Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: GUDJA-MAN ที่ มีนาคม 24, 2022, 14:23:50
-
- ผู้หญิงขับ ใช้รถเฉลี่ย 12-14 ปี
- ขับในเมืองและทางด่วน 80%
- ใช้รถเฉลี่ยวันละ 30-40 กม.
- ความเร็วเดินทางนอกเมืองและทางด่วน 120-160km/h
- ไม่แคร์อัตราสิ้นเปลืองมากนัก เน้นได้รถที่อัตราเร่งดี ใช้ยาว ไม่จุกจิก
จากโจทย์นี้ ผมก็เลือกให้เธอไม่ถูกเหมือนกัน
อยากถามความเห็นสมาชิกว่าควรไปคันไหนครับ
ขอบคุณครับ
-
เกิน 10 ปี ไฮบริดหมดประกันแบต ก็ไป turbo เถอะครับ
-
จากโจทย์ เทไปทาง Turbo มากกว่าครับ
eHEV ดีที่ในเมือง แต่ไม่แคร์อัตราการใช้น้ำมันก็ไม่มีประโยชน์
แถมใช้ทางด่วนที่ความเร็ว 120-160 ด้วย Turbo ทำตรงนี้ได้ดีกว่าจริงๆ
ส่วนการใช้ 12-14 ปี ตัวรถได้หมด eHEV ก็ยังไม่น่ากังวลเรื่องความจุกจิกในอายุเท่านี้ขนาดนั้น แต่ราคาขายต่อน่าจะร่วง
แต่ปัญหาใหญ่ของโจทย์นี้มีอยู่ข้อเดียวครับ
Turbo RS ถูกถอดออกจากเว็บและระบบรับจองแล้วครับ
-
ใช้ 12-14ปี ไป Altis 1.8 เบนซิลเถอะครับ , Civic Turbo 12-14ปี ก็น่าจะจุกจิกกว่า Altis 1.8 ระดับนึงนะ , Civic turbo ประกันตัวรถ 3 ปีเองนะครับ
-
ขับหลายปี ขับเร็ว โจทย์นี้ 1.5 Turbo ตอบโจทย์มากกว่า
-
ใช้รถยาว เกินระยะวารันตีแบ็ต ..
โดยทีเจ็บหนักนะ จะคุ้มหรือเปล่า ...
นี่ยังไม่รวมอุปกรณ์อื่นๆอีกนะ ..
-
ถ้าโจทย์นี้ อยากเชียร์ e:HEV นะ ตอบโจทย์ทุกข้อเลย
ติดข้อเดียว ใช้รถ 14 ปี ทำให้วกกลับมาเลือก 1.5 Turbo เลย
ถ้าใช้ระยะ 10 ปี ที่มีวารันตีแบต และ ได้ 2.0 e:HEV จะเชียร์ e:HEV เลย
-
บอกเธอไปว่า
ผู้หญิงขับ FK อย่างสวยเลย
-
Civic 1.5Turbo RS ยังมีจำหน่ายใช่ไหมครับ เห็นบางเจ้าบอกไม่มี eHEV RS มาแทน
-
Turbo ครับซื้อตอนนี้เลยรถมีเยอะแยะครับ รถยังผลิตอยู่แต่จะค่อยๆลดลงไป Turbo rs จะมีแต่ส่งออกครับ
ต่อไป การใช้งานที่ว่ามาจริงๆได้ทั้งคู่แหละครับ แล้วแต่เลย ehev ก้ดีครับ
-
ไม่เน้นเรื่องความประหยัด ผมไป 1.5T ครับ
ตัวรถเยอะกว่า ช่างชำนาญกว่าแน่ๆ ถ้าไม่เข้าศูนย์อู่นอกหาได้สบายกว่าไฮบริด
แถมอะไหล่เรื่องระบบไฟฟ้าไม่ต้องกังวลมากนัก
-
ขอดู 0-100 และ top speed ของ e:HEV ก่อนครับ
แต่ที่แน่ๆ RS 1.5T จะกลายเป็นรถสะสมไปแล้ว
และเห็นภาพhonda ไทยมาอย่างนี้มองถึง cr-v ใหม่มีแต่ e:HEVแน่นอน
ส่วน civic1.5T กับ accord 1.5T ก็คงจะปลิวไปในไม่ช้า
ว่าแต่อีก 12-14ปี เปลี่ยนรอบหน้า civic คงเป็น BEV ล้วนแล้ว และไม่สามารถใช้ยาว 12-14ปีได้อีกต่อไป
-
เห็นว่าขับวันละไม่มาก และขับในเมืองเป็นหลัก หากปรับงบประมาณ ลองดู ซิตี้ e:hev ใช้สัก 10 ปีค่อยเปลี่ยนคันก็น่าจะโอเค อยู่นะครับ
ปล.อย่าขับเร็วมากเกินไปเลยครับ อันตรายทั้งต่อตนเองและเพื่อนร่วมทาง
-
- ผู้หญิงขับ ใช้รถเฉลี่ย 12-14 ปี
- ขับในเมืองและทางด่วน 80%
- ใช้รถเฉลี่ยวันละ 30-40 กม.
- ความเร็วเดินทางนอกเมืองและทางด่วน 120-160km/h
- ไม่แคร์อัตราสิ้นเปลืองมากนัก เน้นได้รถที่อัตราเร่งดี ใช้ยาว ไม่จุกจิก
จากโจทย์นี้ ผมก็เลือกให้เธอไม่ถูกเหมือนกัน
อยากถามความเห็นสมาชิกว่าควรไปคันไหนครับ
ขอบคุณครับ
ทางด่วนขับ 120-160 อื่มมมม ขับเร็วดีจัง
-
น้ำมันแพงแบบนี้ ไฮบริดเท่านั้น turbo ซดโคตรๆ
-
ผมเลือกเทคโนโลยี e-hev ครับ
ไม่ชอบ turbo ที่ต้องเข้าเซอร์วิสบ่อยกว่า ทุกๆ 7000 โล
-
Civic 1.5Turbo RS ยังมีจำหน่ายใช่ไหมครับ เห็นบางเจ้าบอกไม่มี eHEV RS มาแทน
1.5 TURBO RS ปิดรับจองครับ
แต่ยังพอหาที่พร้อมส่งเดือนหน้าได้เป็นบางสี
-
- ผู้หญิงขับ ใช้รถเฉลี่ย 12-14 ปี
- ขับในเมืองและทางด่วน 80%
- ใช้รถเฉลี่ยวันละ 30-40 กม.
- ความเร็วเดินทางนอกเมืองและทางด่วน 120-160km/h
- ไม่แคร์อัตราสิ้นเปลืองมากนัก เน้นได้รถที่อัตราเร่งดี ใช้ยาว ไม่จุกจิก
จากโจทย์นี้ ผมก็เลือกให้เธอไม่ถูกเหมือนกัน
อยากถามความเห็นสมาชิกว่าควรไปคันไหนครับ
ขอบคุณครับ
1&5 tbได้เปรียบแต่ยาวขนาดนี้ถ้าเน้นทน หาnaรุ่นอื่นดีกว่า
2&3 อยู่ที่ชอบเลย hbมันประหยัดกว่าอยู่แล้ว แต่ถ้าเฉยๆกับเรื่องนี้ ก็แล้วแต่ชอบครับ
4 tbกิน
-
ถ้ายังมีให้ซื้อก็ไปตัวเทอร์โบเถอะครับ ในระยะยาวยังไงก็ได้เปรียบกว่าเยอะ
-
ขับเร็วและใช้รถนาน ไปเทอร์โบครับ
-
ผมกลับมองว่า e:HEV ตอบโจทย์กว่าครับ รถของคุณภรรยา Camry Hybrid ตัวแรกเลย ทุกวันนี้สิบกว่าปี วิ่งสองแสนกว่าแล้ว ไม่มีจุกจิกเลย เครื่องแรงเหลือเฟือ ประหยัดมาก แทบไม่ต้องดูแล ผมเองยังชอบแอบเอารถคุณภรรยาไปขับเองเป็นประจำ ดูจากสภาพรถแล้ว อยู่กับเราได้อีก 5-10ปีสบายๆ อย่าลืมนะครับ 1.5t เห็นว่าให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 7000โล เสียเวลาชีวิตเยอะขึ้นมากครับ คุณผู้หญิงไม่ชอบแน่นอน
เรื่องความแรง ถ้าไม่ได้กด 180+ กันตลอด ผมว่าไม่ต่างกัน Instant Torque ของ hybrid ทำให้ใช้งานในเมือง และทางด่วนง่ายขึ้นเยอะมากครับ
-
ขับ 160 ช่วงล่างต้องเทพพอตัวเลยนะครับ
ส่วนตัวขับช้าครับ แก่แล้ว ;D
-
120-160 ก็ถือว่าขับเร็วอยู่เหมือนกันนะครับ
ผมไม่รู้นิสัยการขับ ว่าชอบกดหรือเร่งแซงหรือเปล่า civic กลัวจะมีปัญหาเรื่องเกียร์
แต่ถ้ามีตัวเลือกแค่ 2 รุ่นนี้ ผมเลือก 1.5 turboครับ
เพราะไฮบริด นั่งหลังแล้วร้อน + พื้นที่เก็บของด้านหลังคงน้อย 8)
-
ผมเชีย HEV มากกว่าแฮะ แต่อยากให้ไปใช้พี่โตมากกว่า เชื่อถือเรื่อง HV ได้ดีกว่า (ณ ตอนนี้อ่ะนะ) แต่ถ้าไม่ชอบหน้าตาและภายใน ผมก็ยังเชีย HEV นะ Turbo civic ผมว่าจุกจิกครับ
-
ไฮบริดครับ น้ำมันไม่มีทีท่าว่าราคาจะลดต่ำเหมือนที่ผ่านๆมา เน้นอัตราประหยัดไว้ก่อนดีกว่าครับ
-
ใช้ยาว อนาคต รถน้ำมันจะเหลือกี่% รถไฮบริดเป็นอย่างน้อย แบตก็ต้องถูกลง คิดว่าเทอร์โบจะไม่พังเหรอไง ไม่ต้องห่วงเรื่องความแรง เอามาเป็นตัวท็อปแบบนี้ ไม่เสียชื่อ honda แน่นอน
-
ตามเงื่อนไขนี้ ต้องไป เทอโบ แหละครับ
แต่อย่าลืมว่า เทอโบ อาจจะต้องเข้าศูนย์เปลี่ยนน้ำมันเครื่องบ่อยกว่ารถปกติด้วยนะครับ ไม่รู้แบบนี้จะเรียกจุกจิกมั๊ย
-
เท่าที่ใช้priusมา11ปีก็ไม่ได้จุกจิกอะไรนะครับ เปลี่ยนแบตลูกเล็กไป2รอบ เคลมลูกใหญ่ไป1รอบ นอกนั้นก็เช็คตามวงรอบไม่มีอะไรเสีย ไม่เคยตายกลางทาง
ผมว่าถ้าเป็นเรื่องกลัวเสีย กลัวจุกจิกนี่ไฮบริดญี่ปุ่นเจ้าตลาดวางใจได้ แต่ก็ทำใจเรื่องราคาขายต่อนิดนึงละกัน
-
Civic 1.5Turbo RS ยังมีจำหน่ายใช่ไหมครับ เห็นบางเจ้าบอกไม่มี eHEV RS มาแทน
1.5 TURBO RS ปิดรับจองครับ
แต่ยังพอหาที่พร้อมส่งเดือนหน้าได้เป็นบางสี
อ่า ครับผม ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลครับ ;)
-
Hybrid Toyota / Honda ไว้ใจได้ทั้งคู่แหละ ดูจากประวัติรุ่นก่อนๆ แทบไม่เห็นคนบ่น
อัตราเร่ง ehev ของ civic ได้เครื่อง 2.0 ถ้าไปดูตอนเครื่องตัวนี้อยู่ใน accord อัตราเร่งมันน่าประทับใจนะ วิ่งไม่แพ้ Turbo แหละ
ถ้าใช้ยาว ... อาจจะต้องลุ้นตอนเกิน 10 ปี หลังหมด warranty แบต (ประกันแบต 10 ปีใช่ไหม) พังที น่าจะเกือบแสน หรือ ถึงตอนนั้น อาจจะมีคนซ่อมได้ไม่กี่หมื่นก็ได้ครับ (พวก alphard เปลี่ยนเฉพาะเซลล์แว้บๆว่า 6 - 8 หมื่น)
Turbo .. การถ่ายน้ำมัน อยู่ที่คนขับเลย เจ้า City Turbo ผม ค่า Oil life ขึ้นระดับ 1.1 - 1.2 หมื่นกม. ตลอด เพราะผมวิ่งยาว ผมขับแค่ 100 - 110 ผมไม่ติดเครื่องเดินเบานอนในรถเล่น แต่กลับกัน เพื่อนอีกคัน ติดเครื่องแต่งหน้าวันละครึ่งช.ม.ทุกวัน วิ่งในเมืองตลอด 5 - 6 พันกม ก็เตือนละ