Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ChotLife ที่ พฤษภาคม 25, 2022, 02:19:04
-
(https://www.img.in.th/images/5d1953d8394423c4085320b6c67370dd.jpg)
ใครจะเข้าศูนย์ Hyundai ลำลูกกา ระวังนะครับ ผมเอารถเข้าไปเช็คระยะ พอนำรถออกมาไม่ถึง 20นาที รถพังมีปัญหา ศูนย์ไม่รับผิดชอบ โยนให้ลูกค้ารับผิดชอบออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ทั้งๆที่ตอนนำรถเข้าไปขับได้ปกติ
***********
ถ้าได้อ่านจนจบ สรุปเรื่องทั้งหมดนี้ ผมคาดการณ์ว่า เกิดจากการที่พนักงานล้างรถ ล้างห้องเครื่องโดยไม่ระวัง ทำให้น้ำไปโดนบริเวณคอยล์จุดระเบิด ทำให้เรื่องบานปลายมาถึงขนาดนี้ ผู้ใดมีความรู้ ช่วยชี้แนะหน่อยครับ เป็นไปได้ไหม กับการที่น้ำเข้า ทำให้คอยล์จุดระเบิดมีปัญหา
***********
วันที่ 13 พ.ค. 2022 (ประมาณ 13.00 น.)
ผมได้นำรถ Hyundai Veloster Turbo เข้าไปเช็คระยะรอบ 80,000กิโลเมตร เป็นรอบเช็คใหญ่ มีเปลี่ยนหลายรายการ
- น้ำมันเครื่อง
- แหวนรองน็อตถ่ายน้ำมันเครื่อง
- ไส้กรองอากาศ
- กรองอากาศตู้แอร์
- กรองน้ำมันเชื้อเพลิง
- หัวเทียน
- น้ำมันเบรค
- น้ำยาหม้อน้ำ
- น้ำยาเกียร์อัตโนมัติ
- แหวนรองน็อตถ่ายน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ
- น้ำยาล้างหัวฉีด
ก่อนรับรถคืน เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเครื่องยนต์สั่นๆ พบโค๊ดขึ้น Fuel Low เหมือนแรงดันน้ำมันเครื่องต่ำ แต่ผมขับมาตลอดหน้าปัดไม่มีขึ้นอะไร เหยียบถึง 160ก็ไม่มีปัญหา แต่ลึกๆผมก็ไม่แน่ใจต้องเสียบเช็คโค๊ดเท่านั้นไหมถึงจะขึ้น แต่ขับมาก็ปกติทุกอย่าง มีแต่ความสั่นเล็กๆของเครื่องเหมือนจะปกติ แต่แทบจะไม่รู้สึก สรุป เคลียร์โค๊ด ก็หายหมด
ภายในวันเดียวกันช่วงเวลา (17.00 น.)
ผมรับรถออกมาจากศูนย์ ก็ขับช้าๆ ไปเรื่อยๆ ช่วงหลังๆมีเหยียบหนักขึ้นหน่อยรอบสูง เครื่องมีอาการกระชากกระตุกๆตลอด และมีไฟเครื่องยนต์กระพริบโชว์ตลอดการเหยียบคันเร่งลึกๆ ต้องปล่อยเท้า แล้วค่อยๆเหยียบเบาๆถึงจะไม่เป็น ก็เลยได้ติดต่อคุยกับเจ้าหน้าที่ ที่รับรถแจ้งอาการตามที่เป็น **เจ้าหน้าที่ ที่รับรถแจ้งว่าไม่แน่ใจว่าจังหวะเปลี่ยนกรองเบนซิน เปลี่ยนหัวเทียน เปลี่ยนกรองเรียบร้อย พอจังหวะระบบกลับมาปกติ 100% ไม่ชัวว่าหัวฉีดเริ่มมีอาการให้เห็นรึป่าว หรือลักษณะเครื่องยนต์ทำงาน ตัวไหนเสื่อมสภาพตามอายุไข มันส่งผลเป็นพิเศษรึป่าว เพราะว่าอุปกรณ์เดิม กับ อุปกรณ์ใหม่ แรงดันไม่เท่ากันแน่นอน แต่ช่วงระหว่างผมติดต่อ มีการจอดพักริมทาง เนื่องจากว่าเกรงว่าจะมีอะไรเสียหายหนักขึ้น เจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้ลองดูใหม่ ถ้ายังเป็นอีกให้ติดต่อกลับ หลังจากนั้นก็ Start เครื่องลองใหม่ ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ทางเจ้าหน้าที่เลยเสนอว่า จะให้เจ้าหน้าที่มารับรถที่บ้าน กลับไปที่ศูนย์ ในวันรุ่งขึ้น
วันที่ 14 พ.ค. 2022
ผู้จัดการมาตรวจดูรถแล้ว โทรมาแจ้งผมว่าขอเอารถกลับไปเช็คให้ละเอียดอีกที เพราะเช็คเบื้องต้นยังไม่หาย
*****************************
ผู้จัดการพูดทิ้งท้ายไว้ว่า รถเบนซิน จริงๆแล้วไม่ค่อยถูกกับน้ำซักเท่าไหร่ น้อยคันที่ผมจะล้างห้องเครื่องให้ แต่พอล้างเสร็จปุ๊บเราก็ต้องเป่าทำความสะอาดให้แห้ง เดี๋ยวไปไล่ดูจุดนี้อีกทีนึง
*****************************
วันที่ 18 พ.ค. 2022 (11.34 น.)
เจ้าหน้าที่ที่รับรถ โทรมาแจ้งว่า ช่างไล่เช็คมา 3-4วันแล้ว ยังไม่เวิร์คเลย อาการที่เจอกำกวม ซึ่งก็ไล่ทั้งหมดเลยดูร่วมกับอาจารย์เทคนิคสำนักงานใหญ่ สาเหตุหลักๆยังไม่กล้าตัดสินใจฟันธงเพราะว่าอาการใกล้เคียงกับตัวอื่นมาก อาจารย์เทคนิคแจ้งว่าในส่วนของตัวคอยล์จุดระเบิดไฟรั่ว แต่ที่ยังไม่คอนเฟิร์ม 100% ซึ่งอาการค่อนข้างใกล้เคียง แต่สงสัยทำไมขับปกติไม่เป็น แต่กระแทกคันเร่งอาการถึงจะออก ซึ่งจังหวะช่วงนี้ต้องดูควบคู่กับไลน์น้ำมัน แต่ดูแล้วยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานปกติหมด พยายามไล่ทีละระบบ ทีละส่วน เทสทีละตัว ทุกอย่างก็ขึ้นปกติ ยังไม่เจอต้นตอสาเหตุ เลยขอเวลาเพิ่ม
(13.50 น.)
เจ้าหน้าที่รับรถ โทรมาแจ้งว่า คุยกับช่างและหัวหน้าช่างเรียบร้อยแล้ว สรุปคือต้องเปลี่ยนคอยล์จุดระเบิด 2หัว แล้วดูอาการหายขาดไหม ถ้าหายขาดก็เปลี่ยนแค่ 2หัว เช็คของที่สำนักงานใหญ่ให้แล้วมีของ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ในส่วนนี้ให้ลูกค้ารับผิดชอบเอง ผมก็เลยไม่โอเค เจ้าหน้าที่เลยขอไปคุยกับผู้จัดการก่อน เดี๋ยวโทรแจ้ง
(13.58 น.)
เจ้าหน้าที่รับรถโทรมา ผมคุยกับผู้จัดการเรียบร้อยแล้ว สรุปในส่วนของอุปกรณ์ เป็นในส่วนของเสนอให้ลูกค้าชำระเงินเอง คอยล์ 2ตัว รวมทั้งหมด 4,349 บาท ซึ่งอุปกรณ์ อายุของมัน มันมีปัญหาพอดี แต่ในส่วนของอุปกรณ์ พอมีอายุนาน จังหวะที่เปลี่ยนหัวเทียน อุปกรณ์ไฟทำงานปกติ ทีนี้ถ้ามีอาการ อาการก็จะออกขึ้นมา แต่กรณีในเคสลูกค้า จะเป็นคอยล์ลงกราว แต่ไม่ได้ทำงานถูกจุด มันทำงานฉีดปลายรอบๆคอยล์ ซึ่งปกติต้องฉีดไปที่หัวเทียนอย่างเดียว เลยมีอาการนี้ ซึ่งขออนุญาตเปลี่ยนคอยล์ 2ตัวก่อน แล้วดูอาการต่อเนื่องเคลียร์ไหม ซึ่งผมก็ยืนยัน ผมไม่โอเคที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ผมให้ทางศูนย์ไปเปิดกล้องหน้ารถตอนผมขับมาศูนย์ดู ว่าขับมามันปกติ ทำความเร็วสูงได้ปกติ วิ่ง1ร้อยกว่า++ แต่หลังจากออกมามันมีปัญหา ผมก็เลยบอกเจ้าหน้าที่ขอโทรคุยกับทาง Hyundai Thailand Callcenter
(14.05 น.)
โทรแจ้งทาง Hyundai Thailand Callcenter เล่าเรื่องตามด้านบน เจ้าหน้าที่รับเรื่องประสานงาน
19 พ.ค. 2022 (10.07 น.)
เจ้าหน้าที่รับรถ โทรมาแจ้ง ได้รับเรื่องจากสำนักงานใหญ่เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวขออนุญาตแจ้งความคืบหน้าเรื่อยๆ ตอนนี้ทางศูนย์ประสานงานกับทางสำนักงานใหญ่อยู่ จะเชิญอาจารย์เทคนิคมาตรวจสอบรถ เดี๋ยวสรุปให้อีกที
21 พ.ค. 2022 (17.05 น.)
ผู้จัดการโทรมาแจ้ง เบื้องต้นดูแล้ว ผมลงไปดูรถเอง สรุปก็เหมือนกับเจ้าหน้าที่ ที่แจ้งไปก่อนหน้านี้ เป็นที่ตัวคอยล์ สูบ2 กับ สูบ4 ผู้จัดการแนะนำ จริงๆตัวคอยล์ควรเปลี่ยนทั้ง 4ตัว แต่เคสของผม ขอเสนอแต่ตัวที่เสียก่อน ซึ่งในอุปกรณ์พวกนี้เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งพอเป็นอิเล็กทรอนิกส์ มันมีโอกาสเสียได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหน แล้วแต่จังหวะที่เสีย ส่วนค่าใช้จ่าย เดี๋ยวขอคุยกับทาง GM อีกทีว่าจะช่วยลูกค้ายังไงได้บ้าง
23 พ.ค. 2022 (16.20 น.)
ผู้จัดการโทรมาแจ้ง เบื้องต้นคุยกับทาง GM และผู้บริหารแล้ว ทางผู้บริหารไม่ได้มีแนวทางช่วยเหลือของอะไหล่ที่เสียหาย
(16.26 น.)
ผมโทรแจ้ง Hyundai Thailand Callcenter อีกครั้ง ตามที่ทางผู้จัดการ และเจ้าหน้าที่รับรถแจ้งมา
24 พ.ค. 2022 (16.14 น.)
เจ้าหน้าที่ Callcenter โทรมาแจ้ง ทาง Hyundai ลำลูกกาแจ้งว่า พบอาการปัญหาก่อนการนำเข้าเช็คระยะ 80,000กิโลเมตร และเสนอให้ลูกค้าทำการแก้ไขก่อนหน้านี้ ในขณะนั้นลูกค้ายังไม่สะดวกให้แก้ปัญหา ต่อมาก็พบปัญหาเดิมหลังจากการเช็คระยะ 80,000กิโลเมตร ผมก็เลยไม่โอเค เพราะอาการมันไม่มีตอนก่อนเข้า เลยขอประชุมสายกับเจ้าหน้าที่ทาง Hyundai ลำลูกกา สรุปแล้วคือ Hyundai ลำลูกกา ก็ยังยืนยันเหมือนเดิม ไม่รับผิดชอบ ให้ลูกค้าออกค่าใช้จ่ายเอง
ณ ตอนนี้ รถผมก็ยังจอดอยู่เป็นเวลา 12วันแล้ว ยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด เนื่องจากทางศูนย์ จะให้ลูกค้ารับผิดชอบเอง แล้วก็ยังไม่รู้ ถ้าเปลี่ยนคอยจุดระเบิด 2อันแล้ว จะหายชัว 100% รึป่าว
-
ผมไม่ได้เข้าข้างศูนย์นะครับ แต่เราอาจจะต้องมีหลักฐานมากกว่านี้ว่าเขาเป็นผู้ทำ เพื่อให้เขารับผิดชอบ
ส่วนนึงที่เขาพูดก็ถูกคืออุปกรณ์อิเลคโทรนิคส์บางครั้งมันก็รวมเอาเฉยๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีอาการมาก่อน เพียงแต่พวกนี้มักจะเจอกับรถยุโรป
วันก่อน 350z ก็ไฟขึ้น ไล่เช็คอยู่ ก็เป็นอุปกรณ์พวกนี้แหล่ะครับ :'( :'(
-
อ่านดูแล้วศูนย์เค้าก็ดูรับเรื่องตลอด ปัญหาพวกนี้เกิดได้ตลอดอุปกรณ์อิเล็คทรอนิค
-
คอยย์ บทมันจะเสียก็เสียครับ
มันมีอายุการใช้งานแบบวัดค่ายากด้วยว่ามันจะเสียตอนไหน
ถ้ามันจะเสียพร้อมกัน2ตัวก็ไม่แปลกด้วยครับอายุมันใกล้เคียงกัน
และถ้าคิดว่าเพราะล้างห้องเครื่อง คงไม่มีช่างคนไหนเอาน้ำเปล่าฉีดรึรดลงไปตรงๆในห้องเครื่องหรอกครับ ถ้ามีก็น้ำยาหรือไม่ก็น้ำแข็งแห้ง ยากมากที่คอยย์จะพังเพราะสาเหตุแค่นั้น
ถ้าไม่มีหลักฐานชัดๆว่าใครทำเสีย ผมเฉยๆเลย ไม่กล้าครับกลัวเงิบ
-
อยากรู้ว่า อ่านโค้ด แล้วขึ้นโค้ดอะไรอ่ะครับ
-
ดูแล้วเค้าก็รับผิดชอบดีมากนะครับ ถึงขนาดมารับรถที่บ้านเลย แล้วก็มีการติดตามงาน ประสานงานกันเป็นระยะๆ
อันนี้ผมให้ 5 ดาวเลย
ส่วนที่บอกว่าคอล์ยเสีย มันมีโอกาสเสียได้อยู่แล้วครับ อายุมันไม่ได้ยืนขนาดว่าใช้ได้เป็นแสนๆโล
-
ถ้าเป็นที่คอยล์เสีย เปลี่ยนแล้วหาย ถ้าเป็นผมยอมออกค่าใช้จ่ายเองครับ เพราะไม่น่าจะเป็นความผิดพลาดของช่าง
เงิน 4พันกว่าบาทกับเวลา 12 วันที่มัวเถียงกันว่าใครจะเป็นคนอออก มันไม่คุ้มกันหรอกครับ
case นี้ผมว่าศูนย์เค้าก็รับผิดชอบดีนะครับ บางทีผู้บริโภคก็ใช้ความรู้สึกเป็นตัววัด จะเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว
-
เคสนี้เห็นใจศูนย์ ฮุนไดอ่ะ ผมว่าเค้าทำดีที่สุดแล้ว
-
เท่าที่อ่านดู
คืองี้ครับ ตอนที่คอยล์มันติดกะบหัวเทียนอันเก่า มันอาจจะเริ่มแตกแล้วก็ได้ แต่เราไม่ได้ไปขยับมันไง
พอช่างเปลี่ยนหัวเทียนให้ คอยล์ที่เริ่มเก่า แห้ง แข็ง กำลังจะแตก ก็อาจจะแตกเพราะแค่แรงดึงหรือการขยับ
มันก็มีโอกาสแหละครับ
ถ้าเป็นอู่ทั่วๆไป เขาคงไปหาคอยล์แต่งจากรถคันอื่นมาใส่ให้ดูเลย แต่บังเอิญว่านี่เป็น 0 อาจไม่มีอะไหล่รุ่นนี้สำรองไว้ให้ก็ได้
ถ้าเป็นส่วนตัวผมนะ มี 2 ช้อยส์
ก็ให้ที่ 0 เปลี่ยนแหละ ยังไงของมันก็ต้องเปลี่ยน
หรือไม่ก็ไปหาของแต่ง ของ oem ใส่เลย
ถ้าไม่หาย ค่อยให้ 0 หาสาเหตุกันต่อไป
ถ้า 0 ไม่หาให้ หรือเจออะไรที่เป็นความผิด 0 จริงๆ แล้วค่อยมาบ่นก็ได้
จะให้เขารับผิดชอบในของที่มีโอกาสเสียได้ทุกเมื่อก็ยังไงๆอยู่
แต่ทาง 0 เองก็น่าจะหาทางพิสูจน์ให้ชัดเจนกว่านี้นะ(เท่าที่อ่าน)
-
แถวบ้านผมเลย. เคสนี้ศูนย์รับผิดชอบดีครับ มีช่างใหญ่มาช่วยวิเคราะห์ด้วย ผมไม่เข้าใจว่าปัญหาคืออะไร ตัวคอยที่ศูนย์บอกว่าเสีย ถ้ารถคุณหมดประกันแล้ว อุปกรณ์พวกนี้ยังไงถ้ามันเสีย คุณก็ต้องจ่ายเองอยู่แล้วนิ!
-
อุปกรณ์ไฟฟ้ามันเสื่อมแบบไม่แน่นอน บางตัว 2 เดือนเสีย บางตัว 10 ปีไม่เสียทั้งๆที่ผลิตมาล็อตเดียวกัน ตรวจสอบยาก ถ้าช่างไม่เจอด้วยตัวเอง โอกาสที่จะฟันธงเป๊ะๆยากมากครับ
-
ผมรับได้ ถ้ามีอาการตั้งแต่ก่อนเข้า แล้วทางศูนย์แจ้งให้เปลี่ยน
ถึงจะเป็นหมื่น ผมก็ยินดี
แต่ที่ไม่ยินดีคือ ตอนเข้าไปปกติ ตอนออกมาไม่ปกติ
แล้วที่ไม่ปกติคือเสีย ไม่ได้เสีย1ตัว แต่เสีย2ตัว
จังหวะโป๊ะเช๊ะกันพอดี มันดูแล้วบังเอิญเกินไป
-
เห็นด้วยกับหลายๆท่านครับ ว่าเค้ารับผิดชอบดีมากแล้ว
คอยรั่ว เกิดขึ้นได้ครับ ถ้าพลาสติกที่หุ้มคอยมันเสื่อมแล้ว ไฟมันกระโดดไปลงเครื่องมันก็สดุด เป็นอาการปรกติของทุกยี่ห้อแหละ
ทีนี้ ก็ธรรมดาของลูกค้าทุกคน คือตอนขับเข้าไปทำ มันปรกติ แต่พอออกมาแล้วมีปัญหา เจ้าของรถก็ต้องโทษศูนย์เป็นอันดับแรก
ส่วนที่บอกว่ารถล้างห้องเครื่องไฟเข้าระบบไฟฟ้าแล้วสะดุด ถ้าเค้าเป่าจนแห้งแล้ว และนี่เลยมาหลายวันแล้วแปลว่าไม่เกี่ยวกับการล้างห้องเครื่อง
เห็นด้วยกับคุณ kiwiwi ที่ว่ามันอาจจะแตกตอนถอดหัวเทียนนี่แหละ เหมือนของที่กำลังจะแตก พอขยับหน่อยก็เลยแตกเลย เป็นความซวยของศูนย์ไป
ข้อเสนอของผมนะ ... ยอมจ่ายแต่ต้องบอกศูนย์ว่าอาการต้องหายนะ ถ้าไม่หายต้องคืนเงิน และให้ศูนย์รับผิดชอบด้วยที่แจ้งอาการผิด ..
-
รถใช้งานมาเกือบแสนโล ก็อาจเป็นไปได้ที่อุปกรณ์เสื่อมสภาพ แต่เมื่อเอารถเข้าศูนย์ ก็ต้องมีการรับประกันตัวรถในระดับนึง รถมีปัญหาเมื่อขับออกจากศูนย์ทางศูนย์จะปัดความรับผิดชอบเรื่องค่าซ่อมทั้งหมดไม่ได้ แม้จะฟังธงไม่ได้ว่าเป็นความผิดของช่าง แต่ช่างก็ได้มีการทำงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับส่วนที่เสียจริง ถ้างั้นพบกันคนละครึ่งทางได้ไหม ศูนย์ลดราคาให้ครึ่งนึง ลองคุยออกแนวนี้น่าจะพอเป็นไปได้ไหมครับ
-
รถพัง มันแรงไปครับ ผมว่ารถอายุและไมล์ขนาดนี้มันก็ต้องมีบ้างครับ ระบบไฟ หัวเทียน คอยด์มันก็เสื่อมเป็นธรรมดา ของอยู่กับความร้อนตาดูหูฟังก็ไม่ได้ ระบบไฟเป็นอะไรที่ไม่แน่นอนนึกจะเสียก็เสียดื้อๆ ของไม่มีไฟไม่มีแมคคานิคอย่าง ปลั๊ก ซอกเกต ต่อหัวเทียน คอยด์ มันยังกรอบแตกได้เลยทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ศูนย์เขาก็ดูเอาใจใส่ดีนะครับ
-
ความรู้สึกแบบนี้ผมก็เคยเจอครับ cx-3 รถ5ปีวิ่ง3หมื่นกว่าโล เข้าเชคระยะทั่วไปขับออกมาได้ซัก5กิโลไมล์ดิจิตอลเสีย ถ้าเปลี่ยนเลยยกชุด2หมื่นกว่า แต่ซ่อมข้างนอก3พัน เลยแกะซ่อมข้างนอกแทน ตอนแรกก็คิดโทษศูนย์บริการว่ารถเราใช้น้อยทำไมเสียง่ายจังรถพึ่งออกมาจากเชคระยะที่ศูนย์ขับไม่ถึง5กิโลไมล์เสียได้ไง
แต่ผ่านไปซักพักก็คิดเพื่อความสบายใจว่าอาจถึงระยะเสียพอดีก็ได้คิดแบบนี้ก็พอสบายใจขึ้นบ้างครับ :)
-
คอยล์มันมีอายุการใช้งานครับ สำหรับผมเคสนี้ผมยอมจ่ายนะ
และผมจะเปลี่ยนทั้ง 4 ตัวด้วย เพราะไหนๆทำแล้ว ก็เปลี่ยนยกชุดไปเลยครับ
-
คอยส์รั่ว เช็คง่ายนิดเดียวครับ (อู่เขาใช้ลดลวดเส้นเดียวเช็คก็รู้แล้ว)
ส่วนมันจะรั่ว หรือ เสียหาย จากการที่เอารถเข้าศูนย์ แล้วมีการถอดๆ ขยับๆ หรือ การทำงานของช่าง ก็เป็นไปได้
แต่ถ้ามันไม่ได้เสียหายชัดเจนจากการทำงาน(ซึ่งอาจจะมาจากการทำงานจริง เช่น ทำหล่น ทำตก) ถ้าไม่มีหลักฐาน หรือ พิสูจน์ไม่ได้ เขาก็ปัดความรับผิดชอบหมดแหละครับ
อาจจะเรียกว่า ซวย หรือ มันเสียหายเองตามอายุการใช้งาน ก็ว่าได้ครับ
ถ้าจะซ่อม หรือ เปลียน อาจจะมองอู่นอก หรือ จำเป็นต้องเปลี่ยนที่ศูนย์ ก็คงต้องเเปลี่ยนเปลี่ยน แหละครับ
-
B-Quik น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดครับ
-
ประเด็นอยู่ที่จ่าย 4,349 บาท แล้วเจ้าของโพสต์กลัวไม่จบหรือเปล่าครับ
ได้ลองต่อรองดูหรือยังว่าจ่าย 4,349 บาท ต้องจบครับ
-
อันนี้จากประสบการณ์ผมนะครับ ข้อแรกอาการที่ว่าน่าจะเป็นคอยจุดระเบิดเสียครับ มีไฟรั่วเกิดได้โดยใช้ไปนานๆยางหุ้มมันเสื่อมก็อาจจะแตกร้าวแล้วเกิดไฟรั่วตอนที่เราขับๆนี่แหล่ะครับ หรืออาจจะเกิดตอนที่เอารถเข้าอู่มีการถอดหรือขยับคอยจุดระเบิดแล้วยางที่กรอบอยู่แล้วมันแตกออกเมื่อใส่กลับไปมันก็ไฟรั่ว ถ้าเป็นกรณีนี้เราไม่ได้อยู่เห็นการซ่อมของช่างก็ทำให้เราสงสัยได้ครับว่าตอนเอาเข้าอู่ยังดีแต่ทำไมช่างแจ้งว่ามันเสีย หรือแม้แต่หลังออกจากอู่ไม่นานไฟมันรั่ว(ไม่รั่วตอนที่อยู่กับช่าง)มันก็ทำให้เราสงสัยได้ครับ
-
อีกประสบการณ์ที่เจอครับ กับรถเบนซ์ผมคือ วิ่งจากบ้านมาถึงอู่ไม่เป็นอะไรปกติดี เอาไปเช็คระยะ พอเอารถไปถึงอู่ผมดับเครื่องยนต์ เรียกช่างมารับรถ เมื่อช่างสตาร์ทรถเพื่อวิเคราะห์เบื้องต้นเพื่อรับรถเข้ารับ กลับสตาร์ทเท่าไหร่ก็ไม่ติด เช็คไปเช็คมาพบว่าปั๊มติ๊กตายเอาดื้อๆตอนนั้นเลยครับ ดีที่ผมอยู่กับช่างอยู่ ณ เวลานั้น คิดว่าถ้าตอนนั้นผมกลับบ้านไปแล้วช่างโทรมาแจ้งก็อาจชวนให้สงสัยได้ว่าทำไมขับไปดีๆ ช่างมาว่ารถผมเสียได้ไง ซึ่งสุดท้ายผลกลับคิดว่า "ดีนะมาเสียตอนที่ถึงอู่พอดีไม่งั้นต้องหารถลากมาเอารถเข้าอู่เสียงค่ารถลากอีก และมาเสียให้ช่างเห็นต่อหน้าเลยว่าเป็นอะไร ไม่ต้องมาให้ผมเล่าอาการแล้วประเมินปัญหาอีกที" อันนี้ฝากไว้ให้ลองพิจารณาดูครับ เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นได้ครับ เคสนี้ผมค่อนข้างเชื่อว่าเป็นความประจวบเหมาะพอดีครับ
-
แปดหมื่นโล ไม่เปลื่ยนวันนี้อีกสองหมื่นโลก็น่าเปลื่ยนยกชุดแล้วครับ
อย่าคิดมากเปลื่ยนไปเลย
-
ให้คิดซะว่า อาการเหมือนกับ เอารถขึ้นฮ้อย แล้วโช๊คอัพตาย(เสีย) ก็แล้วกันครับ
-
ผมขอถามเรื่องล้างห้องเครื่องครับ?
อันนี้ 0 เสนอมาหรือ จขกท. สั่งบอกให้ล้างครับ?
-
ผมมองว่า เค้าไม่ได้วางยาหรอก ของมันจะเสียอยู่แล้ว อาจจะเพราะไปล้างห้องเครื่อง เลยเร่งให้มันออกอาการเร็วขึ้น น่ะครับ
............
เหมือน case pulsar ผม
เอาไปเปลี่ยนปั๊มติ๊ก เพราะ รำคาญเกจ์น้ำมันขึ้นไม่ตรง (ลูกลอยติดปั๊มติ๊ก) เปลี่ยนเสร็จ สตาร์ทติด เดินเบาไม่เกิน 3 นาที รถดับ แล้วไม่ติดอีก เอาคอมจับ ปรากฎว่า ปั๊มแรงดันสูงเจ๊ง
ถามว่า ผมเอาเรื่องอู่ได้ไหม ? .. ก็ไม่ได้ เพราะตอนเค้าทำ ผมก็ยืนดูอยู่ เค้าไม่ได้ยุ่งอะไรกับปั๊มแรงดันสูง ไม่ได้สตาร์ทลากยาวอะไร .. แต่ถ้าคนอื่น อู่อาจจะต้องคุยกับลูกค้ายาวแน่ๆ ของราคา 2 หมื่นบาท พอดีผมยืนเฝ้า เลยโยนให้อู่ไม่ได้ 55+