Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: solo ที่ พฤษภาคม 28, 2024, 11:47:57
-
รุ่นน้องบอกเจอประกาศขายรถไฟฟ้ามือสองราคาดีๆเต็มไปหมด แต่หาใครให้ไฟแนนซ์ไม่ได้ หรือต้องซื้อสดอย่างเดียว เพื่อนๆสมาชิกพอทราบไหมว่าที่ไหนจัดไฟแนนซ์ให้
-
รุ่นน้องบอกเจอประกาศขายรถไฟฟ้ามือสองราคาดีๆเต็มไปหมด แต่หาใครให้ไฟแนนซ์ไม่ได้ หรือต้องซื้อสดอย่างเดียว เพื่อนๆสมาชิกพอทราบไหมว่าที่ไหนจัดไฟแนนซ์ให้
ไม่มีครับ ...
มีเงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ กู้ได้ยินดีปล่อยทุกที่ ... แต่ใครจะดาวน์มือสอง 50% ล่ะจริงไหมครับ มันเลยเน่าอยู่ในเต้นท์นั่นไง ;D ;D
-
สรุปคือ ใครจะขายต่อรถ EV ตอนนี้ก็คงขายยากมากๆใช่ไหมครับ เพราะ ไฟแนนซ์รองรับไม่มี ปัจจัยซื้อสดก็น้อยมากๆ แย่เลย
-
^
^
ใช่ครับ ตอนนี้ถ้าขับไปขายตามเต้นท์หรือไปเทรินตามโชว์รูมเนี่ย แทบไม่มีใครรับเลย เพราะรับมาก็ขายต่อไม่ได้
ตอนนี้ เต้นท์ที่รถ EV ติดมืออยู่ มองกันไปถึงแยกชิ้นส่วนขายอะไหล่กันแล้วนะครับ ถ้าขายเป็นคันไม่ได้ ก็ถอดอะไหล่ขาย ส่งตามอู่ที่เค้าสั่งอะไหล่กับบริษัทฯไม่ได้หรือเบิกช้า
ตอนนี้รถ EV อุบัติเหตุเยอะมาก อะไหล่ไม่มี การแยกส่วนขาย เกิดขึ้นแน่ครับ ขาดทุนน้อย ดีกว่าไม่ได้เงินคืนเลย
-
คนซื้อไม่ศึกษาข้อมูลรถไฟฟ้า ข้อเสีย
1.ไฟแนนซ์ไม่รองรับ ภาษาชาวบ้านไฟแนนซ์คือไม่ปล่อย
2.เต๊นท์ไม่รับซื้อ บางเต๊นท์อาจไม่รับ แต่รวม ๆ ฮั้วกันมาก ๆ ก็ไม่คือรับ สุดท้ายก็รวมกันไม่มีใครรับซื้อ
3.อะไหล่ไม่มีซ่อม ไม่ว่าบริษัทใหญ่แค่ไหนก็ตาม พวกรอฝันว่าแบตเตอรี่อนาคตจะถูกลง กลับดูอนาคตรถไฟฟ้าไม่ออก
4. ไม่มีอู่ซ่อมรถอุบัติเหตุ บางอู่ปฏิเสธว่าไม่มีความรู้ มือไม่ถึง ที่จริงอู่ไม่ต้องการซ่อมหรือเหตุผลอื่น ๆ
-
ผมว่าถ้าตลาดมือ2 EV ไม่เกิด อนาคตตลาด EV น่าจะลำบากครับ
เพราะมันจะวนกลับมาที่ตลาดมือ1 ถ้าขายยากหรือราคาตกมากๆ
คันต่อไปบางคนเค้าอาจจะไม่เอาแล้วก็ได้ครับ
-
ผมว่าถ้าตลาดมือ2 EV ไม่เกิด อนาคตตลาด EV น่าจะลำบากครับ
เพราะมันจะวนกลับมาที่ตลาดมือ1 ถ้าขายยากหรือราคาตกมากๆ
คันต่อไปบางคนเค้าอาจจะไม่เอาแล้วก็ได้ครับ
เหมือนโดนทุบทิ้งทางอ้อม ที่จริงอย่างจีนก็เจอปัญหาแบบนี้รถเก่ากลายเป็นขยะไป
-
ถ้าไปเม้นท์แนวๆนี้ในกลุ่มรถ ev
จะโดนสาวกถล่มเละ ด้วยตรรกะ ซื้อมาขับ ไม่ได้ซื้อมาขาย
-
แบบนี้คือต้องซื้อเงินสดเท่านั้นใช่ไหมครับ
-
3.8วิก็คุ้มแล้วครับ ::) ::)
จะไปโง่จ่ายค่าน้ำมันทำไม
ซื้อมาขับ ไม่ได้เอาไว้ชน
ญี่ปุ่นกั๊ก ออปชั่น
เวลาคุยก็จะเจอประโยคประมาณนี้ครับ
-
สงสัยว่าทำไมไฟแนนซ์ไม่รับจัดครับ
-
เน้นซื้อ เน้นใช้ ไม่เน้นขาย ครับ ::)
บางคนที่ใช้รถไฟฟ้า เขาก็จะพูดเสียงดังๆ ว่า รถซื้อมาใช้ ไม่ได้ซื้อมาขาย เลยไม่คิดเรื่องขายต่อ
แต่การใช้รถ ก็ต้องมีจุดทีต้องลาจากกัน จะ 3 ปี 5 ปี 10 ปี ก็ว่ากัน น้อยคน และ น้อยคัน ที่จะอยู่กันยาวนานจนแทบร่วมหัวลงโรง ตายไปด้วยกัน
ณ ตอนนี้ ตลาดมือสองรถ ICE ก็ขายยาก เพราะคนหันไปซื้อรถ BEV กันเยอะ
พอตลาดรถมือสอง BEV ก็ขายยาก เพราะคนกลัว แถม หาไฟแนนซ์ยากอีกต่างหาก
ปล.รถ BEV บางคัน มือสอง ราคาแทบจะเท่ากับมือ1 มันจะขายได้ยังไง งง
-
เป็นไปตามที่ผมคิดเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่ามันคนละ scenario กันกับรถน้ำมัน
หลายคนเอามาผสมกันว่า ซื้อถูก ค่าพลังงานถูก ไม่มีชิ้นส่วนให้เสียค่าซ่อมบำรุง
แล้วเอาไปบวกกับการคิดว่าจะขายทิ้งก่อนแบตเสื่อม แล้วเอาเงินไปซื้อคันใหม่
เอาจริงๆ ผมเคยท้วงตั้งแต่คนที่บอกว่าไม่เอาไฮบริด ยุ่งยาก ซ่อม 2 ระบบ
แบตลูกละแสน 5 ปีเปลี่ยน รอไฟฟ้าไปเลยดีกว่า โดยไม่ได้คิดว่าถ้าแบตไฮบริด
ลูกกะติ๊ดเดียวเป็นแสน แล้วแบต EV ลูกเบ้อเร่อมันจะไม่หลายแสนเหรอ
สรุปคือ ซื้อมาใช้ ไม่ได้ซื้อมาขาย มัวแต่ยึดติดราคาขายต่อก็ใช้แบบเดิมๆ ไปครับ
-
เข้ามาศึกษาครับ
-
สงสัยว่าทำไมไฟแนนซ์ไม่รับจัดครับ
เท่าที่ผมเคยอ่านเคยฟังจากคนที่อยู่ในวงการซื้อขายรถยนต์มือสองนะครับ
ไม่แน่ใจถูกต้องตามนี้หรือไม่ หากไม่ถูกต้อง เพื่อนสมาชิกช่วยแก้ไขให้หน่อยนะครับ
หลักๆคือ ไฟแนนซ์ ต้องการกำไรจากดอกเบี้ยในการปล่อยเงินต้นให้กู้
หากผู้กู้ขาดส่งค่างวด ไฟแนนซ์ก็ยึดรถยนต์มาขาย
ไฟแนนซ์เค้าจะมีวิธีคิดคำนวณความเสี่ยงเพื่อไม่ให้ขาดทุนในกรณีต้องยึดรถมาขาย
ซึ่งรถตลาดทั่วๆไปที่ไม่ใช่รถไฟฟ้า สามารถประเมินราคารถมือสองรุ่นนั้นๆที่ร่วงลงแต่ละปีได้
แต่รถไฟฟ้า ราคามือสองตกลงเยอะ และไม่มีความแน่นอนว่าจะขายออกหรือไม่
ถ้าต้องยึดรถมาขาย แล้วขายไม่ออก หรือ ขายได้ราคาต่ำมากๆ ไฟแนนซ์ก็ขาดทุนในการปล่อยกู้รายนั้น
เหมือนที่เพื่อนสมาชิกหลายๆท่าน และ คุณ apinui บอกครับว่า
(เท่าที่ผมอ่านๆมา คุณ apinui มีความรู้และอยู่ในวงการซื้อขายรถครับ)
ไม่มีครับ ...
มีเงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ กู้ได้ยินดีปล่อยทุกที่ ... แต่ใครจะดาวน์มือสอง 50% ล่ะจริงไหมครับ มันเลยเน่าอยู่ในเต้นท์นั่นไง ;D ;D
^
^
ใช่ครับ ตอนนี้ถ้าขับไปขายตามเต้นท์หรือไปเทรินตามโชว์รูมเนี่ย แทบไม่มีใครรับเลย เพราะรับมาก็ขายต่อไม่ได้
ตอนนี้ เต้นท์ที่รถ EV ติดมืออยู่ มองกันไปถึงแยกชิ้นส่วนขายอะไหล่กันแล้วนะครับ ถ้าขายเป็นคันไม่ได้ ก็ถอดอะไหล่ขาย ส่งตามอู่ที่เค้าสั่งอะไหล่กับบริษัทฯไม่ได้หรือเบิกช้า
ตอนนี้รถ EV อุบัติเหตุเยอะมาก อะไหล่ไม่มี การแยกส่วนขาย เกิดขึ้นแน่ครับ ขาดทุนน้อย ดีกว่าไม่ได้เงินคืนเลย
คือ ถ้าตลาดมือสองของรถไฟฟ้า ยังไม่ดีและไม่มีความแน่นอนพอที่จะรองรับรถที่ไฟแนนซ์ยึดมาขายได้ ไฟแนนซ์ก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนถ้าต้องยึดรถมาขาย ไฟแนนซ์จึงไม่ปล่อยกู้ครับ
ที่เปรียบเทียบว่า “เงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ” ก็แสดงให้เห็นถึง ความเสี่ยงที่ไฟแนนซ์มองไว้ว่า รถไฟฟ้าจะขายได้ยากหรือขายได้ราคาน้อย จึงให้กู้แค่ 50% ของราคารถ เผื่อหากต้องยึดรถมาขาย เมื่อเอาราคาขาย รวมกับค่างวดที่ส่งมาบ้างแล้ว ไฟแนนซ์จะได้ไม่ขาดทุนครับ
-
ู^
^
ขอบคุณ คุณ marvel ครับ และก็ที่กล่าวมาถูกต้องเลย
ทีนี้เสริมอีกประเด็นที่ว่า ทำไมไฟแนนท์ไม่รับ
ยกตัวอย่างกลมๆ รถป้ายแดง EV คันนึงราคา 699,000 บาท ลูกค้าซื้อไปใช้ได้ 2 ปี ขายออกมา ราคาคันนั้นจะขายได้ ไม่เกิน 350,000บาท (ราคาประมาณการรับซื้อเฉลี่ยในปัจจุบันนะครับ)
เมื่อมีเต้นท์ซื้อมา เอามาขายต่อที่ราคา 4แสนถ้วน ... และต่อมา มีลูกค้ามาซื้อไปในราคานี้ และใช้ไปอีก 1 ปี และบังเอิน เกิดอุบัติเหตุ เข้าอู่ อู่ตีราคาซ่อม(หากโดนแบ็ต) 4แสน ทุนประกันไม่พอจ่าย ต้องคืนทุน และประกันภัยใหม่ปีนี้คุ้มครองแบ็ตเตอร์รี่ไม่ถึง 100% ด้วย
คำถาม เจ้าของรถจะเอาเงินที่ไหนมาซ่อม จ่ายส่วนต่างไม่ไหว สุดท้ายก็คืนรถ ปล่อยยึดหรืออื่นๆไป ..... ไฟแนนท์ปล่อยไปเจอเคสนี้ยังไงก็ขาดทุน ถึงเกิดไม่บ่อยแต่มีแน่ ดังนั้นใครจะเสี่ยง ...
ก็ประมาณนี้ ซึ่งนี่เป็นการยกตัวอย่างบางส่วนนะ จริงๆแล้วราคาแบ็ตก้อนเท่าไร เราทราบกันดีแล้ว แถมยังไม่รวมซ่อมอื่นๆค่าแรงอีก บางทีราคาซ่อมชนป้ายแดงเลยนะ
-
รถไฟฟ้า ต้องทำใจซื้อเหมือนซื้อมือถือครับ ใช้ๆไปหมดอายุก็ทิ้ง ... มันแบบนั้นจริงๆ
เอาจริงมันเลวร้ายมากไหม สำหรับคนมีเงินแทนที่จะซื้อ series 5 ใช้ 10 ปี ขาดทุนเกิน 2 ล้าน เทียบกับ Model Y ใช้ 10 ปี depreciated เหลือ 0 บาท โยนทิ้งได้ เสียเงินเท่ากัน ... ประมาณนี้ครับ ไม่ได้บอกว่าถูก แต่ต้องคิดให้ได้แบบนี้ถึงจะไม่เสียใจที่ซื้อ
ปล ผมยังทำใจแบบนั้นไม่ได้ ขอซื้อรถน้ำมันล้วนต่อไปก่อน
-
เวลาบอกว่า ใช้ไปจนหมดอายุการใช้งานแล้วก็ทิ้ง เหมือนมือถือ
อันนี้ผมสงสัยจริงๆว่า เวลาทิ้งรถที่หมดอายุเนี่ย มันทิ้งยังไงครับ?
-
เป็นไปตามที่ผมคิดเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่ามันคนละ scenario กันกับรถน้ำมัน
หลายคนเอามาผสมกันว่า ซื้อถูก ค่าพลังงานถูก ไม่มีชิ้นส่วนให้เสียค่าซ่อมบำรุง
แล้วเอาไปบวกกับการคิดว่าจะขายทิ้งก่อนแบตเสื่อม แล้วเอาเงินไปซื้อคันใหม่
เอาจริงๆ ผมเคยท้วงตั้งแต่คนที่บอกว่าไม่เอาไฮบริด ยุ่งยาก ซ่อม 2 ระบบ
แบตลูกละแสน 5 ปีเปลี่ยน รอไฟฟ้าไปเลยดีกว่า โดยไม่ได้คิดว่าถ้าแบตไฮบริด
ลูกกะติ๊ดเดียวเป็นแสน แล้วแบต EV ลูกเบ้อเร่อมันจะไม่หลายแสนเหรอ
สรุปคือ ซื้อมาใช้ ไม่ได้ซื้อมาขาย มัวแต่ยึดติดราคาขายต่อก็ใช้แบบเดิมๆ ไปครับ
รถ EV มันถึงไม่ได้เหมาะกับทุกคนไงครับ เพราะรวมแล้วถึงประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้ แต่ต้องแลกกับมูลค่ารถที่ลดลงมากๆ และค่าประกันที่มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต
แทบไม่มีใครนึกถึงเรื่องลดมลพิษจริงๆ
-
ู^
^
ขอบคุณ คุณ marvel ครับ และก็ที่กล่าวมาถูกต้องเลย
ทีนี้เสริมอีกประเด็นที่ว่า ทำไมไฟแนนท์ไม่รับ
ยกตัวอย่างกลมๆ รถป้ายแดง EV คันนึงราคา 699,000 บาท ลูกค้าซื้อไปใช้ได้ 2 ปี ขายออกมา ราคาคันนั้นจะขายได้ ไม่เกิน 350,000บาท (ราคาประมาณการรับซื้อเฉลี่ยในปัจจุบันนะครับ)
เมื่อมีเต้นท์ซื้อมา เอามาขายต่อที่ราคา 4แสนถ้วน ... และต่อมา มีลูกค้ามาซื้อไปในราคานี้ และใช้ไปอีก 1 ปี และบังเอิน เกิดอุบัติเหตุ เข้าอู่ อู่ตีราคาซ่อม(หากโดนแบ็ต) 4แสน ทุนประกันไม่พอจ่าย ต้องคืนทุน และประกันภัยใหม่ปีนี้คุ้มครองแบ็ตเตอร์รี่ไม่ถึง 100% ด้วย
คำถาม เจ้าของรถจะเอาเงินที่ไหนมาซ่อม จ่ายส่วนต่างไม่ไหว สุดท้ายก็คืนรถ ปล่อยยึดหรืออื่นๆไป ..... ไฟแนนท์ปล่อยไปเจอเคสนี้ยังไงก็ขาดทุน ถึงเกิดไม่บ่อยแต่มีแน่ ดังนั้นใครจะเสี่ยง ...
ก็ประมาณนี้ ซึ่งนี่เป็นการยกตัวอย่างบางส่วนนะ จริงๆแล้วราคาแบ็ตก้อนเท่าไร เราทราบกันดีแล้ว แถมยังไม่รวมซ่อมอื่นๆค่าแรงอีก บางทีราคาซ่อมชนป้ายแดงเลยนะ
ผมว่าอีกประเด็นนึงคือ ราคารถมือ1ลดกันมั่วซั่วมาก จนทำให้ประเมินราคามือ2ไม่ได้ บางคันรับซื้อมือ2มา พอตั้งราคาขายแล้วเจอมือ1ลดราคาพอดีอาจไปพอๆกันจนมันขายไม่ได้ สุดท้ายจึงตัดปัญหาไม่รับเลยดีกว่า
-
ค่าเปลี่ยนแบตลูกใหญ่EV ราคาครึ่งหนึ่งของราคารถยนต์ทั้งหมด
เป็นเหตุไม่รับขาย EV ใครจะขายรถ EV ทิ้ง โปรดขายกับเต็นท์รถมือสองที่ “ไว้ใจได้” มากที่สุด
ปล.ช่วงนี้ เหมือนเต็นท์รถมือสอง ค่อยๆปิดตัวลง และวันนี้ผมขับรถผ่านโชว์รูมมือสองชื่อดังย่านราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ เหมือนน่าจะปิดตัวลงไปเรียบร้อย
-
สงสัยว่าทำไมไฟแนนซ์ไม่รับจัดครับ
เท่าที่ผมเคยอ่านเคยฟังจากคนที่อยู่ในวงการซื้อขายรถยนต์มือสองนะครับ
ไม่แน่ใจถูกต้องตามนี้หรือไม่ หากไม่ถูกต้อง เพื่อนสมาชิกช่วยแก้ไขให้หน่อยนะครับ
หลักๆคือ ไฟแนนซ์ ต้องการกำไรจากดอกเบี้ยในการปล่อยเงินต้นให้กู้
หากผู้กู้ขาดส่งค่างวด ไฟแนนซ์ก็ยึดรถยนต์มาขายทอดตลาด
ไฟแนนซ์เค้าจะมีวิธีคิดคำนวณความเสี่ยงเพื่อไม่ให้ขาดทุนในกรณีต้องยึดรถมาขาย
ซึ่งรถตลาดทั่วๆไปที่ไม่ใช่รถไฟฟ้า สามารถประเมินราคารถมือสองรุ่นนั้นๆที่ร่วงลงแต่ละปีได้
แต่รถไฟฟ้า ราคามือสองตกลงเยอะ และไม่มีความแน่นอนว่าจะขายออกหรือไม่
ถ้าต้องยึดรถมาขาย แล้วขายไม่ออก หรือ ขายได้ราคาต่ำมากๆ ไฟแนนซ์ก็ขาดทุนในการปล่อยกู้รายนั้น
เหมือนที่เพื่อนสมาชิกหลายๆท่าน และ คุณ apinui บอกครับว่า
(เท่าที่ผมอ่านๆมา คุณ apinui มีความรู้และอยู่ในวงการซื้อขายรถครับ)
ไม่มีครับ ...
มีเงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ กู้ได้ยินดีปล่อยทุกที่ ... แต่ใครจะดาวน์มือสอง 50% ล่ะจริงไหมครับ มันเลยเน่าอยู่ในเต้นท์นั่นไง ;D ;D
^
^
ใช่ครับ ตอนนี้ถ้าขับไปขายตามเต้นท์หรือไปเทรินตามโชว์รูมเนี่ย แทบไม่มีใครรับเลย เพราะรับมาก็ขายต่อไม่ได้
ตอนนี้ เต้นท์ที่รถ EV ติดมืออยู่ มองกันไปถึงแยกชิ้นส่วนขายอะไหล่กันแล้วนะครับ ถ้าขายเป็นคันไม่ได้ ก็ถอดอะไหล่ขาย ส่งตามอู่ที่เค้าสั่งอะไหล่กับบริษัทฯไม่ได้หรือเบิกช้า
ตอนนี้รถ EV อุบัติเหตุเยอะมาก อะไหล่ไม่มี การแยกส่วนขาย เกิดขึ้นแน่ครับ ขาดทุนน้อย ดีกว่าไม่ได้เงินคืนเลย
คือ ถ้าตลาดมือสองของรถไฟฟ้า ยังไม่ดีและไม่มีความแน่นอนพอที่จะรองรับรถที่ไฟแนนซ์ยึดมาขายได้ ไฟแนนซ์ก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนถ้าต้องยึดรถมาขาย ไฟแนนซ์จึงไม่ปล่อยกู้ครับ
ที่เปรียบเทียบว่า “เงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ” ก็แสดงให้เห็นถึง ความเสี่ยงที่ไฟแนนซ์มองไว้ว่า รถไฟฟ้าจะขายได้ยากหรือขายได้ราคาน้อย จึงให้กู้แค่ 50% ของราคารถ เผื่อหากต้องยึดรถมาขาย เมื่อเอาราคาขายทอดตลาดรวมกับค่างวดที่ส่งมาบ้างแล้ว ไฟแนนซ์จะได้ไม่ขาดทุนครับ
ตอนแรกผมเข้าใจว่าถ้าไฟแนนซ์ยึดมาแล้ว เค้าน่าจะส่งฟ้องเอาส่วนต่างจากคนแรกได้อยู่นะครับ
-
สงสัยว่าทำไมไฟแนนซ์ไม่รับจัดครับ
เท่าที่ผมเคยอ่านเคยฟังจากคนที่อยู่ในวงการซื้อขายรถยนต์มือสองนะครับ
ไม่แน่ใจถูกต้องตามนี้หรือไม่ หากไม่ถูกต้อง เพื่อนสมาชิกช่วยแก้ไขให้หน่อยนะครับ
หลักๆคือ ไฟแนนซ์ ต้องการกำไรจากดอกเบี้ยในการปล่อยเงินต้นให้กู้
หากผู้กู้ขาดส่งค่างวด ไฟแนนซ์ก็ยึดรถยนต์มาขายทอดตลาด
ไฟแนนซ์เค้าจะมีวิธีคิดคำนวณความเสี่ยงเพื่อไม่ให้ขาดทุนในกรณีต้องยึดรถมาขาย
ซึ่งรถตลาดทั่วๆไปที่ไม่ใช่รถไฟฟ้า สามารถประเมินราคารถมือสองรุ่นนั้นๆที่ร่วงลงแต่ละปีได้
แต่รถไฟฟ้า ราคามือสองตกลงเยอะ และไม่มีความแน่นอนว่าจะขายออกหรือไม่
ถ้าต้องยึดรถมาขาย แล้วขายไม่ออก หรือ ขายได้ราคาต่ำมากๆ ไฟแนนซ์ก็ขาดทุนในการปล่อยกู้รายนั้น
เหมือนที่เพื่อนสมาชิกหลายๆท่าน และ คุณ apinui บอกครับว่า
(เท่าที่ผมอ่านๆมา คุณ apinui มีความรู้และอยู่ในวงการซื้อขายรถครับ)
ไม่มีครับ ...
มีเงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ กู้ได้ยินดีปล่อยทุกที่ ... แต่ใครจะดาวน์มือสอง 50% ล่ะจริงไหมครับ มันเลยเน่าอยู่ในเต้นท์นั่นไง ;D ;D
^
^
ใช่ครับ ตอนนี้ถ้าขับไปขายตามเต้นท์หรือไปเทรินตามโชว์รูมเนี่ย แทบไม่มีใครรับเลย เพราะรับมาก็ขายต่อไม่ได้
ตอนนี้ เต้นท์ที่รถ EV ติดมืออยู่ มองกันไปถึงแยกชิ้นส่วนขายอะไหล่กันแล้วนะครับ ถ้าขายเป็นคันไม่ได้ ก็ถอดอะไหล่ขาย ส่งตามอู่ที่เค้าสั่งอะไหล่กับบริษัทฯไม่ได้หรือเบิกช้า
ตอนนี้รถ EV อุบัติเหตุเยอะมาก อะไหล่ไม่มี การแยกส่วนขาย เกิดขึ้นแน่ครับ ขาดทุนน้อย ดีกว่าไม่ได้เงินคืนเลย
คือ ถ้าตลาดมือสองของรถไฟฟ้า ยังไม่ดีและไม่มีความแน่นอนพอที่จะรองรับรถที่ไฟแนนซ์ยึดมาขายได้ ไฟแนนซ์ก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนถ้าต้องยึดรถมาขาย ไฟแนนซ์จึงไม่ปล่อยกู้ครับ
ที่เปรียบเทียบว่า “เงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ” ก็แสดงให้เห็นถึง ความเสี่ยงที่ไฟแนนซ์มองไว้ว่า รถไฟฟ้าจะขายได้ยากหรือขายได้ราคาน้อย จึงให้กู้แค่ 50% ของราคารถ เผื่อหากต้องยึดรถมาขาย เมื่อเอาราคาขายทอดตลาดรวมกับค่างวดที่ส่งมาบ้างแล้ว ไฟแนนซ์จะได้ไม่ขาดทุนครับ
ตอนแรกผมเข้าใจว่าถ้าไฟแนนซ์ยึดมาแล้ว เค้าน่าจะส่งฟ้องเอาส่วนต่างจากคนแรกได้อยู่นะครับ
ถูกต้องตามที่คุณ imvile กล่าวครับ
ถ้าเป็นกระบวนการทางกฎหมาย หากยึดรถแล้วยังไม่ครอบคลุมหนี้นั้น ไฟแนนซ์ยังฟ้องในหนี้ที่เหลือได้ครับ
ขอบคุณ คุณ imvile ที่ช่วยเสริมให้ครับ
ผมไปมุ่งตอบเฉพาะในประเด็นว่าทำไมไฟแนนซ์ไม่รับจัด ตามที่เคยได้อ่านได้ฟังมา
ต้องขออภัยที่อธิบายไม่ครบจบกระบวนการครับ
ประเด็นว่า หากไฟแนนซ์ยังฟ้องในหนี้ที่เหลือได้ ทำไมไฟแนนซ์ไม่ปล่อยกู้
ข้างล่างนี่ผมวิเคราะห์+เดาเอานะครับ (ต้องรอผู้รู้มาบอกอีกที)
กระบวนการในการฟ้องคดีในหนี้ที่เหลือ มีขั้นตอนเพิ่มเติมทางศาล มีค่าใช้จ่าย ใช้เวลา และก็ไม่มีความแน่นอนว่าจะได้รับชำระหนี้เต็มจำนวนที่เหลือ ขึ้นอยู่กับตามสืบได้ว่า ณ ขณะนั้นลูกหนี้ตามคำพิพากษามีทรัพย์สินอื่นใดเหลืออยู่อีกหรือไม่ ขายทอดตลาดแล้วเพียงพอกับหนี้หรือไม่
ต่างจากการที่ไฟแนนซ์ยึดรถที่ขอกู้ เพราะรถเป็นกรรมสิทธิ์ของไฟแนนซ์ ผู้กู้เป็นผู้ครอบครอง ไฟแนนซ์สามารถยึดและขายได้โดยใช้เวลาและค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการดำเนินกระบวนการทางศาล
ไฟแนนซ์จึงให้ความสำคัญกับมูลค่าตัวรถหากมีกรณีต้องยึด เป็นหนึ่งในประเด็นในการพิจารณาให้กู้ครับ
-
สรุปว่าหลักๆ ที่ไฟแนนซ์ไม่รับจัดเพราะกลัวเคสรถพังแล้วคนส่งไม่มีเงินซ่อม พอปล่อยให้ยึด ค่าซ่อมท่วมยอดที่จัด ผมเข้าใจถูกไหมครับ
-
คนที่ซื้อไป
1.ซื้อไปเป็นของเล่น อันนี้ไม่น่าห่วง
2.ซื้อเพราะหลงเชื่อ io อันนี้น่าห่วงสุดๆ
เคยเม้นท์บางเพจว่า ญี่ปุ่นไม่ต้องเต้นตามหรอก กว่ารถไฟฟ้าจะเข้ารูปเข้ารอย น่าจะอีกนาน
-
สรุปว่าหลักๆ ที่ไฟแนนซ์ไม่รับจัดเพราะกลัวเคสรถพังแล้วคนส่งไม่มีเงินซ่อม พอปล่อยให้ยึด ค่าซ่อมท่วมยอดที่จัด ผมเข้าใจถูกไหมครับ
และกลัวกรณีที่คนส่งไม่มีเงินส่ง แล้วต้องยึดรถมาขาย แล้วขายได้ราคาน้อยกว่าจำนวนหนี้ที่ยังเหลือครับ
-
ถ้างั้นก็ซื้อมือหนึ่ง ดาว์นน้อยที่สุดผ่อนนานสุด 84 96 งวดได้ยิ่งดี (ไม่รู้มีเจ้าไหนปล่อยมั้ยนะ)
พอใช้ไปซัก 3-4 ปี อยากขาย ก็ขายเปลี่ยนสัญญา
-
มีกรณีนี้แล้วครับ ลองไปดูในคลับดอลฟิน มีคนซื้อรุ่นเริ่มต้น ผ่อน 84งวด แม้ว่าจะให้ฟรีไปผ่อนต่อ แต่เหลือตั้ง 80งวดรวมแล้วหนึ่งล้าน ปรากฏว่าไม่มีใครเอา
-
ถ้างั้นก็ซื้อมือหนึ่ง ดาว์นน้อยที่สุดผ่อนนานสุด 84 96 งวดได้ยิ่งดี (ไม่รู้มีเจ้าไหนปล่อยมั้ยนะ)
พอใช้ไปซัก 3-4 ปี อยากขาย ก็ขายเปลี่ยนสัญญา
อาจต้องแถมเงินให้เขาไปผ่อนต่อนะ
เคสรถน้ำมันเคยเห็นมาบ้างแล้ว
-
สงสัยว่าทำไมไฟแนนซ์ไม่รับจัดครับ
เท่าที่ผมเคยอ่านเคยฟังจากคนที่อยู่ในวงการซื้อขายรถยนต์มือสองนะครับ
ไม่แน่ใจถูกต้องตามนี้หรือไม่ หากไม่ถูกต้อง เพื่อนสมาชิกช่วยแก้ไขให้หน่อยนะครับ
หลักๆคือ ไฟแนนซ์ ต้องการกำไรจากดอกเบี้ยในการปล่อยเงินต้นให้กู้
หากผู้กู้ขาดส่งค่างวด ไฟแนนซ์ก็ยึดรถยนต์มาขายทอดตลาด
ไฟแนนซ์เค้าจะมีวิธีคิดคำนวณความเสี่ยงเพื่อไม่ให้ขาดทุนในกรณีต้องยึดรถมาขาย
ซึ่งรถตลาดทั่วๆไปที่ไม่ใช่รถไฟฟ้า สามารถประเมินราคารถมือสองรุ่นนั้นๆที่ร่วงลงแต่ละปีได้
แต่รถไฟฟ้า ราคามือสองตกลงเยอะ และไม่มีความแน่นอนว่าจะขายออกหรือไม่
ถ้าต้องยึดรถมาขาย แล้วขายไม่ออก หรือ ขายได้ราคาต่ำมากๆ ไฟแนนซ์ก็ขาดทุนในการปล่อยกู้รายนั้น
เหมือนที่เพื่อนสมาชิกหลายๆท่าน และ คุณ apinui บอกครับว่า
(เท่าที่ผมอ่านๆมา คุณ apinui มีความรู้และอยู่ในวงการซื้อขายรถครับ)
ไม่มีครับ ...
มีเงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ กู้ได้ยินดีปล่อยทุกที่ ... แต่ใครจะดาวน์มือสอง 50% ล่ะจริงไหมครับ มันเลยเน่าอยู่ในเต้นท์นั่นไง ;D ;D
^
^
ใช่ครับ ตอนนี้ถ้าขับไปขายตามเต้นท์หรือไปเทรินตามโชว์รูมเนี่ย แทบไม่มีใครรับเลย เพราะรับมาก็ขายต่อไม่ได้
ตอนนี้ เต้นท์ที่รถ EV ติดมืออยู่ มองกันไปถึงแยกชิ้นส่วนขายอะไหล่กันแล้วนะครับ ถ้าขายเป็นคันไม่ได้ ก็ถอดอะไหล่ขาย ส่งตามอู่ที่เค้าสั่งอะไหล่กับบริษัทฯไม่ได้หรือเบิกช้า
ตอนนี้รถ EV อุบัติเหตุเยอะมาก อะไหล่ไม่มี การแยกส่วนขาย เกิดขึ้นแน่ครับ ขาดทุนน้อย ดีกว่าไม่ได้เงินคืนเลย
คือ ถ้าตลาดมือสองของรถไฟฟ้า ยังไม่ดีและไม่มีความแน่นอนพอที่จะรองรับรถที่ไฟแนนซ์ยึดมาขายได้ ไฟแนนซ์ก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนถ้าต้องยึดรถมาขาย ไฟแนนซ์จึงไม่ปล่อยกู้ครับ
ที่เปรียบเทียบว่า “เงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ” ก็แสดงให้เห็นถึง ความเสี่ยงที่ไฟแนนซ์มองไว้ว่า รถไฟฟ้าจะขายได้ยากหรือขายได้ราคาน้อย จึงให้กู้แค่ 50% ของราคารถ เผื่อหากต้องยึดรถมาขาย เมื่อเอาราคาขายทอดตลาดรวมกับค่างวดที่ส่งมาบ้างแล้ว ไฟแนนซ์จะได้ไม่ขาดทุนครับ
ตอนแรกผมเข้าใจว่าถ้าไฟแนนซ์ยึดมาแล้ว เค้าน่าจะส่งฟ้องเอาส่วนต่างจากคนแรกได้อยู่นะครับ
ขออนุญาติตอบจากประสปการณ์ตรงครับ
ฟ้องเอาส่วนต่างยากครับ ยิ่งสมัยนี้ยิ่งยาก
ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยคืนรถให้ไฟแนนซ์เพราะไปต่อไม่ไหวจริงๆ โดนพิษ ศก.
หากไม่สุดทางจริงๆ ผมไม่ปล่อยรถไปแน่ๆครับ เพราะผมรักรถมาก
1. คนที่คืนรถ หรือโดนยึดส่วนมากหมดทางไปแล้วครับ ไม่เหลืออะไรให้สืบยึด หรือไม่มีจะมาจ่ายส่วนต่าง
*จากที่สังเกตุวันที่ไปศาล
2. หากเราคืนรถโดยไม่ผิดสัญญา (ไม่ค้างชำระ) เหมือนจะไม่สามารถฟ้องเอาส่วนต่างได้ครับ สามารถสู้คดีได้เลยที่ศาล
*ข้อนี้ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่ครับ ทนายที่บริษัทเคยแนะนำมา แต่ผมค้างชำระไปมากแล้ว
-
ผมห่วงรถกะบะมือหนึ่งมากกว่า เข้มไม่ปล่อย ลำบากสำหรับคนบางกลุ่ม
-
สงสัยว่าทำไมไฟแนนซ์ไม่รับจัดครับ
เท่าที่ผมเคยอ่านเคยฟังจากคนที่อยู่ในวงการซื้อขายรถยนต์มือสองนะครับ
ไม่แน่ใจถูกต้องตามนี้หรือไม่ หากไม่ถูกต้อง เพื่อนสมาชิกช่วยแก้ไขให้หน่อยนะครับ
หลักๆคือ ไฟแนนซ์ ต้องการกำไรจากดอกเบี้ยในการปล่อยเงินต้นให้กู้
หากผู้กู้ขาดส่งค่างวด ไฟแนนซ์ก็ยึดรถยนต์มาขายทอดตลาด
ไฟแนนซ์เค้าจะมีวิธีคิดคำนวณความเสี่ยงเพื่อไม่ให้ขาดทุนในกรณีต้องยึดรถมาขาย
ซึ่งรถตลาดทั่วๆไปที่ไม่ใช่รถไฟฟ้า สามารถประเมินราคารถมือสองรุ่นนั้นๆที่ร่วงลงแต่ละปีได้
แต่รถไฟฟ้า ราคามือสองตกลงเยอะ และไม่มีความแน่นอนว่าจะขายออกหรือไม่
ถ้าต้องยึดรถมาขาย แล้วขายไม่ออก หรือ ขายได้ราคาต่ำมากๆ ไฟแนนซ์ก็ขาดทุนในการปล่อยกู้รายนั้น
เหมือนที่เพื่อนสมาชิกหลายๆท่าน และ คุณ apinui บอกครับว่า
(เท่าที่ผมอ่านๆมา คุณ apinui มีความรู้และอยู่ในวงการซื้อขายรถครับ)
ไม่มีครับ ...
มีเงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ กู้ได้ยินดีปล่อยทุกที่ ... แต่ใครจะดาวน์มือสอง 50% ล่ะจริงไหมครับ มันเลยเน่าอยู่ในเต้นท์นั่นไง ;D ;D
^
^
ใช่ครับ ตอนนี้ถ้าขับไปขายตามเต้นท์หรือไปเทรินตามโชว์รูมเนี่ย แทบไม่มีใครรับเลย เพราะรับมาก็ขายต่อไม่ได้
ตอนนี้ เต้นท์ที่รถ EV ติดมืออยู่ มองกันไปถึงแยกชิ้นส่วนขายอะไหล่กันแล้วนะครับ ถ้าขายเป็นคันไม่ได้ ก็ถอดอะไหล่ขาย ส่งตามอู่ที่เค้าสั่งอะไหล่กับบริษัทฯไม่ได้หรือเบิกช้า
ตอนนี้รถ EV อุบัติเหตุเยอะมาก อะไหล่ไม่มี การแยกส่วนขาย เกิดขึ้นแน่ครับ ขาดทุนน้อย ดีกว่าไม่ได้เงินคืนเลย
คือ ถ้าตลาดมือสองของรถไฟฟ้า ยังไม่ดีและไม่มีความแน่นอนพอที่จะรองรับรถที่ไฟแนนซ์ยึดมาขายได้ ไฟแนนซ์ก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนถ้าต้องยึดรถมาขาย ไฟแนนซ์จึงไม่ปล่อยกู้ครับ
ที่เปรียบเทียบว่า “เงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ” ก็แสดงให้เห็นถึง ความเสี่ยงที่ไฟแนนซ์มองไว้ว่า รถไฟฟ้าจะขายได้ยากหรือขายได้ราคาน้อย จึงให้กู้แค่ 50% ของราคารถ เผื่อหากต้องยึดรถมาขาย เมื่อเอาราคาขายทอดตลาดรวมกับค่างวดที่ส่งมาบ้างแล้ว ไฟแนนซ์จะได้ไม่ขาดทุนครับ
ตอนแรกผมเข้าใจว่าถ้าไฟแนนซ์ยึดมาแล้ว เค้าน่าจะส่งฟ้องเอาส่วนต่างจากคนแรกได้อยู่นะครับ
ขออนุญาติตอบจากประสปการณ์ตรงครับ
ฟ้องเอาส่วนต่างยากครับ ยิ่งสมัยนี้ยิ่งยาก
ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยคืนรถให้ไฟแนนซ์เพราะไปต่อไม่ไหวจริงๆ โดนพิษ ศก.
หากไม่สุดทางจริงๆ ผมไม่ปล่อยรถไปแน่ๆครับ เพราะผมรักรถมาก
1. คนที่คืนรถ หรือโดนยึดส่วนมากหมดทางไปแล้วครับ ไม่เหลืออะไรให้สืบยึด หรือไม่มีจะมาจ่ายส่วนต่าง
*จากที่สังเกตุวันที่ไปศาล
2. หากเราคืนรถโดยไม่ผิดสัญญา (ไม่ค้างชำระ) เหมือนจะไม่สามารถฟ้องเอาส่วนต่างได้ครับ สามารถสู้คดีได้เลยที่ศาล
*ข้อนี้ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่ครับ ทนายที่บริษัทเคยแนะนำมา แต่ผมค้างชำระไปมากแล้ว
เท่าที่ผมเคยอ่านมา ประเด็นมันอยู่ที่ไฟแนนซ์รับคืนรถหรือไม่นะครับ
ถ้าเขาไม่รับคืน เราก็บังคับไม่ได้ มันเป็นการตกลงสิ้นสุดสัญญาด้วยความยินยอมทั้งสองฝ่าย
(ถ้าเข้าใจผิดช่วยแก้ด้วยครับ)
และผมคิดว่าการที่ไฟแนนส์จะรับหรือไม่รับ มันก็พิจารณาจากมูลหนี้ที่เหลือ
เทียบกับมูลค่าตัวรถจริงตามสภาพของตัวรถและราคาตลาดด้วยครับ
-
สงสัยว่าทำไมไฟแนนซ์ไม่รับจัดครับ
เท่าที่ผมเคยอ่านเคยฟังจากคนที่อยู่ในวงการซื้อขายรถยนต์มือสองนะครับ
ไม่แน่ใจถูกต้องตามนี้หรือไม่ หากไม่ถูกต้อง เพื่อนสมาชิกช่วยแก้ไขให้หน่อยนะครับ
หลักๆคือ ไฟแนนซ์ ต้องการกำไรจากดอกเบี้ยในการปล่อยเงินต้นให้กู้
หากผู้กู้ขาดส่งค่างวด ไฟแนนซ์ก็ยึดรถยนต์มาขายทอดตลาด
ไฟแนนซ์เค้าจะมีวิธีคิดคำนวณความเสี่ยงเพื่อไม่ให้ขาดทุนในกรณีต้องยึดรถมาขาย
ซึ่งรถตลาดทั่วๆไปที่ไม่ใช่รถไฟฟ้า สามารถประเมินราคารถมือสองรุ่นนั้นๆที่ร่วงลงแต่ละปีได้
แต่รถไฟฟ้า ราคามือสองตกลงเยอะ และไม่มีความแน่นอนว่าจะขายออกหรือไม่
ถ้าต้องยึดรถมาขาย แล้วขายไม่ออก หรือ ขายได้ราคาต่ำมากๆ ไฟแนนซ์ก็ขาดทุนในการปล่อยกู้รายนั้น
เหมือนที่เพื่อนสมาชิกหลายๆท่าน และ คุณ apinui บอกครับว่า
(เท่าที่ผมอ่านๆมา คุณ apinui มีความรู้และอยู่ในวงการซื้อขายรถครับ)
ไม่มีครับ ...
มีเงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ กู้ได้ยินดีปล่อยทุกที่ ... แต่ใครจะดาวน์มือสอง 50% ล่ะจริงไหมครับ มันเลยเน่าอยู่ในเต้นท์นั่นไง ;D ;D
^
^
ใช่ครับ ตอนนี้ถ้าขับไปขายตามเต้นท์หรือไปเทรินตามโชว์รูมเนี่ย แทบไม่มีใครรับเลย เพราะรับมาก็ขายต่อไม่ได้
ตอนนี้ เต้นท์ที่รถ EV ติดมืออยู่ มองกันไปถึงแยกชิ้นส่วนขายอะไหล่กันแล้วนะครับ ถ้าขายเป็นคันไม่ได้ ก็ถอดอะไหล่ขาย ส่งตามอู่ที่เค้าสั่งอะไหล่กับบริษัทฯไม่ได้หรือเบิกช้า
ตอนนี้รถ EV อุบัติเหตุเยอะมาก อะไหล่ไม่มี การแยกส่วนขาย เกิดขึ้นแน่ครับ ขาดทุนน้อย ดีกว่าไม่ได้เงินคืนเลย
คือ ถ้าตลาดมือสองของรถไฟฟ้า ยังไม่ดีและไม่มีความแน่นอนพอที่จะรองรับรถที่ไฟแนนซ์ยึดมาขายได้ ไฟแนนซ์ก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนถ้าต้องยึดรถมาขาย ไฟแนนซ์จึงไม่ปล่อยกู้ครับ
ที่เปรียบเทียบว่า “เงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ” ก็แสดงให้เห็นถึง ความเสี่ยงที่ไฟแนนซ์มองไว้ว่า รถไฟฟ้าจะขายได้ยากหรือขายได้ราคาน้อย จึงให้กู้แค่ 50% ของราคารถ เผื่อหากต้องยึดรถมาขาย เมื่อเอาราคาขายทอดตลาดรวมกับค่างวดที่ส่งมาบ้างแล้ว ไฟแนนซ์จะได้ไม่ขาดทุนครับ
ตอนแรกผมเข้าใจว่าถ้าไฟแนนซ์ยึดมาแล้ว เค้าน่าจะส่งฟ้องเอาส่วนต่างจากคนแรกได้อยู่นะครับ
ถ้าเป็นรถยนต์ทั่วไปก็เป็นดังนั้นครับ แต่ EV ไม่ใช่ ..
ทำไมไม่ใช่ ... ก็เพราะว่าตอนนี้ยึดรถ EV มา ประมูลขาย แล้วไม่มีใครยก ไม่มีใครประมูลไงครับ ..
พอประมูลไม่ได้ ก็ปิดเคสไม่ได้ และก็เอามาประมูลวนไป วนไป วนไป ไม่มีใครรับ ... ฟ้องไม่ได้ เพราะไม่ทราบยอดส่วนต่างที่จะฟ้อง
นอกจากว่าจะดวงดี มีบุคคลทั่วไปเป็นคนมาประมุลไปใช้เอง ก็ได้ปิดเคส .. แต่จะมีแบบนี้สักกี่คนล่ะ จริงไหม ...
-
คนที่ซื้อไป
1.ซื้อไปเป็นของเล่น อันนี้ไม่น่าห่วง
2.ซื้อเพราะหลงเชื่อ io อันนี้น่าห่วงสุดๆ
เคยเม้นท์บางเพจว่า ญี่ปุ่นไม่ต้องเต้นตามหรอก กว่ารถไฟฟ้าจะเข้ารูปเข้ารอย น่าจะอีกนาน
นั่นละบางคนไปเชื่อความเห็นส่วนตัวในเวปช่องทางสื่อโชเซี่ยล หรือเชื่อ IO ในเวป ทั้งที่คนเขียนข้อความเป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้น ไม่ได้รู้จริงเรื่องรถยนต์ตลาด หรือแบตเตอรี่รถ EV แต่อย่างใด เค้าเขียนจากความเห็นส่วนตัวไม่ใช่เขียนจากข้อมูลจริง บางคน แค่เห็นปั่นข่าวในเนตว่าอนาคตราคาแบตจะถูกลงก็เชื่อแล้วหลงไปซื้อรถ EV กัน โดยที่ตัวเองยังไม่พร้อม
-
ถ้างั้นก็ซื้อมือหนึ่ง ดาว์นน้อยที่สุดผ่อนนานสุด 84 96 งวดได้ยิ่งดี (ไม่รู้มีเจ้าไหนปล่อยมั้ยนะ)
พอใช้ไปซัก 3-4 ปี อยากขาย ก็ขายเปลี่ยนสัญญา
อาจต้องแถมเงินให้เขาไปผ่อนต่อนะ
เคสรถน้ำมันเคยเห็นมาบ้างแล้ว
ใช้ไป 3-4 ปี แสดงว่าผ่อนมาแล้วครึ่งทาง
รถ 3-4 ปี ราคาจะตกเกินครึ่งหรอครับ
เคสรถน้ำมันส่วนใหญ่ที่เห็นคือมือ 3-4 จัดไฟแนนซ์มาหลายรอบแล้ว ไม่ก็มือ 2 ผ่อนบอลลูน
มูลค่ารถ ณ ตอนขาย หักจากยอดที่ติดไฟแนนซ์อยู่มันเลยติดลบ
-
มีกรณีนี้แล้วครับ ลองไปดูในคลับดอลฟิน มีคนซื้อรุ่นเริ่มต้น ผ่อน 84งวด แม้ว่าจะให้ฟรีไปผ่อนต่อ แต่เหลือตั้ง 80งวดรวมแล้วหนึ่งล้าน ปรากฏว่าไม่มีใครเอา
ไม่ต้องรถไฟฟ้าหรอกครับ
รถน้ำมันก็เป็น ออกมาสี่เดือนใครจะไปเอาครับถ้าดาว์นแค่ 15-20%
-
ถ้างั้นก็ซื้อมือหนึ่ง ดาว์นน้อยที่สุดผ่อนนานสุด 84 96 งวดได้ยิ่งดี (ไม่รู้มีเจ้าไหนปล่อยมั้ยนะ)
พอใช้ไปซัก 3-4 ปี อยากขาย ก็ขายเปลี่ยนสัญญา
อาจต้องแถมเงินให้เขาไปผ่อนต่อนะ
เคสรถน้ำมันเคยเห็นมาบ้างแล้ว
ใช้ไป 3-4 ปี แสดงว่าผ่อนมาแล้วครึ่งทาง
รถ 3-4 ปี ราคาจะตกเกินครึ่งหรอครับ
เคสรถน้ำมันส่วนใหญ่ที่เห็นคือมือ 3-4 จัดไฟแนนซ์มาหลายรอบแล้ว ไม่ก็มือ 2 ผ่อนบอลลูน
มูลค่ารถ ณ ตอนขาย หักจากยอดที่ติดไฟแนนซ์อยู่มันเลยติดลบ
มีนะครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สมมติรถราคาล้าน ดาวน์น้อยๆ ผ่อนนานๆ มันไม่ใช่เอาราคารถมาหาร 84 นะครับ
ผมตีให้ เบาะๆเลยดอก 3% แล้วกัน รวมๆ 7 ปี ก็ปาไป 2 แสนนะครับ
แล้วรถที่เขาซื้อขายจริงๆล่ะ???
ทำวิธีนี้ขาดทุนเพราะดอกเบี้ยเต็มๆเลย
-
ชั่วโมงนี้ เป็นชั่วของการซื้อรถเงินสดครับ ได้ถูกๆดีๆสดๆใหม่ๆแทบทุกยี่ห้อทุกรุ่น
ไฟแนนท์หรือสถาบันการเงินเจ้าไหน เวลานี้ ไม่ได้สนใจว่า จะเป็น ev หรือน้ำมันหรอกครับ เครดิตไม่ดีจริง เขาไม่ปล่อยให้แน่นอน ยอดยึดมันเยอะและโตไม่หยุด ขาดทุนกันถ้วนหน้าทุกที่ ไหนจะฟ้องคดี เอาค่าส่วนต่างอีก ซึ่งต้องเสียเวลาและต้องใช้ทุน
-
เวลาบอกว่า ใช้ไปจนหมดอายุการใช้งานแล้วก็ทิ้ง เหมือนมือถือ
อันนี้ผมสงสัยจริงๆว่า เวลาทิ้งรถที่หมดอายุเนี่ย มันทิ้งยังไงครับ?
เอาไปรีไซเคิลได้ครับ
เหมือนโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์ IT ต่างๆ ก็เอาไปแยกชิ้นส่วน รีไซเคิลได้
-
คนที่รู้จักที่ตอนแรกวางแผนว่าซื้อรถไฟฟ้ามาเพื่อประหยัดค่าน้ำมัน ก็เริ่มมีบ่นๆเหมือนว่า ประหยัดค่าน้ำมันจริง แต่ค่าผ่อนก็เยอะกว่าค่าน้ำมันที่เคยจ่าย
เคยจ่ายค่าน้ำมันเดือนละ 4,000
แต่ปัจจุบันผ่อนรถอีก 10,000
-
คนที่รู้จักที่ตอนแรกวางแผนว่าซื้อรถไฟฟ้ามาเพื่อประหยัดค่าน้ำมัน ก็เริ่มมีบ่นๆเหมือนว่า ประหยัดค่าน้ำมันจริง แต่ค่าผ่อนก็เยอะกว่าค่าน้ำมันที่เคยจ่าย
เคยจ่ายค่าน้ำมันเดือนละ 4,000
แต่ปัจจุบันผ่อนรถอีก 10,000
แปลกแล้วตอนซื้อไม่คำณวนเรื่องพวกนี้ก่อนเหรอ
-
สอบถามเพิ่มครับ ถ้า EV ดูแล้วไม่เข้าท่า งั้น Hybrid หละครับ พอมีอนาคตไหม
-
สอบถามเพิ่มครับ ถ้า EV ดูแล้วไม่เข้าท่า งั้น Hybrid หละครับ พอมีอนาคตไหม
Hybrid ก็ไปได้เรื่อยๆ
ผมเคยตาม Alphard Hybrid สภาพนางฟ้า ซื้อไม่ค่อยทันเขาหรอก ลงปุ๊บหมดปั๊บ
ส่วนที่ยังคาๆอยู่ก็ประเภทวิ่ง 2-3 แสนอะไรงี้
Hybrid ที่แย่สุดไม่ใช่เรื่องแบตด้วยซ้ำ แต่เป็น inverter แต่ก็อีก มีอู้ซ่อมกันแล้ว อีกหน่อยรถไฟฟ้าก็ต้องมาใช้บริการอู่ซ่อม inverter เหมือยกันแหละ
-
ที่บอกไฟแนนซ์ไม่รับจัดรถไฟฟ้ามือสองทุกยีห้อเลยเหรอครับทำไมถึงไม่ได้ยินข่าวเรื่องนี้เลย รถมือสองไฟฟ้าผมก็เห็นทั้งคนทั่วไปเต้นรถเค้าก็โพสต์ขายทั้งรถจีนรถยุโรปอยู่นะครับ ที่ผมได้ยินมามีไฟแนนซ์ไม่รับรีไฟแนนซ์รถไฟฟ้า
-
ตอนนี้ก้มีหลายอู่ ที่มีความถนัด ทั้งซ่อมรถ และทำโซลล่าเซลล์
เช่น ดอลฟินชนมา กระเทือนแบต > ซ่อมไม่คุ้ม > ซื้อมายกคัน
เปิดแบต เอาส่วนที่เสียหายออก ประกอบกลับ เอาแบตไปใช้กับระบบโซล่าเซลล์
เห็นชุดโซล่า 15K + แบต ดอลฟิน ก็ไป 650,000 บาท (เหมาะกับโรงงาน)
มอเตอร์ก็ถอดออก ติดตั้งแทนรถน้ำมันได้ เห็น วีโก้หลายคันละ
ถ้ามีอู่ หรือบริษัทเชิงพาณิชย์ทำแบบนี้ได้เป็นจริงเป็นจัง ราคามือสองมันไม่เป็น 0 แน่ๆ
-
แบบนี้ต้องซื้อรถไฟฟ้ามือสองสภาพนางฟ้ามาใช้สักคัน
-
ผมว่าคันนี้เลย
https://www.facebook.com/marketplace/item/6714140072022000/?ref=search&referral_code=null&referral_story_type=post&tracking=browse_serp%3Af46166bd-4569-45a5-a555-8b9820c8be58
-
ตอนนี้ก้มีหลายอู่ ที่มีความถนัด ทั้งซ่อมรถ และทำโซลล่าเซลล์
เช่น ดอลฟินชนมา กระเทือนแบต > ซ่อมไม่คุ้ม > ซื้อมายกคัน
เปิดแบต เอาส่วนที่เสียหายออก ประกอบกลับ เอาแบตไปใช้กับระบบโซล่าเซลล์
เห็นชุดโซล่า 15K + แบต ดอลฟิน ก็ไป 650,000 บาท (เหมาะกับโรงงาน)
มอเตอร์ก็ถอดออก ติดตั้งแทนรถน้ำมันได้ เห็น วีโก้หลายคันละ
ถ้ามีอู่ หรือบริษัทเชิงพาณิชย์ทำแบบนี้ได้เป็นจริงเป็นจัง ราคามือสองมันไม่เป็น 0 แน่ๆ
ผมก็เห็นว่ามันเป็นประเด็นของความเสี่ยงจากไม่มีราคาประเมินแบต (หรือมีก็ยังเป็นราคาแบตห้าง) ซึ่งจริงๆแล้ว ecosystem ของแบต ev มันยังไม่สมบูรณ์ (ไม่เหมือนการ overhaul เครื่องหรือเกียร์รถสันดาป) เมื่อไหร่อายุรถเข้าสู่จุดที่ต้องเปิด battery pack มาวิเคราะห์เปลี่ยนเซลล์แบต ตอนนั้นคงมีราคาที่ไฟแนนซ์เอาไปทำ business case กันต่อได้
-
คิดว่าอนาคตน่าจะดีขึ้นนะครับ
ตอนนี้เหมือนมันเป็นอะไรที่ใหม่ และยังไม่รู้ว่าคชจ.ในการซ่อมบำรุงหลังหมดประกันจะเป็นยังไง ราคาขายต่อจะอยู๋ประมาณไหน
ตัวรถไฟฟ้าที่มีอายุหน่อยก็เป็น MG ZS EV ที่ตัวแบรนเองราคาก็ร่วงกระจาย พอเป็น ev อีก หายไป 50% ภายใน 2 ปีเลย
ยังมีเคสของ ora/byd ที่ชนโดนฝาครอบแบต พอเคลมประกันเบี้ยศูนย์ ศูนย์ก็จับเปลี่ยนยกลูก ซึ่งจุดนี้ คิดว่าถ้าเบี้ยอู่ แล้วมีอู่ที่จัดการเรื่องแบตได้ น่าจะเป็นการเปิดแบต เปลี่ยนเฉพาะเซล หรือครอบมากกว่า. กับร้านที่แปลงแบตรถ ไปใช้กับ Solar Cell อีก
คิดว่าถ้ามีความต้องการในตลาดอยู่ยังไง ไฟแนนซ์ก็อยากรับครับ
-
คนที่รู้จักที่ตอนแรกวางแผนว่าซื้อรถไฟฟ้ามาเพื่อประหยัดค่าน้ำมัน ก็เริ่มมีบ่นๆเหมือนว่า ประหยัดค่าน้ำมันจริง แต่ค่าผ่อนก็เยอะกว่าค่าน้ำมันที่เคยจ่าย
เคยจ่ายค่าน้ำมันเดือนละ 4,000
แต่ปัจจุบันผ่อนรถอีก 10,000
แปลกแล้วตอนซื้อไม่คำณวนเรื่องพวกนี้ก่อนเหรอ
จากที่เคยคุยก่อนจะซื้อ ไม่ได้คำนวณแบบจริงจัง ความต้องการเขาคือว่าเสียดายเงินที่ต้องจ่ายค่าน้ำมัน ไม่อยากต้องจ่ายค่าน้ำมันเดือนละหลายพันแล้วและไม่ต้องเสียค่าดูแลเยอะ บวกกับความอยากได้
ซึ่งก่อนจะซื้อผมก็ลองคำนวณให้เขาแล้วว่ารายจ่ายต่อเดือนมันเพิ่มขึ้น ไม่ได้ลดลงนะ แต่ก็ได้คำตอบกลับว่ารถไฟฟ้ามันประหยัดและไม่อยากจ่ายค่าน้ำมันแล้ว
-
ผมเข้าไปดูใน google และ facebook ที่เขาประกาศขาย ดูราคาแล้ว
รู้สึกว่าไม่ถูกไม่น่าสนใจเลย
-
ผมว่าคันนี้เลย
https://www.facebook.com/marketplace/item/6714140072022000/?ref=search&referral_code=null&referral_story_type=post&tracking=browse_serp%3Af46166bd-4569-45a5-a555-8b9820c8be58
ขอบคุณครับ
คันนี้ประกาศขาย 750000
ลดเหลือ 700000
ป้ายแดง800000
ก็ถือว่าธรรมดานะครับ
พอๆกับรถน้ำมัน
-
ถ้าราคารถไฟฟ้ามือสอง
ตามที่ผมเข้าไปดู
ราคาลดลงขนาดนี้
ผมว่าซื้อป้ายแดงคุ้มกว่า
-
รถราคา 8แสน
ใช้ไป 1 ปี
ขาดทุน 100,000 บาท
ผมว่าธรรมดามากนะครับ
-
ผมว่ารถไฟฟ้าตอนนี้มันยังไม่นิ่งครับ
สักพักตลาดปรับตัวได้การซื้อขายมือสองจะเกิดขึ้นเอง
แน่นอนว่าราคาคงจะไม่เท่ามือ2รถน้ำมัน แต่ยังไงๆเมื่อฝุ่นหายตลบ ตลาดจะเดินไปได้เอง
ปัญหาคือรถไฟฟ้ามือ1 มันยังไม่นิ่งเหมือนกัน ต่อไปราคาจะถูกลงอีก และเทคโนโลยีดีกว่ามาใหม่ๆตลอดเวลา
เป็นอย่างนี้มันจะไปกระทบรถน้ำมันทั้งมือ1มือ2แน่ๆ
ตอนนี้ไใจำเป็นผมคงยังไม่ซื้อรถใหม่ทั้งไฟฟ้า ไฮบริดจ์ น้ำมัน
รอจนnew normalมาถึงนั่นแหละครับค่อยซื้อ
-
อุตส่าห์ดีใจ
เมื่อเช้ารีบแชร์
ให้เพื่อนๆอ่าน
หึหึ ผิดหวังเลย
-
มาตามอ่านครับ
-
อีก2-3ปี รถ EV กลุ่มใหญ่ๆในถนน Ora , Atto3 อายุจะใกล้ครบ 5-7ปี
ซึ่งคนส่วนนึง น่าจะเริ่มเปลี่ยนรถกันแล้ว
จะขายใครหล่ะทีนี้
-
ถ้างั้นก็ซื้อมือหนึ่ง ดาว์นน้อยที่สุดผ่อนนานสุด 84 96 งวดได้ยิ่งดี (ไม่รู้มีเจ้าไหนปล่อยมั้ยนะ)
พอใช้ไปซัก 3-4 ปี อยากขาย ก็ขายเปลี่ยนสัญญา
คิดได้ครับ แต่ขายได้หรือไม่ เป็นอีกเรื่องนึง
ดาวน์น้อย ผ่อนนาน ดอกเบี้ยบานเบอะ
อย่าว่าแต่รถ EV เลย รถ ICE ที่ดาวน์น้อย+ผ่อนนาน พอผ่อนไม่ไหว จะขายเปลี่ยนสัญญา
ยอดหนี้ที่เหลือมากกว่าราคาตลาดมือ 2 ก็ไม่มีคนมารับช่วงต่อ
กลับตัว ก็ไม่ได้ ให้ไปต่อ ก็ไปไม่ไหว สรุป โดนยึด เสียเครดิตกันไปเยอะแล้วครับ
-
EV ถ้าจะเล่นตอนนี้ ซื้อสด คุ้มสุด เพราะต่อราคาได้แบบสุดๆ คนขายอยากปล่อย นานๆที จะมีคนซื้อสดได้
ณ ตอนนี้ ไฟแนน รับจัดยากมากๆ EV
ต้องรอดูอนาคตอีกที ตลาด EV จะดีขึ้นไหม
หรือ อาจจะเก็บ กฎเกณฑ์ใหม่ ของตลาดรถ ใครซื้อรถ EV ต้องคิดเผื่อไว้แล้วว่า ไม่ขาย หรือ ขายได้ราคาตกมากๆ
-
ถ้างั้นก็ซื้อมือหนึ่ง ดาว์นน้อยที่สุดผ่อนนานสุด 84 96 งวดได้ยิ่งดี (ไม่รู้มีเจ้าไหนปล่อยมั้ยนะ)
พอใช้ไปซัก 3-4 ปี อยากขาย ก็ขายเปลี่ยนสัญญา
สมมุติรถใหม่ราคาบริษัทตั้งไว้ 800,000.-
ผ่านไป 3-4 ปี
#1 หน้าโชว์รูมป้ายแดงลดกระหน่ำเหลือ 650,000.-
#2 รถใช้แล้วอายุ 3 ปี เจ้าของเดิมออกรถตอน 800,000.-
ดาวน์ 50,000 ผ่อน 96 งวด ดอก 3% เหลือยอดหนี้ 620,000.-
ถ้าพี่เป็นคนซื้อรถ พี่จะเลือกคัน #1 หรือ #2 ครับ
-
นึกถึงที่เคยมีข่าวที่จีนจอดรถทิ้งตามทุ่งหญ้า ไม่ใกลความจริงเลย
-
เคยคุยกันในครอบครัว ถ้าจะใช้ EV อย่าซื้อเป็นเจ้าของ ให้เช่าเอา สัญญากี่ปีก็ว่าไป หมดสัญญาก็เปลี่ยนรถใหม่ได้
เทคโนโลยีมันเปลี่ยนเร็ว