซลมาใช้ครับ
หรืออย่างในเมืองกระบะยุค ไดเรค สเวิร์น กินน้ำมันไม่ต่างกับคอมมอนเรลเลยครับ
-
ราคาหน้าโรงกลั่นวันที่ 7/3/65
เบนซิน 26.90 บาท/ลิตร
เอทานอล 25.61 บาท/ลิตร
การเอาเอทานอลมาผสมเบนซิน เป็นผลดี เพราะเอทานอลราคาถูกกว่า
B5 29.49 บาท/ลิตร
B100 52.98 บาท/ลิตร
ทำให้ต้นทุนไบโอดีเซลแพงมาก เป็นภาระกองทุนน้ำมัน 5.8 บาท/ลิตร
LPG 27.02 บาท/กก. ใช้เงินกองทุนน้ำมันอุ้ม 15.03 บาท/กก.
ก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมไม่ลดสัดส่วนการผสม B100 ลงไปให้ต่ำที่สุด จะได้ลดภาระกองทุนลงบ้างครับ
-
ก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมไม่ลดสัดส่วนการผสม B100 ลงไปให้ต่ำที่สุด จะได้ลดภาระกองทุนลงบ้างครับ
เดี๋ยวชาวสวนปาล์มจะออกมาประท้วงหนะครับ :-X
-
เมื่อเช้านี้ ก็มีนักวิเคราะห์ หลายรายเลยที่ให้ความเห็นว่า ภายในเดือนนี้ ได้เห็นน้ำมัน 50 บาท/ลิตรแน่ๆ .... ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะ ...
ทีนี้ เตรียมตัวยังไงหรอ ... ก็ถ้าอยากใช้รถอยากขับรถเที่ยว ก็แค่เตรียมเงินมาเติมน้ำมันมากขึ้นแค่นั้น ... สินค้าแพงขึ้น เราก็หาเงินมาจ่ายเพิ่มขึ้นถ้าอยากจะซื้อมันแค่นั้น ..
มันทำได้เท่านี้จริงๆแหละ ...
-
ทำใจครับ :'(
-
สมัยนั้นจำใด้เติม เดือนละ 6-7พันบาท
ถ้าเป็นตอนนี้ใช้ cross hb น่าจะเดือนละ 3-4พันบาท
ตอนนี้ยอดจองรถที่เป็น hybrid น่าจะเยอะ และด้วยราคาน้ำมันจุดคุ้มทุน
เรื่องแบต จะดีขึ้น คุ้มเร็วขึ้น
-
สิบกว่าปีที่แล้ว ก็เคยแพงลิตรแตะห้าสิบก็เคยแล้ว
ที่ทำได้ก็
**ใช้เท่าที่จำเปน
***ขับให้ประหยัดขึ้น
ก็ได้เท่านี้ครับ
-
ผมโชคดีตรงที่ WFH มา2-3 ปีแล้ว เลยประหยัดตรงส่วนนี้ไปได้เยอะมาก แต่ถ้าประกาศให้กลับไปทำที่ออฟฟิศเร็วๆนี้ ก็คงมีจุกเหมือนกันครับ
จะไป BTS ก็ไม่มีรายเดือนแล้ว แพงทุกอย่างจริงๆ
-
แพงก็ไม่ต้องเติม จอดยาวๆ พอมันขายไม่ออก เดี๋ยวมันก็ลดราคา เหมือนตอนหมูแพง ที่บางคนเลิกกินหมูไปเลย
-
สำหรับผมไม่มีอะไรเปลี่ยน ค่าน้ำมันเบิกบริษัทได้ หมด ไม่มีผลอะไร
-
ปั่นจักรยานครับ จริงๆ เริ่มปั่นไปทำงาน มาเกือบ 20 ปีแล้ว แต่ไม่ได้ปั่นทุกวัน
จนช่วงที่น้ำมันแพงมากๆ เมื่อสักสิบปีก่อน ซื้อจักรยานพับคันใหม่ คันละ 6 หมื่นนิดๆ ลองปั่นไปทำงานทุกวัน ทำให้ค่าน้ำมันรถ ลดลงจาก 9000 เหลือ 3000 ใช้รถยนต์ยามจำเป็น แค่ 10 เดือนก็คืนทุนแล้วครับ ตอนนี้ก็ยังปั่นคันนั้นอยู่ (แต่ดันงอกจักรยานคันใหม่ๆ มาด้วย จนมี 16 คันแล้ว)
ใน กทม. ถ้ามีทักษะ ประสบการณ์ และเลือกเส้นทางให้เหมาะสม ปั่นไปได้เกือบทุกที่อย่างสะดวกรวดเร็วปลอดภัยครับ แต่แน่นอนว่าอาจจะไม่เหมาะกับทุกคน
-
คงใช้รถให้น้อยลง ขับไม่เกิน 100 ครับ และอดใจไม่ไปเที่ยวบ่อยๆ :'(
-
ยังได้อานิสงส์ความประหยัดจาก มาสด้า 2 ดีเซลอยู่ เติม 500 เท้าเบาๆวิ่งได้ 400km ประกอบกับทำงานแถวบ้านไม่ต้องไปเจอรถติดๆในเมือง ถือว่ายังชิวๆไปได้ครับ
-
ขับรถแบบหวานเย็นครับ 80-90ไปเรื่อยๆ เมื่อเช้าลองทำดู มันก็ชิลดีนะ
แถมระยะเวลาเดินทางแทบไม่ต่างกับตอนขับปกติเลย มาถึงที่ทำงานเวลาเดิม+-ไม่มาก
-
หาเงินเพิ่มครับ :'(
-
ปีที่แล้วซื้อรถไฮบริดมา 2 คันพอดี 55555
ปกติไม่ค่อยได้ขับไปไหนไกล นาน ๆ ออกต่างจังหวัดที
ขับรถไป-กลับมาบ้านเสียบปลั๊กชาร์จสบาย ๆ
2-3 เดือนเติมน้ำมันทีนึง ;D
ขับต่างจังหวัดก็ไม่ต้องเสียเวลานั่งรอชาร์จ ขับในเมืองก็ไม่ได้ใช้น้ำมัน โคตรชิล 5555
คิดไม่ผิดจริง ๆ ถ้าใช้ไฟฟ้าล้วนออกต่างจังหวัด ต้องหาที่ชาร์จเสียเวลารอ
บางครั้งมีที่ชาร์จ แต่ดันมีคนชาร์จอยู่ ดีไม่ดี มีช่องชาร์จแต่ดันมีรถที่ไม่ใช่ไฟฟ้ามาจอดอีก :'(
-
ยังได้อานิสงส์ความประหยัดจาก มาสด้า 2 ดีเซลอยู่ เติม 500 เท้าเบาๆวิ่งได้ 400km ประกอบกับทำงานแถวบ้านไม่ต้องไปเจอรถติดๆในเมือง ถือว่ายังชิวๆไปได้ครับ
ประหยัดมากกว่า ISUZU มังกรทองของผมอีกนะ ของผมเติม 500 แบบคุณจะวิ่งได้ประมาณ 250-300 กิโลเมตร แต่.... ที่ผมไม่ซื้อ Mazda 2 เพราะผมไม่ชอบแบรนด์นี้ และจะไม่ซื้อใช้อีก จากเดิมที่เคยเล่น Mazda MX5 รวมถึงค่าซ่อมเก๋งดีเซลหรือเบนซินผมมองว่าแพงกว่ารถ ของผมอายุ 30 ปีแน่ ๆ
-
ทำได้แค่บริหารจัดการ รีดต้นทุนให้ efficient ที่สุดกระมังครับ
-
ปกติผมใช้รถ 2 ล้อ ก็เน้นใช้รถ 2 ล้อให้มากขึ้นครับ
-
ทำได้แค่ใช้รถเท่าที่จำเป็นเท่านั้นเลยครับ
-
สำหรับผมที่ไม่มี WFH แล้วต้องใช้ขับไปกลับวันละ 150 km ผมคาดว่ามันต้องเกิน 40 บาท เลยคุยกับที่บ้านแล้วไปถอย mg ep มาใช้แทนยาริส ตอนนี้ก็ขับไม่เกิน100 ไปก่อน
-
1ทำใจ รัฐช่วยอะไรไม่ได้เลย 2 หาทางลัดที่ใกล้ที่สุด 3 วิ่งให้น้อยที่สุด ใช้ความเร็วต่ำมากๆ เท่าที่จำเป็น บ้านอยู่ตจว ไม่มีปัญหาเรื่องรถติด 4 งดเที่ยวตจว
-
กระทู้นี้สนุกดีครับ
-
กำลังคิด 2 ทางในระยะกลางครับ
ในระนะสั้นก็ใช้คันปัจจุบัน Yaris Ativ ครับ ประหยัดได้อยู่ครับ และในปีนี้ถ้าหมดประกัน อาจจะไป upgrade ไปเป็น E85 ครับ
ในระยะกลาง ปีหน้า Freed จะครบ 11 ปี จะขายทิ้งไปซื้อ Yaris Cross E-smart hybrid หรือไม่ก็เอาคันเก่า Yaris ให้ที่บ้านไป ผมอาจจะไปซื้อ Celerio ไว้วิ่งงานแทนครับ ประหยัด และราคาถูกมากๆ คิดว่าคงซื้อไม่ถึง 4 แสนครับ เอาแค่พอวิ่งบูเลงๆ ไปได้พอครับ
ปล...มีข่าวปล่อยว่า Celerio ใหม่จะมาปลายปีนี้ไม่แน่ใจนะครับ ::)
-
ปัญหาขับขี่ความเร็วเกินกำหนด คงจะค่อยๆน้อยลงๆ
-
ผมยังรู้สึกว่ารถไม่ได้น้อยลงไปนะครับ
อาจจะเพราะคนยังไม่ตื่นตระหนก คิดว่าเป็นแค่ระยะสั้นๆ
-
รถแก๊สทำงาน !
-
ก็พยามขับให้ประหยัดขึ้น แต่คงใช้ชีวิตแบบเดิมครับ
-
1.ถังโดนัทของขาดตลาดแล้ว
ี2.รถไม่ได้ติดน้อยลงเลย แต่รู้สึกว่ามอเตอร์ไซค์เยอะขึ้น
3.รอดู BEV ในงานมอเตอร์โชว์นี้กัน
-
ซื้อ Eco car หรือ ไฮบริต ครับ
-
ผมมีรถคันเดียว ปรับพฤติกรรมแทนครับ
ใช้ตามที่จำเป็น
พยายามจัดการให้ได้หลายๆงานเวลาวิ่งออก
เลิกขับไปซื้อกาแฟแก้วเดียว
สั่งของ อาหาร แบบมาส่ง
ขับช้าลง เน้นรักษาความเร็วสม่ำเสมอ อยู่ ตจว เลยทำได้
ถ้าทำได้จนติดเป็นนิสัยเนี่ย น่าจะดีกับตัวเองมากครับ ไม่ว่าน้ำมันจะถูกจะแพง
-
ทำใจครับ
ขับรถมา 30 ปี บางช่วงก็ถูก บางช่วงก็แพง เป็น Cycle อยู่แล้ว
มันแพง ก็เดินทางเท่าที่จำเป็น ซื้อของ เดี๋ยวนี้ก็ online ซะเยอะ
เดี๋ยวมันก็ลงครับ คิดซะว่า ชดเชยกัน ที่ผ่านมา มันก็ถูกนี่นา
จะได้่ สบายใจครับ