Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: tom46 ที่ กันยายน 13, 2023, 08:59:20
-
พอดีเห็นวิทยุสมัยใหม่เขาจะเป็นแบบ ตัวถังสั้น ติดตั้งได้ง่ายไม่ต้องหั่นกรอบตู้แอร์ หน้าจอก็ใหญ่ มีให้เลือกเยอะ 7 / 9 / 10 / 11 นิ้วกันเลย
แต่เขาไม่มีระบบ cd ให้ ส่วนตัวผมเองหลังๆก็ไม่ได้ฟังจาก cd เท่าไร จะไปฟังพวกรายการทีวี รายการวิทยุ fm ทางออนไลน์มากกว่า แต่การฟังแบบนี้ก็จะ link กับมือถือเอา
เลยไม่รู้ว่าเครื่องสมัยใหม่ ไม่นับ cd แฟลชไดร์ โทรศัพท์มือถือที่เอามา link กัน ตัวเครื่องเขาจะฟังจากอะไรกันได้อีกครับ เอาแบบที่เล่นจากตัวเครื่องเล่นเขาเองเลยนะครับ ไม่ต้องมีอุปกรณ์อะไรต่อพ่วงเพิ่มเติม
-
สมัยนี้ มันก็ bluetooth sync มือถือกันหมดแล้ว ตัวเทพ ๆก็จะรองรับไฟล์เพลงหลาย format , FLAC ไรได้ หลาย ๆ รุ่นวิทยุยังไม่มีเลย 55
ว่าไปมันก็คล้าย trend เครื่องเสียงบ้านก็ได้คับ กลายเป็นลำโพง bluetooth เต็มไปหมด
-
ถ้าติดมากับรถเลย คงมีแค่วิทยุละครับ
แต่ผมยังชอบฟังข่าวจากวิทยุอยู่นะ ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง :) :)
-
สมัยนี้ มันก็ bluetooth sync มือถือกันหมดแล้ว ตัวเทพ ๆก็จะรองรับไฟล์เพลงหลาย format , FLAC ไรได้ หลาย ๆ รุ่นวิทยุยังไม่มีเลย 55
ว่าไปมันก็คล้าย trend เครื่องเสียงบ้านก็ได้คับ กลายเป็นลำโพง bluetooth เต็มไปหมด
ขอบคุณครับ
ที่ผมสงสัยอยู่ประมาณนั้นละครับ ผมเองก็ใช้จากมือถือเป็นหลักมากกว่า เลยไม่รู้ว่าเขาทำอะไรได้อีกบ้างละครับ
-
ถ้าติดมากับรถเลย คงมีแค่วิทยุละครับ
แต่ผมยังชอบฟังข่าวจากวิทยุอยู่นะ ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง :) :)
เหมือนกันเลยครับ ถ้าใน กทม ผมก็ฟังจากสถานีวิทยุปกติเอา ถ้าวิ่งต่างจังหวัดก็เปิดทาง fm หรือ รายการทีวี ออนไลน์ ทางมือถือเอาละครับ
-
รุ่นที่เชื่อมต่อเป็น Android Auto กับ Apply Car Play ก็ streaming ฟังจาก app ที่ลงไว้ได้เลยครับ
เช่น Joox YoutubeMusic Spotify
-
รุ่นที่เชื่อมต่อเป็น Android Auto กับ Apply Car Play ก็ streaming ฟังจาก app ที่ลงไว้ได้เลยครับ
เช่น Joox YoutubeMusic Spotify
นั่นละครับ ที่ผมสงสัย ส่วนมากก็มาพึ่งทางมือถือกันหมด จะเป็นแบบ บลูทูธ บ้าง HDMI บ้าง แต่ก็ยังเป็นการเล่นผ่านตัวพ่วงข้างนอกกันอยู่ เลยอยากรู้ว่า ตัวเขาเอง จริงๆจะทำอะไรได้บ้างละครับ
-
รุ่นที่เชื่อมต่อเป็น Android Auto กับ Apply Car Play ก็ streaming ฟังจาก app ที่ลงไว้ได้เลยครับ
เช่น Joox YoutubeMusic Spotify
นั่นละครับ ที่ผมสงสัย ส่วนมากก็มาพึ่งทางมือถือกันหมด จะเป็นแบบ บลูทูธ บ้าง HDMI บ้าง แต่ก็ยังเป็นการเล่นผ่านตัวพ่วงข้างนอกกันอยู่ เลยอยากรู้ว่า ตัวเขาเอง จริงๆจะทำอะไรได้บ้างละครับ
ไม่แน่ใจจะตอบตรงกับที่ถามหรือเปล่านะครับ แต่เอาจากที่ใช้เองอยู่ตอนนี้
คือวิทยุติดผมรถก็เป็น Android Auto ทีนี้ผมเองก็ไม่ชอบที่จะต้องมาเชื่อมต่อกับมือถือทุกครั้งเวลาใช้งาน
ผมเลยซื้อ Android box มาต่อเพิ่มไปที่ตัววิทยุ+ใส่เนตซิม ทำให้วิทยุเป็น Android อีกเครื่องนึงโดยเอกเทศครับ
สามารถลงและเปิด app ได้ในตัวเครื่องเองโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ เปิดฟังเพลง ดู youtube สะดวกมากเลย
ตอนนี้ไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาอะไรเพิ่มมากกว่านี้หรือเปล่านะครับ
-
หมายถึงพวกจอแอนดรอยด์หรือเปล่าครับ
ถ้าใช่ เขาก็แค่แชร์ wifi จากมือถือให้จอเลย
ส่วนจอก็เป็นเหมือน tablet จะเล่นอะไรก็ได้ครับ
Youtube Joox ดู tv ดูหรือฟังอะไรก็ได้เลย
แต่ผมส่งสัยว่าความที่ตัวถังสั้นๆ แอมป์มันจะเสียงดีเหรอ
-
หมายถึงพวกจอแอนดรอยด์หรือเปล่าครับ
ถ้าใช่ เขาก็แค่แชร์ wifi จากมือถือให้จอเลย
ส่วนจอก็เป็นเหมือน tablet จะเล่นอะไรก็ได้ครับ
Youtube Joox ดู tv ดูหรือฟังอะไรก็ได้เลย
แต่ผมส่งสัยว่าความที่ตัวถังสั้นๆ แอมป์มันจะเสียงดีเหรอ
เปล่าครับ หมายถึงของแบรนด์ละครับ alpine pioneer kenwood พวกนี้ละครับ
-
รถที่บ้านรุ่นใหม่ เป็นแบบที่คุณ Tom46 บอกครับ
พอไม่มี Internet ก็รับสื่ออะไรไม่ค่อยได้
วิทยุในตัวก็ไม่มีช่องอะไรเลยให้เสียบ แต่ AUX นี่มีทุกตัวแน่นอน
แต่พอต่อ AUX ใน Smartphone ก็ไม่มีไฟล์เพลงอีก
ทุกวันนี้เลยยังซื้อ CD เอา rip ไฟล์อยู่ครับ แล้วพก Player ไปใช้ AUX เอา
-
ถ้าไม่ต่ออะไรเลยก็คงได้แค่ FM/AM ครับ cd หลายรุ่นก็เอาออกแล้ว ของผมถ้า สว ใช้จะเป็น cd/usb ครับ ของผมจะใช้เป็น โทรศัพท์ต่อ usb เอาครับ ทีนี้จะเล่น flac ที่เก็บไว้ หรือ stream ก็แล้วแต่เลย
-
น่าจะหมายถึงเครื่องเล่นเสียงในรถ จะเน้นเล่นไฟล์ FLAC WAV หรือพวกที่เป็น HI-RES ครับ
-
ถ้าไม่อยากคอยเชื่อมต่อกับมือถือ คงต้องเลือกรุ่นที่มี Sim / E-Sim ในตัวไปเลย ก็จะกลายเป็น Tablet ติดรถ ที่เล่นได้ทุกแอพ ประชุม Zoom ก็ยังได้ แม้จะต้องเสียเงินค่าแพคเกจอินเตอร์เน็ตรายเดือน แต่น่าจะคุ้มสำหรับคนใช้รถเยอะ
-
รุ่นที่เชื่อมต่อเป็น Android Auto กับ Apply Car Play ก็ streaming ฟังจาก app ที่ลงไว้ได้เลยครับ
เช่น Joox YoutubeMusic Spotify
นั่นละครับ ที่ผมสงสัย ส่วนมากก็มาพึ่งทางมือถือกันหมด จะเป็นแบบ บลูทูธ บ้าง HDMI บ้าง แต่ก็ยังเป็นการเล่นผ่านตัวพ่วงข้างนอกกันอยู่ เลยอยากรู้ว่า ตัวเขาเอง จริงๆจะทำอะไรได้บ้างละครับ
ไม่แน่ใจจะตอบตรงกับที่ถามหรือเปล่านะครับ แต่เอาจากที่ใช้เองอยู่ตอนนี้
คือวิทยุติดผมรถก็เป็น Android Auto ทีนี้ผมเองก็ไม่ชอบที่จะต้องมาเชื่อมต่อกับมือถือทุกครั้งเวลาใช้งาน
ผมเลยซื้อ Android box มาต่อเพิ่มไปที่ตัววิทยุ+ใส่เนตซิม ทำให้วิทยุเป็น Android อีกเครื่องนึงโดยเอกเทศครับ
สามารถลงและเปิด app ได้ในตัวเครื่องเองโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ เปิดฟังเพลง ดู youtube สะดวกมากเลย
ตอนนี้ไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาอะไรเพิ่มมากกว่านี้หรือเปล่านะครับ
ครับแบบนี้ก็เห็นอยู่เหมือนกันละครับ แต่ก็ยังต้องพ่วงอุปกรณ์อยู่ดีละครับ
-
รถที่บ้านรุ่นใหม่ เป็นแบบที่คุณ Tom46 บอกครับ
พอไม่มี Internet ก็รับสื่ออะไรไม่ค่อยได้
วิทยุในตัวก็ไม่มีช่องอะไรเลยให้เสียบ แต่ AUX นี่มีทุกตัวแน่นอน
แต่พอต่อ AUX ใน Smartphone ก็ไม่มีไฟล์เพลงอีก
ทุกวันนี้เลยยังซื้อ CD เอา rip ไฟล์อยู่ครับ แล้วพก Player ไปใช้ AUX เอา
ขอบคุณมากเลยครับ ผมก็ยัง งงๆ อยู่นี่ละครับ ว่าเขาทำอะไรได้บ้าง นอกจากการเอาอุปกรณ์อื่นพ่วงเข้าไป
ถ้าไม่ต่ออะไรเลยก็คงได้แค่ FM/AM ครับ cd หลายรุ่นก็เอาออกแล้ว ของผมถ้า สว ใช้จะเป็น cd/usb ครับ ของผมจะใช้เป็น โทรศัพท์ต่อ usb เอาครับ ทีนี้จะเล่น flac ที่เก็บไว้ หรือ stream ก็แล้วแต่เลย
ขอบคุณมากเลยครับ
ถ้าไม่อยากคอยเชื่อมต่อกับมือถือ คงต้องเลือกรุ่นที่มี Sim / E-Sim ในตัวไปเลย ก็จะกลายเป็น Tablet ติดรถ ที่เล่นได้ทุกแอพ ประชุม Zoom ก็ยังได้ แม้จะต้องเสียเงินค่าแพคเกจอินเตอร์เน็ตรายเดือน แต่น่าจะคุ้มสำหรับคนใช้รถเยอะ
ขอบคุณมากเลยครับ
น่าจะหมายถึงเครื่องเล่นเสียงในรถ จะเน้นเล่นไฟล์ FLAC WAV หรือพวกที่เป็น HI-RES ครับ
ครับประมาณนี้ละครับ แต่ผมไม่รู้ว่าจะต้องใช้อะไรกันอย่างไรละครับ ในตัวเครื่องเขาเก็บไว้ได้เลย หรือ ต้องโหลดแอฟเข้ามาในตัวเครื่องอีกที
เท่าที่ดูมันก็เหมือนสมัยก่อน ที่เทปธรรมดา ถ้าจะเอาเสียงดีก็เป็นเทปแม่เหล็กของ tdk ที่ตลับใสๆ พอมา cd ถ้าจะดีๆก็ต้องเป็น cd นอกที่แพงหน่อยจะเสียงดีกว่า cd ไทยเรา
พอยุคนี้มาเป็น ติจิตอล ก็เห็นเขามีไฟล์เพลงแบบความละเอียดสูงอีก เลยไม่รู้ว่า ตรงนี้เขาทำอะไรกันแบบไหนละครับ
-
ต่อ apple carplay / bluetooth ฟังเพลงจาก spotify / joox แบบสร้าง playlist เอง หรือไปกดเซพ playlist มา
แล้วโหลดเพลงแบบฟัง offline ได้ ตอนโหลดเลือก quality = highest ครับ
-
เสียบกับ ipod ก็ได้ครับ ผมทำประจำ มือถือสายเข้าบ่อย มันตัดเพลง
-
แค่ CD สมัยนี้ก็หายากแล้วครับ ต่อให้ออกมาไม่ได้ใช้หรอก
สมัยเมื่อ 13 ปีก่อน เป็นรถคันแรกที่ใช้ CD ได้ อย่างว๊าววว แต่เชื่อไหม ว่าตั้งแต่ซื้อรถมา ผมไม่เคยเสียบแผ่น CD เข้าเครื่องรถแม้แต่ครั้งเดียว นี่เมื่อ 13ปีก่อนนะ
ยิ่ง ณ วันนี้ เขามี streaming กันหมดแล้ว ไม่ว่าจะ iTune , Apple Music, Spotify หรือแม้กระทั้้ง ของ JOOQ เอง ก็ฟรี ฟังได้หมด
ยังไม่รวมว่า เอาเพลงเข้ามือถือ เปิดในมือถือ ผ่าน Bluetooth หรือ เสียบสายเป็น Android Auto หรือ Apple CarPlay หรือจะเป็น AUX ออกเครื่องเสียงอีกนะ
เครื่องเสียงทุกวันนี้ มันมีแค่ที่แค่ เป็นภาคขยาย ขับเสียงออกลำโพง เท่านั้น
-
เห็นทิศทางแล้วอีกหน่อยก็รวมมาพร้อมระบบปฏิบัติการของรถนอกเหนือจาก carplay/android auto ที่ต้องพ่วงมือถือ แอพก็โหลดเอาตามชอบเลยครับ (ถ้าไม่บล็อค) สตรีมสด/แห้งได้ตามชอบครับ
-
น่าจะทำเป็นแบบมี HARD DISK ในตัวนะ ถ่ายไฟล์เพลงลงไปเก็บ เผื่อใครอยากประหยัดแบตมือถือหรือไม่อยากเสียบชาจน์แช่ให้แบตเสื่อมไว
-
นอกเรื่องครับ พอพูดถึงวิทยุในรถผมหละชอบฟังวิทยุ fm มากเลย อยากฟังข่าว ละครวิทยุ เพลงลูกทุ่งเก่าๆและอื่นมากมายดีไม่จำเจกับมันมีเสน่ห์ดี เริ่มเบื่อฟังจากยูทูปหรือโทรศัพท์แล้วครับ แม้จะเลือกได้เองจริง
-
ของผม ยังเป็น จอ ที่มีช่องเล่นแผ่น cd อยู่
หลักๆถ้าใช้รถคันนี้ คือ มีมือถืออีกเครื่อง แล้วปล่อย wifi ให้เครื่องเล่น แล้วเอาไว้ดู Youtube / ดูทีวี เป็นหลัก ล่ะครับ
-
ต่อ apple carplay / bluetooth ฟังเพลงจาก spotify / joox แบบสร้าง playlist เอง หรือไปกดเซพ playlist มา
แล้วโหลดเพลงแบบฟัง offline ได้ ตอนโหลดเลือก quality = highest ครับ
ขอบคุณมากเลยครับ อ๋อเขาสามารถโหลดแอฟมาเก็บไว้ในตัวเองได้ด้วย พอมีภาพหน้าจอประกอบให้ดูไหมครับ
-
เสียบกับ ipod ก็ได้ครับ ผมทำประจำ มือถือสายเข้าบ่อย มันตัดเพลง
แค่ CD สมัยนี้ก็หายากแล้วครับ ต่อให้ออกมาไม่ได้ใช้หรอก
สมัยเมื่อ 13 ปีก่อน เป็นรถคันแรกที่ใช้ CD ได้ อย่างว๊าววว แต่เชื่อไหม ว่าตั้งแต่ซื้อรถมา ผมไม่เคยเสียบแผ่น CD เข้าเครื่องรถแม้แต่ครั้งเดียว นี่เมื่อ 13ปีก่อนนะ
ยิ่ง ณ วันนี้ เขามี streaming กันหมดแล้ว ไม่ว่าจะ iTune , Apple Music, Spotify หรือแม้กระทั้้ง ของ JOOQ เอง ก็ฟรี ฟังได้หมด
ยังไม่รวมว่า เอาเพลงเข้ามือถือ เปิดในมือถือ ผ่าน Bluetooth หรือ เสียบสายเป็น Android Auto หรือ Apple CarPlay หรือจะเป็น AUX ออกเครื่องเสียงอีกนะ
เครื่องเสียงทุกวันนี้ มันมีแค่ที่แค่ เป็นภาคขยาย ขับเสียงออกลำโพง เท่านั้น
เห็นทิศทางแล้วอีกหน่อยก็รวมมาพร้อมระบบปฏิบัติการของรถนอกเหนือจาก carplay/android auto ที่ต้องพ่วงมือถือ แอพก็โหลดเอาตามชอบเลยครับ (ถ้าไม่บล็อค) สตรีมสด/แห้งได้ตามชอบครับ
น่าจะทำเป็นแบบมี HARD DISK ในตัวนะ ถ่ายไฟล์เพลงลงไปเก็บ เผื่อใครอยากประหยัดแบตมือถือหรือไม่อยากเสียบชาจน์แช่ให้แบตเสื่อมไว
นอกเรื่องครับ พอพูดถึงวิทยุในรถผมหละชอบฟังวิทยุ fm มากเลย อยากฟังข่าว ละครวิทยุ เพลงลูกทุ่งเก่าๆและอื่นมากมายดีไม่จำเจกับมันมีเสน่ห์ดี เริ่มเบื่อฟังจากยูทูปหรือโทรศัพท์แล้วครับ แม้จะเลือกได้เองจริง
ของผม ยังเป็น จอ ที่มีช่องเล่นแผ่น cd อยู่
หลักๆถ้าใช้รถคันนี้ คือ มีมือถืออีกเครื่อง แล้วปล่อย wifi ให้เครื่องเล่น แล้วเอาไว้ดู Youtube / ดูทีวี เป็นหลัก ล่ะครับ
ขอบคุณทุกๆท่านมากเลยครับ
-
เรียบร้อยแล้วละครับ หายสงสัยเขาละ จากท่านด้านบนที่บอกเรื่องการโหลดแอฟมาไว้ เลยไปลองหาดูบ้าง
อ๋อ เขาจะมีแอฟชื่อ TIDAL สำหรับเล่นไฟล์เพลงคุณภาพสูงอยู่ในเครื่องด้วยได้เลยไม่ต้องต่ออะไรพ่วง สำหรับบางยี่ห้อ แต่การทำงานเขาผมยัง งงๆ อยู่ เดี๋ยวตามไปศึกษาเขาเพิ่มเติมอีกทีครับ
อย่างไรก็ดี ก็ขอขอบคุณทุกๆท่านมากๆเลยนะครับ
(http://www.e46thailand.com/upload/668/202309132835-Screenshot%202023-09-13%20at%2015-27-35%20TIDAL%20Music%20Streaming%20Comes%20to%20Alpine%20Car%20Audio.png)
(http://www.e46thailand.com/upload/668/202309133359-alpine-head-unit-tidal-screen.jpg)
-
ถ้าเน้นฟังเพลง ยุคก่อนก็เสียบ usb ครับ ยุคนี้เสียบมือถือกันหมดแล้วครับ ไม่ก็ bluetooth เอา
-
ถ้าเน้นฟังเพลง ยุคก่อนก็เสียบ usb ครับ ยุคนี้เสียบมือถือกันหมดแล้วครับ ไม่ก็ bluetooth เอา
ขอบคุณครับ พอหาคำตอบได้แล้วละครับ เห็นของ alpine เขาจะมี แอฟชื่อ tidal ให้มาในเครื่องด้วย แต่ยังไม่รู้ว่าเขาทำงานอย่างไร คงต้องไปส่องดูเพิ่มเติมอีกทีละครับ
-
เด็กสมัยนี้ฟังผ่านมือถือ 100% แล้วครับ
เชื่อมผ่านบลูทูธ ยูทูปมิวสิค spotify Jook tidal
รุ่นบนๆ ผ่านพวก แอนดรอยออโต้ แอปเปิล้คาร์เพลย์ได้หมดแล้วครับ แค่เสียบสายชาทเข้ากับตัวรถ
-
เรียบร้อยแล้วละครับ หายสงสัยเขาละ จากท่านด้านบนที่บอกเรื่องการโหลดแอฟมาไว้ เลยไปลองหาดูบ้าง
อ๋อ เขาจะมีแอฟชื่อ TIDAL สำหรับเล่นไฟล์เพลงคุณภาพสูงอยู่ในเครื่องด้วยได้เลยไม่ต้องต่ออะไรพ่วง สำหรับบางยี่ห้อ แต่การทำงานเขาผมยัง งงๆ อยู่ เดี๋ยวตามไปศึกษาเขาเพิ่มเติมอีกทีครับ
อย่างไรก็ดี ก็ขอขอบคุณทุกๆท่านมากๆเลยนะครับ
(http://www.e46thailand.com/upload/668/202309132835-Screenshot%202023-09-13%20at%2015-27-35%20TIDAL%20Music%20Streaming%20Comes%20to%20Alpine%20Car%20Audio.png)
(http://www.e46thailand.com/upload/668/202309133359-alpine-head-unit-tidal-screen.jpg)
TIDAL เล่น HiRes ได้ก็จริง และ ต้องเสียตังครับ
เพิ่มเติมให้นะครับ
App สามารถเล่น หรือ decode เพลงที่เป็น HiRes ได้ Hardware ก็ต้องรองรับครับ มันจะมี bit rate ของ sound นั้นๆ กำกับอยู่
ไม่ใช่ว่า Hardware ยังไม่รู้จัก หรือ Decode หรือแปลงไฟล์ HiRes ไม่ได้เลย แล้วมี Software ที่เล่น HiRes ได้ แล้วจะกลายเป็น HiRes เลย ไม่ใช่นะครับ
มันก็เหมือน DAC แหละครับ ถ้า DAC เอง แปลงไฟล์ digital ที่ bit rate สูงๆ มาแล้ว แต่ผ่าน amp หรือ ภาคขยาย ที่ bit rate เป็น analog ธรรมดาๆ มันก็จะโดน down quality ลงมาเป็น เพลงธรรมดาๆ เหมือนไฟล์ธรรมดาๆ นี่ละครับ
ในสมัยนึง คนชอบบอกว่า เล่นเพลงจาก CD เสียงดีกว่าผ่าน Bluetooth ก็ใช่ครับ ใน สมัยนั้น
แต่ตอนนี้ Bluetooth มันเวอร์ชั่นไหนแล้ว มันพัฒนาขึ้นเยอะ มัน streaming ได้ไวกว่าเดิมเยอะมาก
และ บางค่าย บางยี่ห้อ หูฟังบางตัว(ผมใช้อยู่) มัน streaming จากเครื่องเล่น ไปที่หูฟัง เป็น digital (0,1) แล้ว ไม่ใช่ stream หรือส่งเป็นแบบคลื่นวิทยุแบบเดิมๆ แล้วนะครับ มันทำให้ คุณภาพของเสียงไม่ได้ down quality ลงเหมือนแต่ก่อน
ปล.ผมก็แค่ชอบฟังเพลง และ มีหูฟังไว้ฟังเพลงทั่วไป พอทราบมาบ้าง ประมาณนี้ครับ
-
เด็กสมัยนี้ฟังผ่านมือถือ 100% แล้วครับ
เชื่อมผ่านบลูทูธ ยูทูปมิวสิค spotify Jook tidal
รุ่นบนๆ ผ่านพวก แอนดรอยออโต้ แอปเปิล้คาร์เพลย์ได้หมดแล้วครับ แค่เสียบสายชาทเข้ากับตัวรถ
ขอบคุณมากเลยครับ อันนี้พอจะใช้อยู่บ้างแล้วละครับ
-
เรียบร้อยแล้วละครับ หายสงสัยเขาละ จากท่านด้านบนที่บอกเรื่องการโหลดแอฟมาไว้ เลยไปลองหาดูบ้าง
อ๋อ เขาจะมีแอฟชื่อ TIDAL สำหรับเล่นไฟล์เพลงคุณภาพสูงอยู่ในเครื่องด้วยได้เลยไม่ต้องต่ออะไรพ่วง สำหรับบางยี่ห้อ แต่การทำงานเขาผมยัง งงๆ อยู่ เดี๋ยวตามไปศึกษาเขาเพิ่มเติมอีกทีครับ
อย่างไรก็ดี ก็ขอขอบคุณทุกๆท่านมากๆเลยนะครับ
(http://www.e46thailand.com/upload/668/202309132835-Screenshot%202023-09-13%20at%2015-27-35%20TIDAL%20Music%20Streaming%20Comes%20to%20Alpine%20Car%20Audio.png)
(http://www.e46thailand.com/upload/668/202309133359-alpine-head-unit-tidal-screen.jpg)
TIDAL เล่น HiRes ได้ก็จริง และ ต้องเสียตังครับ
เพิ่มเติมให้นะครับ
App สามารถเล่น หรือ decode เพลงที่เป็น HiRes ได้ Hardware ก็ต้องรองรับครับ มันจะมี bit rate ของ sound นั้นๆ กำกับอยู่
ไม่ใช่ว่า Hardware ยังไม่รู้จัก หรือ Decode หรือแปลงไฟล์ HiRes ไม่ได้เลย แล้วมี Software ที่เล่น HiRes ได้ แล้วจะกลายเป็น HiRes เลย ไม่ใช่นะครับ
มันก็เหมือน DAC แหละครับ ถ้า DAC เอง แปลงไฟล์ digital ที่ bit rate สูงๆ มาแล้ว แต่ผ่าน amp หรือ ภาคขยาย ที่ bit rate เป็น analog ธรรมดาๆ มันก็จะโดน down quality ลงมาเป็น เพลงธรรมดาๆ เหมือนไฟล์ธรรมดาๆ นี่ละครับ
ในสมัยนึง คนชอบบอกว่า เล่นเพลงจาก CD เสียงดีกว่าผ่าน Bluetooth ก็ใช่ครับ ใน สมัยนั้น
แต่ตอนนี้ Bluetooth มันเวอร์ชั่นไหนแล้ว มันพัฒนาขึ้นเยอะ มัน streaming ได้ไวกว่าเดิมเยอะมาก
และ บางค่าย บางยี่ห้อ หูฟังบางตัว(ผมใช้อยู่) มัน streaming จากเครื่องเล่น ไปที่หูฟัง เป็น digital (0,1) แล้ว ไม่ใช่ stream หรือส่งเป็นแบบคลื่นวิทยุแบบเดิมๆ แล้วนะครับ มันทำให้ คุณภาพของเสียงไม่ได้ down quality ลงเหมือนแต่ก่อน
ปล.ผมก็แค่ชอบฟังเพลง และ มีหูฟังไว้ฟังเพลงทั่วไป พอทราบมาบ้าง ประมาณนี้ครับ
ครับขอบคุณมากครับ เรื่องเสียเงินพอเห็นอยู่ครับ
เพียงแต่ที่ถาม เพราะ อยากรู้ว่าเครื่องสมัยใหม่ เขาทำอะไรจากตัวเขาเองได้บ้างละครับ เครื่องเล่นยุคใหม่ก็ไม่ใช่ราคาถูกๆ เลยอยากรู้ไว้ว่า นอกจากการ link กับมือถือแล้ว (ไม่ว่า HDMI หรือ บลูทูธ ) เขาทำอะไรได้อีกบ้างละครับ ทุกวันนี้เท่าที่ดูเหมือนตัวเขาจะเป็นตัวผ่านเฉยๆไม่ได้ทำด้วยตัวเครื่องเล่นเขาเองเพียวๆ
ส่วนอันนี้พอเข้าไปดูเรื่อยๆ จริงอยู่ เล่นจากตัวเขาเองได้เลย แต่ก็ยังต้องพึ่งสัญญาณไวไฟจากมือถือเพื่อเอาสัญญาณอินเตอร์เนทอยู่ดี ก็ยังเหมือนกับการต่อพ่วงมือถืออยู่ แต่ยังไม่รู้ว่า เขาจะเอาสัญญาณอินเตอร์เนทจากทางอื่นได้ด้วยไหม ยังหาตัวอย่างให้ดูไม่ได้ครับ
-
ผมต่อ bluetooth กับรถเลยครับ
ฟังเพลงจาก sportify premium มีทั้ง playlist เราเอง และเพลงที่ sportify จัดให้
พวก podcast ข่าว รายการต่างๆ เปิดจาก youtube
คุณพ่อจะต่อ aux บางทีเปิดเพลงฟังจากลำโพงมือถือ ไม่ก็ฟังวิทยุในรถเอาครับ 55
-
ครับขอบคุณมากเลยครับ คุณ spn
จากที่ฟังๆดูจากหลายๆท่าน หรือ ไปดูตัวอย่างตามเนทมา สมัยนี้ ตัวเครื่องเล่นเขาแทบจะเป็นตัวผ่านเท่านั้นเอง แล้วไปเน้นความสวยงามของหน้าจอ ชัดๆความละเอียดหน้าจอสูง เพื่อไปรองรับการดูภาพเคลื่อนไหวกันมากกว่า
ถ้าไม่มี มือถือ กล่องแอนดรอย แฟลชไดรฟ์ ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เองจากตัวเขา นอกจากแค่ วิทยุ fm ก็คงไม่น่าลงทุนอะไรกับเขามากเท่าไรละครับ
-
1. Tidal ใช้ Streaming แบบเข้ารหัสซึ่งพักหลังจะเปลี่ยนจาก mqa มาเป็น FLAC ครับ
เครื่องเล่นสมัยใหม่ส่วนใหญ่เล่นได้
2. เครื่องเล่นที่มี bt ส่วนใหญ่รับ codec ได้ดีสุดแค่ AAC ซึ่งไม่ค่อยดีเท่าไร สู้ฟังผ่าน usb ไม่ได้
3. สงสัยเหมือนกันว่า อย่าง Alpine 2 din มันแพงอะไรนักหนา เพราะ CD ก็ถอดออกแล้ว
-
จริงๆ ถ้าเทียบในยุคเครื่องเสียงที่ผ่านมา มันก็เหมือนการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยของแหล่งนำสื่อครับ
ถ้าไม่นับพื้นฐานที่สามารถหังวิทยุ FM / AM ได้
ยุคก่อนก็เป็นเครื่องเล่นเทป ยุคต่อมาก็เป็นเครื่องเล่น CD
ยุคต่อมาก็เป็นเครื่องให้เสียงผ่าน AUX
ยุคต่อมาอีกก็เป็นเครื่องเล่นไฟล์ MP3 จาก USB หรือ HDD ในตัว
ยุคปัจจุบันก็เป็นเครื่องให้เสียงผ่าน Bluetooth และเครื่องเล่น Apple CarPlay , Android Auto จากมือถือ
ถ้าไม่มีสื่ออย่างเทป , CD , แหล่งเก็บข้อมูล MP3 , มือถือ มันก็ทำได้แค่วิทยุเท่านั้นครับ
ถ้าถามว่าแล้วที่มันทำอะไรได้ในตัวก็มีครับ
อย่างที่เข้าใจก็พวกจอจีนใส่ Android มาโต้งๆ ใช้งานแอปเหมือนมือถือ / Tablet เครื่องนึงที่ใช้ไฟรถ
หรือบางรุ่นก็จะเป็นระบบปฏิบัติการ Android Automotive เฉพาะที่จะมีแอป Google มาให้ในตัวเช่น Maps อย่างพวก Volvo หลังยุค Sensus หรือ Honda Accord โฉมใหม่ที่จะมาไทยสิ้นเดือนนี้
-
1. Tidal ใช้ Streaming แบบเข้ารหัสซึ่งพักหลังจะเปลี่ยนจาก mqa มาเป็น FLAC ครับ
เครื่องเล่นสมัยใหม่ส่วนใหญ่เล่นได้
2. เครื่องเล่นที่มี bt ส่วนใหญ่รับ codec ได้ดีสุดแค่ AAC ซึ่งไม่ค่อยดีเท่าไร สู้ฟังผ่าน usb ไม่ได้
3. สงสัยเหมือนกันว่า อย่าง Alpine 2 din มันแพงอะไรนักหนา เพราะ CD ก็ถอดออกแล้ว
นั่นละครับพี่ แทบทุกยี่ห้อเลยที่ราคาแพง ผมเลยอยากรู้ว่า ตัวเขาเอง ทำอะไรได้บ้างละครับ
-
จริงๆ ถ้าเทียบในยุคเครื่องเสียงที่ผ่านมา มันก็เหมือนการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยของแหล่งนำสื่อครับ
ถ้าไม่นับพื้นฐานที่สามารถหังวิทยุ FM / AM ได้
ยุคก่อนก็เป็นเครื่องเล่นเทป ยุคต่อมาก็เป็นเครื่องเล่น CD
ยุคต่อมาก็เป็นเครื่องให้เสียงผ่าน AUX
ยุคต่อมาอีกก็เป็นเครื่องเล่นไฟล์ MP3 จาก USB หรือ HDD ในตัว
ยุคปัจจุบันก็เป็นเครื่องให้เสียงผ่าน Bluetooth และเครื่องเล่น Apple CarPlay , Android Auto จากมือถือ
ถ้าไม่มีสื่ออย่างเทป , CD , แหล่งเก็บข้อมูล MP3 , มือถือ มันก็ทำได้แค่วิทยุเท่านั้นครับ
ถ้าถามว่าแล้วที่มันทำอะไรได้ในตัวก็มีครับ
อย่างที่เข้าใจก็พวกจอจีนใส่ Android มาโต้งๆ ใช้งานแอปเหมือนมือถือ / Tablet เครื่องนึงที่ใช้ไฟรถ
หรือบางรุ่นก็จะเป็นระบบปฏิบัติการ Android Automotive เฉพาะที่จะมีแอป Google มาให้ในตัวเช่น Maps อย่างพวก Volvo หลังยุค Sensus หรือ Honda Accord โฉมใหม่ที่จะมาไทยสิ้นเดือนนี้
ขอบคุณครับ
ผมเองก็ดูๆว่าเดี๋ยวนี้ตัวเขาเองก็แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย จะมาใช้สื่อสมัยใหม่ ก็ต้องมาพึ่ง มือถือ แอนดรอยบ็อซ์ แอปเปิ้ลทีวี เชื่อมต่อเอา ไม่ว่าจะทาง บลูทูธ (แถมบลูทูธแต่ละค่ายก็ได้ไม่เหมือนกันอีก) / wifi / usb / usbaudio / hdmi เชื่อมต่อเข้ามา แทบทุกค่ายเลย
ตอนแรกผมยังนึกว่า ถ้ารุ่นที่แพงๆหน่อย เขาจะบรรจุพวกแอปที่ฟังเพลงในปัจจุบันไว้ในตัวเครื่องเขาเองเลย ไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่มต่อละครับ แต่ดูไปดูมาเหมือนเขาเป็นแค่ ทีวี เครื่องนึงที่รับสัญญาณภาพและเสียงจากแหล่งอื่นมาเท่านั้นเองละครับ
อย่างไรก็ดีก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยเข้ามาให้ความเห็นไว้ด้วยนะครับ
-
ถ้าเน้นฟังเพลงอย่างเดียว
1 din ไม่มี CD เล่นไฟล์ FLAC จาก usb
ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ
เสียงดี ปรับแต่งได้เยอะ
ถ้ารุ่นแพง ก็จะเชื่อมแอพปรับแต่งในมือถือได้เลย
ราคาก็ถือว่าสมเหตุผล ถึงจะแพงไปนิด
-
ถ้าเน้นฟังเพลงอย่างเดียว
1 din ไม่มี CD เล่นไฟล์ FLAC จาก usb
ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ
เสียงดี ปรับแต่งได้เยอะ
ถ้ารุ่นแพง ก็จะเชื่อมแอพปรับแต่งในมือถือได้เลย
ราคาก็ถือว่าสมเหตุผล ถึงจะแพงไปนิด
ขอบคุณมากครับพี่ ผมเองก็คิดแบบนั้น คันที่เปลี่ยน ฟร้อนท์ ไปเลยไม่ได้เน้นอะไรมาก แต่พอดีผมไม่ค่อยได้ใช้คันนั้นแล้วแฟนเขาว่า ถ้ามีกล้องไว้ดูตอนถอยหลังหน่อยก็ดี เลยไปลองดูแบบจอไว้บ้าง
ดูไปดูมามันก็เริ่มจะขยับรุ่นไปเรื่อยๆ ( พอดีช่วงช่องใส่ของผมมันน่าจะพอดัดแปลงพวกจอใหญ่ๆมาใส่ได้ ) เลยมานั่งคิดว่า มันจะดีไหม ในเมื่ออะไรๆหลายๆอย่างต้องพึ่งจากข้างนอกอย่างเดียว แล้วเราก็ต้องการมองด้านหลังจากกล้องแค่นั้น สู้ไปเปลี่ยนเป็น จอขนาดปกติ แล้วเอางบไปลงที่ dsp amp จะดีกว่าหรือเปล่าละครับ
เลยมาลองถามๆดูเผื่อเขามีลูกเล่นอะไรๆที่ผมยังรู้ไม่ถึงเขาอยู่ละครับ
-
ผมยังถือคติว่า ถ้า front คุณภาพดี
ตัวปรับแต่งเสียงไม่จำเป็นครับ
เพราะ Front ดีปรับได้ละเอียดพอควร
ทุ่มงบที่แอมป์กับลำโพงได้เลย
-
ขอบคุณมากครับพี่