Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Sai151088 ที่ สิงหาคม 18, 2023, 11:14:12
-
ระบบ Auto Start-Stop ช่วบประหยัดและคุ้มจริงมั้ย
และทำให้ battery พังไวกว่าเดิม? อายุสั้นลงใช่มั้ยครับ
-
ลดไอเสียครับ...
-
เขาว่ากันว่า แบ็ตเสื่อมไว (เค้าเล่าว่านะครับ) แต่โดยส่วนตัวจะปิดตลอด เพราะไม่ชอบที่ดับติดๆดับๆ แบ็ตเฉลี่ยก็ใช้ได้ 2ปีอยู่นะครับ
ส่วนประหยัดน้ำมันคิดว่าก็คงประหยัดขึ้นแหละ ก็เครื่องมันดับนิเนอะ
-
ประหยัดครับ โดยปกติผมขับรถเปิดกระจกเป็นปกตินะครับ
ถ้าติดซัก 3 ไฟแดง ไฟแดงละ 100 วิ
จากค่าเฉลี่ย 9.8/100 เหลือ 9.6/100 ได้เลย
ถ้า Weight กับการใช้งานแบต อันนี้ไม่เคยทดลองครับ แต่โดยหลักการแบตอายุสั้นกว่าแน่ๆ
-
ไอเสีย มาจากการเผาไหม้น้ำมัน
ช่วงที่เครื่องยต์ดับ = หยุดการใช้น้ำมัน หยุดปล่อยไอเสีย
สรุป มันก็ทัังประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยไอเสียครับ
-
เหมือนเคยมีทดสอบระบบพวกนี้
ผลคือจะประหยัดเมื่อเครื่องดับเกิน 7-8 วินาที ขึ้นไปครับ
ถ้าหาคลิปนั้นเจอเดี๋ยวเอามาแปะให้
เพิ่มเติมหาเจอละ ในการทดสอบระบุว่าใช้เครื่อง 1.5L 4สูบ
ขับในเมืองจะประหยัดขึ้นประมาณ 4-8%
https://www.youtube.com/watch?v=dFImHhNwbJo
ส่วนเรื่องการเสื่อมของแบต
เท่าที่ใช้ระบบนี้ใน Mazda3 และเปิดใช้ระบบน่าจะเกิน 99% ของการขับ
เรียกว่าแทบไม่เคยกดปิดระบบเลย
แบตติดรถผมอยู่ได้ 3ปี 2เดือน ครับ
-
ผมว่าค่ายรถทำเพื่อให้ผ่านไอเสีย และลดราคาขายลงมามากกว่าครับ
ค่าน้ำมันที่ถูกลงนิดหน่อย แรกกับแบตเตอรี่ที่แพงขึ้นเกินเท่าตัวเลยนะครับ
ลองคิดดู แบต smf ธรรมดา ต้องเพิ่ม โครงตะกั่วแบบ deep cycle กับแผ่นกั้นแบบ long life เข้าไป เอาเรื่องอยู่
-
ผมก็ปิดระบบนะ นอกจากแบตแล้ว ผมว่าไดสตาร์ทก็น่าจะอายุสั้นลงด้วย (ไม่ก็แพงขึ้น)
-
เหมือนเคยมีทดสอบระบบพวกนี้
ผลคือจะประหยัดเมื่อเครื่องดับเกิน 7-8 วินาที ขึ้นไปครับ
ถ้าหาคลิปนั้นเจอเดี๋ยวเอามาแปะให้
เคยเห็นต่างประเทศเทสแบบนี้เหมือนกันครับ จุดคุ้มประหยัดคือ 7-8 วิขึ้นไปตามที่ว่าเลย
-
สำหรับรถเครื่องสันดาปล้วนๆ ไม่ค่อยได้ใช้เลยครับ
แต่คันที่เป็น jazz ไฮบริด ก็พอให้ช่วยประหยัดได้ค่อนข้างชัดอยู่ครับ ไม่มีผลกับแบต 12V (และก็ starter) เพราะน่าจะใช้ไฟฟ้าจากส่วนอื่นในการสตาร์ท
-
ผมว่ามันช่วยลดได้ทั้งน้ำมันและไอเสีย แต่น้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับภาพรวมทั้งหมด
น่าจะเป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนผ่านไป PHEV หรือ BEV
หลัง ๆ มี 48V mild hybrid ที่น่าจะทำงานได้ประสิทธิภาพขึ้น
รถ ICE ผมเองมีระบบนี้ 2 คน แบตมันจุน้อยมาก ๆ ครับ
ผมว่าไม่ถึง 10 วินาทีแน่นอน
ส่วนตัวผมมักปิดครับ เพราะมันไวมาก เหยียบเบรคลึกนิดนึงก็ทำงานแล้ว
บางทีตอนเลี้ยวติดไฟแดงแบบไหล ๆ เครื่องติด ๆ ดับ ๆ กับดับแล้วไม่ติดครับ
-
จากที่ลองใช้รถ 2 รุ่น เคยลองเปิดกับปิด idle stop ในสภาวะการใช้งานเหมือนกัน
สำหรับผมไม่เห็นความต่างที้งการคำนวณในจอและการวัดระยะเทียบเติมน้ำมันกลับจริงครับ
ส่วนแบตจากที่ใช้ Mazda 2 มา 7 ปี 4 ลูก
มีช่วงที่ i-stop ใช้งานได้ กับช่วงที่ i-Eloop พังจนทำให้ i-stop ใช้ไม่ได้
เฉลี่ยลูกละ 2 ปีเท่าๆ กันครับ ไม่ได้ต่างกันระหว่างเปิดกับปิด
จริงค่ายรถเค้าใส่มาคือเหตุผลเดียวเลยครับ ลดการปล่อยไอเสียให้เป็นไปตามที่ต้องการ ถ้า Eco car ก็ใส่มาลดให้ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด ไม่มีนัยยะอื่นหรอกครับ เพราะใส่มามันก็คือต้นทุนอย่างนึง
-
ที่ผมใช้มา มันไม่ได้ช่วยเรื่องประหยัดน้ำมันเลยครับ มันมีเงื่อนไขที่ทำให้เครื่องติด เช่น ขยับพวงมาลัย ปล่อยเบรก ฯลฯ
-
ผมเคยใช้นิสสันมาร์ชที่มีระบบ auto start stop อยู่เท่าที่เคยใช้ แทบจะไม่มีความแตกต่างต่อการประหยัดน้ำมันและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ครับ
เพราะประหยัดน้ำมันตอนเครื่องยนต์ดับเครื่องก็จริง แต่ก็ต้องเสียน้ำมันเพิ่มขึ้นในการออกตัวหลังจากดับเครื่องอีก จึงทำให้การประหยัดน้ำมันไม่ค่อยเห็นผลเท่าใดนักส่วนอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อยู่ในเกณฑ์ปกติครับ 2-3 ปีเปลี่ยน
-
ประหยัดน้ำมันขึ้นครับ จากที่ manual Start-Stop มา เพราะรถมีแค่เครื่องหมายบนมาตรวัดแต่ไม่ติดฟีเจอร์มาให้
แต่ที่ค่ายรถทำก็คงเน้นเพื่อให้ผ่านการทดสอบไอเสียมากกว่าแคร์ลูกค้าให้ได้ใช้น้ำมันน้อยลง ไม่งั้นบางรุ่นคงไม่กั๊ก
แบตเตอรี่อยู่ได้เป็นสี่ปีห้าปีไม่มีปัญหาครับ
-
ประหยัดขึ้น ถ้าหยุดสัก 10 วิ ขึ้นได้ และ ลดไอเสียด้วยครับ
แต่ลองใช้แล้วไม่ค่อยชอบ
-
หยุดเผาน้ำมันทิ้ง มันต้องประหยัดซิครับ เรื่องไอเสีย ก็ด้วย
จอดติดไฟแดงบางแยก 5 นาที เท่ากับ ไม่ต้องเสียน้ำมันเผาทิ้ง 5 นาที