Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: solo ที่ สิงหาคม 27, 2022, 11:46:15
-
เวปไซท์ Vi Bilägare นำรถรุ่นที่ใช้จอ touch screen แทนปุ่มธรรมดามาทดสอบผ่านการกดสั่งงานต่างๆ โดยเทียบกับ Volvo V70 ปี 2005
การทดสอบให้รถทุกคันขับที่ความเร็ว 110 กม./ชม. (68 ไมล์/ชม.) แล้วกดเปลี่ยนการทำงานต่างๆ เช่น เปลี่ยนคลื่นวิทยุ, ปรับแอร์ เป็นต้น จากนั้นจะวัดระยะเวลาที่ทำเสร็จ
Volvo V70 ทำได้ที่ 10 วินาที เป็นค่าอ้างอิงของรถปุ่มกดธรรมดา
ช้าสุด คือ MG Marvel R ใช้ไป 44.9 วินาที คิดเป็นระยะทาง 1.37 กม. ซึ่งมากกว่า 4 เท่าของ V70
รองลงมา คือ BMW iX รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ จอยาว ถึงแม้จะมีปุ่มเหลือให้กดอยู่บ้าง แต่ก็กินเวลาไปถึง 30.4 วินาที เพราะความยุ่งยากของไอคอนใน iDrive ซึ่งคิดเป็นระยะทางเกือบ 1 กม.ถึงจะกดเสร็จ
ในส่วนของรถ EV ยอดฮิตอย่าง Tesla Model 3 ใช้เวลาทั้งสิ้น 23.5 วินาที
เวลา และ ระยะทาง มีผลต่อความปลอดภัย ยิ่งใช้เวลามาก โอกาสเกิดอุบัติเหตุก็มากตามไปด้วย
รถที่ใช้ทดสอบมีดังนี้ :
BMW iX - 30.4 วินาที
Hyundai Ioniq 5 - 26.7 วินาที
Mercedes GLB - 20.2 วินาที
MG Marvel R - 44.9 วินาที
Subaru Outback - 19.4 วินาที
Tesla Model 3 - 23.5 วินาที
Volvo C40 - 13.7 วินาที
Volvo V70 (2005) - 10.0 วินาที
-
:'(
-
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ ยิ่งบางรุ่นที่ไม่มีปุ่มธรรมดา อะไรก็เอาไปไว้บนจอหมด แล้วไอคอนบนจอก็เล็กเหลือเกิน
นึกถึง Accord G8 รุ่นมี Navi สมัยออกใหม่คนบ่นว่าปุ่มเยอะลายตา พอใช้จนชินกลับใช้ง่าย คลำๆ เอากดได้แทบทุกอย่าง หรือเอาจริงพวก iDrive ปุ่มหมุนๆ เวลาขับไปใช้ไป ผมว่าปลอดภัยกว่าทัชสกรีนนะ
-
จริงครับ ไม่ต่างกับเล่นมือถือแล้วขับรถไปด้วย ที่เค้าห้ามไม่ให้ทำกัน แต่ผู้ผลิตรถดันทำสวนทางซะงั้น
-
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ ยิ่งบางรุ่นที่ไม่มีปุ่มธรรมดา อะไรก็เอาไปไว้บนจอหมด แล้วไอคอนบนจอก็เล็กเหลือเกิน
นึกถึง Accord G8 รุ่นมี Navi สมัยออกใหม่คนบ่นว่าปุ่มเยอะลายตา พอใช้จนชินกลับใช้ง่าย คลำๆ เอากดได้แทบทุกอย่าง หรือเอาจริงพวก iDrive ปุ่มหมุนๆ เวลาขับไปใช้ไป ผมว่าปลอดภัยกว่าทัชสกรีนนะ
ผมเปลี่ยนจาก g8 มา g10 ยังดีปุ่มแบบยังแยกและหมุนง่ายๆอยู่ ผมยังรู้สึกว่า g8 ใช้จนชินหน่อยนี่ หลับตากดยังได้เลย สบายสุดๆละ อีกตัวคือพวก mazda ออกแบบปุ่มมาไม่ทันสมัยมาก แต่ใช้งานโคตรง่าย
-
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ
-
เรื่องจริงเลยครับ
สมัยก่อนนี่ผู้ผลิตพยายามทำให้ละสายตาจากพื้นถนนให้น้อยที่สุด เอาปุ่มที่จำเป็นมาไว้บนพวงมาลัย ที่เหลือออกแบบให้กดง่ายๆโดยไม่ต้องมอง
เวลาผ่านไปดันเอาทุกอย่างไปไว้จอกลาง อยากทำอะไรต้องมองแล้วจิ้มเอา ปุ่มบนพวงมาลัยนี่แทบจะไว้เลื่อนดูเมนูขึ้นลงได้อย่างเดียว ต้องมองจออยู่ดี
-
ฟังชั่นบนพวงมาลัยก็มีครบดีนะ ผมไม่ติดขัดอะไร
-
เห็นด้วยเลยครับ
ใช้งานยาก เสียเวลา
จะจิ้มที เล็งตั้งนาน สุดท้ายเจอคลื่นถนนบ้านเรา มือเด้งจิ้มผิดทุกที
-
ส่วนของวิทยุ ผมไม่ค่อยมีปัญหา ส่วนใหญ่ฟังแต่ช่องที่เซพไว้ กับ CD/USB/AUX
แต่ระบบแอร์นี้ อยากให้แยกออกมาดีกว่า เคยใช้ รถที่ปรับบนจอทัช ลำบากชีวิตมาก บางรุ่นปรับความเย็นแอร์ปรับแรงลมเป็นแบบใช้นิ้วสไลด์เลื่อนอีก กว่าจะมอง กว่าจะจิ้มนิ้วโดน...
ยังอยากให้แยกระบบไปเลยมากกว่า แอร์ Unit นึง ตั้งค่ารถก็ที่ ODO Meter ส่วน Entertainment/Navigation ก็ไปจอใหญ่
-
ไม่เถียงครับ ยิ่งจออยู่ใต้ช่องแอร์แบบ civic fc / fortuner ยิ่งละสายตาลงมาจากถนนเยอะ ยิ่งอันตรายไปยิ่งกว่า
ยังดีที่รถรุ่นใหม่ๆเป็นจอลอยแล้ว เวลาตาไปโฟกัสจอ ยังเห็นถนนแบบลางๆบ้าง
-
Hrv ปุ่มสัมผัส ผมโดนประจำ พอมา civic fc จะเข้าโหมดต้องเปิดจอก่อน ยากไปอีก ชอบแบบหมุนๆมากกว่า
-
ใช่ครับมันใช้ยากมาก จะไปปรับแอร์ถ้าเป็นแบบหมุนนี่คลำหาง่ายมาก แต่ถ้าจอนั่นหรอครับ ต้องจอดก่อนและค่อยเข้าเมนู บ้าบอยุ่งยากกับแค่ปรับแอร์มาก คนที่คิดออกแบบเค้าคงไม่ค่อยขับรถเอง
Hrv ปุ่มสัมผัส ผมโดนประจำ พอมา civic fc จะเข้าโหมดต้องเปิดจอก่อน ยากไปอีก ชอบแบบหมุนๆมากกว่า
ผมก็ว่าแบบหมุนๆใช้ง่ายครับเรื่องจริงเลยครับ
สมัยก่อนนี่ผู้ผลิตพยายามทำให้ละสายตาจากพื้นถนนให้น้อยที่สุด เอาปุ่มที่จำเป็นมาไว้บนพวงมาลัย ที่เหลือออกแบบให้กดง่ายๆโดยไม่ต้องมอง
เวลาผ่านไปดันเอาทุกอย่างไปไว้จอกลาง อยากทำอะไรต้องมองแล้วจิ้มเอา ปุ่มบนพวงมาลัยนี่แทบจะไว้เลื่อนดูเมนูขึ้นลงได้อย่างเดียว ต้องมองจออยู่ดี
ใช่ครับ อันตรานมากๆๆ
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ ยิ่งบางรุ่นที่ไม่มีปุ่มธรรมดา อะไรก็เอาไปไว้บนจอหมด แล้วไอคอนบนจอก็เล็กเหลือเกิน
นึกถึง Accord G8 รุ่นมี Navi สมัยออกใหม่คนบ่นว่าปุ่มเยอะลายตา พอใช้จนชินกลับใช้ง่าย คลำๆ เอากดได้แทบทุกอย่าง หรือเอาจริงพวก iDrive ปุ่มหมุนๆ เวลาขับไปใช้ไป ผมว่าปลอดภัยกว่าทัชสกรีนนะ
ทัชสกรีนมันคลำลำบากครับ เกลียดมากเลย
-
ผมเห็นด้วยนะครับ
จอต่างๆ ผมว่าหน้าที่มันคือ แสดงผล มากกว่า การจิ้มใช้งาน กรณีกับรถยนต์ เพราะสายตาต้องมองถนนอยู่ ไม่ใช่มือถือ
จะมีจอใหญ่ จอเล็ก ผมว่าไม่ว่า ผมก็ชอบ อยากได้ ให้มี
แต่พวกปุ่ม primary selected ต่างๆ เช่น ไฟฉุกเฉิน แอร์(ปรับที่พวงมาลัยได้ เฉพาะ เพิ่มลดอุณหภูมิ) วิทยุ(ปรับที่พวงมาลัยได้) และปุ่มช่วยเหลือต่างๆ พวกนี้มันใช้งานบ่อย มันควรจะเป็นปุ่มที่ลูบๆ คลำๆ หรือ ใช้ความรู้สึก ในการกดใช้งาน มากกว่า ต้องไปมองหา เข้าเมนู หรือ ปุ่มบนจอ ก็กดยากซะเหลือเกิน
-
ทดสอบอย่างไร อ้างอิงจากไหนครับ
แต่ผมก็เห็นด้วยนะ ชอบปุ่มๆมากกว่ากดจอ
-
จอสัมผัส ถ้ามันแม่นๆ กดปุ๊บโดนปั๊บ แบบจอมือถือมันก็จะน่าใช้มากเลยนะ ..
แต่ที่เห็นส่วนใหญ่รถแพงๆก็ยังต้องรอประมวลผล 1-2วิอะ
แบบปุ่มมันไม่ต้องประมวลผล กดปุ๊บทำงานเลยมันก็เร็วกว่าแหละ
ลองให้หน้าจอประมวลผลด้วย snapdragon 888 และหน้าจอสัมผัสไวระดับ Iphone สิ มันจะน่าใช้กว่าปุ่มกดเยอะ
-
จอสัมผัส ถ้ามันแม่นๆ กดปุ๊บโดนปั๊บ แบบจอมือถือมันก็จะน่าใช้รก็ตมากเลยนะ ..
ฉุ
แต่ที่เห็นส่วนใหญ่รถแพงๆก็ยังต้องรอประมวลผล 1-2วิอะ
แบบปุ่มมันไม่ต้องประมวลผล กดปุ๊บทำงานเลยมันก็เร็วกว่าแหละ
ลองให้หน้าจอประมวลผลด้วย snapdragon 888 และหน้าจอสัมผัสไวระดับ Iphone สิ มันจะน่าใช้กว่าปุ่มกดเยอะ
ระบบหลายอย่างมันใช้แทนปุ่มไม่ได้ครับแม้จะลื่นไวอะไรก็ตามแต่มันไม่สะดวก เช่นปุ่มแอร์ ไฟฉุกเฉิน โหมดการขับขี่ โหมดขับ4 สมมติจอพังมาขับไม่ได้ ใช้งานอะไรไม่ได้ครับ ผมไม่สนความล้ำครับ สนใช้งานจริงแล้วปลอดภัยสะดวกต่อการใช้งานครับ ปุ่มหมุนๆ บิดๆ กดๆมันเป็นมิตรต่อคนทั่วไปมากกว่า
ผมเห็นด้วยนะครับ
จอต่างๆ ผมว่าหน้าที่มันคือ แสดงผล มากกว่า การจิ้มใช้งาน กรณีกับรถยนต์ เพราะสายตาต้องมองถนนอยู่ ไม่ใช่มือถือ
จะมีจอใหญ่ จอเล็ก ผมว่าไม่ว่า ผมก็ชอบ อยากได้ ให้มี
แต่พวกปุ่ม primary selected ต่างๆ เช่น ไฟฉุกเฉิน แอร์(ปรับที่พวงมาลัยได้ เฉพาะ เพิ่มลดอุณหภูมิ) วิทยุ(ปรับที่พวงมาลัยได้) และปุ่มช่วยเหลือต่างๆ พวกนี้มันใช้งานบ่อย มันควรจะเป็นปุ่มที่ลูบๆ คลำๆ หรือ ใช้ความรู้สึก ในการกดใช้งาน มากกว่า ต้องไปมองหา เข้าเมนู หรือ ปุ่มบนจอ ก็กดยากซะเหลือเกิน
ใช่ครับ ปุ่มที่จำเป็นใช้ยัดจอเกลี้ยงเลย รถรุ่นไหนยัดใสจอจนไม่ปุ่มให้ใช้งานผมไม่ซื้อแน่นอนครับ
-
จอสัมผัสขนาดใหญ่อันนี้ไม่ว่า แต่อย่างน้อยขอปุ่มพื้นฐาน ใส่อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานได้ง่ายและใช้สายตาน้อยที่สุดยิ่งดี บางรุ่นออกมาใช้บ่อยๆ แทบไม่ต้องมองไปที่คอนโทรลรถเลย
-
จอสัมผัส ถ้ามันแม่นๆ กดปุ๊บโดนปั๊บ แบบจอมือถือมันก็จะน่าใช้มากเลยนะ ..
แต่ที่เห็นส่วนใหญ่รถแพงๆก็ยังต้องรอประมวลผล 1-2วิอะ
แบบปุ่มมันไม่ต้องประมวลผล กดปุ๊บทำงานเลยมันก็เร็วกว่าแหละ
ลองให้หน้าจอประมวลผลด้วย snapdragon 888 และหน้าจอสัมผัสไวระดับ Iphone สิ มันจะน่าใช้กว่าปุ่มกดเยอะ
https://www.headlightmag.com/news-it-is-easier-to-control-in-car-system-via-physical-buttons/
-
น่าจะเน้นสั่งงานด้วยเสียงมั้งครับ ถ้าทำระบบสั่งงานด้วยเสียงให้เก่งและแม่นยำกว่านี้ ปุ่มควบคุมก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป
-
5555 .... จะมีบ.รถไหนสำเหนียกบ้างมั้ยครับ
หรือจะยังดันทุรังแข่งกันไฮเทคหรูหราหมาเห่ากันต่อไป ผู้ใช้จะใช้ยากช่างมัน เป็นหน้าที่ของ user ที่ต้องปรับตัว
ปล.เมื่อวานขับรถกลับบ้าน พอถึงบ้านจอกลางเอ๋อมืดไปดื้อๆ จะถอยรถเข้าโรงรถกล้องหลังก็ไม่ติด หงุดหงิดมากครับเพราะผมจะถอยรถจนชิดเพื่อให้พื้นที่เหลือเยอะๆ ยังดีที่สตาร์ทใหม่แล้วหาย
-
เครื่องบินโดยสารยังใช้ระบบ กด บิด โยก ผลัก ดันอยู่เลยครับ
จอที่สัมผัสได้ ก็เอาไว้ดูและตั้งเส้นทางการบินอย่างเดียว แถมก็ยังมีระบบกดอยู่ข้างจอด้วย
-
5555 .... จะมีบ.รถไหนสำเหนียกบ้างมั้ยครับ
หรือจะยังดันทุรังแข่งกันไฮเทคหรูหราหมาเห่ากันต่อไป ผู้ใช้จะใช้ยากช่างมัน เป็นหน้าที่ของ user ที่ต้องปรับตัว
ปล.เมื่อวานขับรถกลับบ้าน พอถึงบ้านจอกลางเอ๋อมืดไปดื้อๆ จะถอยรถเข้าโรงรถกล้องหลังก็ไม่ติด หงุดหงิดมากครับเพราะผมจะถอยรถจนชิดเพื่อให้พื้นที่เหลือเยอะๆ ยังดีที่สตาร์ทใหม่แล้วหาย
ปุ่มๆนี่มันต้นทุนสูงกว่าจอมั้ยครับ หลายเจ้าจึงดันinterface แบบจอล้วนจังครับ คงสยองน่าตอนถ้ามันพังมาและต้องมาเห็นค่าอะไหบ่
-
5555 .... จะมีบ.รถไหนสำเหนียกบ้างมั้ยครับ
หรือจะยังดันทุรังแข่งกันไฮเทคหรูหราหมาเห่ากันต่อไป ผู้ใช้จะใช้ยากช่างมัน เป็นหน้าที่ของ user ที่ต้องปรับตัว
ปล.เมื่อวานขับรถกลับบ้าน พอถึงบ้านจอกลางเอ๋อมืดไปดื้อๆ จะถอยรถเข้าโรงรถกล้องหลังก็ไม่ติด หงุดหงิดมากครับเพราะผมจะถอยรถจนชิดเพื่อให้พื้นที่เหลือเยอะๆ ยังดีที่สตาร์ทใหม่แล้วหาย
เอาจริงๆคิดว่าต้นทุนการรวมทุกอย่างไว้ในจอ แล้วทำจอใหญ่ๆ น่าจะถูกกว่าแยกระบบแอร์ออกมาจากจอเสียอีก Interface เขียน software ปรับได้ทำได้หลายอย่าง
มุมนึงมันก็ดูไฮเทคดีแหละ ถ้าใช้4-5ปี เปลี่ยนรถคงโอเค แต่ถ้าใช้ยาว อะไรเสียนิดนึงคงต้องเปลี่ยนกันยกจอ จะถอดจอเดิมออกใส่ Front android/2din ก็คงไมไ่ด้อีก
ส่วนตัวคิดว่าการยัดจอใหญ่ๆใส่มาคุมทุกอย่างมัน ดูมักง่ายเหมือนเอาจอไปแปะคอนโซลนั้นแหละ เอาง่ายเข้าว่าขาดความละเอียดขาดความปราณีตในการออกแบบ
หรีอผมแก่แล้วก็ไม่รู้
-
อุบัติเหตุเกิดจากการละสายตาเล่นมือถือได้
การเอาทุกอย่างใส่จอกลาง ก้อน่าจะให้ผลเสียที่ไม่ต่างกัน
คิดๆไปก็แปลก บอกคนขับรถอย่าเล่นมือถือ ไม่ดีโน่นนี่ แต่ให้รถมีจอใหญ่ไว้ให้คนขับต้องละสายตาจากถนนเหมือนกันนะ
-
5555 .... จะมีบ.รถไหนสำเหนียกบ้างมั้ยครับ
หรือจะยังดันทุรังแข่งกันไฮเทคหรูหราหมาเห่ากันต่อไป ผู้ใช้จะใช้ยากช่างมัน เป็นหน้าที่ของ user ที่ต้องปรับตัว
ปล.เมื่อวานขับรถกลับบ้าน พอถึงบ้านจอกลางเอ๋อมืดไปดื้อๆ จะถอยรถเข้าโรงรถกล้องหลังก็ไม่ติด หงุดหงิดมากครับเพราะผมจะถอยรถจนชิดเพื่อให้พื้นที่เหลือเยอะๆ ยังดีที่สตาร์ทใหม่แล้วหาย
เอาจริงๆคิดว่าต้นทุนการรวมทุกอย่างไว้ในจอ แล้วทำจอใหญ่ๆ น่าจะถูกกว่าแยกระบบแอร์ออกมาจากจอเสียอีก Interface เขียน software ปรับได้ทำได้หลายอย่าง
มุมนึงมันก็ดูไฮเทคดีแหละ ถ้าใช้4-5ปี เปลี่ยนรถคงโอเค แต่ถ้าใช้ยาว อะไรเสียนิดนึงคงต้องเปลี่ยนกันยกจอ จะถอดจอเดิมออกใส่ Front android/2din ก็คงไมไ่ด้อีก
ส่วนตัวคิดว่าการยัดจอใหญ่ๆใส่มาคุมทุกอย่างมัน ดูมักง่ายเหมือนเอาจอไปแปะคอนโซลนั้นแหละ เอาง่ายเข้าว่าขาดความละเอียดขาดความปราณีตในการออกแบบ
หรีอผมแก่แล้วก็ไม่รู้
เห็นด้วยทุกประการครับ
การออกแบบปุ่มให้ได้ดีนั้น ละเอียดอ่อนมาก เดี๋ยวนี้แม้แต่ปุ่มก็ออกแบบกันมันง่ายมาขึ้นเยอะ ... นี่ผมใช้ Camry ใหม่มาปีนึง ยังไม่คุ้นกับปุ่มเลย เพราะเล่นทำมาเรียบเสมอกันหมด แล้วเอาของไม่เกี่ยวกันไปไว้ไว้ด้วยกันมั่วไปหมด
แล้วอีกเรื่องคือด้วยความคล่องตัวของการออกแบบ แบบจอน่าจะออกให้ Intuitive ได้ดี แต่หลายรุ่นก็มีโครงสร้างเมนูมึนๆ ใช้งานยากเสียเหลือเกิน
-
Totally agree
-
มันไม่ clean look ไงครับ 5555
แต่ขับจริง ก็คือ อ่ะหื้ออ
ชอบ bmw ที่สุดแล้วในเรื่องนี้ เกือบทุกรุ่นมีปุ่นมาแบบไม่กั๊ก ปรับอุณหูมิ บิดแยก ปรับพัดลม ปุ่มแยก volume เครื่องเสียง ปุ่ม mute แยก
อยากไล่สถานี เอามือลูบไม่ต้องกด ก็มี pop up ว่านิ้วอยู่ช่องไหน
ปล แต่เห็น series 3 lci เวอร์ชั่นจีน ตัดแผง climate ออกแล้ว เหลือบนจอ ไม่น่าเล้ยย
-
เป็นปัญหาใหญ่เลยครับ
-
ผมใช้ Mazda ผมว่าสะดวกดี และระดับสายตายังคงมองเห็นด้านหน้าได้
พอใช้จนชินแล้วแทบไม่เป็นปัญหา เพราะส่วนใหญ่ที่ต้องละสายตาคือ Navi กับเปลี่ยน Folder เพลง
ส่วนเพลงจาก youtube อันนี้ละสายตานานกว่ามากกกกก
-
พอจุดนึงที่รถมันถูกให้ความสำคัญด้านคงามทันสมัยและต้นทุนต่ำ มากกว่าจะให้ความสำคัญด้านความสะดวกสบายและความปลอดภัย
ผลมันก็จะออกมาเป็นแบบนี้นี่แหละครับ
ถ้าทำเป็น Cursor ปุ่มหมุนหรือ Touchpad เป็นเหมือนเมาส์คุมใกล้มือ อันนี้ผมยังพออลุ่มอล่วยได้
แต่ถึงขั้นเอาแอร์ไปไว้ในจอหมดแบบ Ora Good Cat หรือ Auto Hold ไว้ในจอแบบ Ford Next Gen อันนี้ผมถือว่าวิศวกรคนออกแบบและอนุมัติคือโง่มากจริงๆ
-
ผมก็ไม่ชอบจอแบบรวมระบบครับและไมล์แบบ Full digital ด้วย
Taycan Panamera แค่จะปรับทิศทางช่องลมต้องปรับผ่านจอดูยุ่งยากมากครับ รายละเอียดเล็กๆน้อยๆมันแสดงถึงการใส่ใจการออกแบบ เช่น ปุ่ม volume บนพวงมาลัย Civic Fc ล๊อตแรกแบบสัมผัสถ้ามือพลาดไปถูก็เสียงลั่นกันเลยต้องเปลี่ยนกลับมาแบบปุ่ม ลูกบิดที่ปรับระดับบิดแล้วลื่นฟรีหรือมีจังหวะคลิกให้รู้ระดับได้เลยโดยไม่ต้องมอง
-
รู้สึกไม่ชอบเหมือนกันครับ มันเล็งยาก ไอค่อนก็เล็ก แล้วไหนจะถนนเมืองไทยเป็นหลุมบ่ออีก
ชอบแบบปุ่มมากกว่าครับ แต่แบบเรียงๆๆๆๆ กันแบบ D-Max ก็ไม่ชอบนะ
มันต้องละสายตามาดูอยู่ดี เพราะปุ่มมันเหมือนกันไปหมด
อยากให้แต่ละปุ่มมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวเลย มันง่ายกับการปรับ
-
ปุ่ม ดีกว่าเยอะจริงๆ ครับ ใช้เวลาไม่นานก็ชินกับการใช้งาน ไม่ต้องหันมามองด้วย
-
ที่ชัดเจนมากๆก็ แอร์ เดี๋ยวนี้ต้องมากดปุ่มจากจอ วุ่นวายดีแท้ครับ ;D
-
สิ่งที่ไม่ควรเป็นระบบสัมผัสหรือแม้แต่ปุ่มกดเลยสำหรับผมคือ การเร่ง/ลดความเย็นแอร์ กับ เร่ง/ลดความแรงลมแอร์ครับ มันควรจะเป็นแบบลูกบิดเอา เวลาขับๆอยู่อยากปรับก็แค่คลำเอาไม่ต้องละสายตาลงมามองว่าอยู่ตรงไหนครับ