Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: demo2 ที่ เมษายน 23, 2023, 21:54:49
-
คือผมเองนี่แหละที่สนใจ MY แต่ยังคิดไม่ตกว่าจะเป็น RWD or LR
คือผมขับรถไม่เร็ว ประเภท 0-100 คงไม่ใช้ ความเร็วปลายก็ไม่เกิน 120 ละ เน้นปลอดภัย ไม่โดนกล้อง ก็จามอายุที่มากขึ้น ในคลับแทบไม่มีใครเชียร์ RWD มีแต่เชียร์ไป performance ด้วย บอกว่าเดี๋ยวจะเสียดายที่ไปไม่สุด อย่างอื่นแต่งเพิ่มได้แต่ความแรงเพิ่มไม่ได้ บลาๆๆ
มีท่านใดใช้ RWD อยู่ไหมครับ เพราะเหตุผลใดครับ
-
เหตุผลที่เลือก
RWD เพราะเป็นแบต LFP ทนความร้อน เหมาะกับเมืองไทย การเสื่อมของแบต เสื่อมน้อยกว่า NMC
ไม่ได้ใช้วิ่งไกล วิ่งต่างจังหวัดน้อย
ถ้าวิ่งต่างจังหวัดบ่อยๆไป LR ครับ
-
เลือกที่ระยะทางที่ใช้ได้เลยครับ
ที่ในคลับไม่เชียร์ RWD กันเพราะมันวิ่งจริงได้แค่ประมาณ 400 km แทบจะไม่ได้มากไปกว่ารถไฟฟ้าจีนที่ราคาย่อมเยาว์กว่าเท่าไหร่ครับ ส่วนต่าง 300,000 บาทหลายคนเลยมองว่าได้มอเตอร์หน้ากับแบตอีก 17.5 kWh เพิ่มคุ้มกว่า วิ่งได้เพิ่มอีกเป็นร้อยโลเลยในบางสภาวะการขับขี่ แถมเลือกล้อแม็กซ์ induction 20 สีดำสวยๆ เพิ่มมาเลยได้อีก
ถ้าใช้ออก ตจว. ไม่ไกลนัก อย่างมากก็แค่จังหวัดเมืองใหญ่ใกล้กรุงอย่างพัทยาหรือเก่งๆ ก็โคราชแล้วไปชาร์จปลายทาง RWD ถือว่าพอเลยครับ
แต่ถ้าต้องออกไกลกว่านั้น LR คุ้มกว่าเยอะครับ
ส่วน Pfm ถ้าไม่ได้เน้นทำเวลาที่ไหนก็ลืมไปเลยครับ เหยียบหนักระยะหายเยอะกว่า RWD อีก เว้นแต่อยากได้รถเกาะๆ
-
ถ้าใช้ในเมืองอย่างเดียว ไม่ไปต่างจังหวัดเลยก็ RWD ครับ
ผมซื้อ Performance มาคันนึงแล้ว (ใช้เอง) และ จอง RWD ให้แฟนไว้ใช้วิ่งในเมืองอย่างเดียวครับ
ตัว RWD ถ้าขับปกติ น่าจะได้สักราวๆ 250-300 กิโล
-
เห็นด้วยเลยตัว RWD ในแง่ความคุ้มค่านี่น้อยที่สุด เพิ่มสามแสนได้แบตใหญ่+มอเตอร์หน้าแรงๆ ของ LR
ที่เลือกเพราะตัวแบต LFP มันดูปลอดภัยกว่า พวกการติดไฟยากเวลาอุบัติเหตุโดนตัวแบตตรงๆ อารมณ์เหมือนรถน้ำมันกับ LPG
เลยดูขี้กลัวนิดนึงครับ เพราะคันนี้ใช้รับส่งลูกเป็นหลัก
-
เท่าที่ดูรีวิในยุทูป เทสล่าใช้จริงๆ จะวิ่งได้น้อยกว่าเลขที่ระบุในสเปคเยอะครับ
เพราะเค้าใช้จอในการควบคุมรถทั้งหมด
พอรถร้อนมันจะสตาทรถเอง เพิ่มเปิดแอร์คุมอุณหภูมิ ไม่ให้ร้อนมาก
เป็นการป้องกันจอไม่ให้เสีย ทำให้แบตยุบไวกว่าปกติ
-
ผมผ่าน RWD มาก่อนครับแต่เป็นการเช่า
ออก ต่างจังหวัดปกตินะครับ ในยุคแรกที่ชาร์จน้อยๆ แต่คนก็น้อยเช่นกัน (แต่ไม่ใช่หาง่ายนะ taxi มาเฟียดักอยู่ทุกปั้มใหญ่ๆ เค้าจองมือถือหลายๆเครื่อง ครบเวลาตัวเองหรือหลุดจองก็ไม่ออกให้เพื่อนมาต่อบอกว่าคนนั้นมาก่อนทั้งที่เพิ่งขับรถเข้ามา สาขา ปตท พัทยาจอมเทียนครับ ใครจองเวลามาก็โดนยื้อจนหมดเวลาเค้าก็เสียบไปครับ สังคมดีย์ เถียงแพ้ก็อ้างว่าต้องเอาไปรับลูกค้าขอให้เห็นใจคนทำมาหากิน :-X)
บอกเลยว่าเพียงพอครับกับการออกต่างจังหวัดที่ไม่ไกล ไม่กันดารจนเกินไป และอย่างที่ทราบกันว่าแบต LFP ถึกกว่า แต่รีดแรงมาได้น้อยกว่า และราคาย่อมเยาว์กว่าครับ
อยู่ที่การใช้งาน เพราะส่วนตัวพอผมใช้ LR ผมชาร์จแค่ 80 ระยะทางก็ต่างไม่มาก แต่เพื่อความเซฟเวลาไปไกลๆผมก็ชาร์จ 100% ครับ
LFP น่ากลัวตรงพอเหลือ 20กว่าๆเปอ แบตจะลงเร็วมาก เลยทำให้รู้สึกวิ่งน้อยเข้าไปอีก
ส่วนที่แบตพร่องเยอะ อันนี้ไม่จริงครับ มาจากการขับขี่ล้วนๆ tesla เรื่องการขับขี่มันห่วยสำหรับการเป็นรถพรีเมียม เหยียบปล่อยๆ หัวโยกตลอด ถ้าไปลองเทียบกับ bmw ใช้ gear B มันมีความ smooth กว่ามากๆครับ
เลยทำให้ energy management เพี้ยน ถ้ากะแรงเท้าดีๆ ไม่กดเยอะ ขับให้เหมือนขับ eco car range ก็ได้ไม่พร่องครับ ตอนผมใช้ตัว Standard ขับก็มีกดบ้างแต่ด้วยความใหม่ตอนนั้นเลยกดน้อย range พร่องจาก wltp แค่ 10~15% ครับ ช่วง 20~100%
สรุปนะครับ ถ้า standard มีระยะทางพอต่อความต้องการ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องซื้อ LR ครับด้านขับขี่ นอกจากเงินเหลืออยู่แล้วก็อัดให้เต็มจะ LR เพื่อเซฟๆระยะทาง หรือ spec ตัว P ได้ยิ่งดี เพราะช่วงบล่างโยกน้อยกว่าครับ น้อง Y โยกเหมือนนั่ง revo fortuner แล้วเวลาคนขับ one-pedal เลี้ยวถ้าใครเมารถชวนอวกแน่ๆครับ
****เรื่องรถร้อนสตาทเองไม่แน่ใจนะครับ แต่ใช้มาเกือบ 2ปี ไม่มีนะครับระบบนี้ นอกจากเราจะตั้งเองให้คุมอุณภูมิในรถได้ อันนี้เปลืองแบตครับ hardware ต่างๆเค้าทำมากันความร้อนอยู่แล้ว ป้องกันจอเสียพลาสติกเบี้ยวอะไร ไม่เกี่ยวเลยครับไม่งั้นพังตั้งแต่รถตากแดดรอส่งมอบแล้วเค้าจอดกลางแดดเป็นอาทิตย์ติดกัน ไปถาม ta ได้ครับ processing ของ hardware ร้อนกว่าแดดผ่านกระจกเยอะครับ
-
เหตุผลมี 2-3 ข้อที่จะเลือก RWD
1. ใช้รถน้อย
2. ใข้รถเมือง
3. ราคาถูกที่สุด(ก็คุ้มค่าที่สุด)
แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ส ขึ้นไปเอา LR เป็นรุ่นที่คุ้มที่สุดทั้ง 3 หรือ Y สำหรับผมนะ (ผมกระโดดไปตัว Y PER)
ผมไม่ห่วงรื่องแบตเตอรี่ ที่หลายๆ คนพูดถึง ว่า LFP ดีกว่า NMC หรืออื่นๆ
เพราะ รอบการชาร์จ อายุการใข้งาน มันหลัก 10 ครับ ถ้าใข้งานเกิน 10 ปี ค่อยมาห่วงเรื่องพวกนี้
-
ถ้างบถึงที่จะซื้อ LR โดยไม่เดือดร้อน ผมว่าก็ไม่มีเหตุผลที่จะซื้อ RWD แต่ส่วนตัวจอง RWD ไปครับ เพราะตั้งงบไว้ที่ไม่เกินสองล้าน เลยเอาตัวนี้ละกัน
-
เอาลักษณะการใช้เป็นที่ตั้งครับ ถ้าใช้รถสูงสุดไม่เกิน 300km/วัน หรือถ้าไปไหนไกลกว่านั้นมีรถน้ำมันอยู่แล้ว หรือชอบนั่งเครื่องบินไปเที่ยวแล้วเช่ารถ เล่นรุ่น RWD ก็พอครับ
ส่วนถ้าจะเอา LR แล้วจะเปลี่ยนสี+เปลี่ยนล้อ 20 ผมว่าข้ามไป Per เลยครับ จบเหมือนกัน ส่วนเรื่องระยะทางรุ่น LR ล้อ 20 กับ Per ล้อ 21 มันต่างกันแค่เพราะขนาดล้อ กับเท้าขวาเราครับ ถ้าขับนิ่งๆ ไกลๆ ใช้ไฟพอๆ กันเลย
ส่วนผมเลือก LR ล้อ 20 เพราะคิดว่ามันแรงกว่า RWD และขอวิ่งไกลๆ ไว้ก่อน
แต่ถ้าให้เลือกใหม่ตอนนี้ไป Per ครับ เพิ่มอีกนิดเดียวเอง ทรงรถสวยกว่า ค่อยไปกลุ้มใจตอนเปลี่ยนยางอีกที ::)
-
1. ถูก
2. แบตทนกว่า
3. รับได้กับระยะทาง และอัตราเร่ง
-
ได้นั่ง Y RWD ของเพื่อนแล้ว ความแรงเกินพอสำหรับชีวิตประจำวันแน่นอนครับ ประเด็นนี้ตัดทิ้งได้เลย
เหลือแค่ระยะทางที่วิ่งได้ ถ้าคิดว่าพอแล้วสำหรับการใช้ประจำวัน และ/หรือมีรถน้ำมันไว้ขับทางไกลมากๆ RWD ก็พอครับ
เก็บ 3 แสนไปจ่ายค่าประกันภัย ติดฟิล์ม ซื้อของแต่ง หรือชาร์จไฟได้อีกเยอะ
-
แค่แบตทนกว่าก็ทำให้ไม่มองตัวบนๆแล้วครับ เพราะแบตคือหัวใจหลักของรถแล้ว
-
ผมจอง Performance ไปแล้ว เพราะดูคุ้มสุดสำหรับผม
-
ตัว rwd มันก็ body ประสิทธิภาพเดียวกันกับตัวบน
เป็นอลูมิเนียมอัลลอยและแข็งแรงกว่า lexus ด้วยซ้ำ (อันนี้ chatgpt บอกมา)
บวกกับแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับประเทศไทยมากกว่า
ความปลอดภัยของแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างพิสูจน์มาแล้ว
ก็จะประหยัดไปได้พอสมควรครับ
------
แต่โดยส่วนตัวผมจะเอา LR ล้อ 19 ครับ
เน้นวิ่งต่างจังหวัดก็จะต้องระวังหลุมเยอะหน่อยแม็กยิ่งเล็กเท่าไหร่ยิ่งดี
ระยะทางน่าจะได้มากกว่าล้อ 20-21 นิ้วด้วย
น้ำหนักตัว rwd จะเบากว่าตัว lr ประมาณเกือบๆ 100 กิโล
แต่ก็ยังอยู่ในพิกัด 1,900 กิโลกรัม
ซึ่งผมมองว่าโมเมนตัมมันสูงต้องการให้เป็น awd ถึงจะเอาอยู่ในสถานการณ์จำเป็นครับ(คิดเอาเอง) :-[
-
อย่างผมไปทำงานกลับมาชาร์ตบ้าน วิ่งไปดูลูกน้องที่ร้านบ้างวันนึงไม่เกิน 40 โล ก็ไม่รู้จะจ่ายแพงขึ้นหลายแสนไปเอาตัวแพงทำไม
ตัวเริ่ม 300 กว่าม้า ก็ไม่มีถนนจะวิ่งแล้ว จะมีรถบนถนนวิ่งตามมันทันสักกี่คันครับ ::)
ดูความจำเป็นของตัวเองเป็นหลักไม่ต้องไปแห่ตามพวกมากลากไปหรอกครับ
-
ขอบคุณทุกความเห็นครับ
ถ้าเอาการใช้งานของผม เอาที่เหตุผลล้วนๆ RWD ก็คงพอเพียงแล้วละครับ เพราะขับไม่เร็ว ถ้าขับไกลๆผมคงใช้รถน้ำมันเพราะผมขี้เกียจวางแผนเดินทาง คงใช้เดินทางแค่ในเมืองกับรัศมีไม่เกิน 300 กิโลจากบ้าน ไม่ต้องแวะชาร์ทระหว่างทาง
แต่ ที่ผ่านมาผมก็เป็นคนนึงที่ซื้อรถความชอบด้วย ก็เลยมีกังวลเล็กน้อยเหมือนกันว่าจะเกิดอาการเสียดายที่ไม่ซื้อ performance ไหม ตอนนี้ผมน่าจะได้คำตอบให้ตัวเองแล้วครับ ขอบคุณมากครับทุกท่าน
-
ผมเห็นกองเชียร์ชอบเชียรืให้ไปตัว perf บอกว่า เดี๋ยวแรงไม่พอ (0-100 ใน 5 วิ ยังบอกว่า แรงไม่พอ ผมแอบงงว่า ปกติ ขับรถอะไรกัน) บวกกับล้อ 21 เปลี่ยนยางทีนึง มีจุกแน่ๆ ครับ ไม่นับความเสี่ยงเรื่องถนนเมืองไทยอีก
ส่วนผม ผมคิดว่า LR ก็แรงเกินพอสำหรับใช้ทั่วไปแล้วครับ ได้ระยะทางประมาณ 450-500 กิโลเมตรต่อชาร์จได้ไม่ยาก เรื่องแบต lfp กับ nmc ที่มี cycle ต่างกัน ระหว่างได้ 2,000 และ 4,000 รอบ ยังไงก็ไม่น่าใช้ถึงครับ
-
ส่วนตัวกำลังเล็ง rwd อยู่เหมือนกัน เงื่อนไขคล้าย จขกท ขับไกลสุด กทม-พัทยา ไกลกว่านั้นปกตินั่งเครื่องเป็นหลัก
ถ้าซื้อไม่ตัวต่ำสุดก็เล่นท็อปไปเลยไม่งั้นยังไงก็คาใจนะ แต่ถ้าจัดตัว P มายังต้องไปทำเบรคกับช่วงล่างอีก เดิมๆเอาไม่อยู่ เรียกว่าถ้าซื้อสนอง need นี่จบยากจริงๆ
ตอนนี้รอ testdrive อยู่ยังไม่แน่ใจเรื่องช่วงล่างว่าผ่านไหม บางคนว่าดี บางคนว่าโยน บางคนว่าเด้ง แล้วเห็นแห่ไปเปลี่ยนโช้ค tein แสดงว่าน่าจะแย่แหะ
ที่บ้านผมมี crv โช๊ค tein แล้วไม่จบปรับไปขับไป แปปเดียวต้องมาปรับอีกไม่ลงตัวเลย ปกติผมใช้ camry ถ้าเปลี่ยนไป Y แล้วช่วงล่างแย่กว่าเดิมคงอดซื้อ ช่วงล่างยังไงก็ต้องจบจากโรงงานครับ
-
ถ้าผมจะซื้อ Tesla Model Y ก็คงเอาตัว Performance เพราะคิดว่าก็คงเอามาใช้แค่ในเมืองเป็นหลักๆวันๆนึงขับไปเกินร้อยโลแน่ๆ
ตกเย็นกลับกลับมาชาร์จแบต เช้าก็เอาออกขับไปทำงานทำธุระต่อวนเป็นแบบนี้ ระยะทางไม่ได้เป็นตัวแปลสำคัญเลยเลือกอัตรเร่งไว้ดีกว่า
-
ส่วนตัวกำลังเล็ง rwd อยู่เหมือนกัน เงื่อนไขคล้าย จขกท ขับไกลสุด กทม-พัทยา ไกลกว่านั้นปกตินั่งเครื่องเป็นหลัก
ถ้าซื้อไม่ตัวต่ำสุดก็เล่นท็อปไปเลยไม่งั้นยังไงก็คาใจนะ แต่ถ้าจัดตัว P มายังต้องไปทำเบรคกับช่วงล่างอีก เดิมๆเอาไม่อยู่ เรียกว่าถ้าซื้อสนอง need นี่จบยากจริงๆ
ตอนนี้รอ testdrive อยู่ยังไม่แน่ใจเรื่องช่วงล่างว่าผ่านไหม บางคนว่าดี บางคนว่าโยน บางคนว่าเด้ง แล้วเห็นแห่ไปเปลี่ยนโช้ค tein แสดงว่าน่าจะแย่แหะ
ที่บ้านผมมี crv โช๊ค tein แล้วไม่จบปรับไปขับไป แปปเดียวต้องมาปรับอีกไม่ลงตัวเลย ปกติผมใช้ camry ถ้าเปลี่ยนไป Y แล้วช่วงล่างแย่กว่าเดิมคงอดซื้อ ช่วงล่างยังไงก็ต้องจบจากโรงงานครับ
เห็นด้วยครับ
-
ผมว่าดูที่ระยะทางครับ ถ้าใช้ในชีวิตประจำวัน เพียงพอต่อการกลับมาชาร์จบ้าน rwd ก้อเพียงพอแล้วครับ
ส่วนตัว ผมเพิ่งรับ LR มา และเพิ่งขับรถจาก กทม-นครศรี ชาร์จ 2 ครั้ง แฟนยังบ่นเลยครับ ถ้า rwd คงโดนด่า 555 แต่ใช้แล้วชอบนะครับ ที่เค้าว่าโยนๆ ผมไม่เจออาการแฮะ (ล้อ 19) ผมว่ามันเอาอยู่ อาจเพราะหลังๆมานี้ กล้องเยอะเลยขับแช่ 120 มา (กทม-นครศรี 10 ชม) แต่ผมขับรถประเภทมุดตลอดทางนะครับ
ส่วนเหตผลที่ ไม่เอา perfomance คือ 1.แม็ก 21 ขับเมืองไทยไม่ไหว ผมสายรูดตลอดทางแทบไม่ยก
2. ระยะทางน้อยกว่าหน่อยนึง สำหรับผม ยิ่งวิ่งได้ไกลสุดยิ่งดี ขับ กทม-นครศรีขึ้นลงตลอดครับ 3. อัตราเร่งที่ LR ให้มาเพียงพอแล้ว ทุกวันนี้ยังขับโหมดชิวอยู่เลย ลองขับโหมดมาตรฐาน รู้สึกมันแรงเกินไป กลัวเอาไม่อยู่
สรุปคือประทับใจกับคันนี้มากๆ ถึงแม้ใครจะบอกช่วงล่างไม่เท่ารถพรีเมี่ยม แต่สำหรับผม มันเพียงพอ และ จบแล้วความต้องการที่มี