Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: makrO ที่ ตุลาคม 15, 2023, 01:56:01
-
ส่วนตัวกำลังเปลี่ยนรถ หาซื้อมือสองสักคันครับ เลยลอง Research ตลาดรถมือสองมานิดหน่อยครับ
ได้ Insights ว่าตลาดรถมือสองโซนต่างประเทศค่อนข้างหนักเลย เลยมาแชร์ให้ฟังครับ
- CARMAX(บ.รถมือสองใหญ่สุดในUSA) ผลประกอบการไม่ดี หุ้น-20%จากเดือนก่อน
- หลายDealer เริ่มทยอยลดการซื้อรถเข้า ซึ่งโดยปกติถ้าเศรฐกิจจะดีในปีถัดไป
พวกDealerจะซื้อตุนล่วงหน้าหลายเดือนเลยครับ แต่ตอนนี้กลับตรงข้าม
- ในแง่ของNew Car หลายเจ้าขายต่ำกว่า MSRP(ราคาป้าย)
พออ่านๆไป สรุปได้จากปัจจัยประมาณนี้
1. ปรับขึ้นดอกเบี้ย -> Bank prevent หนี้เสีย -> ปรับดอกสูง ปล่อยกู้ยากขึ้นครับ
2. Supply(Used Car)ในตลาดแน่นมาก ส่วนใหญ่ถึง Cycle ปล่อยขายไปซื้อรถEV
(ในหมู่บ้านผมขายรถ ไปEVกันเยอะมากครับ)
3. EV Discout Price หลายเจ้าลดแลกแจกแถม
ส่วน Youtuber ที่เป็นDealerเอง ก็แนะนำว่าปีหน้าจะหนักกว่านี้ครับ
เพื่อนๆพี่ๆ คิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ กับตลาดรถในบ้านเรา
ส่วนตัวผมคง Wait&See น่าจะได้รถที่ถูกทั้งใจและกระเป๋าครับ
Link krub:
https://www.youtube.com/watch?v=UyKOPjkvqi4
https://www.youtube.com/watch?v=fbw4aGW_dPs&t=738s
-
ในตลาด US ตั้งแต่ช่วง Covid โรงงานลดการผลิตครับ อาจเจอปัญหาทาง Logistic หรือตั้งใจลด Supply ด้วย
พอ Supply น้อยกว่า Demand Dealer ก็ MarkUp/MaketAdjust ปรับราคาเองแบบอย่างโหดร้าย พวก Camry / Accord บางDealer ปรับเพิ่ม 20%-30% หรือยัด Options ไร้สาระพวก ผ้ายาง/พรม/พ่นกันสนิม/ขัดเคลือบ เข้าไปเยอะๆครับ ลูกค้าเองถ้าไม่ซื้อก็ไม่ได้เพราะรถออกมาน้อย แล้วพอเป็นรถฮิตๆ อย่าง Corvette C8 MarkUp กัน50%++ ขายน้อยได้มากกันเลยทีเดียว ทั้งหมดทั้งมวลนี้ อาจทำให้ตลาดมือสอง กระชุ่มกระชวยมากขึ้นครับในช่วงก่อนครับ
ถ้า Supply รถใหม่ ดีขึ้นหรือราคาขายจริงใกล้กับMSRP มากขึ้น ตลาดมือสองจะเงียบลงก็คงไม่แปลกครับ แต่ดอกเบี้ยก็มีส่วนจริงๆครับ
ส่วนของ EV ก็โตขึ้นเยอะครับ ตลาด US เองก็ไมไ่ด้คาดหวังราคาขายต่อเหมือนกับตลาดไทยครับ และ EV ก็ Service น้อยกว่า ICE จุดชาร์จก็เยอะกว่าเราด้วย ไหนจะเรื่องของราคาน้ำมันอีก
ในไทย ผมคิดว่าการบุกของรถ EV ที่ได้สิทธิ FTA ทำให้รถในช่วงราคา5 แสนยัน 2 ล้าน ขายยากขึ้นทั้งมือ 1 และ มือ 2 ครับ
-
ผมก็อั้นไม่ซื้อรถใหม่รอEVครับทนซ่อมรถเก่าไปก่อนรอซักระยะให้มันอยู่ตัวก่อนค่อยซื้อคิดว่าไม่กี่ปีครับ
ลองคำนวนค่าเชื้อเพลิงที่ลดลงน่าจะคุ้มกับประกันชั้น1ที่แพงกว่าครับ
เมืองไทยตลาดมือสองพวกกระบะผมว่ายังไหวอยู่แต่พวกรถD-segที่กินน้ำมันหนักๆน่าจะแย่ครับ :'(
-
เดี๋ยวนี้ขายเองกันหมดแล้วครับ ได้ราคาดีกว่าเยอะ
ไปลงขายตามกลุ่ม คนซื้อก็อยากได้รถที่มาจากเจ้าของขายเองมากกว่าอยู่แล้ว
-
ราคาน้ำมันแบบนี้รถ ice ยังไม่ค่อยอยากจะวิ่ง พวกเกิน 2000cc เจ้าของอยากขายออก คนจะหาก็อยากได้แต่ccน้อยๆ รถอีวีน่าใช้ขึ้นเยอะแล้วมือสองใครจะอยากได้รถ ice เก่าถ้าไม่ใช่รุ่นที่น่าสะสม
-
พูดยากครับ
อะไรๆ ที่เกิดกับ ตปท. มันไม่มีผลกับบ้านเรา
บ้านเรา รถมือ1ราคาแพง แต่ค่าดูแลถูก
รถมือ 2 จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนกลุ่มหนึ่ง
และราคาขายมันไม่อิงกับตลาดโลกใดๆ มันขึ้นอยู่กับเต๊นท์จะเก็งราคารุ่นไหน ?
ถ้าเค้าจับมือกันพร้อมกันขึ้น ราคามันก็แข็ง อย่างเช่น Jazz
บ้านเราดูจะเงียบๆไปนิดหน่อย ตอนช่วงรถคันแรก กับตอนช่วงน้ำท่วมใหญ่
ตอนนี้ลองดูเต็นท์ใหญ่ๆเค้าไลฟ์สดครับ รถระบายออกไวมากๆ
หรือไม่ก็ไปดูที่เต็นท์เล่นๆ หมายหัวไว้สัก 3-4 คัน
อีก 1เดือนไปดูซ้ำคับ ว่ายังอยู่ไหม ?
ผมกับน้องชายเอารถไปขายเตนท์ อยู่ได้ 1-2 สัปดาห์ก็ออกแล้วครับ
ถ้าถามผม รถไฟฟ้าไม่น่าเกี่ยว
หลายๆคนสะดวกเติมน้ำมันมากกว่า
แค่คนที่เปลี่ยนรถบ่อยอยู่แล้ว อยากได้เทคโนโลยีใหม่เท่านั้นเอง
เหมือนสมัยยุดไฮบริคมาแรกๆ ใครเปลี่ยนรถก็ต้องมองไฮบริคไว้ก่อน รถประจำตำแหน่งที่โรงงานยังใช้เลย
-
กลุ่ม BEV น่าจะ crash หนักกว่านี้ในอีก 5-6 ปีข้างหน้า
ตอนที่รถเป็นหมื่นๆ คันในวันนี้วิ่งเข้าใกล้การหมดรับประกัน
ในปีที่ 8 ครับ
-
รถมือสอง ราคาตกหนักกว่าเดิมอะใช่แน่ๆ แต่ถามว่า Crash มั้ย ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณนิยามคำว่า Crash ว่ายังไง
-
กลุ่ม BEV น่าจะ crash หนักกว่านี้ในอีก 5-6 ปีข้างหน้า
ตอนที่รถเป็นหมื่นๆ คันในวันนี้วิ่งเข้าใกล้การหมดรับประกัน
ในปีที่ 8 ครับ
นึกภาพไม่ออกเลยครับว่าอีก 5 ปีข้างหน้า รถไฟฟ้าราคาจะลดลงจากเดิมกี่เปอร์เซ็นต์ (ส่วนตัวคิดว่ามากกว่า 50%)
เพราะช่วงเวลานั้นหลายๆคัน แบตเตอรี่คงใกล้หมดวารันตีแล้ว
-
ของเมืองไทยจะเป็นยังไงต่อครับ
พอดีพับแผน 520d ไว้ก่อน
กะว่าหลังปีใหม่จะเลือกช็อปเลย S90 กับ ES300h พวกปี2020ขึ้นมา ถ้าราคาลงมาล้านกลางๆ น่าจะเข้าสเปคผมเลย
ตอนนี้เห็น 1.7-1.9ล้านเยอะเลย แต่ปีลึกไปนิด(2018) เลขไมล์เยอะไปหน่อย