Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: demo2 ที่ ตุลาคม 06, 2022, 12:26:43
-
มีคนมาปรึกษา เนื่องจากฝนตกน้ำท่วม เขาอยากจะหารถยกสูงๆหน่อยมาใช้เพิ่ม(ไม่ได้เปลี่ยนรถ) ระหว่าง2ตัวนี้อันไหนดีกว่ากันครับ (ตัดเรื่องที่ว่า fortuner ออกมานานแล้วและเรื่องราคาขายต่อนะครับ) อยากเรื่องการขับขี่ ระบบความปลอดภัยต่างๆครับ ผมเองไม่เคยใช้รถ PPV เลยซักคัน เคยใช้ที่ใกล้เคียงก็คือ CRV gen3 กับ X3 gen1 เลยไม่ทราบและไม่ได้ตามกลุ่ม PPV เลยครับ
-
ไม่นับราคาขายต่อ ผมกลัวเทคโนโลยีเยอะๆเกินไป ใช้ยาวปัญหาไม่น่ามีผมเอา legender ครับ
-
ใช้ Fortuner อยู่ มองว่าเป็นรถที่ใช้แล้วสบายใจ ค่อนข้างมั่นใจว่า รถไม่มีปัญหากลางทาง
Everest ผมไม่เคยลอง แต่เคยลอง Ranger สั้นๆ คิดว่า Ranger ช่วงล่างใกล้เคียง บางจังหว่ะดีกว่า FTN ด้วย ซึ่ง Everest น่าจะดีขึ้นไปอีก
ถ้าเน้นชิลๆ ไปเรื่อยๆ ไม่ได้ซีเรียสว่าต้องขับดีมาก ผมว่า FTN ตอบโจทย์
อยากได้รถช่วงล่างแน่นๆ อาจต้องไป Everest หรือ ออก FTN และทำช่วงล่างเพิ่ม
ถ้าผมต้องเลือก ผมจะรอดู CR-V ใหม่ก่อนครับ
-
เอาไว้ลุยน้ำโดยเฉพาะ คงต้อง PPV นี่แหละ
ถ้าเป็นผมคงจัด FTN ด้วยเหตุผลเดียวคือ ถ้าลุยน้ำแล้วมีปัญหา หาอู่ซ่อมง่ายกว่า
-
ถ้ามีรถหลักอยุ่แล้ว เอามาเป็นคันที่ 2-3-4 ผมอาจเลือก Everest
ถ้าเป็นคันหลักของบ้าน ผมเลือก Fortuner แน่นอน
-
ลองดู Mu-X ตัวปรับออฟชั่นล่าสุดไหมครับ แต่ออฟชั่นอาจจะน้อยกว่าเพื่อนหน่อยในตัวท็อปเหมือนกัน(แต่ก็ราคาถูกกว่าสองแสน)
ช่วงล่างออกย้วย แต่หาโช็คสักคู่น่าจะจบครับ
-
คำตอบง่ายมากเลยครับ
คิดมาก ก็ไปฟอร์จูนเนอร์
ถ้าไม่คิดมาก ก็ไปยอดเขา
-
เอา Fortuner รุ่นไหนได้หมดครับ
-
ถ้าเป็นคันหลักคันเดียว จิ้ม Fortuner แบบไม่ต้องลังเลยครับ :-X
แต่ถ้ามีรถสำรองจะลอง Everest ก็ไม่เสียหาย
-
ถ้าเอาที่สุดก็ไปยอดเขาเลยครับ
วัดกันเฉพาะตัวรถ คานกันกระแทกในส่วนต่างๆ การพับเบาะนั่ง ช่วงล่าง ภาพรวมการขับขี่ Option ให้ถึงขนาดสายไฟเลย (มีช่องใน YTเปรียบเทียบทั้งหมเ)
เอเวอร์เรสต์ดีกว่า
สิ่ง ยอดเขาที่แย่กว่าก็อาจจะเป็นเรื่อง Durability อย่างเดียวมั้งครับ
-
การขับขี่ ไปฟอร์ดครับ ช่วงล่างดี เกียร์สมูท
ผมขับฟอจูน2.4 ปี 2019 เทียบกับ เอเวอร์เรส2.2 ปี 2019 ของเพื่อน
เอเวอร์เรสไป 160 ได้แบบเนียนๆ ส่วนฟอจูนผมขับ 120 ก็ระแวงแล้วครับ
เรื่องช่วงล่างผมยกให้เอเวอร์เรสครับ แต่เครื่องยนต์ผมชอบ ฟอจูน 2.4 มากกว่า ตืนต้นดีกว่า
ส่วนระบบโน้นนี้ ผมชอบเอเวอร์เรสครับ กล้องถอยเค้าเลี้ยวตามพวงมาลัยเลย เบาะแถว 2 ก็พับไฟฟ้าน่าใช้
แอร์เปิดจากข้างหลังได้เอง ปรับอุณหภูมิแยกหน้า-หลัง
ส่วนข้างหน้า ปรับแยกซ้าย-ขวาได้อีก (ถ้าจำไม่ผิด)
-
ไปลองขับละกันน่าจะตัดสินได้
-
เอเวอร์เรสต์ครับ
-
everest ขับดีกว่า
ใช้สบายใจไป fortuner ครับ
-
ถ้าจะเอาเรื่องการขับขี่และความปลอดภัยก็เลือก Ford เพราะว่าดีกว่าทุกอย่าง คนเลือก Toyota Fortuner เค้าก็รู้โดยส่วนใหญ่ละว่าการขับขี่และความปลอดภัยเป็นรอง Ford ทุกด้าน Fortuner ไม่ใช่รถที่ขับขี่ดีอะไรและไม่ได้มีอ๊อพชั่นอะไรมากด้วยถ้าเทียบคู่แข่ง เพียงแต่ จขกท ถ้าเลือก Ford ก็ต้องทำใจกับข้อเสียที่ตามมาของมันได้ว่าด้านอื่น ๆ จะเป็นรอง Toyota Fortuner แทนในเกือบทุกด้านเช่นกัน
-
Top ทั้งคู่คงไฟ For สบายใจกว่า
ปีนข้ามฟุตบาทสูงๆก็ทำมาแล้ว ;D
-
ผมใช้ pjs อยู่ แต่อยากเชียร์ everest เพราะขับสวน ขับตามแล้วช้อบบๆๆ สวยย for ก็สวยนะแต่ปลายโมเดลแล้ว
-
รถคันเดียว FTN
รถคันที่สอง + EVR
-
กรณีนี้คนแนะนำมีโอกาสเจ็บตัวสูง
เพื่อความแน่ใจ พาเขาไปลองครับ
ถ้าเขารู้สึกว่าการขับขี่ไม่ต่าง ให้เขาเลือก FTN
แต่หากเขารู้สึก ให้เขาชั่งใจดู
-
ถ้าไม่ค่อยรู้เรื่อง ppv ให้เลือก Fortuner ไปเลย ก็จะเสี่ยงเจ็บตัวน้อย
* คนสนใจรถฟอร์ดทุกคน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเข้าไปอ่านปัญหาใน club ของ Facebook จะได้เตรียมใจถูกว่าอาจเสี่ยงเจออะไรบ้าง และต้องรับมืออย่างไร ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเจอปัญหา แต่ก็โดนแจ๊กพอดกันเยอะมากอย่างมีนัยสำคัญ
-
ได้ "ลอง" มาทั้งคู่
EVE ทั้งการขับขี่และอื่นๆ เหนือกว่า!! FTN ทุกประการ
ยกเว้นแค่ "ความไว้ใจได้ และราคาขายต่อ" แค่นั้น
-
เป็นข้อคิดในช่วงอยากเลือกรถ PPV เหมือนกัน มาถึงตอนนี้มีให้เลือก ข้อดีข้อเสีย มีทุกยี่ห้อ จะยอมรับในข้อไหนได้บ้างแค่นั้นเอง
อันดับแรก อยากเลือกรถตลาดก่อน เพราะเป็นคนไม่ค่อยรู้เรื่องรถอะไรมาก จึงอยากไว้ใจศูนย์ที่มีบริการเอาใจใส่ดีไว้ก่อน ข้อนี้ไม่พ้นยี่ห้อ โตโยต้า-อีซูซุ
ต่อมาด้านออฟชั่นที่ใส่มาให้ แต่ละยี่ห้อมีให้กั๊กหมด ในแต่ละด้านที่กั๊กนั้นก็เอามาปรับปรุงรุ่นต่อๆ มาเพื่อเพิ่มความสนใจและยอดขาย
ฟอร์ดจะเด่นด้านสมรรถนะ ช่วงล่าง ลูกเล่นออฟชั่นต่างๆ แต่ข้อเสียตามมาคือ ใช้ไปนานๆ ถ้ามีปัญหาขึ้นมา อะไหล่จะรอนานมั้ย รถจะกล้าชนด้านหน้ามามั้ย เพราะงานประกอบนี่ค่อนข้างยาก ช่างอู่นอกต้องรื้อแล้วประกอบเข้าไปอีกหัวจะปวด
ถ้าเทียบ 2 ยี่ห้อนี้ สนใจ everest มากๆๆๆ แต่พอจะกำเงินไปจองไปซื้อ ใจก็เขวมา Fortuner เพราะเหตุผลบางข้อข้างต้น และข้อเสียบางข้อเรรื่องช่วงล่างที่สามารถปรับจูนได้ แต่เดิมๆ ขับปกติก็ไม่มีปัญหาอะไร ขับแล้วมีความสุข ไม่ต้องคิดอะไรมากครับ
-
ขอบคุณทุกๆความเห็นครับ
พาเขาไปลองฟอร์ดมาแล้ว แต่ได้ลอง raptor ซะงั้น 555 ยังไม่ได้ลอง everest เพราะรถทดลองไม่อยู่พอดี ส่วน FTN ยังไม่ได้ลองครับ
นอกเรื่องนิดครับ ได้ลอง raptor สั้นๆ ชอบนะ แรงดี ไม่กระเด้นกระดอนเหมือนรถกระบะ ระบบความปลอดภัยต่างๆก็ถือว่าจัดเต็ม ราคาก็แรงตามเครื่อง(จริงๆก็เท่าๆกับ everest ตัวท๊อป)
-
มีคนมาปรึกษา เนื่องจากฝนตกน้ำท่วม เขาอยากจะหารถยกสูงๆหน่อยมาใช้เพิ่ม(ไม่ได้เปลี่ยนรถ) ระหว่าง2ตัวนี้อันไหนดีกว่ากันครับ (ตัดเรื่องที่ว่า fortuner ออกมานานแล้วและเรื่องราคาขายต่อนะครับ) อยากเรื่องการขับขี่ ระบบความปลอดภัยต่างๆครับ ผมเองไม่เคยใช้รถ PPV เลยซักคัน เคยใช้ที่ใกล้เคียงก็คือ CRV gen3 กับ X3 gen1 เลยไม่ทราบและไม่ได้ตามกลุ่ม PPV เลยครับ
ผมสรุปโจทย์นะครับ
-รถยกสูงๆ
-เรื่องการขับขี่
-ระบบความปลอดภัยต่างๆ
ถ้าตามโจทย์นี้ ซื้อ Ford Everest ได้เลยครับ
เพิ่มเติมให้นะครับ Ford Everest ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาหายไป เบาะที่นั่งแถว 2 สั้นลง และ เตี้ยลง นั่งไม่ค่อยสบาย(แต่ Ranger 4 ประตูเบาะนั่งแถว 2 ได้สบายกว่า แปลกใจไหมละ) เบรคตื้นและสั้น(เพราะเป็นเบรคไฟฟ้า)
-
ผมว่าถ้าเอาสบายใจ ก็ฟอจูนนั่นแหล่ะคับ ระยะยาวยังไงก็สบายใจกว่า แต่เอเวอเรสส่วนตัวได้มีโอกาสไปลองเทียบมาแล้ว ต้องยอมรับว่าช่วงล่าง ระบบต่างๆ ดีกว่าฟอจูนเยอะครับ อัตราเร่งก็ไม่ได้ขี้เกียจ การซัพพื้นถนนนุ่มเงียบกว่าฟอจูนมาก ถ้าชอบเอเวอเรสและไม่รีบมากก็อาจจะรอดูตัวปรับโฉมก็ได้ครับ ล็อตผลิตหลังๆระบบรถอาจจะไม่มีปัญหาก็ได้ครับ Mu-x ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีครับ ไม่จุกจิก ซ่อมบำรุงถูก
-
ขอเตือนอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่แค่ต้องการรถใช้งาน
แต่ไม่ได้ฝักใฝ่คลั่งใคล้รถ
คุณต้องไปลองขับเอง และขับแบบทุกๆ วันที่คุณใช้งาน
ไม่ต้องไปสาดโค้ง ไปกดคันเร่งให้รถพุ่งกระโจนแล้วเบรคแรงๆ
ให้หัวทิ่ม ถ้านิสัยคุณไม่ได้ขับและชอบเสี่ยงบนถนนแบบนั้น
เพราะผมเองเจอว่า รถที่ขับดีของหลายคนในนี้ มันมีช่วงล่างที่แข็ง
และสะเทือนเกินไปสำหรับผม ในขณะที่รถที่หลายคนบอกว่าช่วงล่างย้วย
แต่สำหรับผมว่ามันกำลังดี นั่นอาจเป็นเพราะผมขับรถแบบเรื่อยๆ
ไม่ชอบเสี่ยงแซง มุดในที่ๆ ไม่ควรทำ ถ้าจราจรข้างหน้าเริ่มชุลมุน
ก็จะชะลอแต่เนิ่นๆ และให้สัญญาณกับรถคันหลัง
สรุปที่จะสื่อคือ รถขับดี ขับไม่ดี ของแต่ละคน มาตรวัดความรับได้กับ
รับไม่ได้ของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน รวมไปถึงเรื่องปัญหาจุกจิกกวนใจ
จากตัวรถที่แต่ละคนจะรับมือกับมันได้ มันมีระดับไม่เท่ากันครับ
-
ขอเตือนอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่แค่ต้องการรถใช้งาน
แต่ไม่ได้ฝักใฝ่คลั่งใคล้รถ
คุณต้องไปลองขับเอง และขับแบบทุกๆ วันที่คุณใช้งาน
ไม่ต้องไปสาดโค้ง ไปกดคันเร่งให้รถพุ่งกระโจนแล้วเบรคแรงๆ
ให้หัวทิ่ม ถ้านิสัยคุณไม่ได้ขับและชอบเสี่ยงบนถนนแบบนั้น
เพราะผมเองเจอว่า รถที่ขับดีของหลายคนในนี้ มันมีช่วงล่างที่แข็ง
และสะเทือนเกินไปสำหรับผม ในขณะที่รถที่หลายคนบอกว่าช่วงล่างย้วย
แต่สำหรับผมว่ามันกำลังดี นั่นอาจเป็นเพราะผมขับรถแบบเรื่อยๆ
ไม่ชอบเสี่ยงแซง มุดในที่ๆ ไม่ควรทำ ถ้าจราจรข้างหน้าเริ่มชุลมุน
ก็จะชะลอแต่เนิ่นๆ และให้สัญญาณกับรถคันหลัง
สรุปที่จะสื่อคือ รถขับดี ขับไม่ดี ของแต่ละคน มาตรวัดความรับได้กับ
รับไม่ได้ของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน รวมไปถึงเรื่องปัญหาจุกจิกกวนใจ
จากตัวรถที่แต่ละคนจะรับมือกับมันได้ มันมีระดับไม่เท่ากันครับ
เห็นด้วยครับ รถหาลองไม่ยากทั้งคู่ กลุ่มเฟส ฯลฯ ก็สามารถไล่ดูปัญหาได้ ลองเอง และแนะนำ น่าจะเซฟสุด
-
กลัวเข้าศูนย์บ่อยๆเล่น Fortune
ถ้าไม่กลัวเข้าศูนย์,กินข้าวลิงแต่ยังรับได้ เล่น Everest
ส่วนตัวผมใช้ next gen ranger ในกลุ่มเจอปัญหาแทบทุกวันใจก็แอบหวั่นๆอยู่
-
ถ้าไม่มีความรู้เรื่องรถ ขับอย่างเดียว ไปโตโยต้า
ถ้าจะใช้ฟอร์ด ต้องหมั่นดูแลของเหลว เปลี่ยนถ่ายสม่ำเสมอ
ถ้าไห้ศูนย์จัดการ เขาจะทำตามคู่มือ ของเหลวต่างๆมันมีระยะเปลี่ยนถ่ายที่นานเกินไป
เช่น น้ำมันเฟืองท้าย, น้ำมันเกียร์ เปลี่ยนถ่ายที่ 2.4 แสนโล
แต่ตัวรถรับประกันแค่ 1.5 แสนโล นั่นหมายถึงเจ้าของรถต้องรับผิดชอบเองถ้าเกียร์พัง
-
ไป Everest เถอะ จากใจคนใช้ Fortuner รถอะไรก็ไม่รู้ให้ฟีลลิ่งเหมือนขับกระบะส่งของเลย พวงมาลัยหนัก โคลงเคลง กระด้าง เกียร์ไม่สมูท เบาะนั่งไม่สบายขับไกลๆปวดหลัง นี่ถ้าไม่ติว่าเมียชอบขายทิ้งไปนานล่ะ
-
เท่าที่อ่านคือมีรถอีกคันไว้อยู่แล้ว ซึ่งทำให้ไปหา everest ได้เลย เพราะ FTN ถ้าให้เลือกคงเพราะต้องเป็นรถคันเดียวของบ้าน(ที่บ้านก็ใช้เหตุผลนี้ซื้อมา พอตอนช่วงโควิดออก X1 มา กลายเป็นการเอาFTN ออกไปต่างจังหวัดคือไปตีกอล์ฟ นอกนั้นเอาX1ไปเพราะมันให้ความสบายในการขับมากกว่ากันเยอะ)
-
ถ้าจะมองฝั่งยี่ปุ่นที่ว่าใช้แล้วสบายใจทำไมมองแต่ฟอร์จูนละครับ อีซุมิวเอ็ก นิสสัน มิสซู น่าใช้กว่าฟอรจูนมากกว่าอีก
-
ถ้าจะมองฝั่งยี่ปุ่นที่ว่าใช้แล้วสบายใจทำไมมองแต่ฟอร์จูนละครับ อีซุมิวเอ็ก นิสสัน มิสซู น่าใช้กว่าฟอรจูนมากกว่าอีก
ก็โจทย์ของจขกท.มีแค่สองรุ่นนี้ไงครับ
-
คนที่มาปรึกษาตอนนี้ใช้อะไรอยู่ล่ะครับ สมาชิกจะได้แนะนำได้ถูก เพื่อให้เป็นแนวทางตัดสินใจ การไปทดลองขับมันก็ไม่ใช่คำตอบทั้งหมดที่จะเลือกรถสักคันหรอก ประสบการณ์จากคนรอบตัวก็มีส่วน
-
Everest ไม่ต้องคิดมาก
-
ขอบคุณทุกความเห็นอีกครั้งครับ
คนที่มาปรึกษามีรถที่ใช้ประจำอยู่แล้ว บ้านเขามีรถหลายคัน (อยู่กันหลายคนแต่ก็ใครใช้คันไหนก็ได้) มี BMW F30 320d Nissan Teana L33 Kia grand carnival gen3 คันล่าสุด camry HB 2021(ตัวล่าสุด) ช่วงพายุที่ผ่านมาถนนแถวๆบ้านเขาน้ำท่วม ต้องขับลุยน้ำ(จริงๆ grand carnival ก็พอไปได้ น้ำไม่ได้ท่สมสูงมากนัก) เขาเลยมองหารถยกสูงอีกคัน(คาดว่าจะปล่อยตัว L33 ที่อายุ 8ปี วิ่ง 8หมื่นโลออกมั้งครับ)
ปล ปกติเขาขับไม่เร็ว ไม่ซิ่ง ไม่มุด ขับในเมืองเป็นหลัก(ต่างจังหวัด) เดี๋ยวจะพาไปลองขับครับ
ปล ที่บ้านเขาไม่เคยใช้ฟอร์ดมาก่อน ก็กังวลเรื่องเจอ defect อยู่บ้าง แต่ก็พร้อมเปิดใจกับยี่ห้อใหม่อยู่นะ
-
ถ้าไม่กลัวเรื่องปัญหาที่ตามมาของ Ford Everest เล่นได้เลย รถเหนือกว่า Fortuner ทุกอย่าง
แต่ถ้าไม่พร้อมปวดหัวกับปัญหา อย่าเสี่ยง เพราะถ้าเจอมันไม่สนุกแน่ ๆ
-
ถ้าเอาที่สุดก็ไปยอดเขาเลยครับ
วัดกันเฉพาะตัวรถ คานกันกระแทกในส่วนต่างๆ การพับเบาะนั่ง ช่วงล่าง ภาพรวมการขับขี่ Option ให้ถึงขนาดสายไฟเลย (มีช่องใน YTเปรียบเทียบทั้งหมเ)
เอเวอร์เรสต์ดีกว่า
สิ่ง ยอดเขาที่แย่กว่าก็อาจจะเป็นเรื่อง Durability อย่างเดียวมั้งครับ
+1 ผมว่าการเก็บงานกับรายละเอียด ชิ้นส่วนคัสซี คานรับแรงกระแทก ford ทำมาดีมากจริงๆ จากปากคนรื้อเลย ทำยากกว่า แข็งกว่า แต่ข้อเสียคือความทนทั่วไปมันนี่แหละครับ กับพวกพลาสติกในห้องเครื่องอันนี้เริ่มเจอหลายคันละ เวลารถที่ใช้วิ่งยาวๆ พรลาสติกเริ่มกรอบเฉย หม้อพักน้ำ ของเพื่อนพ่อ 2 คัน แสนโลกว่าๆแตกทั้งคู่เลย
-
ถ้าดูแลรถได้ มีความรู้บ้างก็ไป Everest
ถ้าใช้งานอย่างเดียวก็คงไป Fortuner ครับ
-
เป็นโจทย์ที่ผมเองก็กำลังเลือกอยู่เช่นกันครับ ได้ไปลอง Eve Bi-turbo 4x2 Titanium รุ่นรองท็อป และรุ่น Legender 4x4 2.8 (ท๊อปสุดที่ยังไม่ใช่ GR) พบว่าแตกต่างกันดังนี้
การซับแรงสะเทือน Eve กินขาด เนียนกว่ามากๆ เป็นช่วงล่างที่สบาย นั่งนุ่มๆเนียนๆ แต่อาจจะโยนเวลาเลี้ยวมากกว่า (Body roll) ขณะที่ FTN คือ ดีกว่า FTN รุ่นปีแรกๆราวกับว่าเป้นรถคนละคัน (มี 2016 FTN 2.8 TRD Sportivo ของพี่ชายที่เคยยืมลองขับยาวๆมาอ้างอิงอยู่) คือช่วงล่างจะมีการซับแรงสะเทือนได้ดีขึ้น แต่ดีไม่เท่า Eve ยังให้ฟีลกระบะมากกว่า แต่ข้อดีคือ อาการโยนตัวทางด้านข้าง น้อยกว่า Eve แบบเห็นได้ชัด ถ้าขับเร็ว บทบู๊ จะมั่นใจกว่ากันแน่นอน
เบาะโดยสาร คู่หน้าทำได้ดีทั้งคู่ แต่แถวสองและแถวสาม ตัวเบาะของ FTN ผมว่าเป็นเบาะที่นั่งได้สบายกว่าของ Eve โดยเฉพาะตำแหน่งการวางขา FTN มีตำแหน่งการนั่งที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ขาเราไม่ตั้งชันขึ้นมาเหมือน Eve ทั้งสองแถวที่เหลือ ซึ่งเป็นข้อดีของการใช้เบาะแขวน ที่ทำให้มีพื้นที่ห้อยขามากกว่า Eve ที่จะนั่งชันเข่า เบาะบางกว่า และตัวชิ้นรองก้น ก็จะสั้นกว่า FTN ด้วย ทำให้รู้สึกว่าหากต้องนั่งโดยสารนานๆ FTN ได้เปรียบกว่ากันมากๆทันที
จุดแตกต่างถัดมาคือห้องเก็บของด้านท้าย ที่ Eve จะพับได้เรียบสนิทเป็นพื้นที่ขนของขนาดใหญ่ ของ FTN เบาะแขวนทำให้เกะกะ และทำให้เบาะแถวที่ 2 เอนไม่ได้หากพับเบาะแถวสามไว้ ส่วนเบาะแถวสองเองของ Eve แม้จะเอนได้เวลาเบาะแถวสามพับเก็บ แต่ด้วยความที่กลไกการปรับเอนจะทำให้มันดันหลังเรา สุดท้ายถึงปรับได้ก็นั่งไม่สบายอยู่ดี (ข้อนี้ FTN ก็เป็นนะ) จึงสรุปเอาว่าใน segment นี้ การจะปรับเบาะให้เอนมากๆได้ ก็ไม่ได้ช่วยให้นั่งนอนได้สบายมากขึ้น สุดท้ายก็ต้องถามตัวเองว่า พื้นที่เก็บของซีเรียสมากมั้ย มันไม่ได้ต่างกันแบบฟ้ากับเหวนะ แต่ Eve คืออยากจะเอนแถวสองก็เอนได้เลยไม่ต้องสนใจว่าแถว3พับอยู่ไหม แต่ของ FTN คือถ้่าแถวสามแขวนไว้ก็จะเอนเบาะไม่ได้
ส่วนของกำลังเครื่องยนต์เวลาขับใช้งานจริงๆบนถนน FTN ยืนหนึ่งทั้งเรื่องอัตราเร่ง ความรวดเร็วทันใจ และอัตราการบริโภคน้ำมัน ถ้าขับนิ่งๆยาวๆ ตัว 2.8 ถือว่าประหยัดใช้ได้เลย ส่วน Eve แม้จะไม่ไวเท่า แต่ผมว่าไม่ใช่รถที่ช้าเลย อัตราเร่งมากรวดเร็วดี แต่อาจจะมีความรู้สึกเหมือนรถมันหนักๆมากกว่าหน่อย ไม่ตัวเบาๆลอยๆเหมือน FTN ซึ่งกำลังเครื่องดูจะขยันขันแข็งกว่า
ประเด็นสุดท้ายคือ เรื่อง Defect ของ Eve ณ ตอนนี้ที่ผมสิงอยู่ในกลุ่ม Ford Ranger + Eve หลายๆกลุ่ม รุ่น Next gen ยังไม่พบปัญหาร้ายแรงอะไร ต่างจากรุ่นที่แล้ว ที่มีปัญหาหลายคัน และในเคสที่มีปัญหาก็มักจะเกิดจากพวกระบบล้ำสมัยต่างๆมันทำงานผิดปกติ ยังไม่เห็นพวกชิ้นส่วนเครื่องยนต์กลไกที่มีปัญหา และทุกเคส Ford Thailand ไม่ได้นิ่งนอนใจ ถือว่าแก้ปัญหาดีกว่าสมัยก่อนเยอะมาก
ปล. ทั้งคู่เป็นรถที่ดีครับ Eve ให้ออพชั่นมามากกว่า FTN ซึ่งก็ต้องมาดูว่าเราได้ใช้มันไหม อย่างผมเองพอมาดูจริงๆ Eve ให้มามากมาย ซึ่งเป็นประเภทมีก็ดี ไม่มีก็ไม่ติดอะไรเลยซะเยอะ (เช่นแถวสามพับไฟฟ้า หรือเตะเปิดฝาท้าย) ก็เลยมองว่า อยู่ที่เรื่องความชอบส่วนตัวแล้วหละ FTN ให้ของมาครบในสิ่งที่เราจะต้องใช้มันจริงๆ ถ้าจะขาดคงเป็น All speed cruise control เพราะมันยังไม่ถึงจุดหยุดนิ่ง เลยจะแพ้ Eve ถ้าเอามาใช้ในเมือง (แต่คนที่ใช้ระบบนี้ก็บอกว่าโดนตัดหน้าเพราะเว้นช่องว่างเยอะ รถเบรคหน้าทิ่มจนรำคาญอีก 555)
ปล2. มีคนบอกว่า FTN GR Sport ที่ใช้ช๊อคอัพ monotube มีบุคลิกการซับแรงสะเทือนและการขับขี่ นุ่มนวลใกล้เคียง Eve ผมกำลังว่าจะหาเวลาไปลองอยู่ครับ ยังไม่ขอฟันธง
-
จากใจคนชอบขับรถ
ถ้าเป็น gen ที่แล้ว Eve 3.2 Puma 5สูบ กับ Fortuner ปีเดียวกัน ไป Eve 3.2 แบบไม่ต้องคิดเลย เพื่อนไปรีแมพ ขับรถ 300ม้าเป็นพื้นฐาน ยังพอใจมาก
แต่พอเป็น new gen ที่ Eve ไม่มี 4A เครื่อง 2.0bi ที่ไม่รู้แก้ไขปัญหาเล็กๆน้อยๆหมดหรือยัง และ Fortuner GR ก็พัฒนาช่วงล่างมาได้ดีกว่าเดิมแบบรถคนละคัน ถึงแม้จะยังสู้ Eve ไม่ได้
ตอนนี้ผมกลับมองว่า จ่าย 1.9ล Fortuner GR คุ้มกว่า ทั้งสมองซีกซ้าย และขวา
ยกเว้นว่ามอง Raptor อยู่ อันนี้มีคิดหนัก แต่ก็รถคนละแบบกัน
-
คำตอบง่ายมากเลยครับ
คิดมาก ก็ไปฟอร์จูนเนอร์
ถ้าไม่คิดมาก ก็ไปยอดเขา
+1