Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: z4kas ที่ กันยายน 19, 2023, 00:27:49
-
สวัสดีครับ
ตอนนี้สนใจ Air EV อยู่
ปัจจุบันมีรถใหญ่อยู่แล้ว
แต่ชอบรถเล็กเป็นทุนเดิมนานแล้ว (Smart แต่ราคาแอบแรง)
จะเอามาวิ่งแทนรถใหญ่
เนื่องจากค่าใช้จ่าย และชอบในความคล่องตัวด้วย
พอเห็นเจ้าจิ๋วนี่ คือถูกใจมาก
- ราคาก็ไม่ใช่จะถูก ถ้าคิดว่าไซส์แค่นี้
- แต่ที่มีให้มาก็ไม่ใช่จะขี้เหร่
- ไฟLed จอคู่ไซส์ใหญ่ เบาะหนัง
ที่นั่งกว้างทั้งหน้าหลัง
ช่วงล่างพอได้ อัตราเร่งพอดี
การประกอบดีเลย วัสดุดูมีคุณภาพ
- แบตไม่ใหญ่ แต่ก็ไม่เล็ก
ถึงเวลาเปลี่ยนก็คงไม่แพง
- ต้นกำเนิดมาจาก 3 ยักษ์ใหญ่
ตัวรถน่าจะพัฒนามาดีเลย เพราะขายทั่วโลกใ
แต่ทีนี้ที่อยากถาม
- อนาคตความมั่นคงของบริษัทที่ขาย มีแค่ไหน
- Wuling จะลอยแพไหม
- สรุปง่าย ๆ รถดีจนอยากใช้
แต่กลัวหาอะไหล่ซ่อมบำรุงทีหลังไม่ได้
ไม่ได้คิดจะขาย เพราะคงไม่มีราคาอยู่แล้วกับรถไฟฟ้า
เลยอยากใช้ให้นานที่สุดให้คุ้มราคา
อย่างน้อยคงใช้ไปเกิน 300000 โลแน่ ๆ
วิ่งวันละ 170 โล
-
ผมว่าซื้อ celerio ดีกว่านะครับ เป็นรถเล็แถมขับดีไม่จุกจิก เห็นเอามาแต่งโหลดเตี้ยก็สวย ดีกว่าซื้อรถกอล์ฟไฟฟ้ากระป๋องกระแป๋งจากจีน
-
ด้วยไซต์รถมันคือ micro car นะซิครับ
เหมาะกับใช้งานแทนการเดิน แทนการปั่นจักรยาน
เอาไว้วิ่งในตัวเมืองจริงๆ อย่างสีลมไปจุฬา
ให้ข้อคิดเรื่องความปลอดภัย
แค่กระบะยุคใหม่วิ่ง30มาชนเราตอนจอดอยู่นิ่งก็น่ากลัวละครับ
ถ้าเอามาวิ่ง 160 โลอยากประหยัด ผมเอารถเล็กมาติดแก็สดีกว่าครับ (มิราจ บริโอ้)
-
วิ่งวันละ 170 ไม่น่าใช่ usecase ของเจ้า AirEV ละมั้งคับ เพราะมันวิ่งได้ 200 โลเอง
เท่ากับไปกลับเนี่ย ห้ามไปแวะไหนเลย นอกจากต้องไปหาที่ชาร์จกลางทาง และมันดันชาร์จได้แค่ AC พวก DC Fastcharge ตามปั๊มก็ใช้ไม่ได้อีก จาก spec ผมว่าเจ้า AirEV นี่ไม่ตอบโจทย์การใช้งานอะคับ
ปล. ผมเองก็เล็ง ๆ อยู่ แต่กะแค่เอาไว้ใช้รับส่งลูก วันละ 30-40 โล ต่อให้ไปแวะห้าง ซื้อข้าว ยังไงมันก็พอให้วิ่งได้ 2-3 วันต่อการชาร์จ
-
ระยะวิ่งได้ต่อชาร์จไม่เหมาะสมกับการใช้ครับ รอปีหน้า BYD ขนาดเล็กอาจจะเข้ามาให้เลือกครับ
-
ระยะยาว BYD น่าสนกว่าครับ
แถวบ้านผม ขนาดอยู่ ตจว. ยังมีศูนย์ใหญ่เลย
ศูนย์เยอะ ศูนย์ไกล้บ้าน เรื่องอะไหล่+ระยะยาว อุ่นใจก่าครับ
-
วิ่งวันละ 170 ไม่น่าใช่ usecase ของเจ้า AirEV ละมั้งคับ เพราะมันวิ่งได้ 200 โลเอง
เท่ากับไปกลับเนี่ย ห้ามไปแวะไหนเลย นอกจากต้องไปหาที่ชาร์จกลางทาง และมันดันชาร์จได้แค่ AC พวก DC Fastcharge ตามปั๊มก็ใช้ไม่ได้อีก จาก spec ผมว่าเจ้า AirEV นี่ไม่ตอบโจทย์การใช้งานอะคับ
ปล. ผมเองก็เล็ง ๆ อยู่ แต่กะแค่เอาไว้ใช้รับส่งลูก วันละ 30-40 โล ต่อให้ไปแวะห้าง ซื้อข้าว ยังไงมันก็พอให้วิ่งได้ 2-3 วันต่อการชาร์จ
ตัวท็อปวิ่งได้ 300 ครับ
ถูไถ ยังไงก็มี 240-270 ครับ
-
ผมว่าซื้อ celerio ดีกว่านะครับ เป็นรถเล็แถมขับดีไม่จุกจิก เห็นเอามาแต่งโหลดเตี้ยก็สวย ดีกว่าซื้อรถกอล์ฟไฟฟ้ากระป๋องกระแป๋งจากจีน
เซเลผมก็ดูมาครับ
ทั้งวัสดุ และการประกอบ
ผมว่า Air ev ดีกว่ามาก
ในราคาห่างกันนิดเดียว
แต่ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าเยอะ
จอดง่าย เปิดแอร์ทิ้งได้
ติดแค่เรื่องศูนย์กับอะไหล่ในระยะยาว
ผมไม่แน่ใจ เลยลองมาถามพี่ ๆ ดูครับ
-
ด้วยไซต์รถมันคือ micro car นะซิครับ
เหมาะกับใช้งานแทนการเดิน แทนการปั่นจักรยาน
เอาไว้วิ่งในตัวเมืองจริงๆ อย่างสีลมไปจุฬา
ให้ข้อคิดเรื่องความปลอดภัย
แค่กระบะยุคใหม่วิ่ง30มาชนเราตอนจอดอยู่นิ่งก็น่ากลัวละครับ
ถ้าเอามาวิ่ง 160 โลอยากประหยัด ผมเอารถเล็กมาติดแก็สดีกว่าครับ (มิราจ บริโอ้)
เคสที่ว่า ผมว่า บริโอ้ หรือมิราจ
ก็ไม่น่ารอดนะครับ 😂
-
คหสต นะครับ
ถ้างบแถวๆนี้ผมว่า neta v ดูน่าไว้ใจกว่าครับ ราคาสูงกว่า แต่ได้รถที่กว้างขึ้น ยาวขึ้น แถมหลังคาเตี้ยลง การขับขี่น่าจะดีขึ้นครับ
ถ้าต้องใช้งาน 170 km เดินทางในรถอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ต่อวัน ผมมองว่าส่วนนี้มีผมสำคัญครับ
Wuling Air EV ให้ความรุ้สึกเหมอืนรถกอล์ฟติดแอร์แล้ววิ่งบนถนนได้มากกว่าครับ
ถ้าขับไปที่ทำงานสัก 5-10 km ในโซนที่ใช่ความเร็วมากไม่ได้ผมว่าพอได้อยู่ แต่ถ้าออกถนนที่รถวิ่งเร็วๆได้คิดว่าไม่เหมาะเท่าไร่ครับ
-
ตามสเปครถ บอกว่า ชาร์จเต็ม วิ่งได้ 300k อยู่กลุ่มเดียวกับ Fomm One
อย่าลืมนะครับ รถสัญชาตินี้ (ผมไม่ได้ดูถูก หรือ ชาตินิยม นะครับ) โดยส่วนใหญ่หรือแทบจะทั้งหมด มันใช้ CLTP เป็นหน่วยวัดระยะ
แล้วรองรับการชาร์จ AC อย่างเดียวด้วย (ถ้าไม่รีบ ชาร์จที่บ้านทั้งคืน ยังพอได้)
เห็นโจทย์แล้ว ก็ติดตรง 170km ต่อ วัน นี่ละครับ แสดงว่าไม่ได้ใช้รถทั่วไป ยังกะรถวิ่งงานเลย มันสุ่มเสี่ยงมากนะ
เอามาใช้งานจริง อย่าลืม หักไปอีก 30% ด้วยนะครับ เพราะขนาด NEDC หรือ WLTP ก็ยังมี 10-15% เลย
ความเร็วสูงสุด 105km/h วิ่งบนทางด่วน จังหวะแซงนี่ อย่าเรียกว่าลุ้นเลย เพราะมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย(ยกเว้นว่า แซงรถช้าจริงๆ)
ผมว่ามันเหมาะกับการใช้งานในหมู่บ้าน ไปตลอด ไปห้าง ขับกินลม ขับคลานๆ ในเมืองรถติดๆ ไปทางทำงาน มากกว่า นะครับ
งบ 4 แสน ไปซื้อ Ecocar ดีกว่าไหมครับ หรือ ถ้าประหยัดไม่พอ จับ Ecocar ติดแก็สอีก ก็ประหยัดขึ้นอีกได้อยู่
หรือ ถ้าต้องการเล่น BEV จริงๆ ผมว่า (ถ้าเป็นผม) ผมมองไปที่ NetaV เพิ่มเงินไม่กี่หมื่น หรือ จะเพิ่มอีก 2 แสน ไป MG EP ผมก็ยังว่าคุ้มค่ากว่านะครับ
-
ดูจากการตอบกลับแล้ว ผมว่าคุณมีธงในใจแล้วนะครับ
ถ้าชอบก็ซื้อเลยครับ..
-
ดูแล้วไม่เข้ากับการใช้งานของคุณเลย
วิ่งวันละ 170 กิโล แต่รถชาร์จ DC ไม่ได้ ฉุกเฉินขึ้นมาลำบาก
ราคาก็ไม่ได้ถูกขนาดนั้น ตัวท๊อปมันถูกกว่า Neta V ไม่ถึงแสน
สรุปคือไปซื้อ Neta V เถอะครับ สะดวกสบายกว่าเยอะเลย
-
ดูจากการตอบกลับแล้ว ผมว่าคุณมีธงในใจแล้วนะครับ
ถ้าชอบก็ซื้อเลยครับ..
ตัวรถผมชอบอยู่แล้วครับ
ข้อมูลมีหามาพอสมควร
การใช้งาน ความเร็วที่ใช้ ถนนที่ใช้
มันใช้ได้ไม่มีปัญหาครับ
รถเก่าที่ใช้อยู่
ความเร็วได้ 180
ผมใช้จริง ไม่เกิน 90
อัตราเร่ง 0-100 10 วิ
ผมใช้จริง กว่าจะถึง 100 เกือบ 20 วิ
ค่อนข้างมีอายุแล้วครับ
เข้าใจรถ เข้าใจถนนพอสมควร
ติดแค่เรื่องที่ถามตามหัวข้อ
ที่ผมหาข้อมูลทางเนตไม่ได้
คิดว่าในนี้น่าจะมีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า
เลยลองมาตั้งถามเพิ่มความมั่นใจครับ
-
ดูแล้วไม่เข้ากับการใช้งานของคุณเลย
วิ่งวันละ 170 กิโล แต่รถชาร์จ DC ไม่ได้ ฉุกเฉินขึ้นมาลำบาก
ราคาก็ไม่ได้ถูกขนาดนั้น ตัวท๊อปมันถูกกว่า Neta V ไม่ถึงแสน
สรุปคือไปซื้อ Neta V เถอะครับ สะดวกสบายกว่าเยอะเลย
neta V ผมไม่ถูกจริตกับหน้าตามันมากครับ 😅
-
ตามสเปครถ บอกว่า ชาร์จเต็ม วิ่งได้ 300k อยู่กลุ่มเดียวกับ Fomm One
ตัวรถดีกว่า Fomm มากครับ การประกอบแน่นหนาดีมาก
อย่าลืมนะครับ รถสัญชาตินี้ (ผมไม่ได้ดูถูก หรือ ชาตินิยม นะครับ) โดยส่วนใหญ่หรือแทบจะทั้งหมด มันใช้ CLTP เป็นหน่วยวัดระยะ
หาข้อมูลจากหลายแห่งแล้ว
ขับเรื่อย ๆ ยังไงก็มี 250 +ครับ
ถ้าซิ่ง ก็ต้องมี 200 ให้เห็นครับ
แล้วรองรับการชาร์จ AC อย่างเดียวด้วย
(ถ้าไม่รีบ ชาร์จที่บ้านทั้งคืน ยังพอได้)
อันนี้ไม่มีปัญหาครับ ถนอมแบตด้วย
เห็นโจทย์แล้ว ก็ติดตรง 170km ต่อ วัน นี่ละครับ แสดงว่าไม่ได้ใช้รถทั่วไป ยังกะรถวิ่งงานเลย มันสุ่มเสี่ยงมากนะ
เอามาใช้งานจริง อย่าลืม หักไปอีก 30% ด้วยนะครับ เพราะขนาด NEDC หรือ WLTP ก็ยังมี 10-15% เลย
ถ้าข้อมูลที่ผมหามาไม่บิดเบือน ผมว่าระยะที่ได้ ค่อนข้างใกล้เคียงตามสเป็คครับ
ความเร็วสูงสุด 105km/h วิ่งบนทางด่วน จังหวะแซงนี่ อย่าเรียกว่าลุ้นเลย เพราะมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย(ยกเว้นว่า แซงรถช้าจริงๆ)
อันนี้ผมไม่มีปัญหาเลย จากการใช้งานปกติของผม
ผมว่ามันเหมาะกับการใช้งานในหมู่บ้าน ไปตลอด ไปห้าง ขับกินลม ขับคลานๆ ในเมืองรถติดๆ ไปทางทำงาน มากกว่า นะครับ
งบ 4 แสน ไปซื้อ Ecocar ดีกว่าไหมครับ หรือ ถ้าประหยัดไม่พอ จับ Ecocar ติดแก็สอีก ก็ประหยัดขึ้นอีกได้อยู่
หรือ ถ้าต้องการเล่น BEV จริงๆ ผมว่า (ถ้าเป็นผม) ผมมองไปที่ NetaV เพิ่มเงินไม่กี่หมื่น หรือ จะเพิ่มอีก 2 แสน ไป MG EP ผมก็ยังว่าคุ้มค่ากว่านะครับ
เนต้า ขอบายด้วยรสนิยมส่วนตัวครับ
ไม่ชอบหน้าตาโดยเฉพาะด้านท้ายของมันเลย
-
เห็นแถวแยกโรงไม้แถวบ้านผมมีวิ่งอยู่คันนึง ก้อดูสวยน่ารักดีนะ มีไฟเส้นด้านหน้าด้วย
แต่ถ้าใช้วันละ 170 โล ผมว่าไม่เหมาะ
มันเหมาะกับวิ่งในซอยในหมู่บ้าน จ่ายตลาดมากกว่า
ถ้าวันนึงวิ่ง 170โล น่าจะมีช่วงที่ทำความเร็วเกิน100อยู่ ซึ่งผมว่า Air มันจะไม่ไหวเอา
-
จากประสบการณ์การใช้ EV มา 1 ปีนะครับ
ควรซื้อรถที่ชาร์จ DC ได้ด้วย
หัวชาร์จของ Wuling นี้มันต้องใช้ตัวแปลงครับ ไม่ควรที่ต้องให้ใช้เลย ไม่ยอมเปลี่ยน socket มาให้ ถ้าเปลี่ยน socket แล้วมี DC เป็นรถที่น่าใช้คันหนึ่งครับ
-
ไม่น่าไหวครับขับไกลขนาดนั้น neta V ตัวเลือกดีสุดราคาถูกสุดที่ชาร์ทdc ได้ครับ ระยะทาง170โลเท่าผมขับจากเชียงใหม่ไปเชียงรายเลยครับ
-
ตามสเปครถ บอกว่า ชาร์จเต็ม วิ่งได้ 300k อยู่กลุ่มเดียวกับ Fomm One
ตัวรถดีกว่า Fomm มากครับ การประกอบแน่นหนาดีมาก
อย่าลืมนะครับ รถสัญชาตินี้ (ผมไม่ได้ดูถูก หรือ ชาตินิยม นะครับ) โดยส่วนใหญ่หรือแทบจะทั้งหมด มันใช้ CLTP เป็นหน่วยวัดระยะ
หาข้อมูลจากหลายแห่งแล้ว
ขับเรื่อย ๆ ยังไงก็มี 250 +ครับ
ถ้าซิ่ง ก็ต้องมี 200 ให้เห็นครับ
แล้วรองรับการชาร์จ AC อย่างเดียวด้วย
(ถ้าไม่รีบ ชาร์จที่บ้านทั้งคืน ยังพอได้)
อันนี้ไม่มีปัญหาครับ ถนอมแบตด้วย
เห็นโจทย์แล้ว ก็ติดตรง 170km ต่อ วัน นี่ละครับ แสดงว่าไม่ได้ใช้รถทั่วไป ยังกะรถวิ่งงานเลย มันสุ่มเสี่ยงมากนะ
เอามาใช้งานจริง อย่าลืม หักไปอีก 30% ด้วยนะครับ เพราะขนาด NEDC หรือ WLTP ก็ยังมี 10-15% เลย
ถ้าข้อมูลที่ผมหามาไม่บิดเบือน ผมว่าระยะที่ได้ ค่อนข้างใกล้เคียงตามสเป็คครับ
ความเร็วสูงสุด 105km/h วิ่งบนทางด่วน จังหวะแซงนี่ อย่าเรียกว่าลุ้นเลย เพราะมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย(ยกเว้นว่า แซงรถช้าจริงๆ)
อันนี้ผมไม่มีปัญหาเลย จากการใช้งานปกติของผม
ผมว่ามันเหมาะกับการใช้งานในหมู่บ้าน ไปตลอด ไปห้าง ขับกินลม ขับคลานๆ ในเมืองรถติดๆ ไปทางทำงาน มากกว่า นะครับ
งบ 4 แสน ไปซื้อ Ecocar ดีกว่าไหมครับ หรือ ถ้าประหยัดไม่พอ จับ Ecocar ติดแก็สอีก ก็ประหยัดขึ้นอีกได้อยู่
หรือ ถ้าต้องการเล่น BEV จริงๆ ผมว่า (ถ้าเป็นผม) ผมมองไปที่ NetaV เพิ่มเงินไม่กี่หมื่น หรือ จะเพิ่มอีก 2 แสน ไป MG EP ผมก็ยังว่าคุ้มค่ากว่านะครับ
เนต้า ขอบายด้วยรสนิยมส่วนตัวครับ
ไม่ชอบหน้าตาโดยเฉพาะด้านท้ายของมันเลย
ผมแค่แนะนำครับ
ถ้าคุณคิดว่ามันโอเค มีข้อหักล้างทุกข้อคิดเห็นที่ผมแนะนำ แสดงว่าตัดสินใจแล้ว ก็จัดเลย เอาที่เราชอบ จบสุด
-
555++
ดูทรงคือซื้อแน่นอน ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว
แต่ที่มาตั้งกระทู้คือ
แต่ทีนี้ที่อยากถาม
- อนาคตความมั่นคงของบริษัทที่ขาย มีแค่ไหน
- Wuling จะลอยแพไหม
- สรุปง่าย ๆ รถดี]จนอยากใช้
แต่กลัวหาอะไหล่ซ่อมบำรุงทีหลังไม่ได้
ไม่ได้คิดจะขาย เพราะคงไม่มีราคาอยู่แล้วกับรถไฟฟ้า
เลยอยากใช้ให้นานที่สุดให้คุ้มราคา
อย่างน้อยคงใช้ไปเกิน 300000 โลแน่ ๆ
วิ่งวันละ 170 โล
ผมว่าพี่ไม่ได้กลัวอย่างที่พี่ว่าแล้วล่ะ
จัดเลยครับ ให้ไว อย่าได้ลังเล
ซื้อก่อน ขับก่อน ฟินก่อนครับ
-
ตอบตามที่ถามนะครับ
- บ.มั่นคงแค่ไหน .... EV primus เป็น บ.ที่นำเข้า VOLT ที่เคยมีเรื่องจดทะเบียนไม่ได้หลายเดือน...และพึ่งจะนำเข้า วู่ลิ่ง มาไม่มีใครตอบเรื่องความมั่นใจได้หรอกครับ ลองไปถามกลุ่มคนใช้ VOLT ละกันว่าประสบการณ์เป็นไง(ระวังม้าด้วย)
- Wuling จะลอยแพไหม ... บ.นำเข้าเป็นแค่ตัวแทน ไม่ได้เป็น บ.แม่มาเอง ถ้าขายแป๊กโอกาสนั่งแพก็มี รถไฟฟ้ามันยกเครื่องออกวาง 4a-fe เหมือนรถน้ำมันที่โดนลอยแพ ไม่ได้นะฮะ
- กลัวหาอะไหล่ซ่อมไม่ได้ ... รถอินโด ขนาด toyota พวก part ตัวถังบางรุ่นยังรอเลยครับ น่าจะท่องคาถาห้ามชน ห้ามพังกันเลย และถ้ามันขายได้น้อย(ซึ่งผมคิดว่าน้อย) โอกาสที่สต็อกอะไหล่มันจะน้อย หรือรอนานมีสูง
...แล้วแต่ครับ เงินคุณ ชีวิตคุณ ผมไม่เกี่ยว
-
170 โล/วัน ผมว่ารถเล็กเกินไป ไม่น่าเหมาะนะครับ
-
ตอบตามที่ถามนะครับ
- บ.มั่นคงแค่ไหน .... EV primus เป็น บ.ที่นำเข้า VOLT ที่เคยมีเรื่องจดทะเบียนไม่ได้หลายเดือน...และพึ่งจะนำเข้า วู่ลิ่ง มาไม่มีใครตอบเรื่องความมั่นใจได้หรอกครับ ลองไปถามกลุ่มคนใช้ VOLT ละกันว่าประสบการณ์เป็นไง(ระวังม้าด้วย)
- Wuling จะลอยแพไหม ... บ.นำเข้าเป็นแค่ตัวแทน ไม่ได้เป็น บ.แม่มาเอง ถ้าขายแป๊กโอกาสนั่งแพก็มี รถไฟฟ้ามันยกเครื่องออกวาง 4a-fe เหมือนรถน้ำมันที่โดนลอยแพ ไม่ได้นะฮะ
- กลัวหาอะไหล่ซ่อมไม่ได้ ... รถอินโด ขนาด toyota พวก part ตัวถังบางรุ่นยังรอเลยครับ น่าจะท่องคาถาห้ามชน ห้ามพังกันเลย และถ้ามันขายได้น้อย(ซึ่งผมคิดว่าน้อย) โอกาสที่สต็อกอะไหล่มันจะน้อย หรือรอนานมีสูง
...แล้วแต่ครับ เงินคุณ ชีวิตคุณ ผมไม่เกี่ยว
ตอบดีตอนเริ่ม จบท้ายเหมือนจะด่า😂
แต่เป็นคำตอบที่ตรงคำถามที่สุด
ขอบคุณมากครับ
กับอีกหลายท่านที่มาช่วยตอบเช่นกันครับ
เป็นข้อมูลเพิ่มเติมที่ดีครับ
ขอบคุณครับ
-
เรื่องขับวันละ170โลที่คนอื่นกังวลผมก็กังวลเหมือนกัน แต่คุณไม่กังวลกก็แล้วแต่
มาดูเรื่องที่คุณกังวลดีกว่า ผมว่าโอกาสลอยแพสูงมาก ถ้าคิดว่าซื้อมาชนแล้วทิ้ง ใช้ไปพังแล้วทิ้ง ก็คงไม่มีปัญหา