Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: iKrit ที่ กันยายน 13, 2023, 14:01:23
-
เรื่องนี้ผมสงสัยมาหลายปีละ เติม E20 ของ Caltex ทีไร ระยะทางที่วิ่งได้ 650-670 กม. ต่อ 30 ลิตร บ้างก็เคยแตะ 700 กม. มักจะมากกว่า บางจาก Esso ปตท. อยู่เสมอที่ส่วนใหญ่จะป้วนเปี้ยน 610-630 กม. ต่อ 30 ลิตร เอาสุด ๆ ก็ 650 กม. ทั้งที่ตัว E20 ของ Caltex เองก็ไม่ได้โฆษณาว่าใส่สารเติมแต่งพิเศษเทครอนอะไร เส้นทางที่ใช้ก็เป็นเส้นทางประจำ แทบไม่ออกนอกเส้นทางเดิมเลย ไม่ทราบว่ามันมีอะไรพิเศษกว่ายี่ห้ออื่นหรือป่าวครับ? เช่น คุณสมบัติของตัวน้ำมันที่มันต่างจากค่ายอื่นหรืออะไร ใครพอจะมีข้อมูลอ้างอิงได้บ้างไหมครับ
รถที่ใช้ Toyota C-HR Hybrid และปกติผมเติมน้ำมัน 30 ลิตร ทุกครั้งครับ ไม่ได้ให้กดเติมจนเต็มถังเลย
-
เรื่องนี้ผมสงสัยมาหลายปีละ เติม E20 ของ Caltex ทีไร ระยะทางที่วิ่งได้ 650-670 กม. ต่อ 30 ลิตร บ้างก็เคยแตะ 700 กม. มักจะมากกว่า บางจาก Esso ปตท. อยู่เสมอที่ส่วนใหญ่จะป้วนเปี้ยน 610-630 กม. ต่อ 30 ลิตร เอาสุด ๆ ก็ 650 กม. ทั้งที่ตัว E20 ของ Caltex เองก็ไม่ได้โฆษณาว่าใส่สารเติมแต่งพิเศษเทครอนอะไร เส้นทางที่ใช้ก็เป็นเส้นทางประจำ แทบไม่ออกนอกเส้นทางเดิมเลย ไม่ทราบว่ามันมีอะไรพิเศษกว่ายี่ห้ออื่นหรือป่าวครับ? เช่น คุณสมบัติของตัวน้ำมันที่มันต่างจากค่ายอื่นหรืออะไร ใครพอจะมีข้อมูลอ้างอิงได้บ้างไหมครับ
รถที่ใช้ Toyota C-HR Hybrid และปกติผมเติมน้ำมัน 30 ลิตร ทุกครั้งครับ ไม่ได้ให้กดเติมจนเต็มถังเลย
ผมว่าน่าจะส่วนผสม ที่ต่างกันทำให้การฉีดน้ำมัน หนาบางต่างกัน ผมเทสกับมิราจ ปตท กับ เอสโซ่ ก็ต่างกันชัดเจน แฟนขับไปทำงานถนนโล่งๆประมาณ 10 โล วิ่งได้ไกลกว่าแบบเห็นได้ชัดหลายวันเลย
** ผมเคยมาให้ความเห็นประมาณนี้ละ ระวังโดนไล่ให้ไปทำวิจัยมานะครับ 55555
-
เพราะเขาชูจุดขายว่าได้ระยะเพิ่มเติม มั้งครับ
แต่หลายยี่ห้อก็โฆษณาในลักษณะเดียวกันครับ
-
คุ้นๆว่า สักค่ายเนี่ยแหละ โฆษณาอยู่ว่า ไปได้ไกลกว่าชาวบ้าน
แต่ผมก็ไม่ได้เติมนะ ใช้แต่บางจาก เติมเอง ;D
-
อาจจะเป็นแค่บางค่ายมั้งครับ
E20 สำหรับผม บางจากไปได้ไกลสุด
-
อาจจะเป็นแค่บางค่ายมั้งครับ
E20 สำหรับผม บางจากไปได้ไกลสุด
เหมือนผมเลยครับ E20 ผมว่าบางจากนี่แหล่ะวิ่งได้ระยะทางไกลดี
-
จะมีใครทำการทดลองบ้างมั้ยครับ ผมออกแบบการทดลองให้ก็ได้ครับ
ใช้รถทดสอบคันเดียวกัน ทดสอบอยู่กับที่ ยกล้อขับเคลื่อนให้ลอย หรืออยู่บนลูกกลิ้งที่มีโหลดคงที่ ดูดน้ำมันออกจากถังจนหมดจากนั้นเดินเครื่องจนเครื่องยนต์ดับ
เติมน้ำมันที่ต้องการทดสอบลงไปในถังจำนวนหนึ่ง (หรือไม่ก็ต่อ container ที่กรองน้ำมันเชื้อเพลิงเลย) ตั้งทริปมิเตอร์เป็น 0 สตาร์ทรถ ขับให้ถึงความเร็วคงที่ที่ค่าหนึ่ง ให้ล้อหมุนไปเรื่อยๆจนเครื่องยนต์ดับแล้วดูระยะทางที่รถวิ่งได้
ทำแบบเดียวกันกับน้ำมันที่ต้องการทดสอบตัวอื่น
เอาค่าระยะทางที่รถขับได้จนเครื่องยนต์ดับมาเปรียบเทียบกัน
จากนั้นค่อยมาขิงกันอีกที่ 5555
จะมีใครทำมั้ยวุ้ย 8) 8)
-
อาจจะเป็นแค่บางค่ายมั้งครับ
E20 สำหรับผม บางจากไปได้ไกลสุด
เหมือนผมเลยครับ E20 ผมว่าบางจากนี่แหล่ะวิ่งได้ระยะทางไกลดี
ปกติส่วนใหญ่ ผมเติม E20 บางจาก
แต่ช่วงนี้เติมคาลเท็กซ์ติดต่อกันมาหลายถังแล้ว อัตราสิ้นเปลือง ก็ไม่ได้ประหยัดกว่าบางจาก วิ่งเส้นทางเดียวกัน ช่วงเวลาเดียวกันครับ
แต่...ผมก็ไม่กล้าสรุปว่า คาลเท็กซ์ด้อยกว่า เพราะตัวแปลอื่นๆ ที่เราควบคุมไม่ได้ ก็มีผลต่ออัตราสิ้นเปลืองครับ
-
ส่วนผสมของน้ำมันแต่ละยี่ห้อมันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
-
เรื่องนี้ผมสงสัยมาหลายปีละ เติม E20 ของ Caltex ทีไร ระยะทางที่วิ่งได้ 650-670 กม. ต่อ 30 ลิตร บ้างก็เคยแตะ 700 กม. มักจะมากกว่า บางจาก Esso ปตท. อยู่เสมอที่ส่วนใหญ่จะป้วนเปี้ยน 610-630 กม. ต่อ 30 ลิตร เอาสุด ๆ ก็ 650 กม. ทั้งที่ตัว E20 ของ Caltex เองก็ไม่ได้โฆษณาว่าใส่สารเติมแต่งพิเศษเทครอนอะไร เส้นทางที่ใช้ก็เป็นเส้นทางประจำ แทบไม่ออกนอกเส้นทางเดิมเลย ไม่ทราบว่ามันมีอะไรพิเศษกว่ายี่ห้ออื่นหรือป่าวครับ? เช่น คุณสมบัติของตัวน้ำมันที่มันต่างจากค่ายอื่นหรืออะไร ใครพอจะมีข้อมูลอ้างอิงได้บ้างไหมครับ
รถที่ใช้ Toyota C-HR Hybrid และปกติผมเติมน้ำมัน 30 ลิตร ทุกครั้งครับ ไม่ได้ให้กดเติมจนเต็มถังเลย
เป็นที่เติมครั้งละ 30 ลิตรนี่แหละครับ
เพราะมันบอกไม่ได้อย่างแน่นอนว่า ระยะทางที่วิ่งไป 6xx km ในแต่ละครั้งนั้น
เกิดจากการใช้น้ำมัน 30 ลิตรครับ
-
จากที่ใช้มาผมว่าไม่ต่างครับ
-
จะมีใครทำการทดลองบ้างมั้ยครับ ผมออกแบบการทดลองให้ก็ได้ครับ
ใช้รถทดสอบคันเดียวกัน ทดสอบอยู่กับที่ ยกล้อขับเคลื่อนให้ลอย หรืออยู่บนลูกกลิ้งที่มีโหลดคงที่ ดูดน้ำมันออกจากถังจนหมดจากนั้นเดินเครื่องจนเครื่องยนต์ดับ
เติมน้ำมันที่ต้องการทดสอบลงไปในถังจำนวนหนึ่ง (หรือไม่ก็ต่อ container ที่กรองน้ำมันเชื้อเพลิงเลย) ตั้งทริปมิเตอร์เป็น 0 สตาร์ทรถ ขับให้ถึงความเร็วคงที่ที่ค่าหนึ่ง ให้ล้อหมุนไปเรื่อยๆจนเครื่องยนต์ดับแล้วดูระยะทางที่รถวิ่งได้
ทำแบบเดียวกันกับน้ำมันที่ต้องการทดสอบตัวอื่น
เอาค่าระยะทางที่รถขับได้จนเครื่องยนต์ดับมาเปรียบเทียบกัน
จากนั้นค่อยมาขิงกันอีกที่ 5555
จะมีใครทำมั้ยวุ้ย 8) 8)
อยากให้มีใครทำเหมือนกันครับ จะได้ไขปริศนานี้ได้ซักที 🙂
-
คุ้นๆว่า สักค่ายเนี่ยแหละ โฆษณาอยู่ว่า ไปได้ไกลกว่าชาวบ้าน
แต่ผมก็ไม่ได้เติมนะ ใช้แต่บางจาก เติมเอง ;D
มี Esso FuelSave กับ Caltex Techlon นี่ล่ะครับ แต่ปัญหาคือ E20 ของ Caltex ไม่มี Techlon แต่ทำไมขับไปได้ไกลกว่า 🤔
-
เมืองนอกเขาใช้วิธี เติมใส่เครื่องปั่นไฟ
วัดกำลังไฟฟ้าที่ปั่นได้ และเวลาที่ปั่นได้
ยี่ห้อไหนได้มากที่สุด ก็อันนั้นแหละ
-
รถที่ใช้ Toyota C-HR Hybrid และปกติผมเติมน้ำมัน 30 ลิตร ทุกครั้งครับ ไม่ได้ให้กดเติมจนเต็มถังเลย
ผมว่าตรงนี้มีโอกาส error ครับ
ถ้าใช้วิธีเติมเต็มถังจนหัวจ่ายตัด แล้วคำนวณหาปริมาณน้ำมันที่ใช้ไป น่าจะได้ค่าที่ใกล้เคียงกว่า
และที่สำคัญคือต้องควบคุมปัจจัยภายนอกให้ได้ สภาพการจราจรต้องเหมือนกัน
หรือไม่ก็ใช้วิธีทดสอบแบบเว็บนี้ คือวิ่งตอนกลางคืนช่วงที่ไม่มีรถ ใช้เส้นทางเดียวกัน ความเร็วนิ่งๆ แล้ววนกลับมาเติมปั๊มเดิม
ผมเองก็เก็บข้อมูลการเติมน้ำมันแต่ละปั๊มเหมือนกัน แต่สภาพการจราจรมันไม่เหมือนกัน การขับขี่ก็ไม่เหมือนกัน
ปรากฏว่าค่าที่ได้มันไม่คงที่ ขนาดปั๊มยี่ห้อเดียวกันบางทียังได้อัตราสิ้นเปลืองต่างกัน 2 km/l เลย
สุดท้ายเลยสรุปผลไม่ได้
-
ผมไม่ใช่สายประหยัด ขับแบบใช้จริง เหยียบให้สนุก แต่เติมทีไร caltex E20 ก้วิ่งได้ไกลกว่าคนอื่นนิดๆ
ครับ แต่ผมไม่มานั่งจับนะ เสียเวลาแต่ถ้าจะเอาแรงแบบเห็นชัด Shell ครับ แต่ตอนนี้ขายแพงกว่า 1 บาท
ยังไงผมก้ไม่เติม ถ้าเท่ากันผมเติม shell แน่นอน พอตอนนี้ไม่มี Esso แล้วผมก้จะเหลือเติมแค่ shell &
Caltex นี่ล่ะ แต่ถ้าไม่มีปั้มจริงๆก้บางจากได้ แต่เติมไม่เยอะ
-
ไม่เคยทำการทดสอบจริงจัง แต่เติม บางจาก กับ caltex สลับกันประจำกับรถคันที่วิ่งที่เดิมเวลาเดิมประจำ มั่นใจว่าไม่แตกต่างครับ เติมทุกๆ 10วัน ระยะทางวิ่งเหลือเท่าเดิมตลอด บวกลบ 10 รถที่ใช้ lexus es2020 ครับ
ที่เท่าเดิมตลอดเพราะขับตอนถนนโล่ง ละใช้ความเร็วเท่าเดิม แต่ก็ไม่ได้ใช้รถน้ำมันมา 6-7เดือนแล้วครับ
-
ไม่เห็นจะต่างกันกับยี่ห้ออื่นเลย ;D
-
เอาแค่เรื่องหัวจ่าย จ่ายน้ำมันได้เต็มลิตรไม่ขาด ก็เป็นพระคุณมากแล้วครับ
-
สื่อนอก เคยลอง V power เทียบกับน้ำมันธรรมดา
ผลเรื่องระยะเวลาทำงานไม่ต่าง
มีผลเรื่องทำความสะอาดกว่าเท่านั้น
-
คุ้นๆว่า สักค่ายเนี่ยแหละ โฆษณาอยู่ว่า ไปได้ไกลกว่าชาวบ้าน
แต่ผมก็ไม่ได้เติมนะ ใช้แต่บางจาก เติมเอง ;D
มี Esso FuelSave กับ Caltex Techlon นี่ล่ะครับ แต่ปัญหาคือ E20 ของ Caltex ไม่มี Techlon แต่ทำไมขับไปได้ไกลกว่า 🤔
ก็ไม่อยากคิดร้ายเหมือนกันครับ ;D ;D ;D ;D
-
E20 บางจากไกลสุดค่ะ ตราดาวหมดไวมว๊ากกกกกกไวสุด
-
อาจจะเป็นแค่บางค่ายมั้งครับ
E20 สำหรับผม บางจากไปได้ไกลสุด
เหมือนผมเลยครับ E20 ผมว่าบางจากนี่แหล่ะวิ่งได้ระยะทางไกลดี
ปกติส่วนใหญ่ ผมเติม E20 บางจาก
แต่ช่วงนี้เติมคาลเท็กซ์ติดต่อกันมาหลายถังแล้ว อัตราสิ้นเปลือง ก็ไม่ได้ประหยัดกว่าบางจาก วิ่งเส้นทางเดียวกัน ช่วงเวลาเดียวกันครับ
แต่...ผมก็ไม่กล้าสรุปว่า คาลเท็กซ์ด้อยกว่า เพราะตัวแปลอื่นๆ ที่เราควบคุมไม่ได้ ก็มีผลต่ออัตราสิ้นเปลืองครับ
ผมเติมบางจากเป็นหลัก E20 ไม่ด้อยกว่ายี่ห้ออื่นในความรู้สึกผม
เรื่องระยะทางที่ได้ ถ้าเอาจริงจังคงต้องทดสอบกันเป็นเรื่องราว สุดท้ายเอาที่สะดวก และ พอใจครับ
-
8) 8) 8)......ถังต่อไปจะลองดูครับ รับรู้ไว้ละว่า Caltex E 20 ไม่ผสม Techron เดิมเติม ของ ESSO อยู่ :-X
-
ผมว่าคิดไปเองครับ
-
น่าจะอยู่ที่การขับขี่ มากกว่าครับ
แต่ละครั้งเท่ากันยาก
-
โรงกลั่นน้ำมันไว้คลัง ส่วนสถานีน้ำมันก็ไปเบิกจากคลังน้ำมัน ถ้าเบสน้ำมันพื้นฐานก็จะเหมือนกัน แต่ถ้าตัวพรีเมียมก็มีเติม Additive สินถ้า commodity เน้นราคา
-
ผมเคยสังเกตว่าตัวปั๊มก็มีผลนะครับ
ถ้าปั๊มใหม่ๆ สังเกตหลายทีละว่า มักจะทำระยะทางได้ไกลกว่าปั๊มเก่า ไม่รู้จะเกี่ยวกับอัตราการหมุนเวียนของน้ำมันในถังใต้ดินหรือเปล่า
เคสนี้เจอกับ E20 ตราเสือและบางจาก ที่เติมปั๊มทางผ่านมาทำงาน(ปั๊มเก่า) มันทำอัตราสิ้นเปลืองได้ไม่ดีเท่ากับ ไปเติมจากปั๊มใหม่ๆ
-
จะมีใครทำการทดลองบ้างมั้ยครับ ผมออกแบบการทดลองให้ก็ได้ครับ
ใช้รถทดสอบคันเดียวกัน ทดสอบอยู่กับที่ ยกล้อขับเคลื่อนให้ลอย หรืออยู่บนลูกกลิ้งที่มีโหลดคงที่ ดูดน้ำมันออกจากถังจนหมดจากนั้นเดินเครื่องจนเครื่องยนต์ดับ
เติมน้ำมันที่ต้องการทดสอบลงไปในถังจำนวนหนึ่ง (หรือไม่ก็ต่อ container ที่กรองน้ำมันเชื้อเพลิงเลย) ตั้งทริปมิเตอร์เป็น 0 สตาร์ทรถ ขับให้ถึงความเร็วคงที่ที่ค่าหนึ่ง ให้ล้อหมุนไปเรื่อยๆจนเครื่องยนต์ดับแล้วดูระยะทางที่รถวิ่งได้
ทำแบบเดียวกันกับน้ำมันที่ต้องการทดสอบตัวอื่น
เอาค่าระยะทางที่รถขับได้จนเครื่องยนต์ดับมาเปรียบเทียบกัน
จากนั้นค่อยมาขิงกันอีกที่ 5555
จะมีใครทำมั้ยวุ้ย 8) 8)
ไม่มีใครกล้าหรอกครับ น่าจะกลัวผลไม่แตกต่างกันหรือยี่ห้อที่ตัวเองเชียร์ได้ที่โหล่ หักปากกาเซียน 555
-
จะมีใครทำการทดลองบ้างมั้ยครับ ผมออกแบบการทดลองให้ก็ได้ครับ
ใช้รถทดสอบคันเดียวกัน ทดสอบอยู่กับที่ ยกล้อขับเคลื่อนให้ลอย หรืออยู่บนลูกกลิ้งที่มีโหลดคงที่ ดูดน้ำมันออกจากถังจนหมดจากนั้นเดินเครื่องจนเครื่องยนต์ดับ
เติมน้ำมันที่ต้องการทดสอบลงไปในถังจำนวนหนึ่ง (หรือไม่ก็ต่อ container ที่กรองน้ำมันเชื้อเพลิงเลย) ตั้งทริปมิเตอร์เป็น 0 สตาร์ทรถ ขับให้ถึงความเร็วคงที่ที่ค่าหนึ่ง ให้ล้อหมุนไปเรื่อยๆจนเครื่องยนต์ดับแล้วดูระยะทางที่รถวิ่งได้
ทำแบบเดียวกันกับน้ำมันที่ต้องการทดสอบตัวอื่น
เอาค่าระยะทางที่รถขับได้จนเครื่องยนต์ดับมาเปรียบเทียบกัน
จากนั้นค่อยมาขิงกันอีกที่ 5555
จะมีใครทำมั้ยวุ้ย 8) 8)
อยากให้เวบนี้ทำนะครับ รีวิวรถเดี๋ยวนี้มีเยอะแล้ว รีวิวน้ำมันบ้างจะได้มีreferenceให้อ้างอิงได้มากกว่าความรู้สึกแต่ละคน
แต่ให้ล้อหมุนไปเรื่อยๆจนเครื่องยนต์ดับนี่อันตรายต่อปั๊มติ้กอย่างแรง ไม่รู้จำมีใครยอมสละรถมาให้เทสมั้ย
-
วิธีการวัดของคุณ Error by yourself เองเลยครับ
มีอย่างที่ไหน เติม 20 ลิตรเท่ากัน แล้วไปเชื่อ-ดูจากตัวเลขดิจิตอล ??
คุณเชื่อผมมั้ยว่า ถ้าคุณเปลี่ยนวิธีการนะ ทำตามนี้
1. เริ่มต้นจากเติมน้ำมันให้เต็มถัง จนน้ำมันเอ่อขึ้นมาถึงปากถังก่อน
2. Reset tripmeter ในรถคุณ ทั้งระยะทาง และอัตราสิ้นเปลือง กม/ล
3. วิ่งใช้งานไปตามปกติ จนกว่าจะถึงเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณอยากจะเติมน้ำมันอีกรอบ
4. เติมกลับลงไปจนเต็มถังอีกครั้งนึง เอาให้น้ำมันมันเอ่อขึ้นมาถึงปากถังเหมือนเดิม
5. จดระยะทางที่รถวิ่ง และจำนวนลิตรน้ำมันที่เติมกลับจนเต็มถัง
6. เอาระยะทางที่รถวิ่งไป หารด้วยจำนวนน้ำมันที่เติมกลับ เพื่อหาอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน หน่วยเป็น กม/ล
7. แล้วคุณจะพบว่า
7.1 ตัวเลขที่คุณได้ตามข้อ 6 กับตัวเลขที่จอในรถคุณแสดงอยู่ จะไม่ตรงกันเป๊ะๆ แต่จะผิดเพี้ยนกัน มาก/น้อยแล้วแต่ครั้ง
7.2 แม้ว่าคุณจะขับใช้งาน เส้นทางเดิมๆ ระยะทางราวๆ เดิม แต่ทุกถังทุกครั้งที่คุณเติมน้ำมัน คุณจะคำนวณได้ กม/ล ที่ไม่เท่ากันเป๊ะๆ ครับ
เพราะมันมีตัวแปร/ปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้เหมือนกันเปี๊ยบ เหมือนเวลาทดลอง/ทดสอบให้ห้องแล็บ
8. นี่ขนาดรถคันเดียวกัน + คนขับคนเดียวกัน + เส้นทางที่รถวิ่งก็เส้นทางเดิม + น้ำมันที่เติมก็ยี่ห้อเดิม
ต่างกันแค่ว่า คนละวัน คนละถัง มันยังไม่สามารถทำให้อัตรากินน้ำมัน มันเท่าๆ กันทุกๆ ถังเลยครับ
ฉนั้น วิธีการวัดเปรียบเทียบแบบที่คุณทำอยู่ .. ไม่สามารถเอามาใช้ตัดสินชี้ขาด เปรียบเทียบข้ามยี่ห้อ ฯลฯ อะไรได้เลยแม้แต่น้อยครับ
-
จะมีใครทำการทดลองบ้างมั้ยครับ ผมออกแบบการทดลองให้ก็ได้ครับ
ใช้รถทดสอบคันเดียวกัน ทดสอบอยู่กับที่ ยกล้อขับเคลื่อนให้ลอย หรืออยู่บนลูกกลิ้งที่มีโหลดคงที่ ดูดน้ำมันออกจากถังจนหมดจากนั้นเดินเครื่องจนเครื่องยนต์ดับ
เติมน้ำมันที่ต้องการทดสอบลงไปในถังจำนวนหนึ่ง (หรือไม่ก็ต่อ container ที่กรองน้ำมันเชื้อเพลิงเลย) ตั้งทริปมิเตอร์เป็น 0 สตาร์ทรถ ขับให้ถึงความเร็วคงที่ที่ค่าหนึ่ง ให้ล้อหมุนไปเรื่อยๆจนเครื่องยนต์ดับแล้วดูระยะทางที่รถวิ่งได้
ทำแบบเดียวกันกับน้ำมันที่ต้องการทดสอบตัวอื่น
เอาค่าระยะทางที่รถขับได้จนเครื่องยนต์ดับมาเปรียบเทียบกัน
จากนั้นค่อยมาขิงกันอีกที่ 5555
จะมีใครทำมั้ยวุ้ย 8) 8)
อยากให้เวบนี้ทำนะครับ รีวิวรถเดี๋ยวนี้มีเยอะแล้ว รีวิวน้ำมันบ้างจะได้มีreferenceให้อ้างอิงได้มากกว่าความรู้สึกแต่ละคน
แต่ให้ล้อหมุนไปเรื่อยๆจนเครื่องยนต์ดับนี่อันตรายต่อปั๊มติ้กอย่างแรง ไม่รู้จำมีใครยอมสละรถมาให้เทสมั้ย
ถ้าไม่ต้องให้ถึงกับน้ำมันหมดเกลี้ยง แต่ตั้งจุดอ้างอิงขึ้นมาแทน เช่น แตะขีดสุดท้าย หรือ จุดที่ไฟเตือนน้ำมันขึ้น ก็น่าจะตัดปัญหาเรื่องอันตรายต่อปั๊มติ๊กได้นะครับ