Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: booklx12 ที่ ธันวาคม 08, 2023, 01:52:35

หัวข้อ: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: booklx12 ที่ ธันวาคม 08, 2023, 01:52:35
ขอคำแนะนำหน่อยครับ ช่วงนี้กำลังหาดูรถอยู่พอดีมือ1ญี่ปุ่น ไม่ก็มือ2 BMW รู้สึกว่าชอบความรู้สึกแน่นและหนักจากที่เคยลองขับของเพื่อนของพ่อมา และชอบความดูหน้าตาดุดันของ BMW ตัว F30 เป็นพิเศษ
ตอนนี้เท่าที่เล็งๆไว้คือ 320d กับ 330e ครับ แต่เหมือนจากที่พยายามหาข้อมูลมาพอสมควร ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีใครเห็นด้วยกับตัว hybrid สักเท่าไหร่ เนื่องจากราคาการซ่อมบำรุงมันแพงเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าหรือแบต เลยอยากจะถามว่าท่านจะเลือกตัวไหนกันถ้าออฟชั่นแบบนี้ อยากทราบเหตุผล
1. 330e ปี2019 ที่มี BSI เหลือ4-5ปี, warranty รถ1ปี, warranty แบต 5ปี ไมล์55000
2. 320d ปี2017 ไม่มี BSI, Warranty เหลือไมล์90000

ราคาผมดูมาเท่าๆกันนะครับ เน้นประหยัดน้ำมันด้วย

******เพิ่มเติม******
น่าจะใช้ไม่เยอะครับปีนึงคิดว่าตก10,000โลประมาณนี้ การกินน้ำมันจากเท่าที่ดูๆมาพอรับได้ครับ แต่ซื้อแล้วคงใช้นานเลยไม่กะขายต่อ ทีนี้เลยกลายเป็นว่าตัดสินใจไม่ค่อยได้ในราคาที่เท่ากัน แต่เท่าที่เข้าใจคือ
1. ถ้า330e มี bsi5ปี แบบนั้นเท่ากับการ service น้ำมันเครื่องหรือเข็ครอบ หรือแบตเตอรี่ไม่ต้องเสียเงินเลยไปอีก5ปี ส่วนเรื่องของ battery hybrid ที่กลัวกันก็มีประกันอยู่5ปี ก็เลยคิดว่า5ปีนี้ ไม่น่าจะเจ็บกับค่าซ่อมและค่าบำรุงมากนัก ก็จะมีแค่ warranty อะไหล่ที่อาจจะมีเสียบ้าง แต่ก็คิดว่าน่าจะไม่เยอะเพราะเป็นรถที่ปีใหม่และไมล์น้อยกว่า หลังหมด warranty แบตก็ตามสภาพครับแต่เห็นเค้าบอกว่าเปลี่ยนเป็นโมดูลได้ ก็ยังพอรับได้หน่อย แต่อยากสอบถามว่า ถ้าเกิดมันเสียแล้วเราไม่ซ่อมเป็นอะไรไหมครับ สามาถปล่อยไว้แล้วขับต่อด้วยเครื่องเบนซินได้ไหม

2. ดีเซล ตอนแรกคิดว่าโอเค ไม่มี bsi หรือ warranty เหลือเลยเท่ากับว่ายังไงปีนึง 10,000 มีแน่ๆค่าบำรุงตั้งแต่ปีแรก แล้วถ้าเกิดอะไหล่เสียหาย ก็น่าจะเรียบร้อยเลย ซึ่งไม่รูว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ตั้งแต่ซื้อหรือตอนไหนเพราะไม่มีประกันแล้ว แล้วพ่วงกับการที่ปีเก่าและไมล์เยอะ โอกาสการเสื่อมอะไหล่ก็น่าจะสูงกว่า

คิดไว้ประมาณนี้ครับ แต่แบบผมก็เอนเอียงไปทางดีเซลเพิ่มขึ้นหลังจากหลายๆคอมเมน แต่ถ้าดูจากที่ผมพิมจะกลายเป็นเหมือนว่า 330e มีแต่ข้อดี 320d มีแต่ข้อเสีย ผมไม่แน่ใจว่าผมอาจจะเข้าใจอะไรผิดหรือรู้อะไรไม่หมดเกี่ยงกับ 330e รึป่าวครับ ยังไงช่วยแนะนำหน่อยนะครับ
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: Steve_Davis ที่ ธันวาคม 08, 2023, 01:59:08
เน้นแรงมั้ยครับ? ถ้าเน้นก็ต้อง 330e
แต่ถ้าเน้น driving dynamic 320d จะขับสนุกกว่าเพราะแรงบิดรอบต้น
แลล นน รถที่เบากว่าหน่อยนึง

ค่าซ่อมบำรุง 330d ราคาปกติรถยุโรปครับ ไม่น่ากังวล
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: solo ที่ ธันวาคม 08, 2023, 05:15:48
https://www.youtube.com/watch?v=7QGjWYSB55A
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ ธันวาคม 08, 2023, 05:54:26
F30 ยังมีพวก 320i 328i 330i ให้เลือกใช้ได้อีกนะครับ ลองๆมองตัวพวกนี้เปรียบเทียบดูด้วยครับ
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ ธันวาคม 08, 2023, 07:16:20
ต้องถามว่าการใช้งานทริปนึงกี่กิโลเมตร? วันนึงใช้เท่าไหร่? เพราะแบตF30ค่อนข้างเล็ก วิ่งได้ไม่เกิน40กิโลเมตร ถ้าแบตหมดกินน้ำมันมากกว่า320dแน่นอน และคิดว่าจะใช้นานแค่ไหน? ถ้าคิดว่าใช้งานอีก4ถึง5ปีเป็นอย่างน้อยผมจะไปที่ดีเซลล้วนดีกว่า เสี่ยงปัญหาภายหลังน้อยกว่า
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: shando ที่ ธันวาคม 08, 2023, 08:36:30
https://www.youtube.com/watch?v=7QGjWYSB55A

อันนี้ต้องการจะสื่ออะไรครับ ชอบเอาลิ้งมาลงเฉยๆไม่บอกอะไรใครจะรู้

ถ้าจขกท.อยากรู้จริงๆว่าซ่อมเท่าไหร่ ลองดูในช่อง lifestyle IT กับพี่อาร์ตดูครับ อันนั้นเค้าซ่อม benz BMWหลายคันทั้ง f30 f10 w205

จะได้รู้ว่าค่าซ่อมf30จริงๆมันประมาณเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าi8ซ่อมเท่าไหร่ไม่ได้เกี่ยวกันเลย
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ ธันวาคม 08, 2023, 10:05:13
ในงบนี้ มันก็น่าสนใจจริงๆแหละเนอะ เทียบป้ายแดงญี่ปุ่นแล้ว ยุโรปน่าจับกว่าเยอะ ...

เอาเป็นว่าแนะนำในมุมเต้นท์รถว่า สำหรับ 330eให้หาที่มี BSI เหลือหรือ มีประกันติดมาให้มากที่สุดจะอุ่นใจกว่า  BMW มันสามารถเปลี่ยนแบ็ตเป็นโมดูลได้ ไม่ต้องยกลูก ถ้ามีปัญหาก็เสียเงินเล้กน้อยไม่ถึงกับหมดตัว

ก่อนซื้อถ้าซื้อเต้นท์ให้เช็คเลขตัวถังเช็ค BSI ที่เหลือให้ชัดว่าเหลือเท่าไรแน่ๆ ตรงนี้เช็คประวัติอุบัติเหตุได้ด้วย โทรถามศูนย์ได้เลย

ราคานี้ซื้อใช้คุ้มมาก แต่ถ้าจะขายต่ออีกรอบ ทำใจเยอะๆเลยนะครับ
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: luxifer ที่ ธันวาคม 08, 2023, 10:17:30
ขึ้นอยู่กับงบซ่อมบำรุงที่คุณมีด้วยครับ เพราะหาก330e มีBSI เหลืออีก 4-5 ปี และ warranty แบตอีก 5 ปี ในราคาใกล้เคียงกัน วิ่งน้อยกว่า ปีใหม่กว่า ผมเลือก 330e ครับ ผมชอบ feeling การขับเบนซินมากกว่า และถ้าผมจำไม่ผิด 320d ยังใช้โช้คตัวที่แข็งอยู่
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: Bear ที่ ธันวาคม 08, 2023, 10:44:30
ผมว่า plug-in มือ2 ไม่น่าเล่นครับ
ไป 320i 320d ดีกว่าครับ
ถ้าไม่กังวลเรื่องประหยัดน้ำมันสุดๆ
ผมเชียร์ 320i ครับ เบนซินขับสนุกดีครับ เคยใช้อยู่จนสองแสนโล
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: iamwutdy ที่ ธันวาคม 08, 2023, 12:07:12
เคยศึกษา เมื่อ3-4 ปีมาแล้ว (สนใจเหมือนกัน)

เครื่อง เบนซิล ธรรมดา ค่าดูแลรักษาถูกที่สุด ถ้ารถไม่ได้ต้องซ่อมอะไร เข้า Service ต่อครั้ง ตก 20,000 บาท แต่ถ้ารถที่หมด BSI แล้ว มักจะมีค่าซ่อมบำรุงที่เพิ่มจากปกติมาเรื่อย ๆ ตกปีละ 100,000 - 150,000 บาท

เครื่อง ดีเซล ยุค f30 เหมือนจะทน ไม่จุกจิก แต่การ Service และซ่อมบำรุงจะแพงกว่า เบนซิล

เครื่อง Hybrid ไม่ได้ศึกษาจริงจังครับ
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: booklx12 ที่ ธันวาคม 08, 2023, 19:35:38
ต้องถามว่าการใช้งานทริปนึงกี่กิโลเมตร? วันนึงใช้เท่าไหร่? เพราะแบตF30ค่อนข้างเล็ก วิ่งได้ไม่เกิน40กิโลเมตร ถ้าแบตหมดกินน้ำมันมากกว่า320dแน่นอน และคิดว่าจะใช้นานแค่ไหน? ถ้าคิดว่าใช้งานอีก4ถึง5ปีเป็นอย่างน้อยผมจะไปที่ดีเซลล้วนดีกว่า เสี่ยงปัญหาภายหลังน้อยกว่า

น่าจะใช้ไม่เยอะครับปีนึงคิดว่าตก10,000โลประมาณนี้ การกินน้ำมันจากเท่าที่ดูๆมาพอรับได้ครับ แต่ซื้อแล้วคงใช้นานเลยไม่กะขายต่อ ทีนี้เลยกลายเป็นว่าตัดสินใจไม่ค่อยได้ในราคาที่เท่ากัน แต่เท่าที่เข้าใจคือ
1. ถ้า330e มี bsi5ปี แบบนั้นเท่ากับการ service น้ำมันเครื่องหรือเข็ครอบ หรือแบตเตอรี่ไม่ต้องเสียเงินเลยไปอีก5ปี ส่วนเรื่องของ battery hybrid ที่กลัวกันก็มีประกันอยู่5ปี ก็เลยคิดว่า5ปีนี้ ไม่น่าจะเจ็บกับค่าซ่อมและค่าบำรุงมากนัก ก็จะมีแค่ warranty อะไหล่ที่อาจจะมีเสียบ้าง แต่ก็คิดว่าน่าจะไม่เยอะเพราะเป็นรถที่ปีใหม่และไมล์น้อยกว่า หลังหมด warranty แบตก็ตามสภาพครับแต่เห็นเค้าบอกว่าเปลี่ยนเป็นโมดูลได้ ก็ยังพอรับได้หน่อย แต่อยากสอบถามว่า ถ้าเกิดมันเสียแล้วเราไม่ซ่อมเป็นอะไรไหมครับ สามาถปล่อยไว้แล้วขับต่อด้วยเครื่องเบนซินได้ไหม

2. ดีเซล ตอนแรกคิดว่าโอเค ไม่มี bsi หรือ warranty เหลือเลยเท่ากับว่ายังไงปีนึง 10,000 มีแน่ๆค่าบำรุงตั้งแต่ปีแรก แล้วถ้าเกิดอะไหล่เสียหาย ก็น่าจะเรียบร้อยเลย ซึ่งไม่รูว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ตั้งแต่ซื้อหรือตอนไหนเพราะไม่มีประกันแล้ว แล้วพ่วงกับการที่ปีเก่าและไมล์เยอะ โอกาสการเสื่อมอะไหล่ก็น่าจะสูงกว่า

คิดไว้ประมาณนี้ครับ แต่แบบผมก็เอนเอียงไปทางดีเซลเพิ่มขึ้นหลังจากหลายๆคอมเมน แต่ถ้าดูจากที่ผมพิมจะกลายเป็นเหมือนว่า 330e มีแต่ข้อดี 320d มีแต่ข้อเสีย ผมไม่แน่ใจว่าผมอาจจะเข้าใจอะไรผิดหรือรู้อะไรไม่หมดเกี่ยงกับ 330e รึป่าวครับ ยังไงช่วยแนะนำหน่อยนะครับ
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: booklx12 ที่ ธันวาคม 08, 2023, 19:37:06
https://www.youtube.com/watch?v=7QGjWYSB55A

อันนี้ต้องการจะสื่ออะไรครับ ชอบเอาลิ้งมาลงเฉยๆไม่บอกอะไรใครจะรู้

ถ้าจขกท.อยากรู้จริงๆว่าซ่อมเท่าไหร่ ลองดูในช่อง lifestyle IT กับพี่อาร์ตดูครับ อันนั้นเค้าซ่อม benz BMWหลายคันทั้ง f30 f10 w205

จะได้รู้ว่าค่าซ่อมf30จริงๆมันประมาณเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าi8ซ่อมเท่าไหร่ไม่ได้เกี่ยวกันเลย

ผมดูหลายคลิปเลยครับ55555 แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเบนซิลกับดีเซล ทำแล้วน่าจะจบเลยแต่เจ็บมาก ทีนี้ไม่มีของ 330e แบบ hybrid ไรพวกนี้บ้างเลย เลยเปรียบเทียบยากเลยครับ
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: booklx12 ที่ ธันวาคม 08, 2023, 19:39:58
เคยศึกษา เมื่อ3-4 ปีมาแล้ว (สนใจเหมือนกัน)

เครื่อง เบนซิล ธรรมดา ค่าดูแลรักษาถูกที่สุด ถ้ารถไม่ได้ต้องซ่อมอะไร เข้า Service ต่อครั้ง ตก 20,000 บาท แต่ถ้ารถที่หมด BSI แล้ว มักจะมีค่าซ่อมบำรุงที่เพิ่มจากปกติมาเรื่อย ๆ ตกปีละ 100,000 - 150,000 บาท

เครื่อง ดีเซล ยุค f30 เหมือนจะทน ไม่จุกจิก แต่การ Service และซ่อมบำรุงจะแพงกว่า เบนซิล
เครื่อง Hybrid ไม่ได้ศึกษาจริงจังครับ

ตอนยังไม่หมด bsi ตก20,000 ต่อปีแค่ service อย่างเดียวเลยหรอครับ  :-* ผมเศร้าเลยนะ ตอนแรกคิดว่า service ฟรีหมดถ้าไม่มีอะไรพัง
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: booklx12 ที่ ธันวาคม 08, 2023, 19:43:15
ผมว่า plug-in มือ2 ไม่น่าเล่นครับ
ไป 320i 320d ดีกว่าครับ
ถ้าไม่กังวลเรื่องประหยัดน้ำมันสุดๆ
ผมเชียร์ 320i ครับ เบนซินขับสนุกดีครับ เคยใช้อยู่จนสองแสนโล

เพราะอะไรครับขอถามความคิดเห็นได้ไหมครับ

อยากถามทุกๆคนเลยที่เข้ามาอ่านนะครับ ช่วยกันคอมเมนเยอะๆได้เลย ผมอยากรู้ความคิดและ feedback ของแต่ละท่าน ขอบคุณมากๆครับผม
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: เนื้อน่องไม่หนัง ที่ ธันวาคม 08, 2023, 20:19:39
f30 ผมสองจิตสองใจนะ
เข้าใจว่า 320d ไม่ได้จุกจิก แต่โดยธรรมชาติของดีเซลในระยะยาวเซอวิสเยอะกว่า และแพงกว่าเบนซิลครับ
แต่ไม่รุ้ว่าความที่เครื่องตัวนี้มันมีเยอะกว่า คุ้นมือช่างมากกว่า อาจทำให้มันซ่อมได้ง่ายกว่าหรือเปล่านะครับ
ส่วนตัว ถ้าเล่นยุโรปแล้ว อยากลอง 328i มากกว่า.. ตอนป้ายแดงราคาต่างจาก 320i ประมาณนึง พอมือสอง gap มันแคบลงครับ

330e เท่าที่ฟังมาเป็นรถที่ใช้ดีครับ มีบางเคสที่ วิ่งไฟฟ้าล้วนได้น้อยลงเยอะในช่วง 5 ปี แล้วศูนย์ไม่เคลมแบตให้ครับ
ซึ่งพอเป็นHybrid มันก็มีแบตที่ยังไงก็ต้องเสื่อมครับ หลายคนเลยกังวลกันครับ
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: axister ที่ ธันวาคม 08, 2023, 21:46:48
แต่ f30 มีประจำรุ่นคือ แร็คพวงมาลัยมักเสียตอน 120-130k ของผม 320d modern prefacelift เสียไปตอน 140k ครับ แต่เป็นรถ fleet เปลี่ยนฟรี แอบเห็นบิลที่ void มา 4หมื่น ไม่รู้จริงหรือราคา mock นะครับ

เรื่องความขับสนุกคงแล้วแต่คน แต่ส่วนตัวบอกเลยว่า 330e กับ 320d ขับฟ้ากับเหวมากครับ 20d ใช้โช๊คตั้งแต่โมเดล f30 เปิดมาตัวแรก แข็งและย้วยยยมากกกกกก แรงมาแค่ต้น ท้ายไม่ลื่นครับ 330e รถหนัก หน้าจิกและคมกว่า

เข้าอู่นอก service ราคาไม่ต่างครับ e ก็มีแบตให้แพง ซึ่งอันนี้ผมไม่รู้ราคา แต่ g20 ผมโดนไป 80k (void) ตอนเคลม ส่วน f30 รหัส d ก็มีพวกเครื่องนิแหละครับที่มันมีอายุการใช้งานของมัน ผมจำดีเทลไม่ได้แล้วขายไปนานมากแล้วครับ แต่เฉลี่ยตอนที่ทะลุ bsi มา void บิลมาตกปีละ 3-5หมื่น ซึ่ง 330e g20 หลังหมด bsi ผมจ่าย 2หมื่นกว่าๆเองปีนึง เฉลี่ยนะครับ บางปีทะลุ 6หมื่นก็มี

ถ้าให้เลือกแนะนำ 320d ครับ ยิ่งถ้าเป็น f30 มันเป็น platform ลูกครึ่ง วิ่งได้น้อย ยิ่งอายุเยอะ soh มันก็น้อยลงไปอีก เท่าที่จำได้ปัญหาไม่เยอะแต่เด้ง drive train ก็พอมีให้เห็นรุ่นแรกๆครับ แต่ที่แย่คือมักจะแก้ไม่ตรงจุด แต่ก็หาย เหมือนระเบิดเวลารอในอนาคต แต่ถ้าราคามันเย้ายวนแล้วคิดว่าใช้แค่ 4-5ปีก็ไม่ติดครับ ผมคงเลือก 330e มากกว่า


https://www.youtube.com/watch?v=7QGjWYSB55A

เคยใช้ใช่ป่าว หรือดูคลิปแล้วมโนแจ่มอะครับ เอา i8 มาเทียบกับ 3series อ่ะครับ
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: booklx12 ที่ ธันวาคม 09, 2023, 01:59:47
แต่ f30 มีประจำรุ่นคือ แร็คพวงมาลัยมักเสียตอน 120-130k ของผม 320d modern prefacelift เสียไปตอน 140k ครับ แต่เป็นรถ fleet เปลี่ยนฟรี แอบเห็นบิลที่ void มา 4หมื่น ไม่รู้จริงหรือราคา mock นะครับ

เรื่องความขับสนุกคงแล้วแต่คน แต่ส่วนตัวบอกเลยว่า 330e กับ 320d ขับฟ้ากับเหวมากครับ 20d ใช้โช๊คตั้งแต่โมเดล f30 เปิดมาตัวแรก แข็งและย้วยยยมากกกกกก แรงมาแค่ต้น ท้ายไม่ลื่นครับ 330e รถหนัก หน้าจิกและคมกว่า

เข้าอู่นอก service ราคาไม่ต่างครับ e ก็มีแบตให้แพง ซึ่งอันนี้ผมไม่รู้ราคา แต่ g20 ผมโดนไป 80k (void) ตอนเคลม ส่วน f30 รหัส d ก็มีพวกเครื่องนิแหละครับที่มันมีอายุการใช้งานของมัน ผมจำดีเทลไม่ได้แล้วขายไปนานมากแล้วครับ แต่เฉลี่ยตอนที่ทะลุ bsi มา void บิลมาตกปีละ 3-5หมื่น ซึ่ง 330e g20 หลังหมด bsi ผมจ่าย 2หมื่นกว่าๆเองปีนึง เฉลี่ยนะครับ บางปีทะลุ 6หมื่นก็มี

ถ้าให้เลือกแนะนำ 320d ครับ ยิ่งถ้าเป็น f30 มันเป็น platform ลูกครึ่ง วิ่งได้น้อย ยิ่งอายุเยอะ soh มันก็น้อยลงไปอีก เท่าที่จำได้ปัญหาไม่เยอะแต่เด้ง drive train ก็พอมีให้เห็นรุ่นแรกๆครับ แต่ที่แย่คือมักจะแก้ไม่ตรงจุด แต่ก็หาย เหมือนระเบิดเวลารอในอนาคต แต่ถ้าราคามันเย้ายวนแล้วคิดว่าใช้แค่ 4-5ปีก็ไม่ติดครับ ผมคงเลือก 330e มากกว่า


https://www.youtube.com/watch?v=7QGjWYSB55A

เคยใช้ใช่ป่าว หรือดูคลิปแล้วมโนแจ่มอะครับ เอา i8 มาเทียบกับ 3series อ่ะครับ

ทำไมหลายๆคอมเม้นเลยที่พูดถึง 4-5ปีก็ใชั 330e เป็นเพราะว่าหลังจากนี้ค่าซ่อมบำรุงมันจะหนักเกี่ยวกับเรื่องแบตใช่ไหมครับ? หรือมีอะไรมากกว่านั้น คือผมเกรงว่าถ้าซื้อแล้วนับจากนี้ไปอีก4-5ปีที่ใช้งาน จะขายอีกทีก็คงยากแล้ว5555
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: spn ที่ ธันวาคม 09, 2023, 07:40:27
330e ที่เก็บของท้ายรถเล็กมาก ผมที่ชอบ 330e มาก แต่ขอตัดออกเพราะเรื่องนี้ครับ
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: youngbear ที่ ธันวาคม 09, 2023, 07:49:04
 8) 8) 8).....320d เลยครับ แล้วจะนึกบอกตนเองว่า รู้งี้เลิกใช้รถญี่ปุ่นตั้งนานละ :-X
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: Edwardsella ที่ ธันวาคม 09, 2023, 11:59:15
สองตัวเลือกนี้ ผมคงไป 320d มากกกว่า ส่วนตัวไม่กล้าใช้รถ Hybrid ยาวๆ มันมีจุดให้เสียเยอะกว่ารถสันดาปล้วน ที่ีผ่านตามาก็พวก inverter ปั๊ม ABS แบต เลยกลัว  ยิ่งเป็นรถยุโรปน่าจะแพงแน่ๆ แต่ถ้าเอามาเป็นคันสองคันสามของบ้านก็ว่ากันไป ที่บ้านผมอู่ดังอยู่ใกล้ๆ บ้าน แบบปั่นจักรยานถึงก็เลยยังเก็บ w204 ไว้ แต่ก็มีเริ่มให้ซ่อมมาทีละนิดละหน่อย แต่แพงทุกครั้ง ถ้าอู่ไกลคงยอมไปแล้ว 
เชียร์ให้ดูช่องคุณอาร์ตครับ เคยดูแกเอามาปั้นให้ดูบ่อยๆ บอกปัญหาประจำรุ่นที่เจอ อู่ ซึ่งถ้าซื้อมือสองมาใช้ยาวๆ อยากให้ดูไว้เป็นไอเดียครับ  ถ้าจำไม่ผิดแกจะเชียร์เบนซินมากกว่าดีเซลครับ
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: GizzY ที่ ธันวาคม 09, 2023, 22:15:21
ผมใช้ 320d อยู่ ตอนนี้ปีที่ 6
เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง 2800
อย่างอื่นยังไม่ต้องซ่อม
รอเปลี่ยนน้ำมันเกียร์+อ่าง ราวๆ 20,000
ใช้งานทั่วไปดี ประหยัดน้ำมัน ไม่ต้องดูแลอะไรมาก
ความแรงเพียงพอสำหรับใช้ทั่วๆไป แต่ถ้าจะไปแข่งไปซิ่งคงน้อยไปหน่อย
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: PaPaMan ที่ ธันวาคม 10, 2023, 10:07:06
เรื่อง BSI 5 ปี เค้านับตั้งแต่ออกรถป้ายแดงเลยนะครับ 330e ปี 2019 จะเหลือ BSI อีกแค่ปีเดียวนะครับ ไม่ใช่อีก 5 ปี บางทีคนขายก็จะบอกให้เรางงหรือคิดไปในทางนั้นเพราะอยากขายรถนั่นเองครับ ส่วนแบตเค้าประกัน 10 ปี/150,000โลครับ ยังมีประกันเหลืออีกยาวๆ


ใช้รถน้อยแบบ จขกท. ผมอยากแนะนำ 320i เครื่องเบนซินมากกว่า 320d ครับ เพราะค่า service/ค่าซ่อม จะถูกกว่าดีเซล


ถ้า BSI หมดไม่ต้องตกใจครับ ถ้ายังไม่เกิน 15 เดือน เราสามารถซื้อ SI เพิ่มจากศูนย์ได้ครับ สำหรับซีรี่ย์3 น่าจะซัก 3หมื่น6 ใช้ได้ 2 ปี หรือ 40,000โล โดยเรื่มนับวันแรกเมื่อเข้าศูนย์ครั้งแรก ก็เท่ากับว่าเราจะได้ service ประมาณ 3 ครั้งถือว่าคุ้มอยู่ครับ ยังไม่นับ บ.ประกันภัยบางเจ้าเค้าจะมีประกันอะไหล่สำหรับรถยุโรปให้เลือกซื้อด้วยเหมือนเป็นการเพิ่ม warranty กลายๆ ก็ลองหาข้อมูลดูครับ
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: HLRx ที่ ธันวาคม 10, 2023, 11:45:18
เรื่องใช้นาน ใช้ยาว ตัดทิ้งไปได้เลยครับ ไม่มีอยู่จริง เพราะ
1.ซ่อมจนเบื่อ แถมแต่ละชิ้นแพงจนร้อง
2.รุ่นใหม่ๆออกมา มัน ว้าวตลอด
จากคนที่เคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว 555
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: booklx12 ที่ ธันวาคม 10, 2023, 16:36:15
ผมใช้ 320d อยู่ ตอนนี้ปีที่ 6
เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง 2800
อย่างอื่นยังไม่ต้องซ่อม
รอเปลี่ยนน้ำมันเกียร์+อ่าง ราวๆ 20,000
ใช้งานทั่วไปดี ประหยัดน้ำมัน ไม่ต้องดูแลอะไรมาก
ความแรงเพียงพอสำหรับใช้ทั่วๆไป แต่ถ้าจะไปแข่งไปซิ่งคงน้อยไปหน่อย

เปลี่ยนอู่นอกหรือว่าศุนย์ครับ แนะนำหน่อย
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: booklx12 ที่ ธันวาคม 10, 2023, 16:46:44
เรื่อง BSI 5 ปี เค้านับตั้งแต่ออกรถป้ายแดงเลยนะครับ 330e ปี 2019 จะเหลือ BSI อีกแค่ปีเดียวนะครับ ไม่ใช่อีก 5 ปี บางทีคนขายก็จะบอกให้เรางงหรือคิดไปในทางนั้นเพราะอยากขายรถนั่นเองครับ ส่วนแบตเค้าประกัน 10 ปี/150,000โลครับ ยังมีประกันเหลืออีกยาวๆ


ใช้รถน้อยแบบ จขกท. ผมอยากแนะนำ 320i เครื่องเบนซินมากกว่า 320d ครับ เพราะค่า service/ค่าซ่อม จะถูกกว่าดีเซล


ถ้า BSI หมดไม่ต้องตกใจครับ ถ้ายังไม่เกิน 15 เดือน เราสามารถซื้อ SI เพิ่มจากศูนย์ได้ครับ สำหรับซีรี่ย์3 น่าจะซัก 3หมื่น6 ใช้ได้ 2 ปี หรือ 40,000โล โดยเรื่มนับวันแรกเมื่อเข้าศูนย์ครั้งแรก ก็เท่ากับว่าเราจะได้ service ประมาณ 3 ครั้งถือว่าคุ้มอยู่ครับ ยังไม่นับ บ.ประกันภัยบางเจ้าเค้าจะมีประกันอะไหล่สำหรับรถยุโรปให้เลือกซื้อด้วยเหมือนเป็นการเพิ่ม warranty กลายๆ ก็ลองหาข้อมูลดูครับ

ถ้า 330e ที่ผมพูดถึงมันเป็นตัวที่ได้  BSI มา 10ปี หรือ 100,000 km ครับ เท่ากับว่ามันจะเหลือ
1. BSI ประมาณ 5 ปี(ถึงปลายปี 2028) หรือ 40,000 km (เพราะรถออกมาตอน2019 และใช้มาแล้วเกือบๆ 60,000 km)
2. Warranty ตัวรถหรืออะไหล่ น่าจะกำลังจะหมดกลางปีหน้า - ตัวนี้ไฮไลท์เลยเพราะว่าต่อให้มี BSI เหลือยาวก็ทำได้แค่เข้าไปเช็คระยะและฟรีพวก Consumable ต่างๆแต่ถ้าเข็คระยะแล้วเจอพังเนี่ย ก็ต้องเสียเงินอยู่ดีถ้า Warranty หมด เลยอยากทราบว่าหมดแล้วต่อ warranty ได้ไหม???
3. Warranty batteries hybrid เหลือประมาณ 5 ปีหรือประมาณ 90,000 km (ประกันตอนออกรถ 10ปีหรือ 150,000 km)

เท่าที่ดูไว้ประมาณนี้ครับ ถ้า warranty ตัวรถหรืออะไหล่ต่อได้สัก 2-3 ปีทุกท่านคิดว่าคุ้มไหมครับ พอจะ cover หรือเปล่า??
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: booklx12 ที่ ธันวาคม 10, 2023, 16:56:13
เรื่องใช้นาน ใช้ยาว ตัดทิ้งไปได้เลยครับ ไม่มีอยู่จริง เพราะ
1.ซ่อมจนเบื่อ แถมแต่ละชิ้นแพงจนร้อง
2.รุ่นใหม่ๆออกมา มัน ว้าวตลอด
จากคนที่เคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว 555

จริงๆอยากใช้ให้นานที่สุดแหละครับ ไม่น่ามีเงินเหลือขนาดเปลี่ยนบ่อย เลยดูๆไว้ คิดว่าจะใช้ให้ได้ 8 ปีขึ้น (ถ้าเกิดซ่อมถูกกว่าเปลี่ยนนะครับ 555555)
เพราะตอนนี้เป็นพนักงานประจำครับ แต่มีแพลนจะซือรถอยู่แต่แค่อยากลองเปลี่ยนมาลองรถยุโรปดูเลยกะหาผ่อนเดือนนึงไม่เกิน 15,000 ครับ (รวมประกัน) กลัวเกินตัวไป
หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: ynot9x ที่ ธันวาคม 10, 2023, 17:18:35
8) 8) 8).....320d เลยครับ แล้วจะนึกบอกตนเองว่า รู้งี้เลิกใช้รถญี่ปุ่นตั้งนานละ :-X

ผมยังจำวันแรกที่ได้ไปเทส drive 320i เทียบ 320d เมื่อหลายปีก่อน
รีบจอง 320i เลยครับ feel มันใช่ ได้ยินเสียงดูดอากาศ และ ตอนบูสติดรถพุ่ง ฟินเลยครับ 320d ตอนนั้นคิดว่า feel มันรถปิคอัพครับ
อันนี้แล้วแต่คนชอบ ส่วน 320i ผมทำ stage 1.5 แล้วหลังหมด bsi ก็มีเปลี่ยนโช๊คยางของแหลวตามระยะการใช้งาน ถ้าไม่ได้ไปแต่งไปเค้นรถซัดหนักตลอดเวลาผมว่าค่อนข้างทนอยู่นะครับ
ยังไม่เจออะไรจุกจิกครับ

หัวข้อ: Re: กำลังจะหันจากรถญี่ปุ่นมายุโรปมือ2 BMW
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ ธันวาคม 10, 2023, 20:53:30
สองตัวเลือกนี้ ผมคงไป 320d มากกกว่า ส่วนตัวไม่กล้าใช้รถ Hybrid ยาวๆ มันมีจุดให้เสียเยอะกว่ารถสันดาปล้วน ที่ีผ่านตามาก็พวก inverter ปั๊ม ABS แบต เลยกลัว  ยิ่งเป็นรถยุโรปน่าจะแพงแน่ๆ แต่ถ้าเอามาเป็นคันสองคันสามของบ้านก็ว่ากันไป ที่บ้านผมอู่ดังอยู่ใกล้ๆ บ้าน แบบปั่นจักรยานถึงก็เลยยังเก็บ w204 ไว้ แต่ก็มีเริ่มให้ซ่อมมาทีละนิดละหน่อย แต่แพงทุกครั้ง ถ้าอู่ไกลคงยอมไปแล้ว 
เชียร์ให้ดูช่องคุณอาร์ตครับ เคยดูแกเอามาปั้นให้ดูบ่อยๆ บอกปัญหาประจำรุ่นที่เจอ อู่ ซึ่งถ้าซื้อมือสองมาใช้ยาวๆ อยากให้ดูไว้เป็นไอเดียครับ  ถ้าจำไม่ผิดแกจะเชียร์เบนซินมากกว่าดีเซลครับ

แนะนำช่องนี้เช่นกันครับ