Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ติทุกอย่าง...แต่บอกว่ารถดี ที่ พฤษภาคม 31, 2024, 19:03:20
-
ในกรณีที่รถเรารองรับน้ำมัน E5, E10, E25 แล้วเราเติม Gasohol 95 มาตลอดไม่ว่าจะเป็นพรีเมี่ยมหรือไม่พรีเมี่ยมก็ตาม แล้วเราจะสลับไปเติม Caltex Gold 95 Techron บ้างได้ไหมเข้าใจว่าเป็นน้ำมัน Bensin ที่ไม่ผสม Ethanol มันจะดีกับเครื่องยนต์ในระยะยาวไหมถ้าเราเติม Gasohol 95 สัก 5 ครั้งแล้วเติม Caltex Gold 95 Techron
-
เติมได้ครับ ช่วยเรื่องชะลอการกัดกร่อนจากเอทานอลครับ
-
Freed ผม 2.5แสน กิน e20 มาตั้งแต่ป้ายแดง เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง 0 ทุก 1 หมื่นโล
ผมเพิ่งเปิดฝากับเสื้อเปลี่ยนประเก็นก่อนขาย
แค่อยากจะบอกว่า เครื่องสะอาดมากครับ
สมคำเล่าลือ
-
เติมได้ไม่มีปัญหาครับ
เรื่องการกัดกร่อน ผมเองไม่มีความรู้ด้านนี้ขอไม่ฟันธงละกันครับ
ผมเองเติมตัวที่ถูกที่สุดที่รถรองรับ หรือ คชจ ต่อ km ต่ำที่สุด จะเป็น E20 / หรือ sohol 91/95 แล้วแต่ส่วนต่างของราคา
จะเน้นก็น้ำมันเครื่องเกรดเทียบเท่าหรือดีกว่าศูนย์บริการครับ
ส่วนตัวผมคิดว่า รถตลาด ที่ไม่ใช้รถยุโรป หรือรถสมรรถนะสูง การเติม 95 / V-power เพื่อคาดหวังให้เป็นผลดีกับเครื่องยนต์ มันไม่คุ้มครับ
เครื่องยนต์ทั่วๆไประยะ 1 แสนโลไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ
ส่วนต่างระหว่าง e20 กับ 95 / v-power อาจประมาณ 1 บาทต่อ km ถ้าวิ่ง 1แสน km เราจะจ่ายค่าเชื้อเพลิงแพงขึ้น 1 แสนบาท ซึ่งงบนั้นยกเครื่องมา Overhaul หรือ สับเครื่องใหม่ได้เลย
-
ในกรณีที่รถเรารองรับน้ำมัน E5, E10, E25 แล้วเราเติม Gasohol 95 มาตลอดไม่ว่าจะเป็นพรีเมี่ยมหรือไม่พรีเมี่ยมก็ตาม แล้วเราจะสลับไปเติม Caltex Gold 95 Techron บ้างได้ไหมเข้าใจว่าเป็นน้ำมัน Bensin ที่ไม่ผสม Ethanol มันจะดีกับเครื่องยนต์ในระยะยาวไหมถ้าเราเติม Gasohol 95 สัก 5 ครั้งแล้วเติม Caltex Gold 95 Techron
ถ้ารถรองรับได้ถึง E20 และ / หรือ E85
และถ้าเราเติม G95 (ซึ่งก็คือ E10) มาโดยตลอด
เราจะกลับไปเติม เบนซินเพียวๆ (E0) ได้ครับ
จะเติมสลับยังไงก็ได้ครับ ตัวรถไม่มีปัญหาอะไร
แต่ถ้าถามว่าจะต้องสลับไปเติม E0 แบบเป็นกิจวัตร
จะช่วยถนอมรถมั้ย คำตอบคือไม่มีผลครับ
ไม่ต่างจากรถที่เติม E ต่างๆ ตลอดชีวิตรถโดยที่
ไม่คยได้สัมผัส E0 เลยครับ ไม่ต่างกันเลย
-
ใช้ได้ครับ ถ้าข้อมูลระบุเช่นนั้น
รถผมเซ็ทมาใช้ e85 ปีนี้เข้าปีที่ 12 ยังไม่มีปัญหาอะไร ปัญหาเดียวคือหาน้ำมันยากขึ้น...
-
รายละเอียดจริงๆผมไม่ทราบแน่ชัดนะครับ
ถ้าของผม ถ้าอยากทำความสะอาดเครื่องบ้าง ผมจะเติมพวก Vpower น้ำมันตัวนี้เขาจะผสมสารชะล้างไว้ด้วย ส่วนถ้าเดินทางไกลๆจะเติม เบนซินเพียว เพราะเบนซินเพียวจะวิ่งได้กิโลที่เยอะกว่า
ส่วนเบนซิน 95 เพียวของ คาร์เท็กซ์ เคยเห็นเขาโฆษณา ตอนที่เขาทำตลาดเรื่องน้ำยาล้างหัวฉีดแบบผสมในถังของเขา ว่าเบนซินเพียวของเขาผสมสารชะล้างไว้ให้ด้วยอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้น้ำยาตัวนี้
ถ้าเอาดีกับเครื่องสุดก็คงต้อง เบนซินเพียว 95 ของคาร์เท็กซ์ละครับ (แต่ราคาเขาก็สูงกว่าใครเขาเพื่อนเลยนะครับ)
-
น้ำมันที่ผสมเอทานอลเยอะ เผาไหม้สะอาดกว่า
เรื่องการกัดกร่อน เอทานอลมันกัดกร่อนกับรถที่ไม่ได้ออกแบบมารองรับเอทานอล
ยกตัวอย่าง น้ำมันเบรก กันกร่อนสูง แต่ไม่กัดกร่อนชิ้นส่วนในระบบเบรก เพราะเขาออกแบบมาให้รองรับแล้วครับ
-
เอทานอล จุดได้เปรียบคือค่าออคเทนครับ
มีส่วนให้เครื่องยนต์ที่มี knock sensor
สามารถเพิ่มค่าองศาก่อนจุดระเบิด
มีผลให้ได้กำลังงานเพิ่ม แต่ก็แลกมากับปริมาณเขื้อเพลิงที่ใช้เพิ่มขึ้น
ส่วนการกัดกร่อน มีผลกับโลหะและยาง
ถ้าใช้กับวัสดุที่ป้องกันการกัดกร่อนมาแล้ว
เช่นท่อทางเดินน้ำมัน r7-r11
ปัญหาก็จะลดลง จะมีก็ชิ้นส่วนกรองในหัวฉีดที่บางยี่ห้อมีพลาสติคเสื่ิอมสภาพจากเอทานอล
แต่เปลี่ยนอะไหล่ได้
ทั้งนี้ ดูว่า พฤติกรรมการใช้รถเป็นแบบไหน
จุดประสงค์ด้านประสิทธิภาพหรือความคุ้มค่าในราคาเป็นตัวเลือกอีกทีครับ
-
เอทานอล จุดได้เปรียบคือค่าออคเทนครับ
มีส่วนให้เครื่องยนต์ที่มี knock sensor
สามารถเพิ่มค่าองศาก่อนจุดระเบิด
มีผลให้ได้กำลังงานเพิ่ม แต่ก็แลกมากับปริมาณเขื้อเพลิงที่ใช้เพิ่มขึ้น
ส่วนการกัดกร่อน มีผลกับโลหะและยาง
ถ้าใช้กับวัสดุที่ป้องกันการกัดกร่อนมาแล้ว
เช่นท่อทางเดินน้ำมัน r7-r11
ปัญหาก็จะลดลง จะมีก็ชิ้นส่วนกรองในหัวฉีดที่บางยี่ห้อมีพลาสติคเสื่ิอมสภาพจากเอทานอล
แต่เปลี่ยนอะไหล่ได้
ทั้งนี้ ดูว่า พฤติกรรมการใช้รถเป็นแบบไหน
จุดประสงค์ด้านประสิทธิภาพหรือความคุ้มค่าในราคาเป็นตัวเลือกอีกทีครับ
จุดประสงค์ไม่มีเลยครับ อยากลองล้วนๆพอดีไม่เคยเติมเบนซิน 95 เพียวๆ แล้วใช้รถเดินทางไกลเสาร์ อาทิตย์บ่อย ไปกลับประมาณ 200 กิโลเมตร
แต่ถ้าเติมแล้วช่วยยืดอายุพวกชิ้นส่วนได้ก็น่าสนอยู่เป็นรถยุโรปเบนซินคันแรก ส่วนคันอื่นๆเป็นดีเซล
น้ำมันที่ผสมเอทานอลเยอะ เผาไหม้สะอาดกว่า
เรื่องการกัดกร่อน เอทานอลมันกัดกร่อนกับรถที่ไม่ได้ออกแบบมารองรับเอทานอล
ยกตัวอย่าง น้ำมันเบรก กันกร่อนสูง แต่ไม่กัดกร่อนชิ้นส่วนในระบบเบรก เพราะเขาออกแบบมาให้รองรับแล้วครับ
ใช้ได้ครับ ถ้าข้อมูลระบุเช่นนั้น
รถผมเซ็ทมาใช้ e85 ปีนี้เข้าปีที่ 12 ยังไม่มีปัญหาอะไร ปัญหาเดียวคือหาน้ำมันยากขึ้น...
รายละเอียดจริงๆผมไม่ทราบแน่ชัดนะครับ
ถ้าของผม ถ้าอยากทำความสะอาดเครื่องบ้าง ผมจะเติมพวก Vpower น้ำมันตัวนี้เขาจะผสมสารชะล้างไว้ด้วย ส่วนถ้าเดินทางไกลๆจะเติม เบนซินเพียว เพราะเบนซินเพียวจะวิ่งได้กิโลที่เยอะกว่า
ส่วนเบนซิน 95 เพียวของ คาร์เท็กซ์ เคยเห็นเขาโฆษณา ตอนที่เขาทำตลาดเรื่องน้ำยาล้างหัวฉีดแบบผสมในถังของเขา ว่าเบนซินเพียวของเขาผสมสารชะล้างไว้ให้ด้วยอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้น้ำยาตัวนี้
ถ้าเอาดีกับเครื่องสุดก็คงต้อง เบนซินเพียว 95 ของคาร์เท็กซ์ละครับ (แต่ราคาเขาก็สูงกว่าใครเขาเพื่อนเลยนะครับ)
ใช้ได้ครับ ถ้าข้อมูลระบุเช่นนั้น
รถผมเซ็ทมาใช้ e85 ปีนี้เข้าปีที่ 12 ยังไม่มีปัญหาอะไร ปัญหาเดียวคือหาน้ำมันยากขึ้น...
ในกรณีที่รถเรารองรับน้ำมัน E5, E10, E25 แล้วเราเติม Gasohol 95 มาตลอดไม่ว่าจะเป็นพรีเมี่ยมหรือไม่พรีเมี่ยมก็ตาม แล้วเราจะสลับไปเติม Caltex Gold 95 Techron บ้างได้ไหมเข้าใจว่าเป็นน้ำมัน Bensin ที่ไม่ผสม Ethanol มันจะดีกับเครื่องยนต์ในระยะยาวไหมถ้าเราเติม Gasohol 95 สัก 5 ครั้งแล้วเติม Caltex Gold 95 Techron
ถ้ารถรองรับได้ถึง E20 และ / หรือ E85
และถ้าเราเติม G95 (ซึ่งก็คือ E10) มาโดยตลอด
เราจะกลับไปเติม เบนซินเพียวๆ (E0) ได้ครับ
จะเติมสลับยังไงก็ได้ครับ ตัวรถไม่มีปัญหาอะไร
แต่ถ้าถามว่าจะต้องสลับไปเติม E0 แบบเป็นกิจวัตร
จะช่วยถนอมรถมั้ย คำตอบคือไม่มีผลครับ
ไม่ต่างจากรถที่เติม E ต่างๆ ตลอดชีวิตรถโดยที่
ไม่คยได้สัมผัส E0 เลยครับ ไม่ต่างกันเลย
เติมได้ไม่มีปัญหาครับ
เรื่องการกัดกร่อน ผมเองไม่มีความรู้ด้านนี้ขอไม่ฟันธงละกันครับ
ผมเองเติมตัวที่ถูกที่สุดที่รถรองรับ หรือ คชจ ต่อ km ต่ำที่สุด จะเป็น E20 / หรือ sohol 91/95 แล้วแต่ส่วนต่างของราคา
จะเน้นก็น้ำมันเครื่องเกรดเทียบเท่าหรือดีกว่าศูนย์บริการครับ
ส่วนตัวผมคิดว่า รถตลาด ที่ไม่ใช้รถยุโรป หรือรถสมรรถนะสูง การเติม 95 / V-power เพื่อคาดหวังให้เป็นผลดีกับเครื่องยนต์ มันไม่คุ้มครับ
เครื่องยนต์ทั่วๆไประยะ 1 แสนโลไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ
ส่วนต่างระหว่าง e20 กับ 95 / v-power อาจประมาณ 1 บาทต่อ km ถ้าวิ่ง 1แสน km เราจะจ่ายค่าเชื้อเพลิงแพงขึ้น 1 แสนบาท ซึ่งงบนั้นยกเครื่องมา Overhaul หรือ สับเครื่องใหม่ได้เลย
Freed ผม 2.5แสน กิน e20 มาตั้งแต่ป้ายแดง เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง 0 ทุก 1 หมื่นโล
ผมเพิ่งเปิดฝากับเสื้อเปลี่ยนประเก็นก่อนขาย
แค่อยากจะบอกว่า เครื่องสะอาดมากครับ
สมคำเล่าลือ
เติมได้ครับ ช่วยเรื่องชะลอการกัดกร่อนจากเอทานอลครับ
ขอบคุณครับ