Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Norgaard ที่ พฤศจิกายน 28, 2022, 20:51:59
-
สวัสดีครับ อยากถามความเห็นเพื่อนสมาชิก ถ้ามีเงินซื้อรถแค่ 1 คันเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ท่องเที่ยว จะเลือกอะไร ระหว่าง
1. รถที่ดี ทน ไม่จุกจิก แต่สมรรถนะเฉยๆ เครื่องเสียง ภายใน ธรรมดา ราคามือสองดี
2. รถที่ชอบ สมรรถนะดี เครื่องเสียงดี ภายนอก ภายในสวย แต่ทนมั้ยไม่รู้ ราคาตก
หรือใครมีประสบการณ์เลือกที่ชอบ แต่กลายเป็นจุกจิกจนเกลียดไปเลย มาแชร์กันได้ครับ
ปล.
1. รถคันปัจจุบันผมซื้อตามข้อ 1 ทน ไม่จุกจิกจริง แต่ก็คิดไม่ตกว่าตัดสินใจผิดมั้ย ไม่ได้มีความสุขตอนขับ เหมือนแค่มันพาเราจาก A ไป B
2. เน้นขับเดิมๆนะครับ ไม่นับว่าซื้อข้อ1 มาเปลี่ยนเครื่องเสียง เปลี่ยนช่วงล่าง จูน ฯลฯ
-
ผมในปัจจุบัน ผมเป็นคนเลือกรถ แบบข้อ 2 ครับ เพราะอะไรน่ะหรือ
คือไอ้รถข้อ 2 เนี่ย ทนไหม มันก็ไม่ใช่ว่ามันไม่ทน ถ้าคุณใช้มันแค่ 3-5ปี คือมันไว้ใจได้
ส่วนราคาขายต่อ ผมขอถามกลับว่า
การที่คุณซื้อรถตามข้อ 1 ตลอดเวลาที่คุณใช้รถ มีความสุข และภูมิใจ พอใจกับรถคันนี้แค่ไหน .. ??
รถที่ทนไม่จุกจิก และขับงั้นๆ บนถนนขิงอะไรใครไม่ได้ ทางโค้งก็ไม่ไหว ทางตรงยิ่งไปกันใหญ่ พอถาม option ก็โล้นซะแบบรถสมัย 10 ปี แล้วมารอขิงตอนขายต่อทีเดียวอย่างนั้นหรือ ??
ส่วนผมที่เลือกรถข้อ 2 มาตลอดบอกเลย บนถนนผมขิงได้หมด ทางโค้ง ทางความเร็วสูง option ที่มี ใครถามมาผมขิงรถข้อ 1 ได้ทุกจุด แล้วเวลาขาย ผมก็ขายของผมเงียบๆ ไม่บอกใครว่าขายไปเท่าไร
เราเลือกความสุขแบบไหนล่ะ สุขตอนขาย หรือ สุขตอนใช้ ??
-
ถ้าใช้ในชิวิตประจำวัน ใช้คันเดียวเป็นหลัก ขับไปทำงาน แถมต้องพาออกไปเที่ยว
เลือกรถที่ดีเถอะครับ ไมล์กระฉูดแน่ๆ
ซึ่งถ้าเป็นรถพื้นๆ รถบ้านๆ ไมล์กระฉูด จะไม่โดนกดเท่ารถที่ชอบ(มั๊งนะ เพราะไม่รู้ว่ารุ่นอะไร)เวลาจะขายต่อ
ค่าดูแลของรถไมล์เยอะๆก็ต่างกันแน่นอนสำหรับโจท
-
ต้องหาอะไรที่มันทั้งชอบทั้งดีสิครับ
บางคันไม่ชอบมันเลยแต่พอไปเปิดใจลองกลับชอบก็มีนะครับ
-
เลือกข้อ 2 รถที่ชอบสิครับ เดี๋ยวอะไรที่ไม่ดีเราจะมองข้ามไปเอง
และคอยหลอกตัวเองว่ามันดี เผื่อแผ่มาคอยบลัฟคนอื่นด้วย
ส่วนรถที่ดีแต่ไม่ชอบ ต่อให้มันดีแค่ไหน ใจมันจะคอยหาเรื่อง
หาจุดไม่ดีของมันให้ได้ ยังไงก็ต้องมีจุดที่มันไม่ดี ยังไงก็ต้องหาได้
แล้วก็จะคอยย้ำคิด ย้ำทำ ติดใจกับจุดที่เราพยายามหาว่ามันไม่ดี
อยู่เรื่อยไปแหละครับ
นี่พูดจริงนะ คนเรามักเป็นอย่างนี้จริง ๆ
มันถึงได้มีคำว่า ดีของเรา กับดีของคนอื่น มันไม่เหมือนกันจริง ๆ ครับ
-
รถที่ดีครับ ผ่านจุดรถที่ชอบมาหมดแล้ว รถที่ชอบขายหมด ทุกวันนี้ใช้รถที่ทน อะไหล่ถูกมาก ซ่อมง่าย ไม่จุกจิกประหยัดน้ำมันเป็นยอด มีแค่พอขับได้ เท่านั้นละ อ๊อพชั่นไม่ต้องมีอะไรหรอก
-
แชร์ปสก.จากตอนที่ซื้อคันที่ใช้อยู่ ตอนนั้นคันที่อยากได้เป็นรถที่ชอบด้วยอารมณ์ถูกตาถูกใจแต่ไม่ใช่รถยี่ห้อที่ไม่จุกจิกและราคาขายต่อดีๆ
ได้แต่เก็บความชอบไว้ในใจ หาข้อมูลเพิ่มเติมรถในระดับราคาพอๆกันเทียบข้อมูลทุกด้าน และใช้เหตุผลในการตัดสินใจเอายี่ห้อที่น่าเชื่อถือและตอนนั้นเป็นที่นิยม แม้รอรถเกือบ 2เดือน
ที่จังหวัดผมยี่ห้อนี้นิยมมาก คนที่มาซื้อรถซื้อกันได้โดยไม่ต้องลองนั่งลองขับ ตั้งธงในใจกันมาแล้ว ขอแค่สีและราคาถูกใจ
วันที่ผมไป0 ไม่มีรถให้ลองขับและมีเพียงรถจอดให้ดู ย้ำว่าแค่ให้ดูนะครับ เปิดประตูไปลองนั่งยังไม่ได้
เพราะคันนั้นเป็นรถรอส่งมอบ คือขายดีจริงๆรุ่นนี้ ผมเดินเซ็งๆออกจาก 0 คิดขำๆว่ารถเกือบล้านคงตัดสินใจซื้อจากโบชัวร์และดูรีวิวแทนแน่ๆ
แต่ไหนๆออกจากบ้านแล้วลองไปดูยี่ห้อในใจที่ชอบซะหน่อย คิดในใจถ้าได้ลองขับคงดีถึงจะไม่ได้ซื้อแน่ๆ เพราะยังรู้สึกว่าเป็นรถที่ซื้อด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผล
พอไปที่0นั้น มีรถให้ดู กลายเป็นการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ใกล้ชิดรถที่ชอบโดยไม่ทันตั้งตัว ยิ่งพอได้ลองขับ ติดใจมากๆ
กลับมาคิดๆ สรุปตัดสินใจซื้อคันนี้เลยครับ55555 อะไรที่ถูกใจก็ดูสมเหตุผลไปหมดเองล่ะครับ
ใช้มาจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่เสียดายที่ใช้อารมณ์ตัดสินใจ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ารถตัวเองดีเด่นกว่ารุ่นอื่นหรือพยามชักชวนคนอืนให้ชอบรถรุ่นตัวเอง
มันก็ยังเป็นรถทั่วๆไปอยู่ดีแค่ทุกครั้งที่ขับก็ยังชอบอยู่แค่นั้นเองครับ
-
เมื่อก่อนเคยเลือกข้อ2 แล้วมันเจ็บ
ตอนหลังเลยเลือกข้อ2 ที่มันมีข้อ1ครบก่อน
-
2 ก่อนแล้วค่อยดูว่า 1 รับได้ไหม
-
ถ้ามีได้แค่คันเดียว คงเน้นไปที่รถที่ทนทาน ฝากผี ฝากไข้ได้ ไว้ก่อนครับ เรื่องเกาะถนนไม่ดี เบรคห่วย ขับไม่สนุก .. เงินช่วยคุณได้ครับ
- CR-V G3 2.0 .. รถคนแก่ อืดๆ หนักๆ หน่วงๆ โยนๆ ผมยังเอามาจัดการให้มัน ขับดี กดแล้วขึ้นตามเท้า ช่วงล่างสั่งได้ เอียงน้อย หลอกวัยรุ่นสร้างตัวไปเชือดมานักต่อนัก แถมด้วยเบรคที่รถเก๋งหลายคันยังอายครับ .. ทั้งหมดนี้ อยู่ภายใต้ภายนอกที่แสนจะเดิม ชุดแต่ง modulo จากโรงงาน ไม่ได้โหลดเตี้ย มีแปลกปลอม แค่ล้อสีดำ แนวหาเรื่องหน่อยแค่นั้น (แต่ถ้าคนดูเป็น เห็นรุ่นยาง / ยี่ห้อล้อ / ยี่ห้อเบรค รวมถึง กันโคลงขาวๆใต้ท้อง ก็น่าจะรู้แหละ)
ที่บ้านมี G3 2.0 อีกคัน เดิมสนิท วันไหนไปขับคันนั้น มีเสียวทั้งคัน เพราะสะบัดพวงมาลัยเปลี่ยนเลน นึกว่า รถตัวเอง กรี๊ดกันทั้งรถ 55+
............
แต่ถ้า เป็นรถคันที่สอง เป็นรถสำรอง มีเวลา มีงบ ในการดูแลได้ ก็เลือกตามชอบครับ
- Pulsar DIG .. รถแรง กดพุ่ง สนุกกับอัตราเร่งของมันทุกครั้งที่ขับแต่ ... ปีนี้ วิ่งมา 8 พันกม. ไมล์รวม 5 หมื่นกม. เล่นผมไปแสนกว่าบาทละ นี่ล่าสุด ลูกปืนล้อหน้าแตก / ฝาไฟเบอร์หม้อน้ำเปลี่ยนสี เตรียมแตกลายงา รถ 5 หมื่นกม.นะ !!! กำเงินไว้อีก 2 หมื่น ค่าซ่อมมัน หุหุ
ถ้ามันเป็นรถคันเดียวของบ้าน ผมคงขายทิ้งไปนานละ ไม่ไหว รับไม่ได้
-
สำหรับผม รถที่ดีก็คือรถที่เราชอบและตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุด
แต่โจทย์ความต้องการของแต่ละคนไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง
ไม่รู้ตอบตรงคำถามไหมเนี่ย :(
-
เลือกข้อ 1 ครับ
เพราะในตัวเลือกข้อที่ 2 ผมช้ำใจมากๆครับ
ถ้าเลือกข้อ 2 อาจจะเสียดายที่ไม่ได้เลือกข้อ1
เลือกข้อ1 ก็ยังคงมองข้อ2 เวลาขับมาใกล้ๆ อยู่ดี
งั้นเอาไว้เป็นคันต่อไปครับ
-
ถ้าให้ความสำคัญว่าเป็นของใช้งาน ไม่สนใจเรื่องอื่น
เลือก 1
ถ้าให้ความสำคัญมากกว่านั้น
เลือก 2
-
โจทย์แต่ละคน และการตัดสินใจไม่เท่ากันครับ
ส่วนตัวผมเลือก1
เพราะผมใช้รถคันเดียวครับ
ชอบตรงที่สตาทติดวิ่งไว้พอใจแล้ว ไม่ต้องมาลุ้นว่าวันนี้จะเจออะไร จะพาลูกเมียไปถึงปลายทางไหม ? เพราะผมใช้รถในการทำงาน90% ถ้าสตาทไม่ติดคือไปทำงานสาย และถ้ารถสตาทไม่ติดไม่สามารถมารถประจำทางได้ ต้องเช่ารถใช้งานในระหว่างซ่อม อีก10% เดินทางไปหาลูก ตจว. ถ้าสตาทไม่ติดคือ ทริปล่ม ลูกเมีย,คนที่บ้านที่รอ คงไม่พอใจรถแบบนี้
ส่วนคนที่เลือก2 ก็ไม่ผิด มันตอบโจทย์เค้า
คนจะเลือก 1 หรือ 2 ก็ไม่ควรมาดราม่าใส่กัน มันไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย รู้ใจตัวเองก็พอว่าชอบอะไร แล้วซื้อคันนั้นดีกว่าครับ
-
ผมว่ารถที่ดี มันแทบทั้งนั้นแหละครับ ถ้าไม่ดีจะซื้อทำไม?
รถที่ชอบ ก็คือรถที่ดีของเรานั่นแหละครับ
ผมปัจจุบันใช้ kick เมื่อวิ่งในเมืองเป็นส่วนใหญ่
เมื่อไรต้องการความคึกคักมีอารมณ์สนทรีย์ ผมไป saab 93ss ซึ่งอายุอานาม จะยี่สิบปี ปีหน้า แม้จะแก่ แต่ผมก็ทิ้งมันไม่ได้... เพราะมันเป็นรถที่ชอบครับ
-
เป็น "คำถาม" ที่ตอบได้ยากจริงๆ
1 ทนแต่ไม่ถูกใจ
2 ถูกใจแต่อาจจะจุกจิก
ใน "อุดมคติ" อาจจะ ตอบ 2 มากกว่า
เช่น รถบางรุ่น "เชียร์จัง" ว่า มันใช่
แต่ไปๆ มาๆ "แป๊ก" ซะงั้น..
ในความเป็นจริง ในตอนตัดสินใจเลือก
มันมี "ปัจจัยภายนอก และ ปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้" จากคนใกล้ชิด คนรอบตัว ฯลฯ อีกเยอะ
ยกเว้น It's my life, it's my style. Don't care!!
-
การที่คุณมีความสุขในการใช้ 2 แต่ต้องเอาเงินที่หาได้มาคอยซ่อมมัน มันจะยังมีความสุขอยู่ไหมครับ
ยกเว้นคุณจะหาเงินได้มากๆ ก็ไป 2 เลยครับ
-
เดาว่า T/H กับ M แน่เลย
ถ้ารับได้กับเรื่องราคาตก และมือแนวทางรับมือปัญหาต่างเตรียมไว้ด็น่าสนใจครับ
ตัวผมเองเลือดคันที่ ไม่จุกจิกใช้แล้วสบายใจ จะได้ไม่ต้องมารู้งี้ เวลามันงอแง
สุดท้าย เวลาที่ไปขับรุ่นนั้นของคนอื่น ก็เสียดายสมรรถณะที่เสียไปเหมือนกัน
ถ้าเลือกใหม่ได้อาจเอาคันที่ชอบแทนครับ
แต่ถ้ามีปัญหาเยอะ หนือปัญหาร้ายแรง อาจเอาคันที่ดีแทน แล้วเปลี่ยนลำโพงสักหน่อยพอ
-
คนที่มีรถคันเดียว ควรเป็นรถที่เสี่ยงพังน้อยที่สุดครับ
วันไหนฝนตก หรือต้องรีบออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด หรือบ้านอยู่ซอยลึก แล้วรถสตาร์ทไม่ติด
หรือรถไปนอนศูนย์บ่อย ๆ จนไม่มีรถใช้
จะรู้สึกตอนนั้นครับ
-
เลือก 1 กับ 2 ที่ balance กันมาตรงกลางได้มากสุดครับ เพราะผมใช้รถยาว 20+ ปี ราคาขายต่อไม่เคยเหลือแล้วตอนนั้น
เคยเลือก 2 จ๋ามาแล้ว รถพัง พังไม่เหนื่อยเท่าคนซ่อมห่วยครับ เสียงาน เสียเวลา เสียสุขภาพจิต
-
รถคันหลักในบ้านเนี่ย เลือก 1 แบบไม่ต้องคิดเลยคับ มันคือยานพาหนะ เอาไว้เดินทาง ถ้ามันมีปัญหาบ่อย รักอู่ ไม่สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ มันก็ผิดวัตถุประสงค์ที่ซื้อมาละคับ
ถ้าคันถัดๆ มาค่อยมาคิดเลือก 2 คับ
-
เลือก 2 ถ้ามีอู่ซ่อมจบทุกปัญหา จะจุกจิกนิดหน่อยรับได้
เลือก 1 ถ้าเงื่อนไข 2 ไม่ได้ 555
-
รถคันหลักในบ้านเนี่ย เลือก 1 แบบไม่ต้องคิดเลยคับ มันคือยานพาหนะ เอาไว้เดินทาง ถ้ามันมีปัญหาบ่อย รักอู่ ไม่สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ มันก็ผิดวัตถุประสงค์ที่ซื้อมาละคับ
ถ้าคันถัดๆ มาค่อยมาคิดเลือก 2 คับ
+1
-
ผมอาจจะไม่กังวลหากไม่มีรถใช้ และผมมีอู่รถที่ผมชอบ ใกล้บ้านเยอะมาก
ผมเลยเลือก 2 เสมอ รถทุกคันเลยเป็นแบบที่ชอบเสมอ การที่รถจะทนหรือไม่นั้น หมั่นสังเกตุตามคลับ ข้อควรระวังของคันนั้น ก็พอจะช่วยได้
เคยเห็นรถวีโก้ใช้งานแบบไม่ค่อยดูแล จริงอยู่มันอาจจะวิ่งได้ แต่คุณจะใช้มันไหมครับ หรือคุณอาจจะเลือกรถที่คุณถูกใจและบำรุงรักษามันเสมอใช้งานได้ดี
-
ผมเลือกข้อ 2 ครับ รถใหม่บ้ายแดงคุณสามารถใช้ได้อย่างมั่นใจไปได้ทุกที 5-6 ปี หลังจากนั้นก็ต้องเริ่มมีการดูแลมากขึ้น ส่วนเรื่องราคาตกมากตกน้อยส่วนตัวผมไม่สนใจ ผมใช้รถเกิน 20 ปีทุกคัน ถ้าผมรู้สึกว่าไม่มั่นใจที่จะขับไปต่างจังหวัดผมก็ซื้อคันใหม่ปกติก็ 15 ปี คันเก่าก็ใช้ระยะทางใกล้ๆครับ
-
ไม่ทั้งสองครับ รถที่ผมจะซื้อต้องเป็นรถที่ดี (แต่อาจไม่ดีที่สุด) และเป็นรถที่ชอบด้วย (อาจไม่ชอบที่สุด) ต้องหาจุดสมดุลระหว่าง 1และ2 ให้ได้ อาจเป็น 1.3 , หรือ 1.7 ประมาณนั้น
บางคนก็จะใช้วิธีทำเช็คลิสต์แบ่งเป็นหัวข้อต่างๆแล้วนำคะแนนมาตัดสิน การซื้อรถมันมีตัวแปรเยอะครับ ยังมีเรื่องครอบครัว เรื่องการใช้งาน ศูนย์ใกล้บ้านมาเกี่ยวข้องอีก ไม่มีอะไรตายตัวครับ ที่สำคัญอย่าซื้อตามความเห็นของคนอื่น และถ้าซื้อมาแล้วก็ต้องทำใจหนักแน่นอย่าหวั่นไหวกับคำวิจารณ์ของคนอื่น ต้องยอมรับการตัดสินใจของตัวเอง
-
ยกตัวอย่างสัก 2 คู่ชัดๆนะครับ
- ระหว่าง cx30 กับ cross ผมเลือก ตัวแรกเพราะความชอบ
- ระหย่าง revo กับ ranger ผมเลือก revo เพราะเชื่อถือกว่า (จริงๆชอบ ranger)
-
ศึกษาก่อนลดความเสี่ยงได้
บางทีรถ"ยี่ห้อ"ที่ได้ยินว่าจุกจิก
อาจจะมีรถ"รุ่น" ไม่จุกจิกที่เราชอบอยู่ก็ได้
แต่ถ้าดูแล้วจุกจิกจริง ตัวเลือกข้อ 1 สบายกว่าครับ
-
ผมในปัจจุบัน ผมเป็นคนเลือกรถ แบบข้อ 2 ครับ เพราะอะไรน่ะหรือ
คือไอ้รถข้อ 2 เนี่ย ทนไหม มันก็ไม่ใช่ว่ามันไม่ทน ถ้าคุณใช้มันแค่ 3-5ปี คือมันไว้ใจได้
ส่วนราคาขายต่อ ผมขอถามกลับว่า
การที่คุณซื้อรถตามข้อ 1 ตลอดเวลาที่คุณใช้รถ มีความสุข และภูมิใจ พอใจกับรถคันนี้แค่ไหน .. ??
รถที่ทนไม่จุกจิก และขับงั้นๆ บนถนนขิงอะไรใครไม่ได้ ทางโค้งก็ไม่ไหว ทางตรงยิ่งไปกันใหญ่ พอถาม option ก็โล้นซะแบบรถสมัย 10 ปี แล้วมารอขิงตอนขายต่อทีเดียวอย่างนั้นหรือ ??
ส่วนผมที่เลือกรถข้อ 2 มาตลอดบอกเลย บนถนนผมขิงได้หมด ทางโค้ง ทางความเร็วสูง option ที่มี ใครถามมาผมขิงรถข้อ 1 ได้ทุกจุด แล้วเวลาขาย ผมก็ขายของผมเงียบๆ ไม่บอกใครว่าขายไปเท่าไร
เราเลือกความสุขแบบไหนล่ะ สุขตอนขาย หรือ สุขตอนใช้ ??
คิดเหมือนกันครับ
แต่ทุกวันนี้รถข้อ1ผมยังจอดอยู่ไม่ค่อยได้ใช้ แต่รถข้อสองผมออกไปที่อายุ5ปีทุกคันครับ
รถข้อ1มันทนจริงๆ แต่ไม่สุด
-
แล้วแต่เงินในกระเป๋า_ถ้าเงินเยอะ มีเวลาว่างก็ข้อ 2 ครับ ตอนนี้ใกล้เกษียณเลือกข้อ 1 ครับ
-
รถคันหลักในบ้านเนี่ย เลือก 1 แบบไม่ต้องคิดเลยคับ มันคือยานพาหนะ เอาไว้เดินทาง ถ้ามันมีปัญหาบ่อย รักอู่ ไม่สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ มันก็ผิดวัตถุประสงค์ที่ซื้อมาละคับ
ถ้าคันถัดๆ มาค่อยมาคิดเลือก 2 คับ
+2
-
เลือกข้อ 1) ครับ แล้วค่อยปรับ Tune เอาที่ใกล้เคียงกับที่เราชอบครับ
-
ผมใช้มา 4 คัน 4 ยี่ห้อ Ford , volvoเก่าๆ , toyota, Honda
ของผมเลือก 2 แต่บังเอิญได้ 1 มาด้วย
รถที่พื้นฐานดี และชอบหน้าตามันครับ
คันปัจจุบันได้เปิดประตูลองนั่ง ไม่ได้ลองขับ ไม่ได้ลองสตารทเลย แต่ชอบเลยเลือกมาครับ
-
ที่บ้านเคยชินกับรถที่ทนครับ เจ้าตลาด ใช้มา 15 ปีไม่เคยซ่อมนานกว่าวันเดียว นานๆมีประเด็นที ซ่อมแล้วจบ
ผมเลยเลือกรถที่ชอบครับ ด้วยความคิดฝังหัวที่รู้สึกว่า รถต่างยี่ห้อก็คงไม่ต่างกันมากมั้ง 555 แล้วก็เจอกับตัวครับ แต่ถ้าถามว่าย้อนกลีบไปได้จะเลือกรถที่ทน หรือที่ชอบ ก็เลือกที่ชอบอยู่ดี 365 วันที่ใช้รถที่ชอบขับแล้วมีความสุข รถติดไม่หงุดหงิด ถ้าให้ไปซ่อมสัก 30 วันผมยังพอรับได้นะ
-
ถ้ามีคันเดียวข้อ 1 ครับ
ถ้ามีหลายคัน ข้อ 2 ผมก็โอเค แต่มีเงื่อนไขว่าต้องเป็นรถที่ไว้ใจได้ระดับนึง ไม่มีโรคประจำตัวของรุ่นนั้นๆ พวกน้ำดัน เกียร์พัง อะไหล่เปราะ นี่ไม่เอา
อย่างพวก Mazda CX30 ก็โอเคนะ แต่ถ้าเป็น Mg นี่บายรถอะไรอายุไม่ถึงปี แผงประตูคนขับแตก ยังดีที่เคลมได้ :-X
-
เลือกรถที่ชอบครับ รถราคาเป็นล้านซื้อทั้งที่ก็เอาที่ชอบ
-
ข้อสอง
เพราะขับแล้วมีความสุขทุกครั้งครับ
-
ตอนนี้ถ้าเลือกได้จะเดินทางสายกลางครับ ไว้ใจได้ แต่เราก็ต้องรับการขับขี่ + หน้าตาได้ด้วย ไม่แย่เกินไป
ปสก ตั้งแต่วัยรุ่นตอนต้น ยันผู้ใหญ่กลางคน
ถ้า 2 แบบ mechanical problem เลย เช่น fiesta ecoboost ที่เคยใช้ ชอบ ขับดี ขับสนุก
แต่อยู่มาวันหนึ่ง ขณะรถติดก็ปั๊มหม้อน้ำไม่ทำงาน ฮีตขึ้น ฝาสูบโก่ง (แต่ไม่มาก โชคดีรู้ตัวทัน)
อยู่ไปมา สตาทไม่ติด ไดชาร์จพัง แบตหมด
แปปๆ เทอร์โบซึมตอนไหนไม่รู้ เร่งไม่ขึ้น
แปปๆ ขับไปถึงที่หมาย powershift หายทำงาน จะถอยจอด เข้าเกียร์ R แล้วรถไม่เคลื่อน ถอยไม่ได้
ขับไปไกลก็ลุ้น จะไปเรียน ไปทำงานก็ลุ้นว่ามันจะติดไหม จะไปถึงไหม คิดย้อนไป คงไม่เอาแล้ว
ถ้า 2 แต่มันเป็นแบบออดๆ แอดๆ แต่ไม่รุนแรง เช่น กล่องแอร์พัง กล่องควบคุมไฟหน้า 1 ข้างพัง ช่วงล่างดังบ้าง พวงมาลัยสั่นบ้าง แบบ f30 ก็พอไหว อย่างน้อยก็ไม่เคยลุ้นเครื่องดับกลางทาง
-
อ่านกระทู้นี้หายสงสัยเลยว่าทำไมรถบางรุ่นที่มีปัญหาก็ยังมีคนยอมซื้อมาใช้
-
เลือกรถที่ชอบ...........เจ็บกันมาเยอะแล้ว
-
สำหรับผมเอา "รถที่ดี" ครับ เพราะต่อไปมันก็จะเป็น "รถที่ชอบ"
ใช้แล้วดีมีหรือจะไม่ชอบ
-
ถ้าเคยลองรถที่ชอบ แล้วมันไม่ดี ในความหมายว่าจุกจิก ไม่ทน ราคาตก ฯลฯ แล้วอาจจจะรู้ครับ
ผมจะหารถที่ชอบและดีพอครับ ไม่เคยถึงกับสุดโต่งด้านใดด้านนึง สุดท้ายมันก็คือของใช้ที่อาจจะพิเศษกว่าอย่างอื่น
-
เลือกรถที่ดี คันนึงใช้ 10 ปี ++ ต้องมาคอยกังวลกับการซ่อมรถ ไม่ดีแน่
-
ถ้าเลือกข้อ 2 แล้วใช้ไปซ่อมไป ขับสามวันนอนอู่สี่วัน หรือพอหมดประกันเจออาการเสียประจำรุ่นจ่ายค่าซ่อมหนักๆหลายๆครั้ง มันจะยังเป็นรถที่ชอบอยู่หรือเปล่า ถึงวันที่เก่าอยากขายก็ขายยาก โดนกดราคาถึงจะบอกว่าซื้อมาใช้ไม่ได้ซื้อมาขาย แต่การได้เงินดาวน์คันใหม่มาเพิ่มสักสี่ซ้าห้าหมื่น มันก็ทำให้เปลี่ยนคันใหม่ได้ง่ายขึ้น
ถ้าคิดถึงเรื่องพวกนี้แล้วใจยังรักก็จัดข้อ 2 ไปเลยครับ แต่ถ้าคำตอบคือไม่ ก็ต้องข้อ 1
-
คำว่าดี มันมีนิยามว่ายังไงครับ
ผมว่ามันนิยามยากครับ
บางคนอาจจะเป็นคันเดียวกัน หรือ คนละคันกันก็ได้
แต่ถ้าถามว่า รถที่ชอบ กับ รถที่ซื้อ(ไหว) อันนี้มันอาจจะชัดเจนว่ารถที่ชอบ มันเกินเอิ้อมไปเยอะ ซื้อไม่ไหว ก็ใช้รถคันที่ซื้อไหว
หรือถามว่า รถที่ชอบ กับ คนที่น่าใช้งาน อันนี้ก็สำหรับหลายๆ คนก็อาจจะเป็นคนละคันกัน เพราะเคยได้ยิน สวยแต่รูป แต่จูบไม่หอม ไหมครับ ดูสวย แต่ใช้งานมีปัญหาเยอะแยะ จุ๊กจิ๊กไปหมด
สำหรับผม รถที่ดี คือ
- รถที่ใช้งานทุกวัน (ถ้าซื้อแค่ไว้ขับวันเสาร์ วันอาทิตย์ ไม่เอา)
- ใช้งานทั่วไป ไปได้ทุกสภาพถนน (ไม่ต้องถึงดำน้ำ กับ บินได้)
- คนนั่งสบาย (เบาะบีบ รัด มาก ก็อึดอัด ไม่ชอบ)
- ที่นั่งโดยสารดี (ไม่ได้เอาไว้ใช้คนเดียว)
- มีเบาะแถว 3 ไว้ให้ลูกๆ นั่งเล่นกันด้วยยิ่งใช่ซ่อมง่าย (ถือว่าเป็นของแถม)
- ดูแลรักษาทั่วไปไม่ต้องอะไรพิเศษ (ไม่ต้องพรีเมี่ยมทุกถึง หรือ น้ำมันเครื่องเกรดพิเศษ ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เพียงแค่ซัดๆ หนักๆ แค่ไม่กี่ชั่วโมง)
- ไม่จุกจิก (ไม่ใช่เอ๊ะอะพัง เอะอะซ่อม)
- ไม่งอแง (ไม่ใช่ซื้อไว้นอนอู่)
- จะขับหน้า ขับหลัง หรือ ขับสี่ ได้หมด
แค่นี้ก็พอแล้ว ในคำนิยามว่า ดี ของผม กับ SUV สักคัน
-
ขอบคุณทุกท่านครับ ได้มุมมองต่างๆเยอะเลย
-
รถที่ดีสิครับ
คือรวม ๆ อาจกลาง ๆ
รถที่ชอบอาจสวย ราคาดี แต่ถ้าจุกจิก นู้นนั่นนี่ก็ไม่นะ :P
-
ถ้ามีรถคันเดียวคงเลือก1ครับ
ก่อนหน้านี้เคยเลือก2รถที่ชอบ แต่เก่ามากขับไปซ่อมไป ซ่อมทุกเดือน เสียสุขภาพจิต
ทุกวันนี้เลยเลือก2แบบกลางๆ คือไม่จุกจิกมาก ไม่เก่ามาก แค่ซ่อมแพงหน่อย แต่ปีนึงซ่อมซักทีนึง
แล้วก็มี1ไว้คันนึง เอาไว้สำรองเื่อ2เสีย กับขับไปกลับที่ทำงาน