Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: new36 ที่ เมษายน 25, 2022, 19:59:57
-
ผมใช้ BMW E36 320i เครื่อง M50B20 จะขยายความจุเครื่อง ได้สูตรมาจากตปท.แล้ว สามารถขยายได้เป็น 2.6L ครับ (2,500 cc กว่าๆ) ที่จริงมีง่ายกว่านี้คือเปลี่ยนช็อตบล็อกเป็น 325i (เครื่อง 2.5) แต่ผมไม่อยากเปลี่ยนเลขเครื่องเลยใช้วิธีขยายเครื่องเดิมดีกว่า ส่วนของอะไหล่ที่ใช้หาได้ครบแล้วแต่ติดปัญหาอยู่อย่างหนึ่งคือเรื่องของหัวฉีดที่จะใช้ สูตรที่ได้มามันมีหลายเวอร์ชั่นมากครับ บางคนก็ใช้ของเดิมทั้งหมด บางคนก็เปลี่ยน บางคนก็ใช้ของแต่งไปเลย จึงจะรบกวนสอบถามท่านผู้รู้หน่อยครับ
ผมลองใช้เว็บคำนวณ duty cycle ของหัวฉีด พบว่าหัวฉีดเดิมเครื่อง 2.0 กับเรกูเลเตอร์ 3 บาร์ (320i) มันอยู่ที่ 73.5% (ปกติไหมครับ?) แล้วถ้าขยายเครื่องเป็น 2.6L โดย
1. ใช้หัวฉีดเดิม 2.0 กับเรกูเลเตอร์เดิม (3 บาร์)
จะได้ max duty cycle = 83.5%
2. ใช้หัวฉีดเครื่อง 2.5 กับเรกูเลเตอร์เดิม (3 บาร์)
จะได้ max duty cycle = 73.5%
3. ใช้หัวฉีดเดิม 2.0 กับเรกูเลเตอร์ 2.5 (3.5 บาร์)
จะได้ max duty cycle = 71.7%
4. ใช้หัวฉีดเครื่อง 2.5 กับเรกูเลเตอร์ 2.5 (3.5 บาร์)
จะได้ max duty cycle = 62.5%
ผมควรเลือกข้อไหนดีครับ?
ดูแล้วข้อ 2 น่าจะเข้าท่าที่สุดเพราะได้ duty cycle เท่าเดิม แต่ผมเพิ่ง full service (ล้าง+เปลี่ยนกรอง+เปลี่ยนโอริง) หัวฉีดเดิมมาหมดทุกหัวเป็นเงินหลายพันบาทอยู่ และใช้น้ำมัน E20 ด้วย จึงคิดว่าถ้าน้ำมันหนานิดหน่อยคงจะดี ผมจึงสนใจข้อ 3 ครับ ส่วนข้อ 4 ที่จริงผมไม่สนใจเท่าไหร่เพราะคิดว่าน้ำมันคงหนาเกินไป แต่ก็มีบางคนทำในตปท. และข้อ 1 อันนี้ก็น่าสนใจเพราะจะได้ประหยัดเงิน 55+ แต่กลัวหัวฉีดจะไปเร็วไหมครับเพราะทำงานหนัก (เกิน 80%)
อีกเรื่องคือ จากตัวเลือกทั้ง 4 ข้อ duty cycle ยังไม่ถึง 100% แปลว่ากล่อง ecu สามารถปรับ range ตัวเองได้อยู่ใช่ไหมครับ?
-
แชร์ประสบการณ์นะครับ
ของผม e46 เครื่องเดิม M52TU 2400 ขยายโดยการเปลี่ยน ลูกก้านข้อ ของ 3000 กับมี แค็ม schrick ผมใช้หัวฉีดของ 3000 กับเรกกูเลตของเดิมได้ครับ
อันนี้ก็เหมือนกัน ถ้าจะขยาย 2500 ก็เอาชุดหัวฉีดของ 2500 มาใช้ก็น่าจะได้เหมือนกันครับ ส่วนถ้าจะใช้น้ำมันพวก e20 คิดว่าไม่ต้องเพิ่มมาก ของเดิม 2500 ก็น่าจะไหวอยู่ ไม่เหมือนกับ e85 อันนั้นเขาจะต้องเพิ่มเยอะอยู่
แต่ปัญหาจริงๆผมว่าอยู่ที่การจูนมากกว่าครับ ของเครื่องตัวพวกนี้ เขาต้องไปเขียนโปรแกรมเข้าที่ชิพของกล่องโดยตรง ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้มีคนทำได้อยู่ไหม ถ้าอยากทำจริงๆลองหาดูอู่เมกาเทค ที่อยู่ตรงลาดพร้าว เจ้าของอู่เขาเล่น e36 อยู่ครับ
ส่วนที่ว่ากล่องปรับเองได้ มันจะแค่สำหรับการปรับเปลี่ยนนิดๆหน่อยๆครับ ถ้าเปลี่ยนไส้ ยังไงผมก็ว่าไม่พอครับ ผมแค่เปลี่ยน แค็ม ตอนที่เป็นเครื่อง 2400 ใช้โปรแกรมจูนสำเร็จ ยังไม่พอเลยครับ misfire ที่ 6 พันกว่ารอบตลอดทุกครั้งที่กดเลยครับ
-
ควรเปลี่ยนให้โตขึ้นจะดีกว่า แต่ต้องเปลี่ยนค่าในกล่องให้ตรงด้วย เพื่อไม่เกิดปัญหาบางในรอบสูง
ตอนผมจูน saab 95 เป็น อี 85 พร้อม เปลี่ยนชุดโบ เป็น td 04 ปรับบูสต์ เปลี่ยนหัวฉีดจากมาตรฐาน ขึ้นเป็น 630 ซี.ซี. แต่ไม่ได้แก้ค่าหัวฉีด สตาร์ทรถท่วมครับ แต่พอ เปลี่ยค่าหัวฉีดแล้ว ปกติ ดี
หัวฉีดมันจะปรับค่าการจ่ายตามกำลังหัวฉีดที่เคลมไว้ในกล่อง จูนเนอร์ รู้ดีครับ
-
บอกความต้องการของเรากับจูนเนอร์ครับ ให้เค้าเลือกว่าจะใช้ขนาดเท่าไหร่
regulator, fuel pump อะไรต่อมิอะไร ใช้ของใหม่ได้ก็ดีครับ
-
คหสต. ถ้ารักจะมาแนวนี้แล้ว ผมว่าท่าน จขกท.มี 2 ทางเลือกใหญ่ๆครับ
1. หาอู่ที่ไว้ใจได้และให้เค้าจัดการ
2. หาข้อมูลเอง เล่นเอง
เมืองนอกเค้าลองได้ ลองง่าย เพราะเค้าทำเอง บ้านเรานิยมแบบแรก การจะหาข้อมูลเชิงลึกในบ้านเรา ผมว่ายาก (เมื่อก่อนยังพอนึกออก 2-3 เวปที่คุยเทคนิคกันเชิงลึกได้ เดี๋ยวนี้ผมหาไม่เจอเลย ที่นี่น่าจะลึกสุดละ ซึ่งก็ยังลึกไม่พอกับที่ จขกท.สงสัย)