Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Labrador bok bok ที่ พฤษภาคม 11, 2022, 20:48:53
-
สวัสดีครับ พี่ ๆ สมาชิกทุกท่าน ต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้มีความรู้เรื่องรถมากนัก เมื่อวานก่อนได้เข้า youtube ไปเจอ คลิป ๆ นึ่ง ที่เป็นการแข่ง Rally ระหว่าง Ford Raptor กับ Isuzu D-max 3.0 เลยมีข้อสงสัยที่ว่า
คลิป https://www.youtube.com/watch?v=GPH3PrYMmD8 (https://www.youtube.com/watch?v=GPH3PrYMmD8)
ข้อสงสัย
1. การแข่งขันแบบนี้สามารถวัดได้หรือไม่ว่า รถผู้ชนะ มีสมรรถนะดีเหนือกว่าคู่แข่ง หรือไม่สามารถวัดสมรรถนะได้เพราะผู้ขับขี่เป็นคนละคนกัน
ช่วยตอบให้หายความสงสัยด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ปล. ถ้าสามารถชี้วัดสมรรถนะของตัวรถได้ ก็แอบเสียใจหน่อย ๆ ครับ ที่ว่า Raptor สมรรถนะไม่ดีเท่า D max 3.0
-
ตัวนักแข่งก็ส่วนหนึ่ง การโมดิฟายรถก็ส่วนหนึ่ง
ไม่น่าเอามาชี้วัดสมรรถนะที่แท้จริงของรถได้หรอกครับ
ให้ดี เอารถโรงงานมาให้นักแข่งคนเดียวขับจับเวลาดีกว่าครับ จับหลายๆรอบ เพื่อให้นักขับคุ้นชินกับรถ แบบนี้วัดได้แน่
-
ในคลิปไม่ใช่รถเดิมทั้งคู่ อยู่มี่ใครโมมาดีกว่า และคนขับมีส่วนอย่างมาก
-
นักแข่งมีส่วนแน่นอนครับ
แต่ดูจากสนามแล้ว ร่าตะมีการทำเครื่อง ช่วงล่างใหม่อยู่แล้ว ห่างไกลกับรถที่ขายในโชว์รูม มันคงวัดไม่ได้ว่ารุ่นไหนจะดีกว่ากัน
ถ้าปรับแต่งจากเคคื่องเดิม raptor 2.2 จะไม่แรงเท่า dmax 3.0 ก็ไม่น่าแปลกใจนะครับ เพราะเครื่องเล็กกว่า
-
เหอ Raptor ตัวถังใหญ่กว่าชาวบ้าน เสียเปรียบเรื่องความแรงครับ เพราะแบกตัวถัง
-
คนขับ การปรับแต่ง และพื้นฐานรถมีผลเยอะครับ ผมให้พอๆกันเลย ในด้านความสำคัญ
รถพื้นฐานดี จูนต่อ มันต่อยอดสมรรถนะได้มากกว่าครับ
Ex . CG ต่ำกว่า รถเบากว่า กระจายน้ำหนักดีกว่า เข้าโค้งได้ดีกว่า หรือแม้แต่ระยะ track ก็มีผลเยอะครับ
แต่บางที การจูน การเซตติ้ง ก็มีผลให้รถมันขับทำเวลาได้ดีเหมือนกันครับ แต่สนามแนวนี้พูดยากครับ ฝีมือคนขับเป็นปัจจัยหลักเลยเหมือนกัน แต่สนามแนวนี้ ผมว่า Ford อาจจะตัวรถหนักกว่า เลยทำให้สู้ยากหรือเปล่า
ความเบา คือปัจจัย No 1 ในสนาม แต่เวลาบนถนน คนจะชอบหนักๆ แน่นๆ วิ่งตรงๆรู้สึกดีกว่า แต่ไม่ใช่กับในโค้งแคบๆแบบในสนามครับ
-
อย่างแรกเลย รถไม่เดิมทั้งคู่ครับ ทำมาเต็ม
ทีนี้ว่าด้วยการโม isuzu เค้าเครื่อง 3.0 ถ้าทำเต็มก็จะเห็นว่า ความแรงฉีกตั้งแต่ออกตัว ส่วนแร็ปเตอร์ก็ตามสภาพเครื่อง 2.0
ช่วงล่าง ถ้าโช็คดีเซ็ทดี ถ้าอีกฝายเป็นแหนบ อีกฝ่ายเป็นคอยสปริง แต่วิ่งจริงกับทางที่ไม่ได้ซับซ้อนมากมาย ไม่มีเนินสลับฟันปลา ก็หาความแตกต่างยาก
สรุปถ้ามาแนวนี้ ปล่อยให้โมกันเต็มๆ เครื่อง isuzu กินขาด
ส่วนถ้าจะดูว่า สมรรถนะรถ จริงๆเป็นยังไง ต้องหาดูเดิมๆตามกลุ่ม offroad ครับ ที่เค้าเอาไปลุยป่าขึ้นเขา ที่ถ้าทำกันก็ทำกันไม่มาก อันนั้นยังพอวัดได้
แต่ถ้ารถเดิมๆ โรงงานยางเดิมติดรถระหว่าง D-max กับ raptor แข่งในสนามนี้ยังไง raptor ก็กิน
ป.ล.ในคลิป isuzu ถอดฝาท้ายกระบะกันชนหลังออก แต่ Raptor ฝาท้ายกับกันชนอยู่ครบ ล้อยางโรงงานมาเลย .. ถ้าเรื่องโมแรงม้าต่อน้ำหนัก isuzu ได้เปรียบเยอะ
-
ถ้าผลการแข่งขัน ใครเข้าเส้นชัยก่อน ทำเวลาดีกว่า และไม่ฟาล์ว ก็คือ ชนะ
สมรรถณะ รถ รวม คน คือ ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ
ผมว่าคุณ bias มากไปว่า Raptor มันต้องดี ต้องเจ๋ง กว่าคันอื่น คนอื่นจะดีกว่าไม่ได้ ซึ่งใช่ ถ้าวัดกันที่รถเดิมๆ โรงงาน แต่เพิ่มเติมคือ แพงกว่าเขา 5 แสน
ถ้าคุณเอาส่วนต่าง 5 แสน ไปทำ D-Max 3.0 ผมว่า D-Max สมรรถณะโดยรวม สูงกว่า Raptor ด้วยซ้ำ ครับ
แค่ช่วงล่าง By Pass ใส่ D-Max มันก็ทำให้ D-Max ช่วงล่างกระโดดขึ้นมาเท่า หรือ เหนือกว่า Raptor แล้วครับ คนทำรถ ทำช่วงล่าง เขารู้กันดี เขาไม่พูดเยอะหรอกครับ
ชนะ ก็คือ ชนะ ผลตามนั้น
พอแพ้ แล้ว ข้อแม้ ข้อจำกัด หรือ เหตุผล เยอะจัง
-
เคยเห็นคลิป ford fiesta ของ ken blockไหมครับ ?
รถ B -segบ้านๆจากโรงงานมีใครขับได้แบบนั้นไหมครับ ?
ค่าแต่ง น่าจะซื้อ ford fiesta ได้อีก 2 คันละมั้ง คนขับก็ฝีมือระดับโลก
https://www.youtube.com/watch?v=q07yQq2D5No
-
ผมอ่านคอมเมนท์ใน youtube คนที่บอกว่า raptor หนักกว่า นี่โดนสาวก isuzu ยำเละเลย ..
ดูที่รถจะสังเกตุเห็นชัดๆเลยว่าคัน raptor เดิมทั้งคัน ฝากระโปรงเดิมโรงงาน ฝาท้ายไม่ถอดกันชนท้ายไม่ถอด ล้อยาง เดิมโรงงานเลย
แต่คัน isuzu ฝากระโปรงคาบอน ฝาท้าย+กันชนท้ายถอดออก ภายในเผลอๆแทบจะถอดแผงประตูออกหมดเลยด้วยมั้ง
ดังนั้นรถแข่งที่รู้กันทั่วโลก รถเบากว่ายังไงก็ได้เปรียบ ดังนั้นคู่นี้ผมว่ามวยไม่ถูกคู่เท่าไร
เผลอๆ isuzu เกียร์ MT ส่วน raptor เกียร์ AT แน่นอน ... แค่นี้ก็รู้ผลแล้วสำหรับการแข่ง
-
วัดได้หลายๆอย่าง วัดไม่ได้หลายๆอย่าง เพราะรถไม่เดิมทั้งคู่แน่นอน คู่แข่งฝีมือขับไม่ได้ระดับหมู่บ้าน ระดับประเทศทั้งคู่
วัดกันได้ว่า ทีมไหนเลือกรถอย่างไร ทำงานในทีมอย่างไร โมดิฟายอย่างไร ที่จะทำให้ผลงานออกมาดี สมรรถณะของรถเดิมโรงงาน มีผลน้อยมากแล้วล่ะครับ
-
Cross Country บ้านเราส่วนใหญ่ที่เล่นกันในระดับแข่งขันส่วนมากจะใช่ Hilux / Dmax หรือ Mitsu ครับ
ช่วงล่างยี่ห้อเทพที่ติด Raptor ที่มันดีที่สุดในตลาดรถกะบะสำหรับรถบ้านๆ แต่สำหรับแข่งขันเค้าก็ไม่ได้ใช้กันครับ เพราะมันมีดีกว่านั้นแค่มันไม่ได้ดังในวงกว้าง
เราต้องแยกรถแข่งกับรถบ้านออกก่อนถึงจะไปต่อได้ครับ ภาพจำหรือภาพลักษณ์ของ Raptor อาจจะเทพในถนนหลวงแต่ในโลกการแข่งขันมันก็อีกเรื่องนึง
-
จริงๆ ถ้าเอาเดิมๆเนี่ย isuzu หลุดลุ่ยอ่ะ ระบบขับ4หลายครั้งช้าและงงงวยกว่าจะเข้าขับ2Hเป็น4Hให้(กระพริบรัวๆอยู่นั่น) พอเข้าลุยกว่าTractionจะจับนี่แบบบางทีกินมาม่าถ้วยรอ ล้อฟรีเพลินๆไปก่อน
โตโยต้าเข้าจาก2H มา4Hก็ยังมีเร็วบ้างช้าบ้าง ฟอร์ดนี่เข้าขับ4H นับ1 2 3เข้าเลย ขับ4ไม่งอแงไปงอแงเรื่องอื่น555+
-
นอกจากเสียเปรียบน้ำหนักรถแล้ว เครื่องกับเกียร์ฟอร์ดก็เสียเปรียบเยอะ isuzu เปิด ecu ให้โมได้ไม่มีข้อจำกัด ส่วนฟอร์ด ecu มันจำกัดโน่นนี่นั่นเยอะไปหมด เกียร์ 10 สปีดนี่ก็ขึ้นชื่อเรื่องความอืดเพราะอัตราทดมันชิดไป แรงบิดยังไม่มาเกียร์มันก็เปลี่ยนให้แล้ว ถ้าจะเอา raptor ลงแข่งต้องเจอตัวใหม่ เบนซิน 3.0 V6 400 แรงม้า ตัวนี้แรงจัดเชื่อเสียงโด่งดัง
-
เอารถขาย มาเปรียบกับรถแข่งไม่ได้!!
ถ้าเดิมๆ วิ่งรูด วิ่งลุย ทางวิบาก แล้วคนขับ คุมง่าย สบายตัว Raptor กินขาด!!
แต่ในรถแข่งแบบนี้ Dmax เหลือของเดิม เท่ากับตัวขายกี่ชิ้น??!!
ตัวถัง แชสสีย์ เครื่องและเกียร์ (ที่ไม่ใช่ไส้เดิม)
เดาว่า Dmax 3.0 โม แต่ Raptor คือ เครื่องอะไร ไม่ 3.2 ก็ 2.0
โมมาแค่ไหน ก็ไม่น่าจะเทียบ 3.0 ใน Dmax ได้
พูดง่ายๆ ทางตรงยังไง Dmax โม "แดกเช็ด"
เพราะเครื่องตัวนี้ "แข่ง402" เขาว่ากันที่ 7-800 ม้า หรือกว่านั้น
เครื่องรุ่นเก่า โลว์เทค "คุ้นมือคุ้นตีน" ช่างมานาน
แต่ถ้าไม่จำกัดว่า ดีเซลหรือเบนซิน
เอา New Raptor เกือบสี่ร้อยม้า โมเพิ่ม มาลุยแทน และนักแข่งฝีมือใกล้เคียงกัน
อาจจะกลายเป็น "หนังรีเมค" แต่จบคนละแบบก็เป็นได้!!
สรุป รถขายกับรถแข่ง เอามาเปรียบกันไม่ได้
เอาสบายใจ มีดีทั้งคู่แล้วแต่ชอบ..
-
การแข่งขัน THAILAND CROSS COUNTRY RALLY CHAMPIONSHIP 2022 รับรองการแข่งขันโดยราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย
มีหลายทีมที่ลงทำการแข่งขัน ก็ใช้กระบะหลายๆค่ายที่จำหน่ายอยู่ในไทยนี้ละครับ ทั้งรถรุ่นเก่า รุ่นใหม่ แต่ก็ปรับแต่งได้ตาม กติกา ที่กำหนด
การแข่งขัน ตัวแข่งตามรุ่นต่าง ๆ ก็ปรับแต่งกัน เท่าที่กติกากำหนดตามรุ่น สมรรถนะไม่ได้ต่างกันมาก ไม่งั้นทีมใหญ่ที่มีเงินทุนมากกว่า ก็มีงบพัฒนารถได้มากกว่าทีมเล็กๆ
แต่รถสมรรถนะที่สูงกว่า ก็ไม่ได้หมายความว่าขับในสนามแข่งแล้วจะทำเวลาดีกว่าเสมอไป มีหลายปัจจัย สภาพสนามแข่ง ฝีมือนักขับ กับสภาพความพร้อมของรถ และทีมงาน