Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Cafe1n ที่ พฤศจิกายน 28, 2023, 09:42:39
-
(https://www.i-pic.info/i/KFVC614910.jpg)
https://www.facebook.com/groups/bydthailand/posts/706543461452438/
(https://www.i-pic.info/i/Lrsu614904.jpg)
(https://www.i-pic.info/i/wckb614905.jpg)
(https://www.i-pic.info/i/FVC3614906.jpg)
-
อีกปัญหาหลักของรถไฟฟ้าตอนนี้ ไม่เข้าใจว่าออกแบบมาแบบนี้กะไม่ให้ชนไม่ให้ซ่อมกันเลยหรือไง หรือบ้านเค้าใช้รถกันแบบนี้จริงๆ หรือเทคโนโลยีมันยังไม่ถึง หรือไม่อยากเพิ่มต้นทุนกับการทำระบบแบตให้มันแยก component กันและซ่อมได้มากกว่านี้
ไม่รู้ว่าบริษัทแม่เค้าแคร์มั้ยกับกรณีพวกนี้ ถ้าเน้นทำรถขายเยอะๆอย่างเดียวอาจจะไม่แคร์ก็ได้นะ แต่ถ้าแคร์ในอนาคตต้องมีวิธีจัดการที่ดีกว่านี้แหละ อย่างน้อยคงไม่ใช่ฝาครอบผิดรูปต้องเปลี่ยนแบตทั้งก้อน ส่วนคนที่ซื้อไปแล้วด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันก็ต้องระวังเป็นพิเศษกันไป
แนวคิดการออกแบบ การผลิตแบบ mass
ถ้าต้องการขายถูก ต้องผลิตให้เร็ว ชิ้นส่วนน้อย
มันก็แบบนี้แหละครับ ดังนั้นเวลาที่มันพังก็ต้องเปลี่ยน
กันเป็นโมดูลใหญ่ๆ ซึ่งราคาอะไหล่ก็จะท่วมมูลค่ารถ
จับตาดู Tesla อีกตัวที่โครงรถเป็น casting ว่าถ้าชน
แล้วกระทบส่วนโครงหลักจะซ่อมกันยังไงครับ
-
ผมไม่เข้าใจอย่างนึงนะ
พอมีปัญหาเกี่ยวกับตัวรถ หรือ จะเครมอะไรสักอย่าง
เห็นบ่นกันเต็มไปหมดว่า เรื่องช้ามาก
และทางตัวแทนในไทย ต้องส่งเรื่องไปหาบริษัทแม่เพื่อขออนุมัติเครม แต่ใช้คำว่า ไม่รู้จะได้เครมไหม หรือ ได้รับอนุมัติไหม??? และแต่ละอย่าง แต่ละชิ้น กว่าจะอนุมัติกัน นานนนนนนนนน มาก
จนลูกค้าโวยวายกันใหญ่ ขนาดว่า จะให้ลูกค้าไปตามเรื่องที่บริษัทแม่ที่จีนเองเลย
เขากะขายอย่างเดียว(จริงๆ) แต่การบริหารจัดการ แค่เรื่องปัญหาที่เกิดตรงหน้า ที่จะต้องเครม (ซึ่งมันต้องได้ ไม่ใช่ว่า อาจจะได้ หรือ ไม่หรือไหม๊น๊าาาาาา) นะ
ผมว่า เรื่องนี้ เอาจริงๆ ตัวแทนจำหน่ายในไทย จะต้องเป็นคนจัดการ (ที่ดีกว่านี้)
เช่น ถ้าเกิดเคส ที่ต้องเครม ก็ต้องเครมให้ลูกค้าไปเลย แล้วคุณ(ตัวแทนจำหน่าย) ก็ไปเบิก หรือ เครมกับทางบริษัทแม่ อีกที ไม่ใช่รอบริษัทแม่อนุมัติก่อน ค่อยบอกว่า เครมได้
ยี่ห้ออื่น รถมีปัญหา ดีลเลอร์ เขาเครมให้ลูกก่อน ไม่ต้องรอ แล้ว ทางดีลเลอร์ ค่อยมาทำเรื่องเบิก หรือ อะไรกับบริษัทแม่ ทีหลังอีกทีก็ได้ ลูกค้าจะไม่ได้ต้องรอ
ขนาดบริษัทรถยี่ห้อหนึ่ง(ที่คนด่าๆ กันทุกวันนีั ใน HLM ก็ด่าเขาไว้เยอะ) ผมว่า เขายังบริหารจัดการได้ดีกว่ายี่ห้อนี้เลย เอาจริงๆ
-
กาลเวลาจะพิสูจน์อีกหลายๆอย่าง
รอติดตามครับ
-
เรื่องเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นประเด็นหนึ่งที่ผมติดตาม ตอนนี้ค่ายพี่จีนทำวงการประกันภัยพินาศมาก ต่อให้จะมีภาษีหรืออะไรช่วยสนับสนุนเรื่องราคาขาย แต่ไม่มีใครบังคับวงการประกันภัยได้แน่นอน ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะป่วนไม่เลิกเพราะเบี้ยประกันภัยด้วยนี่แหละ
-
เรื่องเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นประเด็นหนึ่งที่ผมติดตาม ตอนนี้ค่ายพี่จีนทำวงการประกันภัยพินาศมาก ต่อให้จะมีภาษีหรืออะไรช่วยสนับสนุนเรื่องราคาขาย แต่ไม่มีใครบังคับวงการประกันภัยได้แน่นอน ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะป่วนไม่เลิกเพราะเบี้ยประกันภัยด้วยนี่แหละ
ผมจะออก MODEL Y เจอค่าเบี้ยไปแพงกว่า 330E ผมอีก - -* คิดหนักจริงๆ
-
รถไฟฟ้านี่ความเสี่ยงสูงจริงๆ เคลมยากทุกบริษัท ดวงต้องแข็ง
-
::) ::) ::) ::)
ซื้อก่อน ใช้ก่อน เสี่ยงก่อน
:P :P
-
โดยส่วนตัวยังค่อนข้างมีอคติกับรถจีน
ยิ่งรถที่จีนพัฒนาเองล้วนๆ :-X
หน้าตากับส่วนที่ลูกค้าสัมผัสยอมรับว่าเห็นจากหลายๆรีวิวแล้วดูดีมาก
แต่ส่วนที่ลูกค้าไม่ได้สัมผัสก็ยังมีความเคลือบแคลงใจเยอะอยู่
ปลอดภัยมั้ย ก็แน่นอนว่าต้องปลอดภัยระดับผ่านมาตรฐาน
แต่ทนมั้ย ใช้ระยะยาวโอเคหรือเปล่า .. จุดนี้ผมสงสัยเป็นอย่างมาก เลยยังไม่เปิดใจ
อาจจะไม่ใช่อย่างที่ผมคิดก็ได้ แต่หลายๆเคส byd นี่เริ่มไปทางที่ผมคิดเยอะหละ :-\
-
ไม่แน่เสียหายแค่นี้อาจไม่ต้องเปลี่ยนแบตก็ได้ครับ ก็ต้องรอทางเรเว่ตัดสินอีกที่นั่นแหละครับ ที่ช้าน่าจะเพราะต้องรอผู้เชี่ยวชาญจากทางจีนมาประเมินมังครับ ปัญหาเกิดจากการขาดความรู้ว่าจะซ่อมยังไง แค่ไหนต้องเปลี่ยน แค่ไหนซ่อมได้ ซ่อมยังไง แค่ไหนปลอดภัย ไม่มีใครตอบได้ บ.รถเพลย์เซฟก็ผลักภาระให้กับ บ.ประกัน กับเจ้าของรถโดยการเคลมเปลี่ยนใหม่ไปเลย
นี่อัตโถ3 ไม่ใช่แบตเซลทูบอดี้นะเนี่ย ถ้าเป็นแมวน้ำแบตเซลทูบอดี้จะขนาดไหน
ตั้งแต่ปีหน้า บ.ประกันจะปรับการรับประกันรถไฟฟ้าจะลดความคุ้มครองแบตลงตามรายปีอีก บางทีเจ้าของรถอาจต้องจ่ายร่วม ที่สำคัญได้ยินมาว่ารถ 7 ปี บ.ประกันจะตีราคาแบตเหลือ 0 :o :o ???
ก็รอดูต่อไป ใครที่ขับ BEV ก็พยายามรักษาเนื้อรักษาตัวอย่าให้เกิดอุบัติเหตุละกัน
-
รถจีนแทบไม่มี R&D โดยคนไทยเลยซักนิด การพัฒนาต่างๆไม่ได้คิดคำนึงถึงลักษณะการใช้งานในรูปแบบไทยๆ
ใดๆคือรถญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะมี R&D ในไทย เช่น HONDA , TOYOTA , ISUZU หรือแม่กระทั่ง MITSU NISSAN เอง
และอะไหล่ต่างๆ ไม่มีการผลิตที่ไทย แม้พี่จีนจะป่าวประกาศปาวๆในโซเชียลว่ามีสต็อคอะไหล่ไว้เพียบ
แต่มันจะมีชิ้นนึงเสมอที่มัน Back Order คือ ชิ้นที่เราต้องการนี่แหล่ะ ต้องนำเข้ารอ 2 เดือนขั้นไป
เรื่องการอนุมัติต่างๆ ในจีนก็ใช้ระยะเวลานาน ดังนั้นขับรถจีน ห้ามชน ห้ามเกิดอุบัติเหตุ ที่สำคัญ ห้ามเป็นรถคันเดียวของบ้าน
เราจะยังเจอเรื่องแบบที่เจ้าของกระทู้แชร์แบบนี้อีกมากมาย เป็นกำลังใจให้ทั้งค่ายรถจีน ทั้งผู้ใช้งานท่านนี้ด้วยครับ
-
ตรงนี้ยากมากกกเลยครับ
วัฒนธรรมการทำงานต่างจากรถญี่ปุ่นมาก
ส่วนตัวผมเป็นคนทำงานในวงการนิแหละ ของค่าย ญี่ปุ่นจะเนิ่บมากกกก ไม่ชัวร์ไม่ออก ตรวจแล้วตรวจอีก
แต่จีนคือเฉื่อยแต่เร่ง สื่อจะขึ้นในอีก 3 วันข้อมูลยังไม่มีเลย มาส่งตอน 5ทุ่ม ขอ7โมงไปผลิต แบบนี้ครับ การส่งเรื่องต่างๆก็เหมือนกัน อันไหนไม่มี timeline ก็คือไม่ดู พอมีปัญหาแล้วก็จะรีบเอามาเร่งปิดจบ ถ้าทำงานกับองค์กรอื่นเค้ามีระบบของเค้าอยู่ ก็ต้องใช้เวลาเพิ่มไปอีก
เคสแบตนิเดาว่า ยังไม่ได้ถูก ผบรหจีนดูเลย พอมีปัญหาเดี๋ยวเค้าจะมาดู อนุมัติ กว่าจะได้เปลี่ยนอีกก็เพิ่มเวลาไปอีกครับ
แก๊ง ผบรห นิสสันเก่าก็เฉื่อยอยู่แล้ว พอมาเจอพี่จีนเราเองก็ไม่มีอำนาจจะทำอะไรเหนือเค้า เฉื่อย + เฉื่อย ลูกค้าก็ซวยนิดนึงครับ
-
BYD เท่าที่ดูและฟังมา เหมือน dealer / distributer มีหน้าที่ขายกับซ่อมเท่านั้น ถ้าต้องเคลมชอบอ้างว่าต้องส่งเรื่องให้จีนอนุมัติตลอด เหมือนไม่มีอำนาจตัดสินใจเอง
แล้วพอรถมีปัญหาก็ต้องให้ฝั้งจีนส่งผู้เชียวชาญเข้ามาดูตลอด เอาจริงๆเทรน จนท ไทย หรือจ้างให้เขาอยุ๋ปรกจำไปง่ายกว่าไหม
นอกจาก dealer เยอะ และยอดขายค่อนข้างดี โปรเซสข้างในดูพร้อมเทลูกค้ามาก
-
รถไฟฟ้าไม่ได้น่ากลัว
แต่บริษัทจีนน่ากลัวครับ
การออกแบบให้สามาถเปลี่ยนนู่นนี่นั่นได้ง่ายๆ และมีอะไหล่พร้อมส่งทันที จะทำให้ต้นทุนรถแพงขึ้นอีกเป็นแสน และกำไรจากการขายอะไหล่ก็จะลดลง
ภาพง่ายๆ รถยุคแรกๆคือ เปลี่ยนแค่หลอดไฟก็จบ
แต่สมัยนี้ออกแบบแบบไม่ต้องเปลี่ยนอะไหล่ เปลี่ยนทั้งโคม
จีนมันโตมาในยุคนี้ครับ เขาไม่คิดถึงหัวอกคนใช้หรอก
เอาครับ ดูๆกันไป ไม่ต้องรอ 5 ปีหรอก อีก 2-3 ปีก็น่าจะเห็นแล้วว่าอะไรเป็นอะไร
คนมีตังค์ ซื้อของเล่นมาเล่น พังก็เปลี่ยน มียี่ห้อใหม่ๆดาหน้ามาให้เล่นทุก 6 เดือน เขาไม่มีปัญหาอะไร
ปัญหาอยู่ที่คนที่คิดจะประหยัด ใช้คันเดียวในบ้าน แพ้กระแส io ค่ายรถจีนนี่แหละ น่าห่วงมาก
-
จากรูปถือว่าชนไม่หนักเลยครับ
ผมเคยเจอมาหนักกว่านี้เยอะ
แต่เรเว่ แอคชั่นช้าจริงครับ
เจอแบบนี้คนอื่นคงไม่อยากใช้แล้ว :'(
-
https://www.facebook.com/groups/344652060974915/user/100086099883219/
-
มองในมุมคนเมาที่ขับมาชน จะโดนเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ ต้องขายที่ขายบ้านมาชดใช้เขาไหมครับ
-
มองในมุมคนเมาที่ขับมาชน จะโดนเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ ต้องขายที่ขายบ้านมาชดใช้เขาไหมครับ
นี่แหละคือสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครนึกถึง แต่กลับเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก
ในเคสนี้ถ้าเป็น HRV ที่ถูกชน ค่าซ่อมที่คู่กรณีต้องชดใช้คงหลักหมื่น
แต่พอเป็น BEV กลับต้องจ่ายหลักแสน
คนที่ไม่ได้ใช้ ไม่ได้เป็นเจ้าของรถ BEV จะมองข้ามเคสแบบนี้ไม่ได้ครับ
-
ชนประมาณนี้ถ้าในต่างประเทศอย่างอเมริกาหรือญี่ปุ่นรถ ice ก็คืนทุนครับเพราะค่าซ่อมแพงมาก (ส่วนตัวเคยเจอเองชนเบากว่านี้คืนทุนเลย) ไม่แน่ใจว่ารถ EV ส่วนมากออกแบบมาให้ชนหนักแล้วไม่ต้องซ่อมหรือเปล่า แต่อย่างบ้านเราชนประมาณนี้ส่วนมากก็ซ่อมเอาครับ
-
มองในมุมคนเมาที่ขับมาชน จะโดนเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ ต้องขายที่ขายบ้านมาชดใช้เขาไหมครับ
แยกเป็นเคสๆนะครับ
ถ้าเป็นคนปกติ ไม่ทำประกัน อันนี้น่าเห็นใจจริงๆ
แต่ ส่วนตัว คิดว่าเราควรมีประกันภาคบังคับได้แล้วล่ะครับ ไม่มีที่จอด ไม่ทำประกัน ไม่มีสิทธิซื้อรถ
ส่วนคนเมา ไม่ชนรถ ก็ชนคน เคสนี้ยังดี แค่รถ ถ้าเป็นชีวิตคน ยังไงก็รับผิดชอบให้เขาฟื้นไม่ได้ หรือทำให้คนถูกชนหายจากพิการไม่ได้ ไม่น่าเห็นใจซักกะนิด
เมาแล้วขับควรเท่ากับฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนได้แล้วครับ น่ารังเกียจมาก
-
มองในมุมคนเมาที่ขับมาชน จะโดนเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ ต้องขายที่ขายบ้านมาชดใช้เขาไหมครับ
ผมกลับมองว่า สมควร ครับ เพราะกฏหมายก็เมาไม่ขับอยู่แล้ว
ถ้าเมาแล้วกล้าขับ ก็ต้องกล้วรถผลที่ตามมาครับ ทั้งกับตัวเองและคู่กรณี
ไม่ใช่แค่รถ หรือ ค่าเสียหาย มันรวมถึงชีวิตคู่กรณีด้วย (ถ้าไม่นึกชีวิตตัวเองก็ช่าง)
ไม่ต่างกันหรอก ใจเขา ใจเรา
-
มองในมุมคนเมาที่ขับมาชน จะโดนเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ ต้องขายที่ขายบ้านมาชดใช้เขาไหมครับ
นี่แหละคือสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครนึกถึง แต่กลับเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก
ในเคสนี้ถ้าเป็น HRV ที่ถูกชน ค่าซ่อมที่คู่กรณีต้องชดใช้คงหลักหมื่น
แต่พอเป็น BEV กลับต้องจ่ายหลักแสน
คนที่ไม่ได้ใช้ ไม่ได้เป็นเจ้าของรถ BEV จะมองข้ามเคสแบบนี้ไม่ได้ครับ
ถ้าพิสูจน์ว่าเมาจริง ประกันไม่คุ้มครองด้วย... โดนเต็มๆครับ...
เรื่องของ EV นี่เห็นด้วยเลย.. งานซ่อมนี้น่าจะจบที่หลักหมื่นหรือแสนนิดๆ โดนเป็นล้านแทน..
ไม่แน่ใจว่าโดน S-Class จะถูกกว่าหรือแพงกว่า...
-
ไปดูต้นโพส .. ผมล่ะอย่างชอบเม้นท์นี้ ;D ;D ;D ;D
สรุปเคสนี้ ได้รถใหม่ (คือไปซื้อใหม่นะไม่ใช่ได้ฟรี)
(https://img2.pic.in.th/pic/7895.png)
-
รถจีนราคาญี่ปุ่นน่ากลัวแบบนี้ ยิ่งผ่านผบห คนไทยยิ่งน่ากลัว
ขนาด seal ยังไม่สามารถทำให้ผมพูดว่าน่าใช้ได้เลย เพราะเผื่อเจอแบบนี้มันไม่คุ้มเลย
-
อืมม ต้องคิดต้องดูอีกเยอะๆเลยแฮะ
-
น่าติดตาม
-
โดนค่นทุนนี่เสียเวลา เสียสุขภาพจิต แถมขาดทุนจากรถมหาศาล ถ้ารายได้ไม่เยอะ แล้วต้องออกรถใหม่อีกผมว่าต้องวางแผนการเงินดีๆเลยนะ ไม่นับค่าเสียโอกาส และค่าเดินทางมาดูรถแบบเจ้าของรถคันนี้
-
ว่ากันแค่ในการคืนทุนนี่ ใครที่กว่าจะหารถคันนึงได้เลือดตาแทบกระเด็น
การได้คืนทุนนี่ เจ็บหนักจริงครับ
ได้เงินมาก็ต้องหาเงินเพิ่มเพื่อจะเอารถคันใหม่
แล้วเคสนี้ดูแล้ว คู่กรณีก็ไม่ใช่มนุษย์ที่มีคุณภาพบนโลกอะไร ต่อให้มีประกันก็เหนื่อยครับ
ส่วนรถ จริงเรื่องชนแค่นี้แต่โครงแบตพัง อันนี้ก็คงต้องว่ากันที่การออกแบบที่ผมว่าแบรนด์ก็ไม่น่าคิดไว้แล้ว
แล้วมาเจอการดำเนินการ Rever ที่ช้าอีก ผมว่า CEO นี่น่าจะไม่ได้ดีอย่างที่ต้นตระกูลเค้าเคยทำไว้ดีแล้วล่ะ หลายเคสหลายรอบล่ะ Seal ก็รออะไหล่กันไม่น้อยเคสขนาดรถพึ่งมา
-
มองในมุมคนเมาที่ขับมาชน จะโดนเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ ต้องขายที่ขายบ้านมาชดใช้เขาไหมครับ
ผมขับรถมา20ปีไม่เคยมีสักทีที่จะเฉียดไปชนใครเค้าเข้า วิธีเลี่ยงมันง่ายมากเลยคืออย่าทำตัวเป็นนักแข่งบนถนนหลวงและอย่าใช้ความเร็วเกินกำหนด แค่นั้นเอง ไอ้ประเภทขับรถเร็วจนไปชนคนอื่น กินเหล้า ไม่ทำประกันภัยมันก็สมควรแล้วที่จะเป็นหนี้ขายบ้านขายทรัพย์สิน มีเงินซื้อรถเป็นแสนเป็นล้านได้แต่ประกันภัยหลักหมื่นไม่ยอมทำ
..โดยเฉพาะพวกที่ไปชนคนอื่น เอาปัญหาไปโยนให้คนอื่นก็อย่าหวังจะได้ความเห็นใจเลย
-
BM ผมทุน 2 ล้าน แต่ขายมือสองได้ไม่ถึงนี่อยากคืนทุนมาก ;D
-
รถไฟฟ้ามันหอมหวลครับ
นี่ญาติผมออก byd มาสองคันชื่นชมทุกวัน
ส่วนผมนั้น แค่ Benz E350e ก็ขยาดไปทั้งชีวิต
รถผมอายุ 6 ปี สามเดือนมานี้ ค่าซ่อมแค่คอมแอร์ และถุงลมหลัง กับจุกจิกนิดหน่อย
ก็ปาไปจะ 3 แสนแล้ว แล้วไหนจะระบบไฮบริดที่ไม่ได้อยากได้ แต่ตอนซื้อรถมีรุ่นเดียว 🤣
ยังคุยเล่นๆ กับแม่ว่า ถ้าขายเต๊นท์คงได้ไม่ถึง 8 แสน
ถ้าขับตกน้ำ ทุนประกันคืน 1.6 ล้านบาท 🤣🤣🤣🤣
แล้วตอนรถอยู่ในประกัน ใช่จะเคลมง่ายนะครับ
จอดศูนย์ที 1 เดือนตลอด SA ก็ดูถูกลูกค้าว่าโง่ด้วย จะมาหลอกว่าเทอร์โบเสียเคลมไม่ได้
เคลมไม่ได้ทั้งประกันและทั้งตัวบริษัท (จะให้ลูกค้าจ่ายเอง แถมจะไปเอาอะไหล่รถซากมาใส่ให้อีก)
ยี่ห้อเจ้าตลาดใช่จะดี ตราดาวเนี้ย ผมโดนทุกคัน C coupe ก่อนหมดประกันระบบไฟรวน แม้งบอกปกติ
พอหมดประกันปุ๊ป เจอสาเหตุทันที เสียเงินเองเป็นแสน โมโหมากกก แถมจอดรถเช็ค 4 เดือนแหนะ
คันต่อไป คงไปซบอก Lexus สักคันครับ ถึงจะโบราณ ออพชั่นน้อย ราคาสูง แต่ดูไว้ใจได้
เผื่อวันไหนคุณแม่ไม่สบายตอนดึก สตาร์ทรถพร้อมออกได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะมีอะไรเสีย
-
รถไฟฟ้ามันหอมหวลครับ
นี่ญาติผมออก byd มาสองคันชื่นชมทุกวัน
ส่วนผมนั้น แค่ Benz E350e ก็ขยาดไปทั้งชีวิต
รถผมอายุ 6 ปี สามเดือนมานี้ ค่าซ่อมแค่คอมแอร์ และถุงลมหลัง กับจุกจิกนิดหน่อย
ก็ปาไปจะ 3 แสนแล้ว แล้วไหนจะระบบไฮบริดที่ไม่ได้อยากได้ แต่ตอนซื้อรถมีรุ่นเดียว 🤣
ยังคุยเล่นๆ กับแม่ว่า ถ้าขายเต๊นท์คงได้ไม่ถึง 8 แสน
ถ้าขับตกน้ำ ทุนประกันคืน 1.6 ล้านบาท 🤣🤣🤣🤣
แล้วตอนรถอยู่ในประกัน ใช่จะเคลมง่ายนะครับ
จอดศูนย์ที 1 เดือนตลอด SA ก็ดูถูกลูกค้าว่าโง่ด้วย จะมาหลอกว่าเทอร์โบเสียเคลมไม่ได้
เคลมไม่ได้ทั้งประกันและทั้งตัวบริษัท (จะให้ลูกค้าจ่ายเอง แถมจะไปเอาอะไหล่รถซากมาใส่ให้อีก)
ยี่ห้อเจ้าตลาดใช่จะดี ตราดาวเนี้ย ผมโดนทุกคัน C coupe ก่อนหมดประกันระบบไฟรวน แม้งบอกปกติ
พอหมดประกันปุ๊ป เจอสาเหตุทันที เสียเงินเองเป็นแสน โมโหมากกก แถมจอดรถเช็ค 4 เดือนแหนะ
คันต่อไป คงไปซบอก Lexus สักคันครับ ถึงจะโบราณ ออพชั่นน้อย ราคาสูง แต่ดูไว้ใจได้
เผื่อวันไหนคุณแม่ไม่สบายตอนดึก สตาร์ทรถพร้อมออกได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะมีอะไรเสีย
อื้อห้อ รถแพง แบรนด์หรู เจอแบบนี้แย่เลยครับ :'(
-
ถ้า 4-5 ปี ทุนประกันไม่พอค่าแบต จะจ่ายส่วนต่าง หรือควักเงินซื้อรถใหม่ดีหละเนีย
-
จากเหตุการนี้ ผมบอกได้เลยครับ ตลาดรถไฟฟ้ามือ 2 มันจะแย่กว่าที่คิดอีกมากเลย
รถใหม่ป้ายแดง โดนชนมาคืนทุนยังอาจจะพอมีเงินเหลือซื้อใหม่
แต่ถ้าเป็นมือ 2 ซื้อมาทุนประกันมันก็แค่ 80% ของราคาที่ขายไม่เกินนี้ ถ้าขายกัน 6 แสน(ยกตัวอย่างราคานะครับ) ทุนประกันมันก็ไม่ข้ามราคาซื้อหรอก ... แต่พอขับไปแล้วชน โดนค่าซ่อมแซงราคารถ คืนทุนก็ไม่พอซ่อม เอาไปปิดไฟแนนท์ก็ไม่ได้
มันเริ่มดูไม่จืดแล้วนะ ใครใช้อยู่ ทำใจกับการซ่อม(เคสอุบัติเหตุ)และขายต่อไว้ก็ดีครับ
-
ศึกษาเงื่อนไขใหม่ของประกันภัยรถ EV ที่จะเริ่มบังคับใช้ในปีหน้ากันให้ดีๆ นะครับ
คร่าวๆ คือแยกความรับผิดชอบระหว่างตัวรถและแบตเตอรี่ออกจากกัน
ในฝั่งตัวแบตฯ มีอัตราค่าเสื่อมราคาที่น่าเร้าใจ
เบี้ยประกันโดยรวมจะสูงขึ้นเมื่อรถอายุมากขึ้นตรงข้ามกับรถทั่วไป
ซึ่งไม่นับรวมกับประวัติการเคลมนะครับ
เคยอ่านผ่านๆ ตามา รอฟังประกาศอย่างเป็นทางการอีกทีครับ
-
จากเหตุการนี้ ผมบอกได้เลยครับ ตลาดรถไฟฟ้ามือ 2 มันจะแย่กว่าที่คิดอีกมากเลย
รถใหม่ป้ายแดง โดนชนมาคืนทุนยังอาจจะพอมีเงินเหลือซื้อใหม่
แต่ถ้าเป็นมือ 2 ซื้อมาทุนประกันมันก็แค่ 80% ของราคาที่ขายไม่เกินนี้ ถ้าขายกัน 6 แสน(ยกตัวอย่างราคานะครับ) ทุนประกันมันก็ไม่ข้ามราคาซื้อหรอก ... แต่พอขับไปแล้วชน โดนค่าซ่อมแซงราคารถ คืนทุนก็ไม่พอซ่อม เอาไปปิดไฟแนนท์ก็ไม่ได้
มันเริ่มดูไม่จืดแล้วนะ ใครใช้อยู่ ทำใจกับการซ่อม(เคสอุบัติเหตุ)และขายต่อไว้ก็ดีครับ
ครับ... ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ประกันเค้าจะคิดค่าเสื่อมแบตตามจำนวนปีแล้วนะครับ ถ้าค่าเสื่อมแบตเหลือ 50% ถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วต้องเปลี่ยนแบตใหม่เค้าจะจ่ายค่าแบตแค่ครึ่งเดียว ที่เหลืออีกครึ่งลูกค้าต้องจ่ายเองนะครับ เอิ๊อกเลย เหมือนว่าเลย 7 ปีแล้วจะตึค่าเสื่อมแบตเป็น 100% ด้วย แปลว่าจากนั้นลูกค้าก็ต้องจ่ายค่าแบตเอง 100% นะครับ
-
เซ็งแทนเจ้าของรถเลยครับ ต่อให้เราขับไม่ชน ก็โดนคนอื่นชนได้ :-\
ว่าแต่เคสแบบนี้เราสามารถเลือกที่จะไม่เปลี่ยนแบตหรือโครงแบตได้ไหมครับ
แบบว่าให้ซ่อมแต่ส่วนอื่นๆอย่างเดียว จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนแบต
-
รถไฟฟ้าอาจจะดีนะครับ แต่สิ่งแวดล้อมอื่นๆ เช่นประกัน การซ่อม ยังตามไม่ทัน เลยเป็นความเสี่ยง ความไม่สะดวกต่างๆ ได้
-
เซ็งแทนเจ้าของรถเลยครับ ต่อให้เราขับไม่ชน ก็โดนคนอื่นชนได้ :-\
ว่าแต่เคสแบบนี้เราสามารถเลือกที่จะไม่เปลี่ยนแบตหรือโครงแบตได้ไหมครับ
แบบว่าให้ซ่อมแต่ส่วนอื่นๆอย่างเดียว จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนแบต
ตัวแบตรถ EV มีกำลังไฟสูงมากๆ มันจึงส่งกำลังให้มอเตอร์
พารถหนักเป็นตันๆ พุ่งออกไปได้อย่างรวดเร็ว
กำลังไฟที่สูงนี้มีอันตรายมากๆ ต่อมนุษย์ที่ทำให้คนตายได้ใน
เสี้ยววินาทีหรือแม้แต่เกิดไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงได้
ถ้าไม่ซ่อมแล้วจะเป็นอันตรายร้ายแรงหรือไม่ คนที่ไม่ใช่ผู้ชำนาญการ
จะบอกไม่ได้หรอกครับ และยิ่งถ้าผู้ผลิตรถออกความเห็นให้เปลี่ยน
แต่เจ้าของรถไม่ยอมเปลี่ยน แล้วภายหลังเกิดเหตุขึ้น มันจะเป็นเหตุ
ให้ผู้ผลิตปฏิเสธความรับผิดชอบได้ครับ
-
เจอข่าวนี้เข้าไป ก็หวั่นๆรถEVแฮะ ถ้ามีตังค์ซื้อรุ่นนี้ คงเป็นคนมีรายได้สูงพอควร น่าไปออก Civic ขับหล่อๆดีกว่า น้ำมันหมดก็เติม จอดปั๊มแค่ 5 นาที
ค่าน้ำมันในสายตาคนมีรายได้สูง มันจะหนักหนาสักแค่ไหนเชียว