Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: boogie2020 ที่ มีนาคม 13, 2024, 11:28:40
-
เห็นดราม่าในหลาย ๆ เพจอยู่ จากเคส MG4X ที่เล่นใส่ฝาครอบคาลิปเปอร์ดิสมา
แต่ทีนี้ จากหลาย ๆเว็บและทางทฤษฏี รถ EV ระบบเบรคช่วง 80% แรกมันมาจาก regen อยุ่แล้ว ตัว mechanic brake มันใช้แค่ 20% ที่เหลือเพื่อให้รถหยุดสนิท ดังนั้นเหมือน load ที่ต้องลงกับเบรค มันก็น่าจะน้อยกว่ารถ ICE ถ้านับรถที่ performance พอ ๆ กัน .....ดังนั้น เบรค pot เดียวกับรถ 400 ม้า มันก็เพียงพอแล้ว สำหรับการใช้งานเหรอคับ ?
https://zecar.com/resources/electric-car-brakes-explained
แล้วทำไมพวกรถ EV สาย performance ยังต้องให้ระบบเบรคเทพ ๆ จานเซรามิคก็ยังมีละนั่น ? หรือเพราะมันคือ performance แม้จานเล็กๆ มันจะพอ แต่ใหญ่และเทพ ๆ มันก็ให้ฟิลลิ่งดีกว่า ก็เลยใส่มาให้
อย่างเบรมโบ้เอง ยังออก EV brake มาเลย แต่ไม่ได้เน้นว่าเบรคดีขึ่น แต่เน้นเรื่องความปลอดภัย และการใช้งานได้นานขึ้น ลดการกัดกร่อน เพราะรถEV มันใช้เบรคน้อยกว่า จานกะผ้าเบรคปกติ มันจะ oxidation เยอะกว่าจากความชื้น
https://www.bremboparts.com/europe/en/products/beyond/ev-kit
-
ส่วนตัวที่คิดครับ ผมไม่แน่ใจว่า Regen มันจะทำงานทันเวลา เวลาฉุกเฉินไหมครับ อันนี้ไม่กล้าลองรถที่ไปลอง กับรถเพื่อน 555 เลยคิดว่าถ้าต้องซื้อ EV ก็คงไปใส่ Big brake อยู่ดี กันเหนียวครับ
-
ที่เคยไปลองพวก tesla คือใช้ regen แทนการใช้เบรคในชีวิตประจำวันได้เลยครับ
ด้วยความไม่ชินขับๆอยู่เผลอยกเท้าออกกะให้ coasting ไปเรื่อยๆ ก็หัวทิ่มเลย...
แต่ถ้าฉุกเฉินโดนตัดหน้าก็กดเบรคช่วยได้
พวกรถสายperformance ก็คงไม่แปลกถ้าจะทำเพิ่มครับ การขับขี่มันอาจเกินชีวิตประจำวันไปหน่อยนึง..
คิดๆก็น่ากังวลว่าถ้าระบบ regen มันเสียจะเบรคกันยังไง แต่ก็คิดว่ามัน่าจะอยู๋ในมอเตอร์ซึ่งคงไม่พังง่ายๆ..
ปล. เพิ่งเห็นดราม่า ปัญหานึงคือเอาฝาครอบพลาสติกมาใส่ด้วยแหละ ซึ่งมันเป็นอุปกรณ์ที่ช่วงหลังไม่นิยมและมีกลุ่มนึงไม่สนับสนุนแล้ว...
เรื่องเบรคส่วนตัวคิดว่าใช้งานปรกติทั่วๆไป ขับแบบคนทั่วๆไป ไม่มุด ไม่เค้นรถ ผมว่าเอาอยู่..
แต่มันจะขัดๆ ตรงที่ว่า.. ทำรถมาเป็นตัวแรง อยากขายขาซิ่ง โฆษณาเรื่องอัตราเร่ง... แต่จัดเบรคแบบนี้มาให้มากกว่า...
-
ผมว่าประเด็นอยู่ที่เอาฝาครอบมาแปะทำให้คนเข้าใจว่าเบรคใหญ่แต่ที่จริงไม่เป็นอย่างนั้น (ให้มองเป็นของแต่งชิ้นนึง)
-
การหน่วง มัน ไม่น่าจะตรงไปตรงมาตามเท้าที่เราเบรก มั้ย ???
ผมเดาใจไม่ถูกว่า มันจะทำงานตามความคาดหวังของนิสัยการเบรกแต่ละคนมั้ยหนะ
-
ยามฉุกเฉิน คนขับกระทืบเบรคอย่างแรง vs รอมอเตอร์ช่วย Regen
อะไรจะช่วยให้รถหยุดได้ทันสถานการณ์มากกว่ากัน
-
ยังไงเสีย เบรกมันก็คือเบรกครับ มันต้องมีแรงม้า มากกว่าแรงม้าที่เครื่อง/มอเตอร์ทำได้ ครับ ก็ไม่รู้ว่าคนออกแบบ หรือ คนเลือกชิ้นส่วนเค้าคิดเป็นไหม ผมว่าเค้าน่าจะคิดเป็นแหละน่า ;D
สำหรับลูกสูบเบรก ต่อให้มันมีลูกเดียวต่อข้าง ถ้ามันใหญ่พอแล้ว มันก็ต้องทำหน้าที่ของมันได้ดีครับ มี 8 ลูก แต่พื้นที่หน้าตัดรวมแล้วน้อยกว่า 1 ลูก มันก็จะไปสู้ลูกเดียวใหญ่ๆได้อย่างไรล่ะครับ (ถ้ามองในเรื่องของจำนวณ และแรงกระทำจากลูกสูบเบรกน่ะครับ)
-
(https://www.youtube.com/watch?v=yF9ksaXfUGg&t=836s)
https://www.youtube.com/watch?v=yF9ksaXfUGg&t=836s (https://www.youtube.com/watch?v=yF9ksaXfUGg&t=836s)
MG4 น้ำหนักเยอะกว่าอีก 2 คันด้วยครับ แสดงว่าอีก 2 คันเบรคแย่มาก
-
รถน้ำมันก็มี Engine brake แต่มันใช้ทันไหมละ ตายก่อนละสิ
คนเถียงมันก็พวกอวย EV ทั้งนั้น
-
(https://www.youtube.com/watch?v=yF9ksaXfUGg&t=836s)
https://www.youtube.com/watch?v=yF9ksaXfUGg&t=836s (https://www.youtube.com/watch?v=yF9ksaXfUGg&t=836s)
MG4 น้ำหนักเยอะกว่าอีก 2 คันด้วยครับ แสดงว่าอีก 2 คันเบรคแย่มาก
ใช้ได้เลยครับ MG4 x power
รถไฟไฟฟ้าจีนทำให้ความรู้สึกอยากได้รถสปอร์ตน้อยลงไปเยอะ
เพราะมันทำลายกำแพงเรื่องของความแรง 400 ม้าเดี๋ยวนี้ใครๆก็ซื้อได้
ถึงรถสปอร์ตชั้นดีมันมีอะไรมากกว่าความแรง
แต่ความแรงก็เป็นเหตุผลหลักและเคยเป็นจุดเด่นอันนึงของรถสปอร์ต ICE
-
เบรคดีมั้ยไม่รู้
รู้แค่ว่าเห็นคำว่า "รีเจ้นท์" ว่อนเลย ในพวกคอมเมนต์ใน facebook
น้อยมากที่จะเจอพิมพ์คำว่า "รีเจน" หรือ "regen"
เห็นแล้วแบบ แปลกสุดๆ
-
ใช่ครับ แต่ถูกคำนวณมาให้ประสิทธิภาพการเบรคโดยรวมเท่ากันหรือดีกว่า ICE ด้วยซ้ำ
ดูตัวอย่างคลิปข้างบนก็ได้ครับ MG4 ที่มีคนแปะ
EV = Regen + Brake System
ICE = Engine Brake + Brake System
Tesla ปล่อยคันเร่งหมดคือหัวทิ่มเลย ยังไม่ต้องกดเบรค คิดว่าประสิทธิภาพมันดีขนาดไหน
ดูดหนักกว่า Engine brake เยอะ
เวลาฉุกเฉินก็เหยียบเบรคไปอีกก็ช่วยกันสองแรง
ทำไมต้องทำจานเซรามิคสำหรับ Very High performance ?
ขับแบบนี้ยังไงก็ต้องกดเบรค ถ้าต้องการ การควบคุมจุดเบรคที่แม่นยำ ดังนั้นเบรคก็รับโหลดมาก ร้อนมาก ชุดเซรามินจึงจำเป็น (สำหรับคนที่ใช้จริงๆ)
400 ม้า กับเบรค 1 pot พอไหม ?
ดูกันที่พื้นที่หน้าตัดครับ ใครเยอะก็วินไป ข้อดีอีกอย่างของเบรคหลาย Pot คือ มี Redundant เวลาบางสูบมันติด
บางคอมเม้นก็พวกอวย ICE เหมือนกันนะครับ
โลกไปถึงไหนกันแล้ว เห็นจะมีที่ชอบของใหม่มาติทุกอย่าง ฉันชินกับของเดิม ของเดิมดีที่สุด
ในหลายๆกระทู้
ตั้งแต่ EV หน้าจอ กระจกมองข้าง Digital
ไม่คิดจะเปิดใจ ก้าวเดินไปพร้อมโลกเลย
เหมือนเว็บบอร์ดที่ตกยุคไปแล้วเลยครับ
-
รถบังคับวิทยุไม่ต้องใช้เบรคเลยครับ มอเตอร์ตัวเดียว เดินหน้าถอยหลังสบายใจเฉิบ
-
Regen ปรับได้ หลายระดับครับ
ยิ่งโหมด eco แค่ยกคันเร่ง ไฟไม่เข้ามอเตอร์ รถก็แทบหัวทิ่มแล้ว
นึกถึง รถ tamiya ตอนถ่านใกล้หมดมันก็จะอืดๆ
หรือลองถอดปลั๊กพัดลมที่บ้าน มอเตอร์ก็จะหมุนไปได้อีกหน่อย
รุ่น performance มอเตอร์ 2 ตัว ส่วนใหญ่ใช้โหมด sport
ไฟเข้าแรงครับ รถจีนหรือ tesla ด้วยราคาที่ไม่แพง
ให้ช่วงล่างกับระบบเบรคตามงบ
ถ้าขับโหดๆ ควรไปทำเพิ่ม
-
อ่านเฉยๆ หาความรู้ครับ
-
ใช่ครับ แต่ถูกคำนวณมาให้ประสิทธิภาพการเบรคโดยรวมเท่ากันหรือดีกว่า ICE ด้วยซ้ำ
ดูตัวอย่างคลิปข้างบนก็ได้ครับ MG4 ที่มีคนแปะ
EV = Regen + Brake System
ICE = Engine Brake + Brake System
Tesla ปล่อยคันเร่งหมดคือหัวทิ่มเลย ยังไม่ต้องกดเบรค คิดว่าประสิทธิภาพมันดีขนาดไหน
ดูดหนักกว่า Engine brake เยอะ
เวลาฉุกเฉินก็เหยียบเบรคไปอีกก็ช่วยกันสองแรง
ทำไมต้องทำจานเซรามิคสำหรับ Very High performance ?
ขับแบบนี้ยังไงก็ต้องกดเบรค ถ้าต้องการ การควบคุมจุดเบรคที่แม่นยำ ดังนั้นเบรคก็รับโหลดมาก ร้อนมาก ชุดเซรามินจึงจำเป็น (สำหรับคนที่ใช้จริงๆ)
400 ม้า กับเบรค 1 pot พอไหม ?
ดูกันที่พื้นที่หน้าตัดครับ ใครเยอะก็วินไป ข้อดีอีกอย่างของเบรคหลาย Pot คือ มี Redundant เวลาบางสูบมันติด
บางคอมเม้นก็พวกอวย ICE เหมือนกันนะครับ
โลกไปถึงไหนกันแล้ว เห็นจะมีที่ชอบของใหม่มาติทุกอย่าง ฉันชินกับของเดิม ของเดิมดีที่สุด
ในหลายๆกระทู้
ตั้งแต่ EV หน้าจอ กระจกมองข้าง Digital
ไม่คิดจะเปิดใจ ก้าวเดินไปพร้อมโลกเลย
เหมือนเว็บบอร์ดที่ตกยุคไปแล้วเลยครับ
นิสัยของคนไทยคือไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงครับ
:-X อะไรที่ไม่เหมือนตัวเองเพียงนิดเดียวจะไม่เอาเลยถึงขั้นรังเกียจ แต่ไหนแต่ไรมาเลยแสดงออกในรูปแบบของการรังเกียจรถยี่ห้อรองว่าต้องไม่ดีต้องห่วย แต่มันก็เป็นหนามยอกใจมาหลายสิบปีไม่ตายสักที จนมายุคนี้มีรถไฟฟ้าจีนที่ยิ่งแตกต่างหนักกว่าที่เคยมีมาอีกเลยยิ่งสติกระเจิงกันไปใหญ่ ::)
-
ใช่ครับ แต่ถูกคำนวณมาให้ประสิทธิภาพการเบรคโดยรวมเท่ากันหรือดีกว่า ICE ด้วยซ้ำ
ดูตัวอย่างคลิปข้างบนก็ได้ครับ MG4 ที่มีคนแปะ
EV = Regen + Brake System
ICE = Engine Brake + Brake System
Tesla ปล่อยคันเร่งหมดคือหัวทิ่มเลย ยังไม่ต้องกดเบรค คิดว่าประสิทธิภาพมันดีขนาดไหน
ดูดหนักกว่า Engine brake เยอะ
เวลาฉุกเฉินก็เหยียบเบรคไปอีกก็ช่วยกันสองแรง
ทำไมต้องทำจานเซรามิคสำหรับ Very High performance ?
ขับแบบนี้ยังไงก็ต้องกดเบรค ถ้าต้องการ การควบคุมจุดเบรคที่แม่นยำ ดังนั้นเบรคก็รับโหลดมาก ร้อนมาก ชุดเซรามินจึงจำเป็น (สำหรับคนที่ใช้จริงๆ)
400 ม้า กับเบรค 1 pot พอไหม ?
ดูกันที่พื้นที่หน้าตัดครับ ใครเยอะก็วินไป ข้อดีอีกอย่างของเบรคหลาย Pot คือ มี Redundant เวลาบางสูบมันติด
บางคอมเม้นก็พวกอวย ICE เหมือนกันนะครับ
โลกไปถึงไหนกันแล้ว เห็นจะมีที่ชอบของใหม่มาติทุกอย่าง ฉันชินกับของเดิม ของเดิมดีที่สุด
ในหลายๆกระทู้
ตั้งแต่ EV หน้าจอ กระจกมองข้าง Digital
ไม่คิดจะเปิดใจ ก้าวเดินไปพร้อมโลกเลย
เหมือนเว็บบอร์ดที่ตกยุคไปแล้วเลยครับ
นิสัยของคนไทยคือไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงครับ
:-X อะไรที่ไม่เหมือนตัวเองเพียงนิดเดียวจะไม่เอาเลยถึงขั้นรังเกียจ แต่ไหนแต่ไรมาเลยแสดงออกในรูปแบบของการรังเกียจรถยี่ห้อรองว่าต้องไม่ดีต้องห่วย แต่มันก็เป็นหนามยอกใจมาหลายสิบปีไม่ตายสักที จนมายุคนี้มีรถไฟฟ้าจีนที่ยิ่งแตกต่างหนักกว่าที่เคยมีมาอีกเลยยิ่งสติกระเจิงกันไปใหญ่ ::)
นิสัยนี้ไทยเลยเจริญสุดได้แค่นี้ :'(
-
การหน่วงมันก็เหมือน engine เบรคของรถ ICE นั้นละครับ แต่มันเป็นระบบ regen ที่แรงดึง แรงเบรค จะเยอะกว่า
แต่การเบรค ก็คือ การเบรคครับ เพราะจังหวะที่ต้องเบรค ก็ต้องเบรค เพราะพึ่ง regen อาจจะเบรคไม่ทัน
จังหวะที่ต้องกระทืบ ก็ต้องกระทืบ ครับ
ถามว่า ใช้เบรคหน่อยกว่า รถ ICE ไหม ก็มีส่วน แต่ผมไม่ได้คิดว่า จำเป็นต้องเทียบกับ ICE หรอกครับ ผมเทียบกันตามน้ำหนักรถดีกว่า
แต่จังหวะที่ต้องเบรค ก็ต้องเบรค(ได้อยู่) สำหรับรถ 2 ตันกว่า ก็ต้องอยู่ ในระยะที่ต้องได้ เช่นกันครับ
-
ก็ต้องถามกลับว่า สถานการณ์ฉุกเฉิน ถ้ารถ ICE กับ EV วิ่งมาด้วยความเร็วเท่ากัน
แล้วระบบเบรคเหมือนกัน คุณว่าคันไหนใช้ระยะเบรคน้อยกว่ากัน
ระบบเบรคมันใช้ฉุกเฉินนะครับ ระดับ 1-2 วินาทีหรือน้อยกว่านี้ด้วยซ้ำ
เป็นผม ผมไม่มั่นใจที่จะใช้รถแบบนั้นเลย มีใช้แล้วไม่ได้ใช้ นั้นย่อมดีกว่าอยู่แล้วครับ
-
เบรก ลูกสูบเดียว ถ้าลูกสูบเบรก เขาใหญ่พอ ก็ใช้ได้ครับ
อย่าไปมองเรื่องเบรกดีๆจะต้องเป็นเบรกหลายๆลูกสูบอย่างเดียวครับ อยู่ที่พื้นที่หน้าตัดลูกสูบเบรกครับ ลูกเดียว แต่ลูกใหญ่ ก็ทำงานได้ผลเหมือนกันครับ
-
MG4 X power เห็นพี่แพนขับพีระ 2 รอบแล้วเบรคเฟดอะครับ
เทียบกับรถ ICE ที่ผ้าเบรคดีๆหน่อย ใช้คาลิเปอร์+จานเดิม ผมไปวิ่งที่พีระแบบเต็ม max ต่อเนื่องกัน 16 รอบ เบรคยังดีอยู่เลยครับ
แต่ในวันเดียวกันนั้นวิ่งไปรวมๆ 60รอบ+ ผ้าเบรคหมดครับ 5555
คือถ้าขับโหดๆยังไงมันก็ไม่พอ ควรอัพเพิ่ม เพราะมันต้องใช้เบรคตอนที่ต้อง เบรคคคคค!!!!!
เปลี่ยนผ้าเบรคที่ทนความร้อนหน่อยน่าจะจบครับ
แต่ถ้าขับธรรมดาในชีวิตประจำวันก็ได้อยู่ครับ ใช้ความเร็วปกติเบรคเหลือๆ เบรคสึกน้อยกว่ารถสันดาบจริง
ว่าแต่ MG4 X power นี่เขาขยายจานเบรคเพิ่มจากตัวธรรมดา แล้วได้ขยาบคาลิเปอร์ด้วยไหมครับ
ใครมีข้อมูลช่วยบอกหน่อยครับ :-*
-
ไม่จริงครับ ถ้าเมื่อเอาการหน่วงรีเจนกับเบรคเอามารวมกันแล้วบอกว่ามันเพียงพอ
คือรับประกันได้ทุกครั้งหรือเปล่าว่ามันทำงานพร้อมกัน?
มันก็จะลอจิคเดียวกับพวกเครื่องไฮบริด ที่ชอบเอากำลังแรงม้าเครื่องบวกกับมอเตอร์
มาลงในใบโฆษณากันแบบ 1+1 ก็คือเป็นไปเพื่อการโฆษณา
คำถามถัดมาคือแล้วการปรับตั้งค่าความหน่วงรีเจนคืออะไร?
ถ้าปรับจนไหลได้แล้วเบรคที่คำนวณการรีเจนไว้ก็แปลว่ากำลังเบรคขาดแล้วน่ะสิครับ?
ต่อให้ค่าการรีเจนมอเตอร์รถตลาดเท่าที่มีตอนนี้จะเยอะขนาดไหน
มันก็ไม่สามารถสร้าง pulse power กำลังห้ามล้อในเสี้ยวเวลาได้เทียบเท่าเบรคอยู่ดีครับ
ของเทสล่าน่าจะเพราะมาจากมอเตอร์ที่ใหญ่ทำให้การหน่วงได้เยอะ(และปรับเองไม่ได้)
จนใช้เป็นทางเลือกแทนการเบรคในบางสถานการณ์ แต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่าแทนการเบรคได้
รถยุคแรกของเทสล่าเหมือนไม่มีเบรค ให้ใช้แต่รีเจนแต่ก็เกิดการชนจนต้องมาทำเบรคอยู่ดี
-------
ยุคนี้คงต้องเริ่มมี label เพื่อแยกชนิดของรถอธิบายประกอบกัน
อย่างเป็นรถจ่ายกับข้าวที่เร่งได้เร็วนะ แต่ก็ไม่ควรจะขับแบบ performance ตามสเปคโรงงานอะไรทำนองนี้
ก็แค่หัวหมอแล้วเจอคำถามว่าเบรคเพียงพอหรือเปล่า
คำตอบนึงมันก็ตอบได้ว่าเพียงพอแต่ในสถานการณ์นี่ๆๆเท่านั้น
ไม่ได้ครอบคลุมสถานการณ์ส่วนใหญ่แน่นอน
ทั้งหมดทั้งมวลเป็นความคิดส่วนตัวของผมเท่านั้น โปรดใช้จักรยานในการอ่าน :-X
-
มวลมาก แรงบิดสูง
อัตราเร่งแรง
แต่เบรคไม่สอดคล้อง
ลดต้นทุน
ซตพ
-
เบรก ลูกสูบเดียว ถ้าลูกสูบเบรก เขาใหญ่พอ ก็ใช้ได้ครับ
อย่าไปมองเรื่องเบรกดีๆจะต้องเป็นเบรกหลายๆลูกสูบอย่างเดียวครับ อยู่ที่พื้นที่หน้าตัดลูกสูบเบรกครับ ลูกเดียว แต่ลูกใหญ่ ก็ทำงานได้ผลเหมือนกันครับ
1 ลูกสูบ 57 มม. VS 4 ลูกสูบ 28 มม. ผมเชื่อว่า หลายคนเลือก 4 ลูกครับ ::) ::) ::) ::)
-
1 ลูกสูบ 57 มม. VS 4 ลูกสูบ 28 มม. ผมเชื่อว่า หลายคนเลือก 4 ลูกครับ ::) ::) ::) ::)
จริงเลยครับ บ้านเรามักจะชอบแบบนั้นกัน
-
เบรคต้องดีมากกว่ารถน้ำมันอีกครับ
เพราะ EV น้ำหนักจะเยอะกว่า หลายร้อยกิโลอยู่ เกือบๆ 2 ตัน หรือ 2ตันกันทั้งนั้น ถ้าไม่ดีนี่ไหลๆแน่
และก็จะมีคนบางพวกที่เขาปิด Regen วิ่ง ทีนี้ละครับเบรกล้วนๆ ยังไงก็ต้องมีเบรคก็ยังจำเป็นมากครับ
ส่วนตัวผมหลังจากเปลี่่ยน CIVIC FE เป็นไฟฟ้า AION Y ผมขัดแบบซัดเต็ม เบรคเต็ม มุดสนุกมากครับ ใช้เบรคเยอะแน่นอน
แอบมุดไปดูจานเบรคของ AION Y มันก็ใหญ่กว่าของ CIVIC อีกนะครับ
-
อ่านในกลุ่ม EV มาตั้งแต่รถเปิดตัว ก็แซะเรื่องเบรคกันนี่แหละ ..
แต่พอไปดูรีวิว หลายๆสำนัก ก็ไม่มีใครบอกว่ามันเอาไม่อยู่สักเจ้า
โดยส่วนตัวผม ขนาดเบรคมันก็ส่วนนึง แต่ถ้าผ้าเบรคมันเป็นเกรดที่รองรับได้ผมว่าก็โอเคแหละ
-
ล่าสุดนี่ MG4 X power โดน Top Gear วิจารณ์ยับพอสมควร
โดยเฉพาะเรื่องเบรค ในคลิปนี่เบรคไฟลุกเลย
(นาทีที่ 4:00)
https://www.youtube.com/watch?v=weM8yGswfnE&t=240s