Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ton_109 ที่ ธันวาคม 20, 2022, 07:31:02
-
ประเด็นคือ ถ้าต้องเลือกระหว่าง 2 คันนี้
X1 ตัว F48 20d LCI ปี 2020 (ใช้อยู่)
กับ
Tesla model Y LR ของ official ไทย (จองไปแล้ว)
อยากสอบถามสมาชิกที่เคยขับทั้งคู่ หรือ มีทั้ง 2 คัน
ช่วยเปรียบเทียบให้หน่อยครับ เอาเฉพาะแค่ประเด็นตามนี้ครับ
- เรื่องการขับขี่
ความสนุก ความคล่องตัว ความสบาย ในการขับขี่
ขอเทียบช่วงล่างเดิมๆ ทั้งคู่นะครับ
อัตราเร่งช่วงลอยตัว 80 - 120 - 140
การมุด โยกหลบ ซอกแซกๆ บนถนนที่ใช้ความเร็วสูง
เทียบกันเป็นยังไงบ้างครับ คันไหนเหนือกว่าหรือชอบมากกว่า
ผมขับทางไกล ต่างจังหวัดเป็นหลักครับ ไม่ช้าไม่เร็ว ยืนพื้น 120
- ขนาดของรถ
ดูจาก spec ตัว Y ใหญ่กว่า X1 เข้าใจว่าต้องเทียบกับ X3
แต่การใช้งานจริงในเรื่องขนาดของห้องโดยสาร ความสูงจากใต้ท้องรถ
ความจุสัมภาระ ต่างกันเยอะมั้ยครับ
พอดีได้ไปแค่ลองนั่ง Y ในงานเปิดตัวเมื่อต้นเดือน
ทำไมข้างในมันดูไม่ใหญ่เหมือนที่เขียนเอาไว้ครับ
- ทัศนวิสัยในการขับขี่
เนื่องจากขับต่างจังหวัดเป็นหลัก ส่วนมากเช้ามืดกับหัวค่ำ
ต่างกันเยอะมั้ยครับ ชอบแบบกว้างๆ เคลียร์ๆ มองเห็นได้ไกลๆ
เวลาขับขี่ครับ
เรื่องอื่นๆไม่ขอพูดถึงนะครับ
รถคนละแบบ option ไฮเทค ต่างกันคนละโลก อันนี้เข้าใจอยู่
วิ่งทางไกลเกิน 400 โล ผมเอาคันอื่นไปอยู่แล้วครับ
เรื่องความประหยัดเชื้อเพลิงก็เฉยๆ แค่อยากลองของใหม่ครับ
ทุกวันนี้ยัง happy ดีกับ X1 อยู่ ใช้มา 2 ปี ก็ไม่จุกจิกอะไร
แต่กลัวคิดผิดที่เปลี่ยน เพราะเลือกเก็บไว้ได้แค่คันเดียวคร้บ
ขอบคุณมากครับ
-
ถ้าเป็นผมไป เทสล่าครับ
ไม่เคยขับแต่ชอบอะไรหลายๆอย่างในตัวรถ แค่ระบบขับเองนี้ผมก็กริ๊ดแล้วครับ
เรื่องช่วงล่างได้ยินว่าตึงตัง ไปทางแข็งครับ
พวก BM ซีรีย์ 3 ช่วงล่างเฟริมกว่า
-
ก็จองไปแล้ว แปลว่าตัดสินใจเปลี่ยนแล้วนิครับ
-
ก็จองไปแล้ว แปลว่าตัดสินใจเปลี่ยนแล้วนิครับ
พอดีจองไปพร้อมๆกับเค้าช่วงแรกๆ
เงินจองไม่เท่าไหร่ครับ เปลี่ยนใจได้อยู่
ประมาณว่าใจนึงก็อยากได้ อีกใจก็ลังเล
ประมาณนั้นครับ
-
จากเงื่อนไขการใช้งานแล้ว X1 ยังดูเหมาะกว่าเวลาขับไปตจว.
ตรงที่รถสูงกว่า มองได้ไกล ไม่กลัวน้ำท่วม ถ้าเกิดฉุกเฉิน ยังพอหาอู่ซ่อมได้
ส่วนเรื่องที่ชาร์จอนาคตคงมีเยอะกว่านี้ ไม่ค่อยน่าห่วง
-
ความเห็นผมนะ ไม่ตอบอย่างที่คุณถาม
ตอบว่า ไม่ควรเปลี่ยน รถคุณใช้น้อยเกินไป ไม่ควรให้กิเลสมายั่วน้ำลายจนมองข้ามจุดดี-ด้อย ของทั้งสองคัน
แต่ถ้าจะเลือกซื้อเพิ่มอีกคัน อันนี้เห็นด้วย จุดประสงค์การใช้งานต่างกัน ปัจจุบันควรยังต้องใช้ทั้ง สองแบบอยู่ครับ
-
ต่างจังหวัดเป็นหลัก เป็นผมใช้ X1 ต่อไปอีกสัก 1-2 ปีครับ จุดชาร์จยังไม่รองรับปริมาณรถที่ซื้อกันช่วงนี้เท่าไหร่
เก็บเงินรอสักพัก เผื่อมีรุ่นอื่นมาเพิ่มอีกครับ
-
ออกตัวก่อนว่าไม่เคยขับทั้งคู่นะครับ
แต่ที่ดูจากรีวิว ทั้งสองคันช่วงล่าง การขับขี่ การโดยสารไม่น่าต่างกันมากขนาดรู้สึกได้
ที่ต่างคืออัตราเร่ง กับภายในที่น่าจะดูพรีเมี่ยมน้อยลง
แต่ถ้าเงินเหลือ+เดิมมีรถหลายคันผมว่าเปลี่ยนก็ดีครับ เพราะในความคิดของผม x1 เป็นรถประเภทรถใช้งาน คันเดียวของบ้าน เน้นไว้ใจได้ ทน
ในขณะที่model y เป็นรถที่เหมาะกับเป็นคันที่2-3 เน้นแตกต่างกับรถคันอื่นที่มี
ตัวผมเองยังอยากเปลี่ยนจากcx-5เป็นmodel yเลย เพราะอยากเอามาพับเบาะหลังเปิดแอร์นอนตอนพักกลางวันที่ทำงาน
แต่คิดไปคิดมาไม่เอาดีกว่าเพราะเดี๋ยวจะไม่มีรถที่พร้อมลุยน้ำท่วม-ทางพังโดยไม่เสียดาย
-
เปลี่ยนเลยครับแนะนำ ได้เทคโนโลยีใหม่กว่าเป็นสิบปี ช่วยลดมลภาวะจากควันไอเสียดีเซล มีกำลังก็ลุยเลยไม่ช้าก็ต้องปรับอยู่ดี...
-
ผมเชียร์ Model Y เลยครับ
-
ถ้าจองไปแล้ว ผมว่าก็เอา Model Y ไปเถอะ อย่างน้อยก็ได้เรื่องอัตราเร่งที่ดีขึ้น
แต่ถ้ายังไม่ได้จอง คิดว่าใช้ X1 ต่อไปดีกว่า อาจจะอีก 2-3 ปียังได้อยู่ ตัวรถโอเคกว่า Model Y
-
Keyword คือ แค่ อยากลองของใหม่
ถ้าไม่เปลี่ยนก็จะไม่ได้ลองน่ะสิครับ
ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา ก็ใช้หาประสบการณ์จริงดีกว่าครับ
ถ้าไม่เวิร์คก็ค่อยกลับมาหาซื้อ X1 คันใหม่ หรือรุ่นอื่นๆ ก็ได้ครับ
-
ไป Y เลยครับ ถ้ามีรถทางไกล 400 โล+ อยู่แล้ว อย่าลังเลครับ ยุโรป Entry ไม่น่าสนใจแล้วครับ
-
ชอบก็จัดประหยัดทำไม
จองแล้วด้วย ถ้าการเงินไม่เดือดร้อนอยากขับต้องได้ขับครับ คิดเยอะได้แต่มอง ต้องโกหกตัวเองว่าไม่ซื้อเพราะหาข้ออ้างไม่ดีต่างๆนาๆ ทั้งที่อยากได้แล้วต้องอยู่กับความเป็นทุกข์ไม่คุ้มครับ
-
ถ้าขับทางไกลบ่อย ใช้รถน้ำมันไปก่อนครับ ซักวันคุณได้ใช้รถไฟฟ้าแน่นอนเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม ไม่ต้องรีบ
แต่ถ้าซื้อเพิ่มอันนี้แล้วแต่เลยครับ ถ้าไม่เดือดร้อนก็จัดไปครับ
-
ยอมเสียตังเพิ่มอีก ราวๆ 30,000 ไหมครับ ก็ลองเช่า Evme มาลองสักสัปดาห์ ก็น่าจะพอรู้แล้วว่าเหมาะกับตัวเองไหม
ออก ตจว ถ้าปกติกินแต่อาหารปั๊มอยู่แล้ว ผมว่าไม่มีปัญหาเลย
หรือถ้าไม่จำเป็นว่า Model Y มาแล้วต้องขาย X1 ทันที ก็ลองเอามาใช้สักเดือนแล้วค่อยปล่อยมือสองก็ได้ครับ คนอยากได้รถเร็วยอมจ่ายมือสองราคาเต็มก็มีนะครับ ตอนนี้ Demand ดูสูงมากๆ
-
ถ้าตอนนี้ ผมเอา x1 ออก ตจว ไม่ต้องคิดอะไรมาก รถมันขับลุยไปได้ทุกที่ ถนนห่วยๆก็ไปได้ รถไฟฟ้าต้องคิดก่อนลุย คิดก่อนไป ออกเขต กทม ก็ต้องมาลุ้นล่ะ ตู้เสียบไฟตรงไหนมีบ้าง ใช้ได้ไหม ต่อให้วิ่งไกล 400 ก็ตาม แต่เอาจริง ออก ตจว บางทีอยากแวะนั่นนี่ ก็มี ผมเห็น เจ้าของรถที่ทำรีวิว แวะเสียบไฟถี่มาก เค้าก็คงกังวลเรื่องไฟไม่พอเหมือนกัน
จริงๆอยากได้อะไรก็ตัดสินใจเลยแค่นั้น เพราะคนใช้รถคือคุณ เว้นแต่ไม่แน่ใจก็ต้องหาเช่าก่อน เพราะการตามกระแส บางทีมันก็ไม่ใช่แบบที่คิดก็ได้
ที่เหลือไม่รู้จะตอบอะไร เพราะไม่เคยขี่เทสล่า กับ x1 ผมแทบจะมองว่ามันคือรถคนละแนวกันเลย
-
ถ้าการเงินไม่ใช่ปัญหา ถือว่าซื้อประสบการณ์ จะได้ไม่คาใจ ถึงเวลาช่วงปี -2ปีถ้าไม่ชอบ ขายต่อน่าจะยังไม่เจ็บ เพราะ Demand รุนแรงอยู่แน่ๆช่วง 2-3ปีนี้
-
ถ้าใช้เป็นคันหลักออกต่างจังหวัด รอหน่อยครับ รอให้ชัดเจนว่า Tesla จะสร้าง Supercharger ตรงจุดไหนบ้าง
หรือเข้าเฟสกลุ่ม EV ดูก่อน ดูว่าช่วงเทศกาลปีใหม่นี้จะมีการแย่งชาร์จกันขนาดไหน
-
ไม่รู้ว่า X1 เสียภาษีในไทยไปเท่าไหร่ แต่เทียบราคาแล้ว Y คุ้มกว่าเยอะ
-
จากที่ดูรีวิวมา ผมยังเลือก x1อยู่ดี เพราะไม่ชอบอะไรที่ต้องสั่งงานผ่านจออย่างเดียว
- จะเปิดเกะหน้า ก็ต้องกดผ่านจอกลาง
- ปรับแอร์ ก็ต้องกดผ่านจอกลาง
- จอหน้าปัดหลังพวงมาลัยก็ไม่มี ต้องดูผ่านจอกลาง
- การไม่มีปุ่มต่างๆ แล้วให้ไปสั่งงานผ่านจอ ทำให้เราต้องละสายตาจากถนน มันอันตราย
สิ่งที่ชอบใน tesla คือระบบขับขี่อัตโนมัติเท่านั้น
-
จุดอ่อนของ tesla คือภายในครับ คิดว่าควรลองไปนั่งดูว่ารับได้ไหม
-
Y จริงๆราคาต้องไปเทียบ Porsche Macan
-
ผมไปลองModel 3มา ไม่ได้ลองY นะครับ
ผมว่าอารมณ์Tesla มันคล้ายรถจีน เก็บเสียงแย่ แฮนดริ่งก็แย่ ขับตกหลุมเหมือนมีอะไรจะหลุด แบบนึกถึงสมัย Civic eg ek
มันป๋องแป๋งยังงัยไม่รู้สินะครับ เทียบกับBMW ที่หนักแน่นกว่า
-
จุดอ่อนของ tesla คือภายในครับ คิดว่าควรลองไปนั่งดูว่ารับได้ไหม
ไปลองนั่งมาละครับ วันเปิดตัว
ผิดหวังกับภายในพอสมควร
แต่ยังไม่เคยได้ลองขับครับ
-
ผมไปลองModel 3มา ไม่ได้ลองY นะครับ
ผมว่าอารมณ์Tesla มันคล้ายรถจีน เก็บเสียงแย่ แฮนดริ่งก็แย่ ขับตกหลุมเหมือนมีอะไรจะหลุด แบบนึกถึงสมัย Civic eg ek
มันป๋องแป๋งยังงัยไม่รู้สินะครับ เทียบกับBMW ที่หนักแน่นกว่า
อันนี้นึกภาพตามได้ชัดเลยครับ
-
จากที่ดูในYouTube ก็เห็นว่ารุ่นล่าสุดปรับปรุงทั้งเสียงที่เงียบขึ้นจากกระจกสองชั้น ช่วงล่างนุ่มขึ้น แล้วนะครับ
https://youtu.be/LpwctWk9KxE
-
คนนี้ให้ความเห็นอีกแบบครับ
ป.ล.เหมือนจะเข้ามาอ่านใน HLM ด้วยมั้ยครับ
https://www.youtube.com/watch?v=5P5nps6mBLo
-
ผมรอให้เขาส่งมอบล็อตแรก รอฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ กับรอดูดราม่าชาร์จไฟช่วงเดินทางสงกรานต์ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีครับ
-
ใช้งาน model y ปี 2022 HK Spec อยู่ครับ เป็นหนึ่งในคนที่ติดดอย
ขออนุญาตตอบตามหัวข้อเลยนะครับ
- เรื่องการขับขี่
ความสนุก ความคล่องตัว ผมเทียบไม่ได้เพราะไม่เคยใช้ X1 อีกตัวที่ผมใช้เป็น Lexus RX 2019 ซึ่งมันใหญ่ ผมรู้สึกว่า model y คล่องกว่าอยู่แล้วครับ
อัตราเร่งช่วงลอยตัว เหมือนมันแทบจะไม่ต่างกันในแต่ละช่วงความเร็วเลยครับ เหยียบแค่ไหนมาแค่นั้น เกิน 140 ไป 170-180 ก็ยังแปบเดียว มันแอบปลุกวิญญาณตีนผีนิดหน่อย เพราะขับแล้วรู้สึกมั่นใจว่าแซงได้ทุกคัน
การมุด โยกหลบ ส่วนตัวผมว่าไม่แย่ ค่อนข้างดีเลย แต่อย่างที่บอก รถอีกคันผมมันใหญ่เทอะทะ
ขับทางไกลเป็นหลัก แนะนำว่า ไปกลับไม่เกิน 400 โลเอามาชาร์จบ้านได้ดีกว่าครับ และต้องระวัง ถ้าขับเร็วแช่ แบตไหลเป็นน้ำเลยครับ
ส่วนตัว พอใช้ไปซักพัก ขับทางไกลเลิกขับเองแล้วครับ auto pilot อย่างเดียว
- ขนาดของรถ
จริงๆผมว่าเค้าออกแบบภายในมาได้รู้สึกโปร่งดี อาจจะด้วยความโล่งของมัน
ความสูงจากใต้ท้องรถ จริงๆไม่ได้สูงมากนะครับ เตี้ยเลยเมื่อเทียบกับ SUV ทั่วไป
ความจุสัมภาระต้องทำใจว่าท้ายมันลาดนะครับ เปิดมาพื้นที่ก็ดูใหญ่ดี แต่ใส่ของสูงๆก็อีกเรื่อง แต่ได้เปรียบตรงที่มี frunk ส่วนมากผมจะใช้ frunk มากกว่าเพราะไม่ต้องเสี่ยงเปิดท้ายชนนู่นชนนี่ในที่จอดห้าง
ถ้าเทียบกับรถขนาดใกล้ๆกันที่เคยใช้คือ GLC ผมว่าโดยรวมรู้สึกกว้างขวางกว่า
- ทัศนวิสัยในการขับขี่
กว้างๆ เคลียร์ๆ นี่แหละ ใช่เลยครับ หลังคามันสูงแล้วรู้สึกว่าพื้นที่ระหว่างคอนโซลกับหลังคามันเยอะ เลยรู้สึกกระจกบานหน้าใหญ่มาก
- ความเห็นส่วนตัวเพิ่มเติม
ช่วงล่างแข็งมาก กระด้างมาก นั่งหลังแย่มาก
พวงมาลัยเหมือนจะไม่หน่วงตามความเร็วให้ ถ้าปรับ comfort ไว้ ขับเร็วก็ยังเบา ส่วนตัวใช้แต่ standard เพราะขี้เกียจเปลี่ยน
ระวังเวลาอัพเดท ถึงมันจะไว้แต่ wifi แต่ก็ใช้เวลาพอสมควร อย่าตั้งให้มันอัพเดทอัตโนมัติ ไม่งั้นถ้าจะรีบๆเอารถออกจะหัวร้อนได้
อย่าคาดหวังอะไรกับงานประกอบมาก เค้าไม่ได้ขายความประณีต
เห็นว่าอยากลองของใหม่ แล้วถ้ามีรถคันอื่นสำหรับใช้เดินทางไกลอยู่แล้ว ผมว่า ซื้อครับ
ผมก็ซื้อเพราะอยากลองของใหม่เหมือนกัน และก็ไม่เสียใจที่ติดดอย แค่เสียดายเงิน
การรวมทุกอย่างไว้ในจอ ส่วนตัวปรับตัวไม่นาน และมันก็มีข้อดีอยู่ คือมันอัพเดทแก้ UI ได้ครับ อย่างตอนนี้ปุ่มปรับพัดลมแอร์ก็เปลี่ยนเป็นแบบจิ้มได้แล้ว
-
ผมเคยเช่า Model Y (Long range ล้อ 20) EVme ขับมา 7 วันครับ และเคยลอง X1 แค่ Test drive 20-30 นาที
ช่วงล่างผมว่า แข็ง ใกล้เคียงกันนะครับ
Tesla ขับสนุกมาก ไปลองมา 7 วัน ถึงวันคืนรถแล้วยังคิดถึงอยู่เลย (จอง Y Long range ไปเหมือนกันแต่เอาล้อ 19 พอ)
จอกลาง ใช้งานง่ายมาก 1-2 วันผมก็ชินแล้วครับ ไม่มีปัญหาในการปรับใด ๆ
ในส่วน จขกท. ผมว่า X1 พึ่งใช้มา 2 ปีเอง ใช้ไปก่อนดีกว่าไหมครับ
แล้วอีก 2-3 ปีค่อยเปลี่ยนรถ (ตอนนั้น Model Y น่าจะปรับโฉม ตาม Model 3 แล้วพอดี)
-
https://www.forbes.com/sites/johnkoetsier/2022/09/07/tesla-model-y-gets-highest-safety-score-ever-in-european-test/?sh=20c1d8834ff3&fbclid=IwAR0_pPwrpPVjqVBzNqQMxX-AoL7PWebEnvlUqFHdp9oJmtpiDYq1KcnUPnM
-
ใช้งาน model y ปี 2022 HK Spec อยู่ครับ เป็นหนึ่งในคนที่ติดดอย
ขออนุญาตตอบตามหัวข้อเลยนะครับ
- เรื่องการขับขี่
ความสนุก ความคล่องตัว ผมเทียบไม่ได้เพราะไม่เคยใช้ X1 อีกตัวที่ผมใช้เป็น Lexus RX 2019 ซึ่งมันใหญ่ ผมรู้สึกว่า model y คล่องกว่าอยู่แล้วครับ
อัตราเร่งช่วงลอยตัว เหมือนมันแทบจะไม่ต่างกันในแต่ละช่วงความเร็วเลยครับ เหยียบแค่ไหนมาแค่นั้น เกิน 140 ไป 170-180 ก็ยังแปบเดียว มันแอบปลุกวิญญาณตีนผีนิดหน่อย เพราะขับแล้วรู้สึกมั่นใจว่าแซงได้ทุกคัน
การมุด โยกหลบ ส่วนตัวผมว่าไม่แย่ ค่อนข้างดีเลย แต่อย่างที่บอก รถอีกคันผมมันใหญ่เทอะทะ
ขับทางไกลเป็นหลัก แนะนำว่า ไปกลับไม่เกิน 400 โลเอามาชาร์จบ้านได้ดีกว่าครับ และต้องระวัง ถ้าขับเร็วแช่ แบตไหลเป็นน้ำเลยครับ
ส่วนตัว พอใช้ไปซักพัก ขับทางไกลเลิกขับเองแล้วครับ auto pilot อย่างเดียว
- ขนาดของรถ
จริงๆผมว่าเค้าออกแบบภายในมาได้รู้สึกโปร่งดี อาจจะด้วยความโล่งของมัน
ความสูงจากใต้ท้องรถ จริงๆไม่ได้สูงมากนะครับ เตี้ยเลยเมื่อเทียบกับ SUV ทั่วไป
ความจุสัมภาระต้องทำใจว่าท้ายมันลาดนะครับ เปิดมาพื้นที่ก็ดูใหญ่ดี แต่ใส่ของสูงๆก็อีกเรื่อง แต่ได้เปรียบตรงที่มี frunk ส่วนมากผมจะใช้ frunk มากกว่าเพราะไม่ต้องเสี่ยงเปิดท้ายชนนู่นชนนี่ในที่จอดห้าง
ถ้าเทียบกับรถขนาดใกล้ๆกันที่เคยใช้คือ GLC ผมว่าโดยรวมรู้สึกกว้างขวางกว่า
- ทัศนวิสัยในการขับขี่
กว้างๆ เคลียร์ๆ นี่แหละ ใช่เลยครับ หลังคามันสูงแล้วรู้สึกว่าพื้นที่ระหว่างคอนโซลกับหลังคามันเยอะ เลยรู้สึกกระจกบานหน้าใหญ่มาก
- ความเห็นส่วนตัวเพิ่มเติม
ช่วงล่างแข็งมาก กระด้างมาก นั่งหลังแย่มาก
พวงมาลัยเหมือนจะไม่หน่วงตามความเร็วให้ ถ้าปรับ comfort ไว้ ขับเร็วก็ยังเบา ส่วนตัวใช้แต่ standard เพราะขี้เกียจเปลี่ยน
ระวังเวลาอัพเดท ถึงมันจะไว้แต่ wifi แต่ก็ใช้เวลาพอสมควร อย่าตั้งให้มันอัพเดทอัตโนมัติ ไม่งั้นถ้าจะรีบๆเอารถออกจะหัวร้อนได้
อย่าคาดหวังอะไรกับงานประกอบมาก เค้าไม่ได้ขายความประณีต
เห็นว่าอยากลองของใหม่ แล้วถ้ามีรถคันอื่นสำหรับใช้เดินทางไกลอยู่แล้ว ผมว่า ซื้อครับ
ผมก็ซื้อเพราะอยากลองของใหม่เหมือนกัน และก็ไม่เสียใจที่ติดดอย แค่เสียดายเงิน
การรวมทุกอย่างไว้ในจอ ส่วนตัวปรับตัวไม่นาน และมันก็มีข้อดีอยู่ คือมันอัพเดทแก้ UI ได้ครับ อย่างตอนนี้ปุ่มปรับพัดลมแอร์ก็เปลี่ยนเป็นแบบจิ้มได้แล้ว
ขอบคุณมากเลยครับ
-
Y จริงๆราคาต้องไปเทียบ Porsche Macan
:) :) ::)
-
model y ดีกว่าเยอะครับ
-
เชียร์ให้ไปเทสล่า ว่าแต่ทำไมไม่เอา M3HL ละครับ