Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: solo ที่ พฤษภาคม 15, 2023, 05:46:41
-
https://www.youtube.com/shorts/eWnWIj6wf78
-
ขอแค่เรื่องเดียวก็พอครับ ซื้อรถได้ต้องมีที่จอด"ใน"บ้าน
-
https://onemotoring.lta.gov.sg/content/onemotoring/home/owning/ongoing-car-costs/parking.html
-
ขอแค่เรื่องเดียวก็พอครับ ซื้อรถได้ต้องมีที่จอด"ใน"บ้าน
+1 ครับ
-
ขอแค่เรื่องเดียวก็พอครับ ซื้อรถได้ต้องมีที่จอด"ใน"บ้าน
ถ้ามีกฎหมายนี้. ขอให้ครอบคุม ต.จ.ว. ด้วยครับลำไยพวกมาจอดสะเปะสะปะครับ.
-
แค่ลากรถจอดข้างถนนทุกคืน เอาไปเก็บแล้วปรับ
แค่นั้นก็มีผลแล้วครับ
-
ควรทำ แต่ใครจะกล้าทำให้เกิดขึ้นได้จริงต่างหาก
แค่ต้องงัดกับบริษัทรถทั้งหลายก่อนเลย ยังไม่ต้องพูดถึงงัดกับ ปชช นะ
คิดเล่นๆว่า เอ้าทำจริงเลย ขับจริง ยกเลิกทะเบียนคนที่ไม่เข้าเกณฑ์เลย การจัดการจะทำไง ใช้กรอบเวลากี่ปี
เอาแค่รถเกิน 10 ปี จะไม่ให้วิ่ง คิดกันมานานก้อไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง ไปเข้มการตรวจสภาพอยู่พักนึงตอนนี้ก้อเหมือนเดิม
คนอยู่บ้านเช่าในซอยบ้าน มีรถกันแทบทุกคนก้อมาจอดแปะตามรั้วบ้านคนในซอย วันดีคืนดีเมา จอดขวาวหน้าบ้านคนอื่น ทะเลาะมีเรื่องกัน บลาๆๆๆ
สรุปคือควรทำนั่นแหละแต่ไม่มีทางทำได้ครับ
-
ถามตัวเองก่อนว่า ถ้าเค้าทำแบบสิงค์โปร แล้วเรารับได้ไหมครับ
อีกประเด็นเมืองไทย กับสิงค์โปร มันเทียบกันไม่ได้เลย ประเทศเค้าไม่ได้มีจังหวัดย่อยๆแบบเรา
คุมในกรุงเทพฯ แต่คนไปซื้อรถต่างจังหวัด แล้วขับมาใช้ในกรุงเทพฯล่ะ ทุกวันนี้ก็คน ปทุมฯ คนนนท์ฯ ทั้งนั้นขับรถเข้าเมืองมา สิงค์โปรเค้าเมืองเดียว ไม่มีจังหวัดย่อยๆแบบเรา
เปรียบเทียบต่างประเทศ ต้องดูบริบทบ้านเราด้วย ว่ามันทำได้ไหม
-
สิงคโปร์ + ญป มันเข้มเรื่องมีรถเหตุผลหลักๆคือเรื่องพื้นที่ บ้านเราจะไปมีกฎแบบนี้คือยากมาก
ต้องเข้าใจโปรเสสกฎระเบียบอย่างนึงคือ
- งัดในสภาว่าจะออกกฎระเบียบนี้ = สู้สิบทิศแน่นอน
- มีเจ้าหน้าที่มากพอที่จะทำหน้าที่ตามกฎระเบียบนี้ = เพิ่มงบประมาณเพื่อจ้างตำรวจจราจร/Outsource ในการจัดการเพิ่ม
ไม่ว่าทางไหนก็ยากครับที่จะเกิดขึ้น
และต่อให้ผ่านเรื่องคุมกำเนิดรถยนต์ได้ มันก็จะไหลไปที่มอไซต่อ เหมือนคุณแก้ปัญหานึงเพื่อให้เกิดอีกปัญหานึง (เวียดนามก็เป็นคำตอบแล้วหนิ แต่อันนั้นมันด้วยสาเหตุทางเศรษฐกิจ)
ไปแก้ปัญหาขนส่งสาธารณะให้จบก่อน รถมันจะทะยอยลดลงเอง
-
ทำได้ก็ดีแต่คงยาก ปัจจุบันเอาแค่มอเตอร์ไซค์ไม่มีป้ายทะเบียนวิ่งกันเกร่อยังไม่เห็นมีอะไร
-
กรุงเทพเป็นสลัมขนาดยักษ์ ไม่ต่างจากมุมไบ จากาตาร์
ปัญหาคือรถมากกว่าถนน และมากกว่าที่จอด
อยากให้ออกกฏหมายแบบ ไม่มีที่จอดรถ ไม่ให้ซื้อรถดีกว่าการคุมกำเนิดครับ
เด๋วธุรกิจเช่าที่จอดรถก็จะเกิดขึ้นมารองรับเองแหละครับ
-
In Singapore, you'll need to have a COE, or Certificate of Entitlement before hitting the road in your new car or motorbike. The COE entitles you to the right to register, own and use a vehicle in Singapore for the duration of 10 years. Before you buy a car or motorbike, you'll need to obtain a COE first
-
ขอแค่เรื่องเดียวก็พอครับ ซื้อรถได้ต้องมีที่จอด"ใน"บ้าน
ถ้าเป็นแบบนี้ก็ต้องบังคับให้ทุกคอนโดมีที่จอด 100% ด้วยครับ
-
ขอแค่เรื่องเดียวก็พอครับ ซื้อรถได้ต้องมีที่จอด"ใน"บ้าน
ถ้าเป็นแบบนี้ก็ต้องบังคับให้ทุกคอนโดมีที่จอด 100% ด้วยครับ
ไม่ต้องบังคับหรอกครับ
ถ้าคอนโด 100 ห้อง จะมีที่จอดรถแค่ 30 ช่องจอด
ต่อไปก็จะเป็น ซื้อคอนโดก็จะได้แค่ห้อง ส่วนที่จอดรถก็ต้องซื้อต่างหาก
หรือไม่ก็ต้องเช่าแบบที่ fix ตำแหน่ง และมีให้เช่าได้แค่ 30 ช่องเท่านั้น
-
ทำได้ครับ
แต่อยากให้ทำ พวกระบบขนส่งมวลชน ให้แจ่มๆก่อน
ให้คนรู้สึกว่าไม่มีรถ ก็เดินทางไปที่ไหนก็ได้ ในราคาไม่แพง รวดเร็ว ปลอดภัย
ในกทม ยังพอมีระบบพวกนี้ แต่ ตจว คุมกำเนิดยากครับ
-
ขอแค่เรื่องเดียวก็พอครับ ซื้อรถได้ต้องมีที่จอด"ใน"บ้าน
ถ้ามีนโยบายมาคนด่ากันเยอะแน่ครับ ทุกวันนี้จอดที่สาธารณะตามในซอยกันเต็มเลย ในหมู่บ้านผมเป็นทาวน์โฮมเล็กๆ พื้นขนาด 21 ตรว. ประชุมนิติแต่ละที ทะเลาะกันเรื่องที่จอดรถทุกที ขนาดเขาอนุโลมให้จอดหน้าบ้านได้ 1 คัน ก็ยังมีคนเอารถมาจอดพื้นที่ส่วนกลางอีก
ปล.บ้านผมเอารถจอดในบ้านตลอด
-
ควรทำครับ แต่ก่อนทำต้องจัดการเรื่องขนส่งสาธารณะดีพอจะดึงคนที่ใช้รถส่วนตัว มาให้รถสาธารณะก่อน ซึ่งตรงนี้น่าจะยากมากๆ
เอาแค่ในกรุงเทพ ซอยตันที่ลึกๆเยอะมาก แค่ออกจากบ้านไปปากซอยก็ยากแล้วแล้วจากปากซอยไปรถไฟฟ้า หรือป้ายรถเมล์ใหญ่ๆ ก็ลำบากอีก
แถมค่าโดยสารก็ไม่ได้ถูกกลายเป็นว่ามีรถ ค่าใช้จ่ายสูงกว่า แต่คุมเวลาได้ดีกว่า รถไฟฟ้าเองก็ลูกผีลูกคน เสียอยู๋เรื่อยๆ คนแน่น rush hour บางครั้งคืนขึ้นไม่ได้
หลังจากจัดการเรื่องระบบขนส่งได้ก็มาเข้มงวดกับที่จอดรถมากขึ้น ตรงไหนจอดได้ จอดไม่ได้ มีเจ้าถิ่นคุมไหม
ถนนสาธารณะหน้าบ้าน เป็นที่สาธารณะ ถ้าไม่กีดขวางเข้าออก ใครก็มาจอดได้ ห้ามวางของจอดที่จอด
ถ้าไม่ได้ทำที่จอดในรั้วบ้าน ก็ต้องแย่งชิงที่จอดหน้าบ้านตัวเองกับคนอื่นๆเช่นกัน
สุดท้ายค่อยมาเพิ่มข้อกำหนดในการจดทะเบียนรถใน กทม ว่าต้องมีเอกสารแสดงที่จอดรถ
-
ทำระบบขนส่งมวลชนให้ดี และ ถูก ครอบคลุม จำนวนรถ มันจะลดลงเอง และใช้กฎหมายจำพวก Congestion Zone เข้าเขตนี้เสียเงิน แบบในลอนดอน ผมว่าช่วยได้มากนะ
-
ในฐานะที่อยู่คอนโดที่จอดรถ 50%
ลำบากครับ เราทำไม่ได้แน่ๆ มันจะเกิดปัญหาพ่วงมาอย่างมากเลยเพราะโครงสร้างไม่รับแต่แรก
แนะนำการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนสุดคือรถสาธารณะครับ
เอาจริงพื้นฐานการวางสายรถเมล์ส่วนตัวผมว่าค่อนข้างดีประมาณนึงแล้วนะ
ขาดแค่รถที่ให้บริการ สภาพรถ ระยะเวลาความถี่รองรับจำนวนผู้โดยสาร การพัฒนาสายวิ่ง และราคาครับ
-
น่าจะทำมาก ให้รถแต่ละคัน ที่ซื้อต้องมีที่จอด แต่ เราขยับตัวช้าไปแล้ว
หากจะมาประกาศตูม มันคงเป็นได้ยาก
เรื่องง่ายๆ กระบะห้ามนั่งหลัง ยังแทบไม่รอด
-
เห็นด้วยกับการออกกฎหมาย ก่อนจะซื้อรถ ต้องมีที่จอดในบ้านครับ
แต่...การคุมกำเนิดรถยนต์ ผมว่าควรเริ่มต้นที่การออกกฎหมายควบคุมไฟแนนซ์ก่อน บังคับให้
-ดาวน์ขั้นต่ำ 25% (ห้ามซับดาวน์)
-ผ่อนได้ไม่เกิน 60 งวด (ห้ามบอลลูน)
ปล.แต่โดนด่าเละแน่ๆ รังแกคนจนอะไรประมาณนี้
-
ควร แต่ไม่ต้องเข้มขนาดสิงคโปร์ก็ได้ครับ เอาแค่จะซื้อต้องมีที่จอดที่เป็นเรื่องเป็นราว สถานะทางการเงินของผู้ซื้อต้องมั่นคงในระดับนึงแบบฟรีดาวน์ผ่อนยาวควรยกเลิก
-
ทำไม่ได้หรอกครับ มองทั้ง 2 ด้าน
1. สภาพประเทศไทย 2. กฎหมายที่อ่อนเหลือเกิน
สิงคโปรเค้าเป็นประเทศพัฒนาแล้ว และเล็ก ระบบขนส่งมวลชนเค้าทั่วถึงทุกที่จริงๆ และพื้นที่ค่อนข้างแพง ต่อให้ไม่คุมกำเนิดรถคนก็ไม่ได้ถวิลหาจะซื้อครับ
ส่วนไทยเป็นประเทศแทบจะหยุดพัฒนา ต้องรอดูรัฐบาลใหม่จะปั้นได้ไกลขนาดไหนซึ่งผมว่าต่อให้ดีมากๆๆๆ 4 ปีก็ทำไม่สำเร็จหรอกครับ วางโครงข่ายแบบนี้ต้องใช้เวลา 5+ ปี ขนาดคอนโดในเมืองที่เคลมกันว่าสุขุมวิท จะเข้าถึงรถไฟฟ้า ยังกระอักเลือดเลยครับต่อมอไซเดินลุยน้ำ ฝ่าปฐพีฟุตบาทถล่มแผงลอย บลาๆๆ
และเพราะรถเมล์บ้านเรา Y2K สุดๆ ตอนผมเกิดมาก็สภาพนี้ ไม่มีเลนส์ ระบบใดๆเอื้อให้ขนส่งมวลชนมีคุณภาพเลย รถ metro ทุกวันนี้ที่มีก็ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน จะบีบให้คนมาขึ้นรถเมล์ที่ร้อน ไม่ตรงเวลา ไม่มีที่นั่งก็คือหนทางเดียวของคนชนชั้นกลาง - ล่าง
การพัฒนามันต้องไปเป็นระบบอ่ะครับ ต่อให้บังคับใช้ กม. จริงจัง ก็ใช่ว่าจะเร่งให้คนพวกนี้ซื้อรถได้น้อยลง มันจะหลบไปอัดกันที่อื่นมากกว่า และก็เข้าใจเค้าด้วยว่าถ้าไม่มีรถเค้าจะทำยังไง ในเมื่อระบบขนส่งมวลชนมันเละขนาดนี้ ต่อให้ต้องขายไตแลกมาเค้าก็จะต้องมีรถ eco car มือ 2 ไว้ใช้งานครับ เพราะถูกกว่าการเรียก grab ออกจากบ้านแน่
จะกำเนิดเรื่องคุมกำเนิดรถยนต์ได้ ต้องกระจายอำนาจ เอาความเจริญไปไว้ตามหัวเมืองต่างๆ แล้วทำระบบขนส่งเชื่อมกันให้ได้ก่อนครับ condensed ในเมืองลดลงแล้วจะบังคับใช้ กม.ได้โดยไม่มีคนประท้วง เดี๋ยวจะมีแบบ วลีรังแกคนจนที่คิดจะเอาเปรียบคนอื่นอย่างเดียวอีกครับ จิตสำนึกมันปลูกยาก ต้องใช้ กม.เท่านั้น
ซึ่งปัจจุบันเค้าก็พยายามทำอยู่นะครับ รถไฟสายสีต่างๆเกิดขึ้นมาเต็ม แต่ปัญหาหนักคือผังเมืองเราเป็นตรอกซอกซอยเยอะ ยังไงมันก็ต้องมีรถสาธารณะอีกแบบที่ไว้วิ่งวนรับส่ง small hub มา ที่ traportation hub ครับ ซึ่งตรงนี้ไม่มีใครทำ และทำยากมากแน่ๆ ที่ในซอยส่วนใหญ่เป็นบ้านคนทำป้ายก็ยาก แล้วซอยเยอะขนาดนี้รัฐก็คงรับภาระค่าเดินรถไม่ไหว ก็หวังให้ plan b/vgi ไปจับมือ เอาสื่อไปขายละกัน
ถ้าอายุเกิน 35แล้วคาดหวังว่าจะให้เจริญแบบ สิงคโปร ย้ายประเทศเท่านั้นครับ ไม่ทันใน genration นี้แน่ๆ
-
ผมก็มองว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะพอทำปุ๊บ ก็จะมีคนหงายการ์ด "รังแกคนจน" ขึ้นมาทันที
ที่ทำได้ คือ การเร่งพัฒนาระบบขนส่งให้มันดีขึ้น ให้มันเสร็จเร็วขึ้น พอระบบขนส่งดี คนก็จะใช้รถน้อยลงเอง ตามด้วย การบังคับใช้กฎหมายจราจรต่างๆ ให้เข้มงวดขึ้น ครับ ระบบต่างๆก็จะค่อยๆเข้าที่ เข้าทางเอง ครับ
-
ถ้าทำให้การซื้อรถคันนึง จำเป็นต้องมีที่จอดรถในบ้าน ในคอนโด หรืออะไรก็แล้วแต่สำเร็จ
รูปแบบของที่อยู่อาศัยของประเทศไทยจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ตึกแถวริมถนนจะหายไป จะเป็นตึกแถวที่มีบริเวณทันที คอนโดเกิดใหม่จะมีที่จอดรถมากขึ้น คอนโดเก่า ราคาจะลดลง
บ้านทาวน์เฮ้าส์ หน้าตาก็จะเปลี่ยนไป จากคันเดียวก็จะเป็นสองคัน
ถ้าเปลี่ยนได้ รถก็จะติดน้อยลงบ้าง เพราะสภาพบ้านเรือนที่ดีขึ้นครับ
-
จะซื้อรถ ต้องซื้อ(หรือมี) ที่จอดรถก่อน ผมว่ายาก และ ทำไม่ได้หรอกครับ
เพราะประเทศ(ผมเชื่อแบบนั้น) ปัญหาไม่ใช่ ปัญหาที่จอดรถ
ปัญหาคือ จอดรถไม่เป็นที่เป็นทางมากกว่า โดยส่วนมากไม่ใช่โซนที่อยู่อาศัยด้วย แต่เป็นโซน ตลาด ร้านอาหาร หรือแม้แต่ออฟฟิศ
เอาแค่ ยกเลิกจอดรถข้างทาง ทางถนน ก็มีพื่นที่บนถนนเพิ่มแล้ว เป็นสาเหตุของรถติดด้วย
บางเขตในกรุงเทพฯ จอดรถข้างถนน กันเป็นเรื่องปกติ แทบจะทั้งเขตเลย (แทบจะทุกซอย) แม้กระทั้งริมถนนใหญ่/ถนนหลัก ก็ว่าได้
-
ควรมากๆ
เริ่มจาก
1. เก็บภาษี รถ อายุ มากกว่า 7 ปี 10 ปี หลังจาก สิบปี อัตราภาษีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กำจัดรถเก่า ออกไปจากถนนครับ เป้าหมายคือ รถที่เก่ากว่า 15 ปี ต้องมี ปริมาณที่น้อยมากๆ หรือถ้าจะใช้ก็ต้องมีคชจ ที่สูงมากขึ้นเรื่อๆ
2. จัดเก็บภาษี มลภาวะ โดยเฉพาะเขต พท ชั้นใน พท ที่มี รถติดสูง ปล่อยมลภาวะเยอะ การจะเข้ามาต้องมีการจัดเก็บ คชจ
3. ซื้อรถใหม่ ต้องมีที่จอด เท่านั้น ใบอนุญาออกเป็นปี จำนวนสิท ผูกกับที่อยู่อาศัย
4. สร้างห้าง อาคารพานิช ขนาดใหญ่ ใน พท ชุมชนใดๆ ต้องเสียภาษี มลภาวะให้ท้องถิ่น และมีการจัดการระบบการจราจร ที่ไม่ก่อเกิดผลกระทบ หรือต้องมีแนวทางการแก้ไข
5. เอาภาษีทั้งหมดข้างบนนั้น มาแก้ไข อินฟราการเดินทางของคน ทั้งในเมืองนอกเมือง ระบบขนส่ง และระบบกฎหมาย
6. เเก้ไข การจัดเก็บภาษี ทับซ้อนที่ไม่เป็นธรรม ทั้ง สรรพสามิตร รถ น้ำมัน แวต อากร ให้มันสมเหตผล และร฿ปแบบการใช้งานที่มันถูกต้องไม่ต้องเล่นกล สนับสนุน บาง บ หรือบางพวก จนมันบิดเบือน ราคาไปหมด
-
ควรอย่างยิ่ง และต้องเด็ดขาด
-
ได้ไม่ได้ก็ลองเสนอรัฐบาลใหม่ดูก่อน
-
ไม่ต้องไปไกล ผมขอแค่เรื่อง วิ่งสวนเลน เมื่อไหร่จะจับกันจริงจังซะที
มาบอกว่า เยอะ จับไงก็ไม่หมด .... ก็เพราะไม่จับไงครับ มันเลยไม่หมดซะที จับมันทุกวัน มันก็น้อยไปเอง
-
บ้านเราเป็นโรงงานประกอบรถยนต์แห่งใหญ่สุดในภูมิภาคนี้ เรื่องคุมกำเนิดรถยนต์เป็นไปไม่ได้แน่นอนเวลานี้ ถ้ารอให้อุตสาหกรรมการผลิตรถถอนออกไปก็ไม่แน่
-
คุมกำเนิดคงไม่ได้ครับ คนซื้อก็มีสิทธิ์ซื้อ คนขายก็มีสิทธิ์ขายครับ
- ซื้อต้องมีที่จอด กฏหมายอาคารมันล้าหลังมานานแล้วครับ ไม่แก้หรอกครับ เพราะพวกนักการเมืองก็มาจากกลุ่มอสังหาทั้งนั้นครับ แก้ไปก็เข้าตัวครับ
- บังคับใช้กฏหมาย เป็นไปได้ครับ เช่น จับที่ห้ามจอด หรือพวกทำผิดวินัย การอ้างว่าจับไม่ไหว อันนี้เค้าเรียกไม่ทำงานครับ ถ้าจับตลอดและจริงจัง มันจะลดไปเองครับ เหนื่อยแค่ตอนแรก ซอยบ้านผมเมื่อก่อนเคยหลวมๆ จอดกันริวรั้วกันเพียบ รถสวนไม่ได้ครับ พอจับจริงจังซักพักนึง ไม่มีใครจอดเลยครับ ยกเว้นพวกขาจรครับ
-
ประเทศแห่งการจอดเปิดไฟผ่าหมากซื้อแกง/จอดรับลูก ไม่ต้องแก้กฏหมายอะไรหรอก เอาแค่ตำรวจมันกล้าทำหน้าที่ของตัวเองให้ได้ก่อน จับจริง,ปรับจริง ให้ได้ก่อนเถอะ ทุกวันนี้ฟุตบาทขาวแดง,ห้ามจอดมันกลัวกันที่ไหน บางทีผมยังไม่กลัวเลย 555 ถ้าทำได้ตามที่บอกแค่นี้ก็หายไปเยอะแล้ว
-
In Singapore, you'll need to have a COE, or Certificate of Entitlement before hitting the road in your new car or motorbike. The COE entitles you to the right to register, own and use a vehicle in Singapore for the duration of 10 years. Before you buy a car or motorbike, you'll need to obtain a COE first
Yes, the concept of COE is smart to control number of cars in total, without COE you cannot buy car and each COE can use with a specific car you bought. Control space and parking will not solve the problem.
-
ไม่ควรครับ
รถ ไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับสิงคโปร์ แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับไทย
ขนาดตัวผมเองยังอยากมีรถ และต้องมีให้ได้เลย
ต่อให้ถึงตอนนั้น มีกฎหมายนี้ออกมา แล้วแจ็คพอตมาลงที่ผมจนทำให้ซื้อรถไม่ได้ ก็คงหนีไม่พ้นเป็นลูกค้าประจำ แท็กซี่/Grab Car หรืออาจจะต้องเช่าระยะยาวเอา
แต่เห็นด้วย และอยากผลักดัน เรื่องลงทะเบียนที่จอดรถให้ชัดเจนแบบญี่ปุ่น
-
ตอนนี้ยากครับ ระบบรถสาธารณะ ต้องดี
กฎหมายเรื่องจอดขวาง จอดหน้าบ้านแล้วทำให้ลำบากคนอื่น ต้องจริงจังครับ
-
ยากมาก ๆ ครับ
ต่อให้รถไฟฟ้าวิ่งครบทั้ง 10 กว่าสายเลย แต่ถนนเมืองไทยเป็นระบบซอยเล็กเข้าไปลึก ๆ และระบบหมู่บ้านจัดสรร รั้วปิด
จะออกจากบ้านไปขึ้นขนส่งสาธารณะ นี่คือยากเลยครับ ทั้งราคาที่ไม่ได้ถูกเลย เพราะถ้ารัฐไม่อุดหนุน ทำระบบสัมปทานเอกชนเดินรถ ยังไงก็ต้องคิดค่าบริการแพง
ค่ารถไฟฟ้าไทย แพงแทบจะติดอันดับโลก อยู่แล้วครับ แต่รายได้ยังน้อยกว่าประเทศเจริญแล้วอีกไกลโข
ส่วนรถเมล์นั้น .. ขอละไว้ละกันครับ รถที่ผมเคยขึ้นตอนมัธยม ทุกวันนี้ยังวิ่งอยู่เลย
ขนาดญี่ปุ่นที่ว่าขนส่งเจ๋งๆ ระดับโลก ตามพื้นที่ย่อย ๆ ชานเมือง เค้าก็ต้องใช้รถยนต์กันทั้งนั้นครับ
ส่วนเขตเมืองนี่คือ รถไฟทั้งบนดินใต้ดิน มีแทบทุกแยกไฟแดง ถึงจะเอาอยู่ครับ
-
วิถีชีวิตแบบเคยมีรถยนต์ส่วนตัวใช้ จะให้ไปใช้รถสาธารณะ ยากนะ
ต้องรอรถจากที่ไปไหนก็ไปได้ทันที
ต้องใส่แมสจากที่เคยสูดแอร์กลิ่นหอมๆได้เต็มปอด
สัมภาระไม่มีที่วางต้องถือหรือวางบนตัก
ในเมื่อมันมีข้อจำกัดที่แก้ไขไม่ได้ ก็ต้องมีข้อเสนอดึงดูด
เฉพาะรถเมล์ คนไทยขึ้นฟรีไม่มีเงื่อนไข ทุกสายทุกเวลาไม่จำกัดจำนวนครั้ง
ใช้บัตรประชาชนแตะ ต่างชาติเสียเงิน
เปลี่ยนเป็นรถเมล์ไฟฟ้า มีระบบฟอกอากาศดีๆแบบนาโนอีหรือพลาสม่าคลัสเตอร์
รถไฟฟ้า เข้าใจว่าต้นทุนสูง จ่ายเหมือนเดิม
-
ควรจะทำและต้องทำแบบมีแผนรองรับครอบคลุมหลายๆด้านด้วยครับ
- เริ่มด้วยการบังคับใช้กฏหมายจริงจัง จับจริง จ่ายค่าปรับหนักๆ โดยเฉพาะพวกจอดในที่ห้ามจอดริมถนนกินไป 1 -2 เลน ทั้งรถส่วนตัว และ Taxi
- จอดในที่ห้ามจอด ให้รถยกลากไปเลย ค่าใช้จ่ายเจ้าของรถรับผิดชอบเองด้วย
- เพิ่มค่าใช้จ่ายในการใช้รถ ค่าจอดรถ / ค่าเข้าเมืองในชั่วโมงเร่งด่วน (ตอนผมทำงานอยู่เวียดนาม เจอค่าที่จอดรถต่ำๆก็ชั่วโมงละ 40 -50บาท ไม่มีฟรี)
ในขณะเดียวกันต้องเพิ่มงบลงทุนระบบขนส่ง รถเมล์ รถไฟฟ้า ให้มันราคาถูกน่าใช้ ผมเคยทำงานที่จีน ระบบขนส่งทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้าจ่าย 1 -2 หยวน (10บาท) นั่งได้สุดสายเลย (ข้ามเมืองได้ด้วย) ตั๋วบัตรแตะข้ามระหว่างรถบัสรถไฟฟรีในระยะเวลาต่อเนื่องกันได้อีกต่างหาก ถ้าทำตรงนี้ไม่ได้ก็คงลดจำนวนคนอยากออกรถใหม่ยาก
ของเราเองผมเคยหิ้วกระเป๋าเดินทางจากสนามบินกลับบ้านทาง Airport Link + BTS รู้ได้เลยว่าคนทำเค้าคงไม่ได้ลองใช้เองจริง เป็นอะไรที่ลำบากมาก สรุปใช้เวลานานกว่านั่ง taxi กลับจากสนามบินอีก
ถ้าเราทำระบบขนส่งมวลชนที่ราคาไม่แพง คุณภาพดี หลายๆคนคงเลือกจะใช้รถส่วนตัวเดินทางน้อยลงเอง แล้วค่อยมาจำกัดการออกรถใหม่และเพิ่มค่าใช้จ่ายในการใช้รถเดินทางมากขึ้นครับ