Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: last_dezember ที่ พฤศจิกายน 26, 2010, 11:17:29
-
ในความเป็นจริงมันสามารถทำยอดให้ถึงเท่านั้นได้ไม๊ครับ กะเงิน 50000 บาท
นักบริหารช่วยคิดหน่อยครับ อิอิ
-
ในความเป็นจริงมันสามารถทำยอดให้ถึงเท่านั้นได้ไม๊ครับ กะเงิน 50000 บาท
นักบริหารช่วยคิดหน่อยครับ อิอิ
การลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ แล้วจะต้องการจาก 5 หมื่นเป็น 2 แสน ในระยะเวลาเท่าไรหล่ะครับ
ยิ่งระยะเวลาสั้นมาก ก็เสี่ยงมาก
-
ในความเป็นจริงมันสามารถทำยอดให้ถึงเท่านั้นได้ไม๊ครับ กะเงิน 50000 บาท
นักบริหารช่วยคิดหน่อยครับ อิอิ
การลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ แล้วจะต้องการจาก 5 หมื่นเป็น 2 แสน ในระยะเวลาเท่าไรหล่ะครับ
ยิ่งระยะเวลาสั้นมาก ก็เสี่ยงมาก
ไม่กำหนดระยะเวลาครับ
-
ได้ครับแต่คิดช้าไป
ถ้าย้อนไปต้นปีมั้งจำไม่ค่อยได้ล่ะ ขี้ลืมครับ 55
ซื้อหุ้นซีพี ราคา 3 บาท ก็จะได้ 50,000 / 3 = 16,600 หน่วย
แล้วขายสักต้นเดือนนี้ที่ราคา ประมาณ 24 บาท
กำไรต่อหหน่วยลงทุนประมาณ 20 บาทต่อหน่วยลงทุน
ก็น่าจะได้ประมาณ 332,000 - 50,000 = 282,000 บาทครับ
กำไสองแสนครับ แต่มันช้าไปแล้ว
คอยใจเย็นๆ หาหุ้นปั่นตัวใหม่ครับ ตลาดหลักทรัพย์มีบ่อทองคำเสมอๆ ครับ
การลงทุนมีความเสี่ยง ถ้าใจร้อนก็เสี่ยงมาก ถ้าใจเย็นก็เสี่ยงน้อยลงครับ
-
การลงทุนมีความเสี่ยง ความศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน ;)
-
ถ้าขยันๆไม่แคร์คนรำคาญก็ไปบริษัท ขายตรงใหญ่ๆ แล้วลงแรงเยอะๆนะครับ
จะได้รายได้กลับมา ค่อนข้างเร็ว และเสี่ยงน้อย
หรือถ้าไม่ชอบขายตรง แต่อยากลองทำอะไรเอง
คือ การเป็น พ่อค้าคนกลางครับ
การหากำไรให้ได้ง่ายกว่า และมีความเสี่ยงน้อยกว่า คอยจับคู่ระหว่างคนที่ที
-ซัพพลายมาก
เข้าคู่กับคน
-ที่มีดีมานมาก
แต่ก็ต้องสั่งสมประสบการณ์ไม่น้อยเหมือนกัน
-
ได้ครับแต่คิดช้าไป
ถ้าย้อนไปต้นปีมั้งจำไม่ค่อยได้ล่ะ ขี้ลืมครับ 55
ซื้อหุ้นซีพี ราคา 3 บาท ก็จะได้ 50,000 / 3 = 16,600 หน่วย
แล้วขายสักต้นเดือนนี้ที่ราคา ประมาณ 24 บาท
กำไรต่อหหน่วยลงทุนประมาณ 20 บาทต่อหน่วยลงทุน
ก็น่าจะได้ประมาณ 332,000 - 50,000 = 282,000 บาทครับ
กำไสองแสนครับ แต่มันช้าไปแล้ว
คอยใจเย็นๆ หาหุ้นปั่นตัวใหม่ครับ ตลาดหลักทรัพย์มีบ่อทองคำเสมอๆ ครับ
การลงทุนมีความเสี่ยง ถ้าใจร้อนก็เสี่ยงมาก ถ้าใจเย็นก็เสี่ยงน้อยลงครับ
เรื่องหุ้นนี้ผมไม่รู้เรื่องเลยอ่ะครับ สงสัยต้องมาศึกษาซะแล้ว
เอ้อ แล้วบัตรลงทุนทองคำล่ะครับ ที่เห็นใน โฆษณา อ่ะครับ
-
ตลาดหุ้นเปิดโอกาสให้กับทุกท่าน แต่จะเป็นนักลงทุน นักพนัน อันนี้แล้วแต่ความสามารถของแต่ละบุคคลครับ
ถ้าจะเอาเงิน 50,000 บาท เพื่อจะทำให้เป็น 1-2 แสนในตลาดช่วงนี้
ไม่ง่ายนะครับ ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นกว่าตอนช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเยอะมากครับ
ก่อนนี้ตลาดขึ้นจากจุดต่ำสุดที่ 38x ตอนช่วงเดือน 11/08
ตอนนี้ 1000+-10จุด นี่ครบ 2 ปีพอดี ขึ้นมา 200% ตกปีละ 100%
เป็นการขึ้นที่น่ากลัวนะครับ แต่เค้าก็ให้ว่าจะขึ้นไป 1,200 จุดปลายปีหน้า
จะเห็นว่าเพิ่มแค่ 20% เอง ต่างกับ 2 ปีที่แล้วเยอะนะครับ
เพราะฉะนั้นไม่ง่ายนะครับ กับตลาดตอนนี้
มีนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาในตลาดเยอะมาก
ส่วนใหญ่กระเป๋าแฟบ และเข็ดกับตลาดหุ้นไปตลอดชีวิตครับ
-
ตลาดหุ้น สำหรับมือใหม่ยังไงผมก็มองว่าเลือกแบบระยะยาวพื้นฐานมั่นคง มีปันผลบ้าง จะดีกว่านะครับ คงไม่ได้ผลตอบแทนมากนักแต่อยากให้มองว่าเป็นการออมรูปแบบหนึ่งดีกว่าครับ
-
ถามจริงหรือถามเล่นคับ อิอิ
ถ้าถามเล่นๆ ผมก็บอกเลยเอาไปแทงบาซ่า หรือไม่ก็รีลมาดริด แปปเดียวก็ได้แล้วคับ 5555 (อันนี้ผมล้อเล่นนะ อิอิ)
-
เอาธนบัตร ทั้ง 5 หมื่นบาท มาตัดแบ่ง ใบละ 4 ส่วน
เมื่อตัดเสร็จ เอามากองรวมกัน จะได้ 2 แสน พอดี
:D
ปล. อีตาข้างบนเนี้ย การพนันเป็นสิ่งไม่ดีนะจ้ะ
-
หุ้นครับ แต่หมายความว่า 50000 อาจเหลือ 5000 ก็ได้ หรือจะเป็น 200000 ก็ได้เหมือนกันครับ
การลงทุนมีความเสี่ยงครับ ทอง น้ำมัน ตอนนี้ก็ถูกนำมาปั่นราคาทุกตัวครับ ไม่มีอันไหนที่ปลอดภัยจริงๆ แล้ว
-
เอาธนบัตร ทั้ง 5 หมื่นบาท มาตัดแบ่ง ใบละ 4 ส่วน
เมื่อตัดเสร็จ เอามากองรวมกัน จะได้ 2 แสน พอดี
:D
ปล. อีตาข้างบนเนี้ย การพนันเป็นสิ่งไม่ดีนะจ้ะ
ผมกลัวจะเป็นแสนสาหัสอ่ะดิตาพี่จิมมี่ 555
-
สำหรับตลาดหุ้นผมว่ามันจะขึ้นในอีก 2 ปี ตามที่นักเคราะห์บางรายบอกมาผมก็เห็นด้วย
อาจะได้เห็นที่ 1,400 จุดครับ
สำหรับตลาดทองก็ดีครับ มันก็ขึ้นๆ ลงๆ ของมันอยู่เรื่อยๆ
แต่สังเกตุดีๆ มันจะขึ้นมากกว่าลงครับ
เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาวครับ เฉลี่ยขึ้นปีล่ะประมาณ 8%
ถ้าเล่นหุ้นไม่เป็นก็ลงทุนกองทุนรวมก็ได้ครับ
แต่ถ้ากลัวความเสี่ยงว่ามันถึงจุดสูงสุดของตลาดประเทศไทยแล้ว
ตอนนี้ที่ฮิตๆ กัน ก็จะไปเล่นตลาดจีนและอินเดียครับ
หรือไม่ก็ภาวนาให้ชุมนุมใหญ่ยาวๆ อีก หุ้นจะได้ตก
แล้วค่อยไปซื้อตอนราคามันตกครับ 55
การเล่นหุ้น ผมพูดจริงๆ นะ มันก็เหมือนกับการเล่นคาสิโนออนโลน์นั่นแหล่ะ ไม่ต่างกัน
-
การเอาไปซื้อพันธบัตรทองคำ ผมไม่ทราบนะครับ
แต่การลงทุนทองคำแท่งช่วงนี้ อยากให้มองว่าเป็นการฝากเงินมากกว่า
ยังไงส่วนตัวผมมองว่า ดีกว่าฝากธนาคาร
เพราะว่าปีหน้าจะเป็นอะไรที่มีความผันผวนสูงมาก
ค่าเงิน ราคาสินค้าเกษตร ราคา commodity
เพราะปัญหาต่างๆ มันยังแก้ไม่ได้ถึงไหนเลย
เงินเหรียญส.ร.อ.รับรองได้ว่าจะกลายเป็นแบ็งค์กงเต็ก
เงินของเค้าจะอัดฉีดให้เศรษฐกิจทั่วโลกบวมเป่ง
เงินเฟ้อขึ้น
แล้วอะไรที่พอจะสู้เงินเฟ้อได้ มีสภาพคล่อง และมีความเป็นสากล
มันก็มาลงตัวที่ทองนะครับ
แต่อย่างว่าทองตอนนี้ก็สูงมาก แต่นะครับแพงแล้วมีแพงอีก
เมื่อ่กอน3ปีที่แล้วผมซื้อบาทละ 8,000 ผมว่าแพง ก็กัดฟันซื้อมา
มาตอนนี้บาทละ 19xxx
เมื่อเดือนที่แล้วตอนทองลงผมก็กัดฟันซื้อบาทละ 18850
ส่วนตัว 25,000 ภายในปีหน้าน่าจะเห็น
แต่ก็กลัวเรื่องค่าเงินเหมือนกัน
เพราะถ้าบาทแข็งขึ้นอีก ทองก็ลงอีก
อันนี้ก็ต้องวัดใจกันไป
-
จะซื้อทองแท่ง หรือลงทุนหุ้นก็ได้นะครับ
แต่ถ้ายังไม่ชำนาญอย่าเข้าไปตลาด TFEX นะครับ
ไม่ใช่แค่เงินลงทุนเป็นศูนย์นะครับ อาจจะติดลบด้วยนะครับ
Leverage สูงมากครับ
ก่อนหน้านี้เห็นโดน Gold Futrue กันหน้ามืดมาหลายคนแล้วครับ
-
เอาธนบัตร ทั้ง 5 หมื่นบาท มาตัดแบ่ง ใบละ 4 ส่วน
เมื่อตัดเสร็จ เอามากองรวมกัน จะได้ 2 แสน พอดี
:D
ปล. อีตาข้างบนเนี้ย การพนันเป็นสิ่งไม่ดีนะจ้ะ
ฮิๆ ผมล้อเล่นอะครับ
-
ต้องกลับมาถามก่อนว่าที่ต้องการให้ 50,000 เป็น 200,000 เนี่ย คือตัวเงิน หรือกำลังซื้อครับ
ถ้าไม่กำหนดระยะเวลาไว้เลย ยังไงก็สามารถทำให้เงิน 50,000 เป็น 200,000 ได้ครับ เช่นฝากออมทรัพย์ไว้ได้ดอกเบี้ย 0.5% ไปซัักประมาณ 278 ปี :)
แต่มูลค่าของเงิน 200,000 ในตอนนั้นอาจจะซื้อข้าวราดแกงได้แค่จานเดียวก็ได้
ถ้าต้องการให้เงินที่ซื้อของมูลค่า 50,000 บาทได้ในขณะนี้ งอกเงยเป็นเงินที่สามารถซื้อของมูลค่า 200,000 บาท ณ วันนี้ ได้ในอนาคต ก็ต้องเผื่อเรื่องเงินเฟ้อเข้าไปด้วยครับ
-
คิด npv ดูด้วยนะครับ ว่าจริงๆมันจะคุ้มหรือเปล่านะครับ
-
ทำบัตรเครดิตครับ ได้กลับมาสองแสน5 5เท่าของเงินเดือน
-
เอาเงินซัก 500 ไปซื้อหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนมาอ่าน ซัก 2-3 เล่มครับ
-
5 หมื่นเป็น 2 แสน นี่ 400% เลยนะครับท่าน เล่นหุ้นนี่ยังเหนื่อยเลย
แต่อย่างว่าครับ ตลาดหุ้น 400% ในหุ้นบางตัวใช้เวลาไม่ถึงปี
คงต้องเก่ง+เฮงด้วย
แต่ถ้าไม่รีบ ถือยาวๆ ลงทุนในหุ้น ก็เป็น โอกาสที่ดีครับ
-
เล่นซื้อขายที่ดินครับ ;D
แต่ต้องไวและสายตากว้างไกลนิดนุง
-
ถ้ามีความรู้พอ เปิดเว็บให้โหลดพวกหนังAV จะเร็วมาก ถ้าทำเก่งพอ >_< ลงทุนนิดเดียว ได้เดือนละ2-3หมื่นเลยครับ เพื่อนผมทำอยู่ *-*
-
ทำได้ครับ ผมทำอยู่บ่อยๆ
คือเอาเงินไปไห้พ่อลงทุน 9 เดือนผ่านไปจะได้กลับมาอย่างน้อย 2 เท่า
พ่อผมเล่นหุ้น และก็ขายของเงินผ่อน ประมาณนั้นครับ แต่ผมทำเองไม่ได้ หุหุหุ
ถ้ามี 5 หมื่น จะพาแม่บินไปกินอาหารของเชฟ ซาไก อิอิอิ แม่ผมชอบเอามากๆ เลยหละ
-
ถ้าขยันๆไม่แคร์คนรำคาญก็ไปบริษัท ขายตรงใหญ่ๆ แล้วลงแรงเยอะๆนะครับ
จะได้รายได้กลับมา ค่อนข้างเร็ว และเสี่ยงน้อย
เจ้าของกระทู้ลองไปดูสิครับ แล้วพิสูจน์ให้หน่อยมันเป็นไปได้ยังไง
-
เอาแบบได้เร็วๆ ก็คงเป็นหุ้นประเภทที่เจ้ามือชอบปั่นแหละครับ
แต่เห็นว่าไม่จำกัดเวลา ถ้าเอาผลตอบแทนช้าๆ ก็จริงๆแล้ว การลงทุนทุกประเภท รอไปซํกวันก็ถึงเองแหละ 2 แสน สมมุติต่ำสุดปีละ 10 เปอร์เซนต์ ก็ซํก 30 กว่าปีก็ได้แล้ว :D
-
งั้นถ้าเอาให้ได้ ภายในไม่เกิน 3 ปีล่ะครับ :)
-
Low Risk, High Return...... ไม่มีหรอกครับ
-
การหาเงินที่ทำให้ได้ผลการลงทุนจากเงิน 50,000 บ. เป็น 2 แสน มีหลายทางครับ
หวย แทงเลขวิ่งเริ่มจาก 500 บ. ถ้าถูกทุกงวด 7 งวด (เอากำไรไปแทงด้วยทั้งหมด) ได้เงินเป็นล้าน
ประกอบธุรกิจส่วนตัวที่เป็นบริษัทจำกัด ที่ประเมินการลงทุนแล้วมีผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนหลาย ๆ เท่า
แล้วขายหุ้นให้กับผู้อื่น
ลงทุนในตลาดหุ้น อาจเลือกลงทุนได้หลายแบบ
แบบกองทุน ซึ่งมีผู้จัดการกองทุนนำเงินเราไปลงทุน
ในตลาดต่าง ๆ หรือตราสารหนี้ แทนเรา ซึ่งเราจะได้กำไรหรือไม่? เราฝากชีวิตไว้กับผู้จัดการกองทุนซึ่งจะกระจาย
ความเสี่ยงในการลงทุนให้เรา ทำให้การลงทุนแบบนี้ได้ผลตอบแทนน้อยอาจไม่ถึง 10% ต่อปีหรือมากกว่านี้ไม่มาก
เลือกลงทุนเอง
หุ้นที่เลือกเล่นควรเป็นหุ้นที่มีราคาต่อหุ้นต่ำ ไม่เกิน 20 บ.ได้ยิ่งดี
ถ้าซื้อหุ้นราคาเป็นร้อยบาท/หุ้น ตัวคูณกำไรกลับมาจะน้อย เพราะเราซื้อได้น้อยหุ้น
ตัวอย่าง หุ้นราคา 5 บ.มีเงิน 5 หมื่นเราซื้อได้ 10,000 หุ้น ถ้าเราขายที่ราคา 10 บ.(กำไร 5 บ./หุ้น) เราได้กำไรในรอบนี้ 50,000 บ.
อีกกรณี หุ้นราคา 200 บ. มีเงินเท่ากัน ซื้อได้ 250 หุ้น ถ้าเราขายที่ราคา 220 บ. (กำไร 20 บ./หุ้น) เราได้กำไรในรอบนี้ 5,000 บ.
รู้เรื่องงบการเงิน ซึ่งบริษัทมหาชนจะเปิดเผยทุกไตรมาส ซึ่งสามารถนำมาคาดการณ์ล่วงหน้าโดยการคำนวณ
ได้ว่า ปลายไตรมาสราคาจะเป็นเท่าไร?(ขึ้นอยู่กับผลประกอบการ แต่มักจะไม่เกิน 3 เท่าของมูลค่าที่แท้จริง ณ. ก่อนเริ่มไตรมาส)
แต่เวลาที่แท้จริงอาจจะบอกไม่ได้ ขึ้นอยู่กับหุ้นตัวนั้นอยู่ในกระแสหรือไม่?
ต่อมา หุ้นในกระแสคือ หุ้นที่เจ้ามือ (ผู้ที่มีเงินลงทุนมาก ๆ ในตลาดทุน) เลือกลงทุน ณ ขณะนั้น ถ้าเราจับรถไฟคันเดียวกับเค้า
ก็ได้เปรียบ ซึ่งความเสี่ยงก็จะพบกับตรงนี้ เพราะส่วนอื่นเราสามารถคำนวณได้หมด
-
ตัวอย่าง หุ้นราคา 5 บ.มีเงิน 5 หมื่นเราซื้อได้ 10,000 หุ้น ถ้าเราขายที่ราคา 10 บ.(กำไร 5 บ./หุ้น) เราได้กำไรในรอบนี้ 50,000 บ.
อีกกรณี หุ้นราคา 200 บ. มีเงินเท่ากัน ซื้อได้ 250 หุ้น ถ้าเราขายที่ราคา 220 บ. (กำไร 20 บ./หุ้น) เราได้กำไรในรอบนี้ 5,000 บ.
แต่ก็อย่างว่านะครับ มีปัจจัยหลายอย่าง หุ้นเล็กมันก็มีโอกาสเขียวได้น้อยหน่อยตามสภาพ หรือ เขียวทีก็ขึ้นแบบ งุงิ ๆ กระหนุงกระหนิง ผ่านไป บวก ลบ คูณ หาร อ้าว กำไรยังไม่มีเลย *_*
ส่วนตัวใหญ่ก็เงินไม่หนาก็ยาก ตัวคูณน้อยอย่างท่านว่า.......
ยิ่งช่วงนี้ยุบพรรค แก้รัฐธรรมนูญกันอยู่ กลัวเกิดแอคซิเด้นซ์ แดงทั้งกระดานได้ ;D
-
TMB แล้วถือยาวไปเลย 10 ปี
ไม่งั้นก็ TRUE ถือยาวๆอีกเหมือนกันตัวนี้
อาจจะได้หรือไม่ได้นะ ไม่ใช้ได้แน่นอนน555
-
;Dผมลงทุนกับสมองครับ โดยซื้อหนังสืออ่านซัก 100 เล่มไม่เกิน 20000 บาทเกี่ยวกับการบริหาร+ประวัติคนที่ประสบความสำเร็จเช่น หนังสือ ชีวิตนี้ไม่มีทางตัน ตัน โออิชิ เล่มนี้ผมชอบมากอ่านแล้วได้ข้อคิดมากเลยครับหรือหนังสือเกี่ยวกับการแก้ปัญหา,การมองโลกหรือแม้แต่การออกไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าครับ เพราะถ้าเรามีความรู้+วิสัยทัศน์ เรื่องหาเงินล้านก็อยู่ไม่ไกลหรอกครับ (อันนี้เล่าจากประสบการตัวเองนะครับว่าผมทำแบบนี้แล้วได้ผล คือถ้ามีหนังสือแล้วต้องอ่านให้ได้อาจจะเสียเวลาหน่อยแต่ผลที่ได้มามันคุ้มครับแถมเรายังเอาความรู้ที่ได้ไปแบ่งปันคนอื่นต่อได้อีก :D
-
ถ้าไม่กำหนดระยะเวลาก็ไม่ยากครับ
ซื้อหุ้นของบริษัทใหญ่ เช่น microsoft, coca-cola, และอื่นอื่นไป 50,000 บาท
ถือไว้สักสองร้อยปี เดี๋ยวมูลค่า Future Value ณ ตอนนั้น รวมกับการเจริญเติบโตของธุรกิจ จะทำให้เรามีเงินล้านบาทได้เองครับ
-
ส่วนใหญ่ก็คงมองไปทางหุ้นแหละครับ แต่ต้องมีความรู้ด้วยครับ จริงๆตลาดทอง น้ำมันเองก็น่าสนใจเหมือนกันครับ ในระยะเวลา3ปียังๆก็น่าจะถึงนะ และมีอีกตลาดนึงที่ไม่ค่อยมีใครกล้าเสี่ยงเล่นเท่าไหร่ คือตลาดเงินครับ เล่นเกี่ยวกับการแลกเปลี่นนล้วนๆ (ผลตอบแทนค่อยข้างดีเลยครับ) NAV ดีดทุกวัน อิอิ ส่วนพวกชอบเสี่ยงชีวิตก็แบ่งเงินเป็นสองส่วนครับ 3000 บาทแรกเอาไปซื้อตั๋วเครื่องบินจะไปมาเก๊าหรือเก็นติ้งก็ได้ ที่เหลือเข้าบ่อนเลยครับ อิอิ หรือ.....เอาไปซื้อสลากออมสินพิเศษ 3 ปี ลุ้นรางวัลใหญ่10ล้านครับ อิอิ
แต่ผมว่าเอาเงินไปทำธุรกิจน่าจะดีที่สุดีครับ เผื่อระยะยาวไว้ได้ด้วย ทำอะไรก็ได้ที่เราสามารถเปิดตลาดได้เป็นเจ้าแรกและสร้างกระแสได้ครับ
-
ตอนนี้บ้านผมลงทุน IRPC เศร้าเลยตกลงไปตั้งหลายบาท ตอนนี้ก็ลงไปหลายตัวกินปันผล ;D ;D ;D
-
มีแต่คนเล่นหุ้น มีคนค้าขายน้อยลง ความเห็นผมนะคับ คือ คนขี้เกียจกันมากขึ้น หวังยืมจมูกคนอื่นหายใจ ถ้าหุ้นขึ้น และจงใจปั่นกันเอง ถ้าโชคดี ก็ดีไปคับ ถ้าเจ็กฟอต เจอตอนตก แล้วเราจะทำอย่างไรคับ ผมอาจจะคิดเหมือนคนค้าขาย ยอมเหนื่อยมากกว่าคับ ได้หรือเสีย เราก็ได้ทำมันด้วยมือของเราเองคับ เช่น หาทำเล ขายหมูปิ้งข้าวเหนียว(ต้องฝีมือด้วยนะคับ) ลงทุนไม่เยอะ ได้เงินหมุน ผมเ็นบางจ้าวขายอย่างเดียว เลี้ยงทั้งครอบควัร และส่งลูกเรียนจนจบ ไม่รู้ว่าทำเงินได้เท่าไหร่ ไม่ใช่เพียงแต่คิดว่า....จะทำอะไร ต้องลงมือด้วยคับ