Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: eavery ที่ มิถุนายน 21, 2024, 12:20:19
-
ผมรบกวนสอบถามพี่ๆ น้องๆหน่อยครับ ว่าถ้าจะซื้อรถมือสอง Cx-5 ปี 20-21 เครื่องเบนซิล ยังอยู่ใน warranty
และเป็นรถคันเดียวของบ้าน ซื้อได้ไหมครับ เพราะราคามือสองต่างกับ CR-V มากเลยครับ งบไม่ถึง CR-V ครับ
ขอบคุณครับ
-
เล่าในมุมคนใช้ครับ
รถยังมีประกัน เลขไมล์ไม่ถึง 1แสนโล ตรงนี้ไม่น่าห่วงเรื่องคุณภาพรถ เพราะเราสามารถนำเข้าศูนย์เช็คระยะ ให้เค้าตรวจเบื่องต้นได้
ส่วนค่าใช้จ่ายการเช็คระยะ รถปี 2020 น่าจะเป็นปีที่มาสด้าฟรีค่าแรงแล้ว ดังนั้น เข้าศูนย์ไม่แพงครับ น้ำมันเครื่อง เปลี่ยนครั้งนึงต่อรอบไม่เกิน3พันบาทครับ (เฉลี่ย 2000 นิดๆ)
หลังหมดวารันตี ตัวรถไม่มีอะไรน่าห่วง อะไหล่ต่างๆค่อนข้างทน ผมใช้ 3 และ CX3 ตอนนี้ยังไม่เจอปัญหาใดๆ ทั้งเครื่องยนต์และช่วงล่าง
เรื่องอะไหล่ แหล่งอะไหล่มีเพียบ ไม่ต้องกลัว
-
ใช้รถปี2017อยู่ครับ เท่าที่ใช้ไม่ได้มีปัญหาอะไรนอกจากกระจกมองข้างพับไฟฟ้าที่เสียบ่อย
ที่น่ากังวลสำหรับรุ่นนี้น่าจะเป็นเรื่องปั๊มติ้กที่ว่ากันว่าเสียกันเยอะ รถผมยังไม่เสียตอนนี้ อาศัยวิธีเติมน้ำมันบ่อยๆให้เกินครึ่งถังตลอดเอา
ไม่รู้ปีใหม่ๆแก้ไขรึยัง
-
ถ้ารับปัญหาตอนซ่อมอะไหล่จะแพงกว่าคู่แข่งหน่อยนึง กับตอนขายต่อนี่ขายยากมากถ้าไม่ถูกจริง เพราะไม่ใช่ยี่ห้อตลาด รับข้อเสียพวกนี้ได้ก็ซื้อเลย
-
ถ้ามอง cx5 อยากให้แอบดู cx8 ด้วยเป็นทางเลือก
-
ถ้าซื้อปีใหม่มากๆแบบนี้ ให้เหล่ๆราคาป้ายแดงเปรียบเทียบด้วยครับ เห็นมีdemoไมล์หลักร้อยส่วนลดสามแสนอยู่หลายคัน
ผมก็เป็นคนนึงที่เทียบ crv กับ cx5 สุดท้ายก็จบ cx5ปี2018 มาทั้งๆที่ทั้งชีวิตเป็นสายฮอนด้ามาตลอด ส่วนเรื่องซ่อมบำรุงผมว่ายังไงก็คงสู้ฮอนไม่ได้ครับ
ถ้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องซันลูปหรือกล้องรอบคัน ถอยลงมาปีลึกนึดวิ่งสักหกเจ็ดหมื่นได้นี่ ราคาดีสุดๆ
-
ถ้าไม่เน้นใหญ่มาก cx30 sp กำลังดีเลยครับ gen มันใหม่กว่า อุปกรณ์ครบกว่า ราคาน่าใช้ครับ รถปีเดียวขายกันเยอะเลย
-
ถ้าขับแล้วชอบ ก็ซื้อได้ครับ ตัวเบนซินไม่ได้มีปัญหาอะไรร้ายแรง ที่เห็นเรื่องปั๊มติ๊ก ส่วนใหญ่เห็นจะเป็นในล็อตแรกๆ ตอนปี 18-19
ของผม รุ่น 2.5 Turbo อีก 500 โลจะถึงแสนโลพอดี เพิ่งเช็คระยะรอบแสนโลไปเมื่อต้นเดือน ค่าใช้จ่ายประมาณ 3 พันนิดๆ
จากที่ใช้มารถไม่มีปัญหาหนักๆ มีแค่บางอย่างกวนใจนิดหน่อย
- โช้คหลังซึม ตอน 4 หมื่นกว่าโล ศูนย์จับเคลมยกคู่หลัง
- กระจบมองข้างซ้ายพับไม่สุด ตอน 5 หมื่นโล ศูนย์เคลมให้
- ซีลเกียร์ซึม แต่ไม่มีน้ำมันหยดลงพื้น ตอน 8 หมื่นกว่าโล ไปเข้าศูนย์แล้วศูนย์เจอ เลยเคลมซีลเกียร์ ซีลทอร์คให้
- ตอนนี้จะเข้าแสนโล กระจกมองข้างเริ่มพับไม่สุดอีกแล้ว ได้นัดเข้าเช็คปลายเดือนนี้
จริงๆปัญหากระจกมองข้างพับไม่สุดเนี่ย แค่เอา Sonax ฉีดก็กลับมาหายเป็นปกติ แต่ผมยังอยู่ในประกันก็เลยเคลมๆไป ปัญหามันเกิดจากฝุ่นหรือเศษหินดินทรายมันเข้าไปขัดเฟืองครับ
-
ได้ราคามาเท่าไหร่ครับ
มาสด้า ราคาหล่นกว่าชาวบ้านนะ
อาการเฉพาะรุ่นนี้ไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆอะไหล่แพงกว่าญี่ปุ่นทุกค่ายครับ
เครื่องสกายระยะยาวไม่ทน เทียบกับโต หรือฮอน
ระบบไฟฟ้าแปลกๆ ต้องเปลี่ยนโน้นนี่ ทั้งๆที่เจ้าอื่นเค้าไม่เสีย
ถ้าได้ราคาดี และรถไม่ชนมาเลย รับค่าอะไหล่ได้ ก็ซื้อได้ครับ
-
ได้ราคามาเท่าไหร่ครับ
มาสด้า ราคาหล่นกว่าชาวบ้านนะ
อาการเฉพาะรุ่นนี้ไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆอะไหล่แพงกว่าญี่ปุ่นทุกค่ายครับ
เครื่องสกายระยะยาวไม่ทน เทียบกับโต หรือฮอน
ระบบไฟฟ้าแปลกๆ ต้องเปลี่ยนโน้นนี่ ทั้งๆที่เจ้าอื่นเค้าไม่เสีย
ถ้าได้ราคาดี และรถไม่ชนมาเลย รับค่าอะไหล่ได้ ก็ซื้อได้ครับ
ราคาอะไหล่ถูกกว่า Subaru เกือบเท่าตัว และบางรายการถูกกว่า Toyota ครับ ผมใช้มาทั้ง 3 ยี่ห้อ
และเรื่องเครื่อง 2.0 ตัวนี้ ผมขับแบบโหดๆ เหยียบ red line เป็นเรื่องปกติ ผ่านมา 6 ปีแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ
-
รถผมปี 2018 วิ่ง 7x,xxx โล
ยังไม่มีอะไรต้องซ่อมใหญ่ครับ มีกระจกข้างเคลมไปทีนึงตอนอยู่ในประกัน ตอนนี้เสียอีกแล้ว ยังไม่ได้ซ่อมครับ
ขับดีครับ ช่วงล่างไว้ใจได้ ไฟ Adaptive แจ่มๆ วิ่ง ตจว. สนุกครับ เสียแค่เครื่อง 2.0 มันไม่แรงครับ (ตอนนั้นมีแค่ 2.0 ให้เลือก ดีเซลไม่กล้าเสี่ยง)
เสียดาย CX-8 มาช้า ถ้ามาเวลานั้นพร้อมๆกันผมคงจัด 8 มากกว่าครับ
-
ถ้าขับแล้วชอบ ก็ซื้อได้ครับ ตัวเบนซินไม่ได้มีปัญหาอะไรร้ายแรง ที่เห็นเรื่องปั๊มติ๊ก ส่วนใหญ่เห็นจะเป็นในล็อตแรกๆ ตอนปี 18-19
ของผม รุ่น 2.5 Turbo อีก 500 โลจะถึงแสนโลพอดี เพิ่งเช็คระยะรอบแสนโลไปเมื่อต้นเดือน ค่าใช้จ่ายประมาณ 3 พันนิดๆ
จากที่ใช้มารถไม่มีปัญหาหนักๆ มีแค่บางอย่างกวนใจนิดหน่อย
- โช้คหลังซึม ตอน 4 หมื่นกว่าโล ศูนย์จับเคลมยกคู่หลัง
- กระจบมองข้างซ้ายพับไม่สุด ตอน 5 หมื่นโล ศูนย์เคลมให้
- ซีลเกียร์ซึม แต่ไม่มีน้ำมันหยดลงพื้น ตอน 8 หมื่นกว่าโล ไปเข้าศูนย์แล้วศูนย์เจอ เลยเคลมซีลเกียร์ ซีลทอร์คให้
- ตอนนี้จะเข้าแสนโล กระจกมองข้างเริ่มพับไม่สุดอีกแล้ว ได้นัดเข้าเช็คปลายเดือนนี้
จริงๆปัญหากระจกมองข้างพับไม่สุดเนี่ย แค่เอา Sonax ฉีดก็กลับมาหายเป็นปกติ แต่ผมยังอยู่ในประกันก็เลยเคลมๆไป ปัญหามันเกิดจากฝุ่นหรือเศษหินดินทรายมันเข้าไปขัดเฟืองครับ
รถผมปี 2018 วิ่ง 7x,xxx โล
ยังไม่มีอะไรต้องซ่อมใหญ่ครับ มีกระจกข้างเคลมไปทีนึงตอนอยู่ในประกัน ตอนนี้เสียอีกแล้ว ยังไม่ได้ซ่อมครับ
ขับดีครับ ช่วงล่างไว้ใจได้ ไฟ Adaptive แจ่มๆ วิ่ง ตจว. สนุกครับ เสียแค่เครื่อง 2.0 มันไม่แรงครับ (ตอนนั้นมีแค่ 2.0 ให้เลือก ดีเซลไม่กล้าเสี่ยง)
เสียดาย CX-8 มาช้า ถ้ามาเวลานั้นพร้อมๆกันผมคงจัด 8 มากกว่าครับ
กระจกมองข้างพับไม่ได้นี่เป็นโรคประจำตัวของมาสด้าเลย รถเพื่อนผม cx3ก็เป็น mzda2ก็เป็น ไม่รู้อะไรนักหนา
เทียบกับพรีอุสแล้ว ผมเบิกอะไหล่มาให้ร้านข้างนอกใส่ 12ปีแล้วยังไม่พังเลย
-
ผมก็อยากได้ตัว diesel.ขับหน้าเพราะกลัวขับสี่ระบบเฟืองท้ายเสียซ่อมแพงและเหมือนจะไม่ค่อยทนด้วย.คนที่เคยเสียบอกไม่เคยเอาไปลุยวิบากที่ไหนเลยก็พัง เสียแต่ว่าoption พวก lane keep หรือ BSW ไปอยู่ที่ตัวขับ4หมดเลย
-
ถ้าขับแล้วชอบ ก็ซื้อได้ครับ ตัวเบนซินไม่ได้มีปัญหาอะไรร้ายแรง ที่เห็นเรื่องปั๊มติ๊ก ส่วนใหญ่เห็นจะเป็นในล็อตแรกๆ ตอนปี 18-19
ของผม รุ่น 2.5 Turbo อีก 500 โลจะถึงแสนโลพอดี เพิ่งเช็คระยะรอบแสนโลไปเมื่อต้นเดือน ค่าใช้จ่ายประมาณ 3 พันนิดๆ
จากที่ใช้มารถไม่มีปัญหาหนักๆ มีแค่บางอย่างกวนใจนิดหน่อย
- โช้คหลังซึม ตอน 4 หมื่นกว่าโล ศูนย์จับเคลมยกคู่หลัง
- กระจบมองข้างซ้ายพับไม่สุด ตอน 5 หมื่นโล ศูนย์เคลมให้
- ซีลเกียร์ซึม แต่ไม่มีน้ำมันหยดลงพื้น ตอน 8 หมื่นกว่าโล ไปเข้าศูนย์แล้วศูนย์เจอ เลยเคลมซีลเกียร์ ซีลทอร์คให้
- ตอนนี้จะเข้าแสนโล กระจกมองข้างเริ่มพับไม่สุดอีกแล้ว ได้นัดเข้าเช็คปลายเดือนนี้
จริงๆปัญหากระจกมองข้างพับไม่สุดเนี่ย แค่เอา Sonax ฉีดก็กลับมาหายเป็นปกติ แต่ผมยังอยู่ในประกันก็เลยเคลมๆไป ปัญหามันเกิดจากฝุ่นหรือเศษหินดินทรายมันเข้าไปขัดเฟืองครับ
รถผมปี 2018 วิ่ง 7x,xxx โล
ยังไม่มีอะไรต้องซ่อมใหญ่ครับ มีกระจกข้างเคลมไปทีนึงตอนอยู่ในประกัน ตอนนี้เสียอีกแล้ว ยังไม่ได้ซ่อมครับ
ขับดีครับ ช่วงล่างไว้ใจได้ ไฟ Adaptive แจ่มๆ วิ่ง ตจว. สนุกครับ เสียแค่เครื่อง 2.0 มันไม่แรงครับ (ตอนนั้นมีแค่ 2.0 ให้เลือก ดีเซลไม่กล้าเสี่ยง)
เสียดาย CX-8 มาช้า ถ้ามาเวลานั้นพร้อมๆกันผมคงจัด 8 มากกว่าครับ
กระจกมองข้างพับไม่ได้นี่เป็นโรคประจำตัวของมาสด้าเลย รถเพื่อนผม cx3ก็เป็น mzda2ก็เป็น ไม่รู้อะไรนักหนา
เทียบกับพรีอุสแล้ว ผมเบิกอะไหล่มาให้ร้านข้างนอกใส่ 12ปีแล้วยังไม่พังเลย
รถผมเป็นแค่เวลาเปียก ล้างรถแล้วฉีดอัดคือเรียบร้อยแต่ใช้รถไปสักวันสองวันพอแห้งแล้วพับปกติ
งงเหมือนกันว่ามาสด้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ทุกรุ่นได้ยังไง ใช้ฮอนกับโตมาจะครบสามสิบปีไม่เคยมีคันไหนพัง
-
^
^
ปัญหาพับกระจก สาเหตุมาจาก มอเตอร์พับกระจกครับ คือมันมีระบบโพเทค ถ้าฝืดหรือมีแรงต้าน มันจะไม่พับต่อเลย
คันมาสด้า 3 ผมเป็นตั้งแต่ 2ปีแรก แต่ CX3 ผมยังไม่เป็นนะใช้มา 2 ปีเข้าปี 3
ส่วนการแก้ไข ผมทำด้วยตัวเองโดยดูจากเพื่อนๆในกลุ่มคือ ถ้าเฟืองพับกระจก มีจารบีเกาะมากไป หรือเริ่มมีฝุ่นเกาะ จารบีจะเริ่มแข็งตัวไม่ลื่น มอเตอร์เวลาพับและเจอว่ามันฝืดมันจะหยุดทำงานเหมือนเป็นการเซฟเฟืองพับกระจก ...
วิธีแก้ไข ก็เช็ดจารบีนั่นออกให้หมด (ถ้ากล้าแกะ) ส่วนวิธีผมก็เปิดฝาหลังและก็อัดโซเน็กเข้าไป ก็หายครับ
https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=R6sl0vgYjPM
-
^
^
ปัญหาพับกระจก สาเหตุมาจาก มอเตอร์พับกระจกครับ คือมันมีระบบโพเทค ถ้าฝืดหรือมีแรงต้าน มันจะไม่พับต่อเลย
คันมาสด้า 3 ผมเป็นตั้งแต่ 2ปีแรก แต่ CX3 ผมยังไม่เป็นนะใช้มา 2 ปีเข้าปี 3
ส่วนการแก้ไข ผมทำด้วยตัวเองโดยดูจากเพื่อนๆในกลุ่มคือ ถ้าเฟืองพับกระจก มีจารบีเกาะมากไป หรือเริ่มมีฝุ่นเกาะ จารบีจะเริ่มแข็งตัวไม่ลื่น มอเตอร์เวลาพับและเจอว่ามันฝืดมันจะหยุดทำงานเหมือนเป็นการเซฟเฟืองพับกระจก ...
วิธีแก้ไข ก็เช็ดจารบีนั่นออกให้หมด (ถ้ากล้าแกะ) ส่วนวิธีผมก็เปิดฝาหลังและก็อัดโซเน็กเข้าไป ก็หายครับ
https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=R6sl0vgYjPM
ปีแรกผมเจอพับไม่ได้เหมือนกันต้องเคลม แต่มีวิธีง่ายกว่านั้นครับคือเวลาล้างรถอย่าฉีดน้ำเข้าไปในข้อพับของกระจก หรือ ตัวบานกระจกมองข้าง สาเหตุมันเหมือนที่คุณว่าเลยครับว่าคราบฝุ่น จารบีมันทำให้มอเตอร์ฝืดแล้วตัด พอหลีกเลี่ยงการฉีดน้ำไปตรงนั้น สามปีแล้วทั้งสองบานยังพับไวเท่ากันอยู่เลย
ส่วนการขับกลางฝน หรือเข้าเครื่องล้างรถผมไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ แค่บอกคนล้างรถว่าอย่าฉีดน้ำแรงๆ เข้าไปตรงนั้นคือจบ
ตอบเจ้าของกระทู้
ผมใช้ 2.5T อยู่ ตอนนี้จะแสนห้าแล้ว ยังไม่มีอะไรต้องซ่อมหรือจุกจิกนะครับ มีเคลมสายพานไปเส้นนึง ช่างเจอเองแล้วเปลี่ยนให้ตอนเช็คระยะเรียบร้อย ที่เหลือก็เช็คระยะตามรอบปกติ มีตั้งแต่ 3-5 พันบาทตามรอบ จะมีรอบ 60k กับ 120k ที่หมื่นนิดๆ แต่ 2.0 จะถูกกว่าพอสมควร
รอบเช็คระยะดูที่เว็บมาสด้าก่อนได้ครับ https://www.mazda.co.th/owners/list-mazda-cx5/
2.0 ถ้าเปลี่ยนปั้มติ้กไปแล้วไม่มีอาการอะไรเป็นพิเศษ ไม่ชัวร์ก็เปลี่ยนอีกรอบก็ได้ครับ