Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: apinui ที่ สิงหาคม 26, 2023, 11:22:05
-
เป็นกระทู้เก็บตกพูดคุยกับเพื่อนๆครับหวังว่าจะมีประโยชน์
หลังจากกระทู้ล่างที่ผมได้มีการถกเถียงกันเรื่องการดูรถมือ 2 เพื่อนๆน่าจะจำได้ ที่ผมบอกว่า พยายามหารถที่มีสีเดิมดีที่สุด เพราะนั่นคือการการันตีเลยว่ารถที่เราจะซื้อไม่เคยมีอุบัติเหตุมาก่อน (ชนหนัก)
สำหรับมือใหม่หรือเพื่อนๆที่ถามผมผมจะชี้ให้ดูตรงนี้เป็นจุดสำคัญที่สุด เพราะสมัยนี้ อู่สีอู่ซ่อมต่างๆฝีมือเก่งขึ้นมาก งานประกอบต่างๆเครื่องมือต่างๆเค้าพร้อมจนเรียกได้ว่า สามารถกู้ซากรถ กลับมาเป็นรถป้ายแดงกันได้เลย
ดังภาพนี้ครับ ทีแรกก็คิดว่า จะเอามาให้ดูดีไหม เพราะภาพพวกนี้ผมเห็นเยอะ และสำหรับคนที่ดูรถเป็นจะดูออกได้ง่าย ว่าคันไหนโดนมาหนักเบา แต่สำหรับคนดูไม่เป็น จะไม่รู้เลย
และนี่คือเหตุผลที่เกิดศัพท์ที่ว่า สีเดิม น๊อตไม่ขยับ ถึงเป็นศัพท์เชียร์รถของบรรดาเต้นท์ทั้งหลาย
รถที่คุณจะซื้อ ทำสีใหม่ทั้งคันสวยกริ๊บขาวจั๊ว เราจะรู้ได้ไงว่าไม่เคยอยู่ในสภาพนี้มาก่อน ถึงแม้จะประกอบมาเนียน ขับดีไม่มีปัญหา เราจะอยากได้แบบนี้กันไหมครับ
(https://cdn.pic.in.th/file/picinth/367475790_6102815806490341_7875952312680618725_n.jpeg)
-
ไม่ใช่รถสีใหม่ทั้งคันจะโดนหนักมาทั้งคันเสมอไป
แต่รถสีเดิมทั้งคันมั่นใจได้ว่าไม่โดนหนักมาแน่ๆ
เพื่อความง่าย โดยเฉพาะกรณีมีรถให้เลือกเยอะๆ ปีใหม่ๆ การตัดรถที่ไม่ได้สีเดิมทั้งคันออกมันก็ง่าย+เร็วดี (ไม่ได้แปลว่าซื้อได้เลย ก็ต้องดูอย่าอื่นประกอบด้วย แต่อย่างน้อยก็เป็นเกณฑ์แรกๆในการกรองรถ)
อย่าลืมว่าตลาดนี้ผู้ซื้อมีความรู้น้อยกว่าคนขาย ถ้าซื้อกับเต๊นท์ ... ถ้าซื้อกับเจ้าของรถยิ่งหนักเพราะมีข้อมูลน้อยกว่าคนขาย
ถามว่าทำมาใหม่ทั้งคันซื้อไม่ได้หรอ ??? ก็ถ้าดูละเอียด และมั่นใจว่าไม่ได้โดนอะไรหนักๆมา มันก็พอได้อยู่ แต่ก็ต้องมั่นใจด้วยว่าคุณภาพงานสีทำมาดี (ซึ่งก็ไม่ได้ง่าย)
แน่นอนครับ คนดูรถเก่งๆ มีโอกาสได้ดีลดีๆจากรถทำสีทั้งคัน
ปล. บางทีสอบถามคนขายรถ (อายุ 10-15 ปี) ว่าสีเดิมทั้งคันไหม จะชอบมีพวกคนขายปากเสียตอบว่าอายุขนาดนี้ไม่มีสีเดิมทั้งคันหรอก ... ฟังแล้วก็อยากจะเอารถที่บ้าน 3 คันไปให้ดูว่านี่ไง รถอายุเท่ากัน สีเดิมทั้งคัน .. คือ จะตอบก็ตอบมาว่าทำตรงไหนบ้าง ไม่มีจุดสำคัญ ฯลฯ ก็ว่าไป
ปล2 อีกเรื่องของรถทำสีคือ บางทีทำมาแล้วสีไม่เท่ากัน ซึ่งตอนดูรถดููละเอียดไม่พอมาเจออีกทีก็คือสีไม่เท่ากัน บ้าง เม็ดมุกลึกไม่เท่ากันบ้าง
-
รถอายุ 10 ปีขึ้น แล้วสีเดิม นั่นแปลว่า เจ้าของรักรถ ดูแลรถดี ในระดับหนึ่งเลยล่ะ เพราะถ้าไม่ดูแล ใช้ตามมีตามเกิด ก็จะมีร่องรอยเต็มไปหมด จนต้องทำสีใหม่แหละ
CR-V G3 ปี 11 มีแค่กันชนหน้าชิ้นเดียว ที่ทำสี นอกนั้นสีเดิม ทั้งคันครับ
-
รถกระบะมันง่ายมากครับถ้าไม่โดนแชสซีมา
เพราะรถแชสซี สามารถกระดองรถมาเปลี่ยนได้เสมอ ยกหัวเก๋งมาเลยยกกระบะมาพร้อมสีเดิมเลย
อย่างคันบน ดัดแซลซีให้ตรง หาหัวเก๋งมาขันน็อต จบสีเดิมด้วย แพล่างยกเปลี่ยนใหม่หมด
ฉะนั้นสีเดิมก็อาจจะบอกอะไรไม่ได้อยู่ดี ยิ่งยี่ห้อตลาดนะ หาอะไหล่ง่ายมาก ทั้งหัวท้าย Revo Dmax มีมาทุกวัน ::) ::)
รถโมโนค็อค ดูตะเข็บการอาร์ค กระโปรงหน้า และ กระโปรงหลัง คงพอแล้วครับ
ถ้ารถ 10+ อาบน้ำมาก็ยังพอไหว รถบางคันที่จอดในร่มไม่ได้ อย่างพวกอยู่หออยู่แฟลต รถขาวก็เหลือง ไม่อาบน้ำก็ขายยาก
รถมือสองถ้าสีเดิม ก็แจ่มครับ ถ้าไม่ได้ก็ไม่ใช่ประเด็นขนาดนั้นต้องดูอย่างอื่นควบคู่ ยกเว้นคุณซื้อมาเก็บ
-
มือ2ตาดีได้ตาร้ายเสียครับ
อย่างรถที่บ้านมีป.1 อุบัติเหตุเล็กน้อย ชนหมา รถคันอื่นถอยมาชน ก็เคลมไป เปลี่ยนกันชน ทำสีบลาๆๆ
สรุปกลายเป็นรถสีไม่เดิมซะงั้น ทั้งๆที่แทบไม่มีผลต่อการใช้งานเลย 😅
-
มือ2ตาดีได้ตาร้ายเสียครับ
อย่างรถที่บ้านมีป.1 อุบัติเหตุเล็กน้อย ชนหมา รถคันอื่นถอยมาชน ก็เคลมไป เปลี่ยนกันชน ทำสีบลาๆๆ
สรุปกลายเป็นรถสีไม่เดิมซะงั้น ทั้งๆที่แทบไม่มีผลต่อการใช้งานเลย 😅
ไม่ต่างกันเลยครับ ของผมประกันชั้น 1 ซ่อมศูนย์
- ชนหมส กันชน กระจังหน้าก็ไม่เดิม
- เลี้ยวเบียดกำแพงเป็นรอยยาวตั้งแต่หน้ารถยันท้ายรถ ศูนย์จับเปลี่ยนตั้งแต่แก้มข้าง ประตู ยันท้ายรถ รถไม่เคยชนหนัก แต่ไม่มีอะไรเดิม ยกเว้นหลังคา ;D ;D
-
สีเดิมโรงงาน เมื่อหมองขัดลงwax เคลือบเงา เงาเป็นกระจก
สีอู่ เมื่อหมอง ขัดให้ตายก็สู้ไม่ได้
ลักษณะสีเดิมส่องเงาเรียบแบบผิวส้ม อู่ไม่มีทางทำได้
สีดิมจึงมีคุณค่ามาก
หากซื้อรถมือสอง สำหรับผม จะถือเป็นเงื่อนไขแรกที่ถามหา
-
เพราะมันไม่ได้มองแค่การทำสีดีหรือไม่ดี
1.รถเคยชนหนัก การขับขี่ไม่เหมือนเดิมแน่ๆ
2.การประกอบ ยังไงก็ไม่เหมือนรถเดิมๆ
3.งานสีที่ซ่อม ผ่านไปสักพักจะเห็นว่ามันไม่ค่อยดี บวม ลอก หรือเป็นสนิม
การดูรถว่าเคยชน ไม่เคยชน ผ่านการทำสีมาหรือไม่ จริงๆแล้วไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแต่หลายคนไม่เคยเท่านั้นเอง
-
เพราะมันไม่ได้มองแค่การทำสีดีหรือไม่ดี
1.รถเคยชนหนัก การขับขี่ไม่เหมือนเดิมแน่ๆ
2.การประกอบ ยังไงก็ไม่เหมือนรถเดิมๆ
3.งานสีที่ซ่อม ผ่านไปสักพักจะเห็นว่ามันไม่ค่อยดี บวม ลอก หรือเป็นสนิม
การดูรถว่าเคยชน ไม่เคยชน ผ่านการทำสีมาหรือไม่ จริงๆแล้วไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแต่หลายคนไม่เคยเท่านั้นเอง
เสริมครับ
"ทำสีมาหรือไม่" ดูง่ายกว่า "ทำสีมาดีหรือไม่" เยอะ ดังนั้นในแง่ตัวถัง/งานสี หารถที่ไม่เคยทำสีไปเลย จะดูง่ายกว่าหารถที่ทำสีมาดีๆ
-
ที่คุณ Turin ว่ามาถูกต้องเลยครับ ใครที่ดูไม่เป็นหรือไม่มั่นใจ ดึงตะเข็บดูไม่เป็น ดูไม่ออกว่าสีหัวน๊อตเดิมหรือไม่เดิม คานหน้าเปลี่ยนมาไหม การดูสีมันจะง่ายที่สุด
จริงๆรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย แต่รถในตลาดรถมือ 2 รถที่ไม่เคยทำสีเลยแม้แต่กันชนหน้า/หลังก็ไม่เคย มีเยอะมากในตลาด รถที่ประมูลออกมามันเยอะมากบางคันสะภาพป้ายแดงกันเลย
ดังนั้นเรามีตัวเลือก ในมุมคนซื้อ ค่อยๆเลือกดูค่อยๆหาใจเย็นๆ รถสวยๆ ราคาไม่แรงที่เต้นท์อยากปล่อยเพียบครับ
-
การทำสี มันคือ มีเหตุ ที่ต้องทำสีครับ
มองแบบโลกสวย เพราะ เจ้าของเก่า อยากได้สีใหม่(ที่ไม่ใช่สีเดิมโรงงาน) หรือ เจ้าของเก่าอยากได้สีใหม่(แต่สีเดิม) แค่อยากได้ให้มันเงาๆ เหมือนป้ายแดง
มองแบบในแง่ลบ หรือ มีข้อพิรุษ คือ ชน? เบียด? อบัตเหตุ?
ดังนั้นการตัดปัญหาที่ง่ายที่สุด คือ เอาสีเดิมๆ จะสีสวยหรือไม่ ว่ากัน เอาที่สบายใจเจ้าของใหม่ แล้ว พอได้รถมาแล้ว เจ้าของใหม่จะไปทำสีเองก็ว่าไป
ปล.ถ้าสีเดิมเน่ามากๆ สีแห้ง สีตาย ฝากระโปรงด่าง ความร้อนรนแตกหมด อันนี้ การได้รถทำสีมาแล้ว(งานดี) อาจจะคุ้มกว่าก็ได้นะครับ แทนที่จะต้องมาเสียเงินทำสีเองก็มีหลายหมื่น