Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: reyeshenry ที่ มีนาคม 26, 2022, 10:15:35
-
โจทย์
- ใช้ที่ต่างจังหวัดเป็นหลัก
- ใช้รถเฉลี่ย 10 ปี
- วันปกติไปทำงานเฉลี่ยไปกลับวันละ 20 กิโลเมตร
- ช่วงวันหยุดเดินทางไกลระหว่างจังหวัดบ่อย เฉลี่ยเดือนละ 2 ครั้ง ไปกลับวันครั้งละ 800-1,000 กิโลเมตร
- เน้นอัตราเร่ง ใช้ความเร็วได้ ไม่โฟกัสที่อัตราสิ้นเปลือง
ตอนแรกคุณแฟนจอง RS ไว้ พอตัวไฮบริดเปิดตัวมอเตอร์โชว์ตัดสินใจครั้งแรกเปลี่ยนใจรอ แต่เซลล์แจ้งว่า รถจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการมิถุนายน 2565 ถ้าจองวันนี้ น่าจะได้รอรถอย่างน้อย 6 เดือนกว่าจะได้รถ ตอนนี้ลังเลมากครับ
-
จากการใช้งานที่บอก
-ใช้ตจว เป็นหลัก เครื่อง 2.0ehev ถ้าวิ่งเกิน 120km/h ไม่ได้ประหยัดกว่า 1.5t เท่าไหร่นะครับ แต่ถ้าขับรถไม่มีเกิน 140 เลย ก้รอซื้อ 2.0ehev เถอะครับ มันเหมาะกว่า
-ใช้10 ปีถ้าดูแลดีก้รอดทั้งคู่ ถ้าดูแลไม่ดีก้พังทั้งคู่ครับ ไฮบริดก้จะมีเรื่องแบตเสื่อมหรือ Inverter ก้วัดใจหน่อยช่วงปีที่6-10 เพราะมันรับประกันแค่5 ปี แต่ก้ไม่ได้น่าห่วงมากนะ รถบ้านผมมีคันนึง accord G9 hv 4 ปีนิดๆ วิ่งไป 220000km ทุกอย่างก้ยังปกติตอนขาย ส่วนเทอร์โบซับซ้อนน้อยกว่าแต่ต้องใช้น้ำมันเครื่องดีหน่อยนะครับ ถ้าเป็นคนขับรถเร็วและอาจต้องเข้าเช็คระยะบ่อยกว่าเพราะมี A&B check แต่หลังๆผมก้รวมๆเลยเข้าทีเดียว
-ใช้งานวันละ 20 km คันไหนก้ได้ครับ
- ได้ทั้งคู่ครับ ทางไกลแต่อย่างที่บอกถ้าขับต่ำกว่า130 ไฮบริดดูจะเหมาะแต่ถ้าขับยิ่งเร็ว ส่วนต่างของอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงกับตัวเทอร์โบจะน้อยลงเรื่อยๆ
-ถ้าดูแบบนี้ไม่แคร์อัตราสิ้นเปลืองก้เทอร์โบได้ครับ ยิ่งถ้าจะหาอัตราเร่งที่ดีต่อเนื่องช่วง 140-200+ เทอร์โบทำได้ดีกว่าไม่น้อย ยิ่งถ้าจะจูนรีแมพ เทอร์โบดีกว่าเยอะครับ
ลองดูครับรถน่าใช้ทั้งคู่ โอเคทั้งคู่แต่ถ้าเป็นผมๆเอา turbo rs แล้วไปหาล้อตัว ehev rs ใส่เอาสวยดีครับ ออปชั่นผมไม่แคร์อยู่แล้ว ส่วนเรื่องรอรถ ehev mass production เรื่มเดือน6 ครับ จองตอนนี้ก้ได้เดือน6-7 ก้เท่ากับรอ 3-4 เดือน จริงๆมันชัดเจนพอสมควรเลยนะครับ การใช้งานมีความแตกต่างไม่น้อย อย่าลังเลครับ 5555 ขอให้ได้คันที่ถูกใจ
-
วิ่งทางไกล Hybrid ไม่ได้ประหยัดกว่าสักเท่าไหร่นะครับ รวมถึง ระยะยาว ถ้าดวงไม่ดี อาจจะเจออุปกรณ์เฉพาะระบบพัง เช่น หม้อลมเบรคไฟฟ้า คอมแอร์ไฟฟ้า ชุดอินเวอร์เตอร์ แต่ละชิ้น เจอเข้าไป มีสะอื้น ครับ
-
โจทย์
- ใช้ที่ต่างจังหวัดเป็นหลัก
- ใช้รถเฉลี่ย 10 ปี
- วันปกติไปทำงานเฉลี่ยไปกลับวันละ 20 กิโลเมตร
- ช่วงวันหยุดเดินทางไกลระหว่างจังหวัดบ่อย เฉลี่ยเดือนละ 2 ครั้ง ไปกลับวันครั้งละ 800-1,000 กิโลเมตร
- เน้นอัตราเร่ง ใช้ความเร็วได้ ไม่โฟกัสที่อัตราสิ้นเปลือง
ตอนแรกคุณแฟนจอง RS ไว้ พอตัวไฮบริดเปิดตัวมอเตอร์โชว์ตัดสินใจครั้งแรกเปลี่ยนใจรอ แต่เซลล์แจ้งว่า รถจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการมิถุนายน 2565 ถ้าจองวันนี้ น่าจะได้รอรถอย่างน้อย 6 เดือนกว่าจะได้รถ ตอนนี้ลังเลมากครับ
ทุกข้อเป็นเหตุผลได้หมดเลยยกเว้นข้อ4
และโดยเฉพาะข้อสุดท้าย
-
- เน้นอัตราเร่ง ใช้ความเร็วได้ ไม่โฟกัสที่อัตราสิ้นเปลือง
Civic Turbo รอรอบมากครับ เวลาแซงบางทีหน่วงนิดๆ ก่อนจะพุ่ง
แต่ eHEV คิดว่าจะพุ่งตั้งแต่เหยียบเลย การเร่งแซงน่าจะดีกว่าพอควร
-
จริง ๆ ดูเหมือนว่าจอง 1.5T RS ไปแล้ว ยังไงก็ได้รถตามเวลาที่ต้องการแน่นอนใช่มั้ยครับ
แล้วพอเห็น ตัว hybrid มา เลยคิดว่าอยากเปลี่ยนเป็น hybrid แต่คงรอไม่ไหวใช่มั้ยครับ
ถ้าประเด็นอยู่ตรงนี้ คือตัวที่จองไว้ก็ถูกใจทั้งตัวรถและเวลาส่งมอบ ก็รับรถไปเลยสิครับ
จะลังเลทำไม เพราะตัว hybrid ก็ยังไม่ได้ลองขับ อัตราเร่งจะเป็นที่พอใจแค่ไหนก็ไม่รู้
แถมเงื่อนไขรับรถยังต้องรออีกหลายเดือนซึ่งไม่อยากรอใช่มั้ยครับ
-
เป็นผมจะเอา RSเลยครับ ในเมื่อมีรถให้ นัดวันเวลาอะไรเรียบร้อยแล้ว ความต่างก็ไม่ได้ต่างอย่างมีนัยยะสำคัญเลยครับ
-
ตอนขายต่อ RS ตกน้อยกว่าด้วยนะครับ
-
ไม่แคร์อัตราสิ้นเปลือง ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเอา eHEV เลยครับ
เพราะจากโจทย์นี้ Turbo ก็ตอบได้ครบแล้ว
เว้นแต่อยากได้แอร์หลัง เบาะพับได้
-
มันน่าใช้ทั้งคู่ ใช้ราวๆ 30,000 Km/ปี 10ปีก็ 3 แสนโล
ใช้วิ่งยาวๆทางไกล ตอนความเร็วสูงวิ่งนิ่งๆ
เครื่อง hybide ของ honda จะต่อเครื่องมาขับเพลาโดยตรง
แรง 1.5 T เทียบกับเครื่อง 2.0 arkinson cycle ขณะความเร็วสูง ผมคิดว่าความแรง 1.5T จะดีกว่า
และรยะยาวๆ แม้เครื่อง 1.5 T จะซับซ้อนกว่าเครื่อง NA
แต่คงไม่ยุ่งยากเท่าการมี 3 ระบบคือ มอเตอร์&แบตเตอรี่ เครื่องยนต์ และระบบ ตัดต่อกำลัง หรอก
เมื่อใช้นานเป็น 10ปี
สิ่งของใดๆที่มันหายาก แต่ยังมีความต้องการอยู่ ราคามันจะสูงขึ้น
รถยนต์เครื่อง ICE เช่นกัน อนาคตมันกำลังจะลดการผลิตลง หรือต้องพ่วง hybride และคงเพิ่มภาษีขายแพงๆ ในรถใหม่ให้คนไม่อยากซื้อ
สักวัน รถจากโรงงาน เครื่อง ICE อาจจะขายแพงกว่า พวกรถรักษ์โลก เพราะภาษี ที่บีบบังคับ
จึง เดาเอาว่ารถ ICE มือ 2 อีก 10ปี อาจดึงราคาขึ้นตามราคามือ 1 ก็เป็นได้ ผมไม่รู้จริงแค่ไหน แต่มีความเป็นไปได้
-
ไม่ได้ใช้งานในเมืองที่รถติดๆมาก ผมว่ามันจะไม่ค่อยได้ประโยชน์จากเครื่องไฮบริดสักเท่าไหร่น่ะครับ ค่าบำรุงรักษาหลัง 10 ไปแล้ว ยังไงไฮบริดก็สูงกว่า แต่ผมว่าก็ไม่ได้น่ากลัวมาก แคมรี่,แอคคอดไฮบริด รุ่นเก่ายังวิ่งกันให้พรึ่บ ลองตัดสินใจดูครับ
-
วิ่งทางยาวอัตราสิ้นเปลืองไม่ได้ต่างกันมาก อัตราเร่งหลัง120เทอร์โบดีกว่า อิงจากแอคคอร์ดนะครับ รถเครื่องล้วนดูแลง่ายระบบเดียวไม่ต้องหลายระบบ ใช้รถสิบปีขึ้นราคาขายต่อตัวเทอร์โบดีกว่าอยู่แล้วอนาคตมือสองคนรอซื้อตัวเทอร์โบมากกว่าแน่ๆ เอาturbo rs ครับ
-
ถ้าไม่ได้รีบจะเปลี่ยนเร็วๆนี้
และดูทรงแล้วคุณใช้ยาวๆ ควรไปลองขับทั้ง 2 ตัวก่อนครับ คันไหนถูกจริตก็จิ้มไปที่คันนั้น