Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: turbo lover ที่ เมษายน 16, 2022, 15:12:01

หัวข้อ: เบนซินออกเทน100 vs E85
เริ่มหัวข้อโดย: turbo lover ที่ เมษายน 16, 2022, 15:12:01
ผมสงสัยมานานแล้วครับว่า
ระหว่าง เบนซินออกเทน100กับ น้ำมันE85อย่างไหนค่าออกเทนสูงกว่ากัน
แล้วถ้าจูนแล้วทั้งคู่  น้ำมันประเภทไหน
จะแรงกว่ากันครับ
หัวข้อ: Re: เบนซินออกเทน100 vs E85
เริ่มหัวข้อโดย: samaklen ที่ เมษายน 16, 2022, 15:36:42
เบนซินให้ค่าพลังงานมากกว่าครับ
E85 ออกเทนสูงกว่า 1 ร้อยนิดๆ
ตามหลักเชื้อเพลิงที่ค่าพลังงานมากกว่า ควรจะได้กำลังมากกว่า
หัวข้อ: Re: เบนซินออกเทน100 vs E85
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ เมษายน 16, 2022, 16:14:43
เบนซิน จะเอาออกเทนที่ไหนมา  เต็มที่ก็ได้ 98 แค่นั้น

อี 85  ค่าพลังงานในการเผาไหม้ต่ำกว่า  แต่ออกเทน 105 

ดังนั้น  แม้ค่าพลังงานจะต่ำกว่า  แต่ป้องกันการน็อคได้ดีกว่า  จึงเป็นเหตุผลที่ต้องจ่ายส่วนผสมหนาขึ้น  เพื่อให้ค่าพลังงานเท่ากันครับ
หัวข้อ: Re: เบนซินออกเทน100 vs E85
เริ่มหัวข้อโดย: PetchPP ที่ เมษายน 16, 2022, 16:39:22
อันไหนออกเทนมากกว่าก็จูนได้แรงกว่าครับ
ตอบ E85

ค่าพลังงานที่ให้ไม่ใช่ปัจจัยหลักกับการทำให้แรงครับ
ยกตัวอย่าง 95ให้พลังงาน100 e85ให้พลังงาน75
เอา95จูนให้จ่ายน้ำมันได้10หน่วย เกินกว่านี้ไม่ได้เนื่องจากออกเทนแค่95 รวมแล้วจะให้พลัง100x10=1000
แต่E85จะจูนให้การระเบิดมีพลังมากกว่าได้เพราะออกเทนสูงกว่า แต่อาจจะต้องฉีดน้ำมันถึง15หน่วย เป็น75x15=1125
สรุปคือเอาแรงดูที่ออกเทนอย่างเดียว แต่การคายพลังงานจะแสดงถึงความประหยัดน้ำมัน(กม./ลิตร)

หัวข้อ: Re: เบนซินออกเทน100 vs E85
เริ่มหัวข้อโดย: kakakanga ที่ เมษายน 16, 2022, 17:01:33
จดๆๆ ของดีๆ ทั้งนั้นครับ :)
หัวข้อ: Re: เบนซินออกเทน100 vs E85
เริ่มหัวข้อโดย: samaklen ที่ เมษายน 16, 2022, 19:29:07
เบนซินใส่ออคเทนบูสได้ครับ ถ้าร้อยกว่าๆ เท่ากัน
แต่ตัวบูสสร้างมลภาวะมากกว่าใช้เอทานอลบูส
แต่เอทานอลเย็นกว่า น่าจะเป็นประโยชน์ในการบูสเทอร์โบได้มากขึ้น นอกเหนือจากการต้านน๊อคจากออคเทนที่มากกว่าโดยธรรมชาติ
แต่อยากแรงจริงต้องไนโตรมีเทน หรือ ไนตรัสครับ
แต่เครื่องพังได้ครับ ต้องแป๊บๆ เท่านั้น
หัวข้อ: Re: เบนซินออกเทน100 vs E85
เริ่มหัวข้อโดย: IS2000 ที่ เมษายน 16, 2022, 22:07:11
ถ้าพวกออกเทน 100 ไร้สารที่ซื้อเติมกันเอง (ราคาแกลลอนละประมาณ 3 พันกว่าบาท) จูนออกมาแรงไม่ต่างกับ E85 ครับเพราะรถผมก็จูน 100 ออกเทนไว้ โดยไม่ต้องอัพหัวฉีดหรือปั้มติ๊กสเป็คสูงๆสำหรับ E85 แต่ราคาน้ำมันแพงกว่าเยอะมาก
หัวข้อ: Re: เบนซินออกเทน100 vs E85
เริ่มหัวข้อโดย: Zephyrs ที่ เมษายน 17, 2022, 01:36:36
เลข Octane จริงๆแบ่งเป็นสองอัน คือ RON และ MON
เลข MON จะต่ำกว่า RON ประมาณ 10 กว่าๆได้ เพราะวัดกันคนละแบบ (Google หาข้อมูลเพิ่มเอาได้ถ้าสนใจ)
เลขที่เราเห็น (เบนซิน 91,95) คือเลข RON (ยกเว้นบางประเทศ โดยมากก็คือทั้งทวีปอเมริกาเหนือและใต้ จะเป็นเลข RON+MON แล้วไปหารเฉลี่ย)

กลับมาที่หัวข้อ
น้ำมันเบนซิน Octane 100 คือวัดค่า RON ได้ 100 ในขณะที่ E85 จะวัดค่า RON ได้เกิน 100 ไปนิดหน่อย (2-5) อันนี้คือตอบคำถามแรก

ส่วนเรื่องใครแรงกว่า มีคนอธิบายไว้แล้ว 14 ปีก่อน
https://www.carsales.com.au/editorial/details/myth-busting-high-octane-fuel-will-make-a-car-faster-7513/
โดยสรุปคือขึ้นกับการจูนของเครื่อง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องเลข Octane นี่โดยตรง
หัวข้อ: Re: เบนซินออกเทน100 vs E85
เริ่มหัวข้อโดย: #อินเดียหน้าโจร ที่ เมษายน 17, 2022, 21:07:07
E85 ออกเทนมากกว่า และ stoichiometry 9.8:1 ด้วย (ตามที่ผมเข้าใจคือ โมเลกุลของเอนาทอล มีออกซิเจนเป้นส่วนประกอบ ซึ่งตอนเผาไหม้ก็เหมือนได้อากาศเพิ่ม) นอกจากจูน advance องศาจุดระเบิดได้มากกว่าแล้ว ยังถมน้ำมันได้เยอะกว่าอีกด้วย

ส่วนเบนซินออกเทนน้อยกว่า แถม stoichiometry แค่ 14.7:1 ไม่มีออกซิเจนในตัวเอง ถมน้ำมันได้น้อยกว่า advance องศาไฟได้น้อยกว่าจากค่าออกเทนที่น้อยกว่าครับ
หัวข้อ: Re: เบนซินออกเทน100 vs E85
เริ่มหัวข้อโดย: turbo lover ที่ เมษายน 17, 2022, 22:15:11
E85 ออกเทนมากกว่า และ stoichiometry 9.8:1 ด้วย (ตามที่ผมเข้าใจคือ โมเลกุลของเอนาทอล มีออกซิเจนเป้นส่วนประกอบ ซึ่งตอนเผาไหม้ก็เหมือนได้อากาศเพิ่ม) นอกจากจูน advance องศาจุดระเบิดได้มากกว่าแล้ว ยังถมน้ำมันได้เยอะกว่าอีกด้วย

ส่วนเบนซินออกเทนน้อยกว่า แถม stoichiometry แค่ 14.7:1 ไม่มีออกซิเจนในตัวเอง ถมน้ำมันได้น้อยกว่า advance องศาไฟได้น้อยกว่าจากค่าออกเทนที่น้อยกว่าครับ
ได้ความรู้เยอะเลยครับ
หัวข้อ: Re: เบนซินออกเทน100 vs E85
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ เมษายน 18, 2022, 11:49:37
เอาแค่ออกเทร E85 ค่าก็ร้อยกว่าแล้ว แค่นี้มันก็บอกว่า สูงกว่าเบนเซินออกเทน 100 แล้ว

E85 ถมน้ำมันได้มากกว่า ดังนั้น ก็ถมไปได้มากกว่าเช่นกัน