Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: TeslaX ที่ ธันวาคม 02, 2022, 17:12:07
-
คือช๊อคมาก ไม่คิดว่า Elon จะจัดใหญ่แบบทุ่มทุบตลาดจีน ญี่ปุ่น รวมถึงรถยุโรปได้แบบช๊อคกันทั้งวงการได้ขนาดนี้ นี่ขนาดแค่เปรยๆในสื่อ ยังไม่ได้ไปออกงานในอีเวนท์ นับถือความกล้าพี่เค้าจริงๆ
-
ผมว่ามันก็ไม่ใช่รถหรูหราอะไรขนาดนั้นนะครับ ราคาตามตลาดต่างประเทศก็ไม่ได้ไปหรูหราขนาดรถยุโรปแบรนด์ดังต่างๆ (เทียบตามรุ่น)
แต่ราคาที่เปิดมาถ้าเริ่มที่ 1.7 อะไรพวกนี้จริงก็ยอมรับว่าต่ำกว่าที่คิดจริงๆแล่ะครับ ถ้าสัก 2.1 นี่ไม่น่าแปลกใจ
-
ผมก็ตกใจครับ เก็งราคามาแบบไม่ถึง 2 ล้าน จริงอยู่ครับมันไม่ใช่รถหรู แต่ลองดู Benz BMW Audi ต่างประเทศสิครับ ราคามันก็ไม่แพงแบบบ้านเราขนาดนี้นะครับ
-
ราคายังไม่ออกเลยครับ มีแต่คาดเดากัน
-
เมื่อวาน ผมไปเดินมอเตอร์โชว์ ที่บูธ BRG มี Model y standard จอดอยู่คันนึง ผมถามเซลว่าเท่าไร เค้าบอก 3.7 ล้าน
ผมบอกน้องเซล รีบขายให้ออกในปีนี้นะ ลดได้ลด รีบปล่อย ไม่งั้นไม่ได้ขายนะ
และเชื่อว่า มีเกรย์หลายเจ้าเตรียมมือแตก กับเทสล่า อีกหลายที่เลย
-
ไม่ทราบผิดกฎหรือเปล่า? ถ้าผิดกฎก็ลบได้เลยครับ
https://autolifethailand.tv/tesla-model-3-coming-soon-thailand-7dec/
-
ราคามันก็ประมาณนี้นี่ครับ แล้วผลิตจากจีนภาษีแทบไม่มีเลยมั้ง ไม่เรียกทุบราคาเลยครับปกติมันต้องราคาแบบนี้อยู่แล้ว
-
ถ้าราคานี้จริงๆ รถยี่ห้อจีนทั้งหลายขายยากเลยนะ
Tesla Model 3
ราคาคาดการณ์โดย autolifethailand (นำเข้า CBU จากประเทศจีน) จำหน่ายโดยบริษัทแม่ Tesla Official (Thailand) เตรียมเปิดราคาอย่างเป็นทางการ 7 ธันวาคม 2565 นี้ ที่ Siam Paragon ครั้งแรกในประเทศไทย
Model 3 Rear-Wheel Drive 1,7xx,000 บาท
Model 3 Long Range AWD 1,9xx,000 บาท
Model 3 Performance AWD 2,2xx,000 บาท
จากข้อมูลที่ autolifethailand ได้รับ ค่อนข้างเป็นที่ยืนยันว่า Model 3 รุ่น Long Range AWD ราคาจะต่ำกว่า 2 ล้านบาท
Tesla Model Y
ราคาคาดการณ์โดย autolifethailand (นำเข้า CBU จากประเทศจีน) จำหน่ายโดยบริษัทแม่ Tesla Official (Thailand) เตรียมเปิดราคาอย่างเป็นทางการ 7 ธันวาคม 2565 นี้ ที่ Siam Paragon ครั้งแรกในประเทศไทย
Model Y Rear-Wheel Drive 1,9xx,000 บาท
Model Y Long Range AWD 2,2xx,000 บาท
Model Y Performance AWD 2,5xx,000 บาท
จากข้อมูลที่ autolifethailand ได้รับ ค่อนข้างเป็นที่ยืนยันว่า Model Y ราคารุ่นเริ่มต้น Rear-Wheel Drive จะไม่เกิน 2 ล้านบาท และ รุ่น Performance AWD ราว 2.5 ล้านบาท
-
ไม่ทราบผิดกฎหรือเปล่า? ถ้าผิดกฎก็ลบได้เลยครับ
https://autolifethailand.tv/tesla-model-3-coming-soon-thailand-7dec/
Performance สองต้นนี้ตลาดรถหรูสั่นสะเทือนเลยนะ ราคาบีเอ็มรุ่นล่างแต่เร่งแรงแบบลัมโบเลยนั้น :-*
-
วัสดุอะไรไม่ได้ดี ขับขี่ไม่ได้ดีเด่นอะไร
แต่ไฮเทค มันคืออุปกรณ์ไฟฟ้าเคลื่อนที่
ราคาแบบนี้กำลังดี
กลุ่มที่เค้าทุบได้คือกลุ่มตลาดจีนและกลุ่มญี่ปุ่น ส่วนกลุ่มยุโรป เค้ามีความคาดหวังให้รถเป็นมากกว่าพาหนะ
แต่ตั้งราคามาแบบนี้นี่ดีเลย model 3 ตัวlong rangeคือโอเคมาก แต่performanceนี่ไม่มีความจำเป็นกับความแรงอะไรเลย...
แต่ราคามาอย่างนี้จริง ใครซื้อดับเกรย์ไปก่อนมีร้องจริงๆ
-
แคมรี่แอคครอดคงต้องรีบปรับตัวอย่างหนักเลยงี้
-
ไม่ทราบผิดกฎหรือเปล่า? ถ้าผิดกฎก็ลบได้เลยครับ
https://autolifethailand.tv/tesla-model-3-coming-soon-thailand-7dec/
Performance สองต้นนี้ตลาดรถหรูสั่นสะเทือนเลยนะ ราคาบีเอ็มรุ่นล่างแต่เร่งแรงแบบลัมโบเลยนั้น :-*
ยังนึกภาพรถซีดานบ้านๆ ล้อฝาครอบแต่ 0-100 3 วิ นิดๆไม่ออกเลยแฮะ 5555
-
เจ้าอื่นฟันกำไรเว่อครับ โดยเฉพาะยี้ห้อยุโรป วางโพซิชั่นไว้สูง
ถ้ามาราคาประมาณนี้จริง สมน้ำหน้าพวกหน้าเลือดครับ
ส่วนตัวผมสนใจ Model Y ครับ
-
ผมว่าราคาที่ออกมามันตีเลขมาหยาบๆมากเลยนะครับ แบบภาษีนำเข้าจากจีนมัน 0% ก็จริง
แต่ผมว่าด้วยค่าขนส่งอะไรแล้วราคาไม่น่าสวยขนาดนี้ (ไม่แน่ใจว่าโยกย้ายพวงมาลัยจากซ้ายเป็นขวานี่ต้องถึงขั้นเปิดไลน์ใหม่เลยรึเปล่า)
ส่วนตัวผมเฉยๆนะ มันไม่ใช่รถที่แบบหรูอะไรขนาดนั้น คืออารมณ์มันเหมือนเห็นพวกรถสปอร์ตอเมริกันยุคปัจจุบันแบบพวก Camaro หรือมัดแตงอะไรพวกนั้น
ขายมานานแล้วก็จริง แต่ปัญหาเรื่องอะไหล่ก็ยังมี ที่อเมริกาก็ยังมีคนบ่น จัดอันดับ Reliability ล่าสุด (ของยุโรปหรือเมกานี่แหละ) อันดับรองสุดท้ายเลยมั้ง
ที่อเมริกาบ่นกันคือเรื่องรออะไหล่นาน แล้วยังมีเรื่องเบิกอะไหล่ได้เฉพาะศูนย์ที่ Certified ไปอีก
สำหรับผม Tesla เหนือกว่ารถจีนก็จริง อุ่นใจกว่า แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเหนือกว่ารถจีนอะไรขนาดนั้น
-
เห็นสนใจกันเรื่อง 0-100 เท่านั้นเท่านี้วินาที ถามจริง...ในถนนจริงๆมันมีพื้นที่ให้วิ่งไหมครับ เห็นจอดติดไฟแดงกันแหง็ก คลานยังกับเต่า
-
เพื่อนผมเพิ่งออก Model Y ไปได้ไม่ถึงเดือนกับเกรย์ 3.5 ล้าน ป่านนี้มันเอาตรีนก่ายหน้าผากละมั๊ง
มิน่าเซลมันเร่งยิกๆให้รีบออก
-
Atto3 ยอดจองไป 8พันคันแล้ว
MG4 ยอดจองไป 3-4พันคัน
Tesla Model3 และ Y ยอดจองมีหลักพันคันให้เห็นหลังเปิดตัวแน่นอน
ยังมีแบรนด์เก่าที่ค้างยอด และแบรนด์ใหม่ที่จะเปิดปีหน้าอีกเพียบ
ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ที่ว่าจะส่งรถกันได้เร็วแค่ไหน
ปีหน้าเราคงได้เห็นยอดขาย BEV แทนที่รถที่มีเครื่องยนต์ ไม่ต่ำกว่า 2-3หมื่นคันแน่นอน (แชร์ส่วนแบ่ง 10% up สำหรับรถนั่งส่วนบุคคล)
ปล.ถ้า Model3 เริ่ม 1.7ล้าน พวก seal กับ grandcat ก็ต้องเริ้ม 1.4-1.6ล้าน ไม่เกินนี้
Model Y เริ่ม 1.8-1.9ล้าน พวก sea lion กับ bigcat ก็ต้องเริ่ม 1.5-1.7ล้าน ไม่เกินนี้
เห็นช่องต่างๆคาดรถจีนใหญ่ๆจะเปิดมา ล้านปลาย-2ล้าน เจอ Tesla ตั้งราคามาคงต้องแข่งขันได้
-
Tesla เค้าไม่เน้นกำไร จากขายรถ คับเน้น software จริงๆ ใสรถไม่โล่งมากเลยนะ 2mก็ เหมาะสมละผมว่า
-
ถ้าราคาล้านกว่าก็เหมาะสมดีแล้วครับ ดีกว่าค่ายตราดาวที่ตั้งราคาเว่อร์วังแถมปรับราคาขึ้นอีกทั้งๆที่ออปชั่นไม่น่าอุดหนุนเลย มีที่ไหนE Class ราคา3ล้านกว่าแต่ให้เบาะหนังเทียมมา ขับทีไรรู้สึกขัดใจทุกครั้งแต่ต้องซื้อเพราะคนที่ขับประจำคือสาวกเหมือนคนส่วนใหญ่ที่สนแต่ยี่ห้ออย่างเดียว ออปชั่นอย่างยี้มาก ส่วนคนGen Zเค้ามองที่Hi techมากกว่าแล้วครับ
-
ผมว่ามันเป็นราคาที่เหมาะสมมากกว่านะ ยิ่งถ้าได้รับสิทธิทางภาษีด้วย
และปรกติ Tesla ไม่มี Dealer ด้วย บริษัทแม่ขายเอง อาจไม่ต้องเผื่อ กำไรส่วนนั้น
อย่าง MB/BM แบรนก็น่าเชื่อถือ ก็บอกค่าแบรนเข้าไป แล้วมีไลน์ประกอบใรประเทศที่ต้องลงทุนไปก่อนอีก เหมือนแบกความเสี่ยงมากกว่า
-
ตั้งราคาแบบนี้ คนซื้อเยอะแน่ๆ
ตลาดรถไฟฟ้าปีนี้คึกคักจริงๆ
-
คือช๊อคมาก ไม่คิดว่า Elon จะจัดใหญ่แบบทุ่มทุบตลาดจีน ญี่ปุ่น รวมถึงรถยุโรปได้แบบช๊อคกันทั้งวงการได้ขนาดนี้ นี่ขนาดแค่เปรยๆในสื่อ ยังไม่ได้ไปออกงานในอีเวนท์ นับถือความกล้าพี่เค้าจริงๆ
อันนี้จริงครับ ตั้งราคาบ้านเรานี่ผมว่า Game Changer เลย ตั้งราคาแพงกว่าที่จีนแต่ถูกกว่า US นับถือคนคิดกลยุทธ์เลย
ใน US ราคา Tesla Model 3 (เริ่ม 46,900$) เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Series 3 (เริ่ม 41,450$) และ C-Class (เริ่ม 43,550$) ไม่ต้องพูดถึงพวก Accord (เริ่ม 26,520$) และ Camry (เริ่ม 25,845$)
เปิดราคามาแบบนี้ ถือว่า กินรวบ D-Segment ญี่ปุ่น, Beginner Premium Luxury, Flag Ship จีน ทำให้ตลาดสนุกเลยครับ
-
เห็นสนใจกันเรื่อง 0-100 เท่านั้นเท่านี้วินาที ถามจริง...ในถนนจริงๆมันมีพื้นที่ให้วิ่งไหมครับ เห็นจอดติดไฟแดงกันแหง็ก คลานยังกับเต่า
คนสนใจอัตราเร่งแซงครับ ว่ามันแรงกว่ารถราคาเท่าๆกันไปโข performance car บางคันมีร้อง
ส่วนที่ว่ามีถนนวิ่งไหม มีครับ เยอะด้วย ผมยังวิ่งแช่ 160+ได้ในหลายเส้นทาง อย่างเส้นพิษณุโลกไปอุตรดิตถ์จะวิ่ง 300 ยังได้เลย รถผมยังแช่ 180 สบายเลย รถไม่ค่อยเยอะถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลอย่าคิดว่าทั้งประเทศมันมีแค่กรุงเทพ ออกไปใช้ชีวิตเปิดหูเปิดตาบ้างครับ
-
คือช๊อคมาก ไม่คิดว่า Elon จะจัดใหญ่แบบทุ่มทุบตลาดจีน ญี่ปุ่น รวมถึงรถยุโรปได้แบบช๊อคกันทั้งวงการได้ขนาดนี้ นี่ขนาดแค่เปรยๆในสื่อ ยังไม่ได้ไปออกงานในอีเวนท์ นับถือความกล้าพี่เค้าจริงๆ
อันนี้จริงครับ ตั้งราคาบ้านเรานี่ผมว่า Game Changer เลย ตั้งราคาแพงกว่าที่จีนแต่ถูกกว่า US นับถือคนคิดกลยุทธ์เลย
ใน US ราคา Tesla Model 3 (เริ่ม 46,900$) เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Series 3 (เริ่ม 41,450$) และ C-Class (เริ่ม 43,550$) ไม่ต้องพูดถึงพวก Accord (เริ่ม 26,520$) และ Camry (เริ่ม 25,845$)
เปิดราคามาแบบนี้ ถือว่า กินรวบ D-Segment ญี่ปุ่น, Beginner Premium Luxury, Flag Ship จีน ทำให้ตลาดสนุกเลยครับ
ที่ต่างกันส่วนหนึ่งคือ ภาษีด้วยครับ
รถนำเข้า รวมถึงประกอบในประเทศด้วย มันมีภาษีนำเข้าอยู่
รถผลิตในประเทศก็มี สรรพสามิตรเก็บอีก
ส่วนรถไฟฟ้านำเข้าจากจีน FTA ภาษี0% (ถ้าเข้าใจไม่ผิดนะ)
Tesla Model 3 (เริ่ม 46,900$) x 35 = 1641500
Series 3 330i/3303 เริ่ม 41,450$ = 1450750
C-Class c300 เริ่ม 43,550$ = 1524250
Accord 1.5t เริ่ม 26,520$ = 928200
Camry 2.5 เริ่ม 25,845$ = 904575
เห็นสนใจกันเรื่อง 0-100 เท่านั้นเท่านี้วินาที ถามจริง...ในถนนจริงๆมันมีพื้นที่ให้วิ่งไหมครับ เห็นจอดติดไฟแดงกันแหง็ก คลานยังกับเต่า
คือ เวปบอร์ดรถ คนในนี้ส่วนใหญ่ก็ค่อนข่างแคร์สมรรถณะแหละครับ เปลี่ยนรถใหม่ก็หวังว่ามันจะดีกว่าเดิมซึ่งแรงขึ้นก็เป็นปัจจัยหนึ่งแหละ
เหมือนกับที่รถยุโรปเปิดตัวแล้วถ้าช้ากว่า civic 1.5t นี้โดนจิกและเลย
ผมเองไม่ใช้คนขับเร็วเท่าไร่ ขอแค่ประมาณ 10-12 ผมพอใจแล้ว
ทำได้ต่ำกว่า 10 คือเหลือๆเลย ส่วน 6.9 ของเทสล่า ถ้าซื้อจริง อาจไม่ได้ใช้ 555
ถ้ามองในส่วนของตัวเลขในเสปกมันก้น่าตื่นเต้นจริงๆครับ
-
ผมว่าภาษีเป็นแค่ส่วนหนึ่งครับ แต่ผมว่าหลักๆของกลยุทธ์ราคาคือ Premium Gap ที่แต่ละค่ายมองผู้บริโภค ครับ
ผมว่า Accord และ Camry ใน SEA มองว่าเป็น รถผู้บริหาร เลยตั้งราคาแพงกว่าตลาด ตปท. ที่มองว่าเป็นรถบ้านๆธรรมดา
ส่วน BMW และ MB เป็น Premium Luxury เขาก็ตั้งราคาแบบ Traditional Luxury ล่ะครับ ที่มองว่าลูกค้าจ่ายได้สำหรับแบรนด์
ถ้าเอาตาม ตปท. ถ้า Tesla จะมาทำตลาดราคาแบบ BMW และ MB ก็ทำได้ครับ เพราะ ใน ตปท. เขาก็วางตัวเองเป็นแบบนั้น
อันนี้ผมว่าเขาวางกลยุทธ์ได้ดีครับ คือ ถ้าไปด้านบนแบบนั้น เขาไปแย่งฐานลูกค้า Series 3 หรือ C-Class ที่มีไม่มาก อาจจะขายได้ 500 คันต่อปี ตีกำไรคันละ 10 บาท (สมมติให้เห็นตัวเลขง่ายนะครับ)
500 x 10 = 5000 บาท
แต่พอตั้งราคาโดยสามารถแย่ง D-SEGMENT, C-SUV, CHINA BEV (PREMIUM), BEGINER LUXURY เขาอาจจะขายได้ 3000 คันต่อปี ตีกำไรคันละ 7 บาท
3000 x 7 = 21000 บาท
ซึ่งมันก็สอดคล้องกับ research ของ S&P ในบทความเรื่องพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยน Tesla มาจาก กลุ่ม D-SEGMENT, C-SUV, BEGINER LUXURY ก็สอดคล้องกันครับ ผมว่าคนทำกลยุทธ์ราคาเก่งครับ
และการจัดการ ต้นทุน เขามีแค่ Online + Own Showroom ไม่ผ่าน Dealer สามารถควบคุมต้นทุนได้ดีกว่า ส่วน Service น่าจะใช้ Model เหมือนพวก Dealer Network ของพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าครับ ที่หา Partner มาแบก Capex ของศูนย์บริการ และให้ แบก สต็อค อะไหล่ ไว้
ผมว่าประเด็นที่น่าห่วงคือ เรื่อง ศูนย์บริการ และ อะไหล่ ครับ ถ้าเสียจะซ่อมที่ไหน ? ค่าอะไหล่เท่าไร ? Reliability เป็นอย่างไร ?
-
เทสล่าเอง ดูแล้วไม่ใช่รถพรีเมี่ยมจริง
แต่ถ้าเทียบถึง software feature ต่างๆมันคืออันดับต้นๆเลย
ถ้าจะซื้อเทสล่า ก็เหมือนเสียเงินส่วนหนึ่งซื้อ ซอฟแวร์ด้วย
เรื่อง auto pilot ส่วนหนึ่งที่ผมว่าควรค่าแก่การยอมเสียเงินเพิ่มกว่าแบรนด์อื่น
การเรียกรถ หรือ ให้รถไปจอดเอง แต่สำหรับเมืองไทยคงต้องอีกหลายปีกว่า tesla จะเก็บข้อมูลแล้วทำได้อย่าง อเมริกา หรือยุโรป
แต่ก็ดีกว่า รถที่ซื้อมาแล้วพอเปลี่ยนรุ่นใหม่ รุ่นเก่าก็ไม่อัพซอฟแวร์ให้แล้ว
-
ทุกคนอาจจะลืมไป แต่รถเทสล่าทำระยะทางต่อkwh ได้ดีกว่ารถยี่ห้ออื่นๆ พอสมควร
ได้รถแรงด้วย ประหยัดด้วย แถมไฮเทคกว่าชาวบ้านเขาอีก
-
เห็นสนใจกันเรื่อง 0-100 เท่านั้นเท่านี้วินาที ถามจริง...ในถนนจริงๆมันมีพื้นที่ให้วิ่งไหมครับ เห็นจอดติดไฟแดงกันแหง็ก คลานยังกับเต่า
คนสนใจอัตราเร่งแซงครับ ว่ามันแรงกว่ารถราคาเท่าๆกันไปโข performance car บางคันมีร้อง
ส่วนที่ว่ามีถนนวิ่งไหม มีครับ เยอะด้วย ผมยังวิ่งแช่ 160+ได้ในหลายเส้นทาง อย่างเส้นพิษณุโลกไปอุตรดิตถ์จะวิ่ง 300 ยังได้เลย รถผมยังแช่ 180 สบายเลย รถไม่ค่อยเยอะถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลอย่าคิดว่าทั้งประเทศมันมีแค่กรุงเทพ ออกไปใช้ชีวิตเปิดหูเปิดตาบ้างครับ
https://youtu.be/oSmU3siR2gA (https://youtu.be/oSmU3siR2gA)
อย่าไปสนใจพวกกบในกะลาเลย พวกนั้นยังไม่ก้าวผ่านยุค 2G เลยมั้ง
-
เห็นสนใจกันเรื่อง 0-100 เท่านั้นเท่านี้วินาที ถามจริง...ในถนนจริงๆมันมีพื้นที่ให้วิ่งไหมครับ เห็นจอดติดไฟแดงกันแหง็ก คลานยังกับเต่า
รถเร็วมันขับช้าได้ครับ แต่รถช้ามันเกิดอยากจะเร็วมันไม่ได้นะครับผม
-
ค่ายยุโรปที่เอารถไฟฟ้าผลิตจีนเข้ามาก่อนหน้านี้ตั้งราคาแพงกว่ารุ่นย่อยที่เป็นรถสันดาป อาจจะคิดว่าไม่อยากทำลาย lineup รถสันดาปค่ายตัวเอง ในขณะที่ Tesla ไม่ได้มีข้อจำกัดตรงนี้ครับ
แต่ที่เห็นยังเป็นราคาคาดการณ์ รอดูราคาจริงก่อนดีกว่า
-
เห็นสนใจกันเรื่อง 0-100 เท่านั้นเท่านี้วินาที ถามจริง...ในถนนจริงๆมันมีพื้นที่ให้วิ่งไหมครับ เห็นจอดติดไฟแดงกันแหง็ก คลานยังกับเต่า
รถเร็วมันขับช้าได้ครับ แต่รถช้ามันเกิดอยากจะเร็วมันไม่ได้นะครับผม
ไม่งั้นพี่จิมมี่จะมาเสียเวลาทดสอบ 0-100 / 80-120 ทำไม ตรรกะแบบนี้ไร้สาระมาก ไอ้เวลาพวกนี้มันช่วยให้รอดตายตอนแซงมานักต่อนัก อ้อเอาไว้สั่งสอนพวกขับช้าแช่ขวาได้ด้วย
-
ราคาสมเหตุสมผล ใกล้เคียงกันทั่วโลก
-
อัตราเร่ง ก็มีไว้ทั้งใช้จริงกัน กับใช้เกทับกันแหละ ธรรมชาติผู้บริโภคบ้านเราส่วนมากเป็นแบบนี้อยู่แล้ว fc fc
ราคา กลุ่มที่มองว่าแพง ก้อขึ้นอยู่กับเทียบกับยังไง
คนมี bias หมดครับ
รอดูยอดขายเด่วก้อรู้ครับ ส่วนตัวรถไฟฟ้าสำหรับผมคงรอจนมีรุ่นที่คันเล็กๆ ใช้ในเมือง ราคาถูกๆ ใช้ได้ซัก 5-7 ปี ทิ้งก้อคุ้ม ประมาณนั้นดีกว่า
-
ราคาก็เหมาะสมนะ จริงๆถูกกว่านี้ได้อีกแสนนึงด้วยซ้ำ
-
อัตราเร่ง ก็มีไว้ทั้งใช้จริงกัน กับใช้เกทับกันแหละ ธรรมชาติผู้บริโภคบ้านเราส่วนมากเป็นแบบนี้อยู่แล้ว fc fc
ราคา กลุ่มที่มองว่าแพง ก้อขึ้นอยู่กับเทียบกับยังไง
คนมี bias หมดครับ
รอดูยอดขายเด่วก้อรู้ครับ ส่วนตัวรถไฟฟ้าสำหรับผมคงรอจนมีรุ่นที่คันเล็กๆ ใช้ในเมือง ราคาถูกๆ ใช้ได้ซัก 5-7 ปี ทิ้งก้อคุ้ม ประมาณนั้นดีกว่า
จริงๆถ้านับคนที่รีวิวรถแล้วทำตารางเก็บสถิติก็มีพี่จิมมี่คนเดียวนี่แหละมั้ง คนอื่นนี่เน้นแบบ POV กันหมดแล้วซึ่งมันก็ดีในแบบอื่นน่ะแหละ
-
รถยังไม่เปิดตัว หัวร้อนไปซะแล้ว 555
-
ถ้าเอาตามที่เคยฟังเทสล่าขายฝัน เขาบอกว่าอยากให้เป็นรถที่ทุกคนเข้าถึงเพื่อเจตนาเปลี่ยนแปลงโลกนี้จากมลภาวะที่เกิดจากการใช้รถน้ำมัน แปลในเชิงการตลาดก็คือเอากำไรแต่พองามตามโมเดลธุรกิจของเขา ซึ่งแน่นอนไม่ได้ซับซ้อนแบบธุรกิจรถยนต์ค่ายอื่นที่มีซัพพลายเชนซับซ้อนหลายมิติ
-
ถ้าเอาตามที่เคยฟังเทสล่าขายฝัน เขาบอกว่าอยากให้เป็นรถที่ทุกคนเข้าถึงเพื่อเจตนาเปลี่ยนแปลงโลกนี้จากมลภาวะที่เกิดจากการใช้รถน้ำมัน แปลในเชิงการตลาดก็คือเอากำไรแต่พองามตามโมเดลธุรกิจของเขา ซึ่งแน่นอนไม่ได้ซับซ้อนแบบธุรกิจรถยนต์ค่ายอื่นที่มีซัพพลายเชนซับซ้อนหลายมิติ
https://www.headlightmag.com/news-profit-per-unit-of-tesla-is-8-times-higher-than-toyota/
เอากำไรแต่พองามแต่กำไรต่อคันมากกว่าโตโยต้า8เท่า แสดงว่าโตโยต้านี่มันองค์กรไม่แสวงผลกำไรชัดๆ
-
ถ้าเอาตามที่เคยฟังเทสล่าขายฝัน เขาบอกว่าอยากให้เป็นรถที่ทุกคนเข้าถึงเพื่อเจตนาเปลี่ยนแปลงโลกนี้จากมลภาวะที่เกิดจากการใช้รถน้ำมัน แปลในเชิงการตลาดก็คือเอากำไรแต่พองามตามโมเดลธุรกิจของเขา ซึ่งแน่นอนไม่ได้ซับซ้อนแบบธุรกิจรถยนต์ค่ายอื่นที่มีซัพพลายเชนซับซ้อนหลายมิติ
https://www.headlightmag.com/news-profit-per-unit-of-tesla-is-8-times-higher-than-toyota/
เอากำไรแต่พองามแต่กำไรต่อคันมากกว่าโตโยต้า8เท่า แสดงว่าโตโยต้านี่มันองค์กรไม่แสวงผลกำไรชัดๆ
ต้นทุนที่ว่ามันต้นทุนผลิต คับ แต่ค่าการวิจัย กว่าจะมาถึงจุดนี้ ไม่แปลก ที่จะกำไลมากกว่า toyota
-
ผมไม่ได้คิดว่าเค้าทุบราคาอะไรเลย
เกรย์ตั้งราคาไว้สูง และมีคนยอมจ่ายในราคานั้นเอง มากกว่า
-
เห็นสนใจกันเรื่อง 0-100 เท่านั้นเท่านี้วินาที ถามจริง...ในถนนจริงๆมันมีพื้นที่ให้วิ่งไหมครับ เห็นจอดติดไฟแดงกันแหง็ก คลานยังกับเต่า
จากใจที่บ้านมีทั้ง 0-100 11 วิ และ 0-100 6 วิ นะครับ
ไม่มีใครมากดคันเร่งแบบจมเท้าตลอดหรอกครับ ส่วนใหญ่กดกันแค่ 30%-40% เท่านั้นแหละ
แต่การขับรถ 6 วิ มันดีกว่าจริงๆ ขนาดรถที่ผมใช้ 0-100 9 วิหน่อยๆ ยังรู้สึกหงุดหงิดเลยครับ แล้วผมก็ไม่ได้เป็นคนขับรถเร็วอะไรด้วย