Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: love street ที่ ตุลาคม 26, 2023, 18:57:35
-
เครื่องเปลี่ยนเป็น 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ phev
302+200 แรงม้า กับแรงบิด 400+250 nm
เกียร์ 8 speed dual clutch ขับเคลื่อน 4 ล้อ
น้ำหนักตัวรถเปล่า 1850 กิโลกรัม วิ่ง ev ล้วนได้ 200 กิโลเมตร
ราคา 3,500,000 บาท(ประกอบไทย) ชิ้นส่วนตัวรถส่วนใหญ่ใช้ supplier ในไทยได้(ยกเว้น แบต+มอเตอร์)
ยอดขาย 100 คัน ในไทยและ 2,500 คัน ในตลาดโลก(ต่อปี) อายุการตลาด 10 ปี ไหวไหมครับ
-
คือ????
-
ยอดขาย 100 คัน/ปี ... ไม่รอดตั้งแต่ยอดขายแล้วครับ ปีนึงรวมแล้ว 100 คันรวมเป็นเงิน 350,000,000 บาท/ปี
-
ทุกอย่างเป็นไปได้ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน แต่สมมุติฐานต้องอยู่บนพื้นฐานโลกความเป็นจริง
ถ้าให้มาแค่นี้ตอบว่าเจ๊ง เพราะการจะสร้างรถสักคันมาขาย มันไม่จบแค่รุ่นนี้รุ่นเดียว มันต้องขยายไป segment อื่นๆ มันจะมีค่าการตลาด ค่า R&D เห็นสเป็ครถดีเลยยกงบ R&D ของเบนซ์มาให้ดู ของเบนซ์ปีที่ผ่านๆ มา ปีละ 100,000-300,000 ล้านบาทต่อปี
https://www.statista.com/statistics/346985/research-and-development-expenses-of-mercedes-benz-cars/
ทีนี้ลองตั้งสมมุติฐานจากสเป็ครถที่ให้มา ตั้งโรงงาน 10,000 ล้าน+R&D ก่อนเปิดตัว (3-4ปี) จนถึงวันผลิตประมาณ 40,000 ล้าน ยอดขาย 10 ปี = 26,000 คัน คิดจุดคุ้มทุนคือต้องบวก margin คันละเกือบ 2 ล้าน ถ้าจะเอาให้บริษัทมีกำไร 20% ต่อปี เท่ากับต้องบวก margin คันละ 2.4 ล้าน
หรือถ้าจะบอกว่างั้นไปซื้อเทคโนโลยีเครื่องกับมอเตอร์จากแบรนด์อื่นมาสิ บอกเลยยาก ถ้าเป็นไปได้คือได้ของตกรุ่นกับโดนค่า royalty fee เยอะ margin ยิ่งต่ำไปอีก ที่สำคัญ order ผลิตแค่ปีละ 2,600 คัน ไม่มี supplier เจ้าไหนผลิต part ให้ เพราะมันไม่คุ้มการลงทุนของเขา
นี่ยังไม่นับพวกค่าใช้จ่ายการ stock อะไหล่ การรับประกันสินค้า และระบบ dealer อีกนะครับ
ยอดขายที่ให้มาเหมือนยอดขาย hypercar ที่ margin บวกไว้เยอะมากๆ
-
ต้องลองถามตัวเองก่อนครับว่า เสปคนี้ ราคานี้ กับความเสี่ยงของแบรนรับได้ไหม
แบรนใหม่ 100% มันเสี่ยงกว่ารถแบรนจีนอีกนะครับ รถขับดีไหมก็ไม่รุ feedback / การทดสอบอ้างอิงก็ไม่มีเลย
แล้วราคารถ ก็ไม่ได้ดึงดูดด้วย ด้วยราคาที่คาดหวัง สามารถซื้อ 530e e300e ได้เลย
ถึงแม้ spec จะสู้ไม่ได้ แต่ตัวแบรน ความน่าเชื่อถือ ตัวเลขการทดสอบต่างๆมัน proof ตัวเองมาหลายรุ่นแล้ว
ยังไม่รวมกับ model3/y performance หรือยุโรบตัวแรง/sport มือสองอีกครับ
อยากให้ตัดคำว่าแบรนไทยออกไปก่อนเลย ถ้าของไม่ได้ดีกว่ามากๆ ในราคาเท่าๆกัน เชื่อว่าอาจมีน้อยมากๆ ที่อยากลองแบรนไทยครับ เราเก่งเรื่องการประกอบรถครับ ไม่ใช้ดีไซน์และผลิตรถของตัวเอง
การซื้อรถ 1 คันของคนไทยเป็นเรื่องใหญ่ครับ รายได้เฉลี่ยนเรา ประมาณ 2 หมื่นนิดๆ ผ่อนได้เดือนละ หมื่นกว่าบาท รถที่คนส่วนใหญ่ในประเทศซื้อได้ราคาต่ำกว่าล้านอีกครับ
ส่วนตัวคิดว่าควรจะเริ่มจาก BEV คันเล็กๆแบบ netaV / wuling Air ก่อน ตัดส่วนของเครื่องยนต์ออกไปลดเรื่องของอะไหล่ได้เยอะถ้าจะทำเครื่องเองอีก จะยิ่งเจอปัญหาเรื่องอะไหล่ คนกลัวลอยแพอีก
หันมาใช้ พวก OEM Motor / Battery ช่วงล่างที่แชร์ Part กับรถบางรุ่นในตลาดได้ ถ้าวันนึงแบรนหายไปคนที่ซื้อรถมาแล้วยังหาอะไหล่เองได้ แล้วมาเน้นที่ software กับระบบของรถให้เสรียถดีกว่า
0-100 10-11 วิก็ได้ option เอาที่จำเป็นพอ
ถ้ามันอยู๋รอดได้ ค่อยขยับขยาย โมเดลใหญ่ขึ้น แล้วค่อยสร้างแบรนใหม่ ไปตีไลน์ sport/ Premium อีกที
-
ตามไม่ทันครับ ช่วยเฉลยหน่อยว่า
กระทู้นี้ คุยกันเรื่องอะไร ??
ขอคำตอบแบบชัดเจน ตรงๆ ไม่อ้อมค้อมเลย
------------------
ไม่รอการเฉลยละ ไปหาคำตอบมาเองเลย
https://community.headlightmag.com/index.php?topic=86909.0
อ๋อ .. ที่แท้ต้นเรื่องก็เป็นอย่างนี้นี่เอง ..
ตอบสั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความรอบเดียว
" ฝันเฟื่องเพ้อเจ้อ "
บายยยย
-
ไปคำนวนต้นทุนมาก่อนครับ SPEC ที่เขียนมาทำได้หรือไม่เกิดจากต้นทุนทั้งนั้นทั้ง R&D MKT PRODUCTION ถ้าไม่คำนวนทุกอย่างมาก็ตั้งราคาขายไม่ได้ครับ ถามก่อนตั้งราคา รถที่คุณจะทำต้นทุนต่อคันจริงๆเท่าไหร่แตกมาให้ผมดูคร่าวได้ไหมครับ ก่อนที่จะคิดถึงราคาขายและ Target การขายครับ โลกของความเป็นจริงไม่ใช่จะคิดอะไรแล้วจะเสกตั้งราคาออกมาหรือคิดว่าจะได้ครับะขายเท่านั้นเท่านี้ได้ครับ
-
เพิ่มเติมจากกระทู้ที่แล้ว Funding ของคุณมาจากไหนตอบได้หรือยังครับที่จะทำรถขายเพราะต้นทุนทุกอยากที่เกิดขึ้นจะมีต้นทุนทางการเงินเกิดขึ้นด้วยนอกเหนือจากต้นทุนที่กล่าวมาแล้วครับ
-
เถียงแทนนิด ทีจีนยังทำได้เลย มีรถ EV ซักสามร้อยยี่ห้อได้มั๊ง แต่จะรอดเท่าไหร่ไม่รู้ ทำไปน่าจะเหมือนๆ vinfast ป่าว ยอดขายรถ EV หลักร้อย
-
ตามไม่ทันครับ ช่วยเฉลยหน่อยว่า
กระทู้นี้ คุยกันเรื่องอะไร ??
ขอคำตอบแบบชัดเจน ตรงๆ ไม่อ้อมค้อมเลย
------------------
ไม่รอการเฉลยละ ไปหาคำตอบมาเองเลย
https://community.headlightmag.com/index.php?topic=86909.0
อ๋อ .. ที่แท้ต้นเรื่องก็เป็นอย่างนี้นี่เอง ..
ตอบสั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความรอบเดียว
" ฝันเฟื่องเพ้อเจ้อ "
บายยยย
คุยสนุกๆกันก็พอครับ อย่าซีเรียสเลย มีเรื่องเบาๆ มาช่วยกันคิดเล่นๆ ชวยคุยเรื่อยเปี่อยบ้างก็ไม่เหงาดีนะ
-
เป็นกำลังใจให้นะครับ ทุกความสำเร็จเกิดจากความเพ้อฝันและแรงผลักดันที่มากพอครับ
Startup ก่อนจะเป็น unicorn ก็ต้องผ่านอะไรมาเยอะ
แต่ส่วนตัวมองว่า ถ้าคนที่จะทำจริงจัง คงใข้เวลาไปกับการลงมือทำและไม่น่าจะตั้งคำถามแบบนี้ในบอร์ดนี้ครับ ยกเว้นคุยกันเล่นๆเฉยๆ
-
ผมคิดว่า น้อง จขกท น่าจะเป็นเด็กน้อย
จินตนาการยังสะอาดบริสุทธิ์และกว้างไกล
อยู่เหนือโลกของความเป็นจริงทางด้านวิศวกรรม
เศรษฐศาสตร์ ธุรกิจ การลงทุน และการตลาด
พวกลุงๆ น้าๆ พี่ๆ อย่างเพิ่งไปปิดกั้นจินตนาการน้องเลยครับ
-
สำหรับ จขกท.
ผมโอเคกับ content ประมาณนี้นะครับ
แต่จะดีกว่านี้ ถ้ามันอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้ มากกว่านี้ครับ
ตอนนี้คุนมองแค่ภาพใหญ่ๆว่าอยากได้แบบนี้ จะขายเท่านี้โดยไม่ได้คิดว่า คุณจะทำต้นทุนขนาดนั้นได้จริงไหม
ระบบขับเครื่องของคุณ ใกล้เคียงกับ bmw750e มากๆครับ แถมของคุณยังวิ่งได้ไกลกว่า อีก
ยังไม่ต้องถึงขึ้นผลิตเองนะ แค่หายpart มายกใส่ จะได้ราคานั้นหรือเปล่าก่อน..
เครื่องยนต์2.0t ที่ปั่นแรงม้าได้ 300ม้า คือเครื่องระดับ amg35 / 330i เลยนะครับ
motor ไฟฟ้าที่ปั้นได้ 200ม้า ก็อยู่ใน byd seal เลย
ส่วนน้ำหนัก 1.8ton ขนาด bmw 330e ยังหนัก 2 ตันกว่าเลย นะครับ
Spec ที่คุณแพลนไว้ ขนาดบริษัทใหญ่ๆ ระดับโลก ที่มี r&d มีโรงงานของตัวเองยังทำไม่ได้เลยนะครับ
อย่าลืมว่าบริษัทใหญ่ไม่ได้ซื้อของที่ละ 100 ชิ้นนะครับ Volumn ที่เขาสั้งมันมากพอที่ทำให้ โรงงานผลิต ส่วนที่มีพนักงานหลักร้อยคนอยู๋ได้นะครับ
สิ่งที่คุณต้องการคือการหยิบเอาชิ้นส่วนที่ตลาดมาประยุกต์มากกว่า r&d และผลิตชิ้นส่วนใหม่ขึ้นมาเองโดยไม่จำเป็นครับ
พวก supercar หลายๆคันก็เอาเครื่องของ รถตัวแรงมาใช้ แล้วปรับจูนต่อนะครับ อย่าง Pagani ก็เอาของ AMG มาใช้
PHEV ไม่ใช้เรื่องง่ายสำหรับ scale เล็กครับ มีส่วนประกอบทั้งเครื่องยน เกียร์ แบตเตอรี่ มอเตอร์ คุณต้องหา สามส่วนหลักๆนี้ต้ิงที่ทำงานเข้ากันได้ด้วย
สังเกตุดูไม่มีอู่ไหนที่แปลงรถ ICE เป็น Hybrid / phev นะครับ ทำจริงๆคงทำได้ครับ แต่ไม่คุ้มหรอกนอกจาก ยกทุกชิ้นมาใส่ครบๆ
เอาแค่หาบอดี้รถเก่า ที่สามารถยกเครื่องยนขับหน้าใส่ วางมอเตอร์ขับล้อหลัง กับมีที่วางแบต และยังใช้งานทั่วไปได้ก็ยากแล้ว
หันไปทาง BEV น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ
-
ผมคิดว่า น้อง จขกท น่าจะเป็นเด็กน้อย
จินตนาการยังสะอาดบริสุทธิ์และกว้างไกล
อยู่เหนือโลกของความเป็นจริงทางด้านวิศวกรรม
เศรษฐศาสตร์ ธุรกิจ การลงทุน และการตลาด
พวกลุงๆ น้าๆ พี่ๆ อย่างเพิ่งไปปิดกั้นจินตนาการน้องเลยครับ
อายุไม่น้อยแล้วครับเป็นหนุ่มเต็มตัวเคยบอกว่าตัวเองเป็นผู้แทนขายรถญุี่ปุ่นรายนึงด้วยครับ จริงๆคุยกันแบบเอาให้เหมาะสมหรือเป็นไปได้น่าจะคุยสนุกครับแต่ลองไปดูประวัติเก่าๆได้ครับไม่ใช่แค่รถที่จะสร้างเองครับ อยากให้บริษัทรถที่มีอยู่จริงทำรถบางอย่างที่ดูแล้วไม่น่าจะนำมาขายหรือไม่คุ้มอย่างแรงเป็นประจำครับ
-
เป็นกำลังใจให้ครับ กล้าคิด ก็ยังดีกว่าไม่กล้าแม้แต่จะคิดนะครับ
ถ้าคนไทยไม่สนับสนุนสินค้าไทย ผลิตภัณฑ์ของไทยจึงไม่เคยโตไงครับ
-
เป็นกำลังใจให้ครับ กล้าคิด ก็ยังดีกว่าไม่กล้าแม้แต่จะคิดนะครับ
ถ้าคนไทยไม่สนับสนุนสินค้าไทย ผลิตภัณฑ์ของไทยจึงไม่เคยโตไงครับ
ขออณุญาตินะครับ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ
ผมมองที่ตัวสินค้าเป็นหลักครับ ถ้าสินค้ามันดีจริงๆ แข่งขันกับตลาดได้ ราคาสมเหตุสมผล ก็สนใจครับ ไม่ค่อยสนใจที่มาของสินค้าเท่าไร่
ถ้าเป็นพวก electronic / ของใช้ในบ้าน เท่าที่เจอ บ.ไทย จ้างจีนผลิตเป็นส่วนใหญ่ หรือถ้าเล่นง่ายๆก็ ReBadge สินค้าจีนเอาดื้อๆ
สินค้าที่ไทยเป็นต้นน้ำ ผลิตและแปรรูปขายได้เอง มีการตั้งโรงงาน รายได้ลงไปถึงระดับชุมชนมีน้อยครับ ส่วนใหญ่ก็การเกษตร อาหาร พวกนี้มากกว่า
ส่วนตัวคิดว่าถ้าสินค้ามันดีมีจุดขาย ก็ควรจะชูจุดขายนั้นๆก่อนครับ
ไม่ใช้มาชูเรื่องที่มาของสินค้าว่าเป็นของคนไทย แล้วให้ทุกคนมาช่วยซื้อ
เหมือนพวกหนังไทยบางเรื่อง ที่contentน่าเบื่อ ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจ แล้วพยายามบอกให้คนไทยช่วยกันดู่ช่วยกันสนุบสนุน
-
มีคนที่สละเวลาตอบด้วยเหตุผลที่ค่อนข้างครบถ้วนทุกมิติแล้ว
อยากให้จขกท ไตร่ตรองให้ครบถ้วน หรือสละเวลาหาความรู้ให้รอบด้านมากขึ้น เข้าใจสิ่งต่างๆให้กว้างมากขึ้น
คำถามต่อๆไปคงจะใกล้เคียงรถทึ่มีความสามารถทำตลาดได้มากขึ้น
ไม่อยากให้ใครมองจขกท ว่าไม่มีการพัฒนาความรู้ในการถามขึ้นเลยครับ
-
ที่ทำงานเรา หน่วยงานที่คิด product ใหม่ๆ กว่าจะออกมาไม่ใช่ว่าจะตั้งpackage/ราคาขาย แล้วตั้งขายได้ตามใจชอบ ต้องมีการทำ feasibility การบริหารความเสี่ยง ข้อมูลในการทำก็มาจากการคำนวนต้นทุนต่างๆ และอื่นๆ เพราะฉะนั้นจากกระทู้ถ้า ราคามาแบบลอยๆ มันเลยไม่ค่อยดูมีความเป็นไปได้เท่าไหร่ เป็นไปได้ลองคิดเรื่องค้นทุนด้วยลองหาข้อมูลวิธีคำนวนแผนธุรกิจจากในเนตก็ได้ค่ะ
-
ผมคิดว่า น้อง จขกท น่าจะเป็นเด็กน้อย
จินตนาการยังสะอาดบริสุทธิ์และกว้างไกล
อยู่เหนือโลกของความเป็นจริงทางด้านวิศวกรรม
เศรษฐศาสตร์ ธุรกิจ การลงทุน และการตลาด
พวกลุงๆ น้าๆ พี่ๆ อย่างเพิ่งไปปิดกั้นจินตนาการน้องเลยครับ
อันดับแรกผมว่าเรื่องการเขียนเรียบเรียงเรื่องราวให้คนอ่านเข้าใจว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร เป็นเรื่องสำคัญด้วยครับ
อยู่ๆ โพล่งมาโดยที่ไม่มีการเท้าความ ไม่มีการอ้างถึง ผมถึงกับงงว่ากำลังเขียนถึงอะไรอยู่เหรอ??
-
เขียนสเปคใส่กระดาษ แล้วเอาไปจ้างโรงงานสักแห่งทำเป็น OEM หรือ Platform Sharing
ผมว่ามันมีค่า Fix cost ที่สูงเกินกว่าที่ยอดขาย1-2พันคันจะรับไหว ราคาน่าจะทะลุ 10ล้านบาท
-
น้ำมันล้วนๆเถอะ กำลังจะกลายเป็นอดีตแล้ว มีความน่าเก็บสะสมมากกว่านะครับ ราคาในไทย 3.5 ล้าน ถ้าได้สเปกประมาณ corvette c8 ละก็ ขายได้แน่นอน น่าจะเปรี๊ยงกว่า WINFAST 8)
-
เอาตรงๆคือเจ๊งครับ
ยอดขายคาดการณ์ทั้งโลก 2,500 คัน/ต่อปี ถือว่าน้อยมาก สำหรับบริษัทรถที่มีขายแค่ model เดียว
แล้วยอดขายจริงๆอาจจะต่ำกว่านี้ด้วย เพราะรถเป็นแบรนด์ใหม่ ที่ยังไม่มีชื่อเสียง ยังไม่มีความน่าเชื่อถือ น้อยคนที่จะกล้าซื้อ
ราคาขาย 3.5ล้าน ถ้าคำนึงถึงค่าต้นทุน ค่า R&D ค่าโรงงานผลิต ค่าขนส่ง marketing ไม่น่าจะคุ้มทุน
ต่อให้เซ็ตรถมาดี สมรรถนะดีแค่ไหน ก็รอดยากครับ
ถ้าทำรถที่เจาะตลาด mass น่าจะมีหวังกว่านี้
หรือไม่ก็ต้องรวยมากๆ แบบ Elon Musk แล้วยอมขายช่วงแรกแบบขาดทุน เอาเงินจากธุรกิจอื่นมาหมุนเวียนไปก่อน จนกว่าจะสร้างชื่อได้ก็มี 7-10 ปี
-
ครับผม ดูแล้วพี่ๆน่าจะเห็นว่าต้นทุนไม่ได้แต่ผมคงไม่สามารถคาดการณ์ให้มันขายได้ดีกว่านี้แล้วครับ คงต้องเอา motor+battery ออก เครื่องยนต์เป็นของ civic type r fk ครับแต่ปรับแรงบิดช่วงกลางนิดหน่อย เกียร์เป็นของ zf ส่วนระบบขับเคลื่อนเป็นแบบสมมาตรครับ คาดว่าน่าจะพอทำราคาได้แล้วครับ เป็นรถ shooting brake 2 ประตู 2+2 ที่นั่งครับ เครื่องยนต์คาดว่าอาจจะทำแรงได้น้อยกว่า 300 แรงม้านิดๆจริงๆกลัวขายไม่ได้ในยุคที่ ev 500 แรงม้าราคาไม่ถึงสองล้านน่ะครับ ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้บอกที่มาของกระทู้ก่อน
ผมคิดว่า น้อง จขกท น่าจะเป็นเด็กน้อย
จินตนาการยังสะอาดบริสุทธิ์และกว้างไกล
อยู่เหนือโลกของความเป็นจริงทางด้านวิศวกรรม
เศรษฐศาสตร์ ธุรกิจ การลงทุน และการตลาด
พวกลุงๆ น้าๆ พี่ๆ อย่างเพิ่งไปปิดกั้นจินตนาการน้องเลยครับ
อายุไม่น้อยแล้วครับเป็นหนุ่มเต็มตัวเคยบอกว่าตัวเองเป็นผู้แทนขายรถญุี่ปุ่นรายนึงด้วยครับ จริงๆคุยกันแบบเอาให้เหมาะสมหรือเป็นไปได้น่าจะคุยสนุกครับแต่ลองไปดูประวัติเก่าๆได้ครับไม่ใช่แค่รถที่จะสร้างเองครับ อยากให้บริษัทรถที่มีอยู่จริงทำรถบางอย่างที่ดูแล้วไม่น่าจะนำมาขายหรือไม่คุ้มอย่างแรงเป็นประจำครับ
ครับ ผมตอนนี้เลย 20 มาแล้วครับ...
-
ครับผม ดูแล้วพี่ๆน่าจะเห็นว่าต้นทุนไม่ได้แต่ผมคงไม่สามารถคาดการณ์ให้มันขายได้ดีกว่านี้แล้วครับ คงต้องเอา motor+battery ออก เครื่องยนต์เป็นของ civic type r fk ครับแต่ปรับแรงบิดช่วงกลางนิดหน่อย เกียร์เป็นของ zf ส่วนระบบขับเคลื่อนเป็นแบบสมมาตรครับ คาดว่าน่าจะพอทำราคาได้แล้วครับ เป็นรถ shooting brake 2 ประตู 2+2 ที่นั่งครับ เครื่องยนต์คาดว่าอาจจะทำแรงได้น้อยกว่า 300 แรงม้านิดๆจริงๆกลัวขายไม่ได้ในยุคที่ ev 500 แรงม้าราคาไม่ถึงสองล้านน่ะครับ ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้บอกที่มาของกระทู้ก่อนผมคิดว่า น้อง จขกท น่าจะเป็นเด็กน้อย
จินตนาการยังสะอาดบริสุทธิ์และกว้างไกล
อยู่เหนือโลกของความเป็นจริงทางด้านวิศวกรรม
เศรษฐศาสตร์ ธุรกิจ การลงทุน และการตลาด
พวกลุงๆ น้าๆ พี่ๆ อย่างเพิ่งไปปิดกั้นจินตนาการน้องเลยครับ
อายุไม่น้อยแล้วครับเป็นหนุ่มเต็มตัวเคยบอกว่าตัวเองเป็นผู้แทนขายรถญุี่ปุ่นรายนึงด้วยครับ จริงๆคุยกันแบบเอาให้เหมาะสมหรือเป็นไปได้น่าจะคุยสนุกครับแต่ลองไปดูประวัติเก่าๆได้ครับไม่ใช่แค่รถที่จะสร้างเองครับ อยากให้บริษัทรถที่มีอยู่จริงทำรถบางอย่างที่ดูแล้วไม่น่าจะนำมาขายหรือไม่คุ้มอย่างแรงเป็นประจำครับ
ครับ ผมตอนนี้เลย 20 มาแล้วครับ...
อะไรทำให้คุณคิดว่า คุณจะทำรถที่พื้นฐานมาจาก civic type R ได้ดีกว่า type R ในราคาที่ถูกกว่าหรอครับ???
ทั้งๆที่ TypeR มีโครงสร้าง//อะไหล่ ส่วนใหญ่ที่ Share กับ civic ที่ขายได้เป็นแสนคัน
แล้วถ้าเป็นคุณเอง ระหว่าง cla35 a35 wrx gr86 audi tt กับรถแบรนอะไรไม่รู้จากใครไม่รู้ คุณเองจะจิ้มรถคันไหน..
ตอนนี้เริ่มไม่ค่อยสนุกแล้ว หลายๆคนเสียเวลามาแสดงความคิดเห็นกันจริงจัง แต่คุณก็ยังไม่ได้มองความเป็นจริงเลย ตื่นเถอะครับ
-
ถ้าจะให้เริ่มจากรถบ้านก็คันนี้ครับ circube truck
Ev 50 แรงม้า 110 nm ขับสี่ ดิสเบรกสี่ล้อ ช่วงล่างหน้าอิสระ หลังคานบิด 200 km/charge(26kwh) ราคา 8 แสนต้นๆ ยอดขายในไทย 800 คัน ต่างประเทศ 3000 คัน ต่อเดือน
ไฮไลท์ ล้อขอบ 17 ภายในบุนุ่ม เบาะหนัง แอร์ auto หน้าจอสัมผัส 8.5 นิ้วพร้อม gps หน้าปัด tft 10.2 นิ้ว ช่องวางแก้วน้ำแบบ cool box wireless charger กล้องหลังพร้อมเซนเซอร์กะระยะ กระจกปรับไฟฟ้าทั้งบานกระจกและกระจกมองข้าง กระจกหลังตัดแสงอัตโนมัติ
*ไม่มีเครื่องเสียงแต่มีลำโพงให้เชื่อมต่อกับมือถือเอาแทน
-
ถ้าจะให้เริ่มจากรถบ้านก็คันนี้ครับ circube truck
Ev 50 แรงม้า 110 nm ขับสี่ ดิสเบรกสี่ล้อ ช่วงล่างหน้าอิสระ หลังคานบิด 200 km/charge(26kwh) ราคา 8 แสนต้นๆ ยอดขายในไทย 800 คัน ต่างประเทศ 3000 คัน ต่อเดือน
ไฮไลท์ ล้อขอบ 17 ภายในบุนุ่ม เบาะหนัง แอร์ auto หน้าจอสัมผัส 8.5 นิ้วพร้อม gps หน้าปัด tft 10.2 นิ้ว ช่องวางแก้วน้ำแบบ cool box wireless charger กล้องหลังพร้อมเซนเซอร์กะระยะ กระจกปรับไฟฟ้าทั้งบานกระจกและกระจกมองข้าง กระจกหลังตัดแสงอัตโนมัติ
*ไม่มีเครื่องเสียงแต่มีลำโพงให้เชื่อมต่อกับมือถือเอาแทน
เข้าใจว่าหมายถึงกระบะตู้ทึบใช้ไหมครับ?
คือ spec ที่คุณว่ามา เหมือนจะอยู๋ในรถ ขนาด kei-car ถึงจะทำตัวเลข 200km / 26kwh ได้
ซึ่งด้วยลักษณะของรถมันคงไม่ได้เอาไปลุยหิมะหรือใช้สมรรถณะสูงไม่ได้อยู่แล้ว ก็ไม่แน่ใจว่าจะใส่ขับสี่ไปทำไม
รถไฟฟ้าเท่าที่ผมเข้าใจ จะใช้มอเตอร์ปั้นล้อตรงๆ awd/4wd เลยจะไปอยู๋ในรุ่นที่เป็น Dual Motor เสียมากกว่า เมื่อเป็นขับสี่ก็โดนต้นทุนมอเตอร์ลูกที่สองเพิ่มไปอีก
ไฮไลท์ ล้อขอบ 17 อาจตัวทำที่ทำให้รถวิ่ง 200km/1full charge ไม่ได้นะครับ
แล้วกลุ่ม kei-car ล้อขนาด 10-14 เท่านั้นเอง ใหญ่กว่านั้นน่าจะได้ แต่คงกินพทห้องโดยสารมากขึ้น
infotainment ก็แปลกที่ให้ gps แต่ไม่มีเครื่องเสียงให้.. สวนทางกับรถส่วนใหญ่ที่ เอา gps ออก แล้วใส่ carplay/android auto มาให้ต่อกับโทรศัพท์แทน
ถ้าจะลด cost จริงๆ ตัดออกไปเลยน่าจะดีกว่า
ถ้าเทียบกับ dolphin std ที่(น่าจะ)แรงกว่า วิ่งได้ไกลกว่า มีแนวโน้มว่าจะขนของได้เยอะกว่า.. มีเครื่องเสียง..และราคาปัจจุบันถูกกว่า คุณคิดว่าคนส่วนใหญ่จะเลือกคันนั้นจริงๆหรอครับ?
-
ถ้าจะให้เริ่มจากรถบ้านก็คันนี้ครับ circube truck
Ev 50 แรงม้า 110 nm ขับสี่ ดิสเบรกสี่ล้อ ช่วงล่างหน้าอิสระ หลังคานบิด 200 km/charge(26kwh) ราคา 8 แสนต้นๆ ยอดขายในไทย 800 คัน ต่างประเทศ 3000 คัน ต่อเดือน
ไฮไลท์ ล้อขอบ 17 ภายในบุนุ่ม เบาะหนัง แอร์ auto หน้าจอสัมผัส 8.5 นิ้วพร้อม gps หน้าปัด tft 10.2 นิ้ว ช่องวางแก้วน้ำแบบ cool box wireless charger กล้องหลังพร้อมเซนเซอร์กะระยะ กระจกปรับไฟฟ้าทั้งบานกระจกและกระจกมองข้าง กระจกหลังตัดแสงอัตโนมัติ
*ไม่มีเครื่องเสียงแต่มีลำโพงให้เชื่อมต่อกับมือถือเอาแทน
50 แรงม้าไม่จำเป็นต้องขับ 4 เลยครับ ดิสเบรค 4 ล้อก็ไม่จำเป็น ไปเพิ่ม range ให้ขับจริงได้อย่างน้อย 250 km ดีกว่า
ล้อ 17 ก็ใหญ่ไป เปลืองไฟโดยใช่เหตุครับ รถคันเล็กเอาล้อเล็กๆไม่เกิน 14 15 นิ้วดีกว่า
ทั้งหมดนี้ราคาต้องต่ำกว่า Neta V คือขายซัก 2.5-3.5แสนเต็มที่
ทำได้ตามนี้อาจจะขายได้เยอะกว่าที่คาดการณ์ด้วยมั้ง แต่ถ้าขาย 8 แสน ขนาด Mazda MX30 ที่ทำได้ดีกว่านี้ยังขายไม่ออกเลยครับ
ปล. ถ้าจะขายรถประเภทไหน ก็ต้องมองกลุ่มเป้าหมายคนที่จะซื้อด้วย แล้วก็ต้องเอารถคู่แข่งในกลุ่มนั้นๆ มาทำ benchmark
แล้วทำรถให้ออกมาดีเท่าๆกันหรือดีกว่า ในราคาที่ถูกกว่า ถึงจะจุดติดครับ
ถ้าทำออกมาด้อยกว่า แต่ขายแพงกว่าเขา ยังไงก็ดับ
ปล.2 ถ้าจะทำรถสปอร์ตจากแบรนด์ใหม่ให้ประสบความสำเร็จจริงๆ ดังเป็นพลุแตก มันต้องมี story เบื้องลึกเบื้องหลังครับ
แบบเคยเป็น chief engineer จากค่ายดังๆ Porsche, Ferrari, BMW มาก่อน แล้วออกมาเปิดแบรนด์เป็นของตัวเอง
แล้วก็ได้อดีตนักแข่งรถพวก GT3, Touring, LMP มาช่วยทดสอบเซ็ตรถให้
จากนั้นก็เอารถไปวิ่งสนาม Nurburgring แล้วทำเวลาได้โดดเด่นกว่าคู่แข่ง
แบบนี้ตั้งราคาขายซัก 10 ล้าน+ ก็มีคนซื้อครับ
-
spec กับ ยอดขาย เทียบกับเงินลงทุนสร้าง
ผมว่ามันเป็นไปไม่ได้ เลยครับ (คหสต.)
ถ้าเป็นไปได้ นี่ต้องเป็นแบบ Garage's House หรือ Homemade เลยครับ (แต่ scale vs ต้นทุน สู้แบรนด์ใหญ่ไม่ได้อีก)
จะไปยืมเครื่องยนต์ ยี่ห้อนึงมา ไปเอาเกียร์ ยี่ห้อนึงมา ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะ scale มันไม่ได้ ราคามันก็ไม่ได้ด้วย
-
ที่จะเป็นไปได้มากกว่าคือ ทำไม่ต้องมาก ผลิตมือ ทำแบบ Lotus เน้นผลงาน ในสนาม ส่วนจะรอดไหม อยู่ที่จะสู้ไหมแค่นั้น
-
ถ้าจะให้เริ่มจากรถบ้านก็คันนี้ครับ circube truck
Ev 50 แรงม้า 110 nm ขับสี่ ดิสเบรกสี่ล้อ ช่วงล่างหน้าอิสระ หลังคานบิด 200 km/charge(26kwh) ราคา 8 แสนต้นๆ ยอดขายในไทย 800 คัน ต่างประเทศ 3000 คัน ต่อเดือน
ไฮไลท์ ล้อขอบ 17 ภายในบุนุ่ม เบาะหนัง แอร์ auto หน้าจอสัมผัส 8.5 นิ้วพร้อม gps หน้าปัด tft 10.2 นิ้ว ช่องวางแก้วน้ำแบบ cool box wireless charger กล้องหลังพร้อมเซนเซอร์กะระยะ กระจกปรับไฟฟ้าทั้งบานกระจกและกระจกมองข้าง กระจกหลังตัดแสงอัตโนมัติ
*ไม่มีเครื่องเสียงแต่มีลำโพงให้เชื่อมต่อกับมือถือเอาแทน
เริ่มจากแบต 26 KWh ก่อนนะครับ
ต้นทุนเฉลี่ยตัวเซลล์แบตอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทต่อ 1KWh
ราคานี้ไม่รวมการประกอบเป็นแพ็ค ระบบหล่อเย็น และระบบควบคุม
รถเก๋ง BEV ที่ขายกันอยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้บรรทุกหนัก วิ่งไปวิ่งมา
อัตรากินไฟอยู่ที่ประมาณ 5-6 Km / KWh
ดังนั้นแบต 26 KWh ก็น่าจะวิ่งได้แค่ 130-156 Km เองนะ
ไม่ไหวอย่าฝืนครับ
-
การบ้าน ?
-
spec กับ ยอดขาย เทียบกับเงินลงทุนสร้าง
ผมว่ามันเป็นไปไม่ได้ เลยครับ (คหสต.)
ถ้าเป็นไปได้ นี่ต้องเป็นแบบ Garage's House หรือ Homemade เลยครับ (แต่ scale vs ต้นทุน สู้แบรนด์ใหญ่ไม่ได้อีก)
จะไปยืมเครื่องยนต์ ยี่ห้อนึงมา ไปเอาเกียร์ ยี่ห้อนึงมา ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะ scale มันไม่ได้ ราคามันก็ไม่ได้ด้วย
ครับผม
เปลี่ยนครั้งสุดท้ายเป็นรถสปอร์ต roadster เครื่องวางกลาง honda 1.5l turbo 225 hp 260 nm ขับสี่ เกียร์ torque converter 6 soeed at/mt ยอดขายทั่วโลกปีล่ะ 50,000 คัน อายุการตลาด 10 ปี minorchange 3 ปีต่อครั้ง ราคา 1,400,000-1,600,000 บาท ครับ
-
spec กับ ยอดขาย เทียบกับเงินลงทุนสร้าง
ผมว่ามันเป็นไปไม่ได้ เลยครับ (คหสต.)
ถ้าเป็นไปได้ นี่ต้องเป็นแบบ Garage's House หรือ Homemade เลยครับ (แต่ scale vs ต้นทุน สู้แบรนด์ใหญ่ไม่ได้อีก)
จะไปยืมเครื่องยนต์ ยี่ห้อนึงมา ไปเอาเกียร์ ยี่ห้อนึงมา ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะ scale มันไม่ได้ ราคามันก็ไม่ได้ด้วย
ครับผม
เปลี่ยนครั้งสุดท้ายเป็นรถสปอร์ต roadster เครื่องวางกลาง honda 1.5l turbo 225 hp 260 nm ขับสี่ เกียร์ torque converter 6 soeed at/mt ยอดขายทั่วโลกปีล่ะ 50,000 คัน อายุการตลาด 10 ปี minorchange 3 ปีต่อครั้ง ราคา 1,400,000-1,600,000 บาท ครับ
ก็คือเอา เครื่อง civic turbo ไปจูนต่อ ให้ได้ 225 hp 260 nm
ไปชนกับเกียร์จากไหนไม่รู้ ที่เป็น 6at/mt ขับสี่
ใส่ใน body mr2/mrs/cayman
เอาเลยครับ ลองหา body mr2 มาแปลงเลยครับ จะได้รุ้ว่ามันได้ไหม แล้วใช้งบเท่าไร่
แล้วจะขาย 1.4-1.6 m. 50,000 คันต่อปี 10 ปี 500,000 คัน
คุณรู้ไหมว่า ตลาด us mazda Miata หรือ mx-5 เริ่มต้นที่ 28500 usd หรือประมาณ 1 ล้านบาทไทยเท่านั้น..
และ Mazda ใช้เวลา 27 ปี ตั้งแต่ 1989 - 2016 สะสมยอดขาย ทั่วโลกจาก 4 model na/nb/nc/nd ได้รวมกัน 1 ล้านคัน เฉลี่ยนปีละ 37037.37 คัน ขายได้น้อยกว่าการคาดการของคุณอีก
-
spec กับ ยอดขาย เทียบกับเงินลงทุนสร้าง
ผมว่ามันเป็นไปไม่ได้ เลยครับ (คหสต.)
ถ้าเป็นไปได้ นี่ต้องเป็นแบบ Garage's House หรือ Homemade เลยครับ (แต่ scale vs ต้นทุน สู้แบรนด์ใหญ่ไม่ได้อีก)
จะไปยืมเครื่องยนต์ ยี่ห้อนึงมา ไปเอาเกียร์ ยี่ห้อนึงมา ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะ scale มันไม่ได้ ราคามันก็ไม่ได้ด้วย
ครับผม
เปลี่ยนครั้งสุดท้ายเป็นรถสปอร์ต roadster เครื่องวางกลาง honda 1.5l turbo 225 hp 260 nm ขับสี่ เกียร์ torque converter 6 soeed at/mt ยอดขายทั่วโลกปีล่ะ 50,000 คัน อายุการตลาด 10 ปี minorchange 3 ปีต่อครั้ง ราคา 1,400,000-1,600,000 บาท ครับ
ต้องกำหนดเป้า หรือ point ดีๆ ครับ
ถ้าคิดจะทำรถ Mid-Ship ไซต์เล็ก roadster ลองดู benchmark จากคันอื่นๆ ดูได้ครับ ว่า รถ Mid-Ship จุดประสงค์เขาทำมาเพื่ออะไร (หลายยี่ห้อ หลายรุ่น จะขาดทุน มากกว่ากำไร)
หลักๆ เขาทำมาเพื่อเหตุผลหลักๆ เลยคือ รถขับสนุก เน้นบาลานซ์ตัวรถ อย่างพวก Lotus แทบทุกรุ่น หรืออย่างล่าสุด Honda S660 เป็นต้น (ไม่ใช่เอามาทำขับ 4) ยังไม่รวม supercar อีกนะ
ยอดขาย 50,000 ต่อปี ถือว่าเยอะมากนะครับ ถ้าทำได้(จริง) ไปรอดครับ
ผมสนับสนุนความคิดครับ ส่วนทำได้ไหม ก็ว่ากันไป เอาใจช่ววครับ