Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: HLM ที่ พฤศจิกายน 02, 2022, 14:00:26
-
ผลทดสอบ อัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลือง BYD ATTO 3 Extended Range
ราคา 1,199,900 บาท
อ่านเพิ่มเติม : https://www.headlightmag.com/2022-11-02-acceleration-fuel-consumption-byd-atto-3-extended-range/
[img width= height= alt=vOmBbn.jpg" border="0]https://sv1.picz.in.th/images/2022/11/02/vOmBbn.jpg[/img]
-
อัตราเร่งน่าผิดหวังสำหรับรถไฟฟ้า แต่เหลือเฟือสำหรับใช้ประจำวัน
-
สวยงามน่าใช้มากคับ อัตราเร่งถือว่ารับได้ เหลือเฟือสำหรับใช้งานประจำวัน ชอบการตกแต่งภายในมากๆ
-
อัตรตราเร่ง 0-100 สำหรับผมถึงแม้จะได้ได้แค่ 8-9 วิ ก็เหลือๆต่อการใช้งานละ เอาให้วิ่งได้ไกลๆพอ
-
ในระดับราคาไม่เกิน 2 ล้าน เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่รู้สึกดูดีที่สุด
ดูไม่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าจ้าๆ ดูกลมกลืนดี อัตราเร่งเพียงพอ Topspeed ในเมือง 160 นี่ก็คงเพียงพอมาแล้ว
ราคาขนาดนี้ก็กวาดยอดจองเรียบ รอดูบริการหลังการขายว่าจะทำได้ดี รึ ทำได้ตามาตราฐานจีน
-
ไม่เลวเลยนะ แต่ไม่ชอบภายในเท่าไหร่เลย แต่เอาเป็นว่าน่าจะมาดีเลยแหละ
-
อยากเอา 2 ดีเซลไปเทิร์นเลย แต่ดูจากกระแสและยอดจองแล้ว น่าจะสืบสานตำนานรอรถข้ามปีไปอีก 1 รุ่น ::)
-
อัตราเร่งถือว่าโอเคเลยครับ คล่องตัวในชีวิตประจำวัน
แต่วิ่ง 110 กม./ชม. ถ้าแบตเต็มจนแบตหมดวิ่งได้ประมาณ 300 กม. นิดๆ(ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกมั้ย)
แต่ถ้าวิ่ง 100 นึงก็น่าจะได้ประมาณ 340 กม. อยู่นะครับ ถือว่าใกล้เคียงระยะที่เคลม
420 กม. WLTP ถ้าแปลงเป็น EPA ก็ได้ประมาณ 350 กม.
-
มีผมคนเดียวรึเปล่าเนี่ยที่เกลียดภายในที่ปูดๆ นูนๆ :'( :'(
-
ผมก็ไม่ค่อยชอบภายในเหมือนกันครับ โดยเฉพาะสายกีตาร์ จะให้มาทำไมก็ไม่รู้ แต่ภายนอกสวยมากกกกก
-
ผมก็ไม่ค่อยชอบภายในเหมือนกันครับ โดยเฉพาะสายกีตาร์ จะให้มาทำไมก็ไม่รู้ แต่ภายนอกสวยมากกกกก
+1
แล้วก็ไอ้ช่องแอร์แผ่นซีดีนั่นอีก จอไมล์อันจิ๋วๆนั่นก็ด้วยดูเหมือนรถเด็กเล่นยังไงไม่รู้ เบาะกับหัวหมอนติดกันปรับไม่ได้ก็ไม่ชอบ แต่ถายนอกชอบสุดๆล่ะโดยเฉพาะหนวดมังกร ไว้ดูคนอื่นขับมองแต่ข้างนอกพอ
-
อัตราเร่งถือว่าโอเคเลยครับ คล่องตัวในชีวิตประจำวัน
แต่วิ่ง 110 กม./ชม. ถ้าแบตเต็มจนแบตหมดวิ่งได้ประมาณ 300 กม. นิดๆ(ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกมั้ย)
แต่ถ้าวิ่ง 100 นึงก็น่าจะได้ประมาณ 340 กม. อยู่นะครับ ถือว่าใกล้เคียงระยะที่เคลม
420 กม. WLTP ถ้าแปลงเป็น EPA ก็ได้ประมาณ 350 กม.
เรื่องอัตราสิ้นเปลืองรถ BEV และ HEV นี่ แทบจะไม่ตรงไปตรงมาแบบทดสอบวิ่งนิ่งๆ เลยครับ
คือถ้าวิ่ง 110 กม./ชม. นี่ น่าจะได้ 300 กม. ตามพี่ว่า แต่การใช้งานจริงเราไม่มีทางที่จะวิ่ง
นิ่งๆ 110 กม./ชม. เป็นระยะทาง 300 กม. ได้เลยครับ ยังไงต้องมีผ่อน มีเบรค ซึ่งตอนนั้น
ระบบมันก็จะ regen ไฟกลับมาให้เราวิ่งได้ระยะทางเพิ่มอีก ต่างจากรถสันดาปที่จ่ายน้ำมันไปแล้ว
มันจะไปเลยไม่กลับมาอีกครับ แต่ในแต่ของผู้ใช้งานจริง ขับๆ ไปจนแบตเหลือ 10%, 5%
ก็ร้อนลนหาที่ชาร์จแล้วใช่มั้ยครับ เราคงไม่สามารถขับจนเหลือเกือบๆ 0% หรอกนะ
ดังนั้นระยะทางในการใข้งานในแต่ละครั้งอย่างอุ่นใจก็จะสั้นลงครับ
-
ส่วนมากไม่ค่อยชอบข้างในกันหรือนี่ ผมนี่อย่างชอบดูการ์ตูนๆดี
-
ภายนอกสวยดีครับ
ส่วนภายในรู้สึกแปลกใหม่ดี และมีสไตล์ของตัวเอง ไม่ถือว่าน่าเกลียด แต่ใช้ไปสักพักก็เบื่อเหมือนเดิมอยู่ดี
สิ่งที่สนใจคือนั่งสบายไหม ขับไกลๆดีรึเปล่า ถ้าผ่านคือจบ
-
อัตราเร่ง และ 80-120 เป็นสไตล์รถไฟฟ้า
ตอนนี้ผมอยากรู้ว่า ถ้าขับแบบซิ่งๆมุดๆ บ้าๆบอๆ แล้ว ระยะทางมันจะน้อยลงขนาดไหน
-
คนใช้พวกนี้ต้องเปลี่ยนนิสัยกันหน่อย ยิ่งขับใจกลางกรุงนะครับ 555
เห็นต่างประเทศจอดตายกลางถนนกันบ้าง
ตำรวจถาม : ทำไมไม่ชาร์จมา
คนขับ : ก็กำลังจะไปชาร์จนี่ไง แต่รถมันติดก็จะให้ทำยังไง ;D
-
ตามผลทดสอบมาตรฐานของ HLM:
รถใช้ไฟฟ้า 5.113 km/kwh
แบตเตอรี่ 60.48kwh
ถ้าชาร์จเต็ม 100% รถจะวิ่งได้ราวๆ 310km
แล้วต้องขับแบบไหนถึงจะได้ 480km?
-
ตามผลทดสอบมาตรฐานของ HLM:
รถใช้ไฟฟ้า 5.113 km/kwh
แบตเตอรี่ 60.48kwh
ถ้าชาร์จเต็ม 100% รถจะวิ่งได้ราวๆ 310km
แล้วต้องขับแบบไหนถึงจะได้ 480km?
ผมก็สงสัยเค้าเทสกันยังไงได้ 480Km ไม่ใช่ว่าชาร์จเต็มแล้วย่องๆไปแค่ 1% จากนั้นคูณ 100 นะ
-
ทำไมไฟหน้าเป็นสีน้ำเงินครับที่กระจังหน้า
-
อัตราการเร่งดูไม่ได้หวือหวา แต่เหลือเฟือในชีวิตประจำวันมากครับ
-
ตามผลทดสอบมาตรฐานของ HLM:
รถใช้ไฟฟ้า 5.113 km/kwh
แบตเตอรี่ 60.48kwh
ถ้าชาร์จเต็ม 100% รถจะวิ่งได้ราวๆ 310km
แล้วต้องขับแบบไหนถึงจะได้ 480km?
ผมก็สงสัยเค้าเทสกันยังไงได้ 480Km ไม่ใช่ว่าชาร์จเต็มแล้วย่องๆไปแค่ 1% จากนั้นคูณ 100 นะ
นี่เขาทดสอบ 0-100 , 80-120 ไปอย่างละ แปดรอบนะครับ
การทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า จะกินกำลังช่วงนี้มากที่สุด จะกินกระแสไฟฟ้ามากกว่าปกติหลายเท่า หากขับปกติ ได้ความเร็วเดินทางคงที่แล้วการกินกระแสไฟฟ้าจะน้อยกว่านี้ครับ
-
ตามผลทดสอบมาตรฐานของ HLM:
รถใช้ไฟฟ้า 5.113 km/kwh
แบตเตอรี่ 60.48kwh
ถ้าชาร์จเต็ม 100% รถจะวิ่งได้ราวๆ 310km
แล้วต้องขับแบบไหนถึงจะได้ 480km?
ผมก็สงสัยเค้าเทสกันยังไงได้ 480Km ไม่ใช่ว่าชาร์จเต็มแล้วย่องๆไปแค่ 1% จากนั้นคูณ 100 นะ
นี่เขาทดสอบ 0-100 , 80-120 ไปอย่างละ แปดรอบนะครับ
การทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า จะกินกำลังช่วงนี้มากที่สุด จะกินกระแสไฟฟ้ามากกว่าปกติหลายเท่า หากขับปกติ ได้ความเร็วเดินทางคงที่แล้วการกินกระแสไฟฟ้าจะน้อยกว่านี้ครับ
การทดสอบอัตรากินไฟฟ้าเว็บนี้เขาแยกการทดสอบอัตราเร่งครับ เขามีมาตรฐานในการวัดแต่ละอย่างแยกกันครับ
-
ตามผลทดสอบมาตรฐานของ HLM:
รถใช้ไฟฟ้า 5.113 km/kwh
แบตเตอรี่ 60.48kwh
ถ้าชาร์จเต็ม 100% รถจะวิ่งได้ราวๆ 310km
แล้วต้องขับแบบไหนถึงจะได้ 480km?
ผมก็สงสัยเค้าเทสกันยังไงได้ 480Km ไม่ใช่ว่าชาร์จเต็มแล้วย่องๆไปแค่ 1% จากนั้นคูณ 100 นะ
นี่เขาทดสอบ 0-100 , 80-120 ไปอย่างละ แปดรอบนะครับ
การทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า จะกินกำลังช่วงนี้มากที่สุด จะกินกระแสไฟฟ้ามากกว่าปกติหลายเท่า หากขับปกติ ได้ความเร็วเดินทางคงที่แล้วการกินกระแสไฟฟ้าจะน้อยกว่านี้ครับ
https://en.wikipedia.org/wiki/New_European_Driving_Cycle
NEDC เทส ที่ความเร็วไม่ได้สูงครับ สูงสุดที่วิ่งคือ 120 ซึ่งมันก็คือความเร็วสูงสุดที่ใช้ได้ของหลายๆประเทศแถบนั้นครับ
ปัจจัยหลักที่ทำให้มันต่างเยอะ ผมว่าน่าจะเพราะ ความเร็วที่เทส มันต่างกันค่อยข้างมาก
และมันมีการยกคันเร่งปล่อยไหลเป็นช่วงๆ ไม่รู้ว่าตัวรถสามารถ Regen ไฟกลับเข้า Battery เองได้ไหม
-
ใช้ใยชีวิตประจำวันนี่เหลือๆละครับ
ส่วนคอวรับรถนั้น...
ทำใจครับ
ใครจองไว้ของให้ได้รถเร็วๆครับ
-
รถไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีเกียร์เดียว
ลักษณะมอเตอร์การกินไฟจะเพิ่มตามเท้าเหยียบ
จะไม่เหมือนรถน้ำมันที่มีความเร็วนึงจะประหยัดสุด เมื่อกำลังเครื่องกับเกียร์ลงตัวกันครับ
เชื่อมั้ยว่าถ้ามีการวัดอัตราสิ้นเปลืองที่ประมาณ 60 km/h
ผลการประหยัดจะดีกว่านี้เป็นหลักหลายสิบเปอร์เซ็นต์เลยครับ เมื่อเทียบกับ 110 km/h
ซึ่งให้ประมาณเล่นๆ อาจจะไปถึง 7 km / kwh
คิดมั่วๆย้อนกลับจาก wltp ที่วิ่ง 60 km/h
แบบค่อยๆเหยียบและความเร็วสูงสุดไม่เกินนี้ ผมว่าทำได้นะเออ
-
สงสัยอยู่อย่าง ช่วงนี้อากาศหนาวมาก
กับรถไฟฟ้าส่งผลดีเหมือนรถน้ำมันเวลาทดสอบบ้างไหมครับ
-
ตามผลทดสอบมาตรฐานของ HLM:
รถใช้ไฟฟ้า 5.113 km/kwh
แบตเตอรี่ 60.48kwh
ถ้าชาร์จเต็ม 100% รถจะวิ่งได้ราวๆ 310km
แล้วต้องขับแบบไหนถึงจะได้ 480km?
ผมก็สงสัยเค้าเทสกันยังไงได้ 480Km ไม่ใช่ว่าชาร์จเต็มแล้วย่องๆไปแค่ 1% จากนั้นคูณ 100 นะ
นี่เขาทดสอบ 0-100 , 80-120 ไปอย่างละ แปดรอบนะครับ
การทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า จะกินกำลังช่วงนี้มากที่สุด จะกินกระแสไฟฟ้ามากกว่าปกติหลายเท่า หากขับปกติ ได้ความเร็วเดินทางคงที่แล้วการกินกระแสไฟฟ้าจะน้อยกว่านี้ครับ
https://en.wikipedia.org/wiki/New_European_Driving_Cycle
NEDC เทส ที่ความเร็วไม่ได้สูงครับ สูงสุดที่วิ่งคือ 120 ซึ่งมันก็คือความเร็วสูงสุดที่ใช้ได้ของหลายๆประเทศแถบนั้นครับ
ปัจจัยหลักที่ทำให้มันต่างเยอะ ผมว่าน่าจะเพราะ ความเร็วที่เทส มันต่างกันค่อยข้างมาก
และมันมีการยกคันเร่งปล่อยไหลเป็นช่วงๆ ไม่รู้ว่าตัวรถสามารถ Regen ไฟกลับเข้า Battery เองได้ไหม
เรื่อง regen มีแน่นอนซึ่งเป็นบุคลิกการทำงานที่สำคัญของรถไฟฟ้าและรถไฮบริดเลยครับ
ซึ่งคุณสมบัตินี้แหละที่ทำให้เราใช้หลักการเดียวกันมาอ้างอิงเปรียบเทียบอัตราการใช้พลังงาน
ของกลุ่มรถ xEV กับรถสันดาปล้วนๆ ไม่ได้เลยครับ
-
มีผมคนเดียวรึเปล่าเนี่ยที่เกลียดภายในที่ปูดๆ นูนๆ :'( :'(
ไม่ใช่คุณคนเดียวครับ มีเพื่อนละ1
-
น่าใช้เลย
ผมว่าค่ายอื่นต้องเร่งแก้เกมส์แล้ว โดยเฉพาะ Neta ที่ดูเงียบไปเลย อาจจะต้องหารุ่นอื่นมาเสริมแล้ว รุ่น V ส่วนตัวผมว่าไม่สวยเอาซะเลย
-
มีผมคนเดียวรึเปล่าเนี่ยที่เกลียดภายในที่ปูดๆ นูนๆ :'( :'(
ไม่ใช่คุณคนเดียวครับ มีเพื่อนละ1
ไม่ชอบภายในด้วยคนครับ ดูพยายามมากเกินไป เลยดูล้นๆ อยากได้โน่น นี่ นั่น แต่ผสมกันไม่ลงตัวเลย
-
ข้างนอกสวยดี สเปคก็ดี แต่ข้างในทำไมต้องประหลาดขนาดนั้น