Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: shando ที่ สิงหาคม 28, 2022, 16:42:53
-
ใครเคยใช้ทั้งสองระบบบ้างครับ ที่ผมใช้มาพบว่าgoogle mapในandroid autoใช้ยากกว่าในapple carplayมากๆ
ในapple carplay คุณสามารถเปิดgoogle mapในมือถือได้ พิมพ์ค้นหาสถานที่ได้ ลากแผนที่แล้วจิ้มหาสถานที่ที่ต้องการเอาก็ได้ ทุกอย่างทำได้จากมือถือ แล้วถ้ากดเริ่มเข้าโหมดนำทางมันก็จะsyncกับจอรถให้เอง
ในขณะที่android auto ถ้ามือถือต่อกับรถเมื่อไหร่คุณจะเปิดgoogle mapในมือถือไม่ได้เลย ต้องดูจากจอรถอย่างเดียว แล้วถ้าจอรถคุณไม่ใช่touchscreenเวลาคุณจะใช้google mapนำทางจะต้อง
1.หมุนเลือกแถบseachในgoogle mapบนจอรถ
2.หมุนเลือกใช้มือถือเป็นkeybordถ้าไม่อยากมาหมุนเลือกตัวอักษรทีละตัว
3.พิมพ์ชื่อสถานที่ในมือถือ
4.มองดูจอรถว่าชื่อสถานที่ที่คุณต้องการขึ้นมารึยัง เพราะมือถือทำหน้าที่เป็นkeyboardอย่างเดียวอารมณ์เหมือนPCที่มีkeybordแยก แต่เป็นkeyboardที่คุณพิมพ์สัมผัสไม่ได้
5.กดปิดkeyboard
6.เลือกสถานที่ที่ต้องการจะไป แล้วกดนำทาง
ซึ่งมันยุ่งยากซับซ้อนกว่าตอนใช้carplayมากๆ แล้วถ้าคุณอยากจะลากแผนที่ดูสถานที่รอบๆนี่ก็ทำไม่ได้ ต้องพิมพ์หาเอาอย่างเดียว
ทุกวันนี้ผมต้องวางแผน searchหาสถานที่ในมือถือให้เรียบร้อยก่อนขึ้นรถทุกครั้งให้มันอยู่ในhistory แต่ถ้าลืมหรือต้องหาสถานที่ใหม่ที่ไม่มีในhistoryนี่แทบอยากจอดดับเครื่อง
ผมเลยสงสัยว่าทำไมเค้าต้องทำให้google map เปิดในมือถือไม่ได้ถ้าต่อandroid autoอยู่ ทำไมไม่ทำให้มันเหมือนของapple carplayจะได้ใช้ง่ายๆครับ
-
Android Auto ปกติถ้าจะเลือกสถานที่หรือค้นหาสถานที่ ผมใช้วิธีพูดเอาเลยง่ายกว่า ไม่ต้องกดพิมพ์
หรือบางทีก็พูด "นำทางไปที่ทำงาน" แค่นั้นเลย
ส่วนระบบสั่งงานด้วยเสียงใน Apple CarPlay รู้สึกว่ามันโง่เกินและไร้ประโยชน์
-
เป็นครับ แล้วผมก็ขายมือถือ Android ทิ้งหมด ใช้แต่ iOS เวลา Search หา กดในมือถือเร็วกว่าเยอะ
-
จริงครับ แต่ก็ชินแล้ว ค้นหาใช้เสียงเอาครับ แต่ลูกเล่นอื่นไม่ได้ใช้ครับ ถือว่ายอมรับได้ จอทัชจะสะดวกหน่อย
-
ปกติใช้เสียงเอาครับ
แต่ที่ผมใช้ก็กดในมือถือได้ปกตินี่ครับ andriod auto รันปล้วก็ยังกดมือถือได้ปกตินะครับ google mapก็กดใช้ได้ปกติเหมือนเดิม?????
ส่วนiphoneไม่เคยใช้เลยไม่รู้มันดีกว่ายังไง ipadผมยังวางทิ้งไว้เฉยๆอันเลย ไม่ถนัดiosครับ
-
Android Auto เน้นการใช้ Google Assistant ที่ภูมิใจนำเสนอ มากกว่าการจิ้มจอครับ
และสามารถพูดสั่งได้เป็นธรรมชาติและดีกว่าการพูดสั่งใน Google Maps หรือการใช้ Siri ใน Apple CarPlay เยอะครับ
อยากให้ลองพูดกับมันดูครับ ผมล่ะติดใจ AA ตรงนี้ จนอยากหามือถือ Android มาใช้กับรถเลย
-
มันบังคับไม่ให้ไปยุ่งกับจอ ให้ใช้เสียงแทน
-
อ้าว apple มันทำแบบนี้ได้เหรอเนี่ย
ผมก็เบื่อเหมือนกัน จะไปที่ไหนแปลกๆต้อง ดึงสายออกก่อนกดๆหาในมือถือก่อนให้มันขึ้นประวัติค้นหาไว้แล้วค่อยเสียบพอขึ้นandroid autoแล้วกดที่จออีกที
ระบบสั่งเสียงก็ไม่เคยที่จะแม่นหรือหาเจอเลย พูดย้ำๆชัดๆฟังเป็นอะไรก็ไม่รู้
ไปซื้อiminiมือสองถูกๆมาเล่นดีกว่างั้น
-
อ้าว apple มันทำแบบนี้ได้เหรอเนี่ย
ผมก็เบื่อเหมือนกัน จะไปที่ไหนแปลกๆต้อง ดึงสายออกก่อนกดๆหาในมือถือก่อนให้มันขึ้นประวัติค้นหาไว้แล้วค่อยเสียบพอขึ้นandroid autoแล้วกดที่จออีกที
ระบบสั่งเสียงก็ไม่เคยที่จะแม่นหรือหาเจอเลย พูดย้ำๆชัดๆฟังเป็นอะไรก็ไม่รู้
ไปซื้อiminiมือสองถูกๆมาเล่นดีกว่างั้น
5555 เหมือนผมเลยครับเมื่อก่อน ต้องกดก่อนแล้วค่อยเสียบสาย อย่างเซ็ง ระบบสั่งด้วยเสียงก็ง่อยมากๆ หาไม่เคยตรงกับที่อยากจะไปเลยซักครั้งเดียว แนะนำลองหา iOS ถูกๆมาซักตัวครับ ของผม iPhone6s ก็ยังใช้ได้นะ แต่จะหน่วงๆหน่อยเครื่องมันเก่ามากแล้ว แต่ก็ยังใช้สะดวกกว่า Android Auto ครับ
-
IOS มันใช ้Google map เหรอครับ ผมนึกว่ามันใช้แผนที่ MAP ของ IOS อะงง
ส่วน oogle mapในandroid ผมไม่มีปัญหาเพราะ ยังไง จะใช้ก็ควรเป็น จอ ทัชสกรีน และกดบนจอเอา
เวลาค้นหา ก็ สั่งเสียงได้
ตกลงปัญหาผมว่า เครื่องเสียงมันกากมากกว่าครับ ที่กด ทัชสกีนไม่ได้ และ ไม่มี มัลติฟังชั่น
-
ผมพกมือถือสองเครื่อง ใช้ทั้งสองระบบนะครับ
เรื่องค้นหาผมกลับชอบ AA มากกว่า เพราะกดไมค์แล้วพูดสถานที่ได้เลย
แต่ iOS ต้องพิมพ์เอา ข้อดีข้อเสียต่างกัน
-
ผมก็ใช้เสียงเอาเหมือนกันครับ
พอปรับตัวแล้วก็สะดวกพอได้อยู่
-
ลองใช้เวลาว่างให้ Android Auto ดูสักวันน่ะครับ ที่กล่าวมาคงไม่ใช้ปัญหาแล้ว
มันทำอะไรได้เยอะมาก แผนที่ตามที่คุณกล่าวมาคงไม่ใช้ปํญหาแล้ว
ผมใช้อยู่มันสะดวกกว่ามานั่งจิ้มในมือถือเยอะมาก
-
android เนี่ยถ้าไปสถานที่ใหญ่ๆเช่นห้าง หรือสถานที่สำคัญ แค่กดพูดเจอเลยครับ โคตรง่าย ไม่ต้องมาจิ้ม แค่พูดว่า"ไปเซ็นทรัลลาดพร้าว" จบเลย
ส่วนไปที่อื่น ก็แค่จอดรถ เลือกสถานที่จากมือถือให้เสร็จ กดนำทางมันก็เด้งขึ้นจอแล้วนะ
มันยากตรงไหนอะ
-
คำตอบง่ายๆ คือ ถ้าคุณใช้มือถือ Android ลองใช่ฟังก์ชั่น ที่เรียกว่า "สั่งงานด้วยเสียง" ดูนะครับ
ทำไมถึงต้องพิมพ์ หรือ ใช้ keyboard ละครับ
ผมใช้ทั้ง IOS และ Android ไม่เคยมีปัญหา เพราะปกติ ถ้าต่อ Apple CarPlay หรือ Android Auto ผมก็จะไม่ยุ่งกับโทรศัพย์อยู่แล้ว
ผมกลับมองในแง่ดี ที่ เวลาต่อโทรศัพย์เข้า Android Auto แล้ว คุณจะทำอะไรกับโทรศัพย์ไม่ได้ มันเป็นเรื่องความปลอดภัย เหมือนกันนะ มองในมุมนี้ได้ครับ
ปล.หลักๆ ผมก็ใช้ IOS เพราะมันเป็นเครื่องหลัก
-
ปกติจะใช้จอแอนดรอยด์เลยไม่ค่อยมีปัญหา
แต่เวลาใช้รถพ่อ หรือใช้รถภรรยา แล้วต้องเดินทางไกล ก็จะมีปัญหาเหมือนที่คุณว่ามาแหละครับ
แต่จะแก้ปัญหาด้วยที่ติดโทรศัพท์แล้วใช้โทรศัพท์เครื่องเก่าเป็นแผนที่ไปด้วยเลย
เวลาผมกลับจากทำงานที่รีสอร์ทตรงมวกเหล็ก ขาเข้ากรุงเทพจะมี 2 ทาง ถ้าตามที่แผนที่แนะนำ กว่าจะรู้ว่าต้องเข้าทางบางปะอินหรือวิ่งตรงมาทางวิภา ก็ใกล้ๆแล้ว ถ้าย่อดู ก็จะเห็นก่อน
ยิ่งช่วงไหนมีบอลที่เมืองทอง ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ
-
ดีกันคนละอย่างครับ
Carplay ใช่ครับ กดจากมือถือได้เลย อันนี้ดี สำหรับรถเป็น wide screen Carplay แสดงผลได้เต็มจอเต็มตาดี แบ่งหน้าจอได้ดีกว่า มีกรอบแผนที่ กรอบมีเดีย กรอบนำทาง ถึงขนาด google จะก้อปไปใส่ใน Coolwalk (คอยนานแล้ว เมื่อไหร่มันจะออกนี่มันจะหมด summer แล้ว) แล้วเหมือนๆเวลาสตรีมมิ่งเพลงนี่เสียงดีกว่าด้วย แต่พอถึงระบบประมวลผลการนำทาง Carplay นี่อย่างห่วยเลย กดดูเส้นทางก็ดูแบบงงๆ ไม่รู้ว่าทางไหนเร็วกว่า อัพเดตเส้นทางเมื่อมีทางที่เร็วกว่า (หรือทางที่เลือกไว้มี accident หลังจากเริ่มนำทาง) อันนี้ยังสู้ AA ไม่ได้ แค่กราฟฟิกสวยอย่างเดียว รายละเอียดแผนที่ก็ดูไม่ได้ รถถ้ามีระบบ HUD ใช้ Carplay ไม่ขี้นลูกศรบนกระจก สั่งหาจดุหมาย AA ดีกว่าเยอะเลย
อีกวิธีนึงที่ใช้ ถ้ามีมือถือสองเครื่อง เวลา login เข้า Google map ให้ใช้ account เดียวกัน เครื่องต่อ AA กับรถอยู่ก็ปล่อยมัน เวลาหา กดบนมือถืออีกเครื่อง กดนำทาง Google map มันจะ Sync ประวัติอัตโนมัติ (แต่บางทีอาจมีช้าบ้าง) แล้วกดดูบน AA จะเห็นจุดหมายที่เราพึ่งป้อนเข้าไป
อ้อ บน desktop screen (ไม่รู้เรียกถูกป่าว จอของ Carplay ที่แบ่งเป็นหลายๆ windows) แผนที่ที่เป็น google map ขึ้นได้ตั้งแต่ iphone 12 (หรือ 11 เพราะไม่มี ip11 ให้ลอง) ลองทั้ง SE และ ip10 ไม่ขึ้นซักตัว
ผมมีรถคันนึง ไม่ใช่จอสัมผัส แต่มีปุ่มหมุนแถวๆคอนโซลกลาง มี touch pad ที่พวงมาลัย AA ใช้ได้เฉพาะกับปุ่มหมุน พอเป็น Carplay ต้อง touchpad สองค่ายนี้มันคนละคอนเซปจริงๆ ถ้าต่อแบบ wireless นี่ Carplay เหมือนกับเสถียรกว่า อันนี้ไม่เฟิร์มเพราะลองคันเดียว
ใครใช้สลับกันแบบต่อสาย หาสาย data (ย้ำ data ไม่ใช่สายชาร์จ) ที่มีทั้งหัว USB-C และ Ligthning มาใช้ก็สดวกดีนะ
-
Android Auto เน้นการใช้ Google Assistant ที่ภูมิใจนำเสนอ มากกว่าการจิ้มจอครับ
และสามารถพูดสั่งได้เป็นธรรมชาติและดีกว่าการพูดสั่งใน Google Maps หรือการใช้ Siri ใน Apple CarPlay เยอะครับ
อยากให้ลองพูดกับมันดูครับ ผมล่ะติดใจ AA ตรงนี้ จนอยากหามือถือ Android มาใช้กับรถเลย
+1 คิดเหมือนผมเลย แต่ผมอาจจะย้ายมาใช้ android เลย หลังจาก iPhone ราคาขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่มือถือ Android ยังพอมีเครื่องรุ่นราคาย่อมเยาว์ลงมาบ้าง
-
อาจจะเป็นปัญหาที่การออกเสียงของผมเองด้วยครับ ที่สั่งงานด้วยเสียงแล้วไม่เคยขึ้นที่ๆต้องการจะไปเลย สุดท้ายต้องมาพิมพ์เองอยู่ดี
ส่วนเรื่องจอtouch screenไม่ได้อันนี้เพราะเป็นรถเก่าแล้วผมเอามาติดcarplayเองเนื่องจากไม่อยากเปลี่ยนจอครับ
อยากสอบถามคนที่ใช้งานคำสั่งเสียงหน่อยครับว่าพูดภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ เพราะผมพยายามพูดอังกฤษไปมันไม่ตรงเลย หรือผมควรเปลี่ยนภาษาในgoogle mapให้เป็นภาษาไทยแล้วพูดไทยไปเลยดีครับ
-
พูดภาษาไทยสั่ง AA ไปเลยครับ ไม่ว่าชื่อสถานที่จะเป็นภาษาอังกฤษ ก็ไม่ต้องไปใช้สำเนียงต้นฉบับครับ พูดแบบคนไทยปกติเลย เช่น "ไปเซ็นทรัลเวิร์ล", "นำทางกลับบ้าน" พูดแบบภาษาไทยปกติเลยครับ
-
ผมใช้ทั้งสองระบบ ส่วนตัวชอบ maps ใน carplay มากกว่า ui มันดูง่าย ใช้ง่ายกว่า พอกลับไปใช้ maps ใน AA จะเริ่มงงๆ เวลาจะนำทางทั้งสองระบบจะใช้กดจากมือถือแล้วกดนำทางมันจะส่งไปขึ้นที่จอรถเลย
รถผมเป็นแบบ wireless aa, carplay ซึ่งจอทัชไม่ได้ ต้องหมุน controller อย่างเดียว เพื่อความง่ายเลยต้องกดจากมือถือเอาครับ 555
แต่แปลกอย่างพอใช้แบบ wireless นำทาง คือแบตไหลมากๆ เลยครับ นำทาง 2-3 ชม แบตแทบหมด
-
หาแผนที่ด้วยเสียงใน Android auto มันง่ายมากๆ ออกเสียงไม่ตรงมันก็หาเจอ แล้วมันยากกว่า apple carplay ตรงไหน งงใจ
-
อาจจะเป็นปัญหาที่การออกเสียงของผมเองด้วยครับ ที่สั่งงานด้วยเสียงแล้วไม่เคยขึ้นที่ๆต้องการจะไปเลย สุดท้ายต้องมาพิมพ์เองอยู่ดี
ส่วนเรื่องจอtouch screenไม่ได้อันนี้เพราะเป็นรถเก่าแล้วผมเอามาติดcarplayเองเนื่องจากไม่อยากเปลี่ยนจอครับ
อยากสอบถามคนที่ใช้งานคำสั่งเสียงหน่อยครับว่าพูดภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ เพราะผมพยายามพูดอังกฤษไปมันไม่ตรงเลย หรือผมควรเปลี่ยนภาษาในgoogle mapให้เป็นภาษาไทยแล้วพูดไทยไปเลยดีครับ
เปลี่ยนเป็นภาาษไทยแล้ว พูดไทยไปเลยครับ ง่ายกว่ากันเยอะเลย แต่เสียงเตือนเลี้ยวซ้ายขวา ผมยังให้เป็น eng เหมือนเดิมนะ ทำได้สบายมาก
-
ขอบคุณทุกท่านที่แนะนำครับ ตอนนี้ใช้วิธีปรับภาษาในแอปเป็นภาษาไทยแล้ว พูดชื่อสถานที่แล้วถูกต้องมากขึ้นเยอะเลยครับ