Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: apirakp ที่ กันยายน 18, 2022, 16:10:29
-
เห็นยอดขาย Ativ 2022 พุ่งอย่างชัดเจน
ท่านๆคิดว่า Honda จะเอาอะไรออกมาสู้บ้างครับ
-
ต้องรอดูไมเนอร์ก่อน ปลายปีนี้อายุตลาดครบ3ปีพอดี แต่ส่วนตัวผมคิดว่าโฉมนี้ฮอนด้าถอดใจไม่สู้แน่นอน ต้นทุนค่าเครื่องใหม่ยังไม่คุ้มเลย โฉมถัดไปค่อยว่ากัน ::)
-
แค่เร่งส่งมอบรถให้ไวแค่นั้นแหล่ะครับ เพราะยอดcity ก็ไม่ได้ตก ativ มันยอดอั้นรถใหม่
-
ไม่ต้องทำอะไรครับ เพราะทุกวันนี้ยังผลิตไม่ทันเลยจะเพิ่มต้นทุนทำไม
แต่ถ้าอยากแข่งจริงๆก็ใส่ sensing มาให้ครบๆก็สู้ได้แล้ว
-
ลดราคามาครับได้แน่นอน
ลุกค้าได้ประโยชน์
ตอบคำถามในมุมลูกค้านะครับ
ส่วนคำตอบในมุมหุ้นส่วนบริษัท รอฟังผู้ถือหุ้นที่จะมาตอบในนี้
-
ไม่ต้องทำไรครับ เครื่องเด่นอยู่แล้ว คนซื้อเพราะเครื่องยนต์เยอะทั้งที่เรือนไมล์ย้อนยุคซะขนาดนั้น
-
ควรที่จะเพิ่ม
- ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้างในรุ่นรองๆ ให้ครบ
- sensor กะระยะถอยหลังทุกรุ่นย่อย
- ช่องแอร์หลังในรุ่น SV, RS
-
ควรที่จะเพิ่ม
- ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้างในรุ่นรองๆ ให้ครบ
- sensor กะระยะถอยหลังทุกรุ่นย่อย
- ช่องแอร์หลังในรุ่น SV, RS
ต้องเพิ่มนี่ด้วยครับ
- ฮีตเตอร์ในทุกรุ่นย่อย
- แพดเดิ้ลชิพทุกรุ่นย่อย
- ติดแผงออยเกียร์แยกมาในทุกรุ่นย่อยจากโรงงาน (เห็นว่าอุณหภูมิเครื่องและเกียร์รุ่นนี้ร้อนมาก)
- ลดราคาหรือส่วนลดดีๆ
แต่ทั้งนี้ผมมองว่าคนที่จะซื้อแฮชแบ็คยังไงก็ไม่เอาเอทีฟแน่ๆ กับเรื่องงานประกอบชิ้นส่วนใช้กาวepoxyติดในเอทีฟใหม่ด้วย สำหรับคนที่รู้อาจจะคิดนะครับว่าจะทนขนาดไหนเพราะกาวepoxyมันก็มีข้อดีข้อเสีย. แต่ข้อเสียคือกาวมันทนความร้อนได้ไม่เยอะเท่ากับการเชื่อมอาร์ค กับการรับแรงที่อาจจะด้อยกว่าการเชื่อมและอาร์คด้วยครับ
-
คิดว่ายังไม่ต้องทำอะไรครับ
ผมคิดว่าในตอนนี้กลุ่มลูกค้ามันแยกกันค่อนข้างชัด
ฝั้งนึงเน้น ที่เครื่องยนต์
อีกคันเน้นออฟชั้นและความทนทาน
ส่วนตัวถ้าซื้อตอนนี้ คงจิ้มไป city 1.0t อยู่ดี คิดว่าเครื่อง 1.2 มันหมดยุคแล้ว
ทีนี้รอดูที่ตัว hybrid ถ้าทำราคาได้ อ๊อฟชั้นได้ ผมอาจจิ้มไป hybrid แทน อยากได้รถที่เปิดแอร์นั้งในรถได้แบบไม่รู้สึกผิด และเมื่อถึงตอนนั้น honda ค่อยปรับ option น่าจะยังไม่สาย ยังไงตอนนี้น่าจะยังมียอดค้างส่งมอบอีก ส่วน yaris เหมือนยอดอั้นช่วงเปิดตัว ยิ่งค่ายนี้ชอบผลิตรถรอส่งมอบเลยด้วย เคยเจอ collora cross ตัวเป็นๆวิ่งบนถนน 1 วันหลังเปิดตัวเลย
-
Airbag 6 ลูกทุกรุ่นย่อย ใส่ Adaptive Cruise Control กับแอร์หลังให้รุ่นบนๆก็น่าจะพอครับ (BSM กับกล้อง 360 นี่ไม่น่ามีหวังอยู่แล้ว)
-
ตลาดต่างกันอยู่ รอดูยอดก่อน ไม่ต้องทำอะไร
-
ส่วนตัวผม ถ้ากลุ่มลูกค้าที่เน้นสมรรถนะ คงไม่กลับไปขับ na แน่นอนครับ
-
เดี๋ยวไมเนอร์เชนจ์ option ก็มาใกล้เคียงเองแหละ ตอนนี้ เหมือนลูกค้าถอนจองเยอะเหมือนกัน เริ่มได้รถกันเร็วขึ้นละ
- เพิ่งเอา สามสูบ พันโบ ลงใต้มา
ออกศุกร์สี่ทุ่ม จาก กทม ถึง นครศรี สายๆ เที่ยวในนั้น แล้วกลับมานอนสุราษ
ตีสี่ วันอาทิตย์ ขับจาก สุราษ กลับ กทม และ ปราจีน
เบ็ดเสร็จ 2,050 กม.
- สำหรับผม เครื่องยนต์ผ่านนะ หลายจังหวะ ผมต้องการอัตราเร่ง ประเภทเหลือช่องหน่อยเดียว จังหวะได้เสีย กดลงไป มันก็พุ่ง .. มีไล่ๆ 1.2 ป้ายแดง ตามๆกัน จังหวะผมขึ้น มุดผ่านช่องแคบได้ แต่เข้าขึ้นไม่ได้ แซงไม่พ้น .. พอไม่พ้น ก็รอยาวๆไป กว่าจะได้จังหวะอีก
เครื่องผ่าน .. เป็นเพื่อนเดินทางไกลสบาย
เบาะผ่าน .. วิ่งโหดขนาดนี้ ผมไม่ปวดหลังเลย จากปกติ ที่เบาะเดิม pulsar แค่ 2 ช.ม.เข้ากทม ผมก็ปวดจนต้องลงมานอนละ แต่เจ้านี่ สบายๆ ไม่ปวดหลัง ไม่เมื่อยไหล่ ไม่ปวดคอ (เบาะ CRV G3 ดันหัว จะเมื่อยคอ เมื่อยไหล่ เพราะไหล่ไม่แนบเบาะ)
เหลือช่วงล่าง กับ เบรค ที่ของเดิม ต้องใช้คำว่า "แย่" ครับ นี่ผมอัพเกรดผ้าดรัมหลังใหม่ จากที่ต้องคอยเผื่อระยะ ต้องบอกตัวเองว่า ไม่ได้ขับ CRV / PULSAR นะ ตอนนี้ ขับได้ปกติ ในสไตล์ผมละ ย้ำลงไปก็อยู่
.........
สายเดินทางไกล ยังไง พันโบ ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีครับ
-
ตอนนี้ City แพ้ Ativ แล้วหรอครับ .....
รอดู มอเตอร์โชว์ดีกว่าครับ ชี้ชัดตอนนั้นแหละว่า ตกลง City แพ้หรือยัง
-
ส่วนตัวผม ถ้ากลุ่มลูกค้าที่เน้นสมรรถนะ คงไม่กลับไปขับ na แน่นอนครับ
ประเด็นคือกลุ่มลูกค้าประเภทนี้มีน้อยด้วยสิครับ
-
ตอนนี้คงเร่งผลิต hr-v ให้ทันส่งมอบก่อนไหม ตอนนี้คิวถึงปีหน้าแล้ว รถอะไรขายดีจัด
-
ปรับหน้า ท้ายใหม่ แม็คใหม่ ถุงลมรอบคัน ทุกรุ่นย่อย
หน้าปัดตัว SV ขึ้นไปได้เรือนไมล์แบบ Accord
1.0 เทอโบ
ตัว SV เป็น V เริ่ม 609,000 จอ กล้อง แม็ค เบาะหนัง
ตัว ตัว RS เป็น SV แม็คไม่รมดำ ไม่ชุดแต่ง ที่เหลือยก RS มาหมดเหมือนโฉมอินเดีย 699,000
ตัวไฮบริดเพิ่มเป็น 2 เกรด
SV eHev ออพชั่น เหมือน SV ไม่ต้องมีชุดแต่ง ขาย 779,000
RS eHev ตัวเดิม 809,000
คิดเล่นๆครับ 55
-
ผมได้ขับ Ativ แล้วบอกได้เลยว่าพลังไม่ได้แย่เลย คิดว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับคนใช้รถขับแบบธรรมดาๆ ทั่วไป สิ่งที่ City จะต้องแก้ไขเพื่อรับมือก็คือปัญหาที่เกิดจากการออกแบบและผลิตอันจะทำให้ผู้บริโภคมั่นใจกว่านี้ เช่น สนิม สายพาน เป็นต้น
-
เห็นเหมือนคุณเด็กบูรพา
มีหลายคนว่าเบาะ City นั่งไม่สบาย
ผมว่ามันก็สบายดีนะ
ส่วนตัวผมไม่เอาเจ้า 1.2 อยู่แล้ว
เพราะระอามันกับ Yaris 5 ประตู เอาไว้จ่ายกับข้าวอย่างเดียวจริงๆ
ส่วน City หากไมเน่อได้ไมล์แบบเดียวกับ Hybrid นี่ สอยแน่นอน เพราะรุ่นห้าประตูมันสวยจริงๆ
-
ผมว่ายอดซิตี้ไม่ได้แย่นะ
แค่ยอด ativ ช่วงเปิดตัวมันแรง
ถ้ายอดมันสูงต่อเนื่องสัก 5-6 เดือน
ตอนนั้นซิตี้ค่อยขยับตัวก็ได้
-
ควรที่จะเพิ่ม
- ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้างในรุ่นรองๆ ให้ครบ
- sensor กะระยะถอยหลังทุกรุ่นย่อย
- ช่องแอร์หลังในรุ่น SV, RS
ต้องเพิ่มนี่ด้วยครับ
- ฮีตเตอร์ในทุกรุ่นย่อย
- แพดเดิ้ลชิพทุกรุ่นย่อย
- ติดแผงออยเกียร์แยกมาในทุกรุ่นย่อยจากโรงงาน (เห็นว่าอุณหภูมิเครื่องและเกียร์รุ่นนี้ร้อนมาก)
- ลดราคาหรือส่วนลดดีๆ
แต่ทั้งนี้ผมมองว่าคนที่จะซื้อแฮชแบ็คยังไงก็ไม่เอาเอทีฟแน่ๆ กับเรื่องงานประกอบชิ้นส่วนใช้กาวepoxyติดในเอทีฟใหม่ด้วย สำหรับคนที่รู้อาจจะคิดนะครับว่าจะทนขนาดไหนเพราะกาวepoxyมันก็มีข้อดีข้อเสีย. แต่ข้อเสียคือกาวมันทนความร้อนได้ไม่เยอะเท่ากับการเชื่อมอาร์ค กับการรับแรงที่อาจจะด้อยกว่าการเชื่อมและอาร์คด้วยครับ
มาอีกแร้ว ผงออยเกียร์แยก เนี่ย
ผมยังไม่ค่อยเห็น CVT ในไทย ติดกันเลยนะ รถมันก็ใช้กัไมล์ 500000 ก็มี
ยังไง วิศวกร คนออกแบบระบบ ลงทุนระดับ 10000 ล้านเค้ารู้ปัญหาหมดนั่นละครับ ถ้ามันจำเป็นเค้าติดมาแร้ว
อย่าไป ฟังพวกอู่ นอกเยอะครับ โดยเฉพาะ พวกรับติดตั้ง เนี่ย ทำรถพังมาเยอะแล้ว
หลักการดูแล CVT ก็แค่ มั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ ตามระยะ ใช้ของแท้
อีกอย่าง ระบบ มันมี Alarm ครับ ถ้ามันร้อน ตัวรถจะฟ้องเอง
ผมซึ่ง ขับ CVT มาหลายคัน ก็ยังไม่เคย ขับจน ระบบมันฟ้อง
-
เห็นเหมือนคุณเด็กบูรพา
มีหลายคนว่าเบาะ City นั่งไม่สบาย
ผมว่ามันก็สบายดีนะ
ส่วนตัวผมไม่เอาเจ้า 1.2 อยู่แล้ว
เพราะระอามันกับ Yaris 5 ประตู เอาไว้จ่ายกับข้าวอย่างเดียวจริงๆ
ส่วน City หากไมเน่อได้ไมล์แบบเดียวกับ Hybrid นี่ สอยแน่นอน เพราะรุ่นห้าประตูมันสวยจริงๆ
รุ่น RS นั่งโครตไม่สบายครับ โครตแข็งโป้ก แถมแบนราบยังกับโซฟา
เป็น รถที่ ทำเบาะได้ นั่งไม่สบาย ที่สุดตั้งแต่เกิดมาเจอครับ
แย่มากๆ ครับ
-
ผมว่าตลาดเค้าต่างกันชัดเจนอยู่แล้ว อย่างมากก็แค่ เพิ่มอุปกรณ์บางอย่างพวก dial digital รอไปปรับจริงจังตอน minor ทีเดียวเลยครับ เติมๆ safety มาให้เท่าๆกัน
จากที่ไปลอง ativ กับ city character ต่างกันพอสมควร คนที่ชอบฮอนไม่น่าถูกใจ ativ
ควรที่จะเพิ่ม
- ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้างในรุ่นรองๆ ให้ครบ
- sensor กะระยะถอยหลังทุกรุ่นย่อย
- ช่องแอร์หลังในรุ่น SV, RS
ต้องเพิ่มนี่ด้วยครับ
- ฮีตเตอร์ในทุกรุ่นย่อย
- แพดเดิ้ลชิพทุกรุ่นย่อย
- ติดแผงออยเกียร์แยกมาในทุกรุ่นย่อยจากโรงงาน (เห็นว่าอุณหภูมิเครื่องและเกียร์รุ่นนี้ร้อนมาก)
- ลดราคาหรือส่วนลดดีๆ
แต่ทั้งนี้ผมมองว่าคนที่จะซื้อแฮชแบ็คยังไงก็ไม่เอาเอทีฟแน่ๆ กับเรื่องงานประกอบชิ้นส่วนใช้กาวepoxyติดในเอทีฟใหม่ด้วย สำหรับคนที่รู้อาจจะคิดนะครับว่าจะทนขนาดไหนเพราะกาวepoxyมันก็มีข้อดีข้อเสีย. แต่ข้อเสียคือกาวมันทนความร้อนได้ไม่เยอะเท่ากับการเชื่อมอาร์ค กับการรับแรงที่อาจจะด้อยกว่าการเชื่อมและอาร์คด้วยครับ
มาอีกแร้ว ผงออยเกียร์แยก เนี่ย
ผมยังไม่ค่อยเห็น CVT ในไทย ติดกันเลยนะ รถมันก็ใช้กัไมล์ 500000 ก็มี
ยังไง วิศวกร คนออกแบบระบบ ลงทุนระดับ 10000 ล้านเค้ารู้ปัญหาหมดนั่นละครับ ถ้ามันจำเป็นเค้าติดมาแร้ว
อย่าไป ฟังพวกอู่ นอกเยอะครับ โดยเฉพาะ พวกรับติดตั้ง เนี่ย ทำรถพังมาเยอะแล้ว
หลักการดูแล CVT ก็แค่ มั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ ตามระยะ ใช้ของแท้
อีกอย่าง ระบบ มันมี Alarm ครับ ถ้ามันร้อน ตัวรถจะฟ้องเอง
ผมซึ่ง ขับ CVT มาหลายคัน ก็ยังไม่เคย ขับจน ระบบมันฟ้อง
paddleshit นี่ถวิลหากันด้วยหรอครับ ผมไม่เคยใช้เลยอะรถที่ซื้อมามีให้เกือบทุกคัน รักที่จะใช้ auto จริงๆครับ ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์เลย
ออยเกียร์ก็ตามนั้น อย่าสรรหาเลยครับ ไม่มีข้อพิสูจน์ว่าไม่มีแล้วรถไม่โอเค มีแต่คอนเท้นใช้แล้วดีจังวู้
-
เทียบรถเปิดตัวใหม่ๆ กับ รถเปิดตัวมา 2-3 ปีแล้ว มันก็เทียบผิดเวลาไปหน่อย
การตลาดเขาก็คงดูอยู่แล้วละ ไม่ว่าจะเรื่อง Minor change หรือแม้แต่ปรับราคา หรือ เพิ่มออฟชั่นต่างๆ
-
ลดราคา ehev ซักแสนนึงครับ เพราะความแรงและออฟชั่นมาดีแล้ว แต่ราคาดันแรงเกิน
-
ผมว่าตลาดมันต่างกันอยู่ ระหว่างสมรรถนะ กับคนขับทั่วๆไป และผมว่าบางคนไม่ happy ที่ถ่ายน้ำมันเครื่องทุก7000 โลหรือน้อยกว่านั้น เลยไปหา yaris การทีจะทำให้ H ลดราคาไม่น่าเป็นไปได้ คงต้องเพิ่ม option มาแข่ง แล้วราคาเดิม แต่ส่วนตัวคิดว่าเร่งส่งมอบให้ไวน่าจะดีกว่า
-
คิดว่าจะประกอบยังไงให้ทันคนสั่งจองดีกว่าครับ
ไม่ว่าจะ City หรือ HRV รอนานกันทั้งนั้น ยอดขายผมว่าถ้ามันไลน์การผลิตมันเต็มแล้ว เขาคงพอใจแล้วล่ะ
ตัวรถ 2 รุ่นนี้บุคลิกต่างกันค่อนข้างชัด คนชอบขับรถคงไป 1.0T กันเป็นส่วนใหญ่ (รวมผมด้วย)
-
จริงๆรถมันควร mc สัก2ครั้งได้แล้ว ไม่ใช่ต้องรอ ativ มา
ผมว่าจะให้แข่งขันได้ต้องเพิ่มอีกเยอะ ใครบอกไม่ปรับก็ได้ก็เรื่องของเค้าครับ แต่ต้นทุนค่าเสียโอกาสมันเยอะครับ และลูกค้าเมื่อเลือกไปแล้วก็ไม่หวนอีกนานซะด้วย
ผลิตไม่ทันขายค่าเสียโอกาสก็เยอะ
กับอีแค่คำพูดสวยหรูว่าไม่ง้อ แค่นี้ผลิตไม่ทันก็ตามเค้าเลยครับ แต่toyota เค้าเลือกเงินเข้ากระเป๋า(ไหนใครว่าให้เยอะขาดทุน ไม่เห็นเค้าบ่น แล้วคันที่ไม่ให้หมายความว่า? อิ่มเลย)
บริษัทเค้าก็สุดแท้แต่เค้าจะเลือก
-
มันก็พูดยากเหมือนกันนะครับ เพราะเมื่อตั้งใจทำรถออกมามีบุคลิกที่โดดเด่นชัดเจน
มันก็แยกขั้วไปแล้วระหว่างเน้นสมรรถนะจัดจ้านกับเน้นออปชั่นลูกเล่นตัวช่วยมากมาย
จับลูกค้าคนละกลุ่ม คนละบุคลิกแน่นอน ระหว่างเน้นขับแรงๆ กับเน้นสิ่งอำนวยความสะดวก
ในวงเงินที่เท่ากัน ต้นทุนจึงถูกเทลงไปในคนละส่วน
ใครที่หวังว่าอยากจะได้ทั้งเครื่องแรงๆ ออปชั่นล้นๆ มันก็ไม่พ้นต้อง Top up ราคาขึ้นไปอีกครับ
เราอย่าไปนับว่าเครื่องยนต์ทั้งสองแบบว่ามันเป็นแค่อุปกรณ์ 1 ชิ้นเท่าๆ กัน เพราะ Turbo และส่วนควบ
รวมไปจนถึงไส้ในต่างๆ ของตัวเครื่องมันก็มีมูลค่าต้นทุนที่สูงกว่าเครื่อง NA ครับ
-
ยังไงผมก็ไม่เอา ativ รถอืดขนาดนั้น ทนขับไม่ไหว ถ้า city จะปรับผมว่าเอา sening กับความสวยงามภายในเพิ่มหน่อยดีกว่า ออยเกียร์จะมีใครรู้จักสักกี่คน ทำมาเปลืองเปล่าๆ
-
Ativ สำหรับผม 0-60 ไม่แย่นะ ผมว่ากระทบไหล่ Vios 1NZ ได้เลยแหละ
ถ้าใช้แค่ในเมือง นอกเมืองก็กด ACC ขับชิวๆ พอเลยครับ
แต่สำหรับผมที่ใช้เป็นคันเดียวทุกสภาวะยังไม่พอ
City จริงๆ ตามกำหนดการมันควรจะต้อง mc ปลายปีนี้แหละครับ
Fit ในญี่ปุ่นที่เปิดตัวมาพร้อมๆ กันก็ปล่อยภาพ mc มาแล้ว
แต่ตอนนี้สถานการณ์การส่งมอบยังไม่ดีขึ้น ลูกค้ายังรอรถอีกเพียบ ก็ไม่รู้ว่าจะได้ mc เมื่อไหร่
City mc ไม่ขออะไรมากครับ
S เพิ่ม Keyless พอ
V เพิ่มปัดน้ำฝนปรับเวลาได้ / จอ Touch Screen 8 / ม่านถุงลม
SV เพิ่มไฟหน้า LED / ปัดน้ำฝนปรับเวลาได้ / กระจกแต่งหน้าคนนั่ง / Sensing ในส่วนของ CMBS , RDM with LDW / ม่านถุงลม
RS เพิ่มปัดน้ำฝนปรับเวลาได้ / จอไมล์สี 4.2 / Sensing ในส่วนของ CMBS , RDM with LDW , AHB / LaneWatch / ไฟในเก๋ง LED
แล้ว eHEV ปีถัดไปเพิ่มปัดน้ำฝน Auto / ACC with LSF / ไฟในเก๋ง LED
เอาแค่นี้ให้ได้ก่อนก็ดีใจแล้วครับ
-
ผมคิดว่า กลุ่มลูกค้าต่างกันอยู่นะครับ ถ้าคนอยากแรง อยากซิ่ง คงไม่ไป Ativ อยู่แล้ว
-
ถามคนในกลุ่มนี้ ไม่มีคนเลือก ativ อยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่สนใจรถแรงๆ อย่างอื่นไว้ทีหลัง. และไม่ใช่กลุ่มลูกค้า ativ อยู่แล้ว ยังไงปีนี้ ยอด ativ ก็ชนะ city อยู่แล้วแหละ เป็นอย่างนี้ดีแล้ว ฮอนด้าจะได้เลิกกั๊กสักที แต่เดาว่าคงปรับออฟชั่นไม่เยอะหรอก อาจจะเพิ่มแค่นิดหน่อย เพราะยังไงสาวกเค้าเยอะอยู่แล้ว ขอให้เครื่องแรงยังไงก็ซื้อ
-
Ativ สำหรับผม 0-60 ไม่แย่นะ ผมว่ากระทบไหล่ Vios 1NZ ได้เลยแหละ
ถ้าใช้แค่ในเมือง นอกเมืองก็กด ACC ขับชิวๆ พอเลยครับ
แต่สำหรับผมที่ใช้เป็นคันเดียวทุกสภาวะยังไม่พอ
City จริงๆ ตามกำหนดการมันควรจะต้อง mc ปลายปีนี้แหละครับ
Fit ในญี่ปุ่นที่เปิดตัวมาพร้อมๆ กันก็ปล่อยภาพ mc มาแล้ว
แต่ตอนนี้สถานการณ์การส่งมอบยังไม่ดีขึ้น ลูกค้ายังรอรถอีกเพียบ ก็ไม่รู้ว่าจะได้ mc เมื่อไหร่
City mc ไม่ขออะไรมากครับ
S เพิ่ม Keyless พอ
V เพิ่มปัดน้ำฝนปรับเวลาได้ / จอ Touch Screen 8 / ม่านถุงลม
SV เพิ่มไฟหน้า LED / ปัดน้ำฝนปรับเวลาได้ / กระจกแต่งหน้าคนนั่ง / Sensing ในส่วนของ CMBS , RDM with LDW / ม่านถุงลม
RS เพิ่มปัดน้ำฝนปรับเวลาได้ / จอไมล์สี 4.2 / Sensing ในส่วนของ CMBS , RDM with LDW , AHB / LaneWatch / ไฟในเก๋ง LED
แล้ว eHEV ปีถัดไปเพิ่มปัดน้ำฝน Auto / ACC with LSF / ไฟในเก๋ง LED
เอาแค่นี้ให้ได้ก่อนก็ดีใจแล้วครับ
รำคาญ กับ ปัดน้ำฝน city มาก
- ตั้งหน่วงเวลาไม่ได้ เจอฝนไม่แรง กลายเป็นต้องเปิดปัดตลอด
- ความเร็วในการปัด แม้เปิดแรงสุด ก็ปัดเอื่อยไป เจอฝนโหดๆหนักๆ เอาไม่อยู่ครับ เทียบกับ CR-V / Pulsar 2 ตัวนั้น ปัดแรง และเร็วกว่าเยอะเลย
-
^
^
^
พึ่งรู่ว่า City ที่ปัดน้ำฝนมันตั้งหน่วงไม่ได้ ... ผมนี่ลั่นเลย
option ด้วนขนาดนี้ ยังขายได้ ยอมใจลูกค้าจริงๆ
-
ลูกค้า city ไม่ได้มีแค่คนชอบแรงนะครับ ผู้หญิงที่ไม่สนใจเครื่องซื้อเพราะหน้าตา+ความเป็นฮอนด้าของมันก็มีเยอะแยะ บางคันยังใส่ยางประหยัดสักแต่กลิ้งไปกับถนนอยู่เลย ก่อนหน้านี้ก็ต้องยอมว่าภายในcityมันพราวสุด
อีกอย่างนึงลูกค้าฮอนด้ามักจะเป็นคนที่ชอบเทคโนโลยีอยู่พอสมควร และด้วยออฟชั่นที่ถมมาล้นคันขนาดนนั้นมันก็อาจจะพอให้บางคนยอมละทิ้งความแรงไปหาของไฮเทคๆใน ativ
-
Ativ สำหรับผม 0-60 ไม่แย่นะ ผมว่ากระทบไหล่ Vios 1NZ ได้เลยแหละ
ถ้าใช้แค่ในเมือง นอกเมืองก็กด ACC ขับชิวๆ พอเลยครับ
แต่สำหรับผมที่ใช้เป็นคันเดียวทุกสภาวะยังไม่พอ
City จริงๆ ตามกำหนดการมันควรจะต้อง mc ปลายปีนี้แหละครับ
Fit ในญี่ปุ่นที่เปิดตัวมาพร้อมๆ กันก็ปล่อยภาพ mc มาแล้ว
แต่ตอนนี้สถานการณ์การส่งมอบยังไม่ดีขึ้น ลูกค้ายังรอรถอีกเพียบ ก็ไม่รู้ว่าจะได้ mc เมื่อไหร่
รำคาญ กับ ปัดน้ำฝน city มาก
- ตั้งหน่วงเวลาไม่ได้ เจอฝนไม่แรง กลายเป็นต้องเปิดปัดตลอด
- ความเร็วในการปัด แม้เปิดแรงสุด ก็ปัดเอื่อยไป เจอฝนโหดๆหนักๆ เอาไม่อยู่ครับ เทียบกับ CR-V / Pulsar 2 ตัวนั้น ปัดแรง และเร็วกว่าเยอะเลย
ถ้ายังใช้สวิทช์คอพวงมาลัยทั้งชุดของ gm6 น่าจะยกก้านหน่วงปัดยกใส่แทนได้นะครับ
-
เอาออฟชั่นรูปทรงความทนทาน Ativ กินครับ. แต่คนจะหันไปคบ CITY ก็ตรงเครื่องยนต์นี่ล่ะครับ.เพราะตอนนั้ CITY คงไม่มีอะไรชูโรงไปกว่านอกจากเครื่องยนต์. Ativเอาเครื่องดีกว่านี้หน่อยที่ทันสมัยกว่านี้หน่อยมาลง..CITYคงต้องดิ้นอีกเฮือก..บอกตรงไม่ชอบเครื่องAtivอย่างมาก ถึงจะทน แต่ก็ล้าสมัยไปแล้วครับ
-
ลูกค้าที่ไม่อยากเสี่ยงในระยะยาวกับเครื่องเทอโบ ก้คงไปเอาเอถีฟผมว่านะ เพราะมันเป็นเครื่อง na ถึงไม่มีโบ แต่ลูกค้าบางส่วนก้ยังชอบและมั่นใจกว่าเครื่องใส่โบ แถมหน้าตาเอถีฟใหม่ ผมว่ามันดุดันกว่าซิตี้นะ เหมือนแคมรี่เลยเพียงแต่ขนาดมันเล็กกว่า บอดี้ก้เป็นฟาสแบ็ก มองเผินๆ บอดี้คล้ายๆซีวิก FC นะ ไฟท้ายถึงจะคล้ายทรงเดียวกับซิตี้ แต่ก้ดูดีใช้ได้นะ ส่วนยอดขายผมว่าคนไทยก้ยังซื้ออยู่ดีแหละไม่ต้องห่วงเพราะมันเป็นฮอนด้า
-
ลูกค้าที่ไม่อยากเสี่ยงในระยะยาวกับเครื่องเทอโบ ก้คงไปเอาเอถีฟผมว่านะ เพราะมันเป็นเครื่อง na ถึงไม่มีโบ แต่ลูกค้าบางส่วนก้ยังชอบและมั่นใจกว่าเครื่องใส่โบ แถมหน้าตาเอถีฟใหม่ ผมว่ามันดุดันกว่าซิตี้นะ เหมือนแคมรี่เลยเพียงแต่ขนาดมันเล็กกว่า บอดี้ก้เป็นฟาสแบ็ก มองเผินๆ บอดี้คล้ายๆซีวิก FC นะ ไฟท้ายถึงจะคล้ายทรงเดียวกับซิตี้ แต่ก้ดูดีใช้ได้นะ ส่วนยอดขายผมว่าคนไทยก้ยังซื้ออยู่ดีแหละไม่ต้องห่วงเพราะมันเป็นฮอนด้า
เห็นด้วยตามนี้เหมือนกันครับ city ตัวปัจจุบันดูไม่ค่อยดุดันเลย มันดูอ้วนๆ ยังไงไม่รู้
-
ส่วนตัวมองว่า โตโยต้า คิดและเตรียมตัวมาดีมาก คือเอาสไตล์ของยาริสเดิม มายำรวมกับวีออส กลายเป็น Ativ มองเผินๆยังไงๆ Ativ ก็กินขาดคับ
-
ลูกค้า city ไม่ได้มีแค่คนชอบแรงนะครับ ผู้หญิงที่ไม่สนใจเครื่องซื้อเพราะหน้าตา+ความเป็นฮอนด้าของมันก็มีเยอะแยะ บางคันยังใส่ยางประหยัดสักแต่กลิ้งไปกับถนนอยู่เลย ก่อนหน้านี้ก็ต้องยอมว่าภายในcityมันพราวสุด
อีกอย่างนึงลูกค้าฮอนด้ามักจะเป็นคนที่ชอบเทคโนโลยีอยู่พอสมควร และด้วยออฟชั่นที่ถมมาล้นคันขนาดนนั้นมันก็อาจจะพอให้บางคนยอมละทิ้งความแรงไปหาของไฮเทคๆใน ativ
ยืนยันตามนี้เลยครับ ผมอยู่ในกลุ่ม city turbo ตอน ativ เปิดตัวแล้วมีคนเทียบ city กับ ativ สมาชิกในกลุ่มก็เสียงแตกเลยครับ ผิดคาดผมมากไม่คิดว่าเสียงจะแตกเยอะขนาดนี้ user ที่ใช้ city turbo บางคนยังไม่รู้เลยว่ารถแรงยังไง เพราะเหยียบเบาๆ ขับช้าๆโดยเฉพาะผู้หญิง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมยอดจอง ativ ถึงถล่มทลาย
-
Ativ ถือเป็น "รถใช้งาน" ที่ดีมากคันนึงเลยนะครับ
ทั้งออฟชั่น ทั้งหน้าตา และราคาที่คุ้มมากๆ และที่สำคัญส่งมอบรถได้เร็วมาก
แต่ในมุมมองของการขับขี่
ถือเป็นรถที่ไม่ทันใจซักเท่าไรครับ
รอบนี้ถือเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับฮอนด้าอย่างมาก
ทั้งเรื่องการจัดการ Supply Chain และเรื่องการปล่อย Option ต่างๆ
หวังว่าตัว mc จะปล่อย option ได้จัดเต็มกว่านี้ครับ
จากใจสาวกฮอนด้าที่บอบช้ำทุกรุ่นที่ฮอนด้าออกใหม่ 555
-
เจาะหลังคา ใส่ Sensing มาครบๆ จบงาน !