Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Akrachai ที่ เมษายน 06, 2022, 15:19:53
-
- เราไม่พูดถึงรถยนต์สมัยก่อนนะครับ
(เพราะเดี๋ยวก็มีคนมาบอกว่าสมัยก่อนไม่เห็นมีผมก็ขับได้ไม่เห็นจะจำเป็นเลย ส่วนตัวผมก็ขับได้ แต่มันก็จะเสียวๆหน่อย แต่มีดีกว่าเพราะชีวิตดูสบายขึ้นเยอะ)
- เดี๋ยวก็มีคนมาบอกอีกว่าโรงงานเขาจะเพิ่มต้นทุนทำไมอีก เขาไม่ได้ผลิตคันเดียวนะ เพิ่มอุปกรณ์เซ็นเซอร์คันละ 1000 บาท แต่เขาผลิตเป็นหมื่นๆคันนะคุณ
(ไม่ต้องโพสนะครับ เพราะผมก็รู้อยู่แล้วว่า cost มันต้องเพิ่ม แต่ที่อยากรู้ทราบก็ตามหัวข้อเลยครับ 55555)
ส่วนตัวผมมองว่าให้มาแค่หลัง 2 จุด(หลัง)จากโรงงานเลยก็โอเคแล้วสำหรับรุ่นเริ่มต้น แล้วรุ่นอื่นๆค่อยให้ไล่เพิ่มไปตามราคาครับ
ปล.ที่มาตั้งกระทู้เพราะมันมีเยอะมากเลยนะที่ปัจจุบันคนเอาไปทำกับร้านข้างนอก ซึ่งผมก็เห็นคนบ่นกันเยอะอาจจะไม่ใช่ใน HLM แต่เป็นตามเพจรถยนต์ต่างๆ....เช่น....รถล้านกว่า..รถเกือบล้านเซ็นเซอร์ไม่มีประมาณนี้
ปล.ส่วนตัวผมมองว่ามันเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยช่วยเหลือเบื้องต้นเลยนะ
-
มารตาฐานที่ควรมือคือ กล่องมองหลังครับ
ใช้มอง เด็ก คน บางประเทศ ถือเป็น มาตราฐานความปลอดภัยเลย มีทุกคัน กล้องหลัง
เซนเซอร์แทบไม่จำเป็น เราใช้ตาดูกล้องเอาครับ
การที่ เราจะจอดชิด ขนาด ต้องให้เซนเซอรมาเตือน มันไม่เกี่ยวกับความปลอดภัย
-
ใช้กล้องหลังง่ายกว่าครับ
-
มาตรฐานระบบความปลอดภัยที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมีความปลอดภัยต่อการ เกิดอุบัติเหตุ แบ่งออกเป็น 2 ระบบ คือ
1) ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) ได้แก่ มาตรฐานระบบ เบรก (R13 หรือ R 13H)
2) ระบบความปลอดภัยเชิงปกป้องเมื่อเกิดเหตุ (Passive Safety) ได้แก่ มาตรฐาน ปกป้องผู้โดยสารจากการชนด้านหน้าของตัวรถ (R94) และมาตรฐานปกป้อง ผู้โดยสารจากการชนด้านข้างของตัวรถ (R95)
ส่วนตัวมองว่า ต้องไปเปิดกฏหมายตามรหัสด้านบนนี้ดูอ่ะครับว่ามีบังคับกี่รายการ อะไรต้องมีบ้าง (ไม่มีไม่ได้)
บริษัทรถยนต์เค้าก็ปฏิบัติตามกฏเหล่านี้แหล่ะ ส่วนจะให้หรือไม่ให้ก็แล้วแต่เค้า ถ้าอยากให้มีเป็นมาตรฐาน ผมมองว่า
ต้องแก้กฏหมาย เหมือนแบบต้องมีเข็มขัดนิรภัย ต้องมี ABS อะไรแบบนั้น
ส่วนตัวอยากให้มีนะ มีเยอะๆยิ่งดี ยิ่งปลอดภัย ยิ่งสบายใจ ยิ่งสะดวก แต่อย่างที่ จขกท ว่า มันก็มีต้นทุนอ่ะเนอะ
ผมอยากได้ กล้องบันทึกหน้าหลัง และ BSM ทุกคันเลยด้วยซ้ำ
-
มารตาฐานที่ควรมือคือ กล่องมองหลังครับ
ใช้มอง เด็ก คน บางประเทศ ถือเป็น มาตราฐานความปลอดภัยเลย มีทุกคัน กล้องหลัง
เซนเซอร์แทบไม่จำเป็น เราใช้ตาดูกล้องเอาครับ
การที่ เราจะจอดชิด ขนาด ต้องให้เซนเซอรมาเตือน มันไม่เกี่ยวกับความปลอดภัย
ไม่รู้สินิสัยผมเองมั้งที่ถ้ามันมีเสียงทั้งเซนหน้าเซนหลังผมก็จะหยุดเพราะผมเป็นระวังมากมั้ง เคยใช้รถมีกล้องก็ไม่ได้มองกล้องเลย ผมมองกระจกหลังมกับกระจกข้างมากกว่ากล้องอีก
อย่างน้อยผมว่าการที่มันมีเสียงกับไม่มีเสียง ผมเลือกมีเสียงดีกว่า
-
โจทย์มันไม่ใช่รถยนต์สมัยนี้หรอกครับ จริงๆ แล้วมันคือคน (ขับ) สมัยนี้ มากกว่าครับ
เพราะที่พี่ จขกท รีบออกตัวว่าไม่ต้องพูดถึงรถสมัยก่อน เนื้อแท้จริงๆ แล้วมันคือคนขับรถในยุคก่อน
ให้พวกเขามาขับรถในสมัยนี้ก็คงบอกว่าไม่จำเป็น แต่ในทางกลับกัน นักขับรุ่นพวกเราไปขับรถรุ่นเก่าๆ
ในยุคสมัยก่อนแล้วจะรู้สึกลำบากจัง อุปกรณ์ช่วยเหลืออะไรก็ไม่ค่อนมีเลย ทุกอย่างอัตโนมือ
อัตาหิอัตโนนาโถซิสเต็มทั้งนั้น อยากให้รถยุคนั้นมีเซ็นเซอร์จัง
เพราะฉะนั้นดูทรงแล้ว คนสมัยนี้คงอยากให้มีทั้งเซ็นเซอร์กะระยะ มีกล้องรอบคัน มีช่วยเบรค
มีกันการเข้าเกียร์ผิด แถมมีช่วยจอดอัตโนมัติเลยยิ่งดี ส่วนเรื่องราคา เอาจริงๆ นะ ถ้าเรายินดีจ่าย
บริษัทรถก็ติดให้ทุกรุ่นแหละครับ ยิ่งถ้าให้รถแต่ละโมเดลมีรุ่นย่อยเดียวคือรุ่นท็อปมันก็ยิ่งง่ายสำหรับ
การผลิต ลูกค้าแค่เลือกสี ไม่ต้องมาชั่งน้ำหนักราคากับรุ่นย่อยไหนคุ้มไม่คุ้มละ
ว่าแต่ เนี่ยๆๆๆๆ คนเจนนี้ (รถสมัยนี้) ไม่สนใจรถเกียร์ M/T ด้วยใช่มั้ยครับ 555++
(เห็นช่วงนี้มีกระทู้พูดถึงรถเกียร์ M/T กัน)
-
ผมว่ากล้องถอย กับกล้องหน้า+หลัง บันทึกเหตุการณ์ดีกว่าครับ
อย่างบางประเทศบังคับเลยว่าต้องมีกล้องหน้าทุกคัน เกิดเหตุเครียง่ายมาก หลักฐานเพียบ
-
โจทย์มันไม่ใช่รถยนต์สมัยนี้หรอกครับ จริงๆ แล้วมันคือคน (ขับ) สมัยนี้ มากกว่าครับ
เพราะที่พี่ จขกท รีบออกตัวว่าไม่ต้องพูดถึงรถสมัยก่อน เนื้อแท้จริงๆ แล้วมันคือคนขับรถในยุคก่อน
ให้พวกเขามาขับรถในสมัยนี้ก็คงบอกว่าไม่จำเป็น แต่ในทางกลับกัน นักขับรุ่นพวกเราไปขับรถรุ่นเก่าๆ
ในยุคสมัยก่อนแล้วจะรู้สึกลำบากจัง อุปกรณ์ช่วยเหลืออะไรก็ไม่ค่อนมีเลย ทุกอย่างอัตโนมือ
อัตาหิอัตโนนาโถซิสเต็มทั้งนั้น อยากให้รถยุคนั้นมีเซ็นเซอร์จัง
เพราะฉะนั้นดูทรงแล้ว คนสมัยนี้คงอยากให้มีทั้งเซ็นเซอร์กะระยะ มีกล้องรอบคัน มีช่วยเบรค
มีกันการเข้าเกียร์ผิด แถมมีช่วยจอดอัตโนมัติเลยยิ่งดี ส่วนเรื่องราคา เอาจริงๆ นะ ถ้าเรายินดีจ่าย
บริษัทรถก็ติดให้ทุกรุ่นแหละครับ ยิ่งถ้าให้รถแต่ละโมเดลมีรุ่นย่อยเดียวคือรุ่นท็อปมันก็ยิ่งง่ายสำหรับ
การผลิต ลูกค้าแค่เลือกสี ไม่ต้องมาชั่งน้ำหนักราคากับรุ่นย่อยไหนคุ้มไม่คุ้มละ
ว่าแต่ เนี่ยๆๆๆๆ คนเจนนี้ (รถสมัยนี้) ไม่สนใจรถเกียร์ M/T ด้วยใช่มั้ยครับ 555++
(เห็นช่วงนี้มีกระทู้พูดถึงรถเกียร์ M/T กัน)
เอาสบายไว้ก่อนครับ 55555
-
ควรครับ eco car เล็กๆผมยังให้ 4จุดด้านหลังจากโรงงานเลย และนี่คือ1ในสาเหตุที่ผมซื้อและไม่ซื้อคู่แข่งในตอนนั้น
รถราคาเกินนี้ยิ่งสมควรมี ผมว่าคนอื่นก็คิดเป็นถ้าคุณไม่ bias
-
มารตาฐานที่ควรมือคือ กล่องมองหลังครับ
ใช้มอง เด็ก คน บางประเทศ ถือเป็น มาตราฐานความปลอดภัยเลย มีทุกคัน กล้องหลัง
เซนเซอร์แทบไม่จำเป็น เราใช้ตาดูกล้องเอาครับ
การที่ เราจะจอดชิด ขนาด ต้องให้เซนเซอรมาเตือน มันไม่เกี่ยวกับความปลอดภัย
มันควรมีทั้งคู่ครับ ตากับหูมันก็ต่างกันมันคนละโสดกันนะครับ ผมว่าคนละอย่างนะ
แต่ถ้าเซ็นเซอร์กะระยะถอยแสดงผลด้วยภาพอย่างเดียว แล้วไม่มีเสียง
หรือกล้องมีเสียงเมื่อใกล้วัตถุ(เอาแบบมโนว่ามันฉลาดมากอะนะ) แบบนี่ผมคิดว่าที่คุณพูดถูกต้องนะ
-
เซนเซ่อควรจะมีทุกคัน แบบบังคับเลยนะ น่าจะออกเป็นข้อกำหนดไปเลย รวมถึง ระบบช่วยเหลือพวก vsc ด้วย
ส่วนกล้องถอย ควรจะมีดี และควรจะมีมาตรการ มาช่วยเหลือด้วย เช่นแบบ บ.ประกัน ให้เบี้ยต่ำกว่ารุ่นที่ไม่มี(หรือเพิ่มเบี้ย) อะไรแบบนี้
สุดท้ายแล้วอยู่ที่คนขับด้วยว่ามีสติแค่ไหน เคยเจอ s-class w222 ถอยตรงๆชนเสาไฟมากับตา.. ไม่คิดว่าเขาจะมองไม่เหน..
-
ส่วนตัวผม เอาให้บังคับให้มีกล้องถอยหลังกับรถรุ่นที่มีหน้าจอตรงกลางก่อนดีกว่าครับ
ทุกวันนี้ยังเจอรถมีจอไม่มีกล้องหลังขายอยู่เลย
-
มารตาฐานที่ควรมือคือ กล่องมองหลังครับ
ใช้มอง เด็ก คน บางประเทศ ถือเป็น มาตราฐานความปลอดภัยเลย มีทุกคัน กล้องหลัง
เซนเซอร์แทบไม่จำเป็น เราใช้ตาดูกล้องเอาครับ
การที่ เราจะจอดชิด ขนาด ต้องให้เซนเซอรมาเตือน มันไม่เกี่ยวกับความปลอดภัย
มันควรมีทั้งคู่ครับ ตากับหูมันก็ต่างกันมันคนละโสดกันนะครับ ผมว่าคนละอย่างนะ
แต่ถ้าเซ็นเซอร์กะระยะถอยแสดงผลด้วยภาพอย่างเดียว แล้วไม่มีเสียง
หรือกล้องมีเสียงเมื่อใกล้วัตถุ(เอาแบบมโนว่ามันฉลาดมากอะนะ) แบบนี่ผมคิดว่าที่คุณพูดถูกต้องนะ
+1 ครับ ถ้าจะมีควรจะมีทั้งภาพและเสียง
เคยเห็นมาพวกมีแต่กล้อง บางทีเรามองกันแค่สิ่งที่อยากมอง
แต่ส่วนที่เหลือก็ลืมมองจนสะเทือนถึงเพิ่งรู้
-
คงต้องไปดูกฎหมายก่อนละคับ ว่ามันกำหนดไว้ว่ายังไง ผมคุ้น ๆ ว่าสมัยก่อน สอบใบขับขี่ที่เมกา ถ้าไม่หันไปมอง สอบตกนะคับ ! สมัยนั้นผมก็คุ้นกะการมองกระจกมองหลัง มองกระจกข้างเวลาถอย แต่ตอนสอบก็ต้องหันไปมอง เพราะกฎหมายบอกว่าต้องหัน
เอาจริงๆ แค่เซนเซอร์ผมว่าก็โอเคละ กล้องมองหลังสำหรับผมยังรู้สึกแปลกๆ เพราะเลนส์กล้องแต่ละยี่ห้อก็ต่างกันไป ขับบางคันถอยระยะนี้โอเค แต่บางคัน อ้าวห่างเป็นเมตร .....ถ้าไม่ใช่คันที่ขับประจำ ผมยังชัวร์กับการมองกระจกข้างกะฟังเสียงเซนเซอร์มากกว่า
-
แต่ก่อนไม่มีกล้อง ก็ขับได้
จนมาขับรถมีกล้อง คันแรก ยังไม่เท่าไหร่ เพราะมันไม่ชัด พออีกคัน ชัดแจ๋ว จอใหญ่ ทีนี้กลายเป็น พอมาขับคันไม่มี เริ่มหงุดหงิดละ เพราะต้องลงไปดู (จอดชิด แบบเดินผ่านไม่ได้)
-
มารตาฐานที่ควรมือคือ กล่องมองหลังครับ
ใช้มอง เด็ก คน บางประเทศ ถือเป็น มาตราฐานความปลอดภัยเลย มีทุกคัน กล้องหลัง
เซนเซอร์แทบไม่จำเป็น เราใช้ตาดูกล้องเอาครับ
การที่ เราจะจอดชิด ขนาด ต้องให้เซนเซอรมาเตือน มันไม่เกี่ยวกับความปลอดภัย
มันควรมีทั้งคู่ครับ ตากับหูมันก็ต่างกันมันคนละโสดกันนะครับ ผมว่าคนละอย่างนะ
แต่ถ้าเซ็นเซอร์กะระยะถอยแสดงผลด้วยภาพอย่างเดียว แล้วไม่มีเสียง
หรือกล้องมีเสียงเมื่อใกล้วัตถุ(เอาแบบมโนว่ามันฉลาดมากอะนะ) แบบนี่ผมคิดว่าที่คุณพูดถูกต้องนะ
+1 ครับ ถ้าจะมีควรจะมีทั้งภาพและเสียง
เคยเห็นมาพวกมีแต่กล้อง บางทีเรามองกันแค่สิ่งที่อยากมอง
แต่ส่วนที่เหลือก็ลืมมองจนสะเทือนถึงเพิ่งรู้
อันนี้ผมเห็นด้วยกับทั้ง 3 คนเลยครับ
-
เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง + กล้องมองหลัง ผมว่าควรติดตั้งเป็นมาตรฐานในรถยนต์ทุกรุ่น
แต่เซนเซอร์กะระยะด้านหน้า ผมว่าออกแนวน่ารำคาญมากกว่าใช้ประโยชน์ ขอเป็นกล้อง 360 รอบคันได้ประโยชน์กว่ามากมาย
-
ควรมีเซ็นเซอร์ หรือ กล้องมองหลัง อย่างใดอย่างหนึ่ง ติดมาให้ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นครับ
แล้วรุ่นท็อปค่อยใส่มาให้ทั้งสองอย่างก็ยังไม่น่าเกลียด
-
มารตาฐานที่ควรมือคือ กล่องมองหลังครับ
ใช้มอง เด็ก คน บางประเทศ ถือเป็น มาตราฐานความปลอดภัยเลย มีทุกคัน กล้องหลัง
เซนเซอร์แทบไม่จำเป็น เราใช้ตาดูกล้องเอาครับ
การที่ เราจะจอดชิด ขนาด ต้องให้เซนเซอรมาเตือน มันไม่เกี่ยวกับความปลอดภัย
ไม่รู้สินิสัยผมเองมั้งที่ถ้ามันมีเสียงทั้งเซนหน้าเซนหลังผมก็จะหยุดเพราะผมเป็นระวังมากมั้ง เคยใช้รถมีกล้องก็ไม่ได้มองกล้องเลย ผมมองกระจกหลังมกับกระจกข้างมากกว่ากล้องอีก
อย่างน้อยผมว่าการที่มันมีเสียงกับไม่มีเสียง ผมเลือกมีเสียงดีกว่า
ตรงข้ามกับผมเลยครับ
H1 มีกล้องหลังและเซนเซอร์ แต่ผมชอบกล้องหงังมากว่า รู้เลยว่าห่างเท่าไหร่ มีอะไรอยู่ด้านหลังไหม
Crv g4 มีกล้องหลังอย่างเดียว แฮปปี้มาก ครั้งต่อไปต้องมีกล้องหลัง กล้องรอบคันได้ยิ่งดี
-
ชอบเซ็นเซอร์ตกแต่งจากโรงงานมากกว่าไปติดข้างนอกของโรงงานเวลาเตือนจะขึ้นหน้าปัดรถ
ส่วนพวกของจีนดังแต่เสียง แบบจอก็มีแต่ไม่เข้ากับรถเอาซะเลย
รถมีทั้งกล้อง ทั้งเซ็นเซอร์จริงๆผมว่าช่วยได้เยอะนะ อย่างเวลาถอยปกติบางทีมีคนเดินผ่านเรากำลังมองทางอื่นอยู่มันก็ร้องเตือนจะได้เบรคทัน
ยิ่งตอนฝนตกหนักๆกล้องถอยแทบมองไม่ได้ ใช้เซ็นเซอร์ฟังเสียงเอาอย่างเดียว ส่วนกล้องดีตรงสามารถถอยจอดที่แคบๆได้ง่ายขึ้น
ถ้ากฎหมายไม่บังคับคงไม่ติดกัน เหมือนพวกระบบ esc vsc
-
เอาทั้งกล้องทั้งเซนเซอร์เลยครับ มันไม่ได้แพงเลย
-
ควรครับ อย่างน้อยควรมี 2 จุดเป็นมาตรฐานก็ยังดี
ตอนที่ผมขับรถใหม่ๆ รถที่เคยใช้ขับไม่มีซักอย่างเลย แต่ก็จอดได้นะ อาศัยจิตสัมผัสและดูระยะกระจกมองข้างเอา
แต่พอปัจจุบันใช้รถผม Eco Car คันละ 6 แสนกว่า มีเซ็นเซอร์หลัง 4 จุดเป็นมาตรฐาน พร้อมกล้องมองหลังเลย กลายเป็นว่าใช้รุ่นที่มีของพวกนี้ให้ มันเลยชิน ถ้าให้ไปขับรถที่ไม่มีก็คงมีเก้ๆกังๆบ้างแหละ 5555
ผมว่า 2 อย่างนี้ ไม่ว่าจะกล้องหรือเซ็นเซอร์ มันเหมือนมีหูและตาที่ช่วยในการถอยจอดง่ายขึ้นจริง ๆ ครับ โดยเฉพาะรถหลักล้านขึ้นผมอยากให้เป็น "กล้องรอบคัน" เลยเสียด้วยซ้ำ
มีไว้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มีครับ ใครจะว่าจำเป็นไม่จำเป็นก็ไม่ว่ากัน ผมเชื่อว่า "ความจำเป็น" แต่ละคนมีค่าไม่เท่ากันอยู่แล้ว
-
มีประโยชน์ทั้งคู่ครับ บางมุม เช่นมุมด้านข้าง เซ็นเซอร์ตัวมุมให้ความปลอดภัยกว่ากล้องนะครับ แต่บริษัทผู้ผลิตเค้าคิดว่าเค้าทำรุ่นต่างๆมาให้เลือกแล้ว ขึ้นอยู่กับผู้บริโภคเองจะใส่ใจความปลอดภัยแค่ไหน
อ็อพชั่นความปลอกภัยบางคนยังบอกเป็นของเล่นเลยครับ มาตรฐานแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผู้ผลิตเค้าก็กำหนดอ็อตพชั่นให้ตามที่ผู้บริโภคแต่ละคนต้องการ
จริงๆเทคโนโลยีปัจจุบันมันคือ Rearcross Traffic Alert ทำงานร่วมกับกล้อง โดยมีระบบเบรคอัตโนมัติเข้ามาช่วยทั้งด้านหน้าและหลัง ส่วนกล้องด้านหน้ามีประโยชน์กว่าเซ็นเซอร์นะครับ มองเห็นสภาพพื้นถนน หลุม ฝาท่อที่เซ็นเซอร์หน้าตรวจจับไม่ได้ คนเคยใช้จะรู้ว่ามีประโยชน์ คนไม่เคยใช้ก็จะบอกว่าเป็นของเล่นไม่จำเป็น
ความปลอดภัยอยู่ที่เราเลือกครับ ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกรุ่น เพราะมาตรฐานความปลอดภัยแต่ละคนไม่เท่ากัน จึงไม่สามารถกำหนดตายตัวได้ว่าอ็อตพชั่นไหนควรจะเป็นมาตรฐาน
เพราะถ้ามาตรฐานผมก็ต้องกล้องรอบคัน Blind spot , Rearcross Traffic Alert, Moving Object Detection, Automatic Emergency Braking ทั่งหน้าและหลัง สำหรับผมสิ่งเหล่านี้ควรเป็นมารตรฐานสำหรับรถทุกคัน
-
มารตาฐานที่ควรมือคือ กล่องมองหลังครับ
ใช้มอง เด็ก คน บางประเทศ ถือเป็น มาตราฐานความปลอดภัยเลย มีทุกคัน กล้องหลัง
เซนเซอร์แทบไม่จำเป็น เราใช้ตาดูกล้องเอาครับ
การที่ เราจะจอดชิด ขนาด ต้องให้เซนเซอรมาเตือน มันไม่เกี่ยวกับความปลอดภัย
ไม่รู้สินิสัยผมเองมั้งที่ถ้ามันมีเสียงทั้งเซนหน้าเซนหลังผมก็จะหยุดเพราะผมเป็นระวังมากมั้ง เคยใช้รถมีกล้องก็ไม่ได้มองกล้องเลย ผมมองกระจกหลังมกับกระจกข้างมากกว่ากล้องอีก
อย่างน้อยผมว่าการที่มันมีเสียงกับไม่มีเสียง ผมเลือกมีเสียงดีกว่า
ตรงข้ามกับผมเลยครับ
H1 มีกล้องหลังและเซนเซอร์ แต่ผมชอบกล้องหงังมากว่า รู้เลยว่าห่างเท่าไหร่ มีอะไรอยู่ด้านหลังไหม
Crv g4 มีกล้องหลังอย่างเดียว แฮปปี้มาก ครั้งต่อไปต้องมีกล้องหลัง กล้องรอบคันได้ยิ่งดี
อันนี้ผมก็เห็นด้วยนะครับ ผมได้อ่านจากพี่ๆเพื่อนๆสมาชิกหลายคนให้ความเห็น ผมว่ามันควรมีทั้ง 2 อย่างควบคู่ไปด้วยกันเลยหรอ บางทีมุมที่กล้องไม่เห็น เซ็นเซอร์มันดัง บางที่เซ็นเซอร์บอกได้ไม่แม่นพอมองกล้องเพื่อความชัวร์ ประมาณนี้ครับ
-
ต้นทุนรวมกันกล้องหลังกับสัญญาณเสียงกะระยะน่าจะหลักพันต้นๆ...ไม่รู้จะเหนียวไปไหน กับเดินสายรอไว้ติดกล้องบันทึกหน้าหลังควรมีให้เป็นมาตรฐาน อันนี้ต้นทุนหลักร้อย ออกเป็นมาตรฐานบังคับทุกคันไปเลย...
-
ผมว่ามันควรมีควบคู่ทั้งกล้องถอยหลัง และ เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ทุกรุ่นย่อยครับ เพราะบางประเทศอย่างเกาหลีใต้นี่ เขาเป็นมาตรฐานทุกรุ่นย่อยมานานมากแล้วครับ และผมว่ามันจำเป็นกว่าเบาะปรับไฟฟ้าที่ไม่มี Memory Seat เสียอีก
-
ควรมีครับ ควรมีควบคู่ทั้งกล้องและเซ็นเซอร์ และควรมีให้ทุกรุ่นย่อยด้วยครับ ถ้าจะต้องปรับลดต้นทุนควรจะเอาออปชั่นแฟนตาซีต่าง ๆ ออกแทนเสียด้วยซ้ำครับ การขับขี่ความปลอดภัยต้องมาก่อนอันดับแรกเลย ที่สำคัญต้องมีการผลักดันเรียกร้องการแก้ไขกฎหมายอย่างจริงจังต่อเนื่องด้วยครับ ผู้ผลิตจะได้ทำตามข้อบังคับ
-
ผมก็คนรุ่นเก่า ขับรถ MT กระจกมือหมุน อวทม. พอมาขับรถยุคนี้ ดีขึ้นมากๆ ใครบอกไม่เห็นจำเป็นนี่ผมว่าอีโก้จัด ไม่ก็องุ่นเปรี้ยว
ระบบพวกนี้ทำให้การขับรถง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น สะดวกขึ้น เซนเซอร์กะระยะ กล้องมองหลัง หรือแม้กล้อง 360 องศา ควรจะมีมาได้แล้วเป็ฯมาตรฐานไปเลยยิ่งดี อย่างว่า พอไม่มี กฏหมายมาควบคุม ก็เลยกลายเป็นแค่ Option น่าเสียดาย
เซนซอร์ปลอดภัยแน่ กันการชนได้มากเลยในมุมอับ แคบๆ กล้องมองหลัง/360 ไว้มองเด็ก สัตว์เล็กๆ สิ่งของขวางทางรอบคันที่มองไม่เห็น
ผมเกือบถอยชนรถสามล้อของลูก แกซนเอามาวางไว้ท้ายรถ ตอนเช้ารีบไปทำงาน ถ้าไม่มีกล้อง ชนไปแล้วครับ เซนเซอร์ก็ร้องดังมาก ช่วยๆกันดีมากๆ กับอีกครั้ง เกือบเหยียบลูกนก ถ้าไม่มีกล้องมองไม่เห็นเลย เซนเซอไม่ัง เพราะตัวเล็กมาก
สรุป เห็นด้วยกับ จขกท. รถคันถัดไป ถ้าไม่มีกล้อง ไม่มีเซนเซอร์ (ผมจะพ่วงระบบ adaptive cruise ไปด้วย) ผมไม่ซื้อแน่นอน
-
ก่อนหน้านี้ ขับรถแบบไม่มีเซนเซอร์และกล้องมองหลัง ก็ไม่มีปัญหาอะไรขับได้กะเอาจากความเคยชิน
รถอีกคัน มีเซนเซอร์หลังก็ดีนะ ช่วยได้ระดับหนึ่ง
พอคันปัจจุบันมีทั้งเซนเซอร์(หน้า+หลัง) และกล้อง เออ มันสบายจริง ช่วยเรื่องจอดรถในที่แคบได้ดีเลย แถมมุมอับก็มองได้จากภาพหน้าจอ
อีกคัน มีกล้องมองหลังไม่มีเซนเซอร์ก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่มั่นใจเท่าคันที่มีทั้งกล้องและเซนเซอร์ครับ
แต่ไหนๆมาเรื่องนี้แล้ว Honda จ๋า กล้องของพี่กากมากเลย ความชัดของกล้องสู้ ตะกายแอคถีบ ไม่ได้เลย อยากให้พัฒนาคุณภาพของกล้องหน่อย
-
รถเดี๋ยวมีจอ กลาง กันแทบหมด
ให้กล้องถอยหลังมาดีกว่า
แล้วไม่ใช่ว่า ออฟชั่นกล้องถอยหลัง แพงยังกะทอง ในบางยี่ห้อ ทั้งที่กล้องก็ใช้ไม่ต่างจากยี่ห้ออื่น ไม่ได้เลิสเรอ อะไร บางทีภาพชัดสู้ รถยี่ห้อถูกกว่า ราคาถูกกว่า เป็นเท่าตัว ยังไมได้ เสือกขายแพงอีก
-
รถเดี๋ยวมีจอ กลาง กันแทบหมด
ให้กล้องถอยหลังมาดีกว่า
แล้วไม่ใช่ว่า ออฟชั่นกล้องถอยหลัง แพงยังกะทอง ในบางยี่ห้อ ทั้งที่กล้องก็ใช้ไม่ต่างจากยี่ห้ออื่น ไม่ได้เลิสเรอ อะไร บางทีภาพชัดสู้ รถยี่ห้อถูกกว่า ราคาถูกกว่า เป็นเท่าตัว ยังไมได้ เสือกขายแพงอีก
อย่างที่ผมบอกไปครับ
กล้องถอยหลัง มันก็เหมือนเรามีตาหลัง มีเส้นบอกระยะ ให้ มี เลน กว้าง มอง
กลางคืน ก็มองเห็น
ต่างจาก เซนเซอร์ ถอย คือ มันเตือน แค่ วัตถุระยะประชิด มัน ไม่ทั่วทุกจุด มันต้องติดแทบจะรกกันชนท้าย
-
ควรมีครับ
เมื่อก่อนก็คิดว่าเซ็นเซอร์ไม่จำเป็นเพราะมีกล้องมองถอยอยู่แล้ว
มีวันนึงถอยรถเข้าโรงรถตามปกติ ลืมมองกล้องหลังเพราะคุ้ยเคย ถอยอยู่ทุกวัน
ปรากฏว่าเซ็นเซอร์เตือนดังจนตกใจ ปรากฏว่าลูกเอาจักรยานมาจอดแอบๆด้านหลัง อีกไม่ถึงคืบก็ถอยชนครับ
รถCHRผม มีทั้งเซ็นเซอร์กับกล้องมองหลังมาจากโรงงานครับ
-
ถ้าด้านหลัง ขอกล้องหลังดีกว่าครับ
-
ผมขอมีกล้องมองหลังเป็นอย่างน้อย กล้องรอบคันเป็นออพชั่น
ส่วนเซนเซอร์ไม่เอาเลย ล่าสุดผมซ่อมกันชนหลังก็บอกอู่ว่าไม่ต้องติดเซนเซอร์แล้ว หนวกหูมาก รบกวนการถอยหลัง เพราะรถผมมีกล้องแล้ว ผมดูแต่กล้องกับกระจก ทุกวันนี้คิดไม่ผิด
-
นึกถึงรถตัวเอง ที่เซ็นเซอร์หลังยังเป็นของแถมจากเซลส์ ในรถปี 2019 😅
-
เซนเซอร์ผมว่าควรมีครับ รถผมมีกล้องรอบคันมาจากโรงงาน ตอนจอดถอยจอดแอบซ้ายชิดกับเสาไฟฟ้าซึ่งเป็นจุดบอดมุมของกล้องพอดี พอตอนจะออกรถ เวลากลางคืน+ลืมไปว่าถอยอีกไม่ได้แล้วจอดชิดเสาแล้ว เลยถอยนิดนึงเพื่อจะได้ออกจากช่องรถด้านหน้าได้ง่ายขึ้น ก่อนออกกล้องรอบคันก็มอง แต่มันมองเสาไม่เห็นเพราะมันชิดไป+เป็นมุมบอดของกล้องรอบคันด้วย รู้ตัวอีกทีดังครืดถูเสาเรียบร้อย ดีไม่แรงมาก ถ้ามีเซนเซอร์มันคงร้องเตือนจนเอะใจได้นึกออกว่าตอนจอดติดเสาไฟฟ้าแล้วนะ
-
เอาที่ว่าจำเป็นจริงๆเพื่อช่วยป้องกันก่อนการเกิดอุบัติเหตุ
เซ็นเซอร์ + กล้องถอยหลัง เห็นด้วยกับหลายท่านที่ว่าควรเป็นมาตราฐาน ทั้งหูและตาช่วยกัน
Blind Spot ช่วยเตือนมุมอับสายตาหรือ LaneWatch แบบ Honda ก็ได้แต่ขอข้างขวาด้วยนะ
ที่เหลือออฟชั่นให้เลือกก็ดี
เซ็นเซอร์ + กล้องรอบคัน 360 อันนี้ดีงามเพราะใช้อยู่ และคิดว่าคันต่อไปต้องมี
กล้องบันทึกหน้ารถ + กล้องบันทึกหลังรถ อันนี้ก็ใช้อยู่ รู้สึกเซฟๆหากเกิดเหตุ แต่ยังคิดว่ากล้องหน้าก็พอ
-
เห็นด้วยกับหลายท่านครับว่าควรมี sensor กะระยะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเลย แล้วก็กล้องหน้ารถครับ
แต่กล้องถอยหลังคงยากเพราะรถส่วนใหญ่ในยุคนี้ ตัวเริ่มต้น ตัวกลาง จอยังเป็นวิทยุบลูทูธธรรมดาแค่แสดงชื่อเพลงภาษาไทยได้ก็เก่งแล้ว ::)
ต้องเป็นรุ่น top ถึงจะมีจอแสดงผล ที่ต่อปลั๊กกับกล้องถอยหลังมาให้
-
เห็นด้วยกับหลายท่านครับว่าควรมี sensor กะระยะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเลย แล้วก็กล้องหน้ารถครับ
แต่กล้องถอยหลังคงยากเพราะรถส่วนใหญ่ในยุคนี้ ตัวเริ่มต้น ตัวกลาง จอยังเป็นวิทยุบลูทูธธรรมดาแค่แสดงชื่อเพลงภาษาไทยได้ก็เก่งแล้ว ::)
ต้องเป็นรุ่น top ถึงจะมีจอแสดงผล ที่ต่อปลั๊กกับกล้องถอยหลังมาให้
ใช่ครับ+