Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: solo ที่ พฤศจิกายน 10, 2023, 06:22:17
-
https://www.youtube.com/watch?v=OUqU_evI74U
-
บริษัทเล็ก ๆ ทำแล้วขายไม่ออก มีปัญหา ล้มละลาย... นั่นคือเรื่องหลักครับ
-
No comment เรื่อง EV ในจีนนะครับ แต่ถ้าในไทย คนใช้จะค่อยๆทราบกันเองว่าคุ้มหรือไม่ในระยะยาว
คนรับได้ก็ดีไป คนไม่รู้รับไม่ได้ ก็จะเครียดกันหน่อย
-
1. บริษัทหลายบริษัทหรือแทบจะส่วนใหญ่ถูกสนับสนุนจากรัฐ แล้ว ทำออกมาแข่งขันกันเพื่อจะสร้างบริษัท จะเรียกว่า start up ก็ได้
2. แล้วเนื่องจากแข่งขันกันเรื่องการสร้าง การผลิต แต่ ไม่มีตลาดรองรับ เรียกว่า ไม่มี demand หรือ demand เทียม ก็ได้ รถก็จอดทิ้ง เป็นสุสานเต็มไปหมด (มีสำนักข่าว ตีข่าวเรื่องนี้มานานแล้ว)
3. รถที่ผลิตในยุคแรกๆ มันเป็น design language แบบชาตินิยม ดูรู้เลยว่างิ้วจ๋าๆ เลย คิ้วงอนยาว(ไฟหน้า ไฟท้าย) ตูดงอน สิ้นสายหวัด(เหมือนตัวหนังสือ) หรือออกแนวงิ้วมากๆ แล้วเอามาใส่ในรถ มันไม่ทันสมัย ขายไม่ออก ขนาดคนในประเทศเองยังไม่ค่อยซื้อเลย สังเกตดได้ว่ารถที่ขายได้ ไปรอดมาถึงทุกวันนี้ แทบจะ DNA สมัยใหม่ แนวรถสมัยใหม่ของตะวันตกแทบทั้งนั้น มีความเป็นงิ้วน้อยมาก หรือไม่เหลือเลย
คหสต.
-
คนในวงการรถยนต์ จะมีคำพูดนึงคือ
แค่สร้างรถให้วิ่งได้ ง่าย ใครๆก็ทำได้
สร้าง รถให้วิ่งได้ แล้วขายได้ด้วย ยากกว่าเยอะ
แต่สร้างให้ วิ่งได้ ขายได้ แล้วกำไรด้วย นี่ โคตรยาก บาง บ ที่อยู่มาเป็นสิบ เป็นร้อยปี ก็ไปไม่รอดมากมาย
เรื่อง EV การแค่ทำได้ สร้างได้ ขับได้ มันแค่เริ่มต้น ของธุรกิจรถ อาจจะต่างกับสมัย ICE ที่จำนวนเพลยเยอมันเข้ามาใหม่ได้ง่ายกว่าสมัยก่อน ยิ่งด้วย ภาครัฐจีน สนับสนุนมันก็พอจะประคองตรงนี้ได้
แต่สุดท้ายมันก็ดำเนินไปต่อ ด้วยเรื่องเดียวกันกับ ตลาด รถเดิม แค่ ทำโปรดักได้ มีตัวแทนขาย มันยังมี อีกยาว แล้ว สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่ หน้าที่ของรัฐที่ต้องมาแบกต่อแล้ว ใครทำดีก็ได้ไป ทำไม่ไหวหรือบางคนแค่ตีหัวเข้าบ้านมันก็มีเยอะ
บ้านเราไม่คุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้เลยดูว่าแปลก เพราะกลไกลตลาดบ้านเรามันมี แบริเออสูง เพลยเยอไม่เยอะ แต่ใน ตปท ยิ่งในตลาดสตาทอัพ บ เปิดดเป็นพัน หายไปเหลือหลักสิบ ในปีเดียวมีมากมาย
แค่ไอเดีย หรือทำโปรดักมาลองตลาดแล้วหายไป มีทุกวัน
-
ผมคิดว่าที่ผ่านมา EV กระแสมันมาแรงมากครับ และทำรถ EV 1 คัน มันง่ายกว่ารถน้ำมันเยอะเลย อย่างน้อยๆเครื่องยนต์กับเกียร์ ที่ซับซ้อน มันตัดเหลือแค่ motor กับ battery ที่น่าจะหา OEM ได้ง่ายกว่า คนเลยโดดเข้ามาเล่นเยอะ แต่ตัวจริงที่หวังอยู่ยาวๆ อาจไม่ได้เยอะมาก
ผมเองก็ไม่ได้ตามตลาดจีนเลย แต่เห็นผ่านๆ บางรุ่นดีไซน์ที่ทำมาแบบรีบๆ ไม่ค่อยลงตัว ในมุมของผมก็ไม่กล้าซื้อเหมือนกัน คือภายนอกที่เห็นชัดๆ ยังทำมาลวกๆแบบนี้ แล้วสิ่งที่ไม่เห็น กับพวกความปลอดภัย มันไว้ใจได้แค่ไหน
อย่างแบรนที่เข้ามาตีตลาดไทย เราก็พอดูออกแหละว่าในระยะ 1-3 แบรนไหนพอจะอยู่รอดได้ กับแบรนไหนที่ไม่น่ารอด
-
1. บริษัทหลายบริษัทหรือแทบจะส่วนใหญ่ถูกสนับสนุนจากรัฐ แล้ว ทำออกมาแข่งขันกันเพื่อจะสร้างบริษัท จะเรียกว่า start up ก็ได้
2. แล้วเนื่องจากแข่งขันกันเรื่องการสร้าง การผลิต แต่ ไม่มีตลาดรองรับ เรียกว่า ไม่มี demand หรือ demand เทียม ก็ได้ รถก็จอดทิ้ง เป็นสุสานเต็มไปหมด (มีสำนักข่าว ตีข่าวเรื่องนี้มานานแล้ว)
3. รถที่ผลิตในยุคแรกๆ มันเป็น design language แบบชาตินิยม ดูรู้เลยว่างิ้วจ๋าๆ เลย คิ้วงอนยาว(ไฟหน้า ไฟท้าย) ตูดงอน สิ้นสายหวัด(เหมือนตัวหนังสือ) หรือออกแนวงิ้วมากๆ แล้วเอามาใส่ในรถ มันไม่ทันสมัย ขายไม่ออก ขนาดคนในประเทศเองยังไม่ค่อยซื้อเลย สังเกตดได้ว่ารถที่ขายได้ ไปรอดมาถึงทุกวันนี้ แทบจะ DNA สมัยใหม่ แนวรถสมัยใหม่ของตะวันตกแทบทั้งนั้น มีความเป็นงิ้วน้อยมาก หรือไม่เหลือเลย
คหสต.
+1 เหตุผลมันประมาณนี้จริงๆครับ เพราะ บ. ที่ทำรถไฟฟ้ามีเยอะมาก ที่บอกทะยอยเจ๊งบอกเลยว่าปกติ อุตสาหกรรมใหญ่ ไม่ใช่ว่าปลาเล็กจะรอดเสมอไป ยิ่งเป็นของที่ต้องการ reliablity มากๆแล้ว ยากครับ ขนาดเครื่องใช้ไฟฟ้ามีที่ติดตลาดก็ไม่กี่เจ้า แต่จริงๆแล้วแบรนด์ในจีนมีเยอะมาก เข้า aliexpress กดได้เลย แต่พวกของชิ้นเล็กๆมันไม่เจ๊งมันก็จะยังมีอยู่ แบรนด์ที่ปรับตัวส่วนใหญ่ ให้มองเรื่องการ go inter เป็นหลัก พวกที่ไม่ยอมปรับ หรือใช้ชื่อจีนล้วนแล้ว successs แบบเคส xiaomi แทบจะไม่มี อย่างดีก็เป็นแค่ของ low cost นอกประเทศครับ ยิ่งรถยิ่งแล้วใหญ่ ที่จีนทำเอง ถ้าไม่ copy cat ก็มีเส้นสายฟรุ้งฟริ้ง แต่หน้าตาโบราณ ก็เจ๊งครับ การแข่งขันมันสูงมาก ใครจับตลาดไม่ได้ก็ยากหน่อย
-
บางที ที่จีนเค้าอาจจะรู้แล้วว่า การรถไฟฟ้าไม่ได้รักษ์โลกอย่างที่โฆษณากัน
-
ตลกตรงไปเอาช่องพวกนี้มาเป็นแหล่งอ้างอิงนี่แหละ
เข้าไปดูแต่ละคลิปคือ io เวอร์ชั่นแอนตี้จีนชัด แล้วมันจะเชื่อถืออะไรได้
;D ;D
-
1. บริษัทหลายบริษัทหรือแทบจะส่วนใหญ่ถูกสนับสนุนจากรัฐ แล้ว ทำออกมาแข่งขันกันเพื่อจะสร้างบริษัท จะเรียกว่า start up ก็ได้
2. แล้วเนื่องจากแข่งขันกันเรื่องการสร้าง การผลิต แต่ ไม่มีตลาดรองรับ เรียกว่า ไม่มี demand หรือ demand เทียม ก็ได้ รถก็จอดทิ้ง เป็นสุสานเต็มไปหมด (มีสำนักข่าว ตีข่าวเรื่องนี้มานานแล้ว)
3. รถที่ผลิตในยุคแรกๆ มันเป็น design language แบบชาตินิยม ดูรู้เลยว่างิ้วจ๋าๆ เลย คิ้วงอนยาว(ไฟหน้า ไฟท้าย) ตูดงอน สิ้นสายหวัด(เหมือนตัวหนังสือ) หรือออกแนวงิ้วมากๆ แล้วเอามาใส่ในรถ มันไม่ทันสมัย ขายไม่ออก ขนาดคนในประเทศเองยังไม่ค่อยซื้อเลย สังเกตดได้ว่ารถที่ขายได้ ไปรอดมาถึงทุกวันนี้ แทบจะ DNA สมัยใหม่ แนวรถสมัยใหม่ของตะวันตกแทบทั้งนั้น มีความเป็นงิ้วน้อยมาก หรือไม่เหลือเลย
คหสต.
+1 เหตุผลมันประมาณนี้จริงๆครับ เพราะ บ. ที่ทำรถไฟฟ้ามีเยอะมาก ที่บอกทะยอยเจ๊งบอกเลยว่าปกติ อุตสาหกรรมใหญ่ ไม่ใช่ว่าปลาเล็กจะรอดเสมอไป ยิ่งเป็นของที่ต้องการ reliablity มากๆแล้ว ยากครับ ขนาดเครื่องใช้ไฟฟ้ามีที่ติดตลาดก็ไม่กี่เจ้า แต่จริงๆแล้วแบรนด์ในจีนมีเยอะมาก เข้า aliexpress กดได้เลย แต่พวกของชิ้นเล็กๆมันไม่เจ๊งมันก็จะยังมีอยู่ แบรนด์ที่ปรับตัวส่วนใหญ่ ให้มองเรื่องการ go inter เป็นหลัก พวกที่ไม่ยอมปรับ หรือใช้ชื่อจีนล้วนแล้ว successs แบบเคส xiaomi แทบจะไม่มี อย่างดีก็เป็นแค่ของ low cost นอกประเทศครับ ยิ่งรถยิ่งแล้วใหญ่ ที่จีนทำเอง ถ้าไม่ copy cat ก็มีเส้นสายฟรุ้งฟริ้ง แต่หน้าตาโบราณ ก็เจ๊งครับ การแข่งขันมันสูงมาก ใครจับตลาดไม่ได้ก็ยากหน่อย
ใช่ครับ มันเรื่องปกติมาก ตอนรถน้ำมันมาแรกๆก็แข่งกันแบบนี้แหละ
แล้วลองดูตอนนี้เหลือหลักๆแค่กี่กลุ่มเอง ที่เหลือไม่เจ๊ง ก็โดนเทค โดนซื้อ โดยแบรนด์ใหญ่ไปหมดแล้ว
;D :D :D