Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: shipcake ที่ พฤศจิกายน 10, 2022, 09:17:09
-
กระทู้ที่แล้วผมตัวเลือกในใจ pajero แต่ทั้งปัญหาอะไรต่างๆ และดูรีวิวเมื่อคืน CRV คือพื้นฐานรถเก๋ง วงเลี้ยวแคบ คันเล็กว่า ไม่สูงโปร่งเกินไป ได้ auto breakhold ที่ผมได้ใช้ ทีนี้ผมเลยคิดว่า CRV เบาะกับผมแทน pajero เพราะผมยังคงชอบรถคันเล็ก ต้องขับเข้าซอยตลาดที่โคตรจะวุ่นวายคนเดินเต็มสองข้างทาง แต่มีข้อสังเกตเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายดังนี้
1. เบนซินกินน้ำมันจนผมรับไม่ได้ (มาร์ชวันละ 150 บาท ขับไปทำงาน แต่เบนซิน คำนวณจาก 9 โลลิตร ต้องเสียเงินถึงวันละ 300 กว่าบาท ซึ่งโหดเกินจะรับได้ เช่นเดียวกับปาเจโร่)
2.ผมไม่ค่อยนิยมอยากติดแก๊ส เพราะรถต้องซื้อมาผ่อนเพิ่ม 6-7 ปี เท่ากับรถคันนี้จะมีอายุ 10 กว่าปี++ เกรงว่าจะเสียมากกว่าได้กับค่าซ่อมและปัญหาเครื่องร้อนเกินกว่าเบนซิน
ทีนี้ผมเลยมาดูดีเซล 1.6 เพราะเสียภาษีก็น้อยกว่า แล้วผมชอบขับชานเมือง แบบไม่เร่ง คือพอรู้จากยูทูปในรุ่นปาเจโร่ว่าอาการน้ำดันมักเกิดจาก ขับเร่ง ขับแช่เกินไป ระบายความร้อนไม่ทันจนซีลยางรั่ว แต่ผมเป็นผมขับช้า ไม่ชอบเร่งแซงเท่าไหร่ ข้อดีที่ผมคิดว่าผมชอบมากกว่า ปาเจโร่
1.CRV 1.6 ได้เบรกโฮล ซึ่งผมชอบมากกว่าได้เบรกไฟฟ้าแต่ไม่มีเบรกโฮล ซึ่งจะมีมาทำไมไม่รู้
2.ได้ฝาท้ายไฟฟ้าจากโรงงาน
3.ประหยัดน้ำมัน วิ่งชานเมืองเป็นหลัก
ช่วยรบกวนปัญหาของดีเซลทีครับ ระแวงมากๆ กลัวซ้ำรอย CX5
-
CRV ดีเซล ของคนรู้จัก ใช้ต่างจังหวัด
มีปัญหา DPF ตัน ไฟเครื่องโชว์ เครื่องไม่มีกำลัง อืด
กลับไปนอนศูนย์บ่อยมากจนเซ็งเลยครับ
เมื่อล่าสุด ความร้อนขึ้น ไปนอนศูนย์อีก เคลมฝาสูบ ปะเก็น
ค้นนี้ค่อนข้างจุกจิกเลย
ส่วนการขับขี่ ทางไกลดี มั่นใจได้ ขับในเมืองจะอืดๆ
-
มีเจอเรื่องเกียร์บางคัน แต่อยู่ใน warranty ก็เคลมไป
ของน้องที่ทำงาน lot แรก ดีเซล ขับสอง ทะลุแสนไปไกลละ รถวิ่งโหด ยังอยู่รอดปลอดภัย ไม่งอแง
-
เล็งๆอยู่เหมือนกัน แต่ก็กลัวปัญหาเครื่องยนต์ดีเซล แปลกใจอย่าง เครื่องดีเซลในกระบะไม่ค่อยมีปัญหาอะไร พอมาลงในเก๋ง ชอบมีปัญหา
-
เล็งๆอยู่เหมือนกัน แต่ก็กลัวปัญหาเครื่องยนต์ดีเซล แปลกใจอย่าง เครื่องดีเซลในกระบะไม่ค่อยมีปัญหาอะไร พอมาลงในเก๋ง ชอบมีปัญหา
มีปัญหาใน pajero กับ triton ไงครับ ในคลับเค้าบ่นกันว่า มิตซูแพ้ความร้อน
-
เล็งๆอยู่เหมือนกัน แต่ก็กลัวปัญหาเครื่องยนต์ดีเซล แปลกใจอย่าง เครื่องดีเซลในกระบะไม่ค่อยมีปัญหาอะไร พอมาลงในเก๋ง ชอบมีปัญหา
ก็ลองให้กระบะโดนมาตราฐานไอเสียเหมือนเก๋ง จนต้องยัด DPF หรือต้องจูนลดมลพิษบ้างสิครับ ยับแน่
ที่เจอๆ ก็เกียร์ถ้าหมดประกันก็หนักอยู่ เครื่องก็มีนิดหน่อย แต่คนใช้น้อย เคสพังก็เลยน้อย ตอนแรกจะเปลื่ยนจาก Gen4 ที่บ้านไปเอาตัวใหม่เลยเบรกยาว ใช้ตัวเดิมเบนซินไปละสบายใจ นานๆใช้ที
ปล.ถ้ามันจะทยอยพัง วิ่งแสนนิดๆยังไม่ค่อยเจอหรอกครับ สักแสนห้าน่าจะมารัวๆ ถึงตอนนั้นถามตัวเองว่าไหวไหมถ้าหมดประกัน หรือจะชิงขายออกไปก่อน
Mz2 ผม เลยแสนไปไกลก็ไม่มีอะไร มารัวๆ ตอน 1.75แสนโลนี่ละ
-
ผมเห็นในคลับ CRV ดีเซล พอได้มีปัญหาแล้วราคาหนักมากๆนะครับ
ถ้าไม่อยู่ในประกันค่าดูแลแพงมากๆ แค่ชุดเทอร์โบก็หลักแสนแล้ว
ในอนาคตคุณจะมีปัญหาอะไหล่ของเจ้าดีเซล 1.6 ตัวนี้แน่นอน
เอาจริงๆผมยังไว้ใจดีเซลมาสด้ามากกว่าฮอนด้าซะอีก
เพราะอู่นอกที่ซ่อมดีเซลมาสด้าเยอะกว่า
คิดจะเล่น CRV อย่าเล่นดีเซลเลยครับ
เบนซิล 2.4 เสถียรสุดๆแล้วๆ ทนทาน อะไหล่เยอะแยะ
ในอนาคต 10 ปีอะไหล่ก็ไม่ขาดหาย
-
บอกตรๆงนะครับ suv ดีเซล มีแค่มาสด้าที่พอมีอู่นอก
และโดยปกติทั่วไป ดีเซลซ่อมแพงกว่าเบนซินมาก
ราคาอะไหล่ ฮอนด้าดีเซลเทอร์โบ แสนกว่า เกียร์สามแสนกว่า
เทอร์โบอาจจะพอแปลงได้ เกียร์พังที ซ่อมนานเลยละ
จริงๆโจทย์คุณวางแผนมีลูกงบไม่เยอะ ผมว่า ertiga,Xpander,sienta เหลือๆเลยนะครับ
-
ถ้าเล็ง CRV ไว้ ผมว่าหนีไปเอาตัวเบนซิลดีกว่าครับ
เพราะเห็นว่าวิ่งชานเมืองเป็นหลัก และไม่ได้ขับเร็ว เรื่องการกินน้ำมันเลยไม่น่าจะเท่าไหร่
อย่างน้อยก็ไม่ต้องห่วงปัญหาที่เจอในตัวดีเซล
-
ไม่น่าซื้อ เครื่องดีเซลออกมาขายในไทย Gen เดียว แล้วก็เลิกไปแล้วด้วยสิ
-
เอาตรงๆ ผมยอมไปเสี่ยงกับ CX5 ดีเซลดีกว่าครับ
ขับดีกว่า อะไหล่เยอะกว่า อู่นอกมี รู้ปัญหาว่ามีอะไรบ้าง
ในขณะที่ดีเซลฮอนด้า มีทั้งเกียร์ ทั้ง DPF ไหนจะปัญหาความร้อนอีก แถมได้ข่าวแว่วๆมาว่ามีเคสเทอร์โบลาโลกก่อนแสนโลก็มี
-
ถ้ารักและอยากใช้ ก็อุด EGR ปิด DPF ซะมันก็ใช้ได้แล้ว แต่หาอู่ทำยากหน่อยนะ ถ้ามาสด้ามีอู่ซัพพอร์ทให้มากกว่าเยอะ
-
ขอบคุณทุกท่านมากคร๊าฟ ขายรุ่นเดียวแล้วยกเลิก นึกถึงสมัยรถเหินสะพาน รุ่น NAZA เลยครับ เคยเห่อกันใช้แล้วก็หายไปจากระบบ
-
กลัวอะไหล่จะหายากครับ ผมหามือ 2 cx5 ดีเซล ราคาถูกมาก เอามาแก้ปัญหาซ่อมแบบจบ ๆ
ขับสัก 2แสนโลก็คุ้มแล้วครับ ในคลับ cx5 ช่วยกันแก้ปัญหาดีมากครับ
-
Honda Thailand ทั้ง Brand ตอนนี้ ดีเซลอยู่รุ่นเดียว
เท่าที่ได้ยินข่าวมา รถใหม่ไม่ประกอบรุ่นดีเซลแล้วด้วย แต่ออฟชั่น ดันไปกองอยู่ดีเซลหมด
แนะนำว่า เลี่ยงได้ เลี่ยงดีเซลฮอนด้าครับ
โจทย์นี้ขอไป CX-5 ดีกว่า
-
ถ้าจะเอา crv diesel ไป pajero ดีกว่าครับ
ขับแบบ จขกท. น้ำไม่ดันแน่ๆ
แต่ถ้า pajero คันใหญ่ไป ลองไปดู corolla cross ไหมครับ
น่าจะครบตรงตามต้องการ ขาดแค่ abh ซึ่งถ้าขับชานเมือง รถไม่ติด คงไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่
ขนาดก็เล็กกว่า crv นิดหน่อยครับ
-
อย่างที่หลายๆคนบอกครับ
Crvแนะนำเบซิน อาจจะดูกินดุหน่อย แต่ไม่ได้มากเท่าตัวเก่าๆนั่น8-9โลลิตรกันเลยทีเดียว
แล้วเครื่อง2.4ตัวนี้เสถียรมาก ส่วนเกียร์crvขึ้นกับการใช้งานเราครับ ถ้าไม่คลั่งกระแทกตั้งแต่ออกตัวไม่ค่อยมีปัญหาอะไร
X trailที่คนอื่นว่าเกียร์เปราะผมขายไปตอน6ปีเพราะรำคาญเรื่องแอร์ แตาเกียร์ยังปกติครับ
แต่ถ้าจะเอาcrossover desiel เห็นด้วยกับชอยซ์cx5 ดีเซลปีเดียวกันราคาถุกกว่าcrvแล้วออปชั่นแน่นกว่า cx5 xdlเป็นรถที่ออปชั่นแน่นสุดในกลุ่มsegmentเดียวกันเจนเดียวกัน แต่แลกกับการที่แถวหลังนั่งไม่สบายเท่าcrv!!! แต่คู่หน้าโปร่งไม่ต่างกันเท่าไรครับ ที่นี้ปัญหามันติดตรงนี้ล่พครับว่าคุณแม่จะนั่งสบายมั้ย
ส่วนเรื่องน้ำดัน อู่นอกมีตัดdpfอุดegr หรือล้างระบบมันบ่อยๆช่วยไปด้วยครับ มันมาจุกจิกตรงนี้แทน แต่ทำแล้ว ได้รถที่ขับสนุกขึ้นครับ แต่โจทย์ของจขกท.ไม่ได้เอาสนุกนี่ล่ะครับ555
สรุปเชียร์crv 2.4 ELมากกว่าครับ ส่วนตัวรถไซส์นี้ผมไม่ใช้กล้องรอบคันครับ เฉยๆกันมันมาก crvที่ผมขับคันแรกไม่มีกล้อง ขยับมาcx5ตัวแรกก็ยังมีแค่กล้องหลังซึ่ง แค่นั้นพอจริงๆ ขณะที่xtrailซื้อหลัง กัน1ปีมีกล้องรอบคัน ราคาถูกกว่าอีก!!! ตอนนีัขยับมาอยู่ในจุดที่ไมีมีกล้องรอบคันไม่ได้ละครับ ซื้อรถใหญ่ขึ้นไปเรื่อยละกลัวไปขูดคันอื่นครับ
อยากบอกว่าตอนcrvที่เริ่มฝึกขับ ไม่กล้องก็จริงปต่ผมถอยคล่องกว่ารถที่มีกล้องรอบคันทุกคันที่ผมมีตอนนี้มากๆ แปลกดี
-
เชียร์CRV 2.4เบนซิน ติดLPGครับ
เลือกร้านติดตั้ง+ชุดLPGคุณภาพ (ประมาณ30,000+++) การใช้งานLPG แรงเหมือนน้ำมัน
ในคลัปGen3 มีคนใช้LPG 4แสนกิโล เครื่องยนต์ยังปกติ
Hondaซ่อมบำรุงไม่แพงเลย อะไหล่แท้ เทียบเยอะ
เกียร์CVT ค่าoverhual ซ่อมเกียร์20,000 ทางอู่รับประกัน1ปี
-
กำลังเล็งรถใช้งานเหมือนกันครับ วิ่งประมาณ วันละ 100 โล
ส่วนตัวดู Colorra Cross/ HR-V Hybrid ครับ น่าจะตอบโจทย์เรื่องค่าน้ำมันได้ประมาณหนึ่ง หรือหาพวกไฟฟ้าไปเลย ถ้าใช้สัก 5-10 ปี น่าจะคุ้มอยู่
แต่ถ้าชอบ ดีเซล คงไป CX5 ครับ เพื่อนเยอะดี
พวก PPV เอาจริงๆไม่ได้ประหยัดเท่าไร่ครับ
-
อย่าไปเล่น CRV ดีเซลเลยครับ ประหยัดค่าน้ำมันแต่จะแพงเรื่องค่าซ่อม
CRV 2.4 เบนซิน จ่ายค่าน้ำมันแพงกว่า ดีเซล แต่ทนถึก ขับแล้วไม่ต้องกังวล
ถ้า CRV gen6 ที่จะมา ถอดแล้วเอาเครื่อง 1.5 turbo ใส่แทน ผมจะเสียดายมากเลย
2.4 เบนซินมันขับในเมืองง่าย ไม่ต้องกระแทกคันเร่งเยอะ
แม้ทางไกล การกินน้ำมันแพ้ 1.5 turbo แน่ๆ แต่ในเมืองเครื่อง 2.4 น่าลุ้นว่า มีสิทธิ์กินในเมืองน้อยกว่า ก็เป็นได้
-
8) 8) 8)......CRV Diesel สุดยอดรถบ้าน อย่าขับกระชากบ่อย เกียร์ปลอดปัญหา
DPF สอาดตลอดเวลา หากเติมดีเซลตัวแพงสุด กับใช้น้ำมันเครื่องต้องใช้ API CK-4 เป็นอย่างต่ำ !
สรุป ให้เขากินของแพงทั้งน้ำมันใส น้ำมันข้น เหมือนที่ใช้กันในอเมริกา CRV รุ่นนี้ US designed n US specification เลยกินแต่ของแพงตามที่คำนวนออกแบบไว้ ถ้าผิดสำแดงพักเดียวก็ DPF Diesel Particulate Filter ตัน.. ตันๆ :-X
-
ขอบคุณครับ ตอนนี้ลงมาดู HRV RS 2018, CHR 2016+ ก็โอเคเลยครับตรงโจทย์ผมดี แต่ดูมันอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับรถครอบครัว แต่ราคาถูกกว่าก็ผ่อนสบายกว่าเยอะ
ปล. แอบชอบ CHR Hi มานาน แต่นั่งหลังนรก จะอ้วกมาก อีกอย่างรถมือสอง ปี 2016 เหลือผ่อนไปอีกไม่กี่ปี ประกันแบตก็หมดอายุ ทีนี้ผ่อนครบ เปลี่ยนแบต น่าจะนรกกว่าค่าน้ำมันที่ประหยัดไปแน่ๆ :D :D
-
ผมคิดว่า Corolla Cross หรือ Hrv ตัวใหม่น่าจะตอบโจทย์นะครับ
HRV RS 2018 ผมจำได้ว่า Option พอๆกับ Chr HV Mid นะ ถ้าชอบ Chr HI น่าจะชอบเพราะมี Toyota Safety Sense รึเปล่าครับ
Chr ผมไม่แนะนำถ้าจะใช้เป็นรถครอบครัว เพราะใส่ของได้น้อยกว่า Jazz อีก และด้านหลังทึบ เหมาะสำหรับนั่ง 2 คน
Corolla Cross ขาดแค่ Auto Break Hold คันเล็กกว่า Crv หน่อย เบาะหลังเอนได้ กระจกไม่ทึบ ประหยัดน้ำมัน ตัว Top มี Safety Sense
Hrv ใหม่มีครบทุกอย่าง น่าจะลองไปดูสักหน่อย
หรือถ้าต้องการคันใหญ่งบสบายกระเป๋า ลองดูพวก xpander, veloz, XL7 ก็น่าจะตอบโจทย์นะครับ
-
CRV ดีเซล ของคนรู้จัก ใช้ต่างจังหวัด
มีปัญหา DPF ตัน ไฟเครื่องโชว์ เครื่องไม่มีกำลัง อืด
กลับไปนอนศูนย์บ่อยมากจนเซ็งเลยครับ
เมื่อล่าสุด ความร้อนขึ้น ไปนอนศูนย์อีก เคลมฝาสูบ ปะเก็น
ค้นนี้ค่อนข้างจุกจิกเลย
ส่วนการขับขี่ ทางไกลดี มั่นใจได้ ขับในเมืองจะอืดๆ
เซอร์วิสศูนย์หรืออู่นอกครับ
ถ้าอู่นอก ส่วนใหญ่น่าจะเป็นเพราะน้ำมันเครื่องผิดสเปคครับ
ดีเซลรุ่นนี้ใช้น้ำมันเครื่องแบบกระบะทั่วไปไม่ได้นะครับ ไม่งั้น DPF ตันครับ
ต้องเป็นสเปคแบบเครื่องดีเซลยุโรป หรือ Mazda Skyactiv-D ครับ
-
CRV ดีเซล ของคนรู้จัก ใช้ต่างจังหวัด
มีปัญหา DPF ตัน ไฟเครื่องโชว์ เครื่องไม่มีกำลัง อืด
กลับไปนอนศูนย์บ่อยมากจนเซ็งเลยครับ
เมื่อล่าสุด ความร้อนขึ้น ไปนอนศูนย์อีก เคลมฝาสูบ ปะเก็น
ค้นนี้ค่อนข้างจุกจิกเลย
ส่วนการขับขี่ ทางไกลดี มั่นใจได้ ขับในเมืองจะอืดๆ
เซอร์วิสศูนย์หรืออู่นอกครับ
ถ้าอู่นอก ส่วนใหญ่น่าจะเป็นเพราะน้ำมันเครื่องผิดสเปคครับ
ดีเซลรุ่นนี้ใช้น้ำมันเครื่องแบบกระบะทั่วไปไม่ได้นะครับ ไม่งั้น DPF ตันครับ
ต้องเป็นสเปคแบบเครื่องดีเซลยุโรป หรือ Mazda Skyactiv-D ครับ
ปกติ เข้าศูนย์ตลอด
ตอนนี้เพิ่งหมดประกันก็ยังเข้าศูนย์
และก็กลับไปนอนศูนย์อยู่บ่อยๆ จนเบื่อเลยครับ
-
ขอบคุณครับ ตอนนี้ลงมาดู HRV RS 2018, CHR 2016+ ก็โอเคเลยครับตรงโจทย์ผมดี แต่ดูมันอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับรถครอบครัว แต่ราคาถูกกว่าก็ผ่อนสบายกว่าเยอะ
ปล. แอบชอบ CHR Hi มานาน แต่นั่งหลังนรก จะอ้วกมาก อีกอย่างรถมือสอง ปี 2016 เหลือผ่อนไปอีกไม่กี่ปี ประกันแบตก็หมดอายุ ทีนี้ผ่อนครบ เปลี่ยนแบต น่าจะนรกกว่าค่าน้ำมันที่ประหยัดไปแน่ๆ :D :D
ช่วงล่าง HRV มันนั่งแย่กว่า CHR อีกนะครับ
-
ตอนนี้จขกท มองแต่ข้อดีไม่มองข้อเสีย จขกท ควรคิดเผื่อไว้ด้วย อนาคตต้องซ่อมซึ่งอีกไม่กี่ปีแน่นอน ถ้าจุกจิกคงซ่อมเร็วกว่านั้นอีก รับราคาซ่อม CRV ดีเซลไหวมั๊ย ราคาไม่ใช่ถูกนะครับและตอนซ่อมจะซ่อมบ่อยกว่าแน่ ๆ อนาคตอะไหล่บางตัวยิ่งหายากอีกเพราะเครื่องยนต์มีแค่ในยุโรปอะไหล่หายากและแพงมาก อย่าเอาเครื่องดีเซลรถเก๋งไปเทียบกับรถปิคอัพเจ้าตลาดที่ใช้ดีเซลมันเทียบกันไม่ได้เลยเรื่องความทนทานกับตอนซ่อม และราคาตอนซ่อม
จขกท พยายามนึกถึงรถ Ford Focus ดีเซลเอาไว้ นั่นละอนาคตจะเป็นแบบนั้น รถพวกนั้นหายไปไหน ทำไมใช้กันในกลุ่มจำกัดมาก ทั้งที่ตอนเปิดตัวทุกคนก็บอกเป็นรถดีน่าใช้กว่าเบนซิน
ถ้า จขกท ห่วงการกินน้ำมัน พยายามลดขนาดรถยนต์ลงมาหารถประหยัด ๆ ขนาดเล็กลงดีกว่า
-
ขอบคุณครับ ตอนนี้ลงมาดู HRV RS 2018, CHR 2016+ ก็โอเคเลยครับตรงโจทย์ผมดี แต่ดูมันอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับรถครอบครัว แต่ราคาถูกกว่าก็ผ่อนสบายกว่าเยอะ
ปล. แอบชอบ CHR Hi มานาน แต่นั่งหลังนรก จะอ้วกมาก อีกอย่างรถมือสอง ปี 2016 เหลือผ่อนไปอีกไม่กี่ปี ประกันแบตก็หมดอายุ ทีนี้ผ่อนครบ เปลี่ยนแบต น่าจะนรกกว่าค่าน้ำมันที่ประหยัดไปแน่ๆ :D :D
ช่วงล่าง HRV มันนั่งแย่กว่า CHR อีกนะครับ
คงเป็นเรื่องทัศนวิสัยตอนหลัง ที่ผมนั่งแล้วเวียนหัวมาก
-
ขอบคุณครับ ตอนนี้ลงมาดู HRV RS 2018, CHR 2016+ ก็โอเคเลยครับตรงโจทย์ผมดี แต่ดูมันอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับรถครอบครัว แต่ราคาถูกกว่าก็ผ่อนสบายกว่าเยอะ
ปล. แอบชอบ CHR Hi มานาน แต่นั่งหลังนรก จะอ้วกมาก อีกอย่างรถมือสอง ปี 2016 เหลือผ่อนไปอีกไม่กี่ปี ประกันแบตก็หมดอายุ ทีนี้ผ่อนครบ เปลี่ยนแบต น่าจะนรกกว่าค่าน้ำมันที่ประหยัดไปแน่ๆ :D :D
ช่วงล่าง HRV มันนั่งแย่กว่า CHR อีกนะครับ
คงเป็นเรื่องทัศนวิสัยตอนหลัง ที่ผมนั่งแล้วเวียนหัวมาก
CHR มันไม่ใช่แนวรถครอบครัวเลยจริงๆ ครับ
มันเหมาะที่จะเป็นรถขับเล่นมากกว่าครับ
-
ใช้2.4 เบนซิน ดีกว่าครับ
ถ้าค่าน้ำมันเพิ่มขึ้นเดือนละ 3000 บาท (150*20) เป็นปัญหาสำหรับคุณ
.. ผมบอกตรงๆ ว่ายังไม่ควรใช้ รถในระดับนี้ครับ เพราะซ่อมทีเงินหลายหมื่นกระเด็นออกจากกระเป๋าแบบสบาย ๆ
อะไหล่แท้เทียบ ไม่ค่อยหลากหลาย มีโอกาสจอดรอของ ถ้าต้องซ่อมนะครับ
-
ใช้2.4 เบนซิน ดีกว่าครับ
ถ้าค่าน้ำมันเพิ่มขึ้นเดือนละ 3000 บาท (150*20) เป็นปัญหาสำหรับคุณ
.. ผมบอกตรงๆ ว่ายังไม่ควรใช้ รถในระดับนี้ครับ เพราะซ่อมทีเงินหลายหมื่นกระเด็นออกจากกระเป๋าแบบสบาย ๆ
อะไหล่แท้เทียบ ไม่ค่อยหลากหลาย มีโอกาสจอดรอของ ถ้าต้องซ่อมนะครับ
ขอบคุณครับ ผมเองก็กำลังคิดอยู่ อาจจะลดลงไปเหลือ HRV ก็น่าจะผ่อนดีขึ้นครับ
-
่ส่วนตัวทีใช้มาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหนักหนานะครับ ก็จะเป็นแค่เรื่องงานประกอบบางจุดสไตล์ฮอนด้าที่ผมไม่ค่อยชอบ แต่วิ่งมาได้จะครบ 5 ปีละ ที่เคยเคลมก็เป็นเรื่องช่วงล่าง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเครื่องยนต์ เรื่อง dpf ตัน ก็ยังไม่เคยเกิดนะครับ อาจเพราะผมวิ่งทั้งในและรอบๆ เมือง ผมเติม diesel b7 มาตลอดนะครับ ไม่เคยเติมพรีเมี่ยมเลย มีเพื่อนที่รู้จักกันที่ใช้รุ่นนี้แล้วมีปัญหา dpf ตัน (แค่มีไฟโชว์ที่หน้าปัทม์แต่รถยังขับได้นะ) อันนี้เขาเติมพรีเมี่ยมตลอดไม่เคยใช้ b7 แต่เขาวิ่งในเมืองมากๆ ไม่ค่อยขับรถด้วยความเร็วเลยมีปัญหา เห็นเอาเข้าศูนย์ไปล้าง dpf ตอนนี้ออกมาก็ใช้งานตามปกตินะครับ