Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: HLM ที่ ตุลาคม 18, 2022, 14:58:15
-
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/10/18/pI8SOg.jpg)
ราคาอย่างเป็นทางการ EV Mini Truck MT30 รถบรรทุก Mini Truck ไฟฟ้า 100%
748,500 766,500 บาท มอเตอร์เดี่ยว 80 แรงม้า แบตเตอรี่ 30 kWh
วิ่งได้ไกล 202 km.(NEDC)
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
https://www.headlightmag.com/2022-10-18-official-price-mine-mt30-mini-truck-ev/ (https://www.headlightmag.com/2022-10-18-official-price-mine-mt30-mini-truck-ev/)
-
ขนาดคงพอๆกับ แคร์รี่ แต่ราคาซื้อแคร์รี่ได้ 2 คัน ราคาแบบนี้รถไม่เท่ห์อีกด้วย คนซื้อต้องรักษ์โลกจริงๆ
แอบคิดว่าราคารถไฟฟ้าในอนาคตในไทย คงประมาณนี้ คือแพงกว่าเดิมเกือบเท่าตัว ถ้าภาครัฐในหลายประเทศไม่บังคับ ให้ใช่รดไฟฟ้าคิดว่ายังคงมีรถใช้น้ำมันอยู่แน่นอน
-
วิ่งเพื่อธุรกิจ คุ้มมากๆ เพราะ ชาจไวจริงๆ 15 นาที 80% ไม่ต้องง้อน้ำมันเลย พวกรถส่ง kerry น่าจะสนใจเยอะนะ
-
อยากให้มาตรฐานการชนมาเกี่ยวข้องกับภาษีด้วย ไม่ใช่รถอะไรเอามาขายก็ได้
-
ธุรกิจอะไรที่เหมาะกับรถแบบนี้มั้งน้าาา
ความเร็วสูงสุด 100 .. ต้องเป็นสายไม่รีบ ถึงก็ชั่งไม่ถึงก็ชั่ง ไม่เหมาะกับการทำรอบทำเวลา
ชาจน์เต็มวิ่งได้ 200 กิโล ในเมืองเท่านั้นเลย
สุดท้าย สภาพนี้ราคานี้ ถอยกระบะหัวเดียววิ่งคุ้มกว่าเยอะ ...
-
ขนาดคงพอๆกับ แคร์รี่ แต่ราคาซื้อแคร์รี่ได้ 2 คัน ราคาแบบนี้รถไม่เท่ห์อีกด้วย คนซื้อต้องรักษ์โลกจริงๆ
แอบคิดว่าราคารถไฟฟ้าในอนาคตในไทย คงประมาณนี้ คือแพงกว่าเดิมเกือบเท่าตัว ถ้าภาครัฐในหลายประเทศไม่บังคับ ให้ใช่รดไฟฟ้าคิดว่ายังคงมีรถใช้น้ำมันอยู่แน่นอน
ไม่เข้าใจการตั้งราคาเหมือนกันครับ คือตั้งเหมือนให้ใช้ยังไงก็ไม่คุ้มเท่ารถน้ำมัน โมเดลเดียวกันหรือขนาดพอๆกัน พอเป็น EV ต้องจ่ายเพิ่มไปอีก 2-3 แสน เกือบทุกคันเลย ซึ่งถ้าคนปกติทั่วไป วิ่งยังไงก็ไม่คุ้ม พอถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตอีก ผมไม่เข้าใจจริงๆ ทำ Switching Cost สูงขนาดนี้ ถ้าเงินไม่เหลือจริงๆ ขายรถน้ำมันไปเอา EV ยังไงก็ไม่ไหว กว่าจะคุ้มล่อไป 8-10 ปี
-
ส่งของในกรุงเทพ-ปริมณฑล วิ่งรอบละ 100โลพอ
กลับมาโหลดของไปชาจน์ไป 80% วิ่งต่อวนไป
ค่าไฟไม่ถึง 1บาท/กม. วิ่งวันละ 2-3รอบก็กำไรแล้ว
EA คิดมารอบนี้อาจไม่ถูกใจกองเชียร์คนใช้รถ แต่ถูกใจถูกตังค์ผู้ประกอบการเลยครับ
พวกแบรนด์ใหญ่ใช้สร้างภาพลักษณ์ แปะสติกเกอร์ว่าเป็นรถไฟฟ้า พร้อมตัวเลขลดการปล่อยคาร์บอนได้กี่ตันต่อปีได้อีก
-
เรื่องราคาก็พูดกันมาหลายครั้ง ว่าราคารถ EV มันต้องแพงกว่ารถสันดาปอย่างน้อย 1.5 เท่า บวกลบก็ประมาณนี้ สมมุติราคารถ 1 ล้าน รถ EV ต้องขายในรุ่นเดียวกันประมาณ 1.5 ล้าน ซึ่งประธานบริษัทรถยนต์หลายบริษัทก็พูดแบบนี้เหมือนกันหมด ต้นทุนและกำไรเขาเป็นแบบนั้น ซึ่งชาวเนตก็พยายามโยงใยให้มันราคาถูก หรือพยายามโน้มน้าวว่าอนาคตแบตจะถูก ราคารถไฟฟ้าจะต้องราคาถูก ผมว่ามันเป็นการคิดเอาเองฝ่ายเดียว แต่บริษัทรถเขาไม่คิดด้วย เรื่องการซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าเมื่อถึงจุดนึงต้องเปลี่ยนแบตราคาแบตก็เท่ากับหรือมากกว่าราคารถมือ 2 ที่เหลืออยู่ทั้งคันเวลานั้นเลย
-
เรื่องราคาก็พูดกันมาหลายครั้ง ว่าราคารถ EV มันต้องแพงกว่ารถสันดาปอย่างน้อย 1.5 เท่า บวกลบก็ประมาณนี้ สมมุติราคารถ 1 ล้าน รถ EV ต้องขายในรุ่นเดียวกันประมาณ 1.5 ล้าน ซึ่งประธานบริษัทรถยนต์หลายบริษัทก็พูดแบบนี้เหมือนกันหมด ต้นทุนและกำไรเขาเป็นแบบนั้น ซึ่งชาวเนตก็พยายามโยงใยให้มันราคาถูก หรือพยายามโน้มน้าวว่าอนาคตแบตจะถูก ราคารถไฟฟ้าจะต้องราคาถูก ผมว่ามันเป็นการคิดเอาเองฝ่ายเดียว แต่บริษัทรถเขาไม่คิดด้วย เรื่องการซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าเมื่อถึงจุดนึงต้องเปลี่ยนแบตราคาแบตก็เท่ากับหรือมากกว่าราคารถมือ 2 ที่เหลืออยู่ทั้งคันเวลานั้นเลย
ผมก็ งงตรรกะคนไทยจริงๆ
-
เรื่องราคาก็พูดกันมาหลายครั้ง ว่าราคารถ EV มันต้องแพงกว่ารถสันดาปอย่างน้อย 1.5 เท่า บวกลบก็ประมาณนี้ สมมุติราคารถ 1 ล้าน รถ EV ต้องขายในรุ่นเดียวกันประมาณ 1.5 ล้าน ซึ่งประธานบริษัทรถยนต์หลายบริษัทก็พูดแบบนี้เหมือนกันหมด ต้นทุนและกำไรเขาเป็นแบบนั้น ซึ่งชาวเนตก็พยายามโยงใยให้มันราคาถูก หรือพยายามโน้มน้าวว่าอนาคตแบตจะถูก ราคารถไฟฟ้าจะต้องราคาถูก ผมว่ามันเป็นการคิดเอาเองฝ่ายเดียว แต่บริษัทรถเขาไม่คิดด้วย เรื่องการซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าเมื่อถึงจุดนึงต้องเปลี่ยนแบตราคาแบตก็เท่ากับหรือมากกว่าราคารถมือ 2 ที่เหลืออยู่ทั้งคันเวลานั้นเลย
ชาวเน็ตเอารถสันดาปเป็นตัวตั้งแล้วคิดไปว่าระบบมอเตอร์ไฟฟ้ามันถูกกว่าเครื่องสันดาป
แต่ไม่เคยเอามูลค่าของแบตเตอรี่มาคิดอยู่ในหัวเลย อันนี้น่าจะเป็นผลจากข่าวสารจาก
สื่อที่คอยเป่าหู คอยกล่อมให้คิดไปอย่างนั้น ช่วงนี้บ้านเราเริ่มเป็นเจ้าของ BEV กันมากแล้ว
อีก 4-5 ปีข้างหน้า น่าจะต้องมีรถที่ต่องเปลี่ยนแบตกัน จะได้เห็น reaction ของการ
ที่ต้องจ่ายเงิน 4-5 แสน ให้กับการเปลี่ยนแบตให้รถเก่า ว่ามันจะเป็นอย่างไร
ขนาดทางฝั่งคนอเมริกันเองยังมีทิ้งรถ เผารถเลย แล้วทางฝั่งเราจะเป็นยังไง
-
ธุรกิจอะไรที่เหมาะกับรถแบบนี้มั้งน้าาา
ความเร็วสูงสุด 100 .. ต้องเป็นสายไม่รีบ ถึงก็ชั่งไม่ถึงก็ชั่ง ไม่เหมาะกับการทำรอบทำเวลา
ชาจน์เต็มวิ่งได้ 200 กิโล ในเมืองเท่านั้นเลย
สุดท้าย สภาพนี้ราคานี้ ถอยกระบะหัวเดียววิ่งคุ้มกว่าเยอะ ...
parcel delivery ครับ พวก kerry,Falsh,Lazada
วิ่งๆไม่ไกล วิ่งไม่เร็ว จอดบ่อย สตาร์ทบ่อย
กระบะต้องมีอย่างน้อย ค่าน้ำมัน 500บาท/วัน
อีกอย่างที่ผู้บริโภคชื่นชอบคือ สมัยนี้รถ Delivery เข้ามาในหมู่บ้านมากขึ้น เป็นกระบะแต่งซิ่ง(ใส่ตู้ทึบ)ซะครึ่งนึง วิ่งทีส่งของสะท้านไปทั้งหมู่บ้าน ควันมลพิษอีกไม่น้อย
ควรให้เป็น EV ได้แล้วครับ
-
ธุรกิจอะไรที่เหมาะกับรถแบบนี้มั้งน้าาา
ความเร็วสูงสุด 100 .. ต้องเป็นสายไม่รีบ ถึงก็ชั่งไม่ถึงก็ชั่ง ไม่เหมาะกับการทำรอบทำเวลา
ชาจน์เต็มวิ่งได้ 200 กิโล ในเมืองเท่านั้นเลย
สุดท้าย สภาพนี้ราคานี้ ถอยกระบะหัวเดียววิ่งคุ้มกว่าเยอะ ...
parcel delivery ครับ พวก kerry,Falsh,Lazada
วิ่งๆไม่ไกล วิ่งไม่เร็ว จอดบ่อย สตาร์ทบ่อย
กระบะต้องมีอย่างน้อย ค่าน้ำมัน 500บาท/วัน
อีกอย่างที่ผู้บริโภคชื่นชอบคือ สมัยนี้รถ Delivery เข้ามาในหมู่บ้านมากขึ้น เป็นกระบะแต่งซิ่ง(ใส่ตู้ทึบ)ซะครึ่งนึง วิ่งทีส่งของสะท้านไปทั้งหมู่บ้าน ควันมลพิษอีกไม่น้อย
ควรให้เป็น EV ได้แล้วครับ
Top speed 100 ก็ทำใจกันไป
แต่ Range 200 โลนี่ วิ่งในเมือง เอาจริงๆไม่พอนะครับ ผมเคยถามๆคนที่มาส่ง เค้าวิ่งกันวันนึงในเมือง 300-400 โลเลยนะครับ ถ้าต้องเสียเวลาเติมไฟระหว่างวัน เทียบแล้วจะคุ้มกับเสียเวลาเติมน้ำมันหรือเปล่า
-
จะรอดูบนถนนจริงครับ แต่คิดว่าคงเห็นไม่บ่อยแน่ๆ
-
ธุรกิจอะไรที่เหมาะกับรถแบบนี้มั้งน้าาา
ความเร็วสูงสุด 100 .. ต้องเป็นสายไม่รีบ ถึงก็ชั่งไม่ถึงก็ชั่ง ไม่เหมาะกับการทำรอบทำเวลา
ชาจน์เต็มวิ่งได้ 200 กิโล ในเมืองเท่านั้นเลย
สุดท้าย สภาพนี้ราคานี้ ถอยกระบะหัวเดียววิ่งคุ้มกว่าเยอะ ...
พวกโรงงาน หรือเขตอุตสาหกรรม หรือตลาดใหญ่ๆ น่าจะมีนะ เพราะพื้นที่ใหญ่ แต่การขนของในโกดัง หรือพื้นที่ๆต้องการรถเล็กๆ สะดวกๆ ก็น่าจะมี ไม่ต้องใช้กระบะ ส่วนจะถูกหรือแพง มันก็แล้วแต่ความคุ้มค่าของแต่ละคน