Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: HLM ที่ เมษายน 25, 2023, 11:57:34
-
(https://sv1.picz.in.th/images/2023/04/25/y3Jput.jpg)
ผลทดสอบ อัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลือง Honda CR-V e:HEV (2.0 Hybrid i-MMD) RS AWD
ราคา 1,729,000 บาท พร้อมตารางเปรียบดทียบกับคู่แข่งใน Segment เดียวกัน
อ่านข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่
https://www.headlightmag.com/2023-04-25-acceleration-fuel-consumption-honda-crv-ehev-rs/ (https://www.headlightmag.com/2023-04-25-acceleration-fuel-consumption-honda-crv-ehev-rs/)
-
ตัวเลขผิดหวังแหะ
ไหงอืดกว่ากินกว่า X-Trail Hybrid ที่ออกมาก่อนตั้งหลายปีไปได้ล่ะเนี่ย
แถมกินกว่า CX-5 2.0 / 2.2D ซะอีก
ชักอยากดูตัวเลข eHEV ES 2WD ซะแล้วสิ
-
เดี๋ยวๆ กินพอๆ CX-5 เลยนะนั่น
แถม 0-100 ก็เกือบจะ 10 วิแล้ว ตัวเลขแรงบิด ก็เยอะไหงเป็นงั้นล่ะครับเนี่ย
-
เหมือน e:hev ของ honda จะใช้เครื่องยนต์เป็นหลักตอนวิ่งความเร็วสูงๆ
อย่าง hrv ทำได้ 18.36 km/L แต่เห็นในกลุ่มใช้งานจริงก็มี 20 ขึ้นเยอะอยุ่นะครับ
เดาว่าถ้าใช้งานทั่วไป ไม่ได้วิ่งด้วยความเร็วยาวๆ น่าจะอยุ่ที่ 17-18 km/L
-
เดี๋ยวนะ
พอดูครบทุกอย่างจริงๆ
ไม่ประหยัดกว่า ค่ายอื่น ไม่ได้เร่งดีกว่าแบบฉีก ตัวรถดูหลายช่องก็มีได้มีเสียกับคู่แข่ง
ทำรถเตี้ยทำดีกว่าค่ายอื่น พอทำรถสูงไปไม่เป็นเลย
CX-5 diesel เก่าๆของครอบครัว ตัดระบบ รีแมฟ วิ่ง 90-100 ได้เฉียด 20 โลลิตรนะครับ
-
เหมือน e:hev ของ honda จะใช้เครื่องยนต์เป็นหลักตอนวิ่งความเร็วสูงๆ
อย่าง hrv ทำได้ 18.36 km/L แต่เห็นในกลุ่มใช้งานจริงก็มี 20 ขึ้นเยอะอยุ่นะครับ
เดาว่าถ้าใช้งานทั่วไป ไม่ได้วิ่งด้วยความเร็วยาวๆ น่าจะอยุ่ที่ 17-18 km/L
มันคือ mislead ของการนำผลทดสอบของ HLM มาเปรียบเทียบบนตารางไงครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเปรียบเทียบระหว่างเครื่องยนต์ต่างรูปแบบ
เพราะการวิ่งบนสภาพจราจรจริงในชีวิตประจำวัน
ICE จะกินมากกว่าที่ HLM test อยู่พอควร
แต่ HEV จะประหยัดกว่าที่ HLM test
เรียกว่าอัตราสิ้นเปลืองจริง จะวิ่งออกจากผลเทส
ไปกันคนละทางครับ
เหตุผลง่ายๆ คือ ในการใช้งานบนสภาพจราจรจริง
การชะลอ การเบรค การลดความเร็ว สำหรับรถ ICE
คือการทิ้งระยะทางที่ควรจะวิ่งได้ไปเปล่าๆ
แต่กับรถ HEV มันจะเกล็บพลังงานจลน์กลับมาใช้ใหม่ครับ
-
ถ้าคุณแน่อย่าแพ้ H6 ;D
-
Outlander ประหยัดกว่าอีก ทั้งที่ออกมาตั้งนานแล้ว
-
ตกตํ่าถึงขนาดพอๆกับรถจีนแล้วหรอ
-
:) แยกย้ายโดยพลัน...ผมเฝ้ารออัตราสิ้นเปลืองอย่างเดียวเลย แรงบิดที่มีมันแค่ถึง2พันรอบ หายใจครั้งเดียวก็หมดแล้ว เห็นผลตอนในเมือง แต่ลอยลำแล้วก็ตามสภาพเครื่องยนต์ ใช้ 2.4 เดิมต่อไปแบบงงๆ 8)
-
พอรับได้นะไม่ขี้เหร่เท่าไร แต่ขับทางไกลอาจจะกินกว่าในเมือง
-
จัดว่าอืด
-
วิ่ง110 ในเคสนี้เหมือนเทสรถเครื่อง2.0ธรรมดาเลยอะ555 มอเตอร์ไม่ช่วยอะไรเลยมันก็กินแบบเครื่อง2.0อะ
-
เครื่อง Honda ใส่รถใหญ่เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วครับ เพราะลูกสูบสั้นเน้นรอบจัด ใส่รถเล็กแรง
แต่รถใหญ่ต้องการแรงบิดเยอะแถมขับ 4 อีก ตัวเลขก็ออกมาประมาณนี้
-
ส่วนตัวผิดหวังกับอัตราเร่ง และอัตราสิ้นเปลืองครับ คิดว่ามันน่าจะดีกว่านี้
เรื่องอัตราสิ้นเปลืองรอดูผู้ใช้จริงแชร์อีกที แต่ตัวเลขแบบนี้ ผมเดาว่าคงป้วนเปี้ยนไม่เกิน 16-17 ก.ม./ลิตรแน่ --> อิงจาก HRV ที่ในคลับได้ประมาณ 20 ก.ม./ลิตร
-
ทำไมตัวเลขมันไม่ต่างกับ Forester มากเท่าไหร่อ่าครับ ผมนึกว่า Forester กินโหดสุดในกลุ่มซะอีก
-
ก็เล่นมักง่ายเป็นฟิกซ์เกียร์อัตราทดเดียว มันจะประหยัดน้ำมันได้ไง
-
ค่อนข้างเซอร์ไพร์สกับตัวเลขอัตราการบริโภคเชื้อเพลิง
แต่ก็นะ เข้าใจได้ว่า การทดสอบของ HLM ไม่ได้เอื้อกับรถ Hybrid เท่าไร
110 Km/Hr เหมือนทดสอบรถสันดาปปกตินี่แหล่ะ
-
อยากชมอัตราเร่ง+อัตราสิ้นเปลืองของ e:HEV ES 2WD เลยครับ
ว่าจะประหยัดขึ้นอีกสัก 2-3 km/l. ได้ไหม
-
จัดว่าอืด
9ปลายๆจัดว่าอืดเหรอครับ ในใจคุณคิดว่าเท่าไรครับกับรถตัวถังแบบนี้ถึงจะไม่อืด
-
ต้องบอกว่า แพ้ x-trail ทุกช่อง ตั้งแต่อัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลือง และความเร็วสุงสุด
ใช้ฮอนด้าสมัยนี้ให้ประหยัด คงต้องห้ามวิ่งทางไกล และความเร็วห้ามเกิน 100 ละมั้ง
-
เหมือน e:hev ของ honda จะใช้เครื่องยนต์เป็นหลักตอนวิ่งความเร็วสูงๆ
อย่าง hrv ทำได้ 18.36 km/L แต่เห็นในกลุ่มใช้งานจริงก็มี 20 ขึ้นเยอะอยุ่นะครับ
เดาว่าถ้าใช้งานทั่วไป ไม่ได้วิ่งด้วยความเร็วยาวๆ น่าจะอยุ่ที่ 17-18 km/L
มันคือ mislead ของการนำผลทดสอบของ HLM มาเปรียบเทียบบนตารางไงครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเปรียบเทียบระหว่างเครื่องยนต์ต่างรูปแบบ
เพราะการวิ่งบนสภาพจราจรจริงในชีวิตประจำวัน
ICE จะกินมากกว่าที่ HLM test อยู่พอควร
แต่ HEV จะประหยัดกว่าที่ HLM test
เรียกว่าอัตราสิ้นเปลืองจริง จะวิ่งออกจากผลเทส
ไปกันคนละทางครับ
เหตุผลง่ายๆ คือ ในการใช้งานบนสภาพจราจรจริง
การชะลอ การเบรค การลดความเร็ว สำหรับรถ ICE
คือการทิ้งระยะทางที่ควรจะวิ่งได้ไปเปล่าๆ
แต่กับรถ HEV มันจะเกล็บพลังงานจลน์กลับมาใช้ใหม่ครับ
เห็นด้วยครับ
เอากติกาเดียวกันมาทดสอบกับรถทุกรุ่น ไม่ใช่ว่าผิด
แต่กติกานี้มันใช้มานานตั้งแต่รถส่วนใหญ่หรือประมาณร้อยละ 9x% เป็นรถสันดาปล้วน
มันเลยไม่เอื้ออำนวยต่อรถใหม่ๆที่เกิดมาเท่าไหร่
เอาง่ายๆ civic 1.5 turbo กับ ehev ตัวเลขทดสอบก็ต่างกันไม่มาก
แต่ดูชีวิตจริงโดยเฉพาะในเมือง 1.5 มีเลขตัวเดียว 8~9 บ่อยๆ แต่ ehev มีเกือบๆ 20 ประจำ
แล้วแต่ท่านผู้เจริญจะพิจารณาครับ
-
เหมือน e:hev ของ honda จะใช้เครื่องยนต์เป็นหลักตอนวิ่งความเร็วสูงๆ
อย่าง hrv ทำได้ 18.36 km/L แต่เห็นในกลุ่มใช้งานจริงก็มี 20 ขึ้นเยอะอยุ่นะครับ
เดาว่าถ้าใช้งานทั่วไป ไม่ได้วิ่งด้วยความเร็วยาวๆ น่าจะอยุ่ที่ 17-18 km/L
มันคือ mislead ของการนำผลทดสอบของ HLM มาเปรียบเทียบบนตารางไงครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเปรียบเทียบระหว่างเครื่องยนต์ต่างรูปแบบ
เพราะการวิ่งบนสภาพจราจรจริงในชีวิตประจำวัน
ICE จะกินมากกว่าที่ HLM test อยู่พอควร
แต่ HEV จะประหยัดกว่าที่ HLM test
เรียกว่าอัตราสิ้นเปลืองจริง จะวิ่งออกจากผลเทส
ไปกันคนละทางครับ
เหตุผลง่ายๆ คือ ในการใช้งานบนสภาพจราจรจริง
การชะลอ การเบรค การลดความเร็ว สำหรับรถ ICE
คือการทิ้งระยะทางที่ควรจะวิ่งได้ไปเปล่าๆ
แต่กับรถ HEV มันจะเกล็บพลังงานจลน์กลับมาใช้ใหม่ครับ
เห็นด้วยครับ
เอากติกาเดียวกันมาทดสอบกับรถทุกรุ่น ไม่ใช่ว่าผิด
แต่กติกานี้มันใช้มานานตั้งแต่รถส่วนใหญ่หรือประมาณร้อยละ 9x% เป็นรถสันดาปล้วน
มันเลยไม่เอื้ออำนวยต่อรถใหม่ๆที่เกิดมาเท่าไหร่
เอาง่ายๆ civic 1.5 turbo กับ ehev ตัวเลขทดสอบก็ต่างกันไม่มาก
แต่ดูชีวิตจริงโดยเฉพาะในเมือง 1.5 มีเลขตัวเดียว 8~9 บ่อยๆ แต่ ehev มีเกือบๆ 20 ประจำ
แล้วแต่ท่านผู้เจริญจะพิจารณาครับ
จะเทสในเมื่อง ด้วยเงื่อนไขเดียวกัน มันทำได้หรอครับ
ตัวแปรควบคุมไม่ได้มันเยอะ ไฟแดง จำนวนรถ ฯลฯ
พี่จิมมี่ก็เคยพูดแล้วมันทำได้ไม่เที่ยงตรงนะครับ
ถ้าเป็นผม ผมจะมองว่าการทดสอบ HLM คือการทดสอบวิ่งทางไกล
ให้พิจารณาที่เงื่อนไขทางไกล
-
เหมือน e:hev ของ honda จะใช้เครื่องยนต์เป็นหลักตอนวิ่งความเร็วสูงๆ
อย่าง hrv ทำได้ 18.36 km/L แต่เห็นในกลุ่มใช้งานจริงก็มี 20 ขึ้นเยอะอยุ่นะครับ
เดาว่าถ้าใช้งานทั่วไป ไม่ได้วิ่งด้วยความเร็วยาวๆ น่าจะอยุ่ที่ 17-18 km/L
มันคือ mislead ของการนำผลทดสอบของ HLM มาเปรียบเทียบบนตารางไงครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเปรียบเทียบระหว่างเครื่องยนต์ต่างรูปแบบ
เพราะการวิ่งบนสภาพจราจรจริงในชีวิตประจำวัน
ICE จะกินมากกว่าที่ HLM test อยู่พอควร
แต่ HEV จะประหยัดกว่าที่ HLM test
เรียกว่าอัตราสิ้นเปลืองจริง จะวิ่งออกจากผลเทส
ไปกันคนละทางครับ
เหตุผลง่ายๆ คือ ในการใช้งานบนสภาพจราจรจริง
การชะลอ การเบรค การลดความเร็ว สำหรับรถ ICE
คือการทิ้งระยะทางที่ควรจะวิ่งได้ไปเปล่าๆ
แต่กับรถ HEV มันจะเกล็บพลังงานจลน์กลับมาใช้ใหม่ครับ
เห็นด้วยครับ
เอากติกาเดียวกันมาทดสอบกับรถทุกรุ่น ไม่ใช่ว่าผิด
แต่กติกานี้มันใช้มานานตั้งแต่รถส่วนใหญ่หรือประมาณร้อยละ 9x% เป็นรถสันดาปล้วน
มันเลยไม่เอื้ออำนวยต่อรถใหม่ๆที่เกิดมาเท่าไหร่
เอาง่ายๆ civic 1.5 turbo กับ ehev ตัวเลขทดสอบก็ต่างกันไม่มาก
แต่ดูชีวิตจริงโดยเฉพาะในเมือง 1.5 มีเลขตัวเดียว 8~9 บ่อยๆ แต่ ehev มีเกือบๆ 20 ประจำ
แล้วแต่ท่านผู้เจริญจะพิจารณาครับ
จะเทสในเมื่อง ด้วยเงื่อนไขเดียวกัน มันทำได้หรอครับ
ตัวแปรควบคุมไม่ได้มันเยอะ ไฟแดง จำนวนรถ ฯลฯ
พี่จิมมี่ก็เคยพูดแล้วมันทำได้ไม่เที่ยงตรงนะครับ
ถ้าเป็นผม ผมจะมองว่าการทดสอบ HLM คือการทดสอบวิ่งทางไกล
ให้พิจารณาที่เงื่อนไขทางไกล
แค่บอกว่ากติกามันไม่เอื้อครับ
-
สมรรถนะผมเฉยๆน่ะ ไม่ได้แย่ ไม่ได้ดีเด่น ค่อนข้างกลางๆ
แต่...... HONDA TH เปลี่ยน supplier กล้องมองหลัง/รอบคันเถอะครับทั้ง HRV,CRV, Accord G10 คุณภาพ 240p แย่กว่า Accord G8 ซะอีก
-
นิตยสารนักเลงรถกระบะมีการวัดอัตราสิ้นเปลืองในเมือง โดยใช้เส้นทางใกล้เคียงกันและระบุว่าได้ความเร็วเฉลี่ย 18 กม.ต่อ ชม. และใช้ตัวเลขนี้เปรียบเทียบกับทุกรุ่นที่ทำการทดสอบ เพียงแต่ไม่มีใครอยากทดสอบแบบนี้ ทุกคนอยากทดสอบอัตราเร่ง กับทดสอบการเข้าโค้ง แล้วก็ทดสอบความเร็วสูงสุด มีสื่อรายนึงพูดครงๆเลย ว่าเสียเวลาชีวิตชั้น
-
กินน้ำมันกว่า CR-V Gen4 เครื่อง 2.4 ที่คนบ่นว่ากินน้ำมัน นิดเดียวเอง
แอบผิดหวังนิดหน่อย น่าจะได้สัก 16-17 km/L ขึ้น ความเป็น HEV ไม่ได้ช่วยเลย
-
เหมือน e:hev ของ honda จะใช้เครื่องยนต์เป็นหลักตอนวิ่งความเร็วสูงๆ
อย่าง hrv ทำได้ 18.36 km/L แต่เห็นในกลุ่มใช้งานจริงก็มี 20 ขึ้นเยอะอยุ่นะครับ
เดาว่าถ้าใช้งานทั่วไป ไม่ได้วิ่งด้วยความเร็วยาวๆ น่าจะอยุ่ที่ 17-18 km/L
มันคือ mislead ของการนำผลทดสอบของ HLM มาเปรียบเทียบบนตารางไงครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเปรียบเทียบระหว่างเครื่องยนต์ต่างรูปแบบ
เพราะการวิ่งบนสภาพจราจรจริงในชีวิตประจำวัน
ICE จะกินมากกว่าที่ HLM test อยู่พอควร
แต่ HEV จะประหยัดกว่าที่ HLM test
เรียกว่าอัตราสิ้นเปลืองจริง จะวิ่งออกจากผลเทส
ไปกันคนละทางครับ
เหตุผลง่ายๆ คือ ในการใช้งานบนสภาพจราจรจริง
การชะลอ การเบรค การลดความเร็ว สำหรับรถ ICE
คือการทิ้งระยะทางที่ควรจะวิ่งได้ไปเปล่าๆ
แต่กับรถ HEV มันจะเกล็บพลังงานจลน์กลับมาใช้ใหม่ครับ
เห็นด้วยครับ
เอากติกาเดียวกันมาทดสอบกับรถทุกรุ่น ไม่ใช่ว่าผิด
แต่กติกานี้มันใช้มานานตั้งแต่รถส่วนใหญ่หรือประมาณร้อยละ 9x% เป็นรถสันดาปล้วน
มันเลยไม่เอื้ออำนวยต่อรถใหม่ๆที่เกิดมาเท่าไหร่
เอาง่ายๆ civic 1.5 turbo กับ ehev ตัวเลขทดสอบก็ต่างกันไม่มาก
แต่ดูชีวิตจริงโดยเฉพาะในเมือง 1.5 มีเลขตัวเดียว 8~9 บ่อยๆ แต่ ehev มีเกือบๆ 20 ประจำ
แล้วแต่ท่านผู้เจริญจะพิจารณาครับ
จะเทสในเมื่อง ด้วยเงื่อนไขเดียวกัน มันทำได้หรอครับ
ตัวแปรควบคุมไม่ได้มันเยอะ ไฟแดง จำนวนรถ ฯลฯ
พี่จิมมี่ก็เคยพูดแล้วมันทำได้ไม่เที่ยงตรงนะครับ
ถ้าเป็นผม ผมจะมองว่าการทดสอบ HLM คือการทดสอบวิ่งทางไกล
ให้พิจารณาที่เงื่อนไขทางไกล
แค่บอกว่ากติกามันไม่เอื้อครับ
กติกาไม่เอื้อกับอะไรครับ ไม่เอื้อกับฮอนด้าหรอ ??
เพราะจากตารางผลการทดสอบทุกคันทดสอบกติกาเดียวกันหมดแต่ผลที่ออกมาคือ ทำได้แย่กว่า x-trail และ outlander ซึ่งก็วิ่งด้วยความเร็วและเส้นทางเดียวกันทั้งหมด ชนิดน้ำมัน และปั๊มน้ำมันเดียวกัน โดยเฉพาะ X-trail ที่เป็นรถไฮบริจเหมือนกัน
กติกาไหนถึงยุติธรรมกับฮอนด้าล่ะ
-
อ้าว ผิดหวังเล็กๆ
-
เหมือน e:hev ของ honda จะใช้เครื่องยนต์เป็นหลักตอนวิ่งความเร็วสูงๆ
อย่าง hrv ทำได้ 18.36 km/L แต่เห็นในกลุ่มใช้งานจริงก็มี 20 ขึ้นเยอะอยุ่นะครับ
เดาว่าถ้าใช้งานทั่วไป ไม่ได้วิ่งด้วยความเร็วยาวๆ น่าจะอยุ่ที่ 17-18 km/L
มันคือ mislead ของการนำผลทดสอบของ HLM มาเปรียบเทียบบนตารางไงครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเปรียบเทียบระหว่างเครื่องยนต์ต่างรูปแบบ
เพราะการวิ่งบนสภาพจราจรจริงในชีวิตประจำวัน
ICE จะกินมากกว่าที่ HLM test อยู่พอควร
แต่ HEV จะประหยัดกว่าที่ HLM test
เรียกว่าอัตราสิ้นเปลืองจริง จะวิ่งออกจากผลเทส
ไปกันคนละทางครับ
เหตุผลง่ายๆ คือ ในการใช้งานบนสภาพจราจรจริง
การชะลอ การเบรค การลดความเร็ว สำหรับรถ ICE
คือการทิ้งระยะทางที่ควรจะวิ่งได้ไปเปล่าๆ
แต่กับรถ HEV มันจะเกล็บพลังงานจลน์กลับมาใช้ใหม่ครับ
เห็นด้วยครับ
เอากติกาเดียวกันมาทดสอบกับรถทุกรุ่น ไม่ใช่ว่าผิด
แต่กติกานี้มันใช้มานานตั้งแต่รถส่วนใหญ่หรือประมาณร้อยละ 9x% เป็นรถสันดาปล้วน
มันเลยไม่เอื้ออำนวยต่อรถใหม่ๆที่เกิดมาเท่าไหร่
เอาง่ายๆ civic 1.5 turbo กับ ehev ตัวเลขทดสอบก็ต่างกันไม่มาก
แต่ดูชีวิตจริงโดยเฉพาะในเมือง 1.5 มีเลขตัวเดียว 8~9 บ่อยๆ แต่ ehev มีเกือบๆ 20 ประจำ
แล้วแต่ท่านผู้เจริญจะพิจารณาครับ
จะเทสในเมื่อง ด้วยเงื่อนไขเดียวกัน มันทำได้หรอครับ
ตัวแปรควบคุมไม่ได้มันเยอะ ไฟแดง จำนวนรถ ฯลฯ
พี่จิมมี่ก็เคยพูดแล้วมันทำได้ไม่เที่ยงตรงนะครับ
ถ้าเป็นผม ผมจะมองว่าการทดสอบ HLM คือการทดสอบวิ่งทางไกล
ให้พิจารณาที่เงื่อนไขทางไกล
แค่บอกว่ากติกามันไม่เอื้อครับ
กติกาไม่เอื้อกับอะไรครับ ไม่เอื้อกับฮอนด้าหรอ ??
เพราะจากตารางผลการทดสอบทุกคันทดสอบกติกาเดียวกันหมดแต่ผลที่ออกมาคือ ทำได้แย่กว่า x-trail และ outlander ซึ่งก็วิ่งด้วยความเร็วและเส้นทางเดียวกันทั้งหมด ชนิดน้ำมัน และปั๊มน้ำมันเดียวกัน โดยเฉพาะ X-trail ที่เป็นรถไฮบริจเหมือนกัน
กติกาไหนถึงยุติธรรมกับฮอนด้าล่ะ
ไม่เอื้อกับรถไฮบริดครับ รู้สึกว่าบางค่ายไม่มีขายในไทย
ไปดูอัตราสิ้นเปลืองของพรีอุสก็ได้ครับ จำไม่ผิดก็แค่ 18 โลลิตร ใช้จริงก็ 20 กว่ากันเลยทีเดียว
-
เหมือน e:hev ของ honda จะใช้เครื่องยนต์เป็นหลักตอนวิ่งความเร็วสูงๆ
อย่าง hrv ทำได้ 18.36 km/L แต่เห็นในกลุ่มใช้งานจริงก็มี 20 ขึ้นเยอะอยุ่นะครับ
เดาว่าถ้าใช้งานทั่วไป ไม่ได้วิ่งด้วยความเร็วยาวๆ น่าจะอยุ่ที่ 17-18 km/L
มันคือ mislead ของการนำผลทดสอบของ HLM มาเปรียบเทียบบนตารางไงครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเปรียบเทียบระหว่างเครื่องยนต์ต่างรูปแบบ
เพราะการวิ่งบนสภาพจราจรจริงในชีวิตประจำวัน
ICE จะกินมากกว่าที่ HLM test อยู่พอควร
แต่ HEV จะประหยัดกว่าที่ HLM test
เรียกว่าอัตราสิ้นเปลืองจริง จะวิ่งออกจากผลเทส
ไปกันคนละทางครับ
เหตุผลง่ายๆ คือ ในการใช้งานบนสภาพจราจรจริง
การชะลอ การเบรค การลดความเร็ว สำหรับรถ ICE
คือการทิ้งระยะทางที่ควรจะวิ่งได้ไปเปล่าๆ
แต่กับรถ HEV มันจะเกล็บพลังงานจลน์กลับมาใช้ใหม่ครับ
เห็นด้วยครับ
เอากติกาเดียวกันมาทดสอบกับรถทุกรุ่น ไม่ใช่ว่าผิด
แต่กติกานี้มันใช้มานานตั้งแต่รถส่วนใหญ่หรือประมาณร้อยละ 9x% เป็นรถสันดาปล้วน
มันเลยไม่เอื้ออำนวยต่อรถใหม่ๆที่เกิดมาเท่าไหร่
เอาง่ายๆ civic 1.5 turbo กับ ehev ตัวเลขทดสอบก็ต่างกันไม่มาก
แต่ดูชีวิตจริงโดยเฉพาะในเมือง 1.5 มีเลขตัวเดียว 8~9 บ่อยๆ แต่ ehev มีเกือบๆ 20 ประจำ
แล้วแต่ท่านผู้เจริญจะพิจารณาครับ
จะเทสในเมื่อง ด้วยเงื่อนไขเดียวกัน มันทำได้หรอครับ
ตัวแปรควบคุมไม่ได้มันเยอะ ไฟแดง จำนวนรถ ฯลฯ
พี่จิมมี่ก็เคยพูดแล้วมันทำได้ไม่เที่ยงตรงนะครับ
ถ้าเป็นผม ผมจะมองว่าการทดสอบ HLM คือการทดสอบวิ่งทางไกล
ให้พิจารณาที่เงื่อนไขทางไกล
แค่บอกว่ากติกามันไม่เอื้อครับ
กติกาไม่เอื้อกับอะไรครับ ไม่เอื้อกับฮอนด้าหรอ ??
เพราะจากตารางผลการทดสอบทุกคันทดสอบกติกาเดียวกันหมดแต่ผลที่ออกมาคือ ทำได้แย่กว่า x-trail และ outlander ซึ่งก็วิ่งด้วยความเร็วและเส้นทางเดียวกันทั้งหมด ชนิดน้ำมัน และปั๊มน้ำมันเดียวกัน โดยเฉพาะ X-trail ที่เป็นรถไฮบริจเหมือนกัน
กติกาไหนถึงยุติธรรมกับฮอนด้าล่ะ
ผมเคยแนะนำว่า ขอข้อมูลการกินน้ำมันแบบใช้งานทั่วไปประกอบด้วย
คือเวลายืมรถมาทดมอบเนี่ย ทางต้นสังกัดจะเติมน้ำมันให้เต็มถัง
และตอนไปคืนก็ต้องเติมคืนอยู่แล้วใช่มั้ยครับ แล้วระหว่างที่รถอยู่กับ
ทีมงาน มันมีทั้งวิ่งไปโน่น มานี่ ติดต่อธุระบ้าง เดินเอกสารบ้าง
ถ่ายรูปบ้าง ก็เอาทั้งหมดนั่นหารกันแล้วแชร์ข้อมูลประกอบด้วย
จริงอยู่ว่าการทำแบบนี้มันไม่สามารถควบคุมปัจจัยให้เท่ากันทุกครั้ง
เพื่อใช้เทียบกับรถต่างรุ่นต่างยี่ห้อได้ แต่มันทำให้พอเห็นภาพว่า
ถ้าผู้อ่านซื้อรถคันนี้ไปใช้งานจริงบนสภาพจราจรจริง จะมีอัตราสิ้นเปลือง
ประมาณเท่าไหร่ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามองลึก ๆ คันต่อคัน เทียบรถคันเดียวกัน
จะเห็นด้วยซ้ำไปว่า ตัวเลขที่ได้จากการวิ่ง 110 นิ่งๆ กับตอนเอาไปใช้จริง
ประจำวัน ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองจะต่างกันมากน้อยแค่ไหน
รถบางคันวิ่ง 110 นิ่งๆ ดูประหยัดมากจนตาลุกวาว แต่พอซื้อใช้จริง
รถติดๆ วิ่งๆ หยุดๆ กินอย่างกะรถคนละคันแบบคุณหลอกดาว
กันเลยทีเดียวครับ
อย่าลืมนะครับว่า ชีวิตจริง ขับจริง เติมจริง เนี่ย โอการวิ่งนิ่งๆ 110
มันมีน้อยมาก ดังนั้นถ้าถามว่าทำแบบที่ผมว่ามันเอื้อกับใคร
ก็เอื้อกับคนซื้อรถจริง ขับจริง เติมจริง จ่ายค่าพลังงานจริงไงครับ
-
สมรรถนะผมเฉยๆน่ะ ไม่ได้แย่ ไม่ได้ดีเด่น ค่อนข้างกลางๆ
แต่...... HONDA TH เปลี่ยน supplier กล้องมองหลัง/รอบคันเถอะครับทั้ง HRV,CRV, Accord G10 คุณภาพ 240p แย่กว่า Accord G8 ซะอีก
ไม่เกี่ยวกับ supplier หรอกครับ จะเอาชัดแค่ไหนเขาทำได้หมดแหละ
ฮอนด้าไทยไปลดสเปค เลยไปสั่งจอสั่งกล้องกากๆมาใส่เอง
-
อัตราเร่งจากเว็บ มาจากปัจจัยเดียวกัน จะบอกว่า ถ้าใช้จริงมากกว่านี้ หรือกินกว่านี้ก็ได้ ไม่ต้องอวยครับ ในคลับกลุ่มต่างๆ จะทำตัวเลขสวยๆมาโชว์ในกลุ่มมันไม่ยากเลย มีสักคนไหมที่โชว์อัตราสิ้นเปลืองจริงๆทั้งในเมืองนอกเมือง แบบว่าไม่ต้องรีเซ็ท
-
เหมือน e:hev ของ honda จะใช้เครื่องยนต์เป็นหลักตอนวิ่งความเร็วสูงๆ
อย่าง hrv ทำได้ 18.36 km/L แต่เห็นในกลุ่มใช้งานจริงก็มี 20 ขึ้นเยอะอยุ่นะครับ
เดาว่าถ้าใช้งานทั่วไป ไม่ได้วิ่งด้วยความเร็วยาวๆ น่าจะอยุ่ที่ 17-18 km/L
มันคือ mislead ของการนำผลทดสอบของ HLM มาเปรียบเทียบบนตารางไงครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเปรียบเทียบระหว่างเครื่องยนต์ต่างรูปแบบ
เพราะการวิ่งบนสภาพจราจรจริงในชีวิตประจำวัน
ICE จะกินมากกว่าที่ HLM test อยู่พอควร
แต่ HEV จะประหยัดกว่าที่ HLM test
เรียกว่าอัตราสิ้นเปลืองจริง จะวิ่งออกจากผลเทส
ไปกันคนละทางครับ
เหตุผลง่ายๆ คือ ในการใช้งานบนสภาพจราจรจริง
การชะลอ การเบรค การลดความเร็ว สำหรับรถ ICE
คือการทิ้งระยะทางที่ควรจะวิ่งได้ไปเปล่าๆ
แต่กับรถ HEV มันจะเกล็บพลังงานจลน์กลับมาใช้ใหม่ครับ
เห็นด้วยครับ
เอากติกาเดียวกันมาทดสอบกับรถทุกรุ่น ไม่ใช่ว่าผิด
แต่กติกานี้มันใช้มานานตั้งแต่รถส่วนใหญ่หรือประมาณร้อยละ 9x% เป็นรถสันดาปล้วน
มันเลยไม่เอื้ออำนวยต่อรถใหม่ๆที่เกิดมาเท่าไหร่
เอาง่ายๆ civic 1.5 turbo กับ ehev ตัวเลขทดสอบก็ต่างกันไม่มาก
แต่ดูชีวิตจริงโดยเฉพาะในเมือง 1.5 มีเลขตัวเดียว 8~9 บ่อยๆ แต่ ehev มีเกือบๆ 20 ประจำ
แล้วแต่ท่านผู้เจริญจะพิจารณาครับ
จะเทสในเมื่อง ด้วยเงื่อนไขเดียวกัน มันทำได้หรอครับ
ตัวแปรควบคุมไม่ได้มันเยอะ ไฟแดง จำนวนรถ ฯลฯ
พี่จิมมี่ก็เคยพูดแล้วมันทำได้ไม่เที่ยงตรงนะครับ
ถ้าเป็นผม ผมจะมองว่าการทดสอบ HLM คือการทดสอบวิ่งทางไกล
ให้พิจารณาที่เงื่อนไขทางไกล
แค่บอกว่ากติกามันไม่เอื้อครับ
กติกาไม่เอื้อกับอะไรครับ ไม่เอื้อกับฮอนด้าหรอ ??
เพราะจากตารางผลการทดสอบทุกคันทดสอบกติกาเดียวกันหมดแต่ผลที่ออกมาคือ ทำได้แย่กว่า x-trail และ outlander ซึ่งก็วิ่งด้วยความเร็วและเส้นทางเดียวกันทั้งหมด ชนิดน้ำมัน และปั๊มน้ำมันเดียวกัน โดยเฉพาะ X-trail ที่เป็นรถไฮบริจเหมือนกัน
กติกาไหนถึงยุติธรรมกับฮอนด้าล่ะ
ผมเคยแนะนำว่า ขอข้อมูลการกินน้ำมันแบบใช้งานทั่วไปประกอบด้วย
คือเวลายืมรถมาทดมอบเนี่ย ทางต้นสังกัดจะเติมน้ำมันให้เต็มถัง
และตอนไปคืนก็ต้องเติมคืนอยู่แล้วใช่มั้ยครับ แล้วระหว่างที่รถอยู่กับ
ทีมงาน มันมีทั้งวิ่งไปโน่น มานี่ ติดต่อธุระบ้าง เดินเอกสารบ้าง
ถ่ายรูปบ้าง ก็เอาทั้งหมดนั่นหารกันแล้วแชร์ข้อมูลประกอบด้วย
จริงอยู่ว่าการทำแบบนี้มันไม่สามารถควบคุมปัจจัยให้เท่ากันทุกครั้ง
เพื่อใช้เทียบกับรถต่างรุ่นต่างยี่ห้อได้ แต่มันทำให้พอเห็นภาพว่า
ถ้าผู้อ่านซื้อรถคันนี้ไปใช้งานจริงบนสภาพจราจรจริง จะมีอัตราสิ้นเปลือง
ประมาณเท่าไหร่ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามองลึก ๆ คันต่อคัน เทียบรถคันเดียวกัน
จะเห็นด้วยซ้ำไปว่า ตัวเลขที่ได้จากการวิ่ง 110 นิ่งๆ กับตอนเอาไปใช้จริง
ประจำวัน ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองจะต่างกันมากน้อยแค่ไหน
รถบางคันวิ่ง 110 นิ่งๆ ดูประหยัดมากจนตาลุกวาว แต่พอซื้อใช้จริง
รถติดๆ วิ่งๆ หยุดๆ กินอย่างกะรถคนละคันแบบคุณหลอกดาว
กันเลยทีเดียวครับ
อย่าลืมนะครับว่า ชีวิตจริง ขับจริง เติมจริง เนี่ย โอการวิ่งนิ่งๆ 110
มันมีน้อยมาก ดังนั้นถ้าถามว่าทำแบบที่ผมว่ามันเอื้อกับใคร
ก็เอื้อกับคนซื้อรถจริง ขับจริง เติมจริง จ่ายค่าพลังงานจริงไงครับ
อย่างนี้ยิ่งยากใหญ่เลย เจอวันศุกร์ช่วงเย็น วิ่งสีลมที สยาม รามอินทรา มันจะเปรียบเทียบได้เหรอ
สมัยทำงานในเมือง บางวัน 1 ชม ถึงบ้าน บางวัน 3 ชม ถึง มันเทียบกันยาก
ถ้าจะทำแบบที่คุณบอกต้องเอารถมาวิ่งพร้อมกัน เส้นทางเดียวกันที่หมายเดียวกัน
ถ้าเป็นคนที่อยู่ในแวดวงงานวิจัยการทดลอง จะเข้าใจ
ผมว่า crv รุ่นนี้ อาจจะเหมาะกับการใช้ในเมือง ไม่เหมาะกับการวิ่งทางไกลด้วยความเร็วคงที่
เฮ้อ เลือกยากจริง
-
ก็เล่นมักง่ายเป็นฟิกซ์เกียร์อัตราทดเดียว มันจะประหยัดน้ำมันได้ไง
ใช่ครับ ถ้าเข้าใจงานวิศวกรรมของคนออกแบบ ก็จะเข้าใจจุดประสงค์การใช้งาน
ความเร็วต่ำๆมันคือ e power ของ nissan
พอความเร็วสูง มันก็คือ ice คันนึง
-
เสียดาย HEV น่าจะประหยัดได้มากกว่านี้ ตัวเลขอัตราเร่งก็ไม่ดีตามที่คาดหวังเลย
-
14.8 km/lit แพ้กระทั่ง x trail
นึกจะจะทำได้ดีกว่านี้. ผิดคาด
-
เหมือน e:hev ของ honda จะใช้เครื่องยนต์เป็นหลักตอนวิ่งความเร็วสูงๆ
อย่าง hrv ทำได้ 18.36 km/L แต่เห็นในกลุ่มใช้งานจริงก็มี 20 ขึ้นเยอะอยุ่นะครับ
เดาว่าถ้าใช้งานทั่วไป ไม่ได้วิ่งด้วยความเร็วยาวๆ น่าจะอยุ่ที่ 17-18 km/L
มันคือ mislead ของการนำผลทดสอบของ HLM มาเปรียบเทียบบนตารางไงครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเปรียบเทียบระหว่างเครื่องยนต์ต่างรูปแบบ
เพราะการวิ่งบนสภาพจราจรจริงในชีวิตประจำวัน
ICE จะกินมากกว่าที่ HLM test อยู่พอควร
แต่ HEV จะประหยัดกว่าที่ HLM test
เรียกว่าอัตราสิ้นเปลืองจริง จะวิ่งออกจากผลเทส
ไปกันคนละทางครับ
เหตุผลง่ายๆ คือ ในการใช้งานบนสภาพจราจรจริง
การชะลอ การเบรค การลดความเร็ว สำหรับรถ ICE
คือการทิ้งระยะทางที่ควรจะวิ่งได้ไปเปล่าๆ
แต่กับรถ HEV มันจะเกล็บพลังงานจลน์กลับมาใช้ใหม่ครับ
เห็นด้วยครับ
เอากติกาเดียวกันมาทดสอบกับรถทุกรุ่น ไม่ใช่ว่าผิด
แต่กติกานี้มันใช้มานานตั้งแต่รถส่วนใหญ่หรือประมาณร้อยละ 9x% เป็นรถสันดาปล้วน
มันเลยไม่เอื้ออำนวยต่อรถใหม่ๆที่เกิดมาเท่าไหร่
เอาง่ายๆ civic 1.5 turbo กับ ehev ตัวเลขทดสอบก็ต่างกันไม่มาก
แต่ดูชีวิตจริงโดยเฉพาะในเมือง 1.5 มีเลขตัวเดียว 8~9 บ่อยๆ แต่ ehev มีเกือบๆ 20 ประจำ
แล้วแต่ท่านผู้เจริญจะพิจารณาครับ
จะเทสในเมื่อง ด้วยเงื่อนไขเดียวกัน มันทำได้หรอครับ
ตัวแปรควบคุมไม่ได้มันเยอะ ไฟแดง จำนวนรถ ฯลฯ
พี่จิมมี่ก็เคยพูดแล้วมันทำได้ไม่เที่ยงตรงนะครับ
ถ้าเป็นผม ผมจะมองว่าการทดสอบ HLM คือการทดสอบวิ่งทางไกล
ให้พิจารณาที่เงื่อนไขทางไกล
แค่บอกว่ากติกามันไม่เอื้อครับ
กติกาไม่เอื้อกับอะไรครับ ไม่เอื้อกับฮอนด้าหรอ ??
เพราะจากตารางผลการทดสอบทุกคันทดสอบกติกาเดียวกันหมดแต่ผลที่ออกมาคือ ทำได้แย่กว่า x-trail และ outlander ซึ่งก็วิ่งด้วยความเร็วและเส้นทางเดียวกันทั้งหมด ชนิดน้ำมัน และปั๊มน้ำมันเดียวกัน โดยเฉพาะ X-trail ที่เป็นรถไฮบริจเหมือนกัน
กติกาไหนถึงยุติธรรมกับฮอนด้าล่ะ
ผมเคยแนะนำว่า ขอข้อมูลการกินน้ำมันแบบใช้งานทั่วไปประกอบด้วย
คือเวลายืมรถมาทดมอบเนี่ย ทางต้นสังกัดจะเติมน้ำมันให้เต็มถัง
และตอนไปคืนก็ต้องเติมคืนอยู่แล้วใช่มั้ยครับ แล้วระหว่างที่รถอยู่กับ
ทีมงาน มันมีทั้งวิ่งไปโน่น มานี่ ติดต่อธุระบ้าง เดินเอกสารบ้าง
ถ่ายรูปบ้าง ก็เอาทั้งหมดนั่นหารกันแล้วแชร์ข้อมูลประกอบด้วย
จริงอยู่ว่าการทำแบบนี้มันไม่สามารถควบคุมปัจจัยให้เท่ากันทุกครั้ง
เพื่อใช้เทียบกับรถต่างรุ่นต่างยี่ห้อได้ แต่มันทำให้พอเห็นภาพว่า
ถ้าผู้อ่านซื้อรถคันนี้ไปใช้งานจริงบนสภาพจราจรจริง จะมีอัตราสิ้นเปลือง
ประมาณเท่าไหร่ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามองลึก ๆ คันต่อคัน เทียบรถคันเดียวกัน
จะเห็นด้วยซ้ำไปว่า ตัวเลขที่ได้จากการวิ่ง 110 นิ่งๆ กับตอนเอาไปใช้จริง
ประจำวัน ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองจะต่างกันมากน้อยแค่ไหน
รถบางคันวิ่ง 110 นิ่งๆ ดูประหยัดมากจนตาลุกวาว แต่พอซื้อใช้จริง
รถติดๆ วิ่งๆ หยุดๆ กินอย่างกะรถคนละคันแบบคุณหลอกดาว
กันเลยทีเดียวครับ
อย่าลืมนะครับว่า ชีวิตจริง ขับจริง เติมจริง เนี่ย โอการวิ่งนิ่งๆ 110
มันมีน้อยมาก ดังนั้นถ้าถามว่าทำแบบที่ผมว่ามันเอื้อกับใคร
ก็เอื้อกับคนซื้อรถจริง ขับจริง เติมจริง จ่ายค่าพลังงานจริงไงครับ
อย่างนี้ยิ่งยากใหญ่เลย เจอวันศุกร์ช่วงเย็น วิ่งสีลมที สยาม รามอินทรา มันจะเปรียบเทียบได้เหรอ
สมัยทำงานในเมือง บางวัน 1 ชม ถึงบ้าน บางวัน 3 ชม ถึง มันเทียบกันยาก
ถ้าจะทำแบบที่คุณบอกต้องเอารถมาวิ่งพร้อมกัน เส้นทางเดียวกันที่หมายเดียวกัน
ถ้าเป็นคนที่อยู่ในแวดวงงานวิจัยการทดลอง จะเข้าใจ
ผมว่า crv รุ่นนี้ อาจจะเหมาะกับการใช้ในเมือง ไม่เหมาะกับการวิ่งทางไกลด้วยความเร็วคงที่
เฮ้อ เลือกยากจริง
ผมก็ mention ไว้แล้วนะ
"จริงอยู่ว่าการทำแบบนี้มันไม่สามารถควบคุมปัจจัยให้เท่ากันทุกครั้ง
เพื่อใช้เทียบกับรถต่างรุ่นต่างยี่ห้อได้ แต่มันทำให้พอเห็นภาพว่า
ถ้าผู้อ่านซื้อรถคันนี้ไปใช้งานจริงบนสภาพจราจรจริง จะมีอัตราสิ้นเปลือง
ประมาณเท่าไหร่ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามองลึก ๆ คันต่อคัน เทียบรถคันเดียวกัน
จะเห็นด้วยซ้ำไปว่า ตัวเลขที่ได้จากการวิ่ง 110 นิ่งๆ กับตอนเอาไปใช้จริง
ประจำวัน ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองจะต่างกันมากน้อยแค่ไหน
รถบางคันวิ่ง 110 นิ่งๆ ดูประหยัดมากจนตาลุกวาว แต่พอซื้อใช้จริง
รถติดๆ วิ่งๆ หยุดๆ กินอย่างกะรถคนละคันแบบคุณหลอกดาว
กันเลยทีเดียวครับ"
อีกอย่างคือ ทีมงานไม่ได้ต้องทำอะไรเพิ่มเลย
แค่ set trip meter "0" ตอนรับรถ และเอามาหารจำนวนลิตร
ที่เติมน้ำมันตอนคืนรถ มันก็ได้ค่าการใช้งานทั้งหมดในส่วนของการยืมรถในครั้งนั้นแล้ว
ไม่ต้องจัด event ในการทดสอบแยกต่างหากอีกน่ะครับ ง่ายสุดแล้วนะ
และเป็น add on information เพิ่มไปจากตัวเลขทดสอบ 110 ตามปกติแค่นั้นเอง
-
เรื่องประอัตราสิ้นเปลือง อยากจะยกตัวอย่างนึง
Cx5 เครื่อง 2.5 เบนซิน กับ 2.2 ดีเซล
ในตาราง อัตราสิ้นเปลืองต่างกันนิดเดียวไม่เยอะ
แต่ถ้าใช้ในเมือง ดีเซลยังไปได้ 11-12 ถ้าไม่ติดเว่อร์จริงๆ
เบนซิน 8 ก็ดีแล้วครับ เหมือนๆกับ xtrail 2.5 ล่ะ ในเมืองซดหยั่งกับถังรั่วทีเดียว
ส่วนไฮบริดก็ตามนั้นครับนอกเมืองไม่ใช่ทาง เอาไว้วิ่งในเมืองรถติดล้วนๆ
การทดสอบ HLM ก็เน้นนอกเมืองเพราะควบคุมตัวแปรได้ง่ายกว่า
เอาจริงผมอยากจะเสนอทีมงานนะ หาพื้นที่โล่งๆ วิ่งวนเป็นวงกลมสลับหยุดนิ่ง เร่งบ้าง เบรคบ้าง แต่เปลืองเวลามหาศาลเลย
ที่ผิดหวังจริงๆ นี่คือโมเดลใหม่ แต่ผลงานกลับเอาชนะ โมเดลเก่าๆไม่ได้ในหลายด้าน
-
เมื่ออัตราสิ้นเปลืองดูที่นี่ไม่ได้
ก็ไปดูที่อื่นแทนครับ ไม่ต้องคิดเยอะ
จบ แยกย้าย
-
ถ้าดูจาก Eco Sticker ก็จะไม่แปลกใจหรอกครับ มันก็ได้เท่านี้แหละ จะหวังให้ได้เท่า accord กับรถที่น้ำหนักเปล่า 17xx ทรงก็ต้านลม + AWD อีก ได้เท่านี้ก็ดีถมถืดละครับ
Hybrid ของ Honda มันประหยัดจริงถ้าในเมืองเป็นหลักครับ ประหยัดกว่า Toyota ด้วย เพราะแบตใหญ่กว่า แต่นอกเมืองที่ความเร็วเดินทาง เครื่องทำงานเป็นหลัก มันก็คืออัตราสิ้นเปลืองของเครื่อว 2.0 ที่ดีกว่าเดิมหน่อยเพราะเป็นแบบ atkinson
แต่ Toyota จะความเร็วไหนมันก็เป็น Hybrid Synergy Drive หมด ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองแบบ combine กับ extra urban ถึงแพ้ Toyota
-
ในคลับโชว์ตัวเลขมีตั้งเต่ 14-18 กม/ลิตร ถึงวิ่งทางยาวจะน่าผิดหวัง แต่ยอดจอง ehev ตอนนี้รอรถกันไปถึง มค- กพ ปีหน้าแล้วครับ
-
HRV eHEV แฟน 2 เดือน 2 พันโล
ส่วนมาก พญาไท - ลาดหลุมแก้ว - พญาไท
มีไปกลับพัทยา 1 ครั้ง
เฉลี่ย 20.5km/l จากหน้าจอ
วิ่งๆหยุดๆ อัตรากินดีกว่า 110 คงที่ของ HLM
ผมว่าก็ดู guide ได้แหล่ะครับ เพราะวิ่งไกล พัทยา จากหน้าจอก็ประมาณ 19km/L พอๆกับ HLM ทดสอบ
ยังไงซื้อรถคันนึง ถ้าซีเรียสเรื่องพวกนี้ คนก็น่าจะหาข้อมูลจากหลายๆที่ จากใน club จาก youtube จากรีวิวตปท เป็นต้นอยู่แล้ว
สมรรถนะผมเฉยๆน่ะ ไม่ได้แย่ ไม่ได้ดีเด่น ค่อนข้างกลางๆ
แต่...... HONDA TH เปลี่ยน supplier กล้องมองหลัง/รอบคันเถอะครับทั้ง HRV,CRV, Accord G10 คุณภาพ 240p แย่กว่า Accord G8 ซะอีก
ไม่เกี่ยวกับ supplier หรอกครับ จะเอาชัดแค่ไหนเขาทำได้หมดแหละ
ฮอนด้าไทยไปลดสเปค เลยไปสั่งจอสั่งกล้องกากๆมาใส่เอง
อันนี้จริง เอา j32 ไปติดจอ android + กล้องถอยจีนไม่กี่พันบาท ได้ภาพจากกล้องชัดกว่า hrv ราวฟ้ากับเหว
-
เสนอแนะข้อคิดเห็น เพื่อปรับปรุงให้มีข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้นและเป็นประโยชน์แก่ผู้เสพข่าวสารทุกคน
ถึงกับต้องไล่ให้ไปดูข้อมูลที่อื่นแทนเลยเหรอครับ
คิดแบบนั้นจริง ๆ เหรอครับ
หรือแค่ไม่ถูกใจกับข้อเสนอแนะ ????
-
เสนอแนะข้อคิดเห็น เพื่อปรับปรุงให้มีข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้นและเป็นประโยชน์แก่ผู้เสพข่าวสารทุกคน
ถึงกับต้องไล่ให้ไปดูข้อมูลที่อื่นแทนเลยเหรอครับ
คิดแบบนั้นจริง ๆ เหรอครับ
หรือแค่ไม่ถูกใจกับข้อเสนอแนะ ????
สิ่งที่คุณบอกให้ทำมัน mislead ได้ว่ายๆ ตัวแปรก็แตกต่างกัน เอาง่ายๆเลย เส้นทางที่ใช้วิ่งแตกต่างกัน จุดรับรถแตกต่างกัน เวลาที่ใช้ทดสอบแตกต่างกัน คนขับคนละคนดัน
สมมติทำแบบที่คุณบอก เอาหารออกมาแล้วแปะในตารางด้วย แต่ตัวแปรข้างต้นไม่มีพูดถึงเลย มันลอย มันเชื่อถือไม่ได้ มันอ้างอิงไม่ได้ เหมือนเด็กทำรายงาน แล้วเอาข้อมูลจากไหนมาใส่ไม่รู้ ซึ่งจะทำให้รายงานนั้นขาดความน่าเชื่อถือ
ซึ่งเพื่อนๆในนี้ก็บอกว่าการที่คุณต้องการค่าที่เอามาหาร ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่คุณเข้าไปอ่านตามกลุ่มต่างๆ แล้วคุณจะเอาค่าที่คุณต้องการมาใส่ในตาราง hlm ทำไม เพราะจะทำไม่น่าเชื่อถือ นำไปอ้างอิงไม่ได้อีก
-
เสนอแนะข้อคิดเห็น เพื่อปรับปรุงให้มีข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้นและเป็นประโยชน์แก่ผู้เสพข่าวสารทุกคน
ถึงกับต้องไล่ให้ไปดูข้อมูลที่อื่นแทนเลยเหรอครับ
คิดแบบนั้นจริง ๆ เหรอครับ
หรือแค่ไม่ถูกใจกับข้อเสนอแนะ ????
ข้อเสนอแนะของคุณมันเอาไว้อ้างอิงไม่ได้สิครับ
ถ้าเทสรถติดในเมือง คุณจะ fix ตัวแปรอย่างไง
เช่นไฟแดง ปริมาณรถ ช่วงเวลา เวลาที่ติดไฟแดง บลาๆๆ
ปกติผมก็ไม่ได้เห็นด้วยกับ hlm ไปทุกอย่าง
แต่เคสเทสรถผมเห็นด้วยที่สุด ว่ามันต้องมีวิธีการที่เหมือนกัน มี factor ที่เหมือนกัน
-
เสนอแนะข้อคิดเห็น เพื่อปรับปรุงให้มีข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้นและเป็นประโยชน์แก่ผู้เสพข่าวสารทุกคน
ถึงกับต้องไล่ให้ไปดูข้อมูลที่อื่นแทนเลยเหรอครับ
คิดแบบนั้นจริง ๆ เหรอครับ
หรือแค่ไม่ถูกใจกับข้อเสนอแนะ ????
สิ่งที่คุณบอกให้ทำมัน mislead ได้ว่ายๆ ตัวแปรก็แตกต่างกัน เอาง่ายๆเลย เส้นทางที่ใช้วิ่งแตกต่างกัน จุดรับรถแตกต่างกัน เวลาที่ใช้ทดสอบแตกต่างกัน คนขับคนละคนดัน
สมมติทำแบบที่คุณบอก เอาหารออกมาแล้วแปะในตารางด้วย แต่ตัวแปรข้างต้นไม่มีพูดถึงเลย มันลอย มันเชื่อถือไม่ได้ มันอ้างอิงไม่ได้ เหมือนเด็กทำรายงาน แล้วเอาข้อมูลจากไหนมาใส่ไม่รู้ ซึ่งจะทำให้รายงานนั้นขาดความน่าเชื่อถือ
ซึ่งเพื่อนๆในนี้ก็บอกว่าการที่คุณต้องการค่าที่เอามาหาร ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่คุณเข้าไปอ่านตามกลุ่มต่างๆ แล้วคุณจะเอาค่าที่คุณต้องการมาใส่ในตาราง hlm ทำไม เพราะจะทำไม่น่าเชื่อถือ นำไปอ้างอิงไม่ได้อีก
ตามนี้ชัดเจนเลยครับ ไม่งั้นทางเวปก็อาจเจอคนอ่านคิดไปเองว่า อวยแบรนด์นั้น ขิง แบรนด์นี้อีก
รีวิวอ่าน เอาจริงๆ ก้อคงไม่ได้อ่านที่นี่ปุ๊บ ตัวเลข ข้อมูล ถูกใจปั๊บ ซื้อเลยกันอยู่แล้วมั๊งครับ
สมช ก้อเหลือกันกระจึ๋งนึงแบบตอนนี้ คงไม่มีใครมาไล่ใครหรอกครับ อยู่อ่านเป็นเพื่อนกัน และเป็นกำลังใจให้เวปต่อไปดีกว่า 555
-
การทดสอบผมว่าจุดประสงค์เพื่อใช้อ้างอิงในการใช้งาน เพื่อตัดสินใจในการซื้อ
แต่เมื่อวันนึง ข้อมูลนั้นมันอ้างอิงกับการใช้งานจริงๆไม่ได้ นานๆเข้าคนก็จะไม่เชื่อ
มันก็คงเป็นโจทย์ให้คนทำข้อมูลไปคิดต่อ ว่าจะทดสอบยังงัยให้สะท้อน การใช้งานจริง
ถ้าไม่อยากเปลี่ยนอะไร เราๆๆผู้อ่าน คงต้อง remark เอาเอง ว่ารถคันนี้มัน HEV การใช้งานจริง คงดีกว่านี้ มากน้อยเป็นรุ่นๆไป
อย่าง HRV e:HEV ในนี้บอก 18.xx แต่ผมใช้งานจริง ส่วนมากก็ขับออก ตจว ก็ไม่เคยต่ำกว่า 20 เลย
เพราะบนถนนจริงๆ มันจะรถติดบ้าง ลงเนินบ้าง มันไม่สามารถใช้ความเร็ว 110 นิ่งๆได้เลย
-
ตัวเลขเอาไว้อ้างอิง อยากรู้ตัวเลขแบบคนใช้งานจริง ก็ไปสิงตามคลับดูครับ
อย่างรถผม วิ่งให้ตายยังไง ก็ไม่ได้อัตราแบบที่ HLM test เพราะคนขับก็คนละคน ปัจจัยภายนอกก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว น้ำมันก็คนละชนิด
-
ผมว่า การทดสอบของ "HLM"
เสนอตามจริง "ดีกว่าเยอะ"
แบบ "Simply" นี่ล่ะดี
ตัวเลขไม่ต้อง "อวย" ผู้ผลิต
"ไม่บวก" ตามยี่ห้อที่ฉันชอบ
"ไม่ลบ" ตาม Bias
ตามที่ทดสอบ "ความจริง" มันเป็นแบบนี้ ก็คือแบบนี้
ถ้า คุณ "รับไม่ได้" ก็ไปซื้อตัวอื่น
แต่ถ้า ในตัวนี้ มันมีอะไร ที่รู้สึกว่า "ใช่"
ก็ไปต่อ!!
มี "บางคน" พูดไว้ว่า "จะรีบไปทำไม, รออีกนิด เดี๋ยวรุ่นใหม่ก็ออก!!"
พอใจ เมื่อไร ก็ค่อยซื้อ (ถ้าอายุไม่ใช่ปัญหา) !!??
-
ผมก็ตามการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองของ เว็บมานาน ส่วนตัวมองว่าอัตราที่เว็บทดสอบเป็นค่ากลาง ถ้าใช้ในเมืองผมก็จะบวกลบเอาเองคร่าวๆ ใช้งานต่างจังหวัดก็จะใกล้เคียงจากที่เว็บทดสอบ
-
เอาอย่างนี้ครับ ผมยกตัวอย่างแบบสมมติตัวเลขละกัน
ผลทดสอบแบบ HLM
รถ A : 18.5 km/l (HEV ยี่ห้อใดก็ได้)
รถ B : 17.5 km/l (ICE ยี่ห้อใดก็ได้)
เทียบแบบนี้ มันพอ ๆ กัน จะใช้ HEV ไปทำไมใช่มั้ยล่ะครับ
แต่สิ่งที่ผมเสนอคือ
รถ A : 18.5 km/l จากวิธีมาตรฐาน HLM แต่เพิ่มเติม ยืมมาทดสอบและวิ่งใช้งานรวม 700 km เติมน้ำมันกลับ 31L = 22.58 km/l
รถ B : 17.5 km/l จากวิธีมาตรฐาน HLM แต่เพิ่มเติม ยืมมาทดสอบและวิ่งใช้งานรวม 500 km เติมน้ำมันกลับ 36L = 13.88 km/l
* Remark *
อัตราสิ้นเปลืองอ้างอิงจากการเติมน้ำมันกลับตอนคืนรถ ไม่สามารถเทียบระหว่างรถ A กับรถ B ได้โดยตรง
เนื่องจากสภาวะการจราจรและลักษณะการใช้งานที่ต่างกรรมต่างวาระ
แต่ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองทั้ง 2 แบบ สามารถเทียบให้เห็นว่า
กรณีรถ A การใช้งานในสภาวะชีวิตประจำวันมีแนวโน้มที่จะประหยัดมากกว่าการวิ่งด้วยความเร็วคงที่ 110 km/hr.
รถณีรถ B การใช้งานในสภาวะชีวิตประจำวันมีแนวโน้มที่จะประหยัดน้อยกว่าการวิ่งด้วยความเร็วคงที่ 110 km/hr.
ที่ผมคิดถึงเรื่องนี้ เพราะก่อนที่ผมจะใช้รถ HEV ก็เทียบตรง ๆ ตามตารางผลทดสอบนี่แหละ
และพบว่า HEV ไม่เห็นจะช่วยประหยัดได้เท่าไหร่เลย แต่ก็แปลกใจกับต่างประเทศที่นิยมใช้รถ HEV กัน
และต่างพูดว่ามันประหยัดกว่ากันมาก
และเมื่อได้ลองใช้จริงจึงพบว่า อัตราสิ้นเปลืองมันต่างไปจากที่เคยดูจากตารางเพียงอย่างเดียวโดยที่รับรู้มาโดยตลอดว่า
ผลการทดสอบแบบวิ่งนิ่ง ๆ 110 จะให้อัตราสิ้นเปลืองที่ดีที่สุด และเมื่อใช้จริงจะไม่สามารถประหยัดได้เท่านั้น
ทำใจไว้ว่ามันจะกินมากกว่าการทดสอบแบบ HLM แน่นอน ซึ่งผมก็เลยถูก mislead จากการเชื่อ ศรัทธา ผลทดสอบ
แบบนี้มาก่อนไงครับ
และแน่นอนว่า เมื่อมาถึงปัจจุบัน เริ่มพบว่า การเทียบอะไรตรง ๆ แบบที่เคยทำกันมา วิธีการมันเริ่มจะไม่พอสำหรับ
กลุ่มรถ HEV และ BEV จึงเริ่มคิด วิเคราะห์ว่า เพราะอะไรมันจึงเป็นเช่นนั้น ต่างจากสิ่งที่เราเคยเชื่อกันมาโดยตลอด
ซึ่งผมคิดว่า สิ่งที่ต่างกันก็คือทั้ง HEV และ BEV ต่างก็มีระบบ regenerative ที่ดึงเอาพลังงานที่เสียไปกลับคืนมา
โดยที่ ICE มันไม่มีระบบนี้ ดังนั้น การ Test ICE ที่จะได้ค่าอัตราสิ้นเปลืองที่ดีที่สุดคือ วิ่งยังไงให้มีการสูญเสีย
ระยะทางวิ่งไปกับการชะลอ การเบรค ให้น้อยที่สุด นั่นคือการวิ่งด้วยความเร็วนิ่ง ๆ เป็นระยะทางยาว ๆ ที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ววิธีการทดสอบใดจะดีที่สุด บอกตรง ๆ ว่า ผมก็ยังไม่ทราบ และผมเองก็ไม่ได้ว่าการทดสอบแบบ
ที่ HLM ทำอยู่นั้นมันไม่ดี เพียงแต่ผมขอแค่เพิ่มเติมข้อมูลอีกหน่อย ตรงที่เอาค่าการใช้งานทั้งหมดที่เกิดจากการยืมรถ
ในครั้งนั้นมาแปะไว้ด้วย เท่านั้นเอง ซึ่งทางทีมงานก็ไม่ต้องจัดการทดสอบเพิ่ม เพียงแค่ set trip meter และ จดค่า
จำนวนลิตรของน้ำมันที่เติมก่อนคืนรถเท่านั้นเอง ซึ่งก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่เหนือบ่ากว่าแรงไม่ใช่หรือสำหรับทีมงาน
และสำหรับคนอ่านอย่างเราล่ะ ถ้ามีข้อมูลเสริมประกอบการพิจารณาเพิ่มขึ้น มันก็ไม่ใช่เรื่องดีหรอกหรึอครับ
ุ้
ผมมองว่าถ้าทีมงานจะกรุณาเพิ่มข้อมูลตรงนี้ให้จริง และท่านผู้อ่านที่ไม่ชอบใจข้อมูลตรงนี้ก็เลือกที่จะมองข้าม
แล้วไปยึดถึงข้อมูลเฉพาะในส่วนที่ทดสอบแบบวิ่งนิ่ง ๆ 110 ก็ได้นี่ครับ ไม่เห็นจะเสียหายอะไร
อ้อ! ยังมีประเด็น PHEV อีกนะครับ ที่การใช้งานจริง เจ้าของรถจะต้องจ่ายทั้งค่าไฟและค่าน้ำมัน
แต่ในตารางการทดสอบคิดระยะทางทั้งหมดหารด้วยน้ำมัน แต่ไม่ได้เอาไฟฟ้ามาคิดด้วย นี่ก็เป็นอีกประเด็น
ที่น่าจะขบคิดกันต่อครับ
-
สมรรถนะผมเฉยๆน่ะ ไม่ได้แย่ ไม่ได้ดีเด่น ค่อนข้างกลางๆ
แต่...... HONDA TH เปลี่ยน supplier กล้องมองหลัง/รอบคันเถอะครับทั้ง HRV,CRV, Accord G10 คุณภาพ 240p แย่กว่า Accord G8 ซะอีก
ไม่เกี่ยวกับ supplier หรอกครับ จะเอาชัดแค่ไหนเขาทำได้หมดแหละ
ฮอนด้าไทยไปลดสเปค เลยไปสั่งจอสั่งกล้องกากๆมาใส่เอง
เรื่องกล้องแย่นี่ขนาดพอช ยังเป็นเลย ::)
-
ผมว่าทาง Headlightmag ก็ทำการทดสอบได้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ละครับ
เกณฑ์นี้ผม ok นะ วิ่งทดสอบกลางคืน รถไม่ติด ทางยาวๆ ครับ
-
ทางเว็ปก็เทสแบบนี้มาตั้งนานแล้วทำไมมามีประเด็นกระทู้นี้ 5555
-
ผมว่าการทดสอบ มีมาตรฐานก็ดีแล้วครับ ดูไว้ใช้อ้างอิงกับค่าๆหนึ่ง
ดีกว่าใช้ผลทดสอบมั่วๆแล้วบอกใช้วิจารณญาณกันเอาเอง
ซึ่งผลทดสอบแบบอื่นไปหาดูตามคลับตามกลุ่มในfbได้ง่ายๆเลย
อยากให้เค้าทำ แต่เค้าไม่ทำให้ก็ไม่แปลก เป็นผม ผมก็ไม่ทำหรอก
ทำแล้วไม่มีมาตรฐาน เสียเครดิตเปล่าๆ
-
ผมว่าการทดสอบ มีมาตรฐานก็ดีแล้วครับ ดูไว้ใช้อ้างอิงกับค่าๆหนึ่ง
ดีกว่าใช้ผลทดสอบมั่วๆแล้วบอกใช้วิจารณญาณกันเอาเอง
ซึ่งผลทดสอบแบบอื่นไปหาดูตามคลับตามกลุ่มในfbได้ง่ายๆเลย
อยากให้เค้าทำ แต่เค้าไม่ทำให้ก็ไม่แปลก เป็นผม ผมก็ไม่ทำหรอก
ทำแล้วไม่มีมาตรฐาน เสียเครดิตเปล่าๆ
เห็นด้วยครับ
ขนาดโรงงานผู้ผลิต เขาก็ทำค่ามาตรฐานกลางมา
-
ผมไม่ได้สางกค่ายไหนนะครับ
แต่การทดสอบไม่ว่าจะสาขาไหนต้องมีการควบคุมตัวแปรอยู่แล้วเพื่อสร้างมาตรฐาน และคุมทรัพยากรที่ใช้ แล้วการเอารถไปติดในเมืองนอกจากควบคุมปัจจัยยากแล้ว หรือ การขับรถระยะทางไกลๆเพื่อหาค่าเฉลี่ยก็กินทรัพยากรทีมงานมากนะครับ เว็บนี้มีคณะทำงานกี่คน จะรับไหวหรอครับ
-
เหมือน e:hev ของ honda จะใช้เครื่องยนต์เป็นหลักตอนวิ่งความเร็วสูงๆ
อย่าง hrv ทำได้ 18.36 km/L แต่เห็นในกลุ่มใช้งานจริงก็มี 20 ขึ้นเยอะอยุ่นะครับ
เดาว่าถ้าใช้งานทั่วไป ไม่ได้วิ่งด้วยความเร็วยาวๆ น่าจะอยุ่ที่ 17-18 km/L
มันคือ mislead ของการนำผลทดสอบของ HLM มาเปรียบเทียบบนตารางไงครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเปรียบเทียบระหว่างเครื่องยนต์ต่างรูปแบบ
เพราะการวิ่งบนสภาพจราจรจริงในชีวิตประจำวัน
ICE จะกินมากกว่าที่ HLM test อยู่พอควร
แต่ HEV จะประหยัดกว่าที่ HLM test
เรียกว่าอัตราสิ้นเปลืองจริง จะวิ่งออกจากผลเทส
ไปกันคนละทางครับ
เหตุผลง่ายๆ คือ ในการใช้งานบนสภาพจราจรจริง
การชะลอ การเบรค การลดความเร็ว สำหรับรถ ICE
คือการทิ้งระยะทางที่ควรจะวิ่งได้ไปเปล่าๆ
แต่กับรถ HEV มันจะเกล็บพลังงานจลน์กลับมาใช้ใหม่ครับ
เห็นด้วยครับ
เอากติกาเดียวกันมาทดสอบกับรถทุกรุ่น ไม่ใช่ว่าผิด
แต่กติกานี้มันใช้มานานตั้งแต่รถส่วนใหญ่หรือประมาณร้อยละ 9x% เป็นรถสันดาปล้วน
มันเลยไม่เอื้ออำนวยต่อรถใหม่ๆที่เกิดมาเท่าไหร่
เอาง่ายๆ civic 1.5 turbo กับ ehev ตัวเลขทดสอบก็ต่างกันไม่มาก
แต่ดูชีวิตจริงโดยเฉพาะในเมือง 1.5 มีเลขตัวเดียว 8~9 บ่อยๆ แต่ ehev มีเกือบๆ 20 ประจำ
แล้วแต่ท่านผู้เจริญจะพิจารณาครับ
จะเทสในเมื่อง ด้วยเงื่อนไขเดียวกัน มันทำได้หรอครับ
ตัวแปรควบคุมไม่ได้มันเยอะ ไฟแดง จำนวนรถ ฯลฯ
พี่จิมมี่ก็เคยพูดแล้วมันทำได้ไม่เที่ยงตรงนะครับ
ถ้าเป็นผม ผมจะมองว่าการทดสอบ HLM คือการทดสอบวิ่งทางไกล
ให้พิจารณาที่เงื่อนไขทางไกล
แค่บอกว่ากติกามันไม่เอื้อครับ
กติกาไม่เอื้อกับอะไรครับ ไม่เอื้อกับฮอนด้าหรอ ??
เพราะจากตารางผลการทดสอบทุกคันทดสอบกติกาเดียวกันหมดแต่ผลที่ออกมาคือ ทำได้แย่กว่า x-trail และ outlander ซึ่งก็วิ่งด้วยความเร็วและเส้นทางเดียวกันทั้งหมด ชนิดน้ำมัน และปั๊มน้ำมันเดียวกัน โดยเฉพาะ X-trail ที่เป็นรถไฮบริจเหมือนกัน
กติกาไหนถึงยุติธรรมกับฮอนด้าล่ะ
ใช่ครับ ทำไงได้ทำรถมักง่ายเองเล่นยัดฟิกซ์เกียร์เข้าไปมันจะประหยัดได้ไง รถไฮบริเค่ายอื่นเค้ายังมีหลายอัตราทดช่วยวิ่ง สมน้ำหน้าที่มันไม่ประหยัดแล้วแหละครับ ส่วนพวกติ่ง สาวกทำเป็นรับไม่ได้ดิ้นพล่านโวยวายกันจัง แพ้กระทั่ง xtrail หรือ CX5 เสียอีก
-
เรื่องประอัตราสิ้นเปลือง อยากจะยกตัวอย่างนึง
Cx5 เครื่อง 2.5 เบนซิน กับ 2.2 ดีเซล
ในตาราง อัตราสิ้นเปลืองต่างกันนิดเดียวไม่เยอะ
แต่ถ้าใช้ในเมือง ดีเซลยังไปได้ 11-12 ถ้าไม่ติดเว่อร์จริงๆ
เบนซิน 8 ก็ดีแล้วครับ เหมือนๆกับ xtrail 2.5 ล่ะ ในเมืองซดหยั่งกับถังรั่วทีเดียว
ส่วนไฮบริดก็ตามนั้นครับนอกเมืองไม่ใช่ทาง เอาไว้วิ่งในเมืองรถติดล้วนๆ
การทดสอบ HLM ก็เน้นนอกเมืองเพราะควบคุมตัวแปรได้ง่ายกว่า
เอาจริงผมอยากจะเสนอทีมงานนะ หาพื้นที่โล่งๆ วิ่งวนเป็นวงกลมสลับหยุดนิ่ง เร่งบ้าง เบรคบ้าง แต่เปลืองเวลามหาศาลเลย
ที่ผิดหวังจริงๆ นี่คือโมเดลใหม่ แต่ผลงานกลับเอาชนะ โมเดลเก่าๆไม่ได้ในหลายด้าน
เป็นผมเอาตัว CRV CVT พอครับ ก็เพราะไไฮบริดเจ้านี้มันฟิกซ์เกียร์ต่างจากโตโยต้าหรือค่ายอื่นที่ยัดมาหลายเกียร์ครับ
ทางเว็ปก็เทสแบบนี้มาตั้งนานแล้วทำไมมามีประเด็นกระทู้นี้ 5555
นั่นแหละครับ ใครไปขัดใจสาวกคือผิดมหันต์ครับ
-
ถ้าดูจาก Eco Sticker ก็จะไม่แปลกใจหรอกครับ มันก็ได้เท่านี้แหละ จะหวังให้ได้เท่า accord กับรถที่น้ำหนักเปล่า 17xx ทรงก็ต้านลม + AWD อีก ได้เท่านี้ก็ดีถมถืดละครับ
Hybrid ของ Honda มันประหยัดจริงถ้าในเมืองเป็นหลักครับ ประหยัดกว่า Toyota ด้วย เพราะแบตใหญ่กว่า แต่นอกเมืองที่ความเร็วเดินทาง เครื่องทำงานเป็นหลัก มันก็คืออัตราสิ้นเปลืองของเครื่อว 2.0 ที่ดีกว่าเดิมหน่อยเพราะเป็นแบบ atkinson
แต่ Toyota จะความเร็วไหนมันก็เป็น Hybrid Synergy Drive หมด ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองแบบ combine กับ extra urban ถึงแพ้ Toyota
จากที่ดูอัตราทดเกียร์ e-cvtของโตโยต้ามันไ่ม่ใช่ฟิกซ์เกียร์แบบฮอนด้านะครับ เค้ายังยัดเกียร์ planetary ใส่ไว้ให้ด้วยไม่แปลกที่มาอัตราสิ้นเปลืองดีกว่าครับ
-
2 ดีเซลจ่ายกับข้าวที่บ้านสวนได้สบาย ggezy ::)
-
จากผลการทดสอบ เราสามารถสรุปได้ใช่มั้ยครับ
ถ้าวิ่งทางไกล วิ่งเร็วๆ ไปใช้ hybrid ของโตโยต้าดีกว่าสินะครับ
-
คนอยากได้รถ AWD คงรับได้กับอัตราการกินน้ำมัน ประมาณนี้นะครับ ถ้าไม่งั้นก็ไป ขับ2 ดีกว่า
รถ ไฮบริด + AWD เข้าใจว่าน้ำหนักคงมากกว่าปกติแน่ๆ รุ่นนี้ถ้าจำไม่ผิด ก็ 18xx ก.ก. แล้ว
-
เหมือน e:hev ของ honda จะใช้เครื่องยนต์เป็นหลักตอนวิ่งความเร็วสูงๆ
อย่าง hrv ทำได้ 18.36 km/L แต่เห็นในกลุ่มใช้งานจริงก็มี 20 ขึ้นเยอะอยุ่นะครับ
เดาว่าถ้าใช้งานทั่วไป ไม่ได้วิ่งด้วยความเร็วยาวๆ น่าจะอยุ่ที่ 17-18 km/L
มันคือ mislead ของการนำผลทดสอบของ HLM มาเปรียบเทียบบนตารางไงครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเปรียบเทียบระหว่างเครื่องยนต์ต่างรูปแบบ
เพราะการวิ่งบนสภาพจราจรจริงในชีวิตประจำวัน
ICE จะกินมากกว่าที่ HLM test อยู่พอควร
แต่ HEV จะประหยัดกว่าที่ HLM test
เรียกว่าอัตราสิ้นเปลืองจริง จะวิ่งออกจากผลเทส
ไปกันคนละทางครับ
เหตุผลง่ายๆ คือ ในการใช้งานบนสภาพจราจรจริง
การชะลอ การเบรค การลดความเร็ว สำหรับรถ ICE
คือการทิ้งระยะทางที่ควรจะวิ่งได้ไปเปล่าๆ
แต่กับรถ HEV มันจะเกล็บพลังงานจลน์กลับมาใช้ใหม่ครับ
สำหรับพวก HEV ผมเห็นด้วย 100% เลยครับ แล้วแต่รุ่นเลยว่าระบบ hybrid ทำงานยังไง ผลเลยค่อนข้างจะเพี้ยน
แต่พวก ICE ผมว่ามันก็ยังคงเป็นวิธีที่ดีอยู่นะครับ สำหรับทดสอบวิ่งระยะไกลๆ ความเร็วนิ่งๆ ว่ากินเท่าไหร่ แล้วเราก็มาหักลบออกจากการใช้งานจริงซัก 3-4 km/L ขึ้นอยู่กับเท้าหนักไม่หนักกับสภาพการจราจร
-
ไม่ impressed ครับ
แต่นั่นล่ะ รุ่นนี้ไม่ใช่ Impreza แต่ก็ถือว่าไม่เลว
-
แสดงให้เห็นจุดอ่อนของ powertrain นี้ ซึ่งตรงกับรีวิวฝั่งอเมริกา คือเรื่องอัตราทดจากเครื่อง fixed ทำให้ขับความเร็วเดินทางแล้วรอบสูง กินน้ำมัน
-
แสดงให้เห็นจุดอ่อนของ powertrain นี้ ซึ่งตรงกับรีวิวฝั่งอเมริกา คือเรื่องอัตราทดจากเครื่อง fixed ทำให้ขับความเร็วเดินทางแล้วรอบสูง กินน้ำมัน
นั่นแหละครับทำไมจะขี้เหนียวเรื่องระบบเกียร์กันด้วยนะค่ายนี้
-
เครื่องดีๆใน civic accord พอมาอยู่ใน crv แย่หมด
Xtrail กับ cx5 กลับไม่หนีเก๋งในค่ายตัวเองเท่าไหร่
-
เอาอย่างนี้ครับ ผมยกตัวอย่างแบบสมมติตัวเลขละกัน
ผลทดสอบแบบ HLM
รถ A : 18.5 km/l (HEV ยี่ห้อใดก็ได้)
รถ B : 17.5 km/l (ICE ยี่ห้อใดก็ได้)
เทียบแบบนี้ มันพอ ๆ กัน จะใช้ HEV ไปทำไมใช่มั้ยล่ะครับ
แต่สิ่งที่ผมเสนอคือ
รถ A : 18.5 km/l จากวิธีมาตรฐาน HLM แต่เพิ่มเติม ยืมมาทดสอบและวิ่งใช้งานรวม 700 km เติมน้ำมันกลับ 31L = 22.58 km/l
รถ B : 17.5 km/l จากวิธีมาตรฐาน HLM แต่เพิ่มเติม ยืมมาทดสอบและวิ่งใช้งานรวม 500 km เติมน้ำมันกลับ 36L = 13.88 km/l
* Remark *
อัตราสิ้นเปลืองอ้างอิงจากการเติมน้ำมันกลับตอนคืนรถ ไม่สามารถเทียบระหว่างรถ A กับรถ B ได้โดยตรง
เนื่องจากสภาวะการจราจรและลักษณะการใช้งานที่ต่างกรรมต่างวาระ
แต่ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองทั้ง 2 แบบ สามารถเทียบให้เห็นว่า
กรณีรถ A การใช้งานในสภาวะชีวิตประจำวันมีแนวโน้มที่จะประหยัดมากกว่าการวิ่งด้วยความเร็วคงที่ 110 km/hr.
รถณีรถ B การใช้งานในสภาวะชีวิตประจำวันมีแนวโน้มที่จะประหยัดน้อยกว่าการวิ่งด้วยความเร็วคงที่ 110 km/hr.
ที่ผมคิดถึงเรื่องนี้ เพราะก่อนที่ผมจะใช้รถ HEV ก็เทียบตรง ๆ ตามตารางผลทดสอบนี่แหละ
และพบว่า HEV ไม่เห็นจะช่วยประหยัดได้เท่าไหร่เลย แต่ก็แปลกใจกับต่างประเทศที่นิยมใช้รถ HEV กัน
และต่างพูดว่ามันประหยัดกว่ากันมาก
และเมื่อได้ลองใช้จริงจึงพบว่า อัตราสิ้นเปลืองมันต่างไปจากที่เคยดูจากตารางเพียงอย่างเดียวโดยที่รับรู้มาโดยตลอดว่า
ผลการทดสอบแบบวิ่งนิ่ง ๆ 110 จะให้อัตราสิ้นเปลืองที่ดีที่สุด และเมื่อใช้จริงจะไม่สามารถประหยัดได้เท่านั้น
ทำใจไว้ว่ามันจะกินมากกว่าการทดสอบแบบ HLM แน่นอน ซึ่งผมก็เลยถูก mislead จากการเชื่อ ศรัทธา ผลทดสอบ
แบบนี้มาก่อนไงครับ
และแน่นอนว่า เมื่อมาถึงปัจจุบัน เริ่มพบว่า การเทียบอะไรตรง ๆ แบบที่เคยทำกันมา วิธีการมันเริ่มจะไม่พอสำหรับ
กลุ่มรถ HEV และ BEV จึงเริ่มคิด วิเคราะห์ว่า เพราะอะไรมันจึงเป็นเช่นนั้น ต่างจากสิ่งที่เราเคยเชื่อกันมาโดยตลอด
ซึ่งผมคิดว่า สิ่งที่ต่างกันก็คือทั้ง HEV และ BEV ต่างก็มีระบบ regenerative ที่ดึงเอาพลังงานที่เสียไปกลับคืนมา
โดยที่ ICE มันไม่มีระบบนี้ ดังนั้น การ Test ICE ที่จะได้ค่าอัตราสิ้นเปลืองที่ดีที่สุดคือ วิ่งยังไงให้มีการสูญเสีย
ระยะทางวิ่งไปกับการชะลอ การเบรค ให้น้อยที่สุด นั่นคือการวิ่งด้วยความเร็วนิ่ง ๆ เป็นระยะทางยาว ๆ ที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ววิธีการทดสอบใดจะดีที่สุด บอกตรง ๆ ว่า ผมก็ยังไม่ทราบ และผมเองก็ไม่ได้ว่าการทดสอบแบบ
ที่ HLM ทำอยู่นั้นมันไม่ดี เพียงแต่ผมขอแค่เพิ่มเติมข้อมูลอีกหน่อย ตรงที่เอาค่าการใช้งานทั้งหมดที่เกิดจากการยืมรถ
ในครั้งนั้นมาแปะไว้ด้วย เท่านั้นเอง ซึ่งทางทีมงานก็ไม่ต้องจัดการทดสอบเพิ่ม เพียงแค่ set trip meter และ จดค่า
จำนวนลิตรของน้ำมันที่เติมก่อนคืนรถเท่านั้นเอง ซึ่งก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่เหนือบ่ากว่าแรงไม่ใช่หรือสำหรับทีมงาน
และสำหรับคนอ่านอย่างเราล่ะ ถ้ามีข้อมูลเสริมประกอบการพิจารณาเพิ่มขึ้น มันก็ไม่ใช่เรื่องดีหรอกหรึอครับ
ุ้
ผมมองว่าถ้าทีมงานจะกรุณาเพิ่มข้อมูลตรงนี้ให้จริง และท่านผู้อ่านที่ไม่ชอบใจข้อมูลตรงนี้ก็เลือกที่จะมองข้าม
แล้วไปยึดถึงข้อมูลเฉพาะในส่วนที่ทดสอบแบบวิ่งนิ่ง ๆ 110 ก็ได้นี่ครับ ไม่เห็นจะเสียหายอะไร
อ้อ! ยังมีประเด็น PHEV อีกนะครับ ที่การใช้งานจริง เจ้าของรถจะต้องจ่ายทั้งค่าไฟและค่าน้ำมัน
แต่ในตารางการทดสอบคิดระยะทางทั้งหมดหารด้วยน้ำมัน แต่ไม่ได้เอาไฟฟ้ามาคิดด้วย นี่ก็เป็นอีกประเด็น
ที่น่าจะขบคิดกันต่อครับ
ตรงนี้ผมว่าคุณเข้าใจผิดเองนะครับ
คือวิ่ง 110 มันไม่ใช่ความเร็วที่รถจะประหยัดที่สุด แต่มันคือความเร็วที่คนทั่วๆไปขับเวลาเดินทางไกล
แล้วเว็ปนี้ก็ไม่ได้ทดสอบว่ารถแต่ละรุ่นมันจะประหยัดสุดได้กี่ km/l แต่เขาทดสอบว่า ณ ความเร็ว 110 km/h ซึ่งเป็นความเร็วใช้เดินทาง รถมีอัตราสิ้นเปลืองเท่าไหร่
ถึงรถมันอาจจะทำอัตราสิ้นเปลืองได้ดีกว่านี้ที่ความเร็วอื่นๆ แต่มันก็ไม่ใช่ความเร็ว 110 ที่เป็นมาตรฐานทดสอบ
และถ้าจะให้จดเลข trip meter ตั้งแต่ยืมรถมา แล้วเติมน้ำมันกลับตอนคืนรถเพื่อหาอัตราสิ้นเปลือง
มันก็ไม่ได้สะท้อนถึงอัตราสิ้นเปลืองที่แท้จริงอยู่ดีครับ เพราะต้องทำพวกอัตราเร่ง ทำ top speed มีกดคันเร่งมิดบ่อยๆ
ถ้ารถคันไหนขับมันส์หน่อยก็อาจจะกดบ่อยๆเป็นว่าเล่นตลอดการทดสอบ ถ้าคันไหนช่วงล่างห่วยๆก็อาจจะไม่กล้าขับเร็ว แค่นี้ก็ error กระจายแล้วครับ
ไหนจะต้องจอดถ่ายรูป ถ่ายคลิปรีวิว แต่ละคันใช้เวลาถ่ายทำไม่เท่ากันอีก
ตอนคืนรถเผลอๆอาจได้เห็นอัตราสิ้นเปลือง 10 km/l ในรถน้ำมันเพียวๆ หรือ 9 km/l ในรถไฮบริด กลายเป็นว่า misleading หนักกว่าเดิมอีกครับ
-
รอดูอัตราสิ้นเปลือง เครื่อง turbo
ถ้าพอๆกันก็มีลังเล เพราะรอรถนานมาก ehev rs
ยอมรับว่าจอง ehev ไปเพราะเรื่องประหยัดน้ำมัย สำหรับ AWD ด้วยส่วนนึง แต่ผลลัพธ์ก็เห็นได้ว่าไม่ประหยัดมากอย่างที่คิด
ถ้าเทียบกับ accord ehev พี่จิมทำไว้ ที่ 18.7 km/l ใช้จริงก็ราวๆ นั้น มีแต่ 20-23 บ้างแล้วแต่การจราจร (เท่าที่สังเกตุ ehev วิ่งๆ สลับจอด จะประหยัด ถ้าวิ่งยาวๆ ไม่)
แต่ด้วยความ AWD จะเอามาแต่วิ่งในเมืองก็กระไรอยู่
ถ้าเทียบการใช้งาน เน้น ออก ตจว ใช้เครื่องอะไรก็ได้ ice หรือ hybrid