Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: shando ที่ ธันวาคม 10, 2022, 10:34:42
-
ต้องยอมรับเลยว่าการมาของเทสล่าสะเทือนตลาดรถในช่วงราคาสองล้านบวกลบจริงๆ พอดีกับช่วงนี้รถยุโรปตัวเริ่่มตั้นเริ่มตัดออปชั่น ขึ้นราคา ไม่มีรถส่ง
หลายคนอาจบอกว่าเบนซ์บีเอ็มมีกลุ่มลูกค้าของเค้า แต่ผมว่าคนที่brand royaltyมากๆ ขอแค่มีตราดาวสามแฉกตราใบพัดฟ้าขาวต่อให้มีแค่เครื่องกับล้อก็ซื้อมันก็มีแต่ไม่ได้เยอะขนาดนั้น
ในขณะที่หลายคนซื้อยุโรปตัวเริ่มเพราะอยากได้รถที่ภาพลักษณ์ดูดีกว่ารถญี่ปุ่น แรงกว่า ขับดีกว่ารถญี่ปุ่น ผมว่าเทสล่าได้กลุ่มลูกค้าตรงนี้ไปเยอะเลย
เท่าที่เห็นในบอร์ดนี้และคนที่ผมรู้จักก็มีหลายคนที่เบนเข็มจากยุโรปตัวเริ่มต้นมาเทสล่าแล้ว คิดว่ากระทบยอดทั้งสองแบรนด์พอควร
ทุกคนคิดว่าถ้ากระทบยอดมากๆในอนาคตทั้งcทั้ง3จะมีการปรับเปลี่ยนอะไรมั้ยครับ(อาจจะไม่ใช่ในเร็วๆนี้เพราะ3เพิ่งLCI cก็เพื่งเปิดตัว+ขึ้นราคา) หรือจะช่างมันเพราะยังไงรถก็ไม่มีส่ง ไม่พอขายอยู่แล้ว
-
สะเทือนแหละ แต่ไม่มากนะผมว่า แฟนๆเขามี ผมเชื่อว่าแฟน BMW MERC เขาจะซื้อเทสล่านะ แต่ซื้อเป็นรถอีกคัน แค่อยากลองความแรง ความ EV เฉยๆ เหมือนกัน คนที่สนใจซื้อ PPV ล้านปลายๆหรือล้านกลางๆเขาก็คงไม่เลิกขับ fortuner มาเทสล่า ถ้าจะซื้อก็เพราะอยากมีเพิ่มอีกคัน
ผมก็เป็นคนนึงที่อยากจะลองรถไฟฟ้าล้วนนะ แต่คงยังไม่สามารถทิ้งรถน้ำมันหรือไฮบริดได้ใน5ปี10ปีนี้ ความสะดวกสบายเวลาเดินทางไกล ไม่ต้องวางแผนเยอะยังสำคัญสำหรับผมอยู่
ปล ผมยังไม่แน่ใจว่าการมาของเทสล่าจะทำให้ยอดขาย BMW หรือ MERC ตกลงนะ ไม่ทราบว่ามีท่านใดที่มีข้อมูลในต่างประเทศบ้างครับที่มีเทสล่าไปขาย (ยกเว้นแถบสแกนดิเนเวียนะ อันนั้นรถไฟฟ้าเขาเยอะจริง ที่ชาร์ตเขาก็เยอะจริง ถ้าผมอยู่แถวนั้นก็คงไม่ลังเล)
-
เค้าไม่ได้มีรถเป็นคันเดียว ที่ต้องตัดสินใจเลือกรถคันใดคันนึงอยู่ในบ้าน
-
ไม่กระทบอะไรครับ
มีแต่ซื้อเทสล่าเพิ่มเป็นรถอีกคันกันครับ
-
เค้าไม่ได้มีรถเป็นคันเดียว ที่ต้องตัดสินใจเลือกรถคันใดคันนึงอยู่ในบ้าน
ไม่กระทบอะไรครับ
มีแต่ซื้อเทสล่าเพิ่มเป็นรถอีกคันกันครับ
แต่ละท่านที่บอกไม่กระทบเค้าซื้อมาอีกคันนนี่ผมสงสัยครับ สมมติว่ามีคนนึงกำลังจะซื้อc-classมาใช้เร็วๆนี้ พอเทสล่าเปิดตัว สิ่งที่เกิดขึ้นคือเค้าจะซื้อทั้งc-classทั้งเทสล่าพร้อมกันงั้นเหรอครับ ผมว่าไม่น่าใช่นะ
คือผมพูดถึงคนที่กำลังจะซื้อรถใหม่ในอนาคต คนส่วนใหญ่ก็ซื้อทีละคันอยู่แล้ว และถ้าเค้าไม่ได้ซื้อ2คันพร้อมกัน เค้าก็ต้องเลือกระหว่างทั้ง2คัน ยังไงมันก็ต้องมีผลกระทบบ้างอยู่แล้ว
-
ผมว่า กระทบ
กระทบ ในระดับ C-Class / CLA / GLA / 3 Series / 2 Series / X1
คนกลุ่มนี้ ไม่ได้มีรถคันเดียว มักจะซื้อรถพวกนี้ไว้เสริมภาพลักษณ์ แล้วก็ คนกลุ่มนี้ มักใช้รถแค่ในเมือง ชานเมือง ไม่ได้ใช้วิ่งทางไกล ดังนั้น Tesla ตอบโจทย์ ยิ่งถ้ามองว่า ราคาเมืองนอก กับ เมืองไทย แทบไม่ต่าง ยิ่งเพิ่มความน่าซื้อ รวมถึง ภาพลักษณ์ Tesla มันดูมีสตางค์ ดูเป็นคนรุ่นใหม่ด้วย
ดังนั้น ยอดของรถกลุ่มนี้ น่าจะหายไประดับหนึ่งครับ
-
กระทบครับ มากด้วย
ผมว่าคนที่จะซื้อ รถ ต่ำกว่าสามล้านนี่ เอามือก่ายหน้าผาก คิดแล้วคิดอีกแหละครับ
ยอดขายรถน้ำมันในเซ็กเตอร์ใกล้ ๆ กัน น่าจะชะงักงันไปพักหนึ่งแหละครับ
-
X1 ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า FWD จะประกอบไทยปีหน้า รอดูตั้งราคาเลย
บ.ที่ยังขายรถน้ำมันอยู่เค้าจะตั้งยังไง ในเมื่อ X1 เครื่องสันดาป ต้องเป็นตัวเริ่มต้นเพราะแรงน้อยกว่า EV มาก
แต่ Model Y ที่ใหญ่กว่า แรงกว่า เริ่มต้นที่ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ตั้งราคามาต่ำ2ล้าน ทั้งที่ไม่ได้ประกอบไทย และไม่ได้ส่วนลดสนับสนุนจากรัฐเลย
ปกติ benz และ bmw มียอดขายค่ายละประมาณ 1หมื่นคัน/ปี
รอดูสิ้นปี 2023 ว่าจะตกลงต่ำกว่า 1หมื่นคันไปมากแค่ไหน ในขณะที่ Tesla จะได้ยอดขายที่ส่งมอบได้จริงกี่หมื่นคัน
ปีหน้าชีชะตา จะเป็นเหมือนตอนสเปนบุกแอซเท็กไหม
-
กระทบไม่กระทบไม่แน่ใจนะครับ แต่ผมรอ 3 Lci อยู่ พอมี tesla เปิดมาราคานี้ ผมไป tesla เลยแล้วเรียบร้อยครับ
-
อย่างที่หลายท่านบอกภาพลักษณ์มันสู้กันได้ แต่ราคาระดับแคมรี่ คนที่ใช้ในเมืองเปลี่ยนใจกันส่วนนึงแน่ๆ
ผมว่าในระยะสั้นถ้ายอดขายโดน Tesla แย่งไป ก็คงอัดส่วนลดสู้ ส่วนรุ่นใหม่ที่มาเปิดตัว ก็อาจทำราคาน่าคบมากขึ้น แต่ไม่น่าเห็นเลข 1 นำหน้าเหมือน Tesla เพราะภาพลักษณ์ค้ำคออยู่
-
ผมว่ามีผลนะ เพื่อนผมตอนแรกเล็งๆ X4 คนนี้แฟนBM ตัวยงเลยนะ ขับ X3 ซีรีย์ 5 ซีรีย์ 7
ตอนนี้เทใจมาเทสล่าแล้วครับ
-
กระทบแน่ๆครับ โดยเฉพาะพวกpremiun compact
แต่พวกseries5, e-class ผมว่าไม่กระทบเท่าไหร่ ต่อให้model sเข้ามาก็ดูจะไม่กระเทือน
แต่ที่เคยอ่านบทวิเคราะห์ของประเทศอื่น พอมีเทสล่าเข้ามา รถยุโรปมือ2ราคาร่วงหนักเลย เพราะราคาไปชนเทสล่ามือ1
-
กระทบเฉพาะตัว entry benz bmw แต่พวก flagship คงไม่สะเทือน
-
iX1 กระทบแน่ครับ ผมรอดูการเปิดราคาเลย
แต่ C-Class W206 ผมยังไม่เห็นจะเป็นที่พูดถึงในคลับแต่ละแห่งเค้าเท่าไหร่ ทุกคนก็ยังดูจะจองจะหารถกันเป็นปกติ คือยังเยอะอยู่
-
ที่บ้าน คุฯพ่อเป็นแฟนบอย ตราดาว จะออก GLC ยังชะงักเลยค่ะ ขนาดคนแก่ อายุจะ 60ปีแล้ว ยังสนใจเลย กระทบแน่นอน
-
ผมว่ากระทบ price point เดียวกัน คนไทยเทียบรถตามราคา ไม่ได้ตาม segment
แต่ผมว่ารถไฟฟ้าไม่ได้เหมาะกับคนทุกคน และอีกอย่างคือเมื่อใช้ไป 10 ปีแล้ว ราคาขายต่อจะเหลือเท่าไหร่
เพราะก่อนผมจะซื้อคันใหม่ก็ต้องขายคันเก่าไปก่อน
-
ถ้าเอา TESLA เป็นตัวตั้ง ณ ตอนนี้
กลุ่มที่กระทบแน่ๆ คือ Accord, Camry เต็มๆ
กลุ่มต่อมาคือ Entry ยุโรป อย่าง Benz A/GLA Class, BMW 1 Series/X1, AUDI A3/Q3
กลุ่มต่อมาคือ ยุโรป ที่เป็นคู่แข่งกับ Tesla ทั้งในแง่ราคาและ Position ที่ฟัดกันในทุกมุมของโลก คือ Benz C/CLA/GLC Class, BMW iX3 2/3 Series, AUDI A4/A5 ที่เหมือนโดนหักมุม โดยคู่แข่งตัดราคาลงครึ่งหนึ่ง โดยที่ตัวเองได้มองและทำตามไม่ได้(ไม่กล้าทำตาม)
กลุ่มต่อมาที่จะกระโดดลงมาด้วย คือ Benz E/GLC Class, BMW 5 Series/X5 ที่กลุ่มนี้ แอบมองๆ Tesla อยู่ ณ วันที่ Tesla ราคา 3 ล้าน อยากได้เป็นรถคันที่ 2-3 ของบ้าน แต่พอราคามันถูกลง ยิ่งทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้น
ผมว่า เอาไปเอามา Tesla เองนี่ละ ที่จะเป็นคนลาก กลุ่มคนนิยมยุโรป ลงมา แทนที่จะลากกลุ่มคนนิยม C-Seg ญี่ปุ่น ขึ้นมา เพราะการจ่ายเงินเพิ่มจาก C-Seg เกือบล้าน มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะ ลองคิดว่าเป็นตัวเองจะยอมจ่ายไหม ถ้าจ่ายไหว เขาคงไม่ซื้อ C-Seg หรอก คงกระโดดมา Accord Camry กัน ณ ตอนนั้นแล้ว
บางคนบอกว่า คนที่มอง Tesla เพราะความแรง แต่ผมมองว่าไม่ เพราะ รถไฟฟ้า คันไหน ก็แรงครับ มากน้อยว่ากันไป ในกลุ่มนี้ ยังมี BZ4X แล้วไหนจะ BYD Seal กับ NETA S ที่จะมาในช่วงราคานี้แล้ว และ 2 ตัวหลังนี้แรงๆ ทั้งนั้นด้วย
กลุ่มคนนิยมยุโรปบางคน จะมองว่า Tesla คือ Xiaomi หรือ มือถือตลาดล่างกว่า (ที่เริ่มแอบหยี๊ ด้วยหางตา ทั้งที่ตอนราคา 3 ล้าน เท่าๆ กันกับยุโรป ยังแอบมองอยู่เลย) แล้วมองรถยุโรปที่ตัวเองใช้คือ iPhone ทั้งที่ความเป็นจริง มันอาจจะเป็น Tesla Pi หรือ Nothing Phone ซะด้วยซ้ำ
ถ้าย้อนเวลาได้ ยังขอจ่ายเงิน ซื้อ Tesla แทนที่จะไป BMW เลยครับ มันคุ้มค่าในตัวเงินที่จ่ายไป
แต่......
ในกลุ่มยุโรปเอง เขามีจุดขายในความมีกลิ่นอายยุโรป ใน DNA ความเป็นยี่ห้อนั้นๆ อยู่มากเช่นกัน
ภายใน การตกแต่ง วัสดุ เท่าที่ผมลองสัมผัส Tesla Model 3 และ Y มา
ผมยังให้ BMW 330e กับ AUDI A5 ภายในคุณภาพดีกว่า Tesla Model Y ทั้งตัวเบาะ คอนโซล แผงประตู และ อื่นๆ อยู่
-
ผมว่ากระทบในช่วงราคาของมันแน่นอนครับเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ถ้าคนที่ดูช่วงราคาสูงกว่านั้นต่อให้อยากไป EV เค้าก็มี bmw i4, audi e-tron gt, porsche taycan เป็นตัวเลือกอยู่ดีครับ
ใช้ tesla สำหรับผมอารมณ์เหมือนใส่ Apple Watch อะครับ สวยนะ ใช้งานได้ดีเลย ภาพแบบคนชอบเทค
-
ไม่กระทบเพราะคนซื้อเบ้น บีเอ็ม ซื้อเพราะแบรนด์ ออฟชั่นไม่ได้สนอยู่แล้ว ต้องการจ่ายรถราคาแพงเป็นหน้าเป็นตาในสังคมครับ
-
คิดว่า กระทบ แต่เค้าคงไม่เปลี่ยนแปลงอะไร
เพราะมีกลุ่มลูกค้าที่ยังยินดีจ่ายราคานี้อยู่ เค้าก็จะขายราคานี้ และเป่าหูเรื่องความหรูหรา ความพรีเมียมเข้าไปมากๆ แค่นั้นแหละ
ประมาณว่าขับ 330e หรูหราพรีเมียมกว่า model3 ประมาณนี้
-
ผมหล่ะหวังให้เป็นแบบนั้น
อยากเห็น M340i ปรับราคาลงมาเหลือ 2ล้านกว่าๆ แล้วจะไม่ลังเลที่จะซื้อเลย :D
แต่ดูแล้วน่าจะยาก คงทำได้แค่ฝัน :(
-
คหสต คิดว่ากระทบBenz ไม่มากครับแต่ BMW น่าจะโดนดึงลูกค้ารุ่นใหม่ๆไป ส่วน Audi หรือ Volvo ผมว่าคนซื้อมีลังเลแน่นอน
ถ้าเทียบในไทยผมคิดว่ารถเบนซ์เหมือนนาฬิกา Rolex ครับ จะกี่ปีก็ยังคงเป็นสิ่งที่คนอยากได้ ส่วน Tesla เหมือน Apple Watch มีครบทุกฟีเจอร์แต่ระยะยาวก็ไม่ได้ไปแย่งยอดขาย Rolex เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ
-
ตอนแรกกะจะเอา g30 ไปเทิร์น X4
ตอนนี้ กำลังลังเล
อาจจะเก็บคันเก่าไว้ แล้วสอย Model Y แทน
-
มองได้หลายมุมครับ อย่างน้อยรถ fleet benz, bm ขององค์กรใหญ่ๆ, โรงแรม, อาเสี่ยโรงงาน ภาพลักษณ์ก็ยังดูดีกว่า tesla
- ไม่ใช้คนทั้งประเทศพร้อมใช้รถไฟฟ้า 100%
- บางคนบริษัทออกค่าน้ำมันให้ เปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าเท่ากับเสียผลประโยชน์ตรงนี้
- ตอน iX3 เปิดตัวใหม่ๆ ราคา 3.39m ผมก็ยังเห็น x20d เต็มถนน ทั้งๆ ที่แพงกว่า option น้อยกว่า
แต่ยอดจอง 5,xxx คัน ผมว่า bm กระทบมากกว่า benz เพราะคนชอบขับขี่และความแรงส่วนมากใช้ bm
และก็เห็นด้วยกับความเห็นอื่นๆ ว่าอาจจะเป็นรถคันที่ 3 ที่ 4 ของบ้าน อารมณ์คนรวยอยากลองของเล่นใหม่
สรุปคือ สรุปไม่ได้ 5555 รอดูชมครับสนุกแน่นอน
-
ถ้าจะแย่งได้ก็คือกลุ่มที่ไม่ใช่พวกตั้งธงแบรนด์มาในใจแล้วน่ะครับ ถ้ากลุ่มนั้นคือต่อให้คุณลดเทสล่าเหลือล้านเดียวเขาก็ไม่สนครับ เขามีธงอยู่แล้ว
ส่วนกลุ่มลูกค้าที่แย่งได้จริงๆคือกลุ่มพวกรถไฟฟ้ามากกว่า ตรงนี้ BMW i โดนแน่นอนทั้ง i3 ทั้ง i8 ยิ่ง i8 ผมว่าถ้าคนไม่ได้ชอบเพราะดีไซน์จริงๆ เทสล่ากินหมดอะครับ
ส่วน Merc อย่าง EQ งี้ก็ด้วย ผมบอกตรงๆเห็นสภาพ EQS รวมถึงความคิดบริษัทแม่ที่จะให้ลูกค้าจ่ายเงินเพิ่มเพื่ออัตราเร่งดีขึ้นแล้ว... ก็ไม่รู้จะด่ายังไงให้ถูกจุดดี
ผมยอมรับว่าข้อได้เปรียบของเทสล่าคือการเป็นบริษัท EV แต่แรก ตรงข้ามกับ BMW/Merc ที่เป็นบริษัทรถสันดาปมาก่อนแล้วทำรถไฟฟ้า
Approach ตรงนี้ต่างกัน ทำให้รถออกมาเหมือนสลับขั้วกันอย่างชัดเจน
นอกเรื่องไปนิดนึง ถ้าถามว่าจะมีการปรับตัวมั้ย ผมว่าอาจจะมีบ้าง แต่คงไม่ Drastic ขนาดเท่าที่ฝันๆกันครับ
-
กลุ่มรถในช่วงราคาไล่ๆ กันน่าจะกระทบครับ
คนที่คิดจะซื้อ BMW หรือ Benz ในช่วงราคา 2-3 ล้านต้องมีสะดุดบ้างแน่นอน
-
จะกระทบในกลุ่มคนที่เลือกซื้อรถโดยราคาครับ
สุดท้ายยอดขายจะเป็นตัวบอกเองว่าค่ายยุโรปจะต้องปรับตัวหรือไม่ครับ ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะกระทบระดับนึง แต่ที่โดนหนักกว่าคือ accord camryครับ นั่นชนเต็มๆ
นี่มีแพลนออกรถใหม่ยังชะลอรอดูเลยครับว่าค่ายยุโรปเค้าจะเอายังไงต่อ ระหว่างขึ้นราคาตามแผน้ดิมกัน หรือจะปรับลดลงมา
สิ่งที่บอกได้ดีที่สุดคือยอดขายต่อจากนี้ครับ
ถ้ายอดขายรถยุโรปหดตัวหนักๆ ก็มีแนวโน้มต้องปรับตัวครับ
-
รอดูยาวๆก่อนดีกว่า ถ้ากระทบก็ดีจะได้เกิดการเปลี่ยนแปลง ถ้าแค่ไฟไหม้ฟาง กระแส ที่วูบแล้วดับ มันก็แค่นั้น
เช่น ออกมาแล้ว รถดี แต่หาที่เสียบไฟยาก มันก็แค่นั้น
-
ผมว่าการมาของ TESLA กระทบยอดของ benz BMW เหมือนที่ รถจีนมา กระทบยอดรถญี่ปุ่น
Benz BMW ปรับตัวแบบไหน ก็คงเหมือน แบรนด์ญี่ปุ่นที่กำลังปรับตัวอยู่ตอนนี้ ( หรือไม่ได้ปรับตัวเลย หรือเปล่า)
-
Tesla อาจจะเคยให้ภาพลักษณ์คนรวยที่ชอบของไฮเทค
เพราะราคาที่ซื้อผ่านเกรย์มันแพง ทั้งๆ ที่ Tesla ไม่ใช่รถ Luxury
พอบ.แม่มาขายเอง ราคาไม่แพงเกิน
คนขับ Tesla ก็จะไม่ได้ดูรวยเหมือนแต่ก่อน
-
BMW , Benz ยังมีภาพคนรวยค้ำคออยู่ คงไม่ลงมาเล่นราคามาก
อาจจะเพิ่ม option ในราคาเท่าๆเดิม
ถ้ายอดตกมากอาจจะเห็นโปรแปลกๆออกมาเป็นระยะ
-
ผมน่าที่จะกระทบแน่ๆ คือรถจีนที่มาตั้งบริษัทในไทย แล้วขายรถใน segment เดียวกัน
-
ถามว่ากระทบมั้ย? ผมว่ามากโคตรๆ
คนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อจริง ไม่ได้มองเบนซ์, บีเอ็มตัวเริ่ม พวก A-Class, Series 2 เป็นรถหรูรถแพงหรอกครับ ขับไปดีลธุรกิจคู่ค้าก็มองว่ารถวัยรุ่นพ่อแม่ซื้อให้ขับด้วยซ้ำ ยิ่งต่างจังหวัดเผลอๆ Fortuner, Camry ยังดูรวยกว่า
แต่รุ่นใหญ่กระทบมั้ย? ผมว่า E, กับ 3 ขึ้นไปจะน้อยลงหน่อย เพราะภาพลักษณ์ยังได้อยู่ แล้วไม่ต้องมีเทสล่าหรอก พวก hybrid เปราะๆรู้กันทั้งวงการว่าห่วย ยังมีคนซื้อใช้เรื่อยๆเลย
ถามว่าแบรนด์จะปรับตัวยังไง? อย่างมากก็เลิกขายรุ่นเล็กครับผมว่า
-
ระยะแรกน่าจะมีผลนิดหน่อยกับกลุ่มมีความชอบที่ก้ำกึ่ง แต่ระยะยาวคงเป็นการแข่งขันระหว่างตลาดรถ ice กับ bev มากกว่า เพราะสองฝั่งก็ต้องเข็นโปรดักช์ของตัวเองออกมา เช่น x3 vs ix3 ส่วนเทสล่าก็ค่อยๆกลืนตลาดไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะเหลือแต่รถไฟฟ้าที่มีแบรนด์จีน เทสล่า กับกลุ่มพรีเมียม
-
ปรับแน่นอนครับ ปรับ...ราคาขึ้นไปอีกแน่นอน ;D
-
กระทบ แต่น้อย
ลูกค้าคนละกลุ่มอยู่แล้ว
ถ้าคนที่ไปลอง Tesla คันจริงแล้วจะรู้ทันที วัสดุ Eco car ชัดเจน
เทียบกับภายใน ค่ายยุโรป ไม่ได้ครับ
ไหนจะภาพลักษณ์ของแบรน ที่ฝังลึกในวัฒนธรรมอีก
-
รถที่แพงที่สุดที่ ผมเคยซื้อคือ V40 ปี 12 ตอนนั้น ล้านแปด
ถ้า Tesla มันออกเมื่อปี 12 แล้ว ราคานี้ ผมสงสัยโดน Tesla ครับ
แต่ มันก็เป็นการคิด โดย ไม่ได้ซื้อจริง เวลาซื้อจริง อาจจะคิดมากวว่านี้
แต่ ตอนนี้ งบซื้อรถ 1 คัน ไม่เกิน ล้านห้า ครับ อดขี่
-
จะปรับหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่า Tesla ยืนระยะได้หรือไม่
ถ้า tesla ไปได้สวยคิดว่าต้องปรับแล้วแหละ
เพื่อนที่เพิ่งออก 520d ไปยังเสียดายเลยครับ
บอกว่าถ้าราคามาเร็วกว่านี้สักหน่อย คงมีกดจองบ้างเหมือนกัน
สำหรับภาพลักษณ์อะไรนั่น
คนขับ c e 3 5 กับ model 3 y พวกนี้เอาจริงๆไม่ได้ดีแย่กว่ากันเท่าไหร่นะครับ
รถจีนช่วง 1.2-1.4 ล้าน ผมว่าไปต่อยากแล้วแหละ
-
ต้องมีกระทบบ้างแน่ๆนะ สำหรับคนที่กำลังคิดถึงรถเสียบปลั๊กอยู่
ส่วนคนที่ไม่สะดวก หรือไม่ชอบ ก็คงไม่รู้สึกอะไรมาก
-
ต่างประเทศมีข่าวเยอะแยะว่า benz bmw ก็ยอมรับว่าปรับตัวไป EV ช้าเกินไป
และช่วงนึงก็มีข่าวมูลค่า Tesla ก็กลายเป็นบริษัทรถที่มีเงินเยอะที่สุดไปแล้ว
ดังนั้นทุกบริษัทก็ต้องอยากปรับตัวแข่งกับ Tesla อยู่แล้ว แต่จะปรับได้แค่ไหนก็อีกเรื่องนึง 5555
-
ตอนนี้อาจจะกระทบยังไม่มากเพราะรถก็ยังผลิตไม่พอกับคำสั่งซื้อด้วยเหตุChip shortage อยู่ แต่เมื่อไหร่Teslaส่งมอบได้มากๆและพิสูจน์ตัวเองว่าอยู่ในใจผู้บริโภคได้ ค่ายยุโรปมีเหนื่อยแน่นอน รายได้ของค่ายยุโรปนอกจากกำไรจากการขายรถในบ้านเรายังมาจากขายอะไหล่อีกด้วย ผมเคยคุยกับผจก.ศูนย์ตราดาวสาขาหนึ่ง เค้าเล่าให้ผมว่าทางบริษัทแม่ตั้งเป้าให้สาขาเค้าต้องขายอะไหล่และบริการถึงปีละ100ล้านบาท ถิอเป็นเป้าหมายที่โหดมาก ถ้ารถไฟฟ้ามาเยอะๆแล้วศูนย์บริการจะลำบากเพราะทางAudiยังบอกเองว่า E-Tron แทบไม่มีการที่จะต้องServiceเลย ล่าสุดTesla club แจ้งว่ายอดจองเกินหลัก8พันคันในบ้านเราไปเป็นที่เรียบร้อย สงสัยแค่ว่าSupercharger 10แห่งจะพอเหรอเนี่ย
-
ผมว่า เขาก็คงต้องปรับหละคับ ไม่งั้นก็คงคล้ายกับ nokia
ีที่เมือ่กอ่น ซื้อโคตรแพง แล้วอยู่มาวันนึง คนก็ ไปใช้ iphone กันหมด ทั้งๆ ที่ hardware สู้ไม่ได้ แต่ software นี่ตัวชี้ขาด
-
กระทบแน่นอนครับ ที่ ตปท ก็มีรายงานมาแล้ว บางที่ไม่ถึงกับยอดลด แต่ยอดไม่โต มันก็คือยอดลดนั่นแหละครับ
-
ผมมองว่าการมาของ Tesla มันคือ evolution ในหลายๆด้านของวงการรถยนต์และเทคโนโลยีครับ
อาจไม่ส่งผลกระทบมาก กับแบรนด์ยุโรปในไทย แต่ไม่ใช่ว่าไม่ถูกนำไปเปรียบเทียบเลย
เพราะ Tesla ทำให้เห็นแล้วว่ารถไฟฟ้านำเข้าจากจีนเหมือนกัน แต่ราคาขายต่างกันในไทย ก็ให้ผู้บริโภคไปคิดไปตัดสินใจกันเอาเองว่า ใครเอาเปรียบใครมากกว่ากัน
หรือถ้าไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ เป็นความชอบส่วนตัว หรือมีเหตุผลอะไรแล้วแต่ คนเหล่านี้เค้าก็ไม่ได้สนใจเรื่องราคาซักเท่าไหร่ บางทีมันอยุ่ที่จริตของคนนั้นๆ ถ้าชอบก็ซื้อ ถูกใจไม่มีคำว่าแพง