Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: pipatpon9000 ที่ กันยายน 19, 2023, 20:13:31
-
XV โมเดลนี้ใกล้จะเปลี่ยนโฉมรึยังครับ..ยังน่าใช้มั๊ย
เทียบกับแบรนด์อื่น ในกลุ่มเดียวกัน มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้างครับ
ขอบคุณครับ
-
ถ้าไม่ ซีเรียส เรื่องน้ำมัน เป็น SUV ที่ดีอันดับต้นๆ เลยครับ
ถ้ากังวนเรื่องน้ำมัน ลองมองเป็น CRV หรือ CX8
-
ถ้าเน้นสมรรถนะก็ต้องถือว่าของเขาดีจริง แรงจริง แต่ภายในคับแคบไปหน่อย น่าจะเหมาะกับคนโสดมากกว่าคนมีครอบครับ ถ้าคนมีครอบครัวน่าจะขยับไป Forester มากกว่า
-
ยังน่าใช้ครับ โมเดลนี้ไม่มีอะไรจุกจิก การขับและความอเนกประสงค์มีความดีงาม ระดับความปลอดภัยอยู่ในเกณฑ์สูง ความสิ้นเปลืองน้ำมันไม่เด่นอะไร ค่าบำรุงรักษาสูงกว่า To และ Hon ราว 25% ซึ่งก็ขึ้นกับแต่ละคนว่าโอเคไหม อาจดู Forester เป็นทางเลือกเพิ่มเติม(อยู่ในงบใกล้เคียงกัน)
-
ถ้าชอบเข้าโค้ง
ถ้าชอบความปลอดภัยเวลาฝนตกถนนลื่น
และเป็นห่วงสถานการณ์คับขันเวลาจะเกิดอุบัติเหตุ
ผมว่าคันนี้ตอบโจทมากๆครับ
-
8) 8) 8).....XV ยังน่าซื้อครับ หากยังไม่เคยลองขับ ควรหาโอกาสไปทดสอบดู และสำหรับผมเองนะ พูดเลยว่า รถอะไรไม่รู้ เกาะถนน ขับปลอดภัยดีมากครับ :-X
-
ใช้ฟอเรสเตอร์อยู่ครับ แค่XVเป็นรถที่อยากได้มากๆ แต่ภรรยาบอกว่าเล็กไป
การขับขี่จะดีกว่าฟอรเสเตอร์อยู่พอสมควร
แต่เรื่องค่าบำรุงรักษานี่เข้าศูนย์ทีปาดเหงื่อเลยครับ ::) ::) ::)
-
ถ้าสมัยมันราคา 8-9 นั่นผมจะบอกว่าโอเคเลย
แต่กับ 1.2 ล้านเนี่ย ผมมองว่ามีตัวเลือกอื่นที่น่าสนใจกว่า จุดเด่นของมันเพียงอย่างเดียวคือความรุ้สึก firm เวลาขับ แต่มันไม่ได้เร็ว ไม่ได้แรงอะไร กินน้ำมันอีกต่างหาก .... ผมขับ XV ของน้องขึ้น ๆ ลง ๆ ภูเขาก็บ่อยอยู่ ใช่มันรุ้สึก firm สำหรับรถ crossover แต่ถ้าจะเอาความเร็วเข้าโค้ง รถที่บอกว่าช่วงล่างย้วยอย่าง Altis ก็ทำความเร็วในโค้งได้ไม่ต่างกันเลย
-
ตอน 9 แสน เห็นคนขับเยอะมากเลยครับ
ถ้าต้องการขับ 4 ผมว่าดีเลยนะ
แต่ตัวจริงไม่ใหญ่ครับ เล็กกว่า CRV
ค่ายน้ถ้าคนรักก็จะรักเลยครับ
-
ถ้างบถึงขยับไป Forester ครับ นั่งสบายกว่า เหลือๆเลย เป็นรถที่น่าใช้คันนึง ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องอัตรากินน้ำมัน
-
ผมว่าแพงไปนิดคับ ถ้าเทียบกับคู่แข่งที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน....
แต่ถ้าโจทย์คืออยากได้รถที่เป็นระบบ AWD ล่ะก็... XV นี่คือ choice ที่ราคาเบาที่สุดแล้ว ขับดี เกาะถนนจริง (เพราะมันเป็น Fulltime AWD) โครงสร้างตัวรถก็ทำมาดี ปลอดภัยเวลาเกิดอุบัติเหตุ
แต่ก็ต้องแลกกับอัตราการกินน้ำมันที่ไม่ประหยัดเท่ารถขับ 2 และอัตราเร่งที่ไม่ได้โดดเด่นมาก กับค่าบำรุงรักษาที่แพงกว่ารถรุ่นอื่นหน่อยนึงคับ
-
ผมชอบหุ่น XV นะ มันดูสปอร์ต ดูไม่แก่แบบ Forester
รถเค้า อยู่ segment เดียวกับ Cross / HR-V / CX30 แหละ แต่ราคา ณ ปัจจุบัน ขึ้นไปสูงไปหน่อย
เครื่อง 2.0 ออกตัวอืด กินจุพอสมควรนะครับ ถ้าเทียบกับคู่แข่ง แต่ถ้ามองว่า มันขับสี่ตลอดเวลา ก็พอจะยอมรับได้
ถ้าเอาความสบาย Forester ดีกว่าพอสมควรครับ
...........
ไปลองขับ รับอัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลืองได้ ที่เหลือไม่ใช่ปัญหา .. แต่ ลองขับทีไร ถ้าเป็นคนชอบขับรถ ก็โดนมันตกหมดแหละ รถยี่ห้อนี้
-
เคยใช้ตัวแรก ช่วงลด 999000 รถตันจง รอลดราคาหนักๆครับ ถึงจะคุ้ม ค่ายนี้มีลดราคาแรงๆ ตลอด ไม่เกรงใจคนออกก่อนเลย แนวโน้มคิดว่าคงมีลดหนักๆ อีกแน่ เพราะตอนนี้พี่มีแต่รถ ICE ไม่ค่อยมีทางเลือกเลย
เป็นรถที่ขับทางไกลถนนบ้านเราแล้วสบายใจ รถสูงนิด ๆ กับความรู้สึกช่วงล่างมันแน่นๆ ที่รถราคาใกล้ๆ กันให้ไม่ได้ ถ้าไม่ serious 0-100 กับการกินน้ำมัน จริงๆ ก็ไม่แย่ ขับชิวๆ ทางไกล 100-110 ก็ 15km/L ได้เป็นปกติ แต่ในเมืองก็ดุหน่อย
ยิ่งขับเข้าถนนลูกรังทีไร ยังนึกถึงคันนี้ตลอด
-
ถ้าเทียบกับ SUV monocoque
จุดเด่นของ XV คือ ขับสี่กับขับบู้ (แบบไม่ยกคันเร่ง) ของแต่งเยอะ ชุดแปลงช่วงล่างมาเป็น Im ก็ยังมีขาย ::) ::)
ขับในเมืองกินแบบเครื่อง 3.0 NA แถมเกียร์อมๆด้วย ขับแบบบนทางด่วนแบบไหลๆพอจะกดตามคันหน้า อ้าวเกียร์อมเร่งไม่ค่อยขึ้น แต่ออกนอกเมืองก็ประหยัดใช้ได้อยู่
ที่เหลือค่ายอื่นทำได้ดีกว่า
ขับบู้ CX30 กับ CHR (เลิกขาย) นี่ก็ใช้ได้ เอาลงเขา 304 ก็ไม่ใช่ว่าหนีกันออก
ประหยัด ขับในเมือง Cross ไฮบริดน่าจะดีกว่า
-
ขอบคุณทุก ๆ ความเห็นครับ ;)
-
มองในด้านสรรถนะของระบบขับ4 x mode ที่ในตลาดไม่มีใครให้ได้
สำหรับคนชอบท่องเที่ยวที่ไปในทาง off road บางโอกาส ที่ไม่หนักมาก ไปได้มากกว่ารุ่นอื่นๆในกลุ่ม
แต่ถ้าใช้งานในเมืองไม่ได้ชอบเที่ยวแนวนี้ เน้นประหยัดทั้งน้ำมันและการบำรุงรักษา ไปตัวเลือกอื่นๆดีกว่าครับ เพราะเป็น hybrid แทบทั้งหมด และ XV ต้องถ่ายน้ำมันเฟืองท้ายทุกหมื่นโล
ส่วนลดตอนนี้ที่เคยสอบถามมาประมาณ 150,000 ราคารถเหลือแค่ 1.15 ล้าน
-
ถ้าเทียบกับ SUV monocoque
จุดเด่นของ XV คือ ขับสี่กับขับบู้ (แบบไม่ยกคันเร่ง) ของแต่งเยอะ ชุดแปลงช่วงล่างมาเป็น Im ก็ยังมีขาย ::) ::)
ขับในเมืองกินแบบเครื่อง 3.0 NA แถมเกียร์อมๆด้วย ขับแบบบนทางด่วนแบบไหลๆพอจะกดตามคันหน้า อ้าวเกียร์อมเร่งไม่ค่อยขึ้น แต่ออกนอกเมืองก็ประหยัดใช้ได้อยู่
ที่เหลือค่ายอื่นทำได้ดีกว่า
ขับบู้ CX30 กับ CHR (เลิกขาย) นี่ก็ใช้ได้ เอาลงเขา 304 ก็ไม่ใช่ว่าหนีกันออก
ประหยัด ขับในเมือง Cross ไฮบริดน่าจะดีกว่า
ขับบู๊ ถอยให้ห่าง cx30 เลยครับ เมื่อคืนลองมาแล้ว รถเดิมๆหาความมั่นใจไม่เจอเลย น่ากลัวมาก
Honda Freed ใส่ kayaba กระบอกฟ้ายังมุดมันกว่าเยอะ
ถ้า cx30 จะบู๊ ต้องเปลี่ยนโช้คสถานเดียว
-
[
ขับบู๊ ถอยให้ห่าง cx30 เลยครับ เมื่อคืนลองมาแล้ว รถเดิมๆหาความมั่นใจไม่เจอเลย น่ากลัวมาก
Honda Freed ใส่ kayaba กระบอกฟ้ายังมุดมันกว่าเยอะ
ถ้า cx30 จะบู๊ ต้องเปลี่ยนโช้คสถานเดียว
ของผมปี 2021 ช่วงล่างนี่แข็งเลย เดิมๆนี่แข็งกว่า Focus Mk2 / Mk3 อีก
มันแข็งจนไม่ชอบถนนที่มีลอนเยอะถี่ๆ :-[ :-[ ไม่แน่ใจว่ารุ่นหลังๆมีปรับอะไรไหม ค่ายนี้ชอบทำไรไม่บอก แอบจูนลดพลังงี้ แอบเปลี่ยนพาร์ทโช้คงี้
แต่ถ้าถามว่ามันบู้ขนาดไหน ผมคิดว่า Mk3 ไปได้เท่าไหร่ คันนี้ก็ห่างไม่เยอะ
-
[
ขับบู๊ ถอยให้ห่าง cx30 เลยครับ เมื่อคืนลองมาแล้ว รถเดิมๆหาความมั่นใจไม่เจอเลย น่ากลัวมาก
Honda Freed ใส่ kayaba กระบอกฟ้ายังมุดมันกว่าเยอะ
ถ้า cx30 จะบู๊ ต้องเปลี่ยนโช้คสถานเดียว
ของผมปี 2021 ช่วงล่างนี่แข็งเลย เดิมๆนี่แข็งกว่า Focus Mk2 / Mk3 อีก
มันแข็งจนไม่ชอบถนนที่มีลอนเยอะถี่ๆ :-[ :-[ ไม่แน่ใจว่ารุ่นหลังๆมีปรับอะไรไหม ค่ายนี้ชอบทำไรไม่บอก แอบจูนลดพลังงี้ แอบเปลี่ยนพาร์ทโช้คงี้
แต่ถ้าถามว่ามันบู้ขนาดไหน ผมคิดว่า Mk3 ไปได้เท่าไหร่ คันนี้ก็ห่างไม่เยอะ
ผมพึ่งออกปลายปีที่แล้วครับ ถ้าฟังแบบนั้น น่าจะโดนเปลี่ยนพาร์ทโช้คโดยไม่บอกแหละครับ
เมื่อคืนผมมุดตาม civic คือแบบว่ามันโคลงตลอดเลยครับ แถมเวลาขับไม่เร็วก็ไม่ได้ตึงตังสมความเล่าลือเลยครับ
มันดีอย่างเดียวคือเข้าโค้งนิ่งที่ความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยีช่วยน่ะครับ แต่ก่อนเข้านี่ต้องเนียนๆเข้านะครับ ไปกระโตกกระตากเข้า ตูดออกง่ายๆเลย เมื่อคืนได้ยินเสียงล้อหลังร้องด้วย ><
อย่างโค้งตัว s ที่เลยเซ็นทรัลพระราม 3 ไปทางบางนา-ดินแดง และขากลับ ตัว s ตรงก่อนทางลงสาธุประดิษฐ์ปกติผมขับ freed(แต่งโช้คที่ว่า)ล้อเดิมๆ ตัดโค้งแบบเนียนๆ
แต่ cx30 ไม่สามารถเข้าได้เลย จากขวามาซ้าย ตูดโยนจนเหวอ เอาว่ารถตู้อย่าง vellfire 20 ยังตัดโค้งได้เนียนกว่าครับ
ผมงงมาก สงสัยจะได้ cx30 ปลอมมาใช้ คือเงียบ นุ่ม เครื่องเสียงฟังสบาย เหมือนนั่งรถหรูๆ แต่ขับไม่สปอร์ตเหมือนรูปร่างเลย
แต่ปกติก็ไม่ค่อยได้ขับคันนี้บู๊เท่าไหร่ครับ เลยไม่ซีเรียสขนาดนั้น ผมมีรถบู๊เล่นๆอยู่แล้วคันนึงครับ
-
เคยขับอยู่ 2 ครั้ง
รถดีขับสนุก ภายนอกพอได้ ภายในพื้นที่ก็สบายสำหรับขนาดตัวรถ
ติดอยู่ที่ราคากับเครื่องยนต์ที่ได้ครับ
เห็นด้วยกับหลายๆท่านว่าน่าใช้ถ้าราคาต่ำกว่านี้
ด้วยเครื่องยนต์ที่ไม่ทันยุคแล้วราคามันไม่ควรข้ามล้าน
-
เป็นรถที่น่าใช้มากครับ อาจจะไม่ได้แรงมาก หรือประหยัดมาก ถ้ารับตรงนี้ได้ ผมว่า OK เลย
-
ผมชอบหุ่น XV นะ มันดูสปอร์ต ดูไม่แก่แบบ Forester
รถเค้า อยู่ segment เดียวกับ Cross / HR-V / CX30 แหละ แต่ราคา ณ ปัจจุบัน ขึ้นไปสูงไปหน่อย
เครื่อง 2.0 ออกตัวอืด กินจุพอสมควรนะครับ ถ้าเทียบกับคู่แข่ง แต่ถ้ามองว่า มันขับสี่ตลอดเวลา ก็พอจะยอมรับได้
ถ้าเอาความสบาย Forester ดีกว่าพอสมควรครับ
...........
ไปลองขับ รับอัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลืองได้ ที่เหลือไม่ใช่ปัญหา .. แต่ ลองขับทีไร ถ้าเป็นคนชอบขับรถ ก็โดนมันตกหมดแหละ รถยี่ห้อนี้
จริงครับ แฟนผมก็โดนตกตอนลองขับ เพราะตอนแรกนางชอบหน้าตาcx5มากกว่า แต่พอลองขับนางจองฟอเรสเตอร์ทันทีเลยครับ
พอใช้จริงนางก็ชอบมากครับ
-
ผมนี่อย่างชอบเลย แต่ไม่มีวาสนาได้ซื้อ
ช่วงตัวก่อนลดเหลือ 990,000 นี่เกือบออกละ ติดประเด็นที่เก็บของด้านหลังมันน้อยไปหน่อย เลยไม่ได้ซื้อ
ถ้าไม่ได้สนใจเรื่องความประหยัดนัก และยินดีจ่ายค่าบำรุงมากกว่าค่ายตลาดหน่อย ผมว่าน่าสนใจนะครับ
-
ผมเคยคิดจะซื้่อ แต่ตอนนั้นไม่มี 'ตาฉลาด'
ถ้ามีแล้ว ผมฟังมาว่าขับสนุก และ ขับปลอดภัย
-
โฉมถัดไปเปิดตัวแล้วที่เมืองนอกครับ แต่บ้านเราก็พึ่งจะ mc ไปไม่นานคงอีกซักพัก
ถ้าชอบในการขับขี่ที่ไม่เน้นแรง เน้น handling ความน่าใช้มันยังมีครับ
-
ค่ารถแพง ค่าน้ำมันแพง ค่าบำรุงรักษาแพง เครื่องก็ไม่ได้แรง แต่คนก็ยังอวยกันเพราะเป็นขับสี่
เอาเป็นว่า ถ้าขับบนถนนปกติ ไม่คิดจะขับออฟโรดก็ไปรุ่นอื่นที่ขับสองเถอะ
หรือถ้าขับรถเร็วกว่าปกติก็มีรถรุ่นอื่นที่เครื่องแรงกว่านี้ เกาะถนนพอๆกันอีกเยอะแค่ไม่ใช่ทรงSUV
-
ค่ารถแพง ค่าน้ำมันแพง ค่าบำรุงรักษาแพง เครื่องก็ไม่ได้แรง แต่คนก็ยังอวยกันเพราะเป็นขับสี่
เอาเป็นว่า ถ้าขับบนถนนปกติ ไม่คิดจะขับออฟโรดก็ไปรุ่นอื่นที่ขับสองเถอะ
หรือถ้าขับรถเร็วกว่าปกติก็มีรถรุ่นอื่นที่เครื่องแรงกว่านี้ เกาะถนนพอๆกันอีกเยอะแค่ไม่ใช่ทรงSUV
ขอแชร์ความคิดเห็นกับคุณ shando ครับ
จากคนที่ซื้อและใช้ Subaru Forester มาได้ 1 ปี เดิมทีใช้รถ Sedan มาตลอดราวๆ 10 คัน รวมระยะทางน่าจะราวๆ 2 ล้านกม. (สารพัดยี่ห้อ Austin, Citroen, Mitsu, Honda, Nissan, Toyata) โดยหลังสุดอยู่กับแคมรี่มา 12 ปี และเคยนั่ง BMW X1, กระบะ ซึ่งเมารถ 2 คันนี้แบบแปลกใจตัวเอง เลยตั้งธงว่ายังไงก็ใช้รถ Sedan เพราะไม่โคลง วิ่งมั่นใจ เข้าโค้งเร็วๆมั่นใจ รถยกสูงคงเมาแน่นอน
ปีที่แล้วได้เตร่ไปดูรถ Forester ที่จอดนำเสนอในห้าง แล้ว sales ก็เสนอให้นัดลองขับดู ผมไปลองขับราว 20 กม. แปลกใจตรงที่ได้ความรู้สึคล้ายขับแคมรี่ โคลงบ้างแต่น้อยมาก ไม่เมารถเลย ตำแหน่งนั่งขับสูงดีมองถนนกว้างไกลดีกว่า sedan เลยชวนแฟนไปลองขับครั้งที่สอง ชอบเหมือนกัน เลยได้รถ SUV Forester มาใช้งาน แล้วภายหลังก็ขายแคมรี่ไป
จุดตัดสินใจคือ การขับขี่พอใจอ้างอิงเทียบแคมรี่, เบาะนั่งนั่งได้สบายใกล้เคียงแคมรี่..แบบนั่งขับรวดเดียว 5-6 ชั่วโมงได้ไม่ปวดหลัง, มาถึงระบบขับ4 ละ อันนี้ไม่ได้อวยนะ (555) เป็นความชอบส่วนตัวผมละกัน..ผมชอบเข้าโค้งเร็วและไม่เบรคในโค้ง แปลกใจว่า Forester เข้าออกโค้งที่ความเร็วเท่ากับ Camry ได้ง่ายๆแถมรู้สึกเหวี่ยงน้อยกว่าอีก ทุกวันนี้เลยไม่ต้องปรับตัวอะไรมากจาก Sedan มา SUV ในความมั่นใจทั้งทางตรง ทางโค้ง ถนนเปียก (แต่เตือนใจเสมอให้ไม่เร็วผิดกฎหมาย และไม่ประมาท) คือพอได้มาใช้ SUV ขับ 4 แล้วจะได้รับประสบการณ์ที่อธิบายยาก รู้ว่าต่างจากแบบขับ 2 ค่อนข้างชัดเจน (ย้ำว่าความชอบส่วนตัว)
ค่าตัวรถ..เมื่อเทียบดูกับยี่ห้ออื่น ผมจะจ่ายน้อยกว่าราว 2-3 แสนบาท ที่มีอุปกรณ์ต่างๆใกล้เคียงกัน ดังนั้นเงินส่วนต่างก็สามารถแบ่งไปจ่ายชดเชยค่าบำรุงรักษาที่สูงกว่า To Hon 25% แล้วเงินยังเหลือ เลยตัดสินใจซื้อ
สำหรับอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่ง มันช้ากว่ายื่ห้ออื่นๆ แต่ผมรับได้แบบรู้ว่าพอเพียงสบายๆสำหรับผม ส่วนการเร่งแซงอันนี้โอเคไม่ช้ากว่าคันอื่นๆใช้งานได้สบายๆ
มาถึงความสิ้นเปลืองน้ำมัน ผมขับในเมืองนอกเมืองปนๆกัน ได้เฉลี่ย 13-15 กม./ลิตร (แคมรี่ 2.0 ก็ได้ราวๆนี้) รับได้กับจุดนี้ สำหรับตัวรถแบบนี้ที่เราชอบ
อื่นๆปลีกย่อยที่ได้รับประสบการณ์จากการใช้จริงมา 1 ปี ที่ถ่ายทอดยาก เช่น เครื่องมันนิ่งดี ยิ่งรอบสูงก็นิ่ง ไม่สั่นสะเทือนมาที่เรา (แคมรี่ผมว่าดีมากแล้วนะ ยังนิ่งไม่เท่า รู้สึกได้เลย)
ก็ประมาณนี้ครับ เล่าแบบไม่ค่อยมีสาระยาวเลย ที่สำคัญผมมองว่ารถยี่ห้ออื่นๆก็มีความดีงามมากมายไม่แพ้กัน ทุกท่านชอบต่างกันได้ครับ
-
ผมจะซื้อเพราะขับ 4 นี่แหละครับ
แต่ ไปฟอเรสเตอร์ ดูจะคุ้มกว่า เพราะรถใหญ่กว่า
-
ค่ารถแพง ค่าน้ำมันแพง ค่าบำรุงรักษาแพง เครื่องก็ไม่ได้แรง แต่คนก็ยังอวยกันเพราะเป็นขับสี่
เอาเป็นว่า ถ้าขับบนถนนปกติ ไม่คิดจะขับออฟโรดก็ไปรุ่นอื่นที่ขับสองเถอะ
หรือถ้าขับรถเร็วกว่าปกติก็มีรถรุ่นอื่นที่เครื่องแรงกว่านี้ เกาะถนนพอๆกันอีกเยอะแค่ไม่ใช่ทรงSUV
ขอแชร์ความคิดเห็นกับคุณ shando ครับ
จากคนที่ซื้อและใช้ Subaru Forester มาได้ 1 ปี เดิมทีใช้รถ Sedan มาตลอดราวๆ 10 คัน รวมระยะทางน่าจะราวๆ 2 ล้านกม. (สารพัดยี่ห้อ Austin, Citroen, Mitsu, Honda, Nissan, Toyata) โดยหลังสุดอยู่กับแคมรี่มา 12 ปี และเคยนั่ง BMW X1, กระบะ ซึ่งเมารถ 2 คันนี้แบบแปลกใจตัวเอง เลยตั้งธงว่ายังไงก็ใช้รถ Sedan เพราะไม่โคลง วิ่งมั่นใจ เข้าโค้งเร็วๆมั่นใจ รถยกสูงคงเมาแน่นอน
ปีที่แล้วได้เตร่ไปดูรถ Forester ที่จอดนำเสนอในห้าง แล้ว sales ก็เสนอให้นัดลองขับดู ผมไปลองขับราว 20 กม. แปลกใจตรงที่ได้ความรู้สึคล้ายขับแคมรี่ โคลงบ้างแต่น้อยมาก ไม่เมารถเลย ตำแหน่งนั่งขับสูงดีมองถนนกว้างไกลดีกว่า sedan เลยชวนแฟนไปลองขับครั้งที่สอง ชอบเหมือนกัน เลยได้รถ SUV Forester มาใช้งาน แล้วภายหลังก็ขายแคมรี่ไป
จุดตัดสินใจคือ การขับขี่พอใจอ้างอิงเทียบแคมรี่, เบาะนั่งนั่งได้สบายใกล้เคียงแคมรี่..แบบนั่งขับรวดเดียว 5-6 ชั่วโมงได้ไม่ปวดหลัง, มาถึงระบบขับ4 ละ อันนี้ไม่ได้อวยนะ (555) เป็นความชอบส่วนตัวผมละกัน..ผมชอบเข้าโค้งเร็วและไม่เบรคในโค้ง แปลกใจว่า Forester เข้าออกโค้งที่ความเร็วเท่ากับ Camry ได้ง่ายๆแถมรู้สึกเหวี่ยงน้อยกว่าอีก ทุกวันนี้เลยไม่ต้องปรับตัวอะไรมากจาก Sedan มา SUV ในความมั่นใจทั้งทางตรง ทางโค้ง ถนนเปียก (แต่เตือนใจเสมอให้ไม่เร็วผิดกฎหมาย และไม่ประมาท) คือพอได้มาใช้ SUV ขับ 4 แล้วจะได้รับประสบการณ์ที่อธิบายยาก รู้ว่าต่างจากแบบขับ 2 ค่อนข้างชัดเจน (ย้ำว่าความชอบส่วนตัว)
ค่าตัวรถ..เมื่อเทียบดูกับยี่ห้ออื่น ผมจะจ่ายน้อยกว่าราว 2-3 แสนบาท ที่มีอุปกรณ์ต่างๆใกล้เคียงกัน ดังนั้นเงินส่วนต่างก็สามารถแบ่งไปจ่ายชดเชยค่าบำรุงรักษาที่สูงกว่า To Hon 25% แล้วเงินยังเหลือ เลยตัดสินใจซื้อ
สำหรับอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่ง มันช้ากว่ายื่ห้ออื่นๆ แต่ผมรับได้แบบรู้ว่าพอเพียงสบายๆสำหรับผม ส่วนการเร่งแซงอันนี้โอเคไม่ช้ากว่าคันอื่นๆใช้งานได้สบายๆ
มาถึงความสิ้นเปลืองน้ำมัน ผมขับในเมืองนอกเมืองปนๆกัน ได้เฉลี่ย 13-15 กม./ลิตร (แคมรี่ 2.0 ก็ได้ราวๆนี้) รับได้กับจุดนี้ สำหรับตัวรถแบบนี้ที่เราชอบ
อื่นๆปลีกย่อยที่ได้รับประสบการณ์จากการใช้จริงมา 1 ปี ที่ถ่ายทอดยาก เช่น เครื่องมันนิ่งดี ยิ่งรอบสูงก็นิ่ง ไม่สั่นสะเทือนมาที่เรา (แคมรี่ผมว่าดีมากแล้วนะ ยังนิ่งไม่เท่า รู้สึกได้เลย)
ก็ประมาณนี้ครับ เล่าแบบไม่ค่อยมีสาระยาวเลย ที่สำคัญผมมองว่ารถยี่ห้ออื่นๆก็มีความดีงามมากมายไม่แพ้กัน ทุกท่านชอบต่างกันได้ครับ
Forester ราคาไม่ได้ต่างกับคู่แข่งมาก แล้วก็มีข้อดีกว่าคันอื่นตรงโปร่งนั่งสบาย ยิ่งช่วงนี้CRVรอรับรถนานมาก ผมว่ายังมีความน่าซื้ออยู่
แต่XVนี่แพงกว่าชาวบ้าน ในขณะที่จุดเด่นกว่าคันอื่นมีแค่ขับ4 เทียบกับค่าตัว ค่าซ่อมบำรุงผมเลยคิดว่าไม่คุ้มครับ
-
ปีที่แล้ว 2022 ได้ราคา Forester ES ที่ 1.27 ลบ. (เทียบรถอื่นๆราคาอยู่ที่ 1.5 ลบ.) เลยตัดสินใจยิ่งง่ายครับ
ส่วน XV ปัจจุบันคงต้องดูราคาและเงื่อนไขกัน ในมุมมองคุณ shando ก็เป็นข้อคิดที่ดีครับ
-
ค่ารถแพง ค่าน้ำมันแพง ค่าบำรุงรักษาแพง เครื่องก็ไม่ได้แรง แต่คนก็ยังอวยกันเพราะเป็นขับสี่
เอาเป็นว่า ถ้าขับบนถนนปกติ ไม่คิดจะขับออฟโรดก็ไปรุ่นอื่นที่ขับสองเถอะ
หรือถ้าขับรถเร็วกว่าปกติก็มีรถรุ่นอื่นที่เครื่องแรงกว่านี้ เกาะถนนพอๆกันอีกเยอะแค่ไม่ใช่ทรงSUV
ขอแชร์ความคิดเห็นกับคุณ shando ครับ
จากคนที่ซื้อและใช้ Subaru Forester มาได้ 1 ปี เดิมทีใช้รถ Sedan มาตลอดราวๆ 10 คัน รวมระยะทางน่าจะราวๆ 2 ล้านกม. (สารพัดยี่ห้อ Austin, Citroen, Mitsu, Honda, Nissan, Toyata) โดยหลังสุดอยู่กับแคมรี่มา 12 ปี และเคยนั่ง BMW X1, กระบะ ซึ่งเมารถ 2 คันนี้แบบแปลกใจตัวเอง เลยตั้งธงว่ายังไงก็ใช้รถ Sedan เพราะไม่โคลง วิ่งมั่นใจ เข้าโค้งเร็วๆมั่นใจ รถยกสูงคงเมาแน่นอน
ปีที่แล้วได้เตร่ไปดูรถ Forester ที่จอดนำเสนอในห้าง แล้ว sales ก็เสนอให้นัดลองขับดู ผมไปลองขับราว 20 กม. แปลกใจตรงที่ได้ความรู้สึคล้ายขับแคมรี่ โคลงบ้างแต่น้อยมาก ไม่เมารถเลย ตำแหน่งนั่งขับสูงดีมองถนนกว้างไกลดีกว่า sedan เลยชวนแฟนไปลองขับครั้งที่สอง ชอบเหมือนกัน เลยได้รถ SUV Forester มาใช้งาน แล้วภายหลังก็ขายแคมรี่ไป
จุดตัดสินใจคือ การขับขี่พอใจอ้างอิงเทียบแคมรี่, เบาะนั่งนั่งได้สบายใกล้เคียงแคมรี่..แบบนั่งขับรวดเดียว 5-6 ชั่วโมงได้ไม่ปวดหลัง, มาถึงระบบขับ4 ละ อันนี้ไม่ได้อวยนะ (555) เป็นความชอบส่วนตัวผมละกัน..ผมชอบเข้าโค้งเร็วและไม่เบรคในโค้ง แปลกใจว่า Forester เข้าออกโค้งที่ความเร็วเท่ากับ Camry ได้ง่ายๆแถมรู้สึกเหวี่ยงน้อยกว่าอีก ทุกวันนี้เลยไม่ต้องปรับตัวอะไรมากจาก Sedan มา SUV ในความมั่นใจทั้งทางตรง ทางโค้ง ถนนเปียก (แต่เตือนใจเสมอให้ไม่เร็วผิดกฎหมาย และไม่ประมาท) คือพอได้มาใช้ SUV ขับ 4 แล้วจะได้รับประสบการณ์ที่อธิบายยาก รู้ว่าต่างจากแบบขับ 2 ค่อนข้างชัดเจน (ย้ำว่าความชอบส่วนตัว)
ค่าตัวรถ..เมื่อเทียบดูกับยี่ห้ออื่น ผมจะจ่ายน้อยกว่าราว 2-3 แสนบาท ที่มีอุปกรณ์ต่างๆใกล้เคียงกัน ดังนั้นเงินส่วนต่างก็สามารถแบ่งไปจ่ายชดเชยค่าบำรุงรักษาที่สูงกว่า To Hon 25% แล้วเงินยังเหลือ เลยตัดสินใจซื้อ
สำหรับอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่ง มันช้ากว่ายื่ห้ออื่นๆ แต่ผมรับได้แบบรู้ว่าพอเพียงสบายๆสำหรับผม ส่วนการเร่งแซงอันนี้โอเคไม่ช้ากว่าคันอื่นๆใช้งานได้สบายๆ
มาถึงความสิ้นเปลืองน้ำมัน ผมขับในเมืองนอกเมืองปนๆกัน ได้เฉลี่ย 13-15 กม./ลิตร (แคมรี่ 2.0 ก็ได้ราวๆนี้) รับได้กับจุดนี้ สำหรับตัวรถแบบนี้ที่เราชอบ
อื่นๆปลีกย่อยที่ได้รับประสบการณ์จากการใช้จริงมา 1 ปี ที่ถ่ายทอดยาก เช่น เครื่องมันนิ่งดี ยิ่งรอบสูงก็นิ่ง ไม่สั่นสะเทือนมาที่เรา (แคมรี่ผมว่าดีมากแล้วนะ ยังนิ่งไม่เท่า รู้สึกได้เลย)
ก็ประมาณนี้ครับ เล่าแบบไม่ค่อยมีสาระยาวเลย ที่สำคัญผมมองว่ารถยี่ห้ออื่นๆก็มีความดีงามมากมายไม่แพ้กัน ทุกท่านชอบต่างกันได้ครับ
อ่านเพลินมากครับ ที่บ้านใช้ Camry อยู่ 2 คัน อายุ 13 ปีคันนึง อีกคัน 6 ปี ชอบรถช่วงล่างนุ่มนวล ซึ่งระดับราคาล้านกลางๆหา ความนุ่มสบายแบบ Camry ยากครับ
ตอนอยากได้ SUV มาใช้เหมือนกัน อ่านแล้วเริ่มอยากไปลองขับเลยครับ
-
มันน่าจะสนใจครับ
แต่ประเด็น มันมีคันอื่นที่น่าสนใจ น่าซื้อกว่า อีกหลายคันเลย
-
ผมชอบหุ่น XV นะ มันดูสปอร์ต ดูไม่แก่แบบ Forester
รถเค้า อยู่ segment เดียวกับ Cross / HR-V / CX30 แหละ แต่ราคา ณ ปัจจุบัน ขึ้นไปสูงไปหน่อย
เครื่อง 2.0 ออกตัวอืด กินจุพอสมควรนะครับ ถ้าเทียบกับคู่แข่ง แต่ถ้ามองว่า มันขับสี่ตลอดเวลา ก็พอจะยอมรับได้
ถ้าเอาความสบาย Forester ดีกว่าพอสมควรครับ
...........
ไปลองขับ รับอัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลืองได้ ที่เหลือไม่ใช่ปัญหา .. แต่ ลองขับทีไร ถ้าเป็นคนชอบขับรถ ก็โดนมันตกหมดแหละ รถยี่ห้อนี้
ปสก. โดนตกมาแล้ว ลงจากรถเทส วางเงินเลยหมื่่นนึง สั่งติดฟิล์มเลย (รถบ้าอะไรเกาะถนน นุ่มหนึบดีจริงๆ) พอหลายๆวันความคิดตกผลึก ต้องยอมทิ้งเงินจองเลย ตอนนั้นราคารถ 1.35 ล. ปี57
-
ผมชอบหุ่น XV นะ มันดูสปอร์ต ดูไม่แก่แบบ Forester
รถเค้า อยู่ segment เดียวกับ Cross / HR-V / CX30 แหละ แต่ราคา ณ ปัจจุบัน ขึ้นไปสูงไปหน่อย
เครื่อง 2.0 ออกตัวอืด กินจุพอสมควรนะครับ ถ้าเทียบกับคู่แข่ง แต่ถ้ามองว่า มันขับสี่ตลอดเวลา ก็พอจะยอมรับได้
ถ้าเอาความสบาย Forester ดีกว่าพอสมควรครับ
...........
ไปลองขับ รับอัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลืองได้ ที่เหลือไม่ใช่ปัญหา .. แต่ ลองขับทีไร ถ้าเป็นคนชอบขับรถ ก็โดนมันตกหมดแหละ รถยี่ห้อนี้
ปสก. โดนตกมาแล้ว ลงจากรถเทส วางเงินเลยหมื่่นนึง สั่งติดฟิล์มเลย (รถบ้าอะไรเกาะถนน นุ่มหนึบดีจริงๆ) พอหลายๆวันความคิดตกผลึก ต้องยอมทิ้งเงินจองเลย ตอนนั้นราคารถ 1.35 ล. ปี57
เชื่อผมไหมครับ ว่า
คนที่ไม่รู้จักยี่ห้อนี้เลย ให้นั่งแบบ blind test เขาแยกไม่ออกหรอก คันไหนขับสอง คันไหนขับสี่
คนที่จะไปซื้อรถยี่ห้อนี้ ถ้าไม่รู้จักยี่ห้อนี้มาก่อน น้อยมากที่จะแวะมาซื้อยี่ห้อนี้
คนที่รู้จักยี่ห้อมาก่อน และ มีข้อมูลมาก่อน เขารู้อยู่แล้วว่ารถนี้มันมีขับสี่ (ยกเว้น BR-Z)
คนที่รู้จักยี่ห้อนี้ดี เรื่องขับสี่ กับ อื่นๆ มันเป็นโจทย์รอง โจทย์หลักคือ ความได้ นุ่ม แน่น หนึบ ปรานีต ปลอดภัย แข็งแรง(บางคนบอกเป็นยี่ห้อสวีเดนแห่งญี่ปุ่น) และ ความเป็นซูในหลายๆ มุม
คนที่รู้จักยี่ห้อนี้ดีมากๆ จะรู้เลยว่า อัตรากินน้ำมันไม่เคยเด่น อัตราเร่งก็ไม่ได้เด่น(ถ้าไม่ตัวแรง) และ เสียงมันก็ไม่ใช่ Rumble แบบเดิมๆ ที่เคยได้ยิน
ถ้าอยากได้ยี่ห้อ แค่ขับสี่ ผมว่า น่าจะแนวเห่อของใหม่ หรือ อยากลองในสิ่งที่ไม่มีมาก่อน เฉยๆ นะ
สุดท้ายก็หนีไปยี่ห้ออื่น เพราะค่าดูแลรักษา ค่าซ่อม และ อะไหล่ (ผมขาย GC8 ก็เพราะเหตุนี้) และ เคยจะกลับมาจับ Levorg อยู่รอบนึง แต่ก็คลาดกัน ไม่ได้เป็นเนี้อคู่
-
ขับสนุกละยังหวดเล่นอยู่บนทางด่วนได้ครับ ช่วงล่างผมว่าโอเคนะ รูดทางขรุขระในกรุงเทพได้อยู่ ใครบอกไม่ได้เอามาออฟโรด เอามาออฟโรดในถนนกทมนี่แหละสนุกครับ แต่จะเร่งต้องไปโฟมดSเอา โหมดIไม่ไหวครับ แรงกว่าจะมา