Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: reyeshenry ที่ กันยายน 11, 2022, 10:19:59
-
มองเห็นรถญี่ปุ่น รถจีนในบ้านเรา แข่งขันอ๊อฟชั่นอำนวยความสะดวก อ๊อฟชั่นความปลอดภัยแบบจัดเต็มมาตรฐานแทบทุกค่ายแล้ว
พอหันมาดูรถยุโรปในบ้านเรา รู้สึกว่ามีหลายค่ายที่ได้อ๊อฟชั่นความปลอดภัยมา แต่ก็ขาดๆ เกินๆ ไม่ครบสักที
เมื่อไหร่กันนะ ที่รถยุโรปในบ้าเราอย่าง Benz bmw Audi Porsche ในราคาราคา 2-4 ล้าน จะได้อ๊อฟชั่นความปลอดภัยครบสักที
-
eco car ยังมี sense มากกว่าพวก baby benz ซะอีก ต้องให้ HONDA click มี sensing ก่อนมั๊ง benzจึงจะมี sense ตัวเริ่มต้นให้
-
จริงครับ รถอย่างw206อย่างG20เจอออปชั่นสู้ญี่ปุ่นไม่ได้เลย สู้w205ที่ตกรุ่นไปแล้วยังไม่ได้ทำใจซื้อไม่ลงจริงๆ จะไปvolvoก็รอรถกันข้ามปี
-
จะเอา ระบบปลอดภัย แบบรถญี่ปุ่นราคาล้านต้นๆ คุณต้องซื้อพวก E class หรือ bmw 5 series โน่นละครับ ผมถึงเลิกใช้แล้ว รถยุโรป มีความรู้สึกว่า เห็นแก่ตัวมาก ต้องจ่ายระดับ สี่ล้าน ถึงจะได้ เท่ารถญีปุ่่น
ขนาด ativ คันไม่กี่แสน ยังมีครบทั้ง lane change/ adaptive cruise
-
รถขับดี โฆษณาว่าเน้นขับเองไม่เน้นระบบ ขับแล้วหรู ยามโบกให้ พอแล้วครับ แถมเหล็กหนา ชนแล้วปลอดภัย
เครื่องดีเซลเทอร์โบ ประหยัดน้ำมัน
คุ้มมมมมครับ คุ้มมาก ยอดขายก็ดี ไม่รู้จะเพิ่มออปชันทำไม เพิ่มไป กำไรเท่าเดิม 5555
รถญี่ปุ่น โดยเฉพาะพี่โต ถ้ากั้กออปชันนี่ โดนด่ายันลูกบวช ;D
-
ใครๆก็บอกว่า ซื้อรถยุโรป คือซื้อความปลอดภัย ....
ผมผู้ที่อ่าน option ความปลอดภัย ... ถึงกับ งง ..
-
วอลโว่ไงครับ
-
เมื่อคนไทยส่วนใหญ่ เลิกเชื่อว่ารถยุโรปเหล็กหนาปลอดภัยกว่ารถญี่ปุ่น ครับ
-
ที่เอ่ยมามันก็เฉพาะรถเยอรมันเท่านั้นนะครับ
ยุโรปยังมีอีกหลายประเทศ หลายแบรนด์ครับ
-
Honda 1.5 ล้านก็ไม่มีกะระยะ ก็ขายได้นะ
ไม่ต้องไปถึงรถยุโรปหรอก
ทำไมบางคนจ่ายแพงแล้วยังทน
-
แล้วก็คือoptionไม่ค่อยมี แต่ขายดีด้วยนะ
ยุโรปที่optionจัดเต็มอย่างvolvoก็ไม่ค่อยมีใครซื้อ
รถยุโรปตัวเลือกไม่ใช่ไม่มีมีแต่ผู้บริโภคยอมจ่ายเอง.. โทษใครดี 55
-
คำตอบที่น่าจะใช่คือวอลโว่มั้งครับ ส่วนตัวใช้แล้วคิดว่าคุ้มค่ากับที่ต้องจ่ายเพิ่มจาก D segment ญี่ปุ่น แต่คนไม่น้อยอาจยังกังวลกับปัญหาสมัยก่อนหรือไม่มั่นใจกับคุณภาพหลังจีนเข้าไปเทค ทำให้เสียโอกาสสัมผัสกับรถที่ดีและคุ้มค่าอีกยี่ห้อนึง ซึ่งสมัยนี้ไม่ได้มีปัญหาเหมือนแต่ก่อนแล้วครับ
-
ออฟชั่นความปลอดภัย ใน eco car ยกตัวอย่างมาหน่อยครับ
ที่ในรถยุโรปไม่มี
หลายคน ไม่เห็นภาพ และเข้าใจกันผิดๆ
-
เมื่อรถคันนั้นเป็นไฮบริดครับ คันไหนไฮบริดล้นๆจุกๆแทบทุกคัน มันเอาสรรพสามิตที่ได้ลดไปนั่นแหละเอามาถมออฟชั่น audi ที่ออฟชั่นง่อยก็มีแต่สันดาปล้วนๆจะเอาเงินส่วนไหนไปลงกับออฟชั่น
ส่วนวอลฟโว่ที่ถมออฟชั่นได้เยอะเพราะ ทั้งได้ส่วนรถไฮบริด ได้ฟรีภาษาีีีนำเข้าอีก จากจีน จากมาเล
-
ไม่ได้ใช้รถยุโรปนะครับ
พวก senseๆ ทั้งหลายมันจำเป็น??? ใส่มาเวลาเสียจะซ่อมแพงไหม??
หันมามองทางพี่ยุ่นบ้างรถเป็นล้านไม่มีคานนิรภัยหลังวิ่งกันเกลื่อนเลยครับเมื่อไหร่จะใส่มา??
ชนกันจริงๆก็คงตามราคารถครับ
-
ไม่นับรวม Volvo ใช่ไหมครับ
-
แยกกันระหว่าง Active Safety กับ Passive Safety นะครับ
Active ที่รถยุโรปใส่มาไม่ค่อยได้ยกเว้น Volvo เพราะเรื่องภาษีนำเข้าในบางรุ่น รุ่นประกอบในก็ใช้ความเป็นเจ้าตลาดกั๊ก และตอนนี้มีเรื่อง Semiconductors ด้วย
Passive นี่ญี่ปุ่นเทียบไม่ติดอยู่ล่ะ
-
1.เมื่อคนซื้อมีปัญญาจ่าย ถ้ารุ่นท้อปขายดีกว่า รุ่นโล้นๆขายไม่ออก เค้าไปแข่งกันอัดอ๊อพชั่นแน่ๆ
2.เมื่อภาษีลดลงทำให้การเพิ่มออฟชั่นไม่ทำให้ราคากระโดดเยอะ
-
ออฟชั่นความปลอดภัย ใน eco car ยกตัวอย่างมาหน่อยครับ
ที่ในรถยุโรปไม่มี
หลายคน ไม่เห็นภาพ และเข้าใจกันผิดๆ
ระบบ active safety ไงครับ
-
1. ผู้ผลิดลดออฟชั่น เพื่อทำราคาให้แข็งขันได้
2. ผู้ซื้อต้องการเพียงภาพลักษณ์ ไม่สนใจออฟชั่น
มันมีความบาลานซ์กันอยู่ ถ้ามีคนซื้อ เค้าก้อยังคงทำแบบนี้ได้
-
Option น้อยก็จุกจิกแล้ว
ถ้า Option เยอะกลัวจะซ่อมกันไม่ทันหน่ะครับ
เอาจริงๆ Option พวก Active ทั้งหลาย บางอย่างน่ารำคาญมากครับ
เช่น เบรคเอง เตือนรถออกนอกเลน(ถนนบ้านเราเลนชัดมากกกกกกก) ขนาดรถที่ว่าระบบนี้ล้ำๆ เช่น Tesla ยังงงเลย
-
ไม่เกี่ยวกับยุโรปหรือเอเชียเลยครับ บอกไปเลยว่ายี่ห้ออะไร สองยี่ห้อเยอรมันที่ขายดีในไทย..ถึงผมมีเงินก็ไม่ซื้อครับ ทำใจเรื่องราคาไม่คุ้มค่าตัวไม่ได้จริงๆ แต่ใช้แล้วอาจจะดูดีมีรสนิยมอันนั้นน่าจะเป็นจุดขายของเขารึเปล่า?
-
เรื่อง passive ผมข้ามไปเลย ผมว่ามันชัดเจนด้วยผลทดสอบพวก NCAP มีให้ดู ซึ่ง ญุี่ปุ่น กับ ยุโรป แทบไม่ต่างกันเลย ผมไม่มโนละกัน
เรื่อง active ก็ต้องเทียบกันคันๆ ไป มันก็มีเยอะ มีน้อย (แต่โดยรวมถือว่าน้อย)
ไม่ต้องเทียบกับญี่ปุ่นก็ได้ ทำไมยุโรปบางค่าย ให้ออฟชั่นมาเยอะ(ดาวสามแฉก) ทำไมยุโรปบ้างค่ายให้ออฟชั่นมาน้อย(ใบพัด) ทั้งที่ต้นทุนน่าจะพอๆ กันอยู่ มันบ่งบอกถึงกำไร และ ส่วนต่างที่ได้มากกว่า เรื่องต้นทุน ใครคิดกันบ้างไหม
บางคนบอกค่ายนึกขายออฟชั่น ขายความหรูหรา แต่ค่ายนึงขายการขับขี่ ขายฟิลลิ่ง ขายสมรรณะ ผมเคยไม่เชื่อ และ พอได้จับจองเป็นของตัวเอง ผมก็ยังเฉยๆ กับมัน ถ้าย้อนกลับไปเลือกได้ ผมเลือกออฟชั่นที่กินได้ จับต้องได้ ใช้งานได้ มากกว่า ความรู้สึกที่จับต้องไม่ได้(แต่ก็เสียเงินซื้อมา)
เรารู้อยู่แล้วว่า รถยุโรปแพงกว่าเพราะอะไร ภาษีใช่ไหม ขนาดสมัยตอนนำเข้า 32 ราคา 3 ล้าน (โดยภาษีราวๆ 3 ร้อยเปอร์เซ็นต์) แต่พอประกอบในประเทศ แทนที่จะลดลงมาเหลือล้านกว่าๆ แต่ราคาอยู่แถว 2 ล้านปลายๆ อยู่ดี แถมออฟชั่นที่ได้มาก็ไม่ได้มีมูลค่าเป็นล้านๆ ขนาดนั้น
ผมว่า ถ้าญี่ปุ่นขายรถที่ราคาเท่านี้(ไม่ใช่แพงขึ้นทุกรุ่นปี ทุก generation) มันก็มีความคุ้มค่า ทั้งการขับขี่ ออฟชั่น และ ความปลอดภัย ไม่ได้น้อยกว่ายุโรปเลย บางรุ่น NCAP คะแนนมากกว่ายุโรปด้วยซ้ำ
ผมเชื่อข้อมูลมากกว่าความรู้สึก บางคนยังฝังหัว ปักใจ อยู่ในเลย รถญี่ปุ่น มันต้องตัวถังไม่แข็งแรง ความปลอดภัยน้อยกว่า รถยุโรปอยู่เลย ลองหาข้อมูลประกอบดูละกันครับ
ผมใช้ทั้งยุโรป และ ญี่ปุ่น ครับ
-
เห็นด้วยว่ารถยุโรปตัวล่างควรมีระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็มมาครับ
แต่บางค่ายเค้าติดภาษีนำเข้าจริง
ใจจริงนี้แฟนชอบGLA200.A200มากๆ อยากเอาไว้ให้แฟนขับ แต่ออปชั่นมันทำใจไม่ได้ จะไปxc40 c40ก็ไม่ชอบหน้าตา
สุดท้ายไปจบตัวสูงกว่าครับ ไม่งั้นก็เล่นญี่ปุ่นตัวท๊อปแทน พอคันใหญ่ แฟนไม่ขับ ผมต้องขับเองทั้งบ้าน... กลายเป็นไมล์รถไม่กระดิก ถ้าขายต่อบางคนเค้าจะมองว่ารถมีปัญหามั้ยแบบนี้...
ชีวิต!!!
ขอร้อง ยัดไส้มาครบๆเถอะครับ
ยิ่งเม้นท์บนผมเห็นด้วยครับ อิอิ
-
eco car ยังมี sense มากกว่าพวก baby benz ซะอีก ต้องให้ HONDA click มี sensing ก่อนมั๊ง benzจึงจะมี sense ตัวเริ่มต้นให้
ราคา 2 ล้าน ช่วงล่างคานบิด 55
-
ผมคนนึงที่ไม่ชอบระบบต่างๆเยอะ ไม่ต้องมาช่วยเบรค ช่วยเตือนไรหรอก รำคาญมาก (จะชนหลายทีล่ะ เวลามันช่วยเบรคผิดจังหวะ)
สำหรับผมขอแค่มี กล้องหลัง กับ Blind Spot พอ
-
รถพรีเมียมยุโรปออฟชั่นราคาแพงครับ เวลาสั่งทีต้องเป็นแพ็คเกจ ผมว่าเค้าจึงเลือกมาแค่ออฟชั่นที่เน้นขายคนส่วนมากกว่าจับเฉพาะกลุ่ม
-
ถ้าเทียบกันตาม segment ยังไงรถญี่ปุ่นก็ให้มากกว่านะครับ