Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: BN` ที่ มกราคม 24, 2025, 00:23:55
-
ปกติผมพักอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯรอบนอก เมื่อสมัยช่วงโควิด ผมมีรายได้เดือนนึงรวมๆประมาณ 40-50K แต่ 1-2 ปี ที่ผ่านมา ผมมีรายได้ลดลง เดือนนึงได้แค่ 10-20K
รถที่ใช้อยู่เป็น Civic ปี 13 ทุกวันนี้ผมใช้รถแค่วันละ 30 โลนิดๆ ขับไปกลับที่จอดรถ แล้วนั่งรถไฟฟ้าไปทำงาน วันหยุดก็ขับไปห้างใกล้ๆบ้าน
เดือนนึงมีวิ่งตจว.แค่ 2-3 ครั้ง กรุงเทพฯ-นครปฐม ซึ่งก็ไม่ได้ไกลอะไรมากเนื่องจากทั้งสองจังหวัดอยู่ติดกัน
ทีนี้ก็เลยคิดว่าอยากจะลดภาระค่าใช้จ่ายโดยขายแล้วไปซื้อรถมือสองเครื่อง 1.2 , 1.5 มาใช้แทน เนื่องจากอะไหล่ถูกกว่า ประหยัดน้ำมันกว่า
เพื่อนๆพี่ๆมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ
-
ถ้าขับน้อย ลดค่าใช้จ่ายได้ไม่มากนะสิครับ
ค่าน้ำมัน อาจจะลดจากกิโมเมตรละ 3 บาท เหลือ 2 บาท ถ้าขับเดือนละ 2,000km ก็ประหยัดไปได้ 2,000 บาท
แต่เอาจริงๆ ขับในเมือง รถติด ต่อให้เป็น Eco Car ก็อาจจะทำการประหยัดถึงระดับ 2 บาทต่อกิโลเมตร (หรือ 18km/l เติมโซฮอล์ 95)
ถ้ารถของท่าน ยังไม่ได้ซ่อมจุกจิก เป็นผมคงใช้ต่อไปครับ
(ช่วงนี้ ราคารถมือสองมันเย้ยยวนก็จริง แต่ราคารถเราตอนขายก็ตกมากด้วยครับ)
-
การลดค่าใช้จ่าย ลดสเป็กรถที่ใช้ ไม่ใช่เรื่องน่าอายหรอกครับ สถานะการปัจจุบันที่ดูแล้วไม่มีทางที่จะดีขึ้น เราควรเซฟเงินในกระเป๋าไว้ดีที่สุดแล้ว
ผมอายุ 43 แล้วตำแหน่งงานที่ทำประจำก็สูงขึ้นตามอายุงาน ใครๆก็บอกว่า ผมควรขับ D-segment หรือยุโรปให้เหมาะกับหน้าที่การงาน แต่ผมไม่แคร์หรอกครับ ทุกวันนี้ผมก็ขับ c-segment ก่อนนี้ขับกระบะ และปัจจุบัน ขับ CX3 ไปทำงาน เพราะชอบเล็กๆ คล่องตัวดี
อย่าไปแคร์สายตาคนอื่น ควรแคร์ตัวเอง เงินในกระเป๋าสำคัญกว่ารถที่ขับ ใช้ที่พอเหมาะไม่เดือดร้อนตัวเอง ลูกน้องผมขับยุโรปมาทำงานกันหลายคน ผมก็ยินดีกับความสำเร็จของเค้า ส่วนผมก็ขับญี่ปุ่นนี่แหละสบายใจ
-
อยู่ที่รถที่ใช้อยู่ครับ ว่าถึงเวลาซ่อมจุกจิกรึยัง
อย่าลืมว่า เวลาไปขาย แล้วซื้อคันใหม่ พ่อค้าก็ต้องบวกกำไรและกดราคารถคันเดิมคุณด้วย
ถ้าถึงเวลาที่เตรียมซ่อมใหญ่ ยาง อะไหล่หลายๆชิ้นต้องเปลื่ยน ขายแล้วซื้อคันเล็กลงที่ใหม่ขึ้น ซ่อมถูกลง ค่าใช้จ่าย ค่าประกัน ค่าภาษีลดลง ก็ดีนะ
แต่ถ้ารถคุณซ่อมใหญ่มาแล้ว อะไหล่พึ่งเปลื่ยนยกชุด มันก็ลากใช้ไปได้อีกสักพัก ก็ไม่น่าจะเปลื่ยน civic 13 น่าจะ FB เป็นรถที่ทนพอควร น่าจะเป็น Honda ยุคท้ายๆที่วิ่งเหมือนจะพัง(ดังทั้งคัน)แต่ไม่พังสักที(ผมเคยมี CRV g4 / Jazz GE แบบนี้ละ)...พอข้ามยุคมา CVT ก็เริ่มเปราะ
ลองเขียนเปรียบเทียบเอาเองนะครับ ว่าคันเดิมขายได้เท่าไหร่ ค่าน้ำมันต่อปีเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายต่อปีเท่าไหร่
เทียบกับที่จะซื้อคันใหม่ ราคาเท่าไหร่ ประเมินว่าจ่ายค่าน้ำมันเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายต่อไปเท่าไหร่ ... อันไหนคุ้มกว่า คุณที่มีตัวรถและตัวเลือกอยู่หน้างาน น่าจะตอบได้ดีกว่าผมครับ
..............................
ส่วนตัวใช้ B seg มาตั้งแต่เริ่มทำงาน จนตอนนี้จะ 50แล้วก็ยังใช้อยู่เป็นรถหลักครับ ก็ไม่ติดอะไรเลย ยกเว้นแค่เล็กเวลาไป ตจว.แค่นั้น แต่ก็รับได้
แต่ก็มีรถที่อยากได้ วนเวียนมาแล้วก็ขายไปเรื่อยๆ....น่าจะลองจนพอใจแล้ว ตอนนี้คือขอรถขับสบายๆ พอใช้งานได้ เสถียร พอแล้วละครับ
-
ไม่แนะนำเลยครับ ตลาดมือสองช่วงนี้กดราคารับซื้อเข้า แล้วลุ้นต่อว่าไอ่คันที่ซื้อมามีต้องซ่อมเพิ่มอีกมั้ยด้วย สรุปคือมีสิทธิ์เสียเงินสองต่อ ถ้าคันเดิมยังขับได้และไม่ได้มีการซ่อมใหญ่ใช้ไปก่อนดีกว่า แล้วก็ถ้าเป็นไปได้เข้าศูนย์บริการแล้วลองขอส่วนลดค่าอะไหล่แล้วก็ผ่อน0% เพื่อแบ่งเบาภาระก็อาจจะดีนะครับสำหรับช่วงนี้
ถ้าอยากจะเปลี่ยนแนะนำให้รอจนรายได้มากกว่านี้ก่อนค่อยเปลี่ยนดีกว่า
-
ผมเองก็ใช้ CIvic FB อยู๋ รายได้ก้พอๆกับคุณพี่ ถ้าเปลี่ยนลดลงมา มันเหมือนไม่คุ้มงะ ลด คชจ ได้จริงไม่เท่าไร อีโค่คาร์ วิ่งเอาจริงๆ ประหยัดกว่า Civic ไม่เท่าไรเอง ถ้าอยากแตกต่าง เอา Civic FB คันนี้ไปติดแก๊ส อะเห็นผลต่างแน่ๆ
แนะนำเก็บงบ ซ่อมใหญ่สักรอบได้ใช้ยาวๆ แต่ผมว่า มันยังไม่พังไรหรอก มันเป็น Civic ที่ทนมือทนตีนที่สุดละ
-
ใช้รถน้อย ไม่ต้องเปลี่ยนหรอกครับ ใช้ๆไปดีกว่า
-
ลองรวบรวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับรถคันปัจจุบันดูก่อนครับ
ค่าเชื้อเพลิง
ค่าซ่อมบำรุง
ราคาขายออก, ราคาซื้อรถมาทดแทน
ค่าเชื้อเพลิงรถทดแทน
ค่าซ่อมบำรุงรถทดแทน
แล้วพิจารณาว่าตรงตามวัตถุประสงค์ไหม
-
เป็นผมจะใช้จนพังเลยครับ ค่าน้ำมันไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่หรอกครับ ถ้าจำเป็นต้องซื้อใหม่ค่อยซื้อรถเล็ก ค่าผ่อนรถนี่แหละที่ต่างกันเยอะ
-
ใช้คันเดิมครับ
ขายซื้อใหม่ ผมว่าไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ ส่วนต่างไม่มากพอ
ถ้าเอาไปติดแก๊ส ก็นานคืนทุนเพราะวิ่งไม่ค่อยเยอะ
กรุงเทพ-นครปฐมรถสาธารณะเยอะ ลองให้รถสาธารณะแทน น่าจะประหยัดกว่าครับ
-
รถเล็กลง segment ต่ำลงมา ช่วยประยัดได้จริงครับ
แต่ ถ้าจะเปลี่ยนรถเก่า เป็นรถปีใหม่อันนี้อาจไม่ช่วยขนาดนั้นครับ
ยางถูกลง น้ำมันถูกลง service อาจไม่ต่างมาก แต่ค่าประกันก็อาจเพิ่มมาเพราะเป็นรถใหม่กว่า
และค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนรถอีก ล้อยาง ของเหลว หักกับส่วนต่างที่ประหยัดไปได้ ผมคิดว่าอาจไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ครับ
เอาหยาบๆ ค่าน้ำมัน อาจประหยัดได้ km ละ 1 บาท ซึ่งครับจริงๆไม่น่าถึงด้วยครับ ถ้าไม่ใช้พวก Hybrid ใช้วันละ 30km ปีละ 10950 km = 10950 บาท
รถมือสองราคาน่าซื้อก็จริง แต่ตอนเราขายออกก็โดนกดราคาเช่นกันครับ
นอกเสียจาก civic เริ่มมีปัญหาใช้แล้วเริ่มกังวล แบบนั้นก็สมควรเปลี่ยนครับ
-
คันเดิม ผ่อนหมดแล้วใช่ไหม ?
เปลี่ยนรถ ขายคันเดิม ได้กี่บาท ต้องเพิ่มเงินเพื่อไปเอาคันใหม่ กี่บาท ?
แล้วถ้าเอามือสองมา มีค่าเก็บงานอีกกี่บาท ?
สองอย่างนี้ เอาไปเติมน้ำมันคันเดิม ได้เกือบแสน กม เลยมั้ง
-
ต้องถามว่า ลดค่าใช้จ่ายคืออะไร?
ผมไม่ได้กวนนะครับ
อย่างแรก ถ้ารถคันแรกไม่ได้ผ่อน นั้นตัดเลย เพราะถ้าจะไปซื้อคันใหม่ คุณก็ต้องเอาตังไปซื้อคันใหม่ แล้ว ผ่อนใหม่ อีกหรือป่าว? อันนี้สำคัญ
หรือว่า จะขายคันเก่า(น่าจะเป็น FB) แล้ว ไปซื้อมือสองคันใหม่ แต่ลดลงเป็น Ecocar อันนี้ มันเหมือนสลับรถ ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม และ ไม่ได้มีเงินติดกระเป๋าเลย มันแทบไม่ต่างกันเลย
อย่่างที่สอง ค่าใช้จ่ายนั้น เป็นค่าน้ำมันหรือป่าว? แต่บอกใช้น้อย มันก็เหมือนแทบไม่ได้ลดอะไรเลย
อย่างที่สาม ค่าประกันรายปีเหรอครับ? ผมว่าแทบไม่ต่างกันเลย ต่างกันหลักพัน ยิ่งถ้ารถคันเดิมประวัติดี ผมว่า ตอนนี้น่าจะปีละไม่ถึงหมื่นแแล้ว
อย่างที่สี่ ค่าดูแแล บำรุงรักษาเหรอครับ? เชื่อไหม รถเล็ก ใช่ว่าค่าซ่อมจะถูกกว่านะครับ ถ้าจับผิดยี่ห้อ ผิดรุ่น กลายเป็นค่าซ่อมแพงกว่าด้วย (ให้คิดข้อนี้ดีๆ)
สุดท้าย ลองชั่งน้ำหนักดูครับ
ถ้าเป็นผม จะขาย Civic แล้วซื้อ มอเตอร์ไซต์ ไปเลย เพราะไหนๆ ก็จะลดค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว กรุงเทพฯ-นครปฐม ขับมอเตอร์ไซต์ไปได้ เพื่อนผมมาตีแบดบางนา อยู่พระราม 2 ยังมาได้ ขี่ X-ADV มา
-
ถ้า Civic คันที่ใช้อยู่ไม่ต้องผ่อนแล้ว
ใช้คันเดิมไปก่อนครับ
-
รถปี13 ขายได้เท่าไหร่ แล้วจะซื้อมือสองราคาเท่าไหร่ ถ้าหักกลบแล้วเหลือเงินไม่เท่าไหร่ก็ไม่ต้องเปลี่ยนหรอกครับ เกิดรถที่ได้มามีอะไรต้องซ่อมหนักจะเปลืองกว่าเดิม
-
ถ้ามีรถที่ยังใช้งานได้ดี ใช้คันเดิมต่อไปประหยัดสุดครับ แต่ถ้ากำลังจะเปลี่ยนรถแล้วึดว่าตะซื้อรถที่คันเล็กลงจาก civic อันนี้ประหยัดแน่ๆครับ
การซื้อรถใหม่ยังไงก็ใช้เงินครับ ยิ่งถ้ารายได้น้อยลงและมีการใช้รถที่ไม่มาก กำเงินให้แน่นๆประหยัดสุดครับ ใข้ขนส่งสาธารณะบ้างช่วนลดค่าใช้จ่ายได้"
-
ถ้าค่าใช้จ่ายตอนนี้มันไม่มีปัญหา รถที่ใช้ไม่มีปัญหา ผมจะไม่ไปยุ่งอะไรกับรถเลยครับ
ตัวรถเอง คุณใช้แค่เป็นพาหนะขนส่ง ระยะสั้น ๆ
ไม่ควรไปลงทุนอะไรกับมันมาก
แต่ถ้าการซื้อรถ เพื่อเพิ่มหารายได้ ผมเองคิดว่า มันก็คุ้มค่าที่จะเปลี่ยนรถ ต้องคำนวณใช้จ่ายแฝงดี ๆ ครับ
-
รายได้เฉลี่ยแบบนี้ใช้ชีวิตใน กทม ไมง่ายเลย
มอเตอร์ไซด์ น่าจะเป็นคำตอบที่ดี
-
มติเอกฉันท์ รวมผมด้วย อย่าไปยุ่งกับรถประหยัดที่สุดครับ หรือไม่งั้นก็เปลี่ยนเป็นมอไซด์
รายได้เหลือเท่านี้ลำบากครับ ยิ่งต้องขึ้นรถไฟฟ้าอีก ค่าโดยสารรถไฟฟ้าไม่ถูกนะครับ ถ้าสามารถเปลี่ยนการเดินทางเป็นรถเมล์จะประหยัดกว่า อาจจำเป็นต้องออกเช้าขึ้นถ้าลดค่าใช้จ่ายได้อันนี้ก็น่าทำ
แล้วที่ต้องไปนครปฐมเดือนละ 2-3 ครั้ง ถ้าลดเหลือเดือนละครั้งหรือสองเดือนครั้งได้ก็จะประหยัดไปอีก ไม่ใช้แค่ค่าน้ำมันรถเท่านั้นนะครับ มันต้องมีค่ากินค่าใช้จ่ายอย่างอื่นตามมาอีกอย่าลืม
แล้วก็ควรจะทำบัญชีรายรับ-จ่ายด้วยครับ อาจจะเห็นว่าสามารถตัดค่าใช้จ่ายอะไรได้อีกครับ
ขอให้โชคดีครับ
-
ไปหามอเตอร์ไซค์มือสองมั้ย
https://www.ennxo.com/motorcycle/yamaha/n-max?gad_source=1&gclid=EAIaIQobChMIxtv3_bKSiwMVevU8Ah3RoyVsEAAYASAAEgIHOfD_BwE&max_price=50000&min_price=30000
-
มี 2 แนวทางครับ ไม่ขายรถไปขี่มอไซด์ ก็ใช้ civic คันเดิมต่อ
1.ขายรถ ตัดภาระ ขี่ไปมอไซด์ไปก่อนสัก 1-2 ปี จ่ายหนี้บัตร หนี้ระยะสั้นให้หมด cash flow จะค่อยๆเป็นบวก หารายได้เพิ่ม ผมทำมาแล้ว ขี่มอไซด์ ห่อข้าวจากบ้านไปกิน นั่งรถตู้ อย่าไปยึดติด แป๊บเดียวก็ฟื้น
2.ถ้ารถที่มี ไม่ได้ผ่อน ซ่อมถึง ไม่จุกจิก ต้องใช้รับส่งคนในบ้าน แบบนี้ใช้ต่อพอได้ครับ อาจลดประกันลงหน่อย เปลี่ยนยางถูกลงหน่อย ตัด คชจ อื่นๆ แล้วหางานทำเพิ่มเอาครับ
ซื้อรถเล็กลง ดูจะประหยัดค่าน้ำมัน+ค่าซ่อมจริง แต่ มี คชจ แฝงครับ ประกันอาจไม่ได้ลด ไหนจะเก็บงาน เปลี่ยนฟิล์ม ยาง ของเหลว ติดกล้อง ฯลฯ รวมๆอาจไม่ได้ต่างเลย
-
อย่าลืมว่ามันต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อรถใหม่เข้ามา 1 คันด้วยนะครับ ผมว่าใช้คันเดิมไปเถอะครับ ถ้ามันเริ่มงอแงแล้ว ค่อยคิดเรื่องเปลี่ยนรถ คราวนี้จะเปลี่ยน segment ก็ได้ครับ อนาคตอาจจะรายได้มากขึ้นกว่าเดิมก็ได้ครับ คราวนี้อาจจะอยากได้คันใหญ่ขึ้นด้วยซ้ำ ::) ::) ::) ::) ::)
-
ผมว่าไม่ได้ต่างกันอย่างเห็นผลขนาดนั้นนะครับ
civic ไม่ใช่รถที่กินน้ำมันอะไรขนาดนั้น อะไหล่ก็ไม่ได้แพง
แถมรถเรา เรารู้ประวัติการชน การซ่อมบำรุงต่างๆ มาแล้ว ขายไปซื้อคันใหม่ต้องมานั่งลุ้นอีก ไม่น่าคุ้มครับ