Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Sommer C350e W205 ที่ กรกฎาคม 05, 2024, 15:00:02
-
จากข้อมูลข่าว https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_777777792587
รถยนต์ 20 ปี ไม่ว่าจะเป็น เบนซินหรือดีเซล ตรวจสภาพปีละ 2 ครั้ง จะดีหรือไม่ ข้อดีคืออะไร ข้อเสียคืออะไร
-
ต่อให้ตรวจทุกเดือน แต่มาตรฐานการตรวจของบางแห่ง ยังเป็นแบบนี้ก็ไร้ประโยชน์ ครับ
-
จากข้อมูลข่าว https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_777777792587
รถยนต์ 20 ปี ไม่ว่าจะเป็น เบนซินหรือดีเซล ตรวจสภาพปีละ 2 ครั้ง จะดีหรือไม่ ข้อดีคืออะไร ข้อเสียคืออะไร
อันนี้เขาพูดถึงดีเซลนี่ครับ
Focus point ที่เรื่องมลพิษ
ถ้างั้นไปดูเรื่องตัด CAT ,ตัด DPF, อุด EGR ด้วยดีมั้ยครับ
จริงๆ ไม่จำเป็นต้องปีละ 2 ครั้งหรอกครับ
เอาแค่ปีละครั้ง แต่เริ่มจากรถอายุ 3 ปี แทนที่จะ 7 ปีดีมั้ยครับ
แล้วไปเข้มงวดเรื่องหลอดไฟขาด ไฟติดไม่ครบ
ป้ายทะเบียนหลังไม่ติด หรือติดแต่ป้ายไม่ชัดด้วย
ไปจนถึงต้อง Track กลับว่าตรวจมาจาก ตรอ. ไหน เมื่อไหร่
ถ้าพบรถที่ไม่ผ่านเกณฑ์ วิ่งบนถนน ก็ตามไปปิด ตรอ นั้นเลย
เพราะไร้ประสิทธิภาพ ตรวจไปก็ไร้ความหมาย
-
เคยเจอ ftn ตัวเก่า
ไฟเบรคหลังติดไม่ครบ แล้ว ตรอ.ให้ผ่าน
น่าจะเป็นที่มา รวมถึงมอไซไฟท้ายขาดทั่วประเทศ
แต่ก็ใช้ถนนได้
-
ต่อให้ตรวจทุกเดือน แต่มาตรฐานการตรวจของบางแห่ง ยังเป็นแบบนี้ก็ไร้ประโยชน์ ครับ
เห็นด้วยครับ ไหนจะอู่ที่รับแปลงสภาพเดี๋ยวนี้ก็ทำกันแพร่หลาย ต่อทะเบียนเสร็จเข้าอู่แป๊ปเดียว...
-
ตรวจไปก็เท่านั้นครับ ต่อให้ ตรอ. บางที่เข้มงวดมากๆ เข้าอู่ทำคืนเดิมให้ตรวจผ่าน กลับเข้าอู่ใส่ของแต่งเหมือนเดิม
-
ปีละครั้งดีแล้วครับ แต่ควรเพิ่มต่อภาษี พรบ มากกว่า พอถึงจุดนึงที่ไม่คุ้มเค้าก็เปลี่ยนรถคันใหม่เอง
-
ไม่ได้ผลหรอกครับ ตรวจเหมือนไม่ได้ตรวจ เงินกินเปล่า ถ้าจะตรวจรถ 20 ปี ไปหาตรวจกระบะใหม่ๆ remap ดันรางดีกว่า มลพิษเหมือนกัน
-
ห๊ะ ... อะไรเนี่ย ..
ถ้ามองรอบๆตัวรถดีเซลที่ควันดำและมีอายุ 20ปี มันก็มีแต่รถเมล์ ขสมก เท่านั้นแหละ ...
ส่วนรถชาวบ้าน อายุ 20 ปีคือมันต้องโน่นเลยนะ เครื่องก่อนคอมม่อนเรลอีก isuzu TFR หรือ toyota tiger โน่นเลยนะ ... ซึ่งบนถนนหาได้น้อยมาก และรถพวกนี้ควันไม่ค่อยดำด้วย
ไอ้ควันดำน่ะ รถใหม่ๆ แต่งซิ่งรถคอก อายุไม่ถึง 7 ปีทั้งนั้น
ท่านอธิบดีไปอยู่โลกไหนมา
..............................
เพิ่มเติม ... โดยส่วนตัวคิดว่า รถกระบะดีเซล ไม่ว่าจะ 4ประตู 2 ประตู ถ้าต่ำกว่า ยูโร5 ให้ตรวจสภาพทุกปี และเริ่มตั้งแต่ปีแรกเลย พวกแต่งซิ่งมันจะได้เลิกทำ
-
ก็เห็นด้วยครับ
ส่วนตัวมองว่าถ้าเอาจริงเอาจังกับการตรวจปีละ 1 ครั้ง ไม่มีโกง หรือหลับตา โดยเฉพาะรถบรรทุก ผมว่าจะช่วยปอดของเราได้อีกมากโขเลยครับ
-
เห็นด้วยกับหลายๆท่านครับ
ถ้าอยากควบคุม ควรครอบคุมให้หมดครับ ไม่ต้องยกเว้น ชนิดของรถและประเภทของน้ำมัน
ตรวจสภาพก็อยากให้ตรวจเข้มๆจริงๆไปเลย เชคความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์ egr โดนอุดไหม รถมีการปรับแต่งระบบไอเสียบ้างหรือเปล่า
คิดว่าส่วนใหญ่ มลพิษมาจากกระบะแต่งตัด egr ปล่อยควันดำ ซึ่งน่าจะเป็นรถใหม่ มากกว่ารถ 20 ปี
และควรจะมีการตรวจสอบด้วยว่า ตรอ แต่ละที่ ตรวจจริง ตรวจครบ แค่ไหน
ถ้าด้านตรวจเจอควันดำก็สั้งให้แก้ไข บันทึกเข้าระบบไปเลยว่าต้องแก้ไขภายในกี่วัน ปรับเท่าไร่ ถ้าแก่ไขแล้วตรวจผ่าน
แล้วด่านตรวจเจอว่าแต่งแล้วควันดำใหม่ ก็ปรับต่อไปเป็นขั้นบันไดไปเลย
-
ก่อนจะมุ่งตรวจรถ
ตรวจสถานประกอบการ ตรอ. ร้านแต่งรถ อะไรที่เป็นต้นตอของการกระทำผิดกฏหมาย แบบนี้จะดีกว่านะครับ
-
ก็เห็นด้วยครับ
ส่วนตัวมองว่าถ้าเอาจริงเอาจังกับการตรวจปีละ 1 ครั้ง ไม่มีโกง หรือหลับตา โดยเฉพาะรถบรรทุก ผมว่าจะช่วยปอดของเราได้อีกมากโขเลยครับ
จริงครับ เพราะรถบรรทุกบางรุ่น ตอนนี้เริ่มไป EURO5 แล้ว นอกจากรถกระบะ
-
ตรวจครั้งเดียวก็ได้ครับ แต่ขอแบบมีคุณภาพจริงๆนะ
โดยเฉพาะพวกรถบรรทุกที่อายุเยอะๆ บางทีผ่านการตัดต่อ ซ่อมแซมมามากมาย
-
อย่าเลยยยย ผมขี้เกียจ ;D
จริงๆก็อย่างที่หลายท่านว่า ต่อให้ตรวจมันทุกเดือน ก็ไม่ค่อยมีประโยชน์อะไร ได้ประโยชน์คือ คนตรวจได้ตังเท่านั้นแหละ ;D
-
แก้ให้ตรงจุด ก็ต้องแก้ที่ต้นตอ
รัฐควรปรับโครงสร้างภาษีรถกระบะ ตอนเดียว แยกกับกระบะแคป กระบะ 4 ประตู ที่ควรเก็บภาษีให้แพงขึ้น
บางคนจะได้เปลี่ยนไปซื้อรถยนต์นั่ง เครื่องเบนซินหรือไฮบริด แทนกระบะ 4 ประตูครับ
และจะช่วยลดการใช้น้ำมันดีเซล ซึ่งปัจจุบันก็เป็นภาระให้กองทุนน้ำมันต้องชดเชย ลิตรละ 2.39 บาท
-
แก้ให้ตรงจุด ก็ต้องแก้ที่ต้นตอ
รัฐควรปรับโครงสร้างภาษีรถกระบะ ตอนเดียว แยกกับกระบะแคป กระบะ 4 ประตู ที่ควรเก็บภาษีให้แพงขึ้น
บางคนจะได้เปลี่ยนไปซื้อรถยนต์นั่ง เครื่องเบนซินหรือไฮบริด แทนกระบะ 4 ประตูครับ
และจะช่วยลดการใช้น้ำมันดีเซล ซึ่งปัจจุบันก็เป็นภาระให้กองทุนน้ำมันต้องชดเชย ลิตรละ 2.39 บาท
ทุกวันนี้กระบะ 4 ประตูภาษีประจำปีแพงกว่ารถเก๋งนะครับ
ส่วนภาษีสรรพสามิตอยู่ที่ 12% อันนี้ผมมองว่าก็สมเหตุสมผลแล้วนะครับถ้าปรับมากกว่านี้มันจะเป็น product champion ไปได้อย่างไร
-
แก้ให้ตรงจุด ก็ต้องแก้ที่ต้นตอ
รัฐควรปรับโครงสร้างภาษีรถกระบะ ตอนเดียว แยกกับกระบะแคป กระบะ 4 ประตู ที่ควรเก็บภาษีให้แพงขึ้น
บางคนจะได้เปลี่ยนไปซื้อรถยนต์นั่ง เครื่องเบนซินหรือไฮบริด แทนกระบะ 4 ประตูครับ
และจะช่วยลดการใช้น้ำมันดีเซล ซึ่งปัจจุบันก็เป็นภาระให้กองทุนน้ำมันต้องชดเชย ลิตรละ 2.39 บาท
อันนี้เมื่อก่อนผมก็คิดแบบนี้ครับ
แต่พอไปเจอสังคม ตจว ชาวบ้านทำไร่ทำนาทำสวนแล้วก็พอจะเข้าใจเขาครับ
เกษตรกร รายได้ไม่สูง มีรับของมาเร่ขายบ้างช่วงที่รอผลผลิต
รถที่ต้องการคือรถที่ขนของขนเครื่องไม้เครื่องมือ ขนปุ๋ยได้ และวิ่งเร่ขายของบ้าง และเป็นรถประจำบ้านด้วย
มันเลยตกไปที่กระบะ 4 ประตูหมด // เมื่อก่อนก็จะใช้ cab กัน แต่ขนส่ง ตำรวจ ประสานกับผู้นำชุมชนและโชว์รูม ยุคหลังๆเลยหันไปออก 4 ประตูมากขึ้น
ถ้าไม่ใช้ 4 ประตู ก็ต้องเป็นเก๋ง 1 + ตอนเดียว ค่าบำรุงรักษา ค่ายาง ค่าประกันมันก็จะเพิ่มขึ้นมาแทน
หลายๆบ้านที่ไม่ได้ทำเกษตรก็เริ่มเปลี่ยนบ้างแล้วหันไป eco-car / บางบ้านต้องทำงานในเมืองขาละ 60km ก็ neta-v แทน