Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: spooney ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2024, 23:47:59
-
ได้ดูที่โชว์รูมมา 2 ตัวนี้ค่า ตัวต่างกัน หลัก ไม่เกิน 1.5 แสน (530e แพงกว่า) ราคา
320d msport 2.55 ล้าน กับ 530e luxury 2023 2.7ล้าน แต่ใจใจก็มอง benz 220d 2.63 ล้าน ด้วย
เลยลังเลว่าตัวไหนคุ้มกว่ากัน ใช้งานไม่เยอะ ปีนึงไม่น่าเกิน 15000 โล
สลับกับแฟนใช้ เป็นคนขับรถไม่ค่อยซิ่ง ปกติขับ 80-100 แฟนขับเร็วกว่านิดหน่อย
ใช้งานตจว ส่วนใหญ่อยุ่ในเมือง มีวิ่งข้ามจังหวัดบ้างแต่ไม่ไกล 150 โล
ส่วนใหญ่ขับคนเดียวอยุ่ที่เชียงใหม่ พะเยา
1. เน้นความคุ้มค่า ทั้งในด้านค่าดูแลรักษา และการขายต่อในอนาคต
2. ในใจกลัว ตัว plugin hybrid เรื่อง maintainance ในอนาคต ( หลัง 5-10 ปี )
คิดว่าประหยัดน่าจะพอๆกัน
กลัวราคา ตัว 530e จะขายต่อถุกกว่า 320d ในอนาคต
3. แต่คิดว่า series 5 น่าจะดูดีกว่า 3 อยุ่นิดหน่อยถ้ามองในภาพรวม เวลาแฟนเอาไปใช้
4. หรือแนะนำ benz bmรุ่นอื่นดี ( แฟนให้เลือกแค่ benz กับ BMW เพราะน่าจะดูแลได้ง่ายกว่า) อาจจะ 220D หรือ BM เบนซินล้วน
320li หรือ 330li
5. ทั้ง2ตัว ถ้าอยุ่ใน BSI เสียค่าซ่อมบำรุงประมาณประมาณปีละเท่าไหร่
แล้วถ้า หมด BSI ค่าซ่อมบำรุงต่างกันประมาณเท่าไหร่
เทียบกับ 220d ด้วย
6. ควรมองมือ 2 ด้วยมั้ยหรือว่า มือ 1 ไปเลย โดยรวม ค่าบำรุงดูแล และราคาขายต่อในอนาต หักลบแล้วต่างกันมั้ย
7. พวกรถเดโม่ น่าซื้อไหม เหน 520d ราคา 2.65-2.75 แล้วแต่สภาพ
-
ข้อ 1 ทั้ง 3 ตัวราคาขายต่อไม่ต้องคิดเลยครับ ถ้ากังวลขาดทุนก็หามือ 2 จะคุ้มค่ากว่า
ข้ออื่นๆจะตอบแต่ละข้อเกรงว่าจะจุกจิกไป ขอตอบแบบที่เคยเลือกมา
ตอนนั้นผมกับแฟนเลือกไม่ได้ ระหว่าง series 3 กับ 5 ทาง sale BM เอาทั้ง 2 คันมาให้ลองถึงที่บ้านเลย
เรากับแฟนก็ขับสลับกับนั่งแถวบ้านไปเรื่อยๆ จนได้คำตอบว่าชอบคันไหน
ซึ่งแต่ละบ้านอาจจะต้องการรถไม่เหมือนกัน พอลองได้ขับแล้วข้ออื่นๆ จะมีน้ำหนักน้อยลงไป
-
ข้อ 1 ทั้ง 3 ตัวราคาขายต่อไม่ต้องคิดเลยครับ ถ้ากังวลขาดทุนก็หามือ 2 จะคุ้มค่ากว่า
ข้ออื่นๆจะตอบแต่ละข้อเกรงว่าจะจุกจิกไป ขอตอบแบบที่เคยเลือกมา
ตอนนั้นผมกับแฟนเลือกไม่ได้ ระหว่าง series 3 กับ 5 ทาง sale BM เอาทั้ง 2 คันมาให้ลองถึงที่บ้านเลย
เรากับแฟนก็ขับสลับกับนั่งแถวบ้านไปเรื่อยๆ จนได้คำตอบว่าชอบคันไหน
ซึ่งแต่ละบ้านอาจจะต้องการรถไม่เหมือนกัน พอลองได้ขับแล้วข้ออื่นๆ จะมีน้ำหนักน้อยลงไป
ตอบมาทุกข้อเลยก้อได้คับถ้า พอมีเวลา ส่วนตัวว่ารอแฟนมาละจะไปขอลองขับดูครับ
ผมตีว่ารถใหม้ราคา 2.5 ล้าน 5 ปีตกไป เหลือ 1.2 ล้าน หายไป 1.3 ล้าน
ีรถมือสอง 5 ปี ราคา 1.2 ล้าน ใช้ไป 5ปี ราคาตกไปเหลือประมาน 6 แสน หายไป 6 แสน
ต่างกัน 7 แสน
มือ 1 ได้ ประกันชั้น 1 6หมืน
ได้ วารันตี + bsi 5 ปี อาจจะตีว่า มลค่าตรงนี้ ผมให้ ราคามัน 5 แสนบาท
ดอกเบี่ยรถมือ2 กับ vat 7% ถ้าผมผ่อน อาจจะมีมุลค่าประมาน 7-8 หมื่นบาท
ผมเลยให้ ฝั่ง รถใหม่ เพิ่มอีก 6 แสน บาท
ถ้า ต่างกัน 1-2 แสนใน 5ปี ผมรุ่สึกว่าผมพอรับได้
แต่ผมอาจจะคิดผิด ><
-
5 ตัวปัจจุบันสวยดี ผมก็ชอบ เพียงแต่มีแค่เครื่อง ดีเซล กับ เครื่อง+มอเตอร์ ให้เลือกแค่นั้น
ส่วนตัวผม ผมยังชอบเครื่องยนต์เบนซินปกติอยู่ งบของ จขกท ระดับนี้แล้ว เรื่องค่าน้ำมันคงไม่ได้แคร์อะไรมาก แบบนี้ก็น่าลองไปมองพวก 320Li 330Li พวกนี้ดูครับ 3 ตัวปัจจุบันก็ดูใหญ่โตโอ่โถงอยู่ น่าจะรองรับความเป็นครอบครัวต่อไปในอนาคตได้ดีอยู่ครับ
-
ใช้ในเมือง แม้จะเป็น ตจว ผมว่า ซีรี่ส์ 3 คล่องตัวกว่านะครับ ได้ดีเซล จุกจิกน้อยกว่า ไฮบริด แน่ๆ ครับ
ณ ปัจจุบัน เลือกเบนซ์ กับ บีเอ็ม ผมเลือก บีเอ็ม แฮะ
-
ผมขออนุญาตให้ความเห็นเรื่องความคุ้มค่าและความกังวลในอนาคตรวมถึงความมือหนึ่งหรือสองนะครับ
1) 5 series ใหญ่กว่า นั่งสบายกว่าดูดีกว่า 3 series ในทุกมิติ
รถระดับนี้มันเป็นเรื่องที่นอกเหนือจากการใช้งานเพียงอย่างเดียวมันเรื่องภาพลักษณ์ความสบายและที่สำคัญมูลค่ามันลดลงอยู่แล้วในความเป็นรถ
2) ในหลายๆเรื่องในชีวิตเราความสบายความคุ้มความสิ้นเปลืองมันมักจะไม่ค่อยอยู่ด้วยกันยกตัวอย่างนอนโรงแรมคืนละ 5,000 กับคืนละ 30,000 มันก็หลับตื่นมาเงินหายทั้งคู่ ไปยุโรป อีโค่ 60,000 กับบิสเนส 150,000 ไปถึงเหมือนกัน แต่เราจ่ายก็เพื่อความสบายของตัวเองครับ
3) มือสองไม่ว่ามองมุมไหนก็คุ้มกว่าในแง่มูลค่าเงินและของที่ได้มา ถ้าเราไม่ได้สนใจเรื่องการได้ออกรถที่โชว์รูมเป็นคนแรกหรือความอุ่นใจว่ายังไงก็มือหนึ่งปัญหาน่าจะน้อย(แต่มือหนึ่งที่รถมีปัญหาก็มีให้เห็นหลายคันครับ)
ถ้าคิดว่ารับได้กับ 5ปี เงินหาย 1.2ล
ก็ต้องลองถามตัวเองว่า ถ้า 5ปี เงินหาย 1.5ล หรือ 2ล รับได้มั๊ย ถ้ารับได้เราก็เลือกรถที่มูลค่าลถตามนั้นได้เลยครับ เพราะ 6แสน สำหรับสำหรับจขกทรับได้ แต่สำหรับท่านอื่นอาจจะมองว่าซื้อรถได้อีกหนึ่งคันครับ
เราซื้อรถเพราะความสุข ณ ปัจจุบันรึป่าวครับ 5-10 ปีข้างหน้าเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถัาจ่ายได้ผมจ่ายครับ
** แก้ไขเพิ่มเติมนิดนึง
ถ้าใช้เป็นรถคันหลักคันเดียวและที่บ้านมีมากกว่าสองคน 530e อาจจะอึดอัดในเรื่องที่เก็บของท้ายรถเวลาไปต่างจังหวัดได้ครับ
-
ถ้าส่วนตัวไป 530e เลยครับ เพราะ 3 มันเล็ก
เพื่อนผมซื้อ 3 มาได้ 2 เดือน ขายทิ้งเลยเพราะแคบไป นั่งหลังไม่สะดวก
Bmw ถ้ามี bsi เซอร์วิสไม่เสียเงินสักบาทตลอด bsi อยู่แล้วครับ
ส่วน benz ผมก็ไม่ชอบเหมือนกันเวลาไป 0 บริการ หรือผมอาจจะไม่ถูกจริต
กับการต้องมาเรียกคุณท่าน คุณผู้ชาย แถมเสียเวลาทั้งวันในการรอรถกว่าจะเสร็จ นานมากแค่ละครั้ง
ทุกวันนี้เลยใช้แต่ Audi แต่ ก็ยังต้องหงุดหงิดเวลาเอา 220d ไปเช็คระยะที่ 0 benz ทุกที
:-\ :-\
-
ถ้าพูดถึงเครื่องยนต์น้ำมันล้วนๆ ทั้งเบนซินดีเซล
ใช้ยาวๆ (5-10ปี) ผมว่า BMW ดูแลง่ายกว่านะครับ และแอบถูกกว่าหน่อย จากประสปการณ์ส่วนตัว
-
ดูแล้วไม่น่ามีรถคันเดียว และใช้คันสองคนเป็นหลัก เชียร์ 530e ครับ ภาพลักษณ์ดีกว่า ขับสบาย ไม่นับเรื่องพื้นที่เก็บของท้ายรถ
C220d ผมลองขับแล้ว charactor ช่วงล่างยังไม่ถูกใจนิดนึง แต่สวยยยยย
-
ผมขออนุญาตให้ความเห็นเรื่องความคุ้มค่าและความกังวลในอนาคตรวมถึงความมือหนึ่งหรือสองนะครับ
1) 5 series ใหญ่กว่า นั่งสบายกว่าดูดีกว่า 3 series ในทุกมิติ
รถระดับนี้มันเป็นเรื่องที่นอกเหนือจากการใช้งานเพียงอย่างเดียวมันเรื่องภาพลักษณ์ความสบายและที่สำคัญมูลค่ามันลดลงอยู่แล้วในความเป็นรถ
2) ในหลายๆเรื่องในชีวิตเราความสบายความคุ้มความสิ้นเปลืองมันมักจะไม่ค่อยอยู่ด้วยกันยกตัวอย่างนอนโรงแรมคืนละ 5,000 กับคืนละ 30,000 มันก็หลับตื่นมาเงินหายทั้งคู่ ไปยุโรป อีโค่ 60,000 กับบิสเนส 150,000 ไปถึงเหมือนกัน แต่เราจ่ายก็เพื่อความสบายของตัวเองครับ
3) มือสองไม่ว่ามองมุมไหนก็คุ้มกว่าในแง่มูลค่าเงินและของที่ได้มา ถ้าเราไม่ได้สนใจเรื่องการได้ออกรถที่โชว์รูมเป็นคนแรกหรือความอุ่นใจว่ายังไงก็มือหนึ่งปัญหาน่าจะน้อย(แต่มือหนึ่งที่รถมีปัญหาก็มีให้เห็นหลายคันครับ)
ถ้าคิดว่ารับได้กับ 5ปี เงินหาย 1.2ล
ก็ต้องลองถามตัวเองว่า ถ้า 5ปี เงินหาย 1.5ล หรือ 2ล รับได้มั๊ย ถ้ารับได้เราก็เลือกรถที่มูลค่าลถตามนั้นได้เลยครับ เพราะ 6แสน สำหรับสำหรับจขกทรับได้ แต่สำหรับท่านอื่นอาจจะมองว่าซื้อรถได้อีกหนึ่งคันครับ
เราซื้อรถเพราะความสุข ณ ปัจจุบันรึป่าวครับ 5-10 ปีข้างหน้าเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถัาจ่ายได้ผมจ่ายครับ
** แก้ไขเพิ่มเติมนิดนึง
ถ้าใช้เป็นรถคันหลักคันเดียวและที่บ้านมีมากกว่าสองคน 530e อาจจะอึดอัดในเรื่องที่เก็บของท้ายรถเวลาไปต่างจังหวัดได้ครับ
ส่วนใหญ่ใช้คนเดียว ผมกับแฟนอยุ่ กันคนละที่ เจอกันบ้าง ช่วงเสาร์อาทิตย์อาจจะ สลับรถกันบ้างตอนนั้น แต่แฟนกับผมมีรถใช้อยุ่แล้ว คนละคัน ส่วนเวลาไปต่างจังกวัดปกติไม่ได้ขนของเยอะ เป้ คนละใบ ><
ผมมองว่าส่วนต่างเยอะแต่ได้ วารันรันตี +bsi ทำให้ ส่วนต่าง ตรงนั้นมันน้อยลง
+ ความกังวลใจน้อยลง
ขอบคุณสำหรับความเห็นมากๆเลยครับ
-
ตอบในฐานะคนใช้ทั้งสองยี่ห้อ ไป BMW ดีกว่า ไม่ได้ขับเร็วไปเล่นเครื่องดีเซล ประหยัด ทน ไม่จุกจิก ช่าง BMW คุ้นกับเครื่องดีเซลบล้อคนี้มาก อย่าว่ามันโบราณ แต่มันประหยัดทนถึกจริงๆ ขยับไป 520d รถใหญ่กว่า 320d ราคาไม่น่าจะแพงกว่า 530e ซักเท่าไหร่ นั่งสบายกว่า 320d กินน้ำมันพอๆกัน ไม่เชียร์รถ PHEV เลย ยิ่งขับนอกเมืองด้วย ไม่ได้จำเป็นต้องแบกน้ำหนักแบต
Benz หลายปีหลังๆนี่ แบบโคตรจุกจิก เป็นโน่นนี่นั่นประจำ warranty 3 ปี แต่ต้องจ่ายค่าเซอร์วิส หนๆนึงต้องเป็นหมื่น ซื้อ extend warranty ได้มากสุด 8 ปี แต่ก็อีกหลายแสน กลายเป็นต้องเข้าเซอร์วิสกับศูนย์เบนซ์ ไม่งั้น warranty ที่ซื้อไว้ขาดอีก BSI ของ BMW รวม warranty + service ยอมจ่ายเพิ่มให้เป็นห้าปี เพราะเสร็จแล้วไม่ต้องจ่ายอะไรอีกเลย ยกเว้นค่ายางรถ ขนาดยางปัดน้ำฝนยังฟรี คุ้มมาก โดยเฉพาะคนใช้รถเยอะ
แต่แน่นอน image ของการใช้ BMW สู้ Benz ไม่ได้ แต่ดีกว่ารถญี่ปุ่นมากโขครับ
-
ตอนแรกก็จะเชียร์ 5 แต่เพิ่งนึกได้ บ้านเรายังขาย G30 อยุ่นี่หว่า ตัว body ใหม่ G60 มันออกมาเมืองนอกซักพัก น่าจะใกล้มาไทยแล้ว
งั้นจะรีบซื้อ คงไป 320d G20 แหละคับ มัน LCI แล้วก็จริง แต่ก็น่าจะอยุ่ได้อีกปีสองปีต่ำ ๆ
C220d นี่มันดีเซล + mild hybrid ผมยังไม่ค่อยเชื่อใช้ hybrid MB แหะ
-
ตอนแรกก็จะเชียร์ 5 แต่เพิ่งนึกได้ บ้านเรายังขาย G30 อยุ่นี่หว่า ตัว body ใหม่ G60 มันออกมาเมืองนอกซักพัก น่าจะใกล้มาไทยแล้ว
งั้นจะรีบซื้อ คงไป 320d G20 แหละคับ มัน LCI แล้วก็จริง แต่ก็น่าจะอยุ่ได้อีกปีสองปีต่ำ ๆ
C220d นี่มันดีเซล + mild hybrid ผมยังไม่ค่อยเชื่อใช้ hybrid MB แหะ
พอดี บอดี้เก่าได้ส่วนลดเยอะ เพราะจะตกรุ่น
2.6-2.7 ถ้าตัวใหม่มา ราคาน่่าจะโดดไป
ถ้าไม่ได้สนเรื่องตกรุ่นมาก ซื้อตอนนี้หรือ อีก 2-3 เดือนราคา 0 จะลงมากกว่านี้ ไหมครับ
-
หากเตรียมงบไว้พร้อม มือ1 ครับ สบายใจกว่าเยอะเลย การขาดทุนหากคิดเป็นเปอเซ็นต์คือพอๆกัน
-
ขับ BM i อยู่ครับ รู้สึกดีกว่านะ
BM e ระวังสตาร์ทไม่ติด / รถดับกลางทาง / ชาร์จไม่เข้า / ล้อหรือแม็กแตก เพราะแบตวางหลัง (ไม่เหมาะกับขับต่างจังหวัดที่ไม่ชินถนน)
BM d เครื่องใหญ่ ถ้าไม่ชอบเร่ง ๆ หน่วง ๆ (มึน) ก็หลีกเลี่ยง
-
ถ้าห่วงเรื่อง hybrid คงต้องตัด 530e ออกแม้จะดูดีกว่า 3 ก็ตาม ส่วนด้านหลังผมให้ 3li นั่งสบายกว่าซีรีย์ 5 ครับ ลองไปนั่งดูผมว่าทั้งความนุ่มของเบาะและความกว้างด้านหลัง 3li ดีกว่า แต่สุดท้ายผมก็เลือก 520d นะครับ เพราะชอบหน้าตามากกว่า
-
ถ้าคุณชอบขับรถส่วนใหญ่อยุ่ในเมือง มีวิ่งข้ามจังหวัดบ้างแต่ไม่ไกล 150 โล
530e Luxury 2.7 ล้านบาท ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ไม่ต้องซดน้ำมันให้แหลกตอนขับในเมือง โดยวิ่ง EV Mode ช่วย Save น้ำมันได้ 26% แถมลดมลพิษ CO2 อากาศในไทยจะสะอาดมากขึ้น
ปล. BMW ใช้งานทนทานเหมือน Toyota
-
ขอเป็นกาฝากถามด้วย ถ้า x3 ใหม่จะมาเป็นไปได้มั้ยที่ x3 20d msport มือหนึ่ง จะราคาต่ำกว่า 3ล้านแบบขายทิ้งทวน
-
ตัวเลือกเหมือน จขกท.เลยครับ คิดหนักมาก เพราะคันเก่าใช้ Volvo ดีเซลมาแล้วประทับใจ
แต่เจอ สเปค 320d , 520d มีแต่กล้องหลัง ตกใจมาก เลยตัดใจจากเครื่องดีเซลไป 530e แทน
แต่สุดท้าย ท้ายสุดไปออก S90 เป็นที่เรียบร้อย 555 ขับมา 5 เดือน ฟินมาก ทนขับดีเซลอยู่ได้งัยกว่า 10 ปี
คันต่อไปไฟฟ้าแน่นอน
-
ถ้าคุณชอบขับรถส่วนใหญ่อยุ่ในเมือง มีวิ่งข้ามจังหวัดบ้างแต่ไม่ไกล 150 โล
530e Luxury 2.7 ล้านบาท ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ไม่ต้องซดน้ำมันให้แหลกตอนขับในเมือง โดยวิ่ง EV Mode ช่วย Save น้ำมันได้ 26% แถมลดมลพิษ CO2 อากาศในไทยจะสะอาดมากขึ้น
ปล. BMW ใช้งานทนทานเหมือน Toyota
+1 ครับ ทนทานเหมือน Toyotaจริง ไม่ลองไม่รู้ บอกเพื่อนๆก็ไม่ค่อยเชื่อกัน