Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: iiBOMBERMAN ที่ กรกฎาคม 24, 2023, 22:07:35
-
สอบถามเป้นความรู้ครับ อย่างเช่น M440I , CLS 53+ , TT RS (อาจจะยังไม่ต้องถึง M3,M4 , หรือ 63)
ถ้ามีรถไฟฟ้ามาเล่นด้วยอย่าง model 3 performance , C40 มอเตอร์คู่ Top , IX 50 Top
แบบนี้รอบต้นของพวก ICE ในโหมดปรกติ ยังไม่ถึงขั้น Sport + จะรับมือไหวไหมครับ ฮ่าๆๆ ถามกันเล่นๆ เป้นความรุ้ครับ เพราะรถไฟฟ้ามาแรงมากเหลือเกิน ให้ทั้งแรงม้าแรงบิดโหดจัด อย่าง VOLVO C40 ก็ 408 hp/ 660 Nm แล้ว
-
ถ้าซัดทางตรงๆยังไงก็รอดยาก แต่รถ ice sport/performance พวกนี้มันมีอะไรมากกว่าแค่เครื่อง
ช่วงล่าง การขับขี่ควบคุม 3er/c40 ผมว่า มันคงไปเทียบอะไรกับ AMG 53/mini M/TT ไม่ได้ครับ
-
เหมือนเอาเครื่องบินใบพัดไปสู้กับเครื่องเจ็ตอะครับ ::)
-
ถ้าตอนเด็กๆเล่นรถ tamiya ก็เอามอเตอร์แรงๆ ใส่
โมไส้ในใหม่ก็แรงขึ้น ล่าสุด cybertruck มอเตอร์ 4 ตัวเลย
เครื่องยนต์ผ่านหลายกระบวนการกว่าจะหมุนล้อ
ผมว่าช้ากว่า
เห็นข่าว BMW จะออก XM จะมีรุ่น Lebel Red 1000 NM
-
ถ้าเอาสถานการณ์ที่เกิดกับวงการนาฬิกามาเปรียบเทียบ นาฬิกาดิจิตอลกับนาฬิกาแบรนหรูคงคล้ายกันครับ แต่ปัญหาหลักของ แบรนด์อย่าง ferrari, porsche หรือ lambo น่าจะอยู่ที่กฎ carbon neutralในปี 2035 ครับ
-
เป็นเรื่องส่วนผสมที่ลงตัวครับ
ทั้งระบบขับเคลื่อน/ช่วงล่าง/โครงสร้าง/ระบบบังคับเลี้ยว
วัตถุดิบดีอย่างเดียว อาหารก็ไม่อร่อยสุดครับ
-
ตอบตรงๆ ตามหัวข้อกระทู้ก็สู้ไม่ได้ครับ
ให้เอาที่สุดของ ICE อย่าง avendator svj v12 มา ยังหนี tesla model s ไม่ออกเลย ยกเว้นจะวิ่งทางยาวๆ
-
8) 8) 8)......รับมือไหวไหม ? ไม่ไหวครับ EV direct rev 20,000 rpm ++ที่ออกเพลาขับล้อตอบผู้ใช้
แค่ รอบ/นาที ICE ก็ยกธงขาว โดยไม่ต้องรอถึงปี 2030 แล้วครับ ห่วงอย่างเดียว รอบมอเตอร์สูงจัดรถ EV ที่ EV-F coolant เองก็กด ลดความร้อนเอาไม่อยู่ แกนมอเตอร์ร้อนจัดไฟไหม้ ไฟลุกท่วมกับ EV ที่บ่อยครั้งเกิดขึ้นทั้งในรัฐ ทะเลทราย NEVADA,ARIZONA n NEW MEXICO ศาลพิพากษาให้ชดใช้ กับผู้ใช้รถและครอบครัว นับรายไม่ถ้วนแล้วในรอบหลายปีมานี้ ผู้ผลิต EV เองก็พยายามปิดช่าว !!!
ในบ้านเราก็ยังเป็นที่รับผ่อง-ถ่ายสต็อค รถ ICE ต่อไปอีกหลายปีโดยยังไม่สูญพันธุ์ ขณะเดียวกันผู้ผลิตรถทวีปตะวันตก ก็ชัดเจนว่าปี 2030-2035 แต่ละประเทศเลิกผลิต PS ICE เด็ดขาดเป็นรายประเทศพวกเขาไป บีบผู้ใช้ ICE โดยการ double ภาษี 2-3 เท่ากับรถ ICE ส่วนบ้านเรา ทั้ง ICE & EV ยัง 50:50 ครับ เพราะเศรษฐกิจกับ mass transits บ้านเรายังไม่ร่ำรวยและกำลังพัฒนาสาธารณูปโภค ยังตามหลังซีกตะวันตกกับจีนอยู่อีก 20-10 ปีเป็นอย่างเร็วครับ :-X
-
ตอนไปลองขับ Tesla 3 ผมลองกดไปครั้งนึง ก็หายอยากแล้วครับ ช่วงล่างขับเร็วเกิน 90-100 ขึ้นไป ก็ไม่สนุกแล้ว เด้งๆย้วยๆ กลายเป็นขับเรื่อยๆ ซัก 80-90 กลับแน่นๆหนึบๆกว่า ไม่ได้รู้สึกว่าถ้าซื้อมาใช้ ต้องเร่งปรู๊ดปร๊าดตลอดเวลา ขับ one pedal มันสบายกว่าเยอะเลย สำหรับรถไฟฟ้า
ความสนุก ความสุนทรีย์ ในการขับรถ บางทีมันไม่ใช่แค่กดกันทางตรงอย่างเดียวอะครับ รถ ICE มันมีเสน่ห์ของมันอยู่ครับ แต่การใช้งานจริง ก็ต้องปรับกันไปตามยุคสมัย
-
ถ้าวิ่งตรงๆไม่ยาวมาก EV ก็กินหล่ะครับ แต่หน้าตาคนขับจะแบบเสียวว๊าบบบ
เพราว่าช่วงล่าง พวงมาลัย เบรค ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับตัวรถ
แต่ถ้าเจอทางยาวมากๆ ก็โดน ICE สวนความเร็วปลายอยู่ดี 250++ ยังไง EV ก็โดน
ยังไงฟิวการขับขี่ ICE Hi Performance ก็ดีกว่าอยู่ดี
ถ้าจะเทียบกับ EV ก็น่าจะต้องเป็นพวก Taycan, E-Tron GT ประมาณนี้
EV คันละล้านไม่ต้องมานับครับ อันนั้นรถแม่บ้านจ่ายตลาด
-
อย่างเช่น M440I , CLS 53+ , TT RS (อาจจะยังไม่ต้องถึง M3,M4 , หรือ 63)
ถ้าเป็นผมขับ หลังถนนสู้ได้ อยากเจอด้วย เด๋วรู้จัก
ถ้าจอดออกตัวพร้อมกันบนรันเวย์เรียบ ๆ โล่ง ๆ แบบที่ใน youtube ชอบทำกัน
อันนี้ผมไม่เล่นด้วย รู้ผลอยู่แล้วไม่สนุก
-
มันสู้กันไม่ได้อยู่แล้วคับ เทคโนโลยี ICE มันมีมาร้อยกว่าปีและใกล้ถึงทางตันละ ส่วน EV มันเพิ่งมาและยังไปต่อได้อีกเยอะ
แต่เห็นๆ เอามาซิ่ง ๆ กัน คือรถบ้าน ๆ ของสาย EV มาวัดกับสาย performance ของ ICE กันแล้วนะคับ .....ถ้าสาย Performance EV ออกมาเยอะ ๆ รถ ICE ก็คงไม่ต้องไปสู้อะคับ
เอาที่เห็นได้บ่อย ๆ Atto3 รถบ้าน ๆ นี่แหละ มันเร่งได้เร็วกว่า civic turbo ซะอีก ....เอ แล้วมีใครเอาเจ้า MG4 ที่ว่ากันว่าช่วงล่างดี ๆ ไปวัดกันในโค้งกะ Civic หรือยังนั่น 55
-
(https://www.youtube.com/watch?v=BfXV4Jm9Y60&t=2900s)
https://www.youtube.com/watch?v=BfXV4Jm9Y60&t=2900s (https://www.youtube.com/watch?v=BfXV4Jm9Y60&t=2900s)
Model Y บ้านๆ ก็เร็วกว่า GR Supra / CLS 53 ละครับ
อนาคต ถ้า plaid มาไม่ต้องสู้ละแรงต้นยันปลาย 320+
-
ถ้ามุดกัน 80 - 160
พวก XC40 C40 น่าจะไม่กลัวรถน้ำมันคันไหนเลย
เห็นอัตราเร่ง 80 - 120 อย่างกับซุปเปอร์คาร์
-
ice น่าจะได้อรรถรสมากกว่านะครับ มีเสียงเครื่องเสียงท่อพวกนี้ ส่วน bev ก็คือ แรง จบเลย
ไม่รู้ว่ารถระดับนั้น เขาเอามาแข่งกัน หรือทำเวลากันแค่ไหน หรือว่าซื้อสนองความต้องการ และเกร็งกำไร
ในสนามแข่งก็อาจไม่ได้อยู่คลาสเดียวกัน เหนบางคลิป แข่ง Drag ก็ไม่ให้รถไฟฟ้าลงแข่ง.
-
ถนนโล่งๆ EV กินสบายๆ แต่ชีวิตจริงจะขับ 120 แช่ยาวๆยังไม่ค่อยมีโอกาสเลย ต่างจังหวัดก็ไม่ค่อยได้ออก ::) ::) ::)
-
ความจริง ก็คือ ความจริง ครับ
ยอมรับความจริงได้ ก็จบ
รถ BEV มันไม่ได้มีแค่แรงม้า แรงบิดมันมาด้วยซิ ขนาดแรงม้าต่อน้ำหนักรถ BEV มากกว่า ยังกระโดดออกเป็นกบเลย ทิ้งตั้งแต่ออกตัว ใน rank ที่แรงม้ารถ BEV กับ ICE เท่าๆ กัน
แต่พอปลายๆ ก็ต้องเข้าใจว่า มอเตอร์รถ BEV มันก็เริ่มหมด แรงรถ ICE มีอัตราทด หรือ เกียร์ ช่วยลากต่อ มันก็อาจจะโดนสวนในรอบปลายๆ ก็เป็นเรื่องปกติ เช่นกัน
มองกันที่ความเป็นจริงครับ
ส่วนใครจะรับมือใคร อะไรยังไง นั้น ผมว่า เจาก็เฉยๆ เพราะสุดท้าย I3 I4 ก็ต้องมาแทนที่ M3 M4 อยู่ดี
-
ผมขับ Y LR แรกๆกระทืบคันเร่งแรงๆคือโครตเสียวอ่ะ มันไปแบบเห้ยยยขนาดนี้เลยเหรอวะ
ผมเรียกมันว่าเครื่องวาร์ป ไม่อยากจะคิดถึงตัว Y Per จะขนหัวลุกขนาดไหน แต่อารมณ์มันก็รถไฟฟ้า
ไร้เสียงไร้อารมณ์ไม่เหมือนพวก ICE Per ทั้งหลายแน่นอน แต่ผมชอบไฟฟ้าตรงแรงสั่งได้ไม่รอรอบ
ส่วนตัวไม่ขับเกิน 160-180 อยู่แล้ว เดี๋ยวนี้ถนน+การขับรถของเมืองไทยไม่ไหวจริงๆครับ
-
BEV มันแรงกว่าแน่ๆ ปัญหามันก้าวข้ามการที่ ICE จะรับไหว
ไปอยู่ที่จะรับไหวไหมกับนักขับที่คึกคะนองมากกว่าครับ
ถึงจุดนึง บริษัทรถยนต์ที่รับผิดชอบต่อสังคมจะเริ่มตอนกำลังมอเตอร์
เพื่อความปลอดภัยของท้องถนนโดยรวมและถนอมแบต ถนอมรถ
มากกว่าครับ
-
ถ้าเป็นทางตรงๆ โล่งๆ ระยะไม่ไกลมาก เหมือนอยู่บนสนาม drag หรือรันเวย์
แบบนี้ยังไง EV ก็ได้เปรียบชัดเจนครับ
แต่ถ้าต้องมีเบรคหรือเข้าโค้งด้วย ซึ่งถนนปกติมักก็ต้องมีมุดๆเบรคๆอยู่แล้ว
ตรงนี้ EV จะเสียเปรียบเพราะน้ำหนักที่มากกว่า
บวกกับรถ EV ส่วนมากมักไม่ได้เซ็ตมาให้ขับแนวนี้อยู่แล้ว (แต่ก็แล้วแต่รุ่น)
แล้วถ้ายิ่งเอาลงสนามที่โค้งเยอะๆ อย่าง Nürburgring นี่ EV ยิ่งสู้ไม่ได้ครับ
ขนาด Tesla Model S Plaid ที่มี 1000แรงม้า+ ยังทำเวลาในสนามสู้รถ ICE ที่แรงน้อยกว่านี้ครึ่งนึงไม่ได้ด้วยซ้ำ ::)
https://www.youtube.com/watch?v=jjSXWcj2XUA
https://www.youtube.com/watch?v=Y1r4ZotaY6U
เวลารุ่นของอื่นๆลองไปดูเล่นๆครับ
https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_N%C3%BCrburgring_Nordschleife_lap_times
ของสนาม Willow Spring ก็มีช่อง Hagerty ทำไว้ครับ
https://www.youtube.com/@Hagerty
(https://sv1.picz.in.th/images/2023/07/25/MAgTO1.jpeg)
และอันนี้ของช่อง Throttle House
https://www.youtube.com/@ThrottleHouse
(https://sv1.picz.in.th/images/2023/07/25/MAgtXy.jpeg)
ที่โพสแบบนี้ไม่ใช่อะไรนะ
คือผมอยากเห็นรถ EV ที่เซ็ตการขับขี่มาทั้งคัน ให้เหมาะกับความแรงของรถด้วย
ความแรงหน่ะไม่ต้องกังวล แต่ขอทำช่วงล่างกับเบรคมาดีๆหน่อยเถอะ
ไม่ใช่เบรคเอาไม่อยู่แล้ว overheat แบบ Model S Plaid ที่สื่อทดสอบเจอกันบ่อยๆ
ที่ดูน่าจับตามองก็มี Hyudai Ioniq 5 N ที่เซ็ตรถมาให้ขับในสนามด้วย แต่ก็ต้องรอดูรีวิวต่อไป
-
ICE ไล่ไม่ทันครับ จังหวะ lag จังหวะเปลี่ยนเกียร์เสียเปรียบหมด เคยเห็นรถ EV วิ่งบนไดโนกราฟหนามากไม่ต้องรอรอบเลยครับ แต่เดี๋ยวนี้รถ ICE อย่าง TTRS, BMW M40i/ M3,M4/ GR Supra ถ้าใจถึงทำต่อได้เยอะครับ วิ่ง 402m ระดับ 9 วิกับไส้ในเดิมๆได้
-
รถไฟฟ้ามันชนะอยู่แล้วครับ และมันแรงเกินความจำเป็นด้วย รถที่ใช้ในทุกวันของคนส่วนมาก แรงม้าแค่ 180 ก็เหลือๆแล้ว
แรงมากไปให้คนส่วนมากใช้ก็เป็นอันตรายครับ คิดดูสิในอนาคตต่อไปคนมีงบหลักล้านจะขับรถไฟฟ้าแรงม้าสักสองร้อยแรงบิดสักสามร้อยกันเกลื่อนเมือง อุบัตเหตุมันจะเพิ่มขึ้นจนคุมกันลำบากนะ
-
ไม่ต้องสู้เลยครับ ถ้าว่ากันด้วยความแรง อัตราเร่ง ;D
-
ตอบกันตามความเป็นจริง จริงๆ เอาเฉพาะความแรงมาข่มกัน แข่งกันแบบ Drag race EV ย่อมชนะอยู่แล้วครับ
แต่ความเป็นจริงอีกอย่างก็คือ กลุ่มผู้บริโภครถเครื่อง ICE เค้าไม่จำเป็นต้องมารับมืออะไรกับเรื่องนี้
เพราะรถมันจะดี ขับสนุก กลมกล่อม มันต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างรวมกัน "ไม่ใช่แค่แต่ความเร็วทางตรงแบบ Drag race"
นอกจากเรื่องการขับขี่ ก็ยังมีเรื่องความสะดวกในการใช้งานของแต่ละท่านรวมอยู่ด้วยครับ
แล้วก็อีกอย่างครับ คุณๆเราๆจะใช้ความเร็วความแรงของรถ EV กันเต็มประสิทธิภาพตลอดต่อเนื่องกันขนาดนั้นเลยเหรอครับ?
เอาเท่าที่ผมเห็นน่ะครับ ผมขับรถ ICE แรงม้ามีแค่ 150กว่าแรง วิ่งไปบนทางด่วนดาวคนองไปรังสิต ตลอดทางผมแซง Tesla ไป 2-3 คัน
แล้วแซงรถ EV รุ่นอื่นๆอีก รวมกันหลายคัน ตลอดทาง"ไม่มีรถ EV คันไหนวิ่งแซงผมเลยแม้แต่คันเดียว" ทั้งที่ทางก็โล่ง เครื่องก็แรงกว่าผมเยอะ
รถ EV ที่เห็นส่วนมากที่เห็นเค้าก็จะขับกันแค่ 80-110 นี่แหละครับบนทางด่วน ส่วนพวกที่วิ่งเกิน 140 ยาวๆมีแต่ ICE ทั้งนั้น
ผมก็สงสัยเหมือนกันครับว่าทำไม (วิ่งเร็วกลัวไฟหมดไว ขี้เกียจชาร์จบ่อย?) อันนี้สังเกตุมาตลอดหลายครั้งนะครับ ไม่ใช่แค่แป๊บๆ
อันนี้พูดถึงบนถนนบ้านเราน่ะครับ ถ้าประเทศอื่น ผมไม่ทราบครับ
ที่จะสื่อก็คือ คนส่วนมาก ผมว่า 80-90% เลย วิ่งบนถนนกันไม่ได้ใช้ความเร็วความแรงกันคุ้มค่าเต็มประสิทธืภาพตามที่โฆษณาไว้หรอกครับ
มันก็มีแหละ คนที่ใช้คุ้ม แต่ % น้อยมากครับ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ใช้รถ EV นะครับ คนกลุ่มนี้เป็นคนสีเขียว โดยส่วนมาก ไม่ใช่คนชอบความเร็ว
หรือรถขับสนุก ทำรถมาเร็วแรงแค่ไหน เค้าก็ไม่ได้ใช้ครับ ก็คือรถจะเร็วแรงแค่ไหน ถ้าคนใช้ใช้ไม่หมด ก็ไม่มีประโยชน์ครับ
ทำมาสิ้นเปลืองทรัพยากรโดยใช้เหตุ ทำได้จริงๆอย่างเดียวคือมีไว้คุยบนโลกออนไลน์ ว่ารถฉันเร็วแรง 0-100 3-5วิ เร็วปลาย 250+ (ท่องตามโบชัวร์มาเลย)
ราชาแห่งท้องถนน ชนะได้ทุกคัน ทั้งๆที่ตัวเองใช้จริงๆประสิทธิภาพไม่ได้เคยเกินความเร็วของ อีซูซุ มังกรทอง...
เหมือนคุณสั่งเกาเหลาพิเศษแบบซุปเปอร์มาทาน ในชามมีลูกชิ้น 20ลูก แต่จริงๆคุณกินแค่ 4-5ลูก ที่เหลือในชามโยนทิ้ง สั่งอลังการให้โต๊ะรอบข้างดูเล่นๆ...
ใช้งานในย่านความไม่เกิน 120 km/h รถน้ำหนักไม่เกิน 1.5 ตัน แรงม้าไม่จำเป็นต้องเกิน 160 ม้า
ถ้าหนักไม่เกิน 2 ตัน แรงม้าไม่จำเป็นต้องเกิน 200 ม้า ก็เร่งแซงหรือขึ้นเนินได้ขาดๆสบายๆครับ ขับประมาณนี้ เครื่องไม่จำเป็นต้องแรงกว่านี้แล้วครับ
สรุปคือ สิ่งที่คุณ จขกท ถาม ผมว่าไม่ใชเรื่องที่จะต้องมารับมือหรืออะไรกันนะครับ ตามเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น
ปล. แต่ผมเข้าใจว่า จขกท ถามเล่นๆ จริงๆคำตอบอยู่บรรทัดแรกอย่างเดียวแหละครับ ที่เหลือถือว่าผมพล่ามเล่นๆครับ อย่าถือสา
-
รถไฟฟ้ามันชนะอยู่แล้วครับ และมันแรงเกินความจำเป็นด้วย รถที่ใช้ในทุกวันของคนส่วนมาก แรงม้าแค่ 180 ก็เหลือๆแล้ว
แรงมากไปให้คนส่วนมากใช้ก็เป็นอันตรายครับ คิดดูสิในอนาคตต่อไปคนมีงบหลักล้านจะขับรถไฟฟ้าแรงม้าสักสองร้อยแรงบิดสักสามร้อยกันเกลื่อนเมือง อุบัตเหตุมันจะเพิ่มขึ้นจนคุมกันลำบากนะ
ดอลฟิน เอกเทนด์ นี่แหล่ะครับ น่าจะเป็นตัวตึงรายต่อไป
ราคาจับต้องได้ อินสแตนทอร์ค 300 nm.
ลงยางดี ๆ โช๊คดี ๆ เอาแรงม้า แรงบิดลงพื้นเต็ม ๆ 0-100 ต้องมี 6 วิกว่า
-
ตอบกันตามความเป็นจริง จริงๆ เอาเฉพาะความแรงมาข่มกัน แข่งกันแบบ Drag race EV ย่อมชนะอยู่แล้วครับ
แต่ความเป็นจริงอีกอย่างก็คือ กลุ่มผู้บริโภครถเครื่อง ICE เค้าไม่จำเป็นต้องมารับมืออะไรกับเรื่องนี้
เพราะรถมันจะดี ขับสนุก กลมกล่อม มันต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างรวมกัน "ไม่ใช่แค่แต่ความเร็วทางตรงแบบ Drag race"
นอกจากเรื่องการขับขี่ ก็ยังมีเรื่องความสะดวกในการใช้งานของแต่ละท่านรวมอยู่ด้วยครับ
แล้วก็อีกอย่างครับ คุณๆเราๆจะใช้ความเร็วความแรงของรถ EV กันเต็มประสิทธิภาพตลอดต่อเนื่องกันขนาดนั้นเลยเหรอครับ?
เอาเท่าที่ผมเห็นน่ะครับ ผมขับรถ ICE แรงม้ามีแค่ 150กว่าแรง วิ่งไปบนทางด่วนดาวคนองไปรังสิต ตลอดทางผมแซง Tesla ไป 2-3 คัน
แล้วแซงรถ EV รุ่นอื่นๆอีก รวมกันหลายคัน ตลอดทาง"ไม่มีรถ EV คันไหนวิ่งแซงผมเลยแม้แต่คันเดียว" ทั้งที่ทางก็โล่ง เครื่องก็แรงกว่าผมเยอะ
รถ EV ที่เห็นส่วนมากที่เห็นเค้าก็จะขับกันแค่ 80-110 นี่แหละครับบนทางด่วน ส่วนพวกที่วิ่งเกิน 140 ยาวๆมีแต่ ICE ทั้งนั้น
ผมก็สงสัยเหมือนกันครับว่าทำไม (วิ่งเร็วกลัวไฟหมดไว ขี้เกียจชาร์จบ่อย?) อันนี้สังเกตุมาตลอดหลายครั้งนะครับ ไม่ใช่แค่แป๊บๆ
อันนี้พูดถึงบนถนนบ้านเราน่ะครับ ถ้าประเทศอื่น ผมไม่ทราบครับ
ที่จะสื่อก็คือ คนส่วนมาก ผมว่า 80-90% เลย วิ่งบนถนนกันไม่ได้ใช้ความเร็วความแรงกันคุ้มค่าเต็มประสิทธืภาพตามที่โฆษณาไว้หรอกครับ
มันก็มีแหละ คนที่ใช้คุ้ม แต่ % น้อยมากครับ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ใช้รถ EV นะครับ คนกลุ่มนี้เป็นคนสีเขียว โดยส่วนมาก ไม่ใช่คนชอบความเร็ว
หรือรถขับสนุก ทำรถมาเร็วแรงแค่ไหน เค้าก็ไม่ได้ใช้ครับ ก็คือรถจะเร็วแรงแค่ไหน ถ้าคนใช้ใช้ไม่หมด ก็ไม่มีประโยชน์ครับ
ทำมาสิ้นเปลืองทรัพยากรโดยใช้เหตุ ทำได้จริงๆอย่างเดียวคือมีไว้คุยบนโลกออนไลน์ ว่ารถฉันเร็วแรง 0-100 3-5วิ เร็วปลาย 250+ (ท่องตามโบชัวร์มาเลย)
ราชาแห่งท้องถนน ชนะได้ทุกคัน ทั้งๆที่ตัวเองใช้จริงๆประสิทธิภาพไม่ได้เคยเกินความเร็วของ อีซูซุ มังกรทอง...
เหมือนคุณสั่งเกาเหลาพิเศษแบบซุปเปอร์มาทาน ในชามมีลูกชิ้น 20ลูก แต่จริงๆคุณกินแค่ 4-5ลูก ที่เหลือในชามโยนทิ้ง สั่งอลังการให้โต๊ะรอบข้างดูเล่นๆ...
ใช้งานในย่านความไม่เกิน 120 km/h รถน้ำหนักไม่เกิน 1.5 ตัน แรงม้าไม่จำเป็นต้องเกิน 160 ม้า
ถ้าหนักไม่เกิน 2 ตัน แรงม้าไม่จำเป็นต้องเกิน 200 ม้า ก็เร่งแซงหรือขึ้นเนินได้ขาดๆสบายๆครับ ขับประมาณนี้ เครื่องไม่จำเป็นต้องแรงกว่านี้แล้วครับ
สรุปคือ สิ่งที่คุณ จขกท ถาม ผมว่าไม่ใชเรื่องที่จะต้องมารับมือหรืออะไรกันนะครับ ตามเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น
ปล. แต่ผมเข้าใจว่า จขกท ถามเล่นๆ จริงๆคำตอบอยู่บรรทัดแรกอย่างเดียวแหละครับ ที่เหลือถือว่าผมพล่ามเล่นๆครับ อย่าถือสา
เขาน่าจะ auto pilot อยู่ครับ สบายๆ 55
-
ขอเป็นความรู้นิดครับ ICE คืออะไรหรือครับ
-
ตอบกันตามความเป็นจริง จริงๆ เอาเฉพาะความแรงมาข่มกัน แข่งกันแบบ Drag race EV ย่อมชนะอยู่แล้วครับ
แต่ความเป็นจริงอีกอย่างก็คือ กลุ่มผู้บริโภครถเครื่อง ICE เค้าไม่จำเป็นต้องมารับมืออะไรกับเรื่องนี้
เพราะรถมันจะดี ขับสนุก กลมกล่อม มันต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างรวมกัน "ไม่ใช่แค่แต่ความเร็วทางตรงแบบ Drag race"
นอกจากเรื่องการขับขี่ ก็ยังมีเรื่องความสะดวกในการใช้งานของแต่ละท่านรวมอยู่ด้วยครับ
แล้วก็อีกอย่างครับ คุณๆเราๆจะใช้ความเร็วความแรงของรถ EV กันเต็มประสิทธิภาพตลอดต่อเนื่องกันขนาดนั้นเลยเหรอครับ?
เอาเท่าที่ผมเห็นน่ะครับ ผมขับรถ ICE แรงม้ามีแค่ 150กว่าแรง วิ่งไปบนทางด่วนดาวคนองไปรังสิต ตลอดทางผมแซง Tesla ไป 2-3 คัน
แล้วแซงรถ EV รุ่นอื่นๆอีก รวมกันหลายคัน ตลอดทาง"ไม่มีรถ EV คันไหนวิ่งแซงผมเลยแม้แต่คันเดียว" ทั้งที่ทางก็โล่ง เครื่องก็แรงกว่าผมเยอะ
รถ EV ที่เห็นส่วนมากที่เห็นเค้าก็จะขับกันแค่ 80-110 นี่แหละครับบนทางด่วน ส่วนพวกที่วิ่งเกิน 140 ยาวๆมีแต่ ICE ทั้งนั้น
ผมก็สงสัยเหมือนกันครับว่าทำไม (วิ่งเร็วกลัวไฟหมดไว ขี้เกียจชาร์จบ่อย?) อันนี้สังเกตุมาตลอดหลายครั้งนะครับ ไม่ใช่แค่แป๊บๆ
อันนี้พูดถึงบนถนนบ้านเราน่ะครับ ถ้าประเทศอื่น ผมไม่ทราบครับ
ที่จะสื่อก็คือ คนส่วนมาก ผมว่า 80-90% เลย วิ่งบนถนนกันไม่ได้ใช้ความเร็วความแรงกันคุ้มค่าเต็มประสิทธืภาพตามที่โฆษณาไว้หรอกครับ
มันก็มีแหละ คนที่ใช้คุ้ม แต่ % น้อยมากครับ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ใช้รถ EV นะครับ คนกลุ่มนี้เป็นคนสีเขียว โดยส่วนมาก ไม่ใช่คนชอบความเร็ว
หรือรถขับสนุก ทำรถมาเร็วแรงแค่ไหน เค้าก็ไม่ได้ใช้ครับ ก็คือรถจะเร็วแรงแค่ไหน ถ้าคนใช้ใช้ไม่หมด ก็ไม่มีประโยชน์ครับ
ทำมาสิ้นเปลืองทรัพยากรโดยใช้เหตุ ทำได้จริงๆอย่างเดียวคือมีไว้คุยบนโลกออนไลน์ ว่ารถฉันเร็วแรง 0-100 3-5วิ เร็วปลาย 250+ (ท่องตามโบชัวร์มาเลย)
ราชาแห่งท้องถนน ชนะได้ทุกคัน ทั้งๆที่ตัวเองใช้จริงๆประสิทธิภาพไม่ได้เคยเกินความเร็วของ อีซูซุ มังกรทอง...
เหมือนคุณสั่งเกาเหลาพิเศษแบบซุปเปอร์มาทาน ในชามมีลูกชิ้น 20ลูก แต่จริงๆคุณกินแค่ 4-5ลูก ที่เหลือในชามโยนทิ้ง สั่งอลังการให้โต๊ะรอบข้างดูเล่นๆ...
ใช้งานในย่านความไม่เกิน 120 km/h รถน้ำหนักไม่เกิน 1.5 ตัน แรงม้าไม่จำเป็นต้องเกิน 160 ม้า
ถ้าหนักไม่เกิน 2 ตัน แรงม้าไม่จำเป็นต้องเกิน 200 ม้า ก็เร่งแซงหรือขึ้นเนินได้ขาดๆสบายๆครับ ขับประมาณนี้ เครื่องไม่จำเป็นต้องแรงกว่านี้แล้วครับ
สรุปคือ สิ่งที่คุณ จขกท ถาม ผมว่าไม่ใชเรื่องที่จะต้องมารับมือหรืออะไรกันนะครับ ตามเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น
ปล. แต่ผมเข้าใจว่า จขกท ถามเล่นๆ จริงๆคำตอบอยู่บรรทัดแรกอย่างเดียวแหละครับ ที่เหลือถือว่าผมพล่ามเล่นๆครับ อย่าถือสา
ผมเข้าใจท่านนะครับ ผมก็ใช้ไฟฟ้าบ้านๆคันนึง ขับปกติก็ 80-110 ไม่กวนอะไรใคร แต่ชอบจะมีรถมากวนนี่สิ ล่าสุด3ประตู ก็กดไปนิดๆก็ยกเพราะช่วงล่างมันแย่ บางท่านมี EV แรงๆขับช้าๆแต่พร้อมบวกกับพวกรถบ้านซิ่งมันก็มีครับ
-
ขอเป็นความรู้นิดครับ ICE คืออะไรหรือครับ
รถเครื่องยนต์สันดาบที่ใช้น้ำมันครับ มาจาก intermal combustion engine
-
รถขับสนุกคันนึงมันไม่ได้อยู่ที่แรงอย่างเดียวครับ
ไม่งั้น MX-5 ก็คงเจ๊งไปล่ะ
แต่ยังไงก็ตามในยุคที่ไฟฟ้าพัฒนาเรื่อยๆ ยังไงซักวันความแรงก็คงต้องเปลี่ยนผ่านไป xEV กันครับ
-
ขอเป็นความรู้นิดครับ ICE คืออะไรหรือครับ
รถเครื่องยนต์สันดาบที่ใช้น้ำมันครับ มาจาก intermal combustion engine
ขอบคุณมากครับ
-
ถ้าแข่งแค่ 400เมตร หรือแข่งออกตัวความเร็วปลายสุดไม่เกิน 250 ก็คงให้ไฟฟ้าละมั้ง
แต่ถ้าวิ่งกันยาวกว่านั้น ยังไงไฟฟ้าก็โดน และถ้าวัดกันแบบแฟร์ๆ แบบในสนาม รถไฟฟ้าแพ้น้ำมัน ทั้งความเร็วและระยะทางเลย
ส่วนการใช้งานบ้านๆ ซิ่งทั่วไป กดจมคันเร่งกันจริงๆไม่ถึง 5 วิแล้วยก หรือพวกเล่น 3 เกียร์ ไฟฟ้ากินเรียบ
-
สำหรับคนที่ชอบขับรถแบบผมความแรงไม่ใช่คำตอบ
แค่jazz mtเซ็ตช่วงล่างดีๆสักคันก็สนุกกว่า civic จูนเต็มเป็นไหนๆ
-
เหมือนกล้องดิจิตอลกับกล้องฟิล์ม มืออาชีพก็ต้องหาความรู้มาสร้างประโยชน์ คนใช้ทั่วไปก็รับรู้เลือกใช้ปรับตัวไป ผู้ใช้แนวคลาสสิคก็สะสมเอนจอยความชอบ แต่สุดท้ายเทคโนโลยีมันจะไปทาง ev...ยิ่งเมื่อแบตเล็ก เบา จุ มอเตอร์ประหยัด แรง ฉลาด ตอนนั้นข้อเสียก็คงถูกลบออกไปหมดครับ
-
ผมว่ามันคนละอารมณ์กันครับ น่าจะเป็นเรื่องนี้มากกว่าที่คนตัดสินใจซื้อรถแรงๆ เครื่อง ICE อยู่
-
ตอบแบบ คนชอบรถ
มันก็เป็นประสพการณ์ แบบ ตอนที่ ขับ Civic ตาโต แล้ว ไปโดน Cef A31 วาง RB25 DET ของเพื่อน อ่ะครับ
หลังติดเบาะ อัตราเร่ง มัน เร้า อดรีนาลีน มากๆ
วันนี้ Torque ของ EV มันก็ Feeling นั้น สำหรับผม
ตอบแบบ ตรงคำถาม ถ้าเอาความแรง ICE สู้ไม่ได้ นานแล้วฮะ
แต่ นั่ง รถ EV ตัวแรง ของเพื่อน ไปวังน้ำเขียว เพื่อนขับ 80-100 เลย ถามว่า ทำไมว๊ะ เค้าบอกว่า ขี้เกียจหาที่ชาร์ท !!!!!!
โครงการ จัดซื้อ รถ EV ผม เลย เลื่อนไป ไม่มีกำหนด !!!!!
-
ตอบแบบ คนชอบรถ
มันก็เป็นประสพการณ์ แบบ ตอนที่ ขับ Civic ตาโต แล้ว ไปโดน Cef A31 วาง RB25 DET ของเพื่อน อ่ะครับ
หลังติดเบาะ อัตราเร่ง มัน เร้า อดรีนาลีน มากๆ
วันนี้ Torque ของ EV มันก็ Feeling นั้น สำหรับผม
ตอบแบบ ตรงคำถาม ถ้าเอาความแรง ICE สู้ไม่ได้ นานแล้วฮะ
แต่ นั่ง รถ EV ตัวแรง ของเพื่อน ไปวังน้ำเขียว เพื่อนขับ 80-100 เลย ถามว่า ทำไมว๊ะ เค้าบอกว่า ขี้เกียจหาที่ชาร์ท !!!!!!
โครงการ จัดซื้อ รถ EV ผม เลย เลื่อนไป ไม่มีกำหนด !!!!!
ไม่ได้ชาร์จเร็วเหมือนเติมน้ำมันครับ นี่แหละปัญหาหลักเลยครับ กับเรื่องแรงจริงนะครับแต่เรื่องการซ่อมบำรุงต้องเข้าศูนย์อย่างเดียวสำหรับ คนตจว. ครับ กับฟีลลิ่งการขับขี่ที่ต่าางกันครับ ผมว่ารถไฟฟฟ้าหลายๆรุ่นที่ไม่ใช่ ปอเช่ taycan หรือออดี้ ที่มันเกิดมาเป็นรถสปอร์ต รถไฟฟ้าทั้งหลาย หลายสื่อยังพูดถึงความคมของพวงมาลัยและช่วงล่างยังไม่คมเท่ารถน้ำมันครับ
-
Tesla Model 3 LR ลงโชค RSR Best i ลงเบรค 6pot ลงล้อ Flowforming จบไม่เกิน 3 ล้าน
ขึ้นทางด่วนมีรถประมาณนึง หรือทางตจวช่วงกลางวันที่มีรถปกติ
Option1: เปิด Auto pilot แช่ไว้ 110 นั่งยาวๆ ไปเลยครับ >> สบาย ไม่เปลืองไฟ
Option2: อยากซิ่ง ขับมุดๆ ผมรับรองว่าไม่มี Ice คันไหนที่ท่านว่ามา แซงได้
เหตุผลคืออะไร ? >> จังหวะ กดๆ มุดๆ นี่แหละครับ EV ตัวดีเลย เร่งจึ๊ก เบรค จึ๊ก ไวสุดๆ มีช่องหน่อย กดจาก 140-200 แว๊บเดียว เบรค มุด แล้วเหยียบอีก
ICE เอาอะไรไปแซงครับ ถ้าคนขับ Skill เดียวกันนะครับ
แต่ถ้าดึกๆ โล่งๆ ผมว่า ICE ทำมา top speed เกิน 250
ICE กินนะครับ Tesla หลัง 200 ขึ้นไม่ไวแล้ว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่างลืมว่า Tesla ตัวปัจจุบันในไทย ไม่มีมีเกียร์
ถ้าตัวต่อไปใส่มาสัก 2 หรือ 3 เกียร์ เหมือน Taycan turbo S ผมว่า ICE โดนทุกกรณี