Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: chiltunder ที่ พฤศจิกายน 22, 2023, 16:40:43
-
มีแพลนจะเปลี่ยนรถปีหน้าเดิมใช้ W205 C300 BH ก่อนหน้านี้ก็ Benz Diesel มาตลอด แต่หลังๆตามอ่านในกลุ่มบ้าง เจอกับตัวเองบ้างพบว่ารุ่นหลังๆของ Benz ไม่ค่อยน่าใช้ในเรื่องของคุณภาพตัวรถเองและปัญหาต่างๆที่พบไม่ว่าจะเล็กบ้างจนไปถึงใหญ่ต้องทิ้งรถไว้เพื่อซ่อมหรือแก้ปัญหา
จึงลองมามองค่าย BMW ที่ดูไว้จะเป็น 320d กับ 320e การใช้งานส่วนใหญ่นั่ง 2 คนเป็นหลัก และจะวิ่งไปกลับกรุงเทพ - เพชรบุรี ทุกสัปดาห์ ขับไม่เกิน 120 ในกรณีรถหนาแน่ แต่ถ้ารถไม่เยอะก็มี 160 - 170 บ้าง ส่วนวันปกติก็จะเป็นวิ่งในกรุงเทพเป็นหลักระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นพี่ๆจะเลือกตัวไหน เป็นคนชอบเครื่อง Diesel แต่ก็ชอบพวก option ต่างๆด้วยซึ่งมีมาใน 320e ถ้าเป็นพี่ๆจะไปตัวไหน
ถ้าเป็น 320e ในกรณีที่ Battery หมดอาจจะหาที่ชาร์จไม่ได้ รถจะมีอัตราการสิ้นเปลืองเท่าไหร่เพราะต้องแบก Battery ไปด้วย และเรี่ยวแรงของเครื่องยังมีไหมในกรณีต้องขึ้นเขา เช่นเขาค้อ เป็นต้น
ส่วนเรื่องราคาน้ำมันไม่ใช่ปัญหา เนื่องจากปกติใช้ Benz ที่มี Adblue เราเติมน้ำมัน Diesel premium euro5 ของปั้มใบไม้อยู่แล้ว ถ้าหาไม่ได้ก็ Diesel premium ของปั้มหอย
-
เข้าใจว่าจขกทน่าจะหมายถึง 330e
ผมมี 530e m sport LCI เรื่องกำลังไม่ต้องห่วงครับ แรงเหลือๆขนาดในร่าง 5
ขึ้นเขาได้ทุกเขาแบบชิลๆแน่นอน
ผมไม่ชาร์จแบตที่บ้านเลยครับเพราะขี้เกียจ ขับเหมือนรถ hybrid ปกติ รถเค้าจัดการชาร์จกลับอยู่เรื่อยๆครับ ขนาดมี wallcharge แถมมาให้ตั้งแต่คันก่อนที่เป็น 530e pre-LCI ก็ไม่ติดครับ มีชาร์จข้างนอกนานๆๆที กับกดให้รถชาร์จตัวเองจนถึง 80% บ้างบางครั้งตอนขับไกลหน่อย อัตราสิ้นเปลืองในเมืองเห็นหน้าปัดขึ้น10-11ครับ
ใช้ดีทุกอย่าง ข้อติเดียวคือท้ายรถเก็บของได้น้อยมาก 410ลิตร เพราะโดนแบตแย่งที่ถ้าเป็น 330e เหลือ 375ลิตรครับ (320d 480ลิตร)
-
320d เครื่องดีเซลล้วน ปัญหาน้อยกว่าไฮบริดแน่ๆ ราคาขายต่อก็ดีกว่า ขายง่ายกว่า
-
จากโจทย์ก็เล่นได้ครับ ถ้ารถใหม่ ผมก็เชียร์ 330e (น่าจะพิมพ์ผิดเป็น 320e)
พละกำลังเหลือๆ เลยครับ ความเร็วที่บอก รถทั่วไปก็วิ่งได้ แต่มั่นใแค่ไหนก็ว่ากันไป
ถ้าแบตหมด เลือกโหมด regen ไฟเข้าแบตเตอรี่ได้ แต่ก็กินน้ำมันพอสมควร ไม่คุ้ม ใช้เครื่องยนต์ไปก็คุ้มกว่า เพราะเดี๋ยวมันก็จะชาร์จเข้าแบตเตอรี่ให้อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง
-
เขิลเลย...จำ 330e เป็น 320e ขอบคุณทุกความเห็นครับ ได้ข้อมูลตัดสินใจเพิ่มเลย;D
-
320d สบายใจกว่า ไว้ใจได้กว่า แทบจะเรียกว่าทนเลยครับ
-
ถ้าไม่ติดขัดเรื่องงบประมาณ ส่วนตัวผมเชียร์ไปทาง 330Li ครับ
-
สวนกระแส ขับเยอะไหมครับ
ผมชอบ 320i ครับ เบนซิน นี่แหละ
เพื่อน ใช้ 320D ตอนออกใหม่ๆ คุยเรื่องประหยัด ตอนนี้ เริ่มบ่นว่า ซ่อมแพงไปเปลี่ยนโซ่ราวริ้น ต้องยกเครื่องออกมาจากรถเลยทีเดียว โดนไป แสนฝ่า
-
แชร์ประสบการจาก f30 นะครับ คิดว่ารุ่นปัจจุบันน่าจะดีขึ้นมาก
เป็นรถที้ขับมันมากครับ แรงแบบสมูท ไม่ได้ดึงแบบดีเซล ขับในเมืองสมูทกว่า ช่วงล่างที่ไปลอง320d มา แข็งมากๆ ไม่รู้ lci แล้วดีขึ้นรึยัง
อัตราสิ้นเปลืองแบบไฟหมด เส้นทางประจำขับในกทม c300 ผมรุ่นเดียวกับ จขกท กินน้ำมัน 15km/l 330e กิน 10 km/l เคยขับไปเที่ยว เชี่ยงใหม่ 4-5 วัน อัตราสิ้นเปลือในเมือง 11-12 km/l วิ่งยาวๆ กทม-เชียงกิน 12-13 km/l โดยรวมถือเป็นรถที่กินน้ำมันมากเมื่อไฟหมด แต่ขับสนุกมากเช่นกันครับ
สรุป ถ้าใช้ 5-6 ปี เชียร์เลย แต่จะใช้ยาวกว่านั้นเชียร์ 330Li หรือ 320d ครับ
-
สวนกระแส ขับเยอะไหมครับ
ผมชอบ 320i ครับ เบนซิน นี่แหละ
เพื่อน ใช้ 320D ตอนออกใหม่ๆ คุยเรื่องประหยัด ตอนนี้ เริ่มบ่นว่า ซ่อมแพงไปเปลี่ยนโซ่ราวริ้น ต้องยกเครื่องออกมาจากรถเลยทีเดียว โดนไป แสนฝ่า
อื้อหือ ราคาน่าตกใจมากครับ :o
ค่าซ่อมเค้าพรีเมี่ยมจริงๆ
-
สวนกระแส ขับเยอะไหมครับ
ผมชอบ 320i ครับ เบนซิน นี่แหละ
เพื่อน ใช้ 320D ตอนออกใหม่ๆ คุยเรื่องประหยัด ตอนนี้ เริ่มบ่นว่า ซ่อมแพงไปเปลี่ยนโซ่ราวริ้น ต้องยกเครื่องออกมาจากรถเลยทีเดียว โดนไป แสนฝ่า
อื้อหือ ราคาน่าตกใจมากครับ :o
ค่าซ่อมเค้าพรีเมี่ยมจริงๆ
จิ๊บๆครับ เจอ S-class เช็คหมื่นกิโล เปลี่ยน นมค+สารพัดกรอง สองหมื่นห้า ถามราคายางปัดน้ำฝนศูนย์บอกเจ็ดพันน่าจะค่าอะไหล่อย่างเดียว ไม่อยากถามอย่างอื่น 55 แต่รถมันดีจริงๆ
-
สวนกระแส ขับเยอะไหมครับ
ผมชอบ 320i ครับ เบนซิน นี่แหละ
เพื่อน ใช้ 320D ตอนออกใหม่ๆ คุยเรื่องประหยัด ตอนนี้ เริ่มบ่นว่า ซ่อมแพงไปเปลี่ยนโซ่ราวริ้น ต้องยกเครื่องออกมาจากรถเลยทีเดียว โดนไป แสนฝ่า
เคสนี้ BSI ไม่คุ้มครองหรอครับ
-
แชร์ประสบการจาก f30 นะครับ คิดว่ารุ่นปัจจุบันน่าจะดีขึ้นมาก
เป็นรถที้ขับมันมากครับ แรงแบบสมูท ไม่ได้ดึงแบบดีเซล ขับในเมืองสมูทกว่า ช่วงล่างที่ไปลอง320d มา แข็งมากๆ ไม่รู้ lci แล้วดีขึ้นรึยัง
อัตราสิ้นเปลืองแบบไฟหมด เส้นทางประจำขับในกทม c300 ผมรุ่นเดียวกับ จขกท กินน้ำมัน 15km/l 330e กิน 10 km/l เคยขับไปเที่ยว เชี่ยงใหม่ 4-5 วัน อัตราสิ้นเปลือในเมือง 11-12 km/l วิ่งยาวๆ กทม-เชียงกิน 12-13 km/l โดยรวมถือเป็นรถที่กินน้ำมันมากเมื่อไฟหมด แต่ขับสนุกมากเช่นกันครับ
สรุป ถ้าใช้ 5-6 ปี เชียร์เลย แต่จะใช้ยาวกว่านั้นเชียร์ 330Li หรือ 320d ครับ
คันปัจจุบัน 7 ปีใช้มา 180,000 กิโล ไม่ควรไป 330e ใช่ไหมครับ ตัว 330Li ยังไม่ได้ไปลองดูตัวรถกับลองนั่งเลย เดี๋ยวคงต้องไปลองดูก่อน ขอบคุณครับ
-
8) 8) 8)..... ยังเดินทางไกลประจำอยู่ 320d เหมาะสมครับ พรีเมี่ยมดีเซล ยังมีขายไปอีกเกิน ยี่สิบปีครับ EV รอจน 1,000 km/ charge เมื่อไร ค่อยใช้ EV
-
หาศูนย์ที่มีทั้ง 2 รุ่นให้ลองขับดูดีกว่าครับ
ผมเคยมี 520d G30 คันนึง (เกิดอุบัติเหตุ คืนทุน)
จากนั้นซื้อ 320d G20
และซื้อ 530e G30 LCI
ผมว่าตัว PHEV ใช้ดีกว่าครับ เมื่อก่อนกลัวรถ PHEV มาก กลัวเรื่องการซ่อม จนไม่เคยคิดแม้แต่จะซื้อ แต่พอได้ลองใช้แล้ว คันต่อไปอย่างน้อยก็ต้องเป็น Mild Hybrid ครับ
-
ถ้าอยากแรง ไม่อยากได้ไฟฟ้า 330Li คือคำตอบครับ
-
320dใช้ยาวๆ ประหยัดมากๆ สบายใจไม่จุกจิก ใช้มาจะเข้าปีที่6แล้ว ขับนิ่งๆเรื่อยๆ110-120 ยังได้20กม/ล สบายๆ วารันตี6ปี ไม่มีค่าใช้จ่าย ถือว่าเซฟมากของที่บ้านผมเป็นตัวก่อนปรับโฉม ความแรงหายห่วง วิ่งขึ้นเขาลงเขาเชียงใหม่ แรงไม่มีตก เกียร์สุดยอดมากๆครับ สบายใจ//// 320eไม่เคยสัมผัสครับ
-
ถ้านับเรื่องเครื่องยนต์ 320i ดูแลง่ายกว่า และทนทานกว่า 320 D
-
ตอบในส่วน 330E นะครับ ผมใช้ ลำปาง-เชียงใหม่ แบบไม่ชาร์จไฟ ประมาณ 15-17 โลลิตร ถ้าชาร์จก็ 20 โลลิตร (หมายถึงชาร์จเต็มออกบ้านแล้ววิ่งไปจนถึงปลายทาง) วิ่งเฉลี่ย 100-120
วิ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ 8-10 โลลิตร ติดมากก็ 6-8 โลลิตร โดยเฉลี่ย ถ้าใช้ผสมๆกัน ในเมืองบ้าง ระหว่างเมืองบ้าง จะตกที่ 13-15 โลลิตรครับ (รถผมแทบไม่ได้ชาร์จ หน้าจอโชว์ 14.4 โลลิตรครับ)
ส่วนกำลังรถ แรงเหลือเฟือครับ เพราะว่า 0-100 ต่ำกว่า 6 วิ นี่ ดึงยังไงก็มาทันใจแน่ๆ
ส่วน 320D ไม่เคยใช้ครับ