Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: wibul10 ที่ กันยายน 19, 2024, 10:40:04
-
นี่ค่าเงินเราใหญ่ขึ้น หรือ จีน เก่งจริงๆ
เพราะ เมื่อ 6 ปี ที่แล้ว เงิน 3.5 ล้าน ซื้อได้แค่ XC 60 คันเดียว
ตอนนี้ เงินเท่ากัน คุณซื้อ AVARTR11 หนึ่งคัน บวก กัน JAECOO6 OFFROAD ด้วย สองคัน แถมค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน่าจะถูกกว่า ซ้ำ
โลกเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เราจะปรับตัวเองยังไง ในเมื่อจีนเก่งมาก ในเรื่องการผลิต
-
จั่วมาแบบนี้ ผมว่าท่านน่าจะโดนดราม่ายาวแน่เลยครับ
ก็รู้กันอยู่ว่าในนี้ส่วนมากเขาค่อนข้างไม่ชอบจีนกัน
แต่ก็เป็นกำลังใจให้ครับ และเบาๆกันครับ
-
โลกเปลี่ยนไปตามยุค ตามสมัยครับ
เมื่อก่อน คอมพิวเตอร์ AMD Duron + 17" CRT ลูกค้าผม ขายที่ริมน้ำน่าน ราวๆ เกือบ 1แสนบาท เพื่อซื้อชุดนี้ ปัจจุบัน ผ่านไป 25 ปี ที่ตรงนั้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
โลกยานยนต์ก็เช่นกันครับ
-
ผมว่ามันเทียบตรงๆ ไม่ได้ขนาดนั้นนะครับ
เอาปัจจุบัน XC60 ราคาป้ายไม่รวมส่วนลดก็ 3 ถ้วน
ขับไฟฟ้าล้วนได้ 60Km ขับวันละ 100 โล ใช้น้ำมัน 3 ลิตร ได้มั้ง
อีกอย่างเทคโนโลยี"เครื่องยนต์"ไม่เห็นว่าจีนจะเด่นเลยครับจะมาแทนค่ายโบราณในตลาดได้จริงๆเหรอ ในโจทย์นี้ผมก็เลือก CX-5 + Ranger Sport ก็งบเหลือเหมือนกัน
อย่างกรณี MG3+hybrid เราก็แบบตกใจกับการประโคมข่าวแบบ เห้ยถังเดียว กรุงเทพ-เชียงใหม่ กรุงเทพ-นครศรี บลาๆ
เอาจริงๆก็ลืมรถอย่าง Mazda2 ทั้ง DieselกับBenzine ก็ถังเดียวถึงแบบคนปกติขับ (ดีเซลไปแม่สายยังเหลือด้วยซ้ำ)
กลับมามองโจทย์ให้ถี่ถ้วนก่อนซื้อรถ ดูตลาดให้รอบๆ ผมว่าเราจะ"หลง" กับการประโคมของสื่อ น้อยลงครับ
-
อันนี้ไม่เกี่ยวกับค่าเงินหรือจีนเลยครับ
มันคือโครงสร้างภาษีครับ เพราะรถไฟฟ้าที่ผลิตจีนไม่ต้องเสียภาษีหลายๆตัว ทำให้ราคามันอยู่ในจุดที่ควรจะเป็น
เอาจริงๆก็ดีครับ ทำให้เราเข้าถึงรถที่สมรรถณะสูงขึ้นในราคานี้ต่ำลง ส่วนคุณภาพอันนี้คงต้องดูระยะยาวหน่อย
ถ้ากลุ่มรถยุโรป ผมคิดว่าตัวใหม่ออกมา ทำราคาได้ดีและขึ้นอาศัยช่องทางภาษีในการทำราคาได้ดีขึ้นนะครับ
อย่าง W223 S560e ที่ทำราคาได้ดีกว่า S500L w140 ขนาดยังไม่รวมเงินเฟ้อ 20 ปีด้วย
-
เทียบกันยังไงหว่า มันไม่ใช่ละ
ถ้างั้นผมพูดว่า 6 ปีที่แล้ว 3.5 ล้าน ผมซื้อ 320d M Sport + isuzu d'max v cross
ได้ทั้งรถยุโรปขับชิลๆ+กระบะขับสี่ลุยแหลกได้ ไม่เห็นต้องซื้อแค่ xc60 เลยหนิครับ
แค่ทุกวันนี้ตัวเลือกให้กับผู้บริโภคมันมากขึ้น แบรนด์เยอะขึ้น ไม่เห็นต้องไปกดรถยุโรปว่าเงินขนาดซื้อได้แค่คันเดียวไรงี้เลยหนิ
จะโปรรถจีนก็โปรไป รถเข้ามาให้ ออฟชั่นเยอะๆ ตัวเลือกคนซื้อเยอะก็ดีแล้วหนิ
กับอีกอย่างอย่าลืมข้อนี้นะ "เงินตั้ง 3.5 ล้าน" กับ "เงินแค่ 3.5 ล้าน" จำนวนเงินเท่ากันนะครับแต่ความหมายต่างกัน
-
จีนเก่งไม่เถียงครับ
ไม่ใช่ว่าฝรั่ง-ญี่ปุ่นทำแบบจีนไม่ได้นะครับ เค้าทำได้แต่ไม่ทำครับ
ปรัชญาจีน คือ ผลิตเยอะเพื่อลดต้นทุน ขายได้หรือไม่ เป็นเรื่องอนาคต ไว้วัดกันทีหลัง
ฝรั่ง-ญี่ปุ่น เค้าไม่ทำกันหรอกครับ ฆ่ากันเองเปล่าๆ ยอมขาดทุนก่อนหรือกำไรบางๆ ไม่ใช่ทางเค้าครับ ระยะยาวมันไม่ยั่งยืนครับ แข่งกันที่คุณภาพแล้วเอากำไรเยอะหน่อยไว้พัฒนาดีกว่าครับ
เหมือนให้คุณขายข้าวกำไรจานละ 2-5 บาท คุณจะทำทำไมครับ เหนื่อยเปล่า ถ้าวันไหนของเหลือ ขาดทุนแน่นอน ไม่เหลือเงินลงทุนพัฒนาร้านอีก จะเอาคุณภาพจากไหนครับ
-
ถ้าขายแต่รถราคาถูก แล้วไม่ต้องมีบริการหลังการขาย ไม่ต้องสำรองอะไหล่ ผมว่าค่ายไหนก็ขายถูกได้นะ แต่เขาไม่ทำเพราะอะไรก็น่าจะรู้กัน
-
ถ้าเทียบ ควรเทียบว่า '2.2 ล้าน ซื้อ Volvo V60 มาได้นานนม ตอนนี้ก็ซื้อได้ AVATR11 Long Range'
คือ V60 0-100 มันต่ำกว่า 5 วิ และ เป็น Autonomous Level 2 อย่างดีมานานแล้ว นะครับ
วัสดุ/ส่วนประกอบ เน้นยุโรป โดยรวม มันคือรถหรู เหล็กสวีเดนด้วย (ทนสนิมแบบรถยี่สิบปีก็ยังดูดี)
เติมน้ำมันและชาร์จเต็ม ไปได้ 800 กม.
ค่าจ้างขั่นต่ำ/เงินเดือนโปรแกรมเมอร์ ยุโรปต่างกับจีน 2.5-3.5 เท่า นะครับ
AVATR11 สองล้านวัสดุจีนนะครับ (เหล็กจีน ไม่มีอะไรพิเศษ)
Autonomous Level 2 ในขณะที่ MB VV ขึ้น Autonomous Level 3 แล้ว
0-100 ตัวสองล้าน 6.9 วิ
แบตยัง Li-ion อยู่เลย เจ้าอื่นเขาไปไหนแล้ว
แบตจึงใหญ่ Dynamic จึงไม่ดี
Range มาจริงก็ครึ่งกว่าของค่าเคลม
ชาร์จก็ยังเรียกว่านานอยู่ดี แม้ DC
จะชาร์จ DC บ่อย ๆ เดี๋ยวก็แบตเสียก่อนประกัน นะครับ
อย่างคนขับ Model 3 เป็น Uber ไปไม่ถึงสองแสน กม. แค่ปีกว่า แบตไปเรียบร้อยแล้ว (คงเพราะ Supercharge บ่อย)
หลุดประกันด้วย เพราะ แม้แบตลดฮวบ แต่ไม่ขึ้นคำว่า 'Fault'
https://www.youtube.com/watch?v=4dartx7EoaQ
-
ค้าขายก็แบบนี้ล่ะครับ
สินค้าแบบเดียวกันพอมีหลาย ๆ เจ้าก็ต้องลดราคาสู้
ผลประโยชน์ก็ตกกับลูกค้า
-
ทำไมกาเเฟต้องกินstarbuck บางคนกินamazon บางคนกินblack canyon หรือบางคนกินกาเเฟชงตามตลาด ทั้งที่กาเเฟเหมือนกันทำไมไม่กินตามตลาด20บาทล่ะคับ
รถก็เหมิอนกันมันตามาราคา คุณไม่มีวันที่จ่าย20 เเล้วมันจะได้ทุกอย่างแบบกาเเฟstarbuck หรอกครับ
-
เงินเราไม่ใหญ่ขึ้นหรอกครับ ราคารถมาจากต้นทุน +ค่าขนส่ง+ภาษี+ กำไร ผู้ผลิตจีนทำต้นทุนได้ดี และได้ประโยชน์จากโครงสร้างภาษีและมักจะกำหนดกำไรต่อคันไม่สูงมาก เพื่อหวังปริมาณการขาย
เงินเราเล็กลงมากกว่า ค่าครองชีพ ราคาทองคำ ราคาที่ดิน นาฬิกาหรู แพงขึ้นหมดครับ
-
ถ้าเทียบแบบนี้เงิน3.5ล้าน ผมซื้อcamryคันนึง+crv หรือfortunerคันนึงแทน xc60ก็ได้ครับ ค่าดูแลถูกกว่าเหมือนกัน
ผมมองว่ารถยุโรปมันราคานี้อยู่แล้ว รุ่นใหม่ออกมาราคาก็ยังประมาณเดิมแต่มีoptionใหม่ๆเพิ่มมา คนที่จะซื้อรถยุโรปในราคา3.5ล้านน่าจะต้องการภาพลักษณ์และหลายๆอย่างที่รถจีนให้ไม่ได้ครับ ไม่ได้มองที่ความคุ้มค่าเพียงเท่านั้น
และอีกอย่าง ถึงมีเงินเหลือจริงๆจะมีกี่คนที่รีบซื้อรถจีนราคาสองล้าน ศูนย์บริการอยู่ไหนบ้าง มีปัญหาซ่อมจบมั้ย บริการหลังการขายเป็นยังไง หรือศูนย์จะอยู่นานไหม ซื้อรถแถมแพหรือเปล่า เรื่องพวกนี้ยังต้องใช้เวลาพิสูจน์ครับ ไม่งั้นรถที่ซื้อเป็นพาหนะจะเป็นภาระเสียเปล่าๆ รถยุโรป รถญี่ปุ่น ถ้าศูนย์แก้ไม่จบ บางทียังหาอู่นอกที่เชี่ยวชาญตามอาการได้ แต่รถจีนไม่มีแบบนี้นะครับ ถ้าจะซื้อรถจีนจริงซื้อแบบห้าถึงเจ็ดแสนแล้ววิ่งให้เยอะๆแบบสิบปีไม่เน้นขายต่อ ถ้าพังขายซากเลย แบบนี้ยังพอน่าลงทุนครับ
-
เพิ่มเงินอีกนิด CLS ลดเหลือ 3.88 ล้าน
-
รอดูกันไปยาวๆครับ
ถ้าจีนติดตลาด แก๊งรถแพง margin เยอะก็ต้องเขยิบราคาลงมาสู้ เค้าไม่ยอมปล่อย legacy ตัวเองตายเพราะอยากยืนชูราคาแรงหรอก
ส่วนจีนก็ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าทำแล้วรอด เพราะอย่าง mg gwm ก็ทำแบรนด์ตัวเองเละเทะมาแล้ว
และปัจจุบัน zeekr avatr ที่ผมจองไปก็สรุปเบื้องต้นได้เลยว่า บริการยังไม่ถึง เละเทะมากๆ ต้องดูกันยาวๆ เรื่องเซอวิส อะไหล่อีกที ว่า ผบรหเค้าจะใส่ใจเรื่องนี้แล้วมาปรับมั้ย
ทั้งว่าเละเทะเพราะ bmw/benz ที่ใช้อยู่ก็บริการไม่ได้ดีครับ แต่ zeekr avatr แย่กว่า โดยอ้างว่า คนน้อย ลูกค้าเยอะ // ลูกค้าเยอะจิงดิ? เทียบความพร้อมของ bmw ไป motor show ลูกค้าเค้าเยอะกว่ามาก แต่มีเซลมีระบบรองรับเพียงพอ ก้งงว่า ความผิดลูกค้า? ความผิดเซล? หรือผิดที่การบริหารคนของหัวๆ
-
แต่ในงบ 3.5ล้าน ผมก็สามารถหารถที่ดีกว่า Avatr11 กับ Jaecoo 6 ได้อะครับ
ในงบเท่านี้ไม่มีความจำเป็นต้องเลือก 2 รุ่นนี้เลยด้วย
-
จั่วมาแบบนี้ ผมว่าท่านน่าจะโดนดราม่ายาวแน่เลยครับ
ก็รู้กันอยู่ว่าในนี้ส่วนมากเขาค่อนข้างไม่ชอบจีนกัน
แต่ก็เป็นกำลังใจให้ครับ และเบาๆกันครับ
ไม่ดราม่าหรอกครับ ที่บอกว่าเว็บนี้ส่วนใหญ่เค้าไม่ชอบจีนซึ่งคงหมายรวมถึงรถไฟฟ้านั่นเอง
ถ้าจะว่ากันแบบเป็นเหตุเป็นผล กลุ่มใหญ่เค้าโตมากับรถน้ำมันกันเยอะ ซึ่งการที่เค้าจะเลือกยังไม่ชอบอะไรที่ดูแล้วไม่เสถียรมันก็ไม่แปลก อย่างที่เห็นๆกันว่าตอนนี้รถไฟฟ้าจีน ก้อยังมีปัญหาที่รอการแก้ไขมากกว่า
กลับกันคนที่เริ่มชอบรถไฟฟ้าเลย หลายคนก็ไม่เคยสัมผัสรถน้ำมันแบบจริงจัง หรือลงลึกมาก่อนก้อมี มองแค่เรื่องค่าใช้จ่ายพลังงานอย่างเดียวเป็นหลัก ซึ่งเวลาจะเป็นข้อพิสูจน์ครับ
ความคิดผมคำถามลักษณะนี้ถ้าจะให้ดี คนตั้งกระทู้ถามน่าจะเล่า Background ว่าใช้รถอะไรมาบ้าง
ตอนนี้ใช้รถอะไรอยู่แบบนี้แหละครับจะทำให้คนที่จะออกความเห็นมองออกได้ง่ายว่าต้องการถามในแง่มุมไหน
-
รอ Volvo EX90 มาแล้วค่อยเทียบดีกว่าครับ
ถ้าจะเทียบแบบนี้ ผมเทียบ Benz ละกัน เมื่อ 10 ปีก่อน เงิน 11.4 ล้าน ได้ S400 Hybrid
มาวันนี้ เงิน 11.4 ล้าน ได้ Maybach S580e 1 คัน (9.88 ล้าน) กับ Benz A200 อีกคัน
หรือ เงิน 11.4 ล้าน ได้ Benz S580e (7.58 ล้าน) กับ EQE300 (3.97 ล้าน) อีกคัน
มันขึ้นอยู่กับโครงสร้างภาษีล้วนๆ รถหรูราคาถูกลง
-
รถจีนที่มาทำตลาดพร้อม xc60 เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้เหลือกี่คัน แต่ที่แน่ๆ xc60 รุ่นก่อนหน้าค้อนธอร์ ผมยังเจอคนใช้เรื่อยๆ อยู่เลยบนถนน อย่าว่าแต่ Volvo เลยครับ ค่ายอื่น รถเก่าเกิน 15 ปี ก็ยังเจอบนถนนอยู่เยอะ ราคาสูงสำหรับบางคนไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องที่ชวนคิดมากกว่าตอนซื้อคือเรื่องบริการหลังการขายนี่แหละ