Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Dreamer ที่ มกราคม 31, 2023, 23:51:37
-
เห็นส่วนใหญ่ จะรีบขายทิ้ง ตอนหมด 5 ปี ก่อนประกันหมด
แต่ผมอยากรู้ว่า จะเป็นไปได้ไหม ถ้าจะใช้รถพวกนี้นานกว่า 5 ปี
อาจจะใช้แบบ 8-10 ปี เปลี่ยนแบต แล้วก็ใช้ต่อไป ยาวๆ ครับ เป็นไปได้ไหมครับ
-
มีเงินซ่อมจะใช้ไป 20 ปี ก็ใช้ได้ครับ รถยุโรปต้อง stock อะไหล่ 20 ปี หลังจากหมดสายการผลิตของรุ่นนั้นๆ
-
ใช้ได้ไหม ได้อยู่แล้วครับ
แบตเตอรี่เขาเสื่อมโดยการนับ cycle การชาร์จ มากกว่า ไม่ใช่นับปี
ก็ต้องดูว่าใช้งานรถเยอะขนาดไหน
ส่วนที่เสียๆ จนต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ มันเหมือนเสียโดยการออกแบบ(ระบายความร้อนไม่ดี) หรือ เสียเพราะมีอะไรไม่ปกติ มากกว่า
แต่ถามว่าต้องมีซ่อมไหม ผมว่ามีแน่นอน ระหว่างทาง อยู่ที่ว่ารับได้ขนาดไหน
ถ้าเซฟๆ สำหรับ 10 ปี ก็หาตัวธรรมดา ไม่ต้อง PHEV ครับ
ปล.ขนาดตัวธรรมดา 4-5 ปี เขาก็เทขาย ราคาหล่นหวบๆ แล้วครับ
-
สบายครับ แต่ต้องเตรียมเงินไว้ซ่อมเยอะกว่ารถ ice แน่
-
ใช้รถมาแล้วหลายปี ถูกใจมาก ถ้าต้องซ่อมก็ยินดีจ่ายครับถ้าราคาไม่เว่อร์เกิน จะกลัวไปก่อนทำไม หารถใหม่ก็ใช่ว่าจะได้ถูกใจเท่าคันเดิมที่ดีมากอยู่แล้ว
-
ขอให้ใช้ตามที่ผู้ผลิตแนะนำ เช่น ควรชาร์จปลั๊กบ้าง อย่าใช้แต่ชาร์จตอนวิ่ง มีเงินซะอย่าง ใช้กี่ปีก็ได้เต็มที่ เผลอๆ ถึงตอนนั้นมีอะไหล่เบิกซ่อมมากกว่า EV ยี่ห้อจีนบางราย 10 ปีด้วยซ้ำ
จะว่าไปแม้แต่รถน้ำมันถ้าเอะอะซ่อมอู่มั่วจะเน้นราคาถูกอย่างเดียว เวลาเกิดปัญหาก็โพสต์กลุ่ม facebook แต่ไม่บอกว่าใช้อะไหล่ซ่อมอู่ น้ำมันของเหลวเกรดอะไรก็ไม่บอก แล้วมาโวยวายรถห่วยแตกก็เยอะ ซื้อรถราคาระดับนี้เขาต้องรู้อยู่แล้วไหมว่าอะไหล่มันแพงมาก
-
ผมไม่มีแผนเปลี่ยนรถที่เกี่ยวเนื่องกับการรับประกันของแต่ละยี่ห้อเลยครับ แม้จะเป็น PHEV 2 คันเลย
ส่วนตัวผมจะเปลี่ยนเมื่อเห็นคันใหม่มันดีกว่าพอสมควรแล้วถูกใจค่อยเปลี่ยน จะ 5 ปี 7 ปี ถ้ายังไม่เจอคันใหม่ที่ถูกใจผมก็ซ่อมใช้ไปเรื่อยๆครับ
-
ใช้รถมาแล้วหลายปี ถูกใจมาก ถ้าต้องซ่อมก็ยินดีจ่ายครับถ้าราคาไม่เว่อร์เกิน จะกลัวไปก่อนทำไม หารถใหม่ก็ใช่ว่าจะได้ถูกใจเท่าคันเดิมที่ดีมากอยู่แล้ว
+1
-
ขอเล่า จากที่เคยรับซื้อรถกับเจ้าของรถยุโรป ทั้งแบบ ไฮบริจและแบบเสียบปลั๊คมามากนะครับ ...
ทุกคนตั้งใจใช้รถยาวทั้งนั้นครับคือ 5ปี + จนถึง 10 ปีทั้งนั้น แต่ที่เจอส่วนใหญ่ ไม่เกิน 5 ปี ขายทิ้งกันหมด
ค่ายที่มีวารันตีครอบคลุม ส่วนใหญ่ก็จะขายเมื่อครบวารันตี แต่ถ้าไม่ขาย ใช้ต่อ เค้าจะตัดใจขายเมื่อต้องเจอการซ่อมบำรุง ที่ต้องจ่ายเงินเอง
บางคนแบ็ตพัง ต้องจ่ายเอง ก็เจ็บเพราะถ้าพังแล้วยังไงก็ต้องควักเงินซ่อม จะขายทิ้งทั้งพังๆ ก็ไม่มีใครซื้ออยู่ดี
สรุปสั้นๆ ทุกคนที่ขาย คือซ่อมไม่ไหวครับ จ่ายหนัก จ่ายเต็ม ถ้ามีเงินซ่อมใช้ถึง 10 ปี เผลอๆค่าซ่อมจะแซงราคาขายรถตอนครบ 10ปีด้วย
ดังนั้นขายก่อน ยังได้เงินคืนไปดาวน์ใหม่ครับ คนรักจะซ่อมมีครับ แต่ไม่เคยเห็นใครรอดสักคน โทรมาเรียกร้องขายกันทั้งนั้น
และก็ข้อควรรู้ รถยุโรปไฮบริจ ไม่ได้พังแค่แบ็ตนะ แอร์ ช่วงล่าง เกียร์ ปั่นป่วนไม่แพ้กัน กล้าเสี่ยงก็ลุยครับ
-
เป็นไปได้ครับ
-
ขอเล่า จากที่เคยรับซื้อรถกับเจ้าของรถยุโรป ทั้งแบบ ไฮบริจและแบบเสียบปลั๊คมามากนะครับ ...
ทุกคนตั้งใจใช้รถยาวทั้งนั้นครับคือ 5ปี + จนถึง 10 ปีทั้งนั้น แต่ที่เจอส่วนใหญ่ ไม่เกิน 5 ปี ขายทิ้งกันหมด
ค่ายที่มีวารันตีครอบคลุม ส่วนใหญ่ก็จะขายเมื่อครบวารันตี แต่ถ้าไม่ขาย ใช้ต่อ เค้าจะตัดใจขายเมื่อต้องเจอการซ่อมบำรุง ที่ต้องจ่ายเงินเอง
บางคนแบ็ตพัง ต้องจ่ายเอง ก็เจ็บเพราะถ้าพังแล้วยังไงก็ต้องควักเงินซ่อม จะขายทิ้งทั้งพังๆ ก็ไม่มีใครซื้ออยู่ดี
สรุปสั้นๆ ทุกคนที่ขาย คือซ่อมไม่ไหวครับ จ่ายหนัก จ่ายเต็ม ถ้ามีเงินซ่อมใช้ถึง 10 ปี เผลอๆค่าซ่อมจะแซงราคาขายรถตอนครบ 10ปีด้วย
ดังนั้นขายก่อน ยังได้เงินคืนไปดาวน์ใหม่ครับ คนรักจะซ่อมมีครับ แต่ไม่เคยเห็นใครรอดสักคน โทรมาเรียกร้องขายกันทั้งนั้น
และก็ข้อควรรู้ รถยุโรปไฮบริจ ไม่ได้พังแค่แบ็ตนะ แอร์ ช่วงล่าง เกียร์ ปั่นป่วนไม่แพ้กัน กล้าเสี่ยงก็ลุยครับ
+1 ของผม 6-7 ปี มันจะชอบมีอะไรพังมาซักชิ้นนึง 5-6 หมื่น พอซ่อมเสร็จ เราจะรีบค้นหาว่ารุ่นนี้มันจะพังอะไรอีก พอรู้ปุ๊บ ตัดใจรีบขายก่อนมันจะพังพินาศไปมากกว่านี้ จริงๆ ไม่ใช่ซ่อมไม่ไหว แต่มันซ่อมไม่คุ้มแล้ว ไหนจะภายในหรูๆ ที่ผ่านไปแค่ 6 ปี ก็ลอก แตก ละลายอีก คนเอาไปใช้ต่อ เคยลองโทรถาม ใช้ได้อีก 1-2 ปี ซ่อมไม่ไหวขายต่อไปเหมือนกัน
ถ้ารักจริงๆชอบบอดี้นี้จริงๆก็ลุยเลยครับ
-
ขอเล่า จากที่เคยรับซื้อรถกับเจ้าของรถยุโรป ทั้งแบบ ไฮบริจและแบบเสียบปลั๊คมามากนะครับ ...
ทุกคนตั้งใจใช้รถยาวทั้งนั้นครับคือ 5ปี + จนถึง 10 ปีทั้งนั้น แต่ที่เจอส่วนใหญ่ ไม่เกิน 5 ปี ขายทิ้งกันหมด
ค่ายที่มีวารันตีครอบคลุม ส่วนใหญ่ก็จะขายเมื่อครบวารันตี แต่ถ้าไม่ขาย ใช้ต่อ เค้าจะตัดใจขายเมื่อต้องเจอการซ่อมบำรุง ที่ต้องจ่ายเงินเอง
บางคนแบ็ตพัง ต้องจ่ายเอง ก็เจ็บเพราะถ้าพังแล้วยังไงก็ต้องควักเงินซ่อม จะขายทิ้งทั้งพังๆ ก็ไม่มีใครซื้ออยู่ดี
สรุปสั้นๆ ทุกคนที่ขาย คือซ่อมไม่ไหวครับ จ่ายหนัก จ่ายเต็ม ถ้ามีเงินซ่อมใช้ถึง 10 ปี เผลอๆค่าซ่อมจะแซงราคาขายรถตอนครบ 10ปีด้วย
ดังนั้นขายก่อน ยังได้เงินคืนไปดาวน์ใหม่ครับ คนรักจะซ่อมมีครับ แต่ไม่เคยเห็นใครรอดสักคน โทรมาเรียกร้องขายกันทั้งนั้น
และก็ข้อควรรู้ รถยุโรปไฮบริจ ไม่ได้พังแค่แบ็ตนะ แอร์ ช่วงล่าง เกียร์ ปั่นป่วนไม่แพ้กัน กล้าเสี่ยงก็ลุยครับ
อนาคต ตลาดมือสองกับรถไฟฟ้าจะเป็นยังไง
วงจร ดาวน์ ผ่อน เทิร์นจะหายไปมั๊ยครับ ถ้าเข้าสู่ยุครถไฟฟ้า 100%
ในเมื่อแบตเตอรี่ยังไม่เสถียรเลย
อย่างอัลติส วีออส ถ้าเครื่องพัง ตัวถังยังสภาพดี ยังพอเปลี่ยนเครื่องได้
แต่ ถ้ารถไไฟฟ้า เดิมใช้ลิโพ ถ้าจะเปลี่ยนเป็นเกลือ ระบบชาร์จ และ ecu ก็ต้องเปลี่ยนตาม ซึ่งอาจจะไม่มีตรงรุ่นก็ได้
-
ด้วยความเคารพครับ ขนาด Hybrid ญี่ปุ่นแบตลูกเล็กๆ เปลี่ยนทียังแอบเหนื่อย
ถึงตอนนี้จะเปลี่ยนเป็นเซลได้ แต่ผมว่าสุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนทั้งหมดอยู่ดี นอกจากจะเปลี่ยนแค่ให้ไม่ขึ้นไฟโชว์และขายทิ้ง
เห็นราคาแบตของรถยุโรปยิ่งไปกันใหญ่ ผมว่าถ้าเงินถึงก็เป็นไปได้ครับ
แต่ผมว่าถ้ามีเงินขนาดนั้น 5ปีเปลี่ยนก็อาจจะคุ้มเงินกว่านะครับ
-
ได้แต่ค่าซ่อมอาจจะแพงกว่าราคาขายต่อไปไกล เช่น แบตลูกนึง3-7แสน คอมแอร์7หมื่น ช่วงล่างถุงลมต้นละหมื่น และอาจจะเสียบ่อยตามระบบที่ซับซ้อนขึ้น
ถ้ารักจริงไม่แคร์เรื่องค่าซ่อม มีรถสำรองให้ใช้ก็ได้ แต่ที่ขายๆกันเพราะคำนวณแล้วซื้อใหม่คุ้มกว่า