Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Komutmas ที่ มิถุนายน 17, 2023, 10:29:57
-
คิดว่าการมาของรถยนต์ไฟฟ้าเพียวๆ อย่าง Tesla และวอลโว่ xc40 c40 และว่าที่ EX30
จะส่งผลอย่างไรต่อตลาด D Segment ญี่ปุ่นในเมืองไทย
ค่ายญี่ปุ่นจะปรับตัวและปรับราคาอย่างไร
D-segment sedan จะยังได้ไปต่อหรือไม่
ที่แน่ๆคือราคามือสองคงฮวบหนักกว่าเดิม
ร่วมแสดงความเห็นกันครับ
-
ส่วนตัวยังมองว่า กระทบไม่เยอะ
D-segment .. ถ้าคนที่บ้านมีรถได้แค่คันเดียว ผมว่า เค้าก็ยังเลือก หรือ แม้แต่ รถผู้บริหารญี่ปุ่น ที่พัก กทม ทำงานสักชลบุรี แล้วมีวิ่งไปธุระไม่แน่นอน ผมว่า เค้าก็ยังเลือกรถน้ำมันครับ
ยกตัวอย่าง น้องสาว จะเปลี่ยนรถ งบ 2 ล้าน ยังไงก็ไม่มองรถ EV ทั้งที่ตัวเค้าวิ่งใช้งานในเมืองร้อยละ 99 เพราะ สถานที่ไม่แน่นอน พักคอนโด เค้าไม่เสียเวลา ไปจอดชาร์จตามปั๊มแน่ๆ
..............
แต่ถ้าจะมีผล คือ คนที่ใช้รถแบบอยู่บ้านตัวเอง ติดเครื่องชาร์จได้ หรือ ที่บริษัทมีเครื่องชาร์จ เส้นทางการวิ่งแน่นอน ไม่นอกเส้นทาง หรือ ซื้อไว้เพื่อเป็นภาพลักษณ์ขององค์กร (กรณีทำธุรกิจเกี่ยวกับพวกพลังงาน) อันนี้ก็อีกเรื่องครับ
-
ไม่ครับ ผมเห็นต่างนะ
คนที่มีฐานะปานกลาง มีรายได้พอที่จะซื้อรถราคาระดับ 2 ล้านได้ และนั่นคือ ซื้อได้คันเดียวครับ
คนกลุ่มนี้มีมาก ซื้อ D-segment ขับได้ และมันจะเป็นรถที่ใช้ทุกวัน ใช้ทุกงาน และไปได้ทุกที่
รถ EV ผมมั่นใจว่า ไม่มีใครซื้อรถ EV เป็นรถคันเดียวในบ้านแน่ๆ ขับเทสล่าขับ XC40 เป็นรถคันเดียว อยากไปดอยอินทนนท์ หรือ ท่องเที่ยวไกลๆแค่นี้ก็ลำบากแล้ว
D-segment จะยังขายได้ต่อไป กับกลุ่มที่ต้องการใช้รถคันเดียวครับ
-
กลุ่มลูกค้า Fleet ไม่น่าจะปันใจไปซื้อ Tesla / Volvo EV อยู่แล้ว เพราะไม่สะดวกเรื่องชาร์จครับ
กลุ่มลูกค้า Individual ที่คิดจะซื้อรถใหม่ D-Segment ญี่ปุ่น ผมว่า ..
50% เป๋ไปหา SUV / PPV ญี่ปุ่น
20% เป๋ไปหา Tesla / Volvo EV หรือ EV อื่นๆที่มันราคาอยู่ในงบ
10% เป๋ไปหา รถยุโรป มือสอง ที่ราคาอยู่ในงบ
อาจจะเหลือ แฟนพันธุ์แท้ Sedan D-Seg ญี่ปุ่น ซัก 20% จะเป็นกลุ่มประมาณในกระทู้ด้านล่างนี้ครับ
https://community.headlightmag.com/index.php?topic=86036.0 (https://community.headlightmag.com/index.php?topic=86036.0)
-
ผมว่ายังขายได้อยู่แบบนี้ และไม่ได้ขายดีกว่านี้ครับ
แต่อาจจะมีphevมาเสริมด้วย ประมานนี้
เดาว่าเครื่องสันดาปในd segmentยังคงยังอยู่ต่อไปเพื่อตลาดfleetรถบริษัท taxiสนามบิน บลาๆ
-
D-segment ยอดขายลดเพราะการมาของ SUV PPV มากกว่าครับ
เพราะ EV บางคนไม่สะดวกไม่พร้อมที่จะใช้ ถ้าภาครัฐไม่บังคับด้วยการขึ้นภาษีรถสันดาบภายใน หรือบังคับว่ายกเลิกขา ย เชื่อว่างมีคนใช้ต่อ
-
จากคนที่ใช้ D segment ญี่ปุ่นมาก่อน รถไฟฟ้าของวอลโว่ ไม่เคยอยู่ในสายตาเลยครับ
เคยมองTesla อาจจะแก่แล้ว ระบบการขายและบริการ เลยยังไม่คุ้นเคย ดูวุ่นวายยุ่งยาก
แม้ที่บ้านจะทำระบบไฟรองรับการชาร์จเอาไว้แล้ว รอระบบมันเข้าที่กว่านี้ก่อนครับ
ตอนนี้ขอสันดาปไปอีกซักรุ่นก่อน
-
เหมือน benz a class กับ bmw series2 ไงครับ คนเอามาเทียบกับd seg ญี่ปุ่นบ่อยๆ ยิ่งตอนที่a class ยังมีรุ่น progressive อยู่ เอาจริงมีผลก็น้อยครับ ขนาดรถต่างกัน กลุ่มลูกค้าคนละกลุ่ม
ผมว่า fortuner กับ crv ยังมีผลกับ d segมากกว่าซะอีก
-
คิดว่ากระทบ Premium compact มากกว่าครับ
-
คิดว่ากระทบ Premium compact มากกว่าครับ
อันนี้เห็นด้วยครับ ได้ยินมาเยอะว่า ถ้าจะซื้อ 330e ซื้อเทสล่า Per ดีกว่า
ผมว่ากระทบรถพรีเมี่ยมมากกว่า
-
คิดว่า ไม่กระทบหรอก มีผลไม่มาก
-
ยอดขายคัมรี่ในแต่ละเดือนไม่ตกเลยนะครับ ตั้งแต่เทสล่าเข้ามาขายเป็นทางการ ตอนแรกก็คิดว่ากระทบแน่ๆ ครับ แต่ถึงกระทบก็จัดโปรส่วนลด ดอกเบี้ยต่ำกระตุ้นยอดขายให้กลับมาได้อยู่ดี ในขณะที่เทสล่าดอกเบี้ยสูงมาก คนที่งบปริ่มๆ คงเลือก d segment อยู่ดีครับ
-
คนที่ยังไม่เคยลองขับ TESLA / XC,C ถ้าได้ลอง ต่อให้ PPV SUV ก็กระทบได้ 8)
-
คนที่มีฐานะปานกลาง มีรายได้พอที่จะซื้อรถราคาระดับ 2 ล้านได้
โอย สะเทือนใจนะเนี่ย
-
D segment ญป ราคาไม่ปรับ
ยอดขายจะเป็นไปตาม global trend
-
ผมมองว่ายังมีช่องว่างเรื่องราคาด้วยครับ
D segment ญี่ปุ่น ตัวล่างยังมีช่วงราคา 1.4x-1.6 ล้าน
ถ้ารถไฟฟ้าแบรนด์ดังๆ มีรถราคาช่วงนี้มาขายด้วยถึงจะกระทบจริงจัง
-
ผมมองว่ายังมีช่องว่างเรื่องราคาด้วยครับ
D segment ญี่ปุ่น ตัวล่างยังมีช่วงราคา 1.4x-1.6 ล้าน
ถ้ารถไฟฟ้าแบรนด์ดังๆ มีรถราคาช่วงนี้มาขายด้วยถึงจะกระทบจริงจัง
Seal, Grand Cat ::)
-
พวก d-segment ล้าสมัย เชยๆ ราคา x2 จากราคาที่ US นี้ไม่เคยอยู่ในสายตาครับ
-
คิดว่าจะมีผลกระทบพอควรครับ
เพราะค่าบำรุงรักษารถไฟฟ้าถูก ได้ประหยัดไฟด้วย ส่วนที่ประหยัดได้ตรงนี้ ถ้าวิ่งเยอะ 10 ปี เปลี่ยนรถคันใหม่ก็ถือว่าเล่นรถไฟฟ้าได้
ต่างกันรถยุโรปที่เป็นเครื่องยนต์แม้ว่าจะขายราคาเท่า d seg ของญี่ปุ่นแต่อะไหล่และค่าบำรุงยังสูงมาก คนเลยยังเกาะรถญี่ปุ่นอยู่
-
คนเลือก D segment เพราะกว้าง นั่งสบาย ภาพลักษณ์นิดนึง
ยอดมันก็ไปได้เท่านี้ละครับ ไม่น่าเพิ่มขึ้นหรือลดลงกว่านี้เพราะ EV หรอก
จะโดนแย่งยอดจาก PPV มากกว่า
-
ผมไม่คิดว่า D-seg จะได้รับผลกระทบจาก BEV ฝรั่งนะ
เพราะ BEV ฝรั่งในราคานี้มันก็ไม่มีตัวไหนนั่งดีไปกว่า D-seg
ถ้า D-seg จะมีผลกระทบตรงนี้ มีผลกระทบไปตั้งแต่ ICE ฝรั่งรุ่นเล็กกดราคามาสู้ ซึ่งไม่ใช่กลุ่มคนที่เน้นนั่งดีเท่าแล้วครับ
ถ้า D-seg มีผลกระทบ น่าจะมาจาก SUV / PPV มากกว่า จ่ายราคาเท่ากัน เสียความสบายบ้าง แต่ได้พื้นที่ ได้การขึ้นลง (ใน SUV) มาแทน
-
ดูเผินๆ อาจจะเหมือนกระทบ เพราะราคาคาบเกี่ยวกัน แต่เท่าที่ส่วนตัวเคยเจอมา คนใช้ D-Segment จะมีอยู่ 2 แบบ
1. คนที่จริงๆ แล้ว งบเยอะ ชอบรถคันใหญ่ แต่ Serious เรื่อง Reliability มากๆๆ ในกลุ่มนี้ หลายคนเคยใช้รถยุโรปมาก่อน แต่รับไม่ได้เรื่องการซ่อมบำรุง (แค่ไม่ชอบ ไม่ใช่จ่ายไม่ไหว) ซึ่งแน่นอนว่า คนที่ซีเรียสเรื่อง Reliability คงมองข้ามรถไฟฟ้าทันที
2. คนที่ชอบความหรูหรา และความสบาย คนเหล่านี้ ถ้าไม่หยุดอยู่แค่ D-Segment ก็จะข้ามไป E-class / 5 Series เลย หรืออย่างน้อยก็ C-Class / 3 Series
ยังไม่เคยเจอคนใช้ D-segment มานานๆ แล้วสุดท้ายไปจบที่ A-Class / 2 Series / GLA / X1 ซักที
เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ
-
D-seg เป็นขนาดตลาดที่เล็กลงเรื่อยๆๆๆ
มี suv ppv มาแย่งเป็นหลัก แม้แต่ C-seg ที่ body ใหญ่ขื้นมากก็มาแย่งด้วย
ยิ่งมีรถไฟฟ้าดีๆ เข้าร่วมอีกยิ่งไปกันใหญ๋
คนรัก D-seg มีแน่ๆ แต่จะน้อยลงเรื่อยๆๆๆๆๆ ดูยอดขายก็รู้ทันที
อย่าแปลกใจถ้าบางค่ายจะประกาศเลิกขาย D-seg ของตน แบบ Nissan Teana
-
ส่วนตัวผมตอนนี้ซื้อ Model Y รุ่น RWD กับ Performace มาอย่างละคัน ผมไม่เคยอยากซื้อ Camry, Accord เลยครับ เนื่องจากราคามันแพงไปมากครับ
สำหรับผมการซื้อ Model Y ทดแทนการซื้อรถยุโรปตัวเริ่มต้นครับ คือ ต่อไปไม่ซื้อพวก Series 3, Series 5 แล้วครับ รถ ICE, PHEV เจอกันอีกที ตอนมีงบซื้อรุ่นแพงๆ ครับ
-
เอาราคามาตั้ง
ถ้าคุณสามารถติดตั้งที่ชาร์จในบ้านได้
ไม่เห็นมีเหตุผลใดที่จะไปซื้อ d seg เลย ยกเว้นว่าวันนนึงต้องขับรถเกินกว่า 300 โล เป็นประจำ
และตารางเวลาคุณไม่แน่นอน
-
D seg เป็นตลาดผู้สูงอายุ ส่วนไฟฟ้าเป็นตลาดวัยรุ่นมีฐานะครับ
-
ผู้บริหารทีทเป็นผู้หญิง มีรถแล้วหลายคันในบ้าน จะออกรถเพื่อใช้ไปทำงานทุกวัน ขอภาพลักษณ์ดีหน่อย ผมว่าเค้าไป A class , Series2 กันเยอะแล้วครับ หรือไม่ก็โดดไปทาง Mini Countryman ไปเลย
-
ถ้าเทียบสองกลุ่มนี้ คิดว่าไม่กระทบกันครับ
คิดว่าคนเลือกคนละกลุ่มกันนะครับ ทั้ง sizing รูปแบบการใช้งาน
-
ผมมองว่า D-seg มันกำลังจะตายอะ
เพราะสุดท้ายการใช้งานของคนทั่ว ๆ ไป มันไม่ได้อิงตาม segment ที่เรา ๆ คุยกันอยุ่นี่เลย อยากได้รถเก๋งครอบครัว เอ้อ ไปนั่ง civic FE ใหญ่ดีแหะ เครื่องก็แรง option ก็เยอะแยะ ทำไมเราถึงเรียก Civic FE ว่า C segment ทั้ง ๆ ที่มันคันเท่า D-seg ในเจนก่อนหน้า ....(รวมถึงราคาก็ไล่มาไกล้ๆ กันด้วย) อีกอย่างราคา D-seg มันแพงไปเยอะละด้วยอะคับ
แต่กับคำถามว่ารถ EV ทั้งหลาย มีผลต่อ D-seg ไหม ผมว่าไม่นะ พวก SUV-PPV มีผลมากกว่า เพราะผมก็ไม่ค่อยเห็น บ้านที่มีรถคันเดียวในบ้าน มี D-seg แหะ จะเป็น SUV-PPV ซะมากกว่า
-
ใครบอกไม่กระทบ แสดงว่า ไม่อยู่ในกลุ่มที่จะซื้อรถกลุ่มนี้
เหมือนก่อนหน้านี้ บอกว่า Tesla ทำราคามาขายในไทย ไม่กระทยกับยุโรป โทษนะ เพื่อนๆ ที่รู้จักกัน จากที่จะเอา 3/C หรือ GLC/CLA/X1/X3 ตอนนี้ ทิ้งใบจอง มาหา Tesla กันหลายคน (รวมถึงผมด้วย)
แล้วราคามันคาบเกี่ยวกับทั้ง D-Seg ญี่ปุ่น และ ยุโรป มันมีผลทั้งนั้นแหละครับ ใครบอกไม่มี ลองไปดูยอดขาย ทั้ง 2 กลุ่มนี้ ดูก็ได้ คนซื้อไม่ได้ลอยๆ มาซะหน่อย มันก็ต้องแบ่งกลุ่มคนซื้อจาก 2 กลุ่มนี้แหละ
คนที่ซื้อรถราคา 1 ล้าน จะเพิ่มเงิน เกือบล้าน เพื่อมาซื้อ Tesla ไหม ผมว่า ก็คงไม่ เพราะมันเพิ่มเยอะมากเกินไป เพราะในกลุ่ม 1 ล้าน ก็มี Atto3, ZS EV, Goodcat อยู่แล้ว ไหนจะ HRV CHR และ Cross อยู่อีก
-
รุ่น baby boom บางคน (พ่อผมเอง) ยังไงก็มองว่าเก๋งทรง Sedan หรูกว่าอยู่ดี
เลยกลายเป็นที่บ้านมี d segment อยู่สามคัน ไม่มี suv สักคัน เหอๆ
-
ส่วนตัวผมที่ไปลองดูมาแล้ว เอาเฉพาะ XC40, C40 ถ้าเทียบรถญี่ปุ่นใกล้เคียงกัน ก็เป็น Accord, CR-V
ซึ่งเข้าไปนั่งแล้ว พื้นที่ ความสบายต่างกันอยู่ครับ ถ้าเอามาใช้ทดแทนกันผมไม่โอเค แต่ซื้อเพิ่มได้ น่าใช้ดี โดยเฉพาะ C40
-
ส่วนตัวคิดว่า XC40 C40 ไม่กระทบครับ กับตลาด D-segment
รุ่นที่กระทบมากที่สุดคือ Tesla Model3 กับที่กระทบกับ D-segment บ้านเรา
ยกตัวอย่าง บ้านผมเป็นต้น ในห้วง 3 ปีมานี้ ที่บ้านมีแพลนจะเปลี่ยนรถในบ้าน 1 คัน ที่คุณพ่อคุณแม่ใช้ขับกรุงเทพ-เพชรบูรณ์-เชียงใหม่
ซึ่งลงล็อคสุดคือ D-segment เพราะรถใหญ่ นั่งสบาย เหมาะกับท่าน ลงล็อคที่ Camry 2.5Sport ราคา 1.459 MB
พอ Tesla Model3 มีแผนจะเปิดในไทย เลยรอดูราคาก่อน พาราคาเปิดมาต่ำสุด 1.759 MB เอ๊ย มันราคาถูกกว่าตัวท็อป Camry อีก
จนตอนนี้ Model3 ลดเหลือ 1.709 MB แถม Wall Charge เลยค่อนข้างตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ ว่าขยับไป Tesla ดีกว่า
ปล.วัสดุภายใน Camry ดีกว่า 3 มากครับ แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ซีเรียสเรื่องนี้
ปล.2 ช่วงล่าง Camry ให้ความรู้สึกหนึบแน่นกว่า แต่ Model3 ก็ไม่ได้แย่ รับได้ เก็บเสียงดีกว่าด้วย
-
ใครบอกไม่กระทบ แสดงว่า ไม่อยู่ในกลุ่มที่จะซื้อรถกลุ่มนี้
เหมือนก่อนหน้านี้ บอกว่า Tesla ทำราคามาขายในไทย ไม่กระทยกับยุโรป โทษนะ เพื่อนๆ ที่รู้จักกัน จากที่จะเอา 3/C หรือ GLC/CLA/X1/X3 ตอนนี้ ทิ้งใบจอง มาหา Tesla กันหลายคน (รวมถึงผมด้วย)
แล้วราคามันคาบเกี่ยวกับทั้ง D-Seg ญี่ปุ่น และ ยุโรป มันมีผลทั้งนั้นแหละครับ ใครบอกไม่มี ลองไปดูยอดขาย ทั้ง 2 กลุ่มนี้ ดูก็ได้ คนซื้อไม่ได้ลอยๆ มาซะหน่อย มันก็ต้องแบ่งกลุ่มคนซื้อจาก 2 กลุ่มนี้แหละ
คนที่ซื้อรถราคา 1 ล้าน จะเพิ่มเงิน เกือบล้าน เพื่อมาซื้อ Tesla ไหม ผมว่า ก็คงไม่ เพราะมันเพิ่มเยอะมากเกินไป เพราะในกลุ่ม 1 ล้าน ก็มี Atto3, ZS EV, Goodcat อยู่แล้ว ไหนจะ HRV CHR และ Cross อยู่อีก
ผมว่าเทียบไม่ตรงเท่าไหร่ครับ เพราะการเทียบ D-Seg ญี่ปุ่นกับยุโรปตัวเริ่มมันยังมีข้อได้เปรียบของ D-Seg ญี่ปุ่นตรงเรื่องขนาดตัวรถ ความสบายต่างๆที่ยุโรปตัวเริ่มต้นมันให้ไม่ได้
ส่วน Tesla ทั้ง 3/Y ขนาดตัวรถมันใหญ่กว่ายุโรปตัวเริ่มอยู่แล้ว ถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ ทีนี้คนจะเอายุโรปตัวเริ่มเค้าก็ต้องคิดแล้วว่าไป Tesla ได้ตัวรถที่ใหญ่กว่ากว้างกว่าสบายกว่า
กลับไปที่คำถามคือ XC40 กับ C40 นี่ผมมองว่าไม่ได้กระทบ D-Seg ญี่ปุ่นซักเท่าไหร่เพราะขนาดตัวต่างกันเยอะ คนที่เคยใช้รถขนาดเท่า Camry,Accord จะไปใช้ยุโรปตัวเริ่มนี่น้อยมากครับ เพราะความสบายมันต่างกันเยอะ ส่วน Tesla นี่มีส่วนพอสมควรเพราะขนาดตัวค่อนข้างใกล้เคียงกันกับ D-Seg ญี่ปุ่น แต่มีผลไม่เยอะเพราะคนที่จะซื้อรถเค้าหนีจาก D-Seg ไปรถประเภทอื่น(SUV,PPV,MPV) ตั้งแต่ก่อนที่ Tesla จะมาแล้วครับ
-
ใครบอกไม่กระทบ แสดงว่า ไม่อยู่ในกลุ่มที่จะซื้อรถกลุ่มนี้
เหมือนก่อนหน้านี้ บอกว่า Tesla ทำราคามาขายในไทย ไม่กระทยกับยุโรป โทษนะ เพื่อนๆ ที่รู้จักกัน จากที่จะเอา 3/C หรือ GLC/CLA/X1/X3 ตอนนี้ ทิ้งใบจอง มาหา Tesla กันหลายคน (รวมถึงผมด้วย)
แล้วราคามันคาบเกี่ยวกับทั้ง D-Seg ญี่ปุ่น และ ยุโรป มันมีผลทั้งนั้นแหละครับ ใครบอกไม่มี ลองไปดูยอดขาย ทั้ง 2 กลุ่มนี้ ดูก็ได้ คนซื้อไม่ได้ลอยๆ มาซะหน่อย มันก็ต้องแบ่งกลุ่มคนซื้อจาก 2 กลุ่มนี้แหละ
คนที่ซื้อรถราคา 1 ล้าน จะเพิ่มเงิน เกือบล้าน เพื่อมาซื้อ Tesla ไหม ผมว่า ก็คงไม่ เพราะมันเพิ่มเยอะมากเกินไป เพราะในกลุ่ม 1 ล้าน ก็มี Atto3, ZS EV, Goodcat อยู่แล้ว ไหนจะ HRV CHR และ Cross อยู่อีก
ผมว่าเทียบไม่ตรงเท่าไหร่ครับ เพราะการเทียบ D-Seg ญี่ปุ่นกับยุโรปตัวเริ่มมันยังมีข้อได้เปรียบของ D-Seg ญี่ปุ่นตรงเรื่องขนาดตัวรถ ความสบายต่างๆที่ยุโรปตัวเริ่มต้นมันให้ไม่ได้
ส่วน Tesla ทั้ง 3/Y ขนาดตัวรถมันใหญ่กว่ายุโรปตัวเริ่มอยู่แล้ว ถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ ทีนี้คนจะเอายุโรปตัวเริ่มเค้าก็ต้องคิดแล้วว่าไป Tesla ได้ตัวรถที่ใหญ่กว่ากว้างกว่าสบายกว่า
กลับไปที่คำถามคือ XC40 กับ C40 นี่ผมมองว่าไม่ได้กระทบ D-Seg ญี่ปุ่นซักเท่าไหร่เพราะขนาดตัวต่างกันเยอะ คนที่เคยใช้รถขนาดเท่า Camry,Accord จะไปใช้ยุโรปตัวเริ่มนี่น้อยมากครับ เพราะความสบายมันต่างกันเยอะ ส่วน Tesla นี่มีส่วนพอสมควรเพราะขนาดตัวค่อนข้างใกล้เคียงกันกับ D-Seg ญี่ปุ่น แต่มีผลไม่เยอะเพราะคนที่จะซื้อรถเค้าหนีจาก D-Seg ไปรถประเภทอื่น(SUV,PPV,MPV) ตั้งแต่ก่อนที่ Tesla จะมาแล้วครับ
ผมว่า มันปฏิเสธไม่ได้หรอกครับ
เพราะถ้าจะเทียบรถ D-Seg แบบว่า ถ้าเน้นตามคุณว่า คนใช้ Accord,Camry จะกระโดดไป E Class/5 Series เลย มันยิ่งไม่ได้ใช่เรื่องง่าย
และ ความเป็นไปได้ เขาก็คงเพิ่มเงินจาก ล้านปลาย ไปเป็น 2 ล้านกลาง มันยังเป็นไปได้ง่ายหน่อย คนใช้ 3 Series กระโดดมาจาก D-Seg ญี่ปุ่นก็เยอะ ผมอยู่ในกลุ่มเขาก็พูดๆ เรื่องปกติเลย
ขนาดค่ายยุโรป เขายังมีแคมเปญ ย้ายค่ายจาก D-Seg ยี่ปุ่น มา ยุโรป รับส่วนลดพิเศษ เลย เพราะมันเอื้อมถึงง่าย
ส่วนคนที่จะซื้อรถ ด้วย Segment รถ มันก็มี แต่คนที่ซื้อรถด้วยราคาเป็นตัวตั้งมันก็เยอะ ครับ
ไม่งั้น คนไม่ทิ้งใบจองยุโรป มาหา Tesla หรอก แล้ว แต่ก่อนขาย 3 ล้านปลาย ยังพากันจอง จนดอยหลายคัน พอซื้อมาเรียกเป็น พรีเมียม อยู่เลย
พอ Tesla ขายเอง ราคาไม่ถึง 2 ล้าน กลับมีคนบอกว่า มันมีละ Class มันคนระดับกับยุโรป เทียบกันไม่ได้ ยี๊ ว๊ายย..... อันนี้ก็แปลกใจอยู่
ถ้าราคามันพอๆ กัน สุดท้าย มันอยู่ที่คนซื้อครับ ว่าเขาจะให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน
-
ใครบอกไม่กระทบ แสดงว่า ไม่อยู่ในกลุ่มที่จะซื้อรถกลุ่มนี้
เหมือนก่อนหน้านี้ บอกว่า Tesla ทำราคามาขายในไทย ไม่กระทยกับยุโรป โทษนะ เพื่อนๆ ที่รู้จักกัน จากที่จะเอา 3/C หรือ GLC/CLA/X1/X3 ตอนนี้ ทิ้งใบจอง มาหา Tesla กันหลายคน (รวมถึงผมด้วย)
แล้วราคามันคาบเกี่ยวกับทั้ง D-Seg ญี่ปุ่น และ ยุโรป มันมีผลทั้งนั้นแหละครับ ใครบอกไม่มี ลองไปดูยอดขาย ทั้ง 2 กลุ่มนี้ ดูก็ได้ คนซื้อไม่ได้ลอยๆ มาซะหน่อย มันก็ต้องแบ่งกลุ่มคนซื้อจาก 2 กลุ่มนี้แหละ
คนที่ซื้อรถราคา 1 ล้าน จะเพิ่มเงิน เกือบล้าน เพื่อมาซื้อ Tesla ไหม ผมว่า ก็คงไม่ เพราะมันเพิ่มเยอะมากเกินไป เพราะในกลุ่ม 1 ล้าน ก็มี Atto3, ZS EV, Goodcat อยู่แล้ว ไหนจะ HRV CHR และ Cross อยู่อีก
ผมว่าเทียบไม่ตรงเท่าไหร่ครับ เพราะการเทียบ D-Seg ญี่ปุ่นกับยุโรปตัวเริ่มมันยังมีข้อได้เปรียบของ D-Seg ญี่ปุ่นตรงเรื่องขนาดตัวรถ ความสบายต่างๆที่ยุโรปตัวเริ่มต้นมันให้ไม่ได้
ส่วน Tesla ทั้ง 3/Y ขนาดตัวรถมันใหญ่กว่ายุโรปตัวเริ่มอยู่แล้ว ถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ ทีนี้คนจะเอายุโรปตัวเริ่มเค้าก็ต้องคิดแล้วว่าไป Tesla ได้ตัวรถที่ใหญ่กว่ากว้างกว่าสบายกว่า
กลับไปที่คำถามคือ XC40 กับ C40 นี่ผมมองว่าไม่ได้กระทบ D-Seg ญี่ปุ่นซักเท่าไหร่เพราะขนาดตัวต่างกันเยอะ คนที่เคยใช้รถขนาดเท่า Camry,Accord จะไปใช้ยุโรปตัวเริ่มนี่น้อยมากครับ เพราะความสบายมันต่างกันเยอะ ส่วน Tesla นี่มีส่วนพอสมควรเพราะขนาดตัวค่อนข้างใกล้เคียงกันกับ D-Seg ญี่ปุ่น แต่มีผลไม่เยอะเพราะคนที่จะซื้อรถเค้าหนีจาก D-Seg ไปรถประเภทอื่น(SUV,PPV,MPV) ตั้งแต่ก่อนที่ Tesla จะมาแล้วครับ
ผมว่า มันปฏิเสธไม่ได้หรอกครับ
เพราะถ้าจะเทียบรถ D-Seg แบบว่า ถ้าเน้นตามคุณว่า คนใช้ Accord,Camry จะกระโดดไป E Class/5 Series เลย มันยิ่งไม่ได้ใช่เรื่องง่าย
และ ความเป็นไปได้ เขาก็คงเพิ่มเงินจาก ล้านปลาย ไปเป็น 2 ล้านกลาง มันยังเป็นไปได้ง่ายหน่อย คนใช้ 3 Series กระโดดมาจาก D-Seg ญี่ปุ่นก็เยอะ ผมอยู่ในกลุ่มเขาก็พูดๆ เรื่องปกติเลย
ขนาดค่ายยุโรป เขายังมีแคมเปญ ย้ายค่ายจาก D-Seg ยี่ปุ่น มา ยุโรป รับส่วนลดพิเศษ เลย เพราะมันเอื้อมถึงง่าย
ส่วนคนที่จะซื้อรถ ด้วย Segment รถ มันก็มี แต่คนที่ซื้อรถด้วยราคาเป็นตัวตั้งมันก็เยอะ ครับ
ไม่งั้น คนไม่ทิ้งใบจองยุโรป มาหา Tesla หรอก แล้ว แต่ก่อนขาย 3 ล้านปลาย ยังพากันจอง จนดอยหลายคัน พอซื้อมาเรียกเป็น พรีเมียม อยู่เลย
พอ Tesla ขายเอง ราคาไม่ถึง 2 ล้าน กลับมีคนบอกว่า มันมีละ Class มันคนระดับกับยุโรป เทียบกันไม่ได้ ยี๊ ว๊ายย..... อันนี้ก็แปลกใจอยู่
ถ้าราคามันพอๆ กัน สุดท้าย มันอยู่ที่คนซื้อครับ ว่าเขาจะให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน
ที่ผมเคยเจอยังไม่มีใครย้ายจาก D-Seg ญี่ปุ่นไปยุโรปตัวเริ่มต้นเลยครัย ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันเล็กไป มันแคบ อึดอัด ทีนี้ตัวเลือกของคนในกลุ่มนี้มีสองทางคือข้ามไปเล่น E-Class หรือ 5 Series หรือไม่ก็อยู่กับ D-Seg ญี่ปุ่นเหมือนเเดิมครับ ผมเลยมองว่ากลุ่มยุโรปตัวเริ่มไม่ส่งผลต่อยอดขาย D-Seg ญี่ปุ่นครับ
-
ใครบอกไม่กระทบ แสดงว่า ไม่อยู่ในกลุ่มที่จะซื้อรถกลุ่มนี้
เหมือนก่อนหน้านี้ บอกว่า Tesla ทำราคามาขายในไทย ไม่กระทยกับยุโรป โทษนะ เพื่อนๆ ที่รู้จักกัน จากที่จะเอา 3/C หรือ GLC/CLA/X1/X3 ตอนนี้ ทิ้งใบจอง มาหา Tesla กันหลายคน (รวมถึงผมด้วย)
แล้วราคามันคาบเกี่ยวกับทั้ง D-Seg ญี่ปุ่น และ ยุโรป มันมีผลทั้งนั้นแหละครับ ใครบอกไม่มี ลองไปดูยอดขาย ทั้ง 2 กลุ่มนี้ ดูก็ได้ คนซื้อไม่ได้ลอยๆ มาซะหน่อย มันก็ต้องแบ่งกลุ่มคนซื้อจาก 2 กลุ่มนี้แหละ
คนที่ซื้อรถราคา 1 ล้าน จะเพิ่มเงิน เกือบล้าน เพื่อมาซื้อ Tesla ไหม ผมว่า ก็คงไม่ เพราะมันเพิ่มเยอะมากเกินไป เพราะในกลุ่ม 1 ล้าน ก็มี Atto3, ZS EV, Goodcat อยู่แล้ว ไหนจะ HRV CHR และ Cross อยู่อีก
ผมว่าเทียบไม่ตรงเท่าไหร่ครับ เพราะการเทียบ D-Seg ญี่ปุ่นกับยุโรปตัวเริ่มมันยังมีข้อได้เปรียบของ D-Seg ญี่ปุ่นตรงเรื่องขนาดตัวรถ ความสบายต่างๆที่ยุโรปตัวเริ่มต้นมันให้ไม่ได้
ส่วน Tesla ทั้ง 3/Y ขนาดตัวรถมันใหญ่กว่ายุโรปตัวเริ่มอยู่แล้ว ถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ ทีนี้คนจะเอายุโรปตัวเริ่มเค้าก็ต้องคิดแล้วว่าไป Tesla ได้ตัวรถที่ใหญ่กว่ากว้างกว่าสบายกว่า
กลับไปที่คำถามคือ XC40 กับ C40 นี่ผมมองว่าไม่ได้กระทบ D-Seg ญี่ปุ่นซักเท่าไหร่เพราะขนาดตัวต่างกันเยอะ คนที่เคยใช้รถขนาดเท่า Camry,Accord จะไปใช้ยุโรปตัวเริ่มนี่น้อยมากครับ เพราะความสบายมันต่างกันเยอะ ส่วน Tesla นี่มีส่วนพอสมควรเพราะขนาดตัวค่อนข้างใกล้เคียงกันกับ D-Seg ญี่ปุ่น แต่มีผลไม่เยอะเพราะคนที่จะซื้อรถเค้าหนีจาก D-Seg ไปรถประเภทอื่น(SUV,PPV,MPV) ตั้งแต่ก่อนที่ Tesla จะมาแล้วครับ
ผมว่า มันปฏิเสธไม่ได้หรอกครับ
เพราะถ้าจะเทียบรถ D-Seg แบบว่า ถ้าเน้นตามคุณว่า คนใช้ Accord,Camry จะกระโดดไป E Class/5 Series เลย มันยิ่งไม่ได้ใช่เรื่องง่าย
และ ความเป็นไปได้ เขาก็คงเพิ่มเงินจาก ล้านปลาย ไปเป็น 2 ล้านกลาง มันยังเป็นไปได้ง่ายหน่อย คนใช้ 3 Series กระโดดมาจาก D-Seg ญี่ปุ่นก็เยอะ ผมอยู่ในกลุ่มเขาก็พูดๆ เรื่องปกติเลย
ขนาดค่ายยุโรป เขายังมีแคมเปญ ย้ายค่ายจาก D-Seg ยี่ปุ่น มา ยุโรป รับส่วนลดพิเศษ เลย เพราะมันเอื้อมถึงง่าย
ส่วนคนที่จะซื้อรถ ด้วย Segment รถ มันก็มี แต่คนที่ซื้อรถด้วยราคาเป็นตัวตั้งมันก็เยอะ ครับ
ไม่งั้น คนไม่ทิ้งใบจองยุโรป มาหา Tesla หรอก แล้ว แต่ก่อนขาย 3 ล้านปลาย ยังพากันจอง จนดอยหลายคัน พอซื้อมาเรียกเป็น พรีเมียม อยู่เลย
พอ Tesla ขายเอง ราคาไม่ถึง 2 ล้าน กลับมีคนบอกว่า มันมีละ Class มันคนระดับกับยุโรป เทียบกันไม่ได้ ยี๊ ว๊ายย..... อันนี้ก็แปลกใจอยู่
ถ้าราคามันพอๆ กัน สุดท้าย มันอยู่ที่คนซื้อครับ ว่าเขาจะให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน
ที่ผมเคยเจอยังไม่มีใครย้ายจาก D-Seg ญี่ปุ่นไปยุโรปตัวเริ่มต้นเลยครัย ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันเล็กไป มันแคบ อึดอัด ทีนี้ตัวเลือกของคนในกลุ่มนี้มีสองทางคือข้ามไปเล่น E-Class หรือ 5 Series หรือไม่ก็อยู่กับ D-Seg ญี่ปุ่นเหมือนเเดิมครับ ผมเลยมองว่ากลุ่มยุโรปตัวเริ่มไม่ส่งผลต่อยอดขาย D-Seg ญี่ปุ่นครับ
เพิ่มเติมนะครับ
ที่บอกว่า ยุโรปตัวเริ่ม คืออะไรครับ A Class, 1-2 Series เหรอครับ
เหมือนผมไม่ได้พูดถึงนะ
ถ้าเป็น A Class อันนี้ผมเห็นด้วยครับ ว่ามันเล็กไป ผมเข้ารถ ยังติดหัวเลย (CLA)
ที่ผมพูดถึง เป็น กลุ่ม 3 Series และ C Class นะครับ อันนี้ อันนี้การขับขี่ ที่นั่งแถวหน้า มันไม่ได้เล็กไปกว่า D-Seg เท่าไหร่หรอก เพราะผมใช้ 525d อยู่ เคยใช้ 330e เบาะแถวหน้าก็ไม่ได้ต่างเท่าไหร่ แต่เบาะหลัง ต่างกันบ้าง
แต่เอาจริงๆ ถ้าจะเน้นนั่งหลัง หรือ ความสบาย ทำไมผมกลับรู้สึกว่า Camry มันนั่งหลังสบายกว่าทั้ง E Class และ 5 Series อีกนะ
ดังนั้น ผมว่า มันก็อยู่ที่ว่า จุดประสงค์ และ ความมุ่งหมาย คืออะไรมากกว่าครับ
-
ผมมองว่ายังมีคนที่ต้องการความมั่นใจเรื่องตัวรถ ศูนย์บริการต่างๆ อยู่จำนวนไม่น้อย ซึ่งรถไฟฟ้ายังใหม่มากกับบ้านเรา ยังไม่สามารถให้ความมั่นใจกับคนกลุ่มนี้ได้มากเท่าที่ควร
-
ผมว่ารอดูตอน Volvo EX30 เปิดราคาดีกว่าครับ ถ้ามา 1.5 ล้านจริง แล้วส่วนลด EV หมดพอดี รถไฟฟ้าจีนเดือดร้อนก่อนเลย ต่อมาก็ B SUV
ส่วน D Segment น่าจะไม่มีผล