Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: NNN111 ที่ สิงหาคม 21, 2022, 23:51:51
-
ถ้า Remap สัก 220-260 ม้า
ขับทางไกล 110-120 ไม่ได้เค้นเครื่อง จะกินน้ำมันพอๆกับรถเดิมๆ 178ม้ามั้ยครับ
-
เท่าที่ฟังจากของน้าแจ่ม เหมือนจะประหยัดขึ้นครับ
-
ถ้า Remap สัก 220-260 ม้า
ขับทางไกล 110-120 ไม่ได้เค้นเครื่อง จะกินน้ำมันพอๆกับรถเดิมๆ 178ม้ามั้ยครับ
น่าจะเทียบเคียงได้นะครับ
ผมfc rs รีแมพได้มา253ม้า
แรงบิด353
ขับเท่าเดิมกินเท่าเดิมเลยครับ
แต่ถ้าเท้าหนัก 7-8โลลิตรได้เห็นแน่ๆ
-
เครื่องรีแมพ คือรีดม้ามาไวกว่าเดิมปลดล็อกการเซฟเครื่องยนต์ ขับเรื่อยๆบางทีก็กินน้อยกว่า แต่เหยียบหนักๆแช่ๆ ก็ไม่รอดครับ และผลเสียคือเกียร์พังตามมา
-
การ remap ไม่ได้ ทำให้กินน้ำมันมากกว่าหรือน้อยกว่าเดิม
อยู่ที่ว่า map นั้นๆ ที่แต่ละช่าง แต่ละอู่ เขาทำเป็นแบบไหน
ถ้ารถเดิมๆ บางคนจะรู้ว่า map โรงงาน มันจะฉีดน้ำมันหนาไว้ เพื่อป้องกันหรือเซฟเครื่องยนต์
บางอู่ บางช่าง เขารู้ เขาก็จะเกลี่ยกราฟให้ดีๆ สวยๆ แล้ว มันจะใช้น้ำมันพอดีๆ น้ำมันทุกหยด เกิดประโยชน์สูงสุด และ ผลที่ได้คือ ประหยัดน้ำมันกว่ารถเดิมๆ โรงงาน (open loop บางท่านรู้อยู่แล้ว)
สุดท้าย จะจูนยังไง ให้ไปในทิศทางไหน มันอยู่ที่เงื่อนไขว่า
1. โจทย์ของเจ้าของรถ อยากได้อะไร แค่ขับสนุก หรือ มองตัวเลข(แรงม้า) เป็นหลัก
2. ของใส่ในรถ มีอะไรบ้าง
3. จูนเอาไว้คุย(บางคนเห็นตัวเลขบน dyno แต่วิ่งไม่ได้) หรือ เอาไว้วิ่ง(แช่ยาวๆ ได้ วิ่งใช้งาน)
ประมาณนี้ครับ
ปล. ม้า 200 กลางๆ เครื่องตัวนี้ ไปได้สบายมากครับ แต่ผมแนะนำให้เปลี่ยนกรอง กับ ท่อด้วยครับ มันจะรู้สึกว่ารอบกวาดไว มาไว กดเป็นมา
-
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบมากๆครับ
ส่วนตัวอยากได้ม้าเพิ่มไว้ขับสนุกๆ ไว้เร่งแซงบนทางด่วนครับ
ไม่ได้กดแช่ 200+ เน้นประหยัดเท่าเดิมๆเวลากด cruise ครับ
ถ้าตามโจทย์นี้ควร Remap ไปที่กี่ม้าดีครับ
แล้วเครื่องเกียร์จะไปไวกว่าเครื่องเดิมๆมากมั้ยครับ ต้องดูแลรักษาอะไรเพิ่มจากปรกติบ้างครับ
-
CR-V G3 2.0 แก่ๆ ไป remap มา
ถ้าขับเรื่อยๆ เลี้ยงรอบนิ่งๆ สังเกตว่า รถประหยัดน้ำมันกว่าเดิม ครับ
แต่ ..
ถ้าขับตามที่ remap มา กดพุ่ง เหยียบปรื๊ด ตามที่มันพุ่งขึ้น อันนี้ชัดเจนว่า กินจุขึ้น เอาเรื่องเหมือนกันครับ โดยเฉพาะ ถ้ารถติด เร่งๆ หยุดๆ นะ
-
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบมากๆครับ
ส่วนตัวอยากได้ม้าเพิ่มไว้ขับสนุกๆ ไว้เร่งแซงบนทางด่วนครับ
ไม่ได้กดแช่ 200+ เน้นประหยัดเท่าเดิมๆเวลากด cruise ครับ
ถ้าตามโจทย์นี้ควร Remap ไปที่กี่ม้าดีครับ
แล้วเครื่องเกียร์จะไปไวกว่าเครื่องเดิมๆมากมั้ยครับ ต้องดูแลรักษาอะไรเพิ่มจากปรกติบ้างครับ
ยังไงจูนE85ก้เร่งได้แรงกว่าอยู่แล้ว
ส่วนที่กลัวเครื่องเกียรพัง ผมว่าอยู่ที่การดูแล ใช้งานมากกว่า
แน่นอนว่ารถรีแมพย่อมสึกหรอมากกว่ารถเดิมๆ แนะนำน้ำมันเครื่องดีๆมันไม่พังง่ายๆหรอกครับอยู่ที่การดูแลของคุณมากกว่า
ง่ายๆไม่ต้องเครื่องเทอร์โบหรอกครับ รถเดิมๆสักแต่ใช้ไม่ดูแล ผมว่าพังเร็วกว่าอีก
-
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบมากๆครับ
ส่วนตัวอยากได้ม้าเพิ่มไว้ขับสนุกๆ ไว้เร่งแซงบนทางด่วนครับ
ไม่ได้กดแช่ 200+ เน้นประหยัดเท่าเดิมๆเวลากด cruise ครับ
ถ้าตามโจทย์นี้ควร Remap ไปที่กี่ม้าดีครับ
แล้วเครื่องเกียร์จะไปไวกว่าเครื่องเดิมๆมากมั้ยครับ ต้องดูแลรักษาอะไรเพิ่มจากปรกติบ้างครับ
ตอบจากที่ใช้รถ remap อยู่นะครับ (G30 520d) Remap แล้วไม่พังครับ ถ้าTunner ทำเป็น. วิธีการก็แบบที่ด้านบนบอกว่าทำยังไง. อยากแนะนำให้ไปหา Tunner ที่มีชื่อหน่อยนะครับ อย่าไปเอาใครก็ไม่รู้มาทำแบบเน้นถูก และต้องขึ้น dyno ด้วยนะครับ. ก่อนทำบอกไปเลยว่าเอาแบบไหน .
ส่วนเกียร์ CVT รุ่นนี้ อย่ากระทืบออก และหมั่นเปลี่ยนน้ำมันบ่อยๆครับ.
-
เพิ่มเติม
ผมใส่กล่องดันราง
ยกหัวฉีด วีโก้ตั้งแต่5หมื่นกว่าโล
จนตอนนี้ทะลุ2แสนโลไปแล้วก็ยังไม่มีอะไรพัง
ส่วนรถเพื่อนบ้านผมวีโก้เดิมๆ ใช้งายน้อยกว่าผม ออกมาพร้อมกัน ทุกวันนี้สตาทแทบไม่ติด ส่วนวีโก้ของผม สตาทที้เดียวติด แทบยังแรงเหมือนเดิม
ผมว่า สำคัญที่การดูแล
การรีแมพ มันไม่พังง่ายขนาดนั้นหรอกครับ
-
เพิ่มเติม
ผมใส่กล่องดันราง
ยกหัวฉีด วีโก้ตั้งแต่5หมื่นกว่าโล
จนตอนนี้ทะลุ2แสนโลไปแล้วก็ยังไม่มีอะไรพัง
ส่วนรถเพื่อนบ้านผมวีโก้เดิมๆ ใช้งายน้อยกว่าผม ออกมาพร้อมกัน ทุกวันนี้สตาทแทบไม่ติด ส่วนวีโก้ของผม สตาทที้เดียวติด แทบยังแรงเหมือนเดิม
ผมว่า สำคัญที่การดูแล
การรีแมพ มันไม่พังง่ายขนาดนั้นหรอกครับ
+1ครับ ดีแมคที่บ้านใส่กล่องมาแสนห้าหมื่นโลตอนหลังรีแมพเพิ่มบวกหัวฉีดโตไปด้วยยังวิ่งดีเครื่องเดินนิ่มปกติ แรงดีไม่มีตก บางคนบอกเดี๋ยวก็พัง แต่ถ้าดูแลดีๆไม่จูนหนักเกินไปทนแทบไม่ต่างกับรถสแตนดาร์ดครับ
-
เรื่องความทนทาน อย่าเพิ่งรีบบอกกันว่ารีแมพแล้วไม่พังครับ ก็เพราะเจ้าของรีแมพมาแล้วรู้ตัวเลยไม่เหยียบเต็มที่มันก็เลยไม่พังคาเท้าเห็นๆในช่วงอายุที่ตัวเองใช้งานเท่านั้นเอง รีแมพยังไงก็คือการฝืนค่ามาตรฐานที่ผู้ออกแบบมาให้เป็นค่ากลางจะพังช้าพังจะเร็วมันสึกหรอสูงกว่าปกติแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของรถจะไปเจอจุดนั้นไหม เจ้าของรถอู่รับจูนไม่ใช่วิศวะกลไกที่รู้กระทั่งสเป็คของวัสดุที่มาใช้รองรับแรงเสียดทานถึงพูดได้เต็มปากว่ารีแมพแล้วไม่พัง ในกลุ่มbmwที่ใช้เกียร์ฟันเฟืองยังพูดกันเลยว่าอยากแรงไปซื้อรุ่น 23 หรือ 30 มาใช้ ถ้าใช้ 20 แล้วอยากใช้รถปกติไม่มีปัญหาปงดหัวอย่าไปรีแมพ เฟืองรูด transmission fault สูบติด เจอกันมาเยอะแล้ว ปัญหาจากการรีแมพคนเจอเค้าก็ไม่ได้เล่าหมดครับ
อีโก้มันค้ำคอเล่าไม่ได้ รีแมพแล้วพังมีหมดทุกรุ่นทุกยี่ห้ออแหละอยู่ที่เค้าจะยอมเล่าไหม เอาแค่เรืองกรองเปลือยที่ชอบบอกกันว่าไม่มีอะไรใส่ๆไปเหอะน่ะเคยส่องดูลูกสูบกันบ้างไหมว่ามีลายไปเท่าไหร่แล้ว? เชื่อไม่เชื่อแล้วแต่ครับ ระวังไว้ปล้วกัน อย่าที่ความเห็นก่อนหน้าบอกเรื่องจูนยัฃมีจูนไว้โชไม่เหยียบเต็มที่ให้พังชัดๆเลย มันก็เกี่ยวกับการหมกเม็ดไม่บอกความจริงทั้งหมด ถ้าคิดจะรีแมพเตรียมเงินซ่อมไว้ด้วย
-
Mazda 2 Diesel ถอด EGR, DPF+Remap
ประหยัดกว่ารถเดิมทุกช่วงความเร็ว เร่งแซงดึงแบบสะใจมาก (รู้งี้ทำตั้งนานแล้ว)
-
+1 ตามที่คุณ2kกล่าวเลย 8)
ช่างไก่กามาจูนขับใช้ๆไปพัง วิ่งไปหาปิดร้านหนีหน้าตาเฉยก็มีนะเออ
ไม่แน่ใจว่าเกียร์cvtเจ้าfcมันรับแรงได้สูงสุดแค่ไหน
ปล.จริงๆอยากบอกว่า อยากได้รถแรง ก็ควรเก็บเงินซื้อรถแรง แต่ถ้าเป็นสายโมแต่งรถ
งบที่ซ่อมมันยังไงก็บานปลาย(ไม่นับบิ้วรถโมที่ไว้แข่งDRAGวันหยุดนะ อันนั้นจอดซะส่วนใหญ่)
-
คำตอบผมจะต่างจากของคนอื่น
ผมอยากให้ขับเดิม ๆ จนรู้ใจทะลุปรุโปร่ง และเริ่มเบื่อเสียก่อน
แล้วจึงค่อยไป Remap ครับ
ถ้าเพิ่งออกป้ายแดงมา แล้วรีบรีแมพ เพื่อเอาไว้คุยทับเพื่อนฝูงว่ารถกูตอนนี้ 250 ม้า
ผมไม่อยากให้ทำแบบนั้น เพราะคุณจะไม่รู้ว่ามันดีจากเดิมไปแค่ไหนครับ
ไม่ว่ารถจะแรงแค่ไหน ขับไปสักพักมันก็จะเบื่อ ถ้ารีบรีแมพตั้งแต่ป้ายแดง ขับปีเดียวเบื่อ
พอสเตปสองมันจะเริ่มพังรถแล้วล่ะครับ คุณอยากพังรถตั้งแต่ 2 ปีแรกไหมล่ะ?
-
เรื่องความทนทาน อย่าเพิ่งรีบบอกกันว่ารีแมพแล้วไม่พังครับ ก็เพราะเจ้าของรีแมพมาแล้วรู้ตัวเลยไม่เหยียบเต็มที่มันก็เลยไม่พังคาเท้าเห็นๆในช่วงอายุที่ตัวเองใช้งานเท่านั้นเอง รีแมพยังไงก็คือการฝืนค่ามาตรฐานที่ผู้ออกแบบมาให้เป็นค่ากลางจะพังช้าพังจะเร็วมันสึกหรอสูงกว่าปกติแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของรถจะไปเจอจุดนั้นไหม เจ้าของรถอู่รับจูนไม่ใช่วิศวะกลไกที่รู้กระทั่งสเป็คของวัสดุที่มาใช้รองรับแรงเสียดทานถึงพูดได้เต็มปากว่ารีแมพแล้วไม่พัง ในกลุ่มbmwที่ใช้เกียร์ฟันเฟืองยังพูดกันเลยว่าอยากแรงไปซื้อรุ่น 23 หรือ 30 มาใช้ ถ้าใช้ 20 แล้วอยากใช้รถปกติไม่มีปัญหาปงดหัวอย่าไปรีแมพ เฟืองรูด transmission fault สูบติด เจอกันมาเยอะแล้ว ปัญหาจากการรีแมพคนเจอเค้าก็ไม่ได้เล่าหมดครับ
อีโก้มันค้ำคอเล่าไม่ได้ รีแมพแล้วพังมีหมดทุกรุ่นทุกยี่ห้ออแหละอยู่ที่เค้าจะยอมเล่าไหม เอาแค่เรืองกรองเปลือยที่ชอบบอกกันว่าไม่มีอะไรใส่ๆไปเหอะน่ะเคยส่องดูลูกสูบกันบ้างไหมว่ามีลายไปเท่าไหร่แล้ว? เชื่อไม่เชื่อแล้วแต่ครับ ระวังไว้ปล้วกัน อย่าที่ความเห็นก่อนหน้าบอกเรื่องจูนยัฃมีจูนไว้โชไม่เหยียบเต็มที่ให้พังชัดๆเลย มันก็เกี่ยวกับการหมกเม็ดไม่บอกความจริงทั้งหมด ถ้าคิดจะรีแมพเตรียมเงินซ่อมไว้ด้วย
เห็นด้วยครับ
แล้วแต่รุ่นรถ บางคันมา under spec เลยจูนกันได้ตัวเลขดีและยังไม่พัง
รถส่วนใหญ่มาตามที่เคลม
ระบบขับเคลื่อนมีความสำคัญ
ถ้าเกียร์สับเองยังพออัพเกรดได้ไปเรื่อยฯตามกําลังรถที่จะเพิ่ม
แต่ถ้าเกียร์ Automaticใดฯ คงต้องพิจารณาให้ดีว่าสุดแค่ไหน
จะได้มี Balance อยู่ทนทั้งเครื่องและเกียร์
-
จากที่ผมใช้ เครื่องนี้ remap เหมือนกันแต่อยู่ใน Accord กินเท่ากันครับ ถ้าขับเหมือนกันไม่ต่าง ส่วนเรื่อง
แรงม้าดูดีๆนะครับ บางคันม้าเว่อวัง เกิดจากdyno & ฉีดน้ำ ภูมิใจได้ผลมา 250-260 ม้าที่ล้อ พอไปขึ้นที่อื่น
เหลือ 190-200 ม้ามีเยอะแยะครับ
-
จากที่ผมใช้ เครื่องนี้ remap เหมือนกันแต่อยู่ใน Accord กินเท่ากันครับ ถ้าขับเหมือนกันไม่ต่าง ส่วนเรื่อง
แรงม้าดูดีๆนะครับ บางคันม้าเว่อวัง เกิดจากdyno & ฉีดน้ำ ภูมิใจได้ผลมา 250-260 ม้าที่ล้อ พอไปขึ้นที่อื่น
เหลือ 190-200 ม้ามีเยอะแยะครับ
ตอนจูน ผ
รถผมไม่ได้ฉีดน้ำ ครับ
มีแต่เป่าพัดลม ตัวใหญ่ใส่เครื่อง
แต่ไม่รู้ว่า ไดโน่อ่อนไหม
ผม จูนและวัดแรงม้า ที่dyno
Stationครับ