Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Sit: ) ที่ มิถุนายน 21, 2023, 08:00:14
-
ได้ยินและทำมาตลอดคือเช็ค/เติมลมตอนเช้าหลังจอดข้ามคืน
ระหว่างวัน ถ้ารถวิ่งแล้วผมจะไม่ยุ่งกับยาง
จนลองใช้ tpms เกิดสงสัยครับ
ตอนเช้าลมยาง 34psi อุณหภูมิ 30
เมื่อวิ่งไปได้ระยะทางนึง ลมยางขยับไป 37psi ที่อุณภูมิ 45
เมื่อยางร้อนเราก็ปล่อยไปยังงั้นเลยเหรอครับ
ย้อนมาสงสัยว่า sticker บอก spec ค่าลมคือให้วัดที่จอดจนล้อเย็นสนิทเลยใช่ไหม
ถ้าผมเติมลมนอกบ้านก็มีโอกาสเติมลมเกิน spec ไปถึง 3 psi
หรือต้องชดเชยกันไปว่า ทำที่บ้าน 34 นอกบ้านก็ใส่ 37 ไปเลย
-
ปกติค่าลมยางขณะล้อเย็น ก็คือวิ่งมาไม่เกิน 3 กม
หากวิ่งเกิน หรือวิ่งเร็วๆมา ความดันลมยางเพิ่ม 2-4 psi (สังเกตุจาก TPMS ในรถ) เวลาเติมก็เผื่อไป แต่มันจะเพี้ยนครับ เวลายางเย็นแล้ว
-
ปกติผมก็จะเติมตอนลมยางยังเย็น ครับ (สติกเกอร์ที่ข้างประตู และคู่มือ มักจะระบุด้วยว่าเป็น Cold Inflation)
อาจจะเป็นการคำนวณเผื่อตอนร้อนไว้แล้ว ส่วนหนึ่ง
แต่ที่แน่ๆคือ ผู้ผลิตรถยนต์ ก็คงอยาก เพลย์เซฟ (เอาชัวร์ไว้ก่อน) เพราะถ้าอ้างอิง ให้เติมตอนร้อน ... ร้อนของแต่ละคนไม่เท่ากัน สุดท้ายอาจเกิดเหตุการณ์ว่า เติมอ่อนไป (เพราะพอเย็นลงแล้วมันอ่อนเกิน) ก็จะอันตรายอีกครับ ลมอ่อนอาจระเบิดได้
-
เต็มลมตอนยางเย็น และวัดค่าอ้างอิงตอนยางเย็นครับ
แนะนำเติมลมยาไนโตรเจนดูครับ ตอนร้อนๆ ลมจะไม่ขยายมาก
-
เต็มลมตอนยางเย็น และวัดค่าอ้างอิงตอนยางเย็นครับ
แนะนำเติมลมยาไนโตรเจนดูครับ ตอนร้อนๆ ลมจะไม่ขยายมาก
+1
-
ผู้ผลิตแนะนำให้เติมและวัดลมยางตอนยางเย็น ผมเข้าใจว่าน่าจะเพราะความเพี้ยนต่ำ วัดค่าได้ค่อนข้างแม่นยำกว่าไปวัดตอนร้อนครับ คิดว่าผู้ผลิตคงเผื่อว่าลมยางต้องขยายเวลาใช้งานไว้แล้ว ซึ่งแต่ละล้อมันขยายไม่เท่ากันนะ ตำแหน่งไหนที่น้ำหนักกดลงเยอะหรือเกิดการเสียดสีเสียดทานมากกว่าก็จะลมยางขยายมากกว่า เช่นล้อคู่หน้าจะขยายมากกว่าคู่หลัง และล้อหน้าขวาจะขยายมากกว่าหน้าซ้าย กลับกันถ้าเป็นรถแข่ง เขาจะวัดลมยางและเติมตอนยางร้อน เพราะเขาซีเรียสความบาลานซ์ ณ ตอนรถวิ่งความเร็วสูงมากกว่ารถบ้านครับ
ผมเคยขับรถมาร้อนๆแดดจัดๆ จอดวัดลมยางทันที ได้ 36 พอวัดล้ออื่นๆจนครบ กลับมาวัดล้อแรก เอ๊า เหลือ 35 แล้ว ที่วัดลมยางผมใช้ของมิชลิน ที่มันมีสเกลความละเอียด 0.5 ครับ ผมใช้ TPMS อยู่และก็เติมลมยางไนโตรเจนของร้านบีควิกเสมอ รถผมข้างประตูให้เติม 30 แต่ผมชอบ 32 เลยมักเติมมาแข็งๆเลยสัก 36 พอกลับบ้านจอดข้ามคืนถึงตอนเช้า ก็วัดและปล่อยให้เหลือ 32 พอดีครับ กระนั้นแล้ว เวลาขับจนยางร้อนก็ยังขยายจาก 32 ทั้ง 4 ล้อ ไปเป็น หน้า 35 หลัง 34 ครับ
-
สถานการณ์เดียวที่เติมตอนร้อน น่าจะเป็นตอน วิ่งเล่นในสนามแข่ง / Track day ครับ (วิ่งขำๆนะครับไม่กี่รอบ ไม่ใช่วิ่ง Endurance 55)
วิ่งๆไปแล้วมาปล่อยออก จะเอาให้เกาะโค้ง แต่ก่อนขับกลับบ้านก็ต้องเติมให้ปกติครับเดี๋ยวหนาว
-
อย่ามัวห่วงเฉพาะตอนกลางวันอุณหภูมิสูง ให้ห่วงตอนเช้ามืดสำหรับคนที่ออกจากบ้านก่อนตะวันขึ้นด้วย
กลางวันแดดร้อนๆ วิ่งทำความเร็วมาระยะหนึ่ง ค่าลมยาง +2 psi เป็นเรื่องปกติ (ถ้าวิ่งรถติดไปเรื่อยๆ อาจจะแค่ +1 psi) ใครเติมลมตอนที่รถวิ่งทำความเร็วมาแล้วให้ +2 psi เผื่อไว้ได้เลย
แต่ตอนเช้ามืดช่วงฤดูร้อนนี่แหละใครอกอจากบ้านก่อน 6 โมง ลมยางจะราวๆ -1 จากที่เติมไว้นะครับ ถ้าเป็นช่วงอากาศเย็นนี่ตอนเช้าออกรถ -2 psi เป็นเรื่องปกติ นี่วัดจาก กทม. ปริมณฑลนะ ถ้าตอนบนประเทศไทยผมว่ามีลดต่ำกว่านี้
ลมยางที่ผู้ผลิตระบุมาจากโรงงานเป็นค่าตอนรถจอดยางเย็น ผมล้อ 20" โรงงานกำหนด 32 psi แต่ผมเติม 36 psi ตอนเช้ามืดจะเริ่มที่ 35 psi ช่วงร้อนก็ดีดไป 38 psi ปลายปีวันอากาศเย็นจัดเช้ามืดเหลือ 33-34 psi ผมตั้งเตือนที่ค่าโรงงาน 32 psi
-
ซื้อเกจ์วัดลมยางติดรถไว้สักอันครับ
ปกติ ผมเติมไนโตร เวลาไปร้าน ผมก็จะสั่ง 40 psi 4 ล้อ จากนั้น ขับกลับมาบ้าน ก่อนจะเข้านอน ค่ำๆ ก็ค่อยปล่อยออกให้ได้ตามสเปคครับ
-
ในคู่มือบอกแบบนี้
(https://i.imgur.com/42b89wr.png)
-
ผมใช้สูตรคล้ายๆกันครับ
ถ้าเติมที่บ้าน ก็ใช้แรงดันที่ผู้ผลิตแนะนำ
เวลาเติมตอนขับไปแล้ว ก็จะ +2-+3 ตามที่ผู้ผลิตแนะนำเช่นกัน แต่อย่าลืมคำนวนแบบมีนน.บรรทุกและไม่มีด้วยนะครับ
+2 สำหรับรถเล็กครับ
+3 สำหรับรถใหญ่หรือใช้ความเร็วสูงในการเดินทาง
-
ลมธรรมดา หรือ ไนโตร ก็ขยายครับ
ใครบอกไม่ขยาย ผมเถียงหัวขาดเลย
รถมี TPMS โรงงานติดมา กดดูตอนวิ่งไปสักพัก ก็เด้งขึ้นมา 3-4 ปอนด์ พอๆ กะลมธรรมดาเลย
-
ถ้าได้ไนโตรเจนแยกจากโรงงาน
ผลลัพธ์น่าจะดีกว่าครับ
แรงดันคงเปลี่ยนน้อยมาก
เค
-
ลมยางไนโตรเจน ผมเคยตามกระแสเมื่อหลายปีก่อน จ่าย 50 บาท x4 = 200 บาทครั้งเดียวพอ ถ้าไม่ได้คิดว่าจะได้เติมลมร้านเดิมตลอดเวลาอย่าไปเสียเงิน เอาเวลาชีวิตไปกังวลเรื่องอื่นดีกว่า เติมลมธรรมดานี่แหละเข้าปั๊มหรือเข้าร้านยางที่ไหนก็เติมได้ ถ้าเติมไนโตรเจนแล้วไปเติมลมธรรมดาสุดท้ายก็เสียเงินทิ้ง
-
ถ้าเติมตอนยางร้อน ผมจะบวกเพิ่มไป 10% ครับ
สมมุติข้างประตูระบุ 30psi
ตอนยางเย็นผมจะเติม 30psi
ตอนยางร้อนผมจะเติม 33psi
-
ลมธรรมดา หรือ ไนโตร ก็ขยายครับ
ใครบอกไม่ขยาย ผมเถียงหัวขาดเลย
รถมี TPMS โรงงานติดมา กดดูตอนวิ่งไปสักพัก ก็เด้งขึ้นมา 3-4 ปอนด์ พอๆ กะลมธรรมดาเลย
จากประสบการณ์ที่เคยลองเทียบลมไนโตร กับ ลมธรรมชาติ ตอนเปลี่ยนยางยกชุด และร้านเติมไนโตรมาให้
พบว่าเวลายางร้อน ลมไนโตรก็แข็งขึ้นเช่นกัน แต่ในอัตราที่น้อยกว่าลมธรรมชาติเล็กน้อย น้อยจริงๆ เพราะลมธรรมชาติมีไนโตรเจนอยู่แล้วเกือบ 80%
เช่น ลมยางร้อนขึ้น 3 องศา ลมธรรมดาจะแข็งขึ้น 1 ปอนด์/ตรน. เทียบกับไตโตร ต้องร้อนขึ้น 4 องศา ลมยางถึงจะแข็งขึ้น 1 ปอนด์/ตรน
จากที่สังเกตพบมา เลยไม่คิดเสียเวลาวิ่งไปหาลมไนโตรเติมอีกเลย
ถ้าเลือกได้ จ่ายค่า TPMS สักชุดจะคุ้มกว่า เพราะเกิดรั่วร้องเตือนได้ ลมอ่อน/ลมแข็ง เตือนหมด และตอนเช้าก่อนออกรถ ยังตรวจสอบลมยางได้ทันที
ส่วนเรื่องลมยางที่แข็งขึ้นขณะวิ่ง ผมเชื่อว่าบริษัทรถที่ขายรถ/ยาง มานานเกือบ 100 ปี น่าจะทราบประเด็นนี้อยู่ครับ ดังนั้นหากเติมตามค่าตั้งต้นเวลายางเย็น ถึงยางจะร้อน จะแข็งขึ้น ยังน่าจะอยู่ในช่วงของความปลอดภัยตามที่ออกแบบมาครับ จึงไม่น่ากังวลแต่อย่างใด
-
ลมธรรมดา หรือ ไนโตร ก็ขยายครับ
ใครบอกไม่ขยาย ผมเถียงหัวขาดเลย
รถมี TPMS โรงงานติดมา กดดูตอนวิ่งไปสักพัก ก็เด้งขึ้นมา 3-4 ปอนด์ พอๆ กะลมธรรมดาเลย
จากประสบการณ์ที่เคยลองเทียบลมไนโตร กับ ลมธรรมชาติ ตอนเปลี่ยนยางยกชุด และร้านเติมไนโตรมาให้
พบว่าเวลายางร้อน ลมไนโตรก็แข็งขึ้นเช่นกัน แต่ในอัตราที่น้อยกว่าลมธรรมชาติเล็กน้อย น้อยจริงๆ เพราะลมธรรมชาติมีไนโตรเจนอยู่แล้วเกือบ 80%
เช่น ลมยางร้อนขึ้น 3 องศา ลมธรรมดาจะแข็งขึ้น 1 ปอนด์/ตรน. เทียบกับไตโตร ต้องร้อนขึ้น 4 องศา ลมยางถึงจะแข็งขึ้น 1 ปอนด์/ตรน
จากที่สังเกตพบมา เลยไม่คิดเสียเวลาวิ่งไปหาลมไนโตรเติมอีกเลย
ถ้าเลือกได้ จ่ายค่า TPMS สักชุดจะคุ้มกว่า เพราะเกิดรั่วร้องเตือนได้ ลมอ่อน/ลมแข็ง เตือนหมด และตอนเช้าก่อนออกรถ ยังตรวจสอบลมยางได้ทันที
ส่วนเรื่องลมยางที่แข็งขึ้นขณะวิ่ง ผมเชื่อว่าบริษัทรถที่ขายรถ/ยาง มานานเกือบ 100 ปี น่าจะทราบประเด็นนี้อยู่ครับ ดังนั้นหากเติมตามค่าตั้งต้นเวลายางเย็น ถึงยางจะร้อน จะแข็งขึ้น ยังน่าจะอยู่ในช่วงของความปลอดภัยตามที่ออกแบบมาครับ จึงไม่น่ากังวลแต่อย่างใด
ถูกต้องครับ ผมไม่เคยเห็นใครเข็นรถ หรือ ขึ้นรถสไลด์ เพื่อไปเติมลมยาง
เห็นแต่วิ่งๆ มาแล้วเติม ก็แสดงว่า ณ ตอนนั้น บางอุณภูมิร้อนกันทั้งนั้น
ยางมันมี ปอด์น ที่รับได้ของมันอยู่แล้ว(เยอะกว่าที่บางคนคิดอีก) เติมเข้า 5 ปอนด์ ก็ไม่เป็นไรหรอก ผมเคยเติม 40 ปอนด์ แต่ปกติ วิ่งทั่วไป ก็แค่ 30-32 ปอนด์ ต่างกันตั้ง 8 ปอด์น
-
ถ้ากังวลเรื่องขับออกไปแล้วอุณหภูมิขึ้นจะทำให้ การเติมกะแรงดันยาก ลองแบบผมดูครับ
ของผมใช้ที่สูบจักรยานแบบหัวใหญ่กับเกจ์วัดลมตัวนึงครับ วัดตอนเช้า ขาดก็เอาที่สูบลมจักรยานเติมเอา ใช้ได้เหมือนกันครับ เฉพาะเติมที่ขาดยืนโยกไม่กี่ครั้งหรอกครับ หรือถ้างบเยอะก็ลองพวกเครื่องสูบลมไฟฟ้าติดบ้านไว้ก็ดีครับ
-
ขอบคุณเพื่อนๆ สมช ในทุกความเห็น
เอาจริงๆก็ไม่ได้กลัวมาก ตราบใดที่มันไม่แบน
แค่อยู่ๆมานึกกลับด้านว่า ตอนที่มันขยายตัวจะเป็นยังไง
ถ้าไม่ได้ติด tmps คงไม่เอะใจอะไรหรอกครับ
สุดท้ายคือตัวเลขที่เห็นมันแม่นยำแค่ไหนก็ไม่รู้อีกแต่ก็คงเขื่อได้ในระดับนึง
บวกลบนิดหน่อยก็ไม่น่ามีปัญหาในการใช้งานจริง
-
ตอนร้อนแล้ว ลมขึ้น 37 ขับดีไหมล่ะครับ ถ้าดีแล้วก็ปล่อยมันไป แต่ถ้าไม่ชอบก็ เพิ่ม/ลด เอาครับ มีตัวอ่านค่าแล้วนั่งเล่น นั่งทดสอบดูเลยครับ
-
ตอนร้อนแล้ว ลมขึ้น 37 ขับดีไหมล่ะครับ ถ้าดีแล้วก็ปล่อยมันไป แต่ถ้าไม่ชอบก็ เพิ่ม/ลด เอาครับ มีตัวอ่านค่าแล้วนั่งเล่น นั่งทดสอบดูเลยครับ
ตอนร้อน ลมยาง 37-38 แอบกระด้างไปนิดนึงครับ
แต่ถ้าตอนร้อนแล้ว ลมยางมาใกล้ๆ spec คือ 34-35 รู้สึกดีครับ
-
ลมธรรมดา หรือ ไนโตร ก็ขยายครับ
ใครบอกไม่ขยาย ผมเถียงหัวขาดเลย
รถมี TPMS โรงงานติดมา กดดูตอนวิ่งไปสักพัก ก็เด้งขึ้นมา 3-4 ปอนด์ พอๆ กะลมธรรมดาเลย
ใช่เลยครับ Nitrogen สถานะก๊าซ มันก็หนีกฏของก๊าซไปไม่พ้น ที่บอกว่าแรงดันไม่เพิ่ม เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นนี่ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมเป็นแบบนั้น ที่เรียนมามันไม่ใช่
ปกติเติมลมธรรมดา ตอนวิ่งยาวๆยางร้อนๆ มัน +1 +2 จากที่เติมไปเท่านั้นเอง ดูจาก TPMS
-
ผมไม่ค่อยยึดติดกับตัวเลขข้างรถเท่าไร่ เอาไว้อ้าวอิงคร่าวๆมากกว่าครับ
จะเต็มตามข้างรถ ครั้งแรก แล้วปรับ เพิ่มลดตามที่ชอบต่อครับ
ถ้าแข็งไปก็ปล่อยออก1-2 psi ถ้ามันยวบยาบไปก็เติมเพิ่ม
แต่จะพยายามเติมที่เดิมตลอด ช่วงเดิมตลอด จะได้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
เก๋งเล็ก ล้อขอบ16 ผมเติม 30 ครับ
PPV ผมใส่ประมาณ 30
Nitrogen ผมเฉยๆคิดว่าการที่ต้องวนไปเติมที่เดิมตลอด กับสิ่งที่ได้มาเพิ่มสำหรับผมไม่ค่อยคุ้มกันครับ
ถ้ารถล้อใหญ่ๆขอบยางบางๆ อาจต้องระวังนิดนึงครับ ถ้าลมยางอ่อนไปบางทีเจอหลุมแล้วโอกาศยางแตกแม็กดุ้งสูงขึ้นครับ
-
ถ้าในคู่มือเค้าบอกให้เติมตอนเย็น
แสดงว่าวิศวกรเค้าก็ทดสอบกันตอนมันร้อนขยายมาแล้วล่ะครับ
condition ผมหาจังหวะเติมตอนยางเย็นยากเหลือเกิน
ลมธรรมดา ขับมาเติมปั๊ม ปั๊มก็ต้องวิ่งมาจนยางร้อนระดับนึง
ลมไนโตรเจน ขับมาเติมร้าน ร้านก็ต้องวิ่งมาจนยางร้อนระดับนึงเช่นกัน
เดี๋ยวจะลองแก้ปัญหาใช้ปั๊มลมที่มากับชุดปะยาง Almera แต่ไม่ต้องใส่น้ำยาดู
-
อ่านแล้วหายสงสัย ได้ข้อมูลดีๆ ครับ
ส่วนผมเติมทีไรก้อร้อน ไม่เคยเย็นซ๊ากกที แดดนะครับ 555
-
เติมตอนยาวก็ได้ครับ เผื่อไว้สัก 5 ก็ได้ครับ
แต่วัดตอนยางเย็น เกินเท่าไร่ค่อยปล่อยออก