Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: shipcake ที่ พฤศจิกายน 30, 2022, 10:18:21
-
บางทีก็แอบเห็นรถยุโรปหรูๆ หมู่บ้านหน้าๆ รั้วสูงๆ เจ้าของบ้านหน้าตี๋ๆทรงผู้ดี กำลังนั่งลูบซุ้มหล้อ มุดไปล้างใต้ท้องรถบ้าง บ้างก็กลับมาเช็ดรถบ้าง สมคำจริงๆว่า ผู้ชายมักรักรถมากกว่าเมีย แรกๆล้างร้านตลอดอะผม หลังๆ ลดค่าใช้จ่ายบ้าง แค่วิ่งเลอะซุ้มล้อบ้าง นั่งล้างเองลวกๆ เช็ดๆ ลงน้ำยา เน้นล้างช่วงล่าง ก็ดีกว่าล้างทั้งคันแน่ๆ ใครป็นบ้าง
-
ไม่ใช่เรื่องปกติหรอครับ 555
กลับกันตอนเริ่มทำงานใหม่ๆใช้ suzuki swift ไม่เคยล้างเองเลยครับไปร้านตลอด งานเยอะ
พอลืมตาอ้าปากได้ใช้รถแพงๆ แล้วถ้าว่างไม่เหนื่อยมากก็ล้างเอง ไม่ว่างก็ไปร้านอะครับ
-
สมัยเป็น supervisor เงินเดือนไม่ถึง3หมื่น เอารถไปล้าง detailing อย่างดีทีละ600-1,000กว่าบาท กลับมาหอยังต้องเอาผ้าไมโครเช็ดเก็บงานอีก
ตอนนี้เป็น Director ล้างปั๊มแก็ส 100เดียว :P
-
ถ้ามีเวลาว่างๆก็ล้างเองนะ ถือว่าเป็นการออกกำลังกายอย่างนึง
บางคนเป็นเจ้าของโรงงาน พอเค้าว่างๆยังล้างรถเองเลยครับ ::)
-
ก้มๆ เงยๆ ล้างรถเอง ไหวเหรอครับ
ไม่หน้ามืด ล้มตึง เหรอครับ 555+
ปัจจุบันคนนิยมรถทรงสูง Minivan บ้าง
หรือร่ำร้อง Ground clearance เยอะๆ
เลยมาจบที่ Cross over บ้าง SUV บ้าง
เวลาเช็ดหลังคาต้องปีนเก้าอี้ ปีนบันได
ยังห่วงจะล้มเอาเลยครับ
-
ล้างเองตลอดครับ ยกเว้นล้างห้องเครื่อง, ช่วงล่าง ค่อยไปร้าน
-
การล้างรถคือการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง อย่างผมเป็นความดัน ไขมันบางตัวสูง หมอแนะนำออกกำลังกาย
อันนี้ก็ช่วยใด้ แถมประหยัดเงินค่าล้าง แต่มันจะงอกเรื่องอื่นแทน น้ำยาต่างๆ อุปกรณ์ ซื้อทีเเรกเหมือน
จะแพง แต่พอหารต่อครั้ง ต่อคัน แล้วไม่เท่าไร ที่สำคัญอีกอย่าง การล้างเองลดการเกิดขนแมวใด้ดีกว่าร้าน
แน่ๆ กลายเป็นหลังๆ เข้าศูนย์ ก็ไม่ให้เขาล้างแล้ว ใด้รถกลับบ้านไวอีก ข้อดีอีกอย่างของการล้าง คือใด้ตรวจ
สอบจุดต่างๆ ร่องรอย ทำให้เรารักรถมากขึ้น
สรุปตลอด 20 กว่าปี รถที่เคยใช้ 4 คัน ให้คนอื่นล้าง ไม่ถึง 10 ครั้ง
-
ไม่รวย แต่ชอบล้างเอง เพราะจะได้สังเกตรอยต่างๆรอบคัน มีตรงไหนกัดสี ขนแมว ขูดขีดข่วน
ดูรอยน้ำมันรั่ว โช๊ครั่ว ดูยางว่าไปทิ่มอะไรมาไหม
แต่แก่ขึ้น เดี๋ยวนี้ก้มๆ เงยๆ ก็เริ่มหน้ามืด ;D
-
คิดถึงคนปืนบันไดไปเช้ดหลังคา อัลพาท เลย ครับ น่ากลัวมาก พื้นเป็นกระเบื้องลื่นๆ
-
ผมก็ล้างเองบ้าง เหมือนพี่ท่านบน ออกกำลังกายด้วย แต่ถ้าหนักๆ จะไปร้านประจำ ปั้มแก้สมีไปบ้างเมื่อก่อน เจอรอยหนักๆ ก็๋พยายามเลี่ยงครับ
ประเด็นไม่เกี่ยวว่าจนรวยรถถูกแพงไหมครับ คนชอบหรืออยากหรือจำเป็น เขาก็ทำ ผมว่าแค่นั้นแหล่ะ 555
-
ผมก็ล้างเองตลอดครับ เพราะหวงรถมาก ถึงบางครั้งอาจจะล้างไม่เกลี้ยงเกลาเท่าร้านมืออาชีพก็ตาม
-
ไม่เกี่ยวหรอกครับ
มันอยู่ที่คนมากกว่า
ผมเห็นบางคน(ผู้หญิง) ที่คอนโด ใช้ BMW ตอนเช้า ก่อนออกไปทำงาน เห็นเอาผ้าชุบน้ำ เช็ดรถ ทุกเช้า(ที่เห็น) ยอมใจแกมาก
ผมก็ล้างเอง(ตอนอยู่บ้าน) พอมาอยู่คอนโด ก็ซื้อแพ็คเกจล้างที่คาร์แคร์ ครับ เพราะสถานที่ไม่เอื้ออำนวย
-
แต่พ่อแม่ผม ถ้าว่างๆ 6 โมงเข้าก็เอาละครับ ล้างรถทุกคันที่มีในบ้านเอง เป็นการออกกำลังกาย น่ารักจริงๆ ;)
ผมทำงานวุ่นมาก รถใช้ประจำ 4 คัน ส่งคาร์แคร์ตลอด มีรถ 2 คัน ที่ยังเข้าศูนย์ ให้ศูนย์ล้าง ทิ้งรถไว้ไปทำงานต่อ เสร็จค่อยมารับ รู้ว่าล้างไม่เนี๊ยบ รถเป็นรอย ก็ผลัดกันไปส่งเคลม แต่ละคันใช้งานจริงบางทีไม่สามารถถนอมได้เลย ออก ตจว วิ่งทางไกล เข้าไซต์งาน เข้าสวน ขนของ
ค่าล้างรถตกปีละ 12000-15000
เอาจริงๆก็ล้างงเองบ้าง อย่างตอนเข้าสวนนี่เลอะจนดูไม่ได้ ก็ฉีดน้ำสักหน่อย ก่อนไปคาร์แคร์
-
ล้างเองไม่ไหวครับ ทำงานตลอด เดือนนึงจะได้พัก 2วันเอง
ใช้ลูกน้องที่ร้านล้างแทน
แต่ชอบล้างเองนะ หาเวลาได้จริงๆ จะมาล้างทีเดียว 3คันรวด
-
เห่ออยู่พัก เค้าห้างช็อปอุปกรณ์ล้างรถ เคลือบรถ พนักงานแนะนำไปมาหมดเกือบหมื่น เริ่มล้างด้วยเครื่องฉีดน้ำแนวดัน ลงโฟม ล้าง ลงน้ำยา ลูบดินน้ำมัน เช็ด แล้วลงแว๊ก ดูดภายใน ลงน้ำยาเบาะ สีมีรอยก็ขัด ยังไม่มีเครื่อง อีกสเต็บซื้อเครื่องขัด ทำแบบนี้อยู่ปีนึง ใช้เวลาล้างครึ่งวันได้คันเดียว ไม่ไหว เลิก ทุกวันนี้เหลือแค่ล้างสีจบ แต่ลูบดินน้ำมัน รถสะอาดจริงๆ
-
ปกติล้างข้างนอกตลอด ยิ่งสมัยก่อนเบี้ยน้อยหอยน้อย เข้าปั้มล้างรถแทกซี่ 50 บาท ไปแย่งกับพี่แทกซี่เอา แล้วก็ชอบล้างเวลาไปห้าง หรือที่ทำธุระนานๆ ไม่ต้องหาที่จอดรถ+ทำธุระเสร็จรถสะอาดพอดี แพงหน่อยแต่ win win แต่หลังจากปี 2020 มีโควิดมา ก็ล้างเองตลอด ทำให้รู้ว่าสีรถ benz ลื่นมาก ล้างง่ายกว่า bm เยอะเลย
-
ล้างรถ ก็คือล้างรถ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ส่วนรวยจน เป็นนิยามที่คนคิดขึ้นมาเอง
บางคน ทำงานวันละ 8 ชม หาได้เดือนละล้าน ก็ยังไม่พอใช้ เขาก็ยังจนอยู่
บางคน ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง หาได้วันละ 1-2 พัน แต่ใช้แค่วันละ 200-300 เขาก็รวยแล้ว
สิ่งที่วัดความรวยจน เป็นเรื่องของมุมมอง แต่สิ่งที่วัดว่า คุณมีอิสระภาพในชีวิตแล้วหรือยัง คือ การไม่สนเรื่องความรวยหรือจน
คุณรักรถ แล้วคุณก็ได้ล้างรถโดยใช้เวลาเท่าที่คุณพอใจ อยากล้างก็ล้างได้ตลอดเวลา นั่นแหล่ะประเด็น ส่วนผม ไม่ล้าง จนกว่ามันจะสกปรกจนทนไม่ไหวจริงๆ ... บางทีเห็นฝนตก ก็เอามาจอดให้ฝนล้างแทน
-
ตั้งแต่ ได้รถคันแรก ตอน ม.4 .. ตอนนั้น 80% ล้างเอง อีก 20% มีส่งคาแคร์บ้าง
พอซื้อรถด้วยเงินตัวเอง คันนี้ ส่งล้าง 10%
คันต่อมา นี่ ล้างเอง 100% ยันทุกวันนี้ ไม่เคยคิดจะส่งล้างเลย รถ 3 คัน + 1 แมงกะไซค์ ก็ล้างสลับวนไป ล้างเองเหนื่อย แต่เห็นแผล เห็นความผิดปกติของรถ ทำให้แก้ไข จัดการได้ก่อน
สรุปว่า แต่ก่อน นักเรียน ส่งเค้าล้างบ้าง / ปัจจุบัน Director ล้างเอง ครับ
-
จนอยู่ต้องล้างเองครับ ไม่ชอบให้ใครมานั่งในรถ หรือมาจับรถตัวเอง หวงรถ ไม่กล้าเอาไปทิ้งไว้ที่ร้าน กลัวนู่นนี่นั่น
ล้างเองเลยไม่ต้องเอารถออกจากบ้าน
แต่ถ้ารวยคงจ้างคนล้างมาล้างที่บ้านอะครับ
-
ล้างเอง ถ้าเครื่องมือพร้อมน้ำยาดี งานออกมาสวยกว่าล้างที่ร้านครับ
เว้นแต่ว่าคนรวยที่เป็นเจ้าของธุรกิจ กลุ่มนี้แถบจะทำงาน จันทร์-อาทิตย์ เค้าไม่มีเวลาครับ กลับบ้านมาก็พักผ่อน เค้าจะสั่งให้ลูกน้องขับไปล้างที่คาร์แคร์ให้
ส่วนระดับผู้บริหารบริษัทที่จ้างคนขับรถ เวลาไม่ได้วิ่งงาน ก็ใช้คนขับรถล้างให้ในบริษัทนี้แหละครับ
-
บางคนยอมล้างรถเองไม่ใช่เพราะว่าขี้เกียจ หรือไม่มีเวลาว่าง แต่อาจจะเพราะรักรถจริงๆ คือไม่อยากให้ใครมาล้างแทน กลัวล้างได้ไม่ดีเท่าทำเองครับ
-
มันอยู่ที่คนมากกว่า ไม่เกี่ยวรวยจน
ผู้ชายล้างรถเองก็เยอะ แต่ผญ มักไม่ค่อยล้างเองเนื่องจากเข้าร้านสะดวกกว่าและต้องการความเนี๊ยบ หรือไม่ค่อยมีเวลา แต่ถ้าผู้หญิงมีครอบครัวมักใช้สามีล้างรถ
รถส่งของ คอกตู้ รถตู้โดยสาร แท๊กซี่ หลายรายมักใช้บริการล้างอัดฉีด ทั้งที่พวกเขาไม่ได้รวย แต่มันสะดวกและสะอาดสำหรับพวกเขาในการใช้บริการคาร์แคร์
-
ผมล้างรถเอง ลงแว๊กส์ขัดสีเองมายี่สิบกว่าปีแล้วครับตั้งแต่รถคันแรกเลยเพราะหวงรถ ไม่อยากได้ของแถมจากคาร์แคร์ด้วยอย่างพวกขนแมวหรือปีกเบาะยับ
-
จริงๆการล้างรถมันคืองานอดิเรกอย่างนึงของผู้ชายหลายๆคนเลยนะครับ บางคนล้างเพราะได้ออกกำลังกาย บางคนล้างเพราะรักรถไม่อยากเอาไปล้างอัดฉีดที่ร้านเพราะกลัวสีพัง(ผมเป็นประเภทนี้)
ลองเข้ากลุ่ม Thai Washer Car Club ดูครับแล้วจะเปิดโลกเลย คนมีรถหรูๆบางคนก็ใช้เวลาว่างวันหยุดอยู่บ้านล้างรถ บางคนล้างมันทั้งวัน บางคนขัดจนเงาเป็นกระจกเลย แถมอุปกรณ์ก็ไม่ใช่ถูกๆนะครับ เรียกว่าใจรักก็ว่าได้
-
ผมล้างเองตลอดเลยครับ ไม่ได้ขี้เหนียว
แต่สำหรับผมถือเป็นช่วงเวลาผ่อนตลายจากเรื่องงานและเป็นความสุขที่ได้ล้างรถมากกว่าครับ
:-* :-* :-* :-* :-* :-*
-
ล้างรถเองไม่แปลกนะผมว่า ถ้าว่างอ่ะ
ส่วนใหญ่ที่ไม่ล้างเองเพราะเจออะไรที่ล้างยากของเราไม่พร้อม
-
ล้างเอง 90% เหมือนกันครับ มีเข้าคาร์แคร์ปีละไม่กี่ครั้งเวลางานใหญ่ๆ แต่ถ้าล้าง maintenance ทำเองทุกคัน มีความสุขดีครับ
-
ผมจนครับ เดือนชนเดือน ใช้รถ 6-7 แสน
แต่ผมเข้าคาร์แคร์ทุกครั้งเพราะขี้เกียจล้างเองครับ อ้วนเตี้ย เหนื่อย แขนสั้นมือไปไม่ถึงหลายจุด
หาร้านที่ราคากับคุณภาพพอไปด้วยกันได้
-
แล้วแต่คนว่าชอบรถ รักรถแต่ไหนมากกว่าครับ บางคนมองแค่มันเป็นรถ1 คัน ใช้5ปีก็ปล่อยออก ขัดสีลงแว๊กซ์บ่อยๆ กับล้างให้สะอาดขนแมวช่างมันไปแล้วเอาไปเข้าคาร์แคร์ตอนจะขาย มันไม่ต่างกัน
ผมเจอบ้านที่ให้แม่บ้านล้าง s-class แบบไปนั้งยองๆบนฝากระโปรงหน้าแล้วเชดคราบบนกระจก
บ้านที่จอด urus ตากแดดหน้าบ้าน กับ อีกหลังเป็น mazda3 ที่ล้างเองทุกวันหลังกลับบ้าน
แต่และหลังห่างกัน 100-200 เมตร หมู่บ้านเกียวกัน
ถ้าล้างรถเพราะข้างนอกล้างไม่ดี อย่างน้อยๆก็มี30 นาทีครับ ถ้าลงแว๊กซ์ มีของครบๆ เก็บงานนู้นนี้ เพลินๆมีไหลไป 6 ชมเลย ถ้าไม่ได้ชอบจริงๆ มันทำอย่างอื่นได้เยอะเลย
-
ตั้งแต่เข้าใจ สัจจะธรรม ผมก็ไม่เคยล้างเองเลยครับ
เพราะความจริงที่ว่า "รถมันเสื่อมสภาพเดียวก็ขายอยู่ดี " เพราะผมไม่คิดว่าจะครอบครองเค้าจนแก่ตายน่ะครับ หมดอายุก็ต้องขาย ซื้อใหม่อยู่ดี
ดังนั้น ถนอมไว้อย่างดี สุดท้าย คนซื้อมือ 2 เอาไปใช้สบายเลย เวลาเต้นซื้อ ก็ซื้อเข้าตามปีตามเลขไมล์ ไม่มีคะแนนล้างรถเองแล้วเพิ่มราคาซื้อให้หรอก
รักแทบตาย สุดท้ายก็ขายเปลี่ยนใหม่
-
ไม่เคยล้างรถเองมาหลายปีแล้วค่ะ ด้วยความว่าอยู่คอนโด พื้นที่ไม่สะดวก
แต่คิดว่า ต่อให้มีบ้าน ก็น่าจะมีโอกาสได้ล้างเองบ้างค่ะ
สมัยอยู่ต่างประเทศก็ล้างเองตลอด เหมือนได้ออกกำลังไปในตัวค่ะ ^^
-
มันขึ้นกับช่วงอายุ และเวลาว่างแต่ละคนมากกว่าอะคับ ไม่น่าจะเกี่ยวกับจนรวยซักเท่าไหร่
อย่างครอบครัวที่เพิ่งมีลูกเนี่ย เวลานอนยังจะไม่ค่อยมี จะเอาเวลาไหนมาล้างรถละคับ 55 บางคนทำงานเลิกค่ำทุกวัน ก็คงหาเวลามาล้างลำบาก บางคนสิบโมงนั่งเทรด เที่ยงปิดคอม บ่ายไปลัลล้า แต่ขี้เกียจล้างรถเอง ก็เยอะแยะ
-
car care ราคาแพงๆ ก็ล้างไม่ค่อยสะอาดนะครับ พนักงานคงเหนื่อย
ผมล้างรถเองประจำ ยกเว้นตอนขี้เกียจจริงๆ ถึงใช้บริการ car care
เอาค่าล้างรถไปกินบุฟเฟต์ให้รางวัลตัวเองได้ด้วย ;D
-
รถคันใหม่ที่ซื้อมา จะล้างเองตลอด ใช้มา 3 ปีแล้ว ไม่เคยเข้าคาร์แคร์ เพราะ กลัวลายทั้งคัน เอาผ้าอะไรไม่รู้มาเช็ดรถ หรือเช็ดรถมาเป็นร้อยคันแล้ว ก็ไม่เปลี่ยน
-
บางคนไม่ชอบอาบน้ำรถเอง
แต่ไปให้คนอื่นอาบน้ำให้ข้างนอกบ่อยกว่านะ 5555
-
ฐานะก็อาจจะเกี่ยวนิดหน่อยครับ ถ้ามีตังมากๆ แบบใช้ไม่เสียดาย ก็คงส่งล้าง detailing แน่นอน ดีกว่าล้างเอง แต่ถ้าจะเข้าเกรดคาร์แคร์ทั่วๆ ไป ผมล้างเองดีกว่า
-
ถ้าช่วงหยุดยาวๆ ก้อมีล้างเองบ้างครับ แต่ปกติ ล้างตามร้านทั่วๆไป ไม่ว่ารถ ญป. หรือ bmw ,benz ที่มี ก้อล้างแค่ราคาร้อยกว่าบาท เต็มที่ 400 ไม่เคยไปล้างแพงๆเลยครับ
-
ผมล้างเองตลอด มีรถ 6 คัน ก็ล้างสลับวนไป คันไหนฝุ่นเยอะๆ ก็ล้างก่อน 1-2 วันก่อนเอามาใช้ ชีวิตนี้แทบไม่เคยเข้าร้านล้างรถเลยครับ
แต่ถ้า detailing ขัด เคลือบ ก็จะส่งไปทำ นานๆครั้งตามรอบที่จำเป็น เพราะเคยซื้ออุปกรณ์มาลองทำเองแล้วเหนื่อยเกินไป
ทำแบบนี้ ตั้งแต่มีรถคันเดียว ไม่ได้เกี่ยวกับมีเงิน หรือไม่มีนะ ผมว่าผมชอบ และก็ประหยัดดี
-
ตั้งแต่มีรถมา ตอนขับรถไม่เป็น จนขับรถเป็น
ล้างรถเองตลอด ออกกำลังกายไปในตัว
เสียค่าน้ำกับค่าเบียร์สักกระป๋อง
น้อยครั้งมากที่จะเข้าคาร์แคร์ครับ
-
ล้างรถ มันเกี่ยว กับ ว่า ขี้เกียจ ว่าง ขยัน ครับ
ไม่เกี่ยว กับ รวยจน
งก ไม่มีเงิน ก็ล้างเอง
รวยมาก แต่ ชอบออกกำลังก็ ล้างเอง
ไม่เกี่ยว รวย จน
-
ถ้าอยู่บ้านแทบไม่ได้ส่งรถเข้าคาร์แคร์เลยครับล้างเองตลอด แต่พอมาเรียนธรรมศาสตร์แล้วต้องอยู่หอส่งคาร์แคร์อย่างน้อยเดือนละครั้งครับ อยู่หอนี่ล้างเองไม่ได้จริงๆครับ ฮ่าๆ